เมื่อประมาณปลายๆปีของยุค70's ครับ ABC-TV นำเอาซี่รี่ย์เรื่องหนึ่งมาออกอากาศ
เรื่อง ROOT -
ของนาย Alex Haleys คนเขียนเรื่องผิวดำ ซึ่งได้บอกไว้ว่า
เรื่องรู้ท นี่เหมือนเป็นตำนานเชื้อสายสืบทอดชีวิต ของทาสผิวดำชื่อ KUNTA KINTE
ซึ่งหากนับญาติย้อนๆขึ้นไป ก็คงเป็นปู่ของปู่ของปู่ของปู่ ของคนเขียนเรื่องนี้ด้วย
การออกอากาศครั้งแรก ของหนังทีวีเรื่องนี้ ฉายห้าคืน ห้าตอนจบ ตอนละสองชั่วโมง
เอาเรื่องแต่เริ่มแรกของชีวิตทาสผิวดำ เริ่มแต่พวกผิวขาว ล่องเรือสำเภาใหญ่
ไปจับตัวทาส จากป่าในอัฟริกา ซื้อขายกันกลางเมือง ประมูลตัวเหมือนสัตว์ชนิดหนึ่ง
แล้วนำตัวฝูงทาสเหล่านั้น มาก่อกำเนิดระบบทาสในอเมริกา
คนที่ได้ดูเรื่อง รู้ท สมัยนั้น โดยเฉพาะพวกผิวดำ เกิดปฎิกิริยามาก
เมื่อได้รับรู้เรื่องราวความทารุณ ของผิวขาวที่ทำกับ พวกทาสผิวดำ
บ้างก็ตั้งตนเป็นอริ เป็นเดือดเป็นแค้น กับพวกผิวขาว
จนถึงกับมีการประทะ พอประปรายให้เป็นข่าว คนดูทั่วไป
แบบเราๆคนไทย ที่ขี้สงสารก็จะสะเทือนใจกันไปด้วย
มีน้ำตาไหลตอนทาสโดนทารุณกันเหมือนกัน
ถึงแม้ระบบทาสจะหมดไปแล้ว ตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีลินคอล์น ประกาศเลิกทาส
แต่การเหยีดผิว แบ่งพรรณในเมกาก็คงยังมีอยู่
สมัยหนึ่ง ถึงกับมีการแอนตี้ คนดำ ไม่ให้ร่วมกิจกรรม หรือกันคนดำออกไปจากสายตาเลย
ร้านค้า หรือที่ชุมนุมต่างๆ ถึงมีป้ายบอกไว้เลย ว่า คนดำห้ามเข้า" NO BLACK ALLOWED"
ที่เห็นๆกันอยู่ทุกวันนี้ แม้ว่าการอ้างเอา สิทธิเสรีภาพ ของคนเมกันทุกคนจะเท่าเทียมกัน
แต่ในทางปฏิบัติ ก็ไม่เหมือนคำเพราะๆ ในรัฐธรรมนูญเลย
คนดำก็ยังคงมีอคติกับคนขาว ที่ผม เคยแอบสังเกตุเอานะ
เพราะเคยทำงานในที่ๆมีคนดำเป็นส่วนใหญ่
พวกคนดำนี่โดยเฉพาะผู้หญิงจะ ทำตัวเหมือน เออ เหมือนไรดีนะ
หากว่ากันตรงๆ เมื่อเห็นผิวขาว เหมือนอิจฉานะ
เริ่มแรกที่ผิวพรรณ หน้าตา ผมเผ้า รูปร่าง มันจะดูดีกว่าพวกผิวดำ แน่ชัดเลย
ทั้งหน้าที่การงาน การศึกษา ฐานะ ภูมิรู้
ทักษะในเกือบทุกอย่าง ที่เป็นสากล ก็เทียบกันไม่ได้อีก
คนผิวขาวก็ฉลาดกว่านะ รู้ว่าตนเองก็คงยอมรับผิวดำไม่ได้
แต่ก็ไม่แสดงออก เหมือนที่ผิวดำทำกัน
แรกๆนั้น ทางการเมกัน ไม่นับวันเกิดวีรบุรุษผิวดำ DR. MARTIN LUTHER KING
เป็นวันFEDERAL HOLIDAY มีแต่บางรัฐ ที่มีคนดำอยู่มากๆเท่านั้น
เอาเป็นSTATE HOLIDAY
แต่มีการสนับสนุนของคนดำมากขึ้นเรื่อยๆมาทุกปี
จนตอนนี้ วัน นาย มาร์ติน ลูเทอร์ คิง ก็นับเป็นวันหยุดสำคัญชองชาติไปได้ในที่สุด
เมื่อประมาณปลายๆปี90's มีคดีหนึ่งที่ฮือฮา จนกลายเป็นการจราจลกลางเมือง ลอส แอนเจลิส
คงจำกันได้นะครับ ที่นายRODNY KING คนผิวดำ
ถูกตำรวจแอล เอ สามหรือสี่นาย ลากมาจากในรถ บนฟรีเวย์แล้วทุบตีด้วยกระบอง
และใช้เท้าแตะ จนนายคิง ตัวอ่วมไป
แต่การกระทำป่าเถื่อนนั้น ถูกบันทึกด้วยกล้องวีดีโอ มาแพร่ออกทางทีวี
คนที่เห็น ทั้งพวกคนดำคน ขาว หรือใครไหนผิวไหนก็ว่า ตำรวจเลวมาก ทำเกินไป
พอคดีนี้ขึ้นศาล การพิจารณาสิ้นสุดด้วยการ ปล่อยตัวตำรวจจำเลยทั้งหมด
วันนั้นที่ศาลตัดสินนะ มีการเดินขบวนต่อต้าน มีประท้วงรุนแรงทั่วแอลเอ
และเมืองใหญ่อื่นๆที่มีคนดำอาศัยมากๆ จนกลายเป็นความน่ากลัว
ที่แอลเอ มีการจุดไฟเผาร้านค้า คนขาว รวมเลยไปถึงคนเอเชีย ที่ไม่รู้เรื่องไปด้วย
ร้านของคนเกาหลี จีน ถูกเผาวายวอด มีการหยิบฉวย ขโมย looting ดูเหมือนจะมีไทยด้วยรายสองรายนะ แต่ไม่แน่ใจตอนนี้ครับ
มีการประกาศ เคอร์ฟิว ส่งทหาร มารักษาการ เพราะเป็นการจราจล ที่ลามแรงไปมากแล้ว
พออีกวัน ที่นิวยอร์กมีข่าวว่าพวกผิวดำจะยกพลเดินข้ามสะพาน บรุ้กลีน บริดย์
และจะก่อความไม่สงบให้ทั่วแมนฮัทตั้น
วิทยุออกข่าว ฟังแล้ว น่ากลัว เหมือนจะมีสงครามกลางเมืองเลยนะครับ
ที่ทำงาน ปล่อยพนักงานกลับบ้าน ตำรวจระดมกำลังกัน เตรียมรับมือเหตการณ์
วันนั้นผมก็ขับแทกซี่อยู่นะครับ แต่ฟังข่าวจากวิทยุ ดูทีวีตั้งแต่คืนเกิดเหตุแล้ว
ก็เลิกขับ รีบกลับบ้านเลยละ ไม่เอาอะ จะไปขับหาใครละ พวกพี่มืดมา พี่มืดเอาตายแน่
เพราะแทกซี่เหลืองนี่ก็เป็นหนึ่ง ที่พี่มืดหมายหัวไว้
แทกซี่ไม่กี่คันเองที่จะรับคนดำไปย่านของคนดำ
คนนิวยอร์ก โดยเฉพาะคนขาวนี่ ตกใจกลัวกันมากเลย
และนิวยอร์กนี่ ก็มีข่าวเรื่องการทรีทของตำรวจ
หรือคนขาว ที่ทำกับคนดำหลายเรื่องมาก่อนแล้วด้วย
แต่ในที่สุด ก็มีแค่ประปราย โชคดีที่ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น
นาย รอดนี่ คิง ตัวต้นเหต ประกาศออกอากาศทางวิทยุ ทีวี
ด้วยการนำประโยค เด่น ของ นายมาร์ติน ลูเทอร์ คิง มาพูด
" WE SHALL OVERCOME... MY BROTHERS AND MY SISTERS"
บอกกล่าว ให้ ทุกคน หยุดการกระทำ ร้ายๆ
คนขับแทกซี่นี่ ส่วนมากหากหลบคนดำได้ จะหลบ ไม่รับกันนะครับ
ผมมาคิดๆนี่ ก็ว่าพวกเราทำไม่ถูกนะ เราๆหมายถึงพวกขับแทกซี่นี่
เกินเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ไม่ได้เกิดในเมกา มาจาก อีกมุมหนึ่งของโลก
มาจากประเทศที่ด้อยกว่ามากๆ
มาสร้างตัว สร้างอนาคต ด้วยโอกาศที่ประเทศนี้ยื่นให้
แต่กลับไปปฎิบัติกับเจ้าของประเทศเขา ถิ่นเกิดพวกเขา แม้จะเป็นผิวดำ
แต่เราเป็นแค่มาอาศัยเขาอยู่ มีสิทธ์อะไรที่จะไปร่วมแบ่ง ร่วมแยกผิวพรรณไปกับเขาด้วย
ส่วนมากจะเอาที่เล่าลือกันมาถึง เหตุที่ไม่รับคนดำ เพราะไม่อยากไปย่านที่คิดว่าอันตราย
อาจโดนจี้ โดนปล้นได้
สำหรับผมนี่ ผมไม่มองคนที่ผิว รูปลักษณ์ภายนอกก่อนนะ
เพราะไม่เคยลืมตัวมองตัวเองดีกว่าคนอื่น ผมดูจากการกระทำ กิริยา ท่าทางครับ
มีมากเลยที่เจอไอ้คนขาวเห้ๆ มีมากด้วยที่เจอคนดำดีๆ
และที่เคยว่าคนขับแขกส่วนมากจะขี้โกงเลวๆนะ
ก็มีแขกที่เห็นแล้ว ประทับใจมากก็หลายคนอยู่
คนไทยก็ด้วยแหละครับ ดีเลวปนกันไป
ไม่มีที่ไหน มีบวก หรือ ลบข้างเดียวหรอกครับ
แต่สำคัญเราต้องอ่านเขาเฉพาะคนไป ให้ได้ด้วย
ไอ้โทนี่ เพื่อนผมที่เคยบอกว่าเริ่มขับแทกซี่พร้อมกัน วันเดียวกันด้วย
โทนี่มีเมียเป็นสาวมืดครับ แรกๆก็คิดเอากรีนคาร์ดแค่นั้น
จ้างแม่สาวมืดแต่งงานด้วย
แต่พอคบๆกันไป แม่สาวนี่ ดูเหมือนจะเป็นคนดี นิสัยดี
เลยกลายเป็นรักกันจริง แต่งงานกันจริงไปเลย มีลูกสองคนโตแล้วด้วย
ตอนนั้น ที่ผมขับแทกซี่นะ วันเกิดลูกสาวคนเล็ก ครบรอบ หกขวบ
ผมก็ไปงานแกนะ โทนี่บอกให้ช่วยเอากล้องไปถ่ายรูป ให้หน่อย
สมัยนั้น กล้องไม่ใช่ดิจิตอลนะครับ ใช้ฟลิ์มแนกกาทิฟอยู่
ถ่ายรูปเสร็จก็ไปอัดให้ด้วยเลย สองม้วน เจ็ดสิบกว่ารูป
ผมก็ติดไว้ในรถนะ กะวันไหนเจอมันก็จะเอาให้
แต่บางที่ก็ลืมไปบ้าง ว่ารูปยังอยู่ในเก๊ะหน้ารถ
คืนหนึ่งหน้าร้อน สักสองอาทิตย์หลังจากที่ลูกสาวโทนี่ครบรอบหกขวบครับ
ราวสามทุ่ม ผมไปรอคิวที่สนามบิน LA GUARDIA ครับ
เมื่อถึงคิวที่ผมจะได้ผู้โดยสารที่ทางเจ้าหน้าที่ TLC ผู้ควบคุมคิว จัดให้
โอ๊ะโอ่ ไอ๊หยา ลูกค้าผม เป็นคุณมืดครับ หน้าตาน่ากลัวด้วย
มันบินมาจากเมืองไหนหว่า มีกระเป๋าเดินทางขนาดกลางๆรูปแบบกระเป๋าก็เก่า
เก่าเอามากๆ มีรอยขาดด้วย
ผมก็เปิดท้ายรถยกกระเป๋าใส่ กระเป๋าไม่หนักเหมือนที่คิดเลย
พอนายมืดเข้ารถ ผมกดมีเตอร์ นายมืดบอกว่า ไป BRONX
ผมถามว่า บร๊องส์ แถวไหนละ
แกบอกด้วยเสียงดุๆว่า ขึ้นสพาน triborough ออก bruckner expressway
หลังจากนั้นจะบอกทางเอง
ผมชักคิดไปไกลแล้วอะ ไปแถวนั้น south bronx น่ากลัวหวะ
นี่หากไม่ใช่รับมาจากแอร์พอร์ท ที่เจ้าหน้าที่จัดให้นะ
ผมคงไม่รับนายนี่บนถนน ที่แกโบกเรียกแน่
จากการแต่งกายและคำพูด ดูมันจะผิดไปนะ กับคนที่เพิ่งลงจากเครื่องบิน
ผมก็ชักกลัวแล้วอะ รถผมก็เพิ่งเอาไอ้ที่กั้นคนขับ กับคนโดยสาร หรือ partition ออกไปด้วย
นึกแล้วเสียว เดี๋ยวมันอาจเอามีดมาจ่อที่เอว มันอาจให้จอด และให้เอาเงินให้มันให้หมด
พอได้เงินแล้ว มันกลัวว่าจะจำหน้าได้ อาจแทงซ๊วบ หรือปาดคอเหวะ โอ๊ยกลัวอะครับ
นายนั้น ชวนคุยถามโน่นนี่ แล้วเอ่ยเหมือนตำหนิด้วยคำหยาบๆว่า
ทำไมฟักกิ้งแทกซี่ ไม่รับฟักกิ้งแบล้ก รับแต่ไอ้ฟักกิ้งไวท์ ยูฟักกิ้งไชนิสทู๊ ไรท์?
ผมก็ต้องคุยดีแล้วละครับ นึกว่าดีแล้วนะ ตอนขึ้นรถมาเราเรียก SIR กับแกไปก่อนแล้ว
เลยเรียก เซอร์ต่อได้อีก แม้ใจจะหดลดวูบไปอยู่ฝ่าเท้า แต่ก็ ต้องหาทางให้ดีที่สุด
ผมว่า เซอร์ ยูไม่รู้หรอก ไอนะ รับทุกคน ไม่ว่าผิวดำ ผิวขาว
พี่มืดหน้าดุ เสียงดัง คอยบอกทาง หลังจากออกเอ็กเพรสเวย์
โอ๋ยโย่ กรูโดนแน่ ถนนนั้น เปลี่ยวจริงๆเลย เป็นที่ว่างเหมือนสลัม
ซากรถเก่าหลายคัน ข้างถนน ที่คงถูกขโมยมางัดแงะเอาพาร์ทออก
บรรยากาศยังกะหนังเรื่อง น่ากลัวร้ายๆหลายเรื่องที่มีฉากโลเกชั่น นิวยอร์ก
ตำรวจไม่มีผ่านมาเลย นึกแล้ว เจ็บใจ ผลัดวันมาเรื่อย
ว่าจะเอารถไปทำไฟ สัญญานที่พอกดปุ่ม แล้วหลอดไฟสีเหลืองที่ติดไว้ท้ายรถจะกระพริบ สว่าง
หากตำรวจเห็นไฟนี้ จะอ่านออกว่า กำลังอยู่ในเหตุการณ์ร้าย จะเข้ามาหยุดรถถามไถ่
ตอนนี้ต้องใช้หัว ใช้สติ หลอกแต่งเรื่องแล้วมั๊ง ผมบอกพี่ดำว่า
ไอนะ เกลียดไอ้ไวท์ กว่าพวกแบล็กอย่างยูอีกนะ
มาย บราเทอร์ วอส คิลด์ บาย ไอ้ ไวท์โพลิส
ฮี ไปกับเพื่อน แบล็ก เหมือนยู ที่บรุกลินกลางคืนนะ
ไอ้มืด ท่าทาง งงๆสงสัย ผมก็เลยโม้ต่อว่า
พี่ไอ ไม่อันเดอร์สะแตนด์อิงลิช นะ พอแด้ท ฟักกิ้งค้อบ บอกให้หยุด
มายบราเทอร์ไม่หยุด ขยับตัว รีบเดิน เลยโดนยิงนะ
ไอ้มืด ชักสนใจเรื่องแล้ว บอกผมว่าฟักกิ้งโพลิส มันเกลียดมายพีเพิล
ผมก็ว่า ยูไม่รู้อีกว่า เมียไอก็แบล๊กนะ
พี่มืดถามว่า จริงหรือหวะ เฮ้ บราเทอร์
ผมนึกถึงไอ้โทนี่กับลูกสาวขึ้นมาได้อีก
ไอ จะให้ ยู ดูรูป ลูกสาวไอนะ หกปีแล้ว
ผมเปิดเก๊ะ หยิบซองใส่รูปออกมา
เอารูปแรกที่เป็นหน้าของ เบอร์นาเด็ทท์ ลูกครึ่งไทย เมกันดำ
กำลังเป่าเทียนวันเกิด ยื่นให้พี่มืดดู
พี่มืดเอาไปดูอย่างสนใจจริงๆ ผม เหลือบมองทางกระจกหลัง
พี่มืดบอกทาง ผมไปเรื่อยๆนะ จนมาถึงถนนใหญ่ ดีขึ้นหน่อย
มีไฟสว่างบ้าง แล้วผมก็ได้ยิน พี่มืดเอ่ยขึ้นว่า
จอดให้ไอที่แก๊สสเตชั่น อโมโก้ ข้างหน้า โอ่เค้
."and tell you the truth brother ,I don't have any money "
ผมรีบบอก "that's okay my brother " แล้วก็กลัวนายนี่จะเปลี่ยนใจ ไปอีก
ผมหยิบแบ๊งค์ทั้งกำให้นายนั่น ก็เป็นใบหนึ่งเหรียญทั้งหมดแหละ
ที่ใส่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายไว้เพื่อไว้เป็นเงินทอนง่ายๆ
แต่แบงค์ใหญ่ ผมเก็บใส่กระเป๋ากางเกง
พอนายมืดลงจากรถแค่เสี้ยววินาที ผมกดล็อกประตูทันที
แล้วออกรถเร่ง สปีดทันทีเหมือนกัน
เมือผ่านกลับเข้ามาในแมนฮัทตั้นได้ ผมไปจอดที่ปัมพ์แห่งหนึ่ง แล้วลำดับเหตการณ์
นึกถึงกระเป๋าที่อยู่ท้ายรถของพี่มืด ไปเปิดกระเป๋าดู
ไอ้แยะแม่ มันตั้งใจมาจี้นะ เงินค่าโดยสารก็ไม่มี ในกระเป๋านี่ก็ไม่มีไรมีค่าเลย
นอกจากเศษ ผ้าขี้ริ้ว เก่าๆ เกือบเต็มกระเป๋า ผมยกไปทิ้งในถังขยะใหญ่
เปิดประตูสำรวจเบาะหลัง โอ๊ะโอ่ มีดแบบทำครัวเล่มหนึ่ง ซุกอยู่ในร่องเบาะ
ใจหายมาทันทีอีกแล้ว มันจะเอาแต่เงินนะผมไม่ว่าหรอก จะบอกว่า
เอาไปๆ ไอไม่มองหน้ายูด้วย อย่าเฮิร์ทไอเลยนะ
แต่ที่เห็นเป็นข่าวมันฆ่า พวกแทกซี่ป้ายดำ หรือ car service แล้วเข่าอ่อน
กลับบ้านดีกว่า
รุ่งขึ้น ผมก็ไปเอาpartition มาใส่อีก และให้ช่างทำไฟสัญญานฉุกเฉิน
โอยโย่ ตูรอดมาได้ไงวะ มายบราเทอร์ ฮู วอส คิล
หรือ มาย ด๊อเทอร์ เบอร์นาเด็ทท์
ลุงขอบใจนะแม่หนู.... happy birthday to you Bernadette...............
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 48 11:35:58
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 48 04:39:48
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 48 04:35:13
จากคุณ :
smartupid
- [
27 ก.ค. 48 17:42:08
]