PANTIP.COM : H3664680 ++++ ปฏิเสธ ซ้อน ปฏิเสธ

ความคิดเห็นที่ 6

เราเรียกโครงสร้างนี้ว่า multiple negation หรือ การปฏิเสธซ้อนนะครับ

ถ้าเกิดในภาษาอังกฤษ ถือเป็นการใช้ภาษาแบบไม่มาตรฐาน หรือ ต่ำกว่ามาตรฐาน (non-standard or sub-standard dialect) เป็นที่ปรากฏอยู่ทั่วไปในภาษาถิ่นทั้ง ภาษาถิ่นที่เกี่ยวข้องกับชาติพันธ์ผู้พูด เช่น African-American Vernacular English หรือภาษาถิ่นที่ใช้โดยคนดำในประเทศอเมริกา หรือ ภาษาถิ่นที่เกี่ยวเนื่องกับภูมิภาคกายภาพ เช่น Southern dialect ภาษาถิ่นทางภาคใต้ในอเมริกา เป็นต้น

การแปลความหมายปฏิเสธซ้อน เราถือแค่เป็นการ เน้น ย้ำความปฏิเสธ (reinforcement of negative meaning) มิใช่แปลแบบคณิตศาสตร์ (ไม่ใช่ลบเจอลบได้บวก) เพราะฉนั้นเห็นปฏิเสธหลายๆอัน ก็มีค่าคือ ปฏิเสธอันเดียว แต่เป็นการเน้นมากขึ้น เท่านั้น

ดังนั้น nobody goes nowhere ก็แปลว่า ไม่มีใครไปไหนเลย เป็นต้น เหมือน Nobody goes anywhere เป็นต้น หรือ I ain't got nothing ก็แปลว่า ฉันไม่มีอะไรเลย จริงๆ เท่ากับ I don't have anything or I have nothing นั่นเอง

มีพวกนักไวยากรณ์หัวเก่าบางคน กล่าวหาว่า ผู้ใช้ภาษาถิ่น (dialect) ในภาษาอังกฤษที่ใช้ multiple negation นี้เป็นพวกคนโง่ คนไม่มีตรรกะ หรือไม่มีเหตุผล (เพราะว่า ปฏิเสธ สองอันเจอกันก็ต้องเป็นบอกเล่า) แต่จริงๆ ภาษามิใช่คณิตศาสตร์ และพวกที่ไม่มีตรรกะจริงๆ คือคนที่กล่าวหาอย่างนี้

ถ้าไปดูภาษาส่วนใหญ่ในยุโรป โดยเฉพาะภาษาตระกูลโรมานซ์ (romance language) เช่น ละติน ฝรั่งเศส อิตาเลียน โปรตุเกส สเปน การใช้ปฏิเสธซ้อนปฏิเสธ เป็นสิ่งที่ ต้อง ทำครับ เป็นสิ่งบังคับ เช่น ในภาษาสเปน No vi a nadie เเปลว่า ผมไม่เห็นใครเลย (I didn't see no one) เป็นต้น

แม้แต่ในภาษาอังกฤษโบราณ (old English) หรือ สมัยกลาง Middle English หรือ แม้แต่ในภาษาของเช็คสเปียร์ ก็ยังใช้ multiple negation ถือเป็นภาษามาตรฐานในยุคนั้นๆ คงไม่ใช่ว่านักเขียนเหล่านี้ ไม่รู้ไวยากรณ์มั้งครับ

สรุปว่า ปฏิเสธซ้อน เป็น feature ของภาษาที่ไม่ใช่ภาษามาตรฐานในภาษาอังกฤษ แต่มิได้แปลว่า ภาษาไม่มาตรฐานเป็นภาษาที่คนด้อยปัญญาพูด แต่เป็นลักษณะของภาษาที่เป็นเช่นนั้นเอง (เหมือนภาษาสเปน อิตาเลียน เป็นต้น) และการเเปล ก็เเปลเหมือนปฏิเสธตัวเดียว (แต่ย้ำความ) เท่านั้นครับ
แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 48 16:38:33

จากคุณ : krisdauw (krisdauw) - [ วันแม่แห่งชาติ 16:35:32 ]