ขอฉลองการได้เป็นสมาชิกของพันธ์ทิพย์หน่อยนะครับ โดยการโพสต์กระทู้นี้
พอดีเมื่อเร็วๆนี้ได้มีโอกาสอ่านเรื่องเกี่ยวกับเทวตำนาน
กรีกและ โรมัน (Greek and Roman mythology) เลยอยากเอามาบอกเล่าต่อๆกันครับ
คำศัพท์และสำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้มีไม่น้อยที่มีที่มาจาก
เทวตำนาน เพราะอารยธรรมของซีกโลกตะวันตกได้รับอิทธิพลมากกรีกและโรมัน เพราะสองชนชาตินี้เป็นพวกที่ช่างคิดค้นและหาเหตุผลมาอธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นรอบตัว ในภาษาอังกฤษมีคำและสำนวนมากมายที่มีต้นเค้ามาจาก
เทวตำนาน จะกล่าวบางส่วนที่น่าสนใจ
Achilless heel หรือ the heel of Achilles เป็นโวหารเปรียบเทียบกับความบกพร่องที่เปิดช่องให้เกิดอันตราย (weakness) เช่น She is a very good employee. Only carelessness is her Achilles heel. มาจากเรื่องของอาคิลิส ซึ่งเมื่อยังเยาว์ นางอัปสรธีทิส ผู้เป็นแม่อยากให้บุตรเป็นอมตะ จึงจับตรงข้อเท้าของอาคิสิสไว้แล้วเอาหัวจุ่มในแม่น้ำสติกซ์ อันศักดิ์สิทธิ์ โดยลืมนึกว่าเฉพาะตรงข้อเท้าที่นางจับไว้มิได้ถูกน้ำศักดิ์สิทธิ์ชโลมไว้ เมื่ออาคิลิสเข้ารวมในสงครามกรุงทรอย (TheTrojan war) เจ้าชายปารีส ฝ่ายกรุงทรอยยิงธนูอาบยาพิษมาที่
อาคิลิส และมีเทพอพอลโล ช่วยบังคับลูกธนูให้ปักลงตรงส้นเท้าพอดี อาคิลิสจึงถึงแก่ความตาย เพราะฉะนั้นจุดบกพร่องเราถือว่าเหมือนส้นเท้าอาคิลิส
The Gordian knot หมายถึงภาวะที่เป็นปัญหาซับซ้อนยุ่งเหยิงจนสุดที่จะแก้ไขได้ เช่น International politics today is like the Gordian knot. No one knows how to deal with it. มาจากเรื่องของท้าวกอร์เดียส พระบิดาของท้าวไมดัส แต่เดิมกอร์เดียสเป็นสามัญชนและแคว้นฟรีเจียว่างกษัตริย์พอดี ศาลประจำเมืองให้คำพยากรณ์ว่าแม้ผู้ใดขับรถเข้ามาในเมืองในระยะนั้นก็ให้ยกขึ้นเป็นเจ้าเมือง บังเอิญกอเดียสขับรถเข้ามาในเมืองพร้อมลูกเมียโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จึงได้รับอัญเชิญให้ขึ้นเป็นเจ้าเมือง ท้าวกอร์เดียสจึงนำรถไปอุทิศถวายเทพเจ้าที่ศาลประจำเมืองโดยผูกตรึงไว้แน่นหนาซ่อนเงื่อนปมจนไม่มีใครแก้ได้ ดังนั้นอะไรที่ซับซ้อนเกินจะแก้ไขจึงเรียกว่า the Gordian knot
To cut the Gordian knot คือ การแก้ปัญหาโดยความเด็ดขาด โดยใช้ความรุนแรง ไม่สนใจผลกระทบที่จะตามมาสืบเนื่องจากเรื่องข้างต้น มีวิธีเดียวที่จะเอารถไปได้คือ การตัดเชือกออก โดยไม่ต้องแก้ปม ดังนั้นการแก้ไขปัญหาโดยความเด็ดขาด เราเรียกว่า to cut the Gordian knot.
A Herculean task หมายถึงงานที่คนอย่างเฮอร์คิวลิส เท่านั้นที่จะทำได้ สำนวนนี้มาจากเรื่องของเฮอร์คิวลิส ที่ต้องรับภาระทำงาน 12 ชิ้น เพื่อเป็นการล้างบาปที่ฆ่าลูกเมียตัวเองตาย แต่ละอย่างล้วนยากเย็นเกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาจะทำได้ เช่น การสังหารตัวไฮดรา อสรพิษซึ่งมี 9 หัว หรือ การล้างคอกสัตว์ หรือการนำสุนัขสามหัว Cerberus ขึ้นจากยมโลก แต่เฮอร์คิวลิสก็ทำสำเร็จทุกอย่าง ดังนั้นงานที่ยากๆ เราเรียกว่า a Herculean task หรือ Hercules labour
Labyrinth ใช้เรียกภาวะที่สลับซับซ้อนวกวนที่ในภาษาไทยเรียกว่า เขาวงกต มาจากชื่อของที่คุมขังตัวมิโนทอร์ ซึ่งเป็นสัตว์ครึ่งวัวครึ่งคนในเกาะครีต ที่คุมขังนี้สร้างโดยดีดาลัส ประกอบขึ้นด้วยช่องชั้นคูหาสลับซับซ้อนและมีทางเดินวกวนจนผู้ที่เข้าไปแล้วหาทางออกไม่ได้ ต้องตกเป็นเหยื่อของตัวมิโนทอร์ สภาพที่ซับซ้อนยุ่งเหยิงเราจึงเปรียบได้กับ ละบิรินธ์ บางครั้งใช้เป็นคำคุณศัพท์ labyrinthine เช่น His ideas are labyrinthine; they are almost impossible to understand.
Narcissus นาซีซัส เป็นชื่อดอกไม้ชนิดหนึ่ง ได้ชื่อมาจากหนุ่มน้อยผู้หนึ่ง มีรูปโฉมงดงามเป็นที่ใฝ่ฝันของนางอัปสรและมนุษย์ทั่วไป แต่นาร์ซิสซัส มิได้รักตอบผู้ใดทั้งสิ้น จนนางอัปสรองค์หนึ่งเจ็บแค้น ขอให้เทวีแห่งความพยาบาทลงโทษนาร์ซิสซัส วันหนึ่งนาร์ซิสซัสจะก้มลงดื่มน้ำในลำธาร เห็นรุปโฉมของตนเองเข้าและต้องมนต์ก็หลงใหลในตัวเองไม่เป็นอันกินอันนอนจนถึงแก่ชีวิตลง กลายเป็นต้นไม้ขึ้นอยู่ริมน้ำ คำนี้ภายหลังนำมาใช้อธิบายนิสัยคนประเภทที่หลงตัวเอง เช่น He is a narcissistic person. เป็นต้น
Panic แปลว่า ตื่นตกใจ เสียขวัญ ตื่นตูม เช่น Im likely to get panic if I hear sirens wailing. ผมจะตื่นตกใจถ้าได้ยินเสียงหวอ ได้มาจากชื่อของเทพแพน (Pan) ซึ่งเป็นเทพชั้นต่ำมีหน้าและตัวเป็นคนแต่มีขาเป็นแพะ มีนิสัยชอบเล่นสนุกและอยู่ตามที่รกร้างทั้งมวล เช่นตามป่าเขา เป็นนักดนตรีที่สามารถและชอบเป่าหลอดต้นอ้อเป็นเพลง เชื่อกันว่าแพนเป็นผู้ทำให้เกิดเสียงดังต่างๆกลางป่าในยามค่ำเป็นที่หวาดกลัวแก่นักเดินทาง จึงเป็นที่มาของคำว่า panic
Between Scylla and Charybdis เป็นอุปมาโวหารหมายถึงภาวะที่มีอันตรายขนาบ ตรงกับของไทยว่า หนีเสือปะจรเข้ มาจากชื่อของหิน 2 ลูกในช่องแคบแมสสินาระหว่างเกาะชิชิลีกับอิตาลี ลูกที่ชื่อคาริบดิส (Charybdis) และชื่อ ชิลา (Scylla) เรือที่แล่นผ่านช่องหินทั้งสองต้องระวังอันตรายทั้งสองด้านเพราะคลื่นลมผันผวนตลอดเวลา ทำให้เกิดวังน้ำวนขึ้น ถ้าเลี่ยงวังน้ำวนอันหนึ่งพ้น ก็จะตกอยู่ในอีกวังน้ำวนหนึ่ง ไม่พ้นเสียที
tantalize เป็นกริยา มีความหมายว่า ทรมานโดยการทำให้อยาก ทำให้น้ำลายหก เช่น Dont tantalize the dog by showing the bone. Just give it to him. ได้มาจากชื่อของ แทนทาลัส Tantalus เจ้าผู้ครองแคว้นลิเดีย ท้าวเธอเป็นบุตรของเทพบดี ซุส (Zeus) แต่บังอาจกระทำการหมิ่นประมาทเทพทั้งมวล โดยการให้ประหารเพลอปส์ Pelops โอรสองค์หนึ่งของท้าวเธอเอง แล้วปรุงเป็นอาหารถวายทวยเทพ ทวยเทพภายหลังรู้เข้าจึงลงทัณฑ์ให้ลงไปอยู่ในยมโลก ยืนแช่น้ำอยู่ใต้ต้นไม้ผลดก แต่เมื่อใดจะก้มลงไปดื่มน้ำ น้ำก็ล่าถอยหายไป เมื่อใดจะเอื้อมมือเด็ดผลไม้ กิ่งไม้ก็ห่างออกไปจนสุดเอื้อม ต้องทนทุกทรมานนับแสนๆกัลป์
The apple of discord เป็นสำนวนเรียกต้นเหตุของความแตกร้าว เช่น New plans for disarmament are the apple of discord between the USA and North Korea. มาจากต้นเหตุของสงครามกรุงทรอย คือในงานวิวาห์ของท้าวพิลีอุส กับนางอัปสรธีทิส (บิดามารดาของอาคิลิส) เทพและเทวีทั้งหลายได้รับเชิญมาโดยทั่วหน้า ยกเว้นเทวีเอริส (Eris) เจ้าแม่แห่งความแตกร้าว เทวีจึงพิโรธเพราะไม่ได้รับเชิญ จึงโยนผลแอปเปิลทองคำเข้าไปกลางงาน มีข้อความจารึกว่า To the fairest หรือ สำหรับผู้ที่งามที่สุด และผลแอปเปิลนั้นก็เป็นต้นเหตุแห่งความแตกร้าวสมจริง เพราะเทวีทั้งปวงก็พากันแย่งผลแอปเปิล จนเหลือเพียงเทวี 3 องค์ คือ ฮีรา Hera, วีนัส Venus and อธีนา Athena แย่งชิงกันจนเทพบดีซุส Zeus โยนกลองไปให้เจ้าชาย ปารีส เป็นผู้ตัดสิน และนี่คือสาเหตุของสงครามกรุงทรอย เพราะเจ้าชายปารีสตัดสินให้เทวีวีนัสได้ผลแอปเปิลไปโดยเทวีสัญญาจะยกเจ้าหญิง Helen of Troy มเหสีของท้าวเมเนลอส Menelaus แห่งสปาร์ตาให้เป็นรางวัล เกิดเป็นศึกชิงนาง ที่มาของสงครามกรุงทรอย
แถมให้อีกสำนวนครับที่เกี่ยวกับแอปเปิล The apple of somebodys eye แปลว่า เป็นที่รักอย่างแก้วตาดวงใจ เช่น Jim is the apple of my eye. ใช้เปรียบว่าเรารักใครคนหนึ่งเหมือนกับแก้วตาของเราเองครับ
จากที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น ภาษาอังกฤษได้รับอิทธิพลมาจากชื่อและเรื่องราวในเทวตำนานกรีกเป็นอย่างมาก มีการอาศัยต้นเค้าจากชื่อและเรื่องราวในเทวตำนานมาทำเป็นคำศัพท์ในภาษาอังกฤษ สำนวนและศัพท์เหล่านี้มีที่ใช้อยู่ทั่วไป และมีอยู่ในพจนานุกรมทุกๆเล่ม ดังนั้นสมควรที่เราซึ่งเป็นผู้เรียนภาษาอังกฤษจะต้องรู้ไว้ และแสดงให้เห็นถึงการถ่ายเททางภาษาและวัฒนธรรมระหว่างชาติต่างๆครับ
(Bibiography: Edith Hamilton Mythology
ประมวลชื่อและศัพท์จากเทวตำนานกรีกและโรมัน โดย ผศ ดวงตา สุพล)
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 48 00:49:20
จากคุณ :
krisdauw
- [
9 ส.ค. 48 00:33:42
]