ความคิดเห็นที่ 1 คุณยังอยากไปอยู่ไหมค่ะ ถ้าอยากไปก็ไปสัมภาษณ์อีกที เพราะพี่เขยคุณก็ตั้งใจที่จะให้ของขวัญกับคุณอยู่แล้ว อย่าลืมปริ๊นทฺอีเมลที่สถานทูตส่งมาให้ เอาติดไปด้วยนะค่ะ เพื่อมันไม่มีอะไรดีขึ้นก็โยนอีเมลนี้ใส่เลย แต่ดิฉันว่ามันน่าจะดีขึ้นนะค่ะ         ถ้าเป็นดิฉัน ดิฉันจะไปอีกที เพราะเห็นแก่พี่เขยด้วย(ที่จริงอยากไปเที่ยวมากกว่า ได้นั่งเฟริสท์คลาสอีกตั่งหาก อิอิอิอิ) อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่า จดหมายที่เขียนมาชี้แจงนั้นจริงใจหรือไม่       ขอให้โชคดีค่ะ ยังไงอัพเดทข่าวด้วยนะค่ะ ปล...เห็นว่าชั้นเฟริสคลาสมีร๊อบสเตอร์เสริฟด้วยนะ(เห็นแก่กิน) จากคุณ : bellemaman - [ วันแม่แห่งชาติ 19:36:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Well, I'd say that's how the system works. There is nothing wrong with it, really ! You just got to be patient and follow the process. America is the Best nation on the planet. You can count on that. จากคุณ : - America is your best friend - [ วันแม่แห่งชาติ 19:42:14 A:151.196.139.85 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 3 America is the Best nation on the planet. You can count on that. จริงเหรอ จากคุณ : mungkood - [ วันแม่แห่งชาติ 19:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 America is the Best nation on the planet. You can count on that. ไม่จริงร๊อกกก จากคุณ : Miya_Aki - [ วันแม่แห่งชาติ 20:13:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 America is the Best nation on the planet. You can count on that. ก็คงอยากไปเที่ยวสัก 2-3 อาทิตย์ แต่คงไม่ไปอยู่นานแน่ๆ คิดถึงบ้าน ครอบครัว และ ส้มตำ อาหารที่ไหนๆ ก็ไม่อร่อยเท่าอาหารไทย(สำหรับเรา).......... จากคุณ : ....... - [ วันแม่แห่งชาติ 20:20:02 A:61.90.109.32 X: TicketID:101084 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เขาก็ให้คำตอบแล้วไง... 1. Can the applicant overcome the presumption that he/she is an intending immigrant? If not, then the applicant is refused. Documents are not the only means by which this decision is made and the applicants' overall situation in Malaysia also guides this decision. 2. However, as applying for a visa is expensive, I generally do not recommend doing so unless your circumstances have changed since the time of application. 1. คุณทำงานและอยู่ในมาเลเซีย โสด? ไม่มีครอบครัว? เพิ่งเข้าทำงาน 1 ปี 4 เดือน 2. คุณไม่มีหลักประกันผูกมัดคุณที่ไทย คุณทำงานและอยู่ในมาเลเซีย 3. คุณไม่มีหลักประกันผูกมัดคุณที่มาเลเซีย? 4. พี่เขย พี่สาว และลูก จะไป U.S. คุณจะไปพักกับเขา จากคุณ : J - [ วันแม่แห่งชาติ 22:08:07 A:4.155.242.115 X: TicketID:071236 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นเข้ามาค่ะ ขอตอบคุณ J นะคะ 1. เราทำงานในมาเลเซีย หนึ่งปี สี่เดือนก็จริง แต่เราทำงานคอนเทร็ค ค่ะ สามปี เป็นบริษัทมั่นคงและหน้าที่การงานถือว่า ดี เรามีแฟนเป็นคนมาเลเซีย ไชนีสค่ะคบกันมาสามสี่ ปีแล้ว ซื้อคอนโดด้วยกันที่ปีนังแล้วจะแต่งงานกันหลังจากเราหมดสัญญา 2. เรามีพ่อแม่ พี่ๆ ครอบครัวและที่ดินที่เราซื้อไว้ที่เมืองไทย ค่ะ 3. เรามีหลักฐานผูกมัดเราที่มาเลเซียอยู่แล้ว เวอร์คเพอมิต และสัญญาการว่าจ้างงาน สามปี และเราจะไปเมกาแค่ สามอาทิตย์เนี่ยนะ 4. พี่เขยเป็น คันทรีแมนเนเจอร์ อยู่เมืองไทยมาห้า หกปีแล้วค่ะ เราเคยทำงานกับเขาก่อนมาทำงานที่มาเลย์ด้วย เขาไปอเมริกาปีละ 2 ครั้งค่ะ เมษายนกับ ตุลาคม เค้าชวนหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยอยากจะไปสักที แต่ปีนี้เป็นพิเศษเพราะว่า เป็นปีที่เราจะฉลองความเป็นโสดเป็นปีสุดท้ายและอายุขึ้นเลขสามปีแรก ค่ะ ปล. ที่ฉุนและอีเมลล์ไปเพราะ คำถามที่เค้าพูดและดูถูกเรา เค้าถามว่าเราทำงานอะไร จบการศึกษาอะไร ที่ใหน แต่พอเราบอกไปแล้ว ไม่ดูหลักฐานอะไรเลย พูดจาเหมือนว่าเราเป็นสาวไทยอยากจะไปเมกา ไปหาผู้ชายเมืองเค้าตัวสั่น ถามว่าพี่เราแต่งงานกับพี่เขยได้กี่ปี เป็นคุณๆ จะให้คิดว่าอะไร เค้าไม่ได้เช็คดูหน้าที่การงาน และสเต็จเม้นท์ ของเราเลย ไม่เสียใจเลยที่ไม่ได้ค่ะ แต่เสียความรู้สีก และสงสารคนชวนไปค่ะ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ วันแม่แห่งชาติ 22:33:56 A:202.188.158.130 X: TicketID:065457 ]

ความคิดเห็นที่ 8 America is the Best nation on the planet. You can count on that.   ถ้าแฟนไม่อยู่นั่น คงไม่ตอบว่าดีหงะ จากคุณ : Adore - [ วันแม่แห่งชาติ 23:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราว่าที่เค้าส่งเมลมาหาคุณให้ไปยื่นใหม่อีกก็เพราะว่า อยากรู้ว่า คุณจะแน่ซักแค่ไหน หลังจากเขียนไปบอกว่า ... "To tell you guys I swear to god all my life until I die I won't ever never apply for US tourist visa or what ever visa again" เป็นเรา เราไม่ไปนะ เขียนไปแบบนี้ขืนไปยื่นอีกที จนท. เค้าคงจะเอาจม.ของคุณประโยคนี้แหละให้คุณอ่าน จากคุณ : Autumn Leaves - [ 13 ส.ค. 48 01:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 To tell you guys I swear to god all my life until I die I won't ever never apply for US tourist visa or what ever visa again even I got money ==> BUT YOU ARE HESITATING AND PROBLALY REDO IT. All I am saying is I really don't upset and feel sorry that I didn't get the visa.  ==> BUT YOU DID. IT'S REDICULOUS, HUH ??!! แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 48 02:03:41 จากคุณ : sasil (sasil) - [ 13 ส.ค. 48 01:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 I agree with K. Autumn Leaves and K. sasil because you said..... "To tell you guys I swear to god all my life until I die I won't ever never apply for US tourist visa or what ever visa again." Don't forget your words! จากคุณ : BlackmagicW - [ 13 ส.ค. 48 02:57:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ ดิฉันไม่ได้คิดว่าจะไป เสียเงินให้กับประเทศนี้อีกหรอกค่ะ ขอขอบพระคุณที่เตือนความจำนะคะ ดิฉันจำได้ทุกถ้อยคำที่เขียนไปค่ะ เพียงแค่คิดว่าที่เค้าส่งเมลล์มาเพราะว่าเค้าเองที่ทำผิดกระบวนการ หากทางเค้าไม่ผิดจริงก็ไม่เห็นต้องแคร์อีเมลล์ของดิฉันนี่คะ ... ไม่จำเป็นที่ต้องรีเคสของดิฉันด้วยค่ะ หากคุณไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับดิฉัน ก็คงไม่รู้สึกอะไร จะคิดว่าดิฉันผิดก็เชิญ ดิฉันได้แง่คิดอะไรๆเพิ่มขึ้นจากประสบการณ์ในวันนี้ อย่าตัดสินใจคนเพียงแค่ภายนอก หากคุณไม่ได้รู้จักตัวตนเค้าจริงๆ และ คนที่คุณคิดว่าเค้าดี เค้าอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่คิดก็ได้ นี่แหละถึงต้องมีกระบวนการตรวจสอบและกระบวนการยุติธรรม แต่อะไรๆในโลกนี้หาคนยุติธรรมยากค่ะ America is the Best nation on the planet. You can count on that. คุณคงไม่ใช่คนไทย เลือดในตัวคุณคงจะไม่มีเลือดคนไทยปนอยู่ ดิฉันเป็นคนไทย ภูมิใจในความเป็นไทย ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ สำหรับคนไทยด้วยกัน ซึ้งใจสุดๆเลยค่ะ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 13 ส.ค. 48 03:55:30 A:202.188.158.130 X: TicketID:065457 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เขียนไปแบบนั้นเค้าก็ไม่สนใจหรอกคุณ ไม่ใช่คุณรูดบัตรเครดิตเยอะๆ แล้วจ่ายหมดทุกเดือน พอจะเลิกใช้บัตรเครดิตเพราะไม่พอใจอะไรบางอย่าง แล้วเค้าจะกลับมาง้อคุณคืนแล้วบอกว่า กลับมาใช้บัตรฉันต่อเถิดเดี๋ยวจะลดค่าดอกเบี้ยให้.... ส่วนใหญ่คนที่ไม่ได้ก็จะประมาณนี้ จะบอกว่า เจ้าหน้าที่ไม่ว่ามาจากประเทศไหนถ้าไปเจอกันใจดี ไม่เข้มมาก ก็โชคดีไป ถ้าเจอคนที่เข้มหน่อยจนบางครั้ง ก็งี่เ่ง่าก็มีเยอะ ขนาดหลายคนมาบ่นเรื่องคนงี่เง่าให้ัฟัง คนหนีเข้าเมืองงหรือคนเอาวีซ่่าท่องเที่ยวมาแล้วอยู่เป็นโรบินฮูดก็มีตั้งไม่รู้กี่แสนกี่ล้านคน เค้ายังแก้ไม่ได้เลยคุณ ได้แต่ทำใจนะ ... ถ้าคุณกลับมาเมืองไทยขอใหม่อาจจะได้ก็ได้ เพราุะคุณบอกว่ามีหลักทรัพท์ที่ดินไม่ใช่เหรอ ลองใหมน่า ใจเย็น จากคุณ : สะดีดสะดิ้ง - [ 13 ส.ค. 48 04:07:40 ]

ความคิดเห็นที่ 14 วันๆนึงมีคนที่ไม่ได้วีซ่าเขียนอีเมล์ไปบ่นกับทางสถานทูตไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ พอเค้าอ่านได้ความว่าบ่นเพราะไม่ได้วีซ่า เค้าก็ไปquoteกฏหมายของเค้ามาให้อ่าน และก็คงตอบอีเมล์แบบเดียวกัน เนื้อความเดียวกันนั้นกับทุกคนที่ส่งไปบ่นกับเค้า เค้าไม่ได้มาใส่ใจหรอกว่าเหตุผลที่บรรยายมาในเมล์ของคนนั้นๆมันคืออะไร เพราะคนที่ไม่ได้วีซ่าก็บอกว่าตนไม่รับการตัดสินที่เป็นธรรมในการออกวีซ่าทั้งนั้น ตามมารยาทเค้าก็แค่ตอบอีเมล์พวกนั้นว่าคุณยังเป็นที่ต้อนรับที่จะมาapply visaอีก (ไม่ใช่รีเคส ไม่ใช่appeal แต่สมัครใหม่เลย เสียเงินใหม่)แต่ก็บอกเสริมให้อีกต่างหากว่าไม่แนะนำ ถ้าไม่มีคุณสมบัติจริงๆ นอกจากว่าจะมีหลักฐานมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากคราวก่อน หรือง่ายๆก็คือถ้าจะมาแบบเดิมก็อย่ามาเลย เพราะเค้าเชื่อมั่นในกระบวนการพิจารณาของเค้า จากคุณ : adios - [ 13 ส.ค. 48 07:49:55 A:67.183.146.38 X: TicketID:084537 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จขกท อ่านภาษาอังกฤษไม่แตกละมังคะ อีเมลจากสถานฑูตที่ตอบมา เค้าไม่ได้ยอมรับว่าเค้าทำผิดกระบวนการอะไรนี่คะ บอกว่าทำถูกต้อง แถมยัง quoted U.S. Immigration Law มาอีก ว่าข้อไหน section ไหน ที่เค้าใช้ตัดสิน visa ของคุณว่าไม่ผ่าน นอกจากนั้นยังบอกอีกว่า เค้าไม่แนะนำให้คุณ re-apply ด้วยซ้ำ ถ้าคุณไม่มีหลักฐานอะไรใหม่ๆเพิ่มเติมจากที่ไปขอวีซ่าคราวที่แล้ว คือเป็นการยืนยันด้วยซ้ำว่า ไปขออีกก็ไม่ได้หรอก ถ้าสถานะการ์ณไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มันเป็นมารยาทขององค์การที่มีระบบค่ะ ที่จะตอบอีเมลของคนที่เขียนไป ไม่ใช่ว่าที่ตอบเพราะเค้าแคร์อีเมลของคุณ จขกท เป็นการพิเศษอะไรส่วนตัวหรอกค่ะ เรื่องอื่นๆไม่รู้ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการ์ณขณะสัมภาษณ์ แต่ก็เชื่อว่า การถามว่า จขกท ทำงานอะไร จบการศึกษาอะไร ที่ไหน เป็นเรื่องธรรมดา ที่เค้าไม่ดูเอกสารอาจจะเพราะเค้าเชื่ออยู่แล้วว่าคุณพูดจริง จริงๆ คุณ จขกท ก็เป็นสาวไทยที่อยากไปอเมริกาจริงๆ แต่เราไม่เชื่อว่า เพราะอยากไปหาผู้ชายเมืองเค้าจนตัวสั่นอะไรนั่นหรอกค่ะ และถ้าคนที่สัมภาษณ์คุณเค้าพูดแบบนั้น นั่นเสียมารยาทมากเลยนะ และ จขกท สามารถร้องเรียนได้ค่ะ ถ้าเป็นเรานะ เขียนไปซะขนาดนั้น ใส่อารมณ์เต็มที่ โดยที่ไม่มี substance เลย เค้าอาจจะมีชื่อ จขกท อยู่ใน file แล้วล่ะค่ะ ถ้าไม่มีข้อมูลหลักฐานอะไรเพิ่มเติมในการขอ visa นะ อย่ากลับไปเลยค่ะ ไม่มีทางได้แน่ๆ เพราะมันยากแล้วล่ะ คราวหน้าคราวหลังอย่าใช้อารมณ์มากเกินไปน่ะค่ะ อีเมลไปด่าประเทศเค้า ระบบงานเค้า ขนาดนั้น เค้าไม่ตอกกลับมาว่า งั้นก็ดีแล้ว อย่ามาขอเลย เพราะประเทศเค้าไม่ต้อนรับ ก็ดีแล้วนะเนี่ย จากคุณ : แก้ม - [ 13 ส.ค. 48 08:48:39 A:68.32.127.118 X: TicketID:104102 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สถานทูตนะครับ ไม่ใช่ call center จะได้พูดหวานๆ จากคุณ : praphrut608 - [ 13 ส.ค. 48 09:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เคยขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา โดยมีหนังสือรับรองจากบริษัทฯ ที่อเมริกา แนบไปด้วย แต่โดนปฏิเสธ (เป็นสาวโสด เงินในบัญชีมีประมาณแสนกว่าบาท เงินเดือนไม่ผ่านธนาคาร) ไม่เคยคิดมาก่อนค่ะว่า วีซ่าไปอเมริกาจะขอยากขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านั้นเคยไปต่างประเทศไกลสุดก็แค่สิงคโปร์ แถมไม่ต้องขอวีซ่าด้วย พอโดนสถานทูตอเมริกาในเมืองไทย ปฏิเสธ เลยเสียศูนย์ โกรธ เสียใจ เสียดายโอกาสที่จะได้ไปดูงานที่อเมริกา โดยที่ไม่ต้องออกเงินเอง บริษัทฯ ที่อเมริกาออกให้หมด ต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่าจะสงบจิต สงบใจหายอยากไปเหยียบประเทศนี้ได้ พอสงบ สมาธิมา ปัญญาก็เกิด ที่เคยโกรธ เสียใจ หรือเสียดาย ตอนนี้หายไปหมดแล้วล่ะคะ แต่ไม่เคยคิดจะไปขอวีซ่าใหม่เลย เพราะไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องไป ถ้าจะไปท่องเที่ยว ก็ยังมีประเทศอื่น ที่ยังต้อนรับ (คนไทย) อยู่ อย่าเสียใจไปเลยค่ะ พอเวลาผ่านไปคุณจะรู้สึกดีขึ้น จากคุณ : เช้าวันใหม่ (น้ำใสจริงๆ) - [ 13 ส.ค. 48 09:37:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 You will spent $ in the country. You can spend your money at other countries for sure if they don't welcome you..... Don't go. จากคุณ : Carrier - [ 13 ส.ค. 48 10:48:56 A:172.191.4.64 X: TicketID:103443 ]

ความคิดเห็นที่ 19 You will spend $ in the country. You can spend your money at other countries for sure if they don't welcome you..... Don't go. จากคุณ : Carrier - [ 13 ส.ค. 48 10:51:31 A:172.191.4.64 X: TicketID:103443 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาอ่านเฉยๆ ไม่มีความเห็นค่ะ.... แต่เจอ .. America is the Best nation on the planet. You can count on that. พูดจริงหรือประชดเนี้ย...อึ้งค่ะอึ้ง จากคุณ : - (ซอด้วง) - [ 13 ส.ค. 48 11:52:37 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนนี้ ความเห็น 12 คุณกลับมาบอกว่า "ดิฉันไม่ได้คิดว่าจะไป เสียเงินให้กับประเทศนี้อีกหรอกค่ะ" คุณคงเพิ่งมา "ไม่ได้คิด" ตอนที่อ่านความเห็นของเพื่อนๆ กระมัง เพราะว่าตอนตั้งกระทู้คุณยังคิดๆ เรื่องจะไปขอใหม่ อย่างที่พูดว่า "แล้วทีนี่เราจะเอาไงดีง่ะ จะไปจ่ายเงินให้เค้าสัมภาษณ์ใหม่แล้ว เค้าจะเปลี่ยนคนสัมภาษณ์ให้ใหม่ด้วยอะค่ะ" เพราะว่าถ้าคนไม่คิดอะไรอีกแล้วนะ มันจะไม่มีวันจะมีคำนี้ออกมา "แล้วทีนี่เราจะเอาไงดีง่ะ" ถ้าให้เดาคุณคงอยากให้มีคนมาตอบว่า .... อ้า ใช่ครับใช่ค่ะ น่าจะไปขอใหม่น้า สู้ๆ ทีนี้ได้แน่ๆ เลยตัวเอง เพราะว่า เขาจะเปลี่ยนคนสัมภาษณ์ให้ด้วยนะ แล้วเขาก็สำนึกผิดที่ "ทำผิดกระบวนการ" ก็เลยยินดีให้ตัวเองไปขอใหม่ไป เห็นม้า ฯลฯ ??? (นอกนั้นเราเห็นด้วยกับคุณแก้ม ความเห็น 15) อ้อ อีกอย่าง อย่าใส่อามณ์มากตอนเขียนกระทู้ ที่นี่ที่สาธารณะ ใครจะเขียนยังไงก็ได้เพราะเป็นแค่ความเห็น ถ้ารับไม่ได้ก็เสียใจด้วยค่ะ แต่ทุกคนมาที่แจมกระทู้ไม่มีใครเขามาด่าว่าคุณหรอกค่ะ จากคุณ : Autumn Leaves - [ 13 ส.ค. 48 21:23:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 น่าเห็นใจ จขกท ค่ะ เค้าคงกะไปเต็มที่มั้งค่ะ พอเสียใจเลย เขียนไปแบบนั้น ใจเย็นๆนะคะ หาหลักฐานใหม่ ลองดูใหม่ try ur best naka จากคุณ : ส้มตำ (siit) - [ 13 ส.ค. 48 23:09:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบคำถามคุณ Autumn Leaves ค่ะ ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นนะคะ ประเด็นที่ดิฉันไม่พอใจก็คือ คนที่สำภาษณ์ไม่ได้ดูหลักฐานที่เราเตรียมไปเลยค่ะ ไม่ได้ดูเลยจริงๆแม้สักนิด แล้วเราจะเอาหลักฐานไปทำไมล่ะค่ะ เพราะเค้าแค่ดีหน้าแล้วถามไม่ถึง 3 นาที เพราะเราเป็นต่างชาติน่ะค่ะ หากเค้าตรวจสอบทุกอย่างแล้วรีเจค แล้วดิฉันก็คงยอมรับผิดค่ะ ดิฉันไม่ได้รับไม่ได้กับคนที่กรุณาเข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็น แต่ว่าสำหรับคนที่ไม่ได้อ่านละเอียดแล้ว มาแสดงความคิดเห็นมั่วๆนี่ รับไม่ได้จริงๆ จากคุณ : จขกท - [ 14 ส.ค. 48 01:23:42 A:218.208.19.193 X: TicketID:065457 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นไปได้ไหมว่าคุณไม่รู้ระบบการทำงาน ถ้าเค้าไม่ดูหลักฐานคุณเค้าจะตัดสินใจได้ไงว่าให้หรือไม่ให้ ไม่ใช่แค่มองหน้า ใครสวย ใครหล่อก็ให้เข้าประเทศ เรื่องอย่างนี้มันก็พูดยากนะ 1 คุณทำงานที่มาเลเซีย แต่คุณเป็นคนไทย (ดูออกว่าอาจง่ายที่จะทิ้งถิ่นฐาน) 2 คุณบอกเค้าหรือเปล่าว่างานที่คุณทำ มันเป็นสัญญาจ้าง หรือแค่มาแจ้งให้คนอ่านในพันธทิพย์ฟังเท่านั้น(ถึงคุณแจ้งสถานทูตว่ามันเป็นงานคอนแทรก สามปีนะ ก็ไม่มีผล คุณ จะ break contact เมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้) 3 โสด แต่ก็มาแจ้งให้คนอ่านทราบอีกเช่นกันว่ามีแฟนแล้ว อยู่อพารท์เมนต์ด้วยกัน กำลังจะแต่งงาน ไม่ทราบว่าสถานทูตทราบไหม ( ถึงทราบ ข้อมูลนี้ก็ไม่มีน้ำหนักเช่นกัน) 4. เรามีพ่อแม่ พี่ๆ ครอบครัวและที่ดินที่เราซื้อไว้ที่เมืองไทย ค่ะ (โฉลดที่ดิน สถานทูตไม่รับพิจารณา) 5. เรามีหลักฐานผูกมัดเราที่มาเลเซียอยู่แล้ว เวอร์คเพอมิต และสัญญาการว่าจ้างงาน สามปี และเราจะไปเมกาแค่ สามอาทิตย์เนี่ยนะ (การที่คุณละทิ้งถิ่นฐานเมืองไทยไปทำงานที่มาเลเซียนั้น มันก็เป็นการง่ายสำหรับเจ้าหน้าที่ ที่จะคิดไว้ก่อนว่าคุณมีน้ำหนักที่จะหลบหนีเข้าเมือง ใครจะรู้อย่าลืมว่าค่าเงินต่างกัน เงิน 30000 RM ที่นั่นมันก็อาจจะน้อยกว่าเงินที่คุณจะได้จากที่นี่ต่อเดือน) 6. พี่เขยเป็น คันทรีแมนเนเจอร์ อยู่เมืองไทยมาห้า หกปีแล้วค่ะ เราเคยทำงานกับเขาก่อนมาทำงานที่มาเลย์ด้วย เขาไปอเมริกาปีละ 2 ครั้งค่ะ เมษายนกับ ตุลาคม เค้าชวนหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยอยากจะไปสักที แต่ปีนี้เป็นพิเศษเพราะว่า เป็นปีที่เราจะฉลองความเป็นโสดเป็นปีสุดท้ายและอายุขึ้นเลขสามปีแรก ค่ะ (น้ำหนักน้อยกว่านุ่นค่ะ ไม่มีเหตุผลที่จะให้วีซ่า ส่วนพี่เขยคุณเป็นซิติเซนต์ เอาเค้ามาเทียบมันได้เหรอ) ระวังจะติดแบล็กลิสต์นะจ๊ะ อีเมล์ที่คุณเขียนไปอ่านยังไงก็ ไม่สุภาพนะ ถ่มน้ำลายออกมาแล้วจะกลืนกลับเข้าไปมันก็กระไรอยู่ จากคุณ : นางฟ้าในป่าฝน - [ 14 ส.ค. 48 02:33:46 A:68.249.31.89 X: TicketID:015116 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มีประสบการณ์โดนปฏิเสธวีซ่ามาเหมือนกันค่ะ แต่ขอวีซ่าที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ และโดนปฏิเสธในลักษณะเดียวกันกับ จขกท เลยค่ะ ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีให้การสัมภาษณ์ แล้วเหตุผลที่เค้าปฎิเสธก็เหมือนกับที่เจ้าของกระทู้ที่รับอีเมล์แหละค่ะ เพียงแต่ที่ญี่ปุ่นเค้ามีใบปฎิเสธเหตุผลแจกในวันนั้นเลย ก่อนอื่นขอเล่าความเป็นมาก่อนว่าทำไมถึงต้องไปขอวีซ่าอเมริกา ดิฉันเรียนปริญญาเอกในญี่ปุ่นอยู่ค่ะ โดยได้รับทุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น เดือนหนึ่งประมาณหกหมื่นกว่าบาท และกำลังจะเรียนจบ ที่จะไปอเมริกาก็เพื่อไปคอนเฟอเรนซ์ค่ะ ไม่ได้ไปเที่ยว ตอนที่ยื่นเอกสารก้อส่งเอกสารทั้งหมด ทั้งใบเชิญเข้าร่วมคอนเฟอเรนซ์ รวมทั้งใบรับรองจากสถานทูตไทยในญี่ปุ่น (ดิฉันเป็นข้าราชการลาเรียนค่ะ และถึอพลาสปอร์ตราชการด้วยค่ะ) และอื่นๆ..... คิดว่าตัวเองหลักฐานแน่นพอสมควร แต่สุดท้ายก็โดนปฎิเสธในข้อหาว่าเราไม่มีหลักฐานอาชีพที่มั่นคง แล้วแนะนำให้ดิฉันกลับไปขอวีซ่าที่ประเทศไทยค่ะ (คิดได้ไงนี่) เค้ากลัวว่าเราจะแอบหนีไปทำงานที่ประเทศเค้ามั้งค่ะ (แต่นึกในใจว่า ทำไมเค้าไม่คิดว่าคนที่กำลังจะจบปริญญาเอกจะหนีไปอยู่ประเทศเค้าทำไม) ตอนหลังเลยโทรศัพท์คุยกับพี่ที่สถานทูตไทยว่าทำไมเค้าปฎิเสธ ก็ได้คำตอบมาว่า ตอนนั้น(ช่วงที่ขอวีซ่า) เป็นช่วงที่เค้าแบลค์ลิสต์ผู้หญิงไทยค่ะ ดังนั้นอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่เค้าปฏิเสธวีซ่าเราโดยที่ไม่สนใจหลักฐานที่เราส่งไปให้หรอกค่ะ ปล. ตอนนั้นก้อรู้สึกโกรธเหมือนกันค่ะว่าทำไมเค้าถึงได้ปฏิเสธวีซ่าด้วยเวลาอันรวดเร็วและให้เหตุผลที่แสดงความดูถูกเรามากขนาดนี้ แต่ตอนนี้ก้อคิดว่าในเมื่อเค้าเป็นเจ้าของประเทศ เค้าจะให้ใครเข้าประเทศเค้ามันก็เป็นสิทธิ์ของเค้าค่ะ และอเมริกาไม่ได้เป็นประเทศเดียวในโลก ไม่ให้เราไป เราก้อไปที่อื่นก็ได้ จริงไหมค่ะ จากคุณ : ไทยในญี่ปุ่น - [ 14 ส.ค. 48 09:50:01 A:210.191.180.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ ไทยในญี่ปุ่น นั่นปีไหนคะ นานมาหรือยัง ทำไมต้อง blacklist หญิงไทยล่ะค่ะ หรือกลัวไปขายตัว จากคุณ : - - [ 14 ส.ค. 48 10:06:47 A:58.10.129.64 X: TicketID:025472 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แต่เขาก็น่าจะคิดนะว่าคนจบ ป เอก ที่ไหนมันจะไปขายตัวที่นั่น กว่าจะเรียนจบ ยากจะตาย เรียนจบมา ขายตัวก็ชั่วเต็มทนแล้ว จากคุณ : - - [ 14 ส.ค. 48 10:07:59 A:58.10.129.64 X: TicketID:025472 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต้องเปลี่นทัศนคติใหม่ที่ว่า การที่เขาจะออกหรือไม่ออกวีซ่าให้นั้นมันขึ้นกับคุณสมบัติของตัวผู้ไปขอวีซ่า ไม่ได้ขึ้นกับตัวคนพิจารณา จากคุณ : appendix - [ 14 ส.ค. 48 10:26:27 A:192.38.24.19 X: TicketID:090028 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบคุณความเห็นที่ 26 ค่ะ เพิ่งไปขอมาเมื่อมีนาปีนี้เองค่ะ จากคุณ : ไทยในญี่ปุ่น - [ 14 ส.ค. 48 10:29:06 A:210.191.180.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 อยากให้เจ้าของทำความเข้าใจใหม่กับจดหมายอิเล็กทรอนิกที่ทางสถานฑูตตอบกลับมาน่ะครับ เพราะถ้ากลับไปขออีกรอบจะทำให้เกิดเสียความรู้สึกอีกได้ จดหมายที่เค้าตอบกลับมาไม่ได้มีอะไรพิเศษเลยครับ นอกจากจะเป็นแค่มารยาทที่คนทางตะวันตกเขาทำกันครับ คือเขาจะตอบจดหมาย(อาจช้าหรือเร็ว)ที่มีผู้ส่งมาหาทุกฉบับ เป็นสิ่งที่เขาทำ เขาไม่ได้เลือกตอบเฉพาะแต่คุณ และถ้าอ่านให้ดีจะเห็นชัดเจนว่าเป็นการตอบที่มีแบบแผน(เขามีรูปแบบว่าจดหมายแบบนี้จะต้องตอบแบบไหนอ้างกฎหมายข้อไหน) เพราะถ้าครั้งต่อไปหรือแม้แต่ครั้งนี้คุณทุรนทุรายจะเอาเรื่องคนที่สัมภาษณ์คุณให้ได้ เขาก็จะได้อ้างว่าได้ชี้แจงกับคุณในจดหมายดังกล่าวแล้ว และยิ่งชัดเจนมากในข้อที่คุณเข้าใจผิดว่าเขาให้คุณไปขอใหม่ ไม่ใช่นะครับ อ่านให้ดีดี เขาบอกว่า คุณน่ะไม่ควรมาขอใหม่ถ้าหลักฐานที่จะนำมาแสดงให้เขาเห็นไม่ได้ต่างไปจากเดิม เข้าใจเสียใหม่นะครับ จะได้ไม่หน้าแตกทั้งจากที่ไม่ได้วีซ่าซ้ำสองแล้วก็จะต้องถูกเขาว่าว่าไม่เข้าใจภาษาที่เขาแจงมา การพิจารณาวีซ่า มักถูกมองว่าไม่ยุติธรรมเสมอสำหรับคนที่ถูกปฏิเสธ แต่ทั้งหมดเขาก็พิจารณาตามหลักเกณฑ์ของเขา เพราะที่ที่คุณจะไปนั่นก็ประเทศเขา ที่ที่คุณจะอยู่(3สัปดาห์หรือ3ชั่วอายุคน)ก็คือประเทศเขา เขามีสิทธิถูกต้องทุกประการที่จะให้หรือไม่ให้ และคุณมีสิทธิทุกประการจะต่อว่า รู้สึกไม่ดี และจะขอใหม่อีกกี่รอบก็ได้ แต่ต้องจำไว้ว่านั่นคือประเทศของเขา จากคุณ : A Life In The Dark - [ 14 ส.ค. 48 13:33:40 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณโมโหทางสถานทูตว่าไม่ได้ดูเอกสารที่คุณเอาไปในวันสัมภาษณ์เลย ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า ทางเค้าได้รับใบยื่นคำร้องขอวีซ่าที่คุณยื่นออนไลน์ไปก่อนหน้านั่นแล้ว เค้าreviewคุณสมบัติของคุณมาก่อนแล้ว (เช่นว่า อายุเท่าไหร่ ทำงานที่ไหน ดูแล้วมีโอกาสจะละถิ่นฐานหรือไม่ อย่างกรณีคุณไม่ได้ทำงานในประเทศไทย เรียกง่ายๆเลยว่าเหมือนละถิ่นฐานมาทอดนึงแล้ว เค้าก็ต้องคิดไว้ก่อนว่าโอกาสที่จะไปแล้วไม่กลับมีสูง เค้าไม่มาสนใจว่าคุณจะบอกว่าไปน้อยวันแค่ไหน ) ถ้าจากใบยื่นคำร้องมันไม่อยู่ในข่ายที่จะออกวีซ่าให้ได้ เอกสารที่นำไปวันสัมภาษณ์เค้าก็ไม่จำเป็นต้องขอดูเพิ่ม คำถามที่ถาม และวิธีการตอบคำถามในวันสัมภาษณ์มันก็เหมือนการไปคอนเฟิร์มเค้าน่ะแหละ ว่าควรออกวีซ่าให้หรือไม่ และเหตุผลที่ทางคนสัมภาษณ์ให้คุณอาจจะฟังดูไม่เข้าหูเลย หรือทางคุณฟังดูแล้วคิดว่ามันไม่ควรจะเป็นเหตุผลที่ถูกปฏิเสธวีซ่าอย่างยิ่ง ก็อย่าลืมว่าทางสถานทูตเค้าไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลว่าทำไมเค้าถึงไม่ออกวีซ่าให้ ดังนั้นเหตุผลที่เค้าให้มาอาจจะใช่ หรือไม่ใช่ก็ได้ จากคุณ : / - [ 14 ส.ค. 48 21:31:09 A:24.17.105.219 X: TicketID:084537 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เค้า รีวิว เอกสารคุณคั้งแต่คุณยื่นแล้ว  มีเวลาหาข้อมูลคุณนานแสนนานก่อนสัมภาษณ์ เค้าไม่ดูเอกสารหรือ ตอนสัมถาษณ์หนะ หากเค้ามีคำตอบในใจแล้วว่า ไม่ให้ คนที่เค้าให้ เค้าก็ไม่ดูเอกสารเหมือนกัน อย่างมากก็ทำท่าพลิกๆ  ถามๆ นิดหน่อย อีกอย่างกฏหมายเค้าให้อภิสิทธิ์กงศลตัดสินใจว่าจะให้ไม่ให้  ส่วนนึงก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเค้าเอง จากคุณ : Adore - [ 15 ส.ค. 48 07:39:47 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อ้าว ซวยไปเลย จขกท วีซ่าก็ไม่ได้ ยังไม่ได้รับความเห็นใจอีกแน่ะ โอ๋ๆๆ อย่าคิดมากไปเลยนะ (แต่เราว่าป่านนี้ จขกท อารมณ์เย็นขึ้นแล้วล่ะ) เผลอๆไม่อยากมาอเมริกาแล้ว ไปอิรักดีกว่า เอ้ย ไม่ใช่ ไม่ให้ก็ไม่ง้อแล้ว ใช่เปล่า เราว่าคุณเข้าใจผิดอีเมลจากสถานทูต (แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร) เข้าใจว่าอารมณ์นั้นโมโห คุณเลยเขียนไปแรงแบบนั้น มันจริงใจ แต่แรงไปนิด ว่าแต่กระทู้นี้ขึ้นโหวตได้ไงคะเนี่ย อารมณ์สะดุดเลยนะ กำลังหัวเราะๆกับกระทู้โหวตอันบนอยู่ จากคุณ : ค่ำคืนนี้ดาวเกลื่อนเต็มฟากฟ้า - [ 15 ส.ค. 48 08:46:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 THAILAND is the Best nation on the planet. You can count on that. จากคุณ : กาฮัง (กาฮัง) - [ 15 ส.ค. 48 08:49:41 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เพราะคุณเป็นผู้หญิงหรือเปล่า เขาเลยเข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อนผมทำงานอยู่ที่ฝรั่งเศสแล้วไปขอวีซ่าเข้าเมกาที่โน้น ก็ได้มา 10 ปีไม่มีปัญหาอะไร ผมยังงงเลยว่าได้มาได้ยังไง เป็นคนไทยทำงานอยู่ที่ฝรั่งเศส (ด้วยวีซ่า) แค่นั้นเองเพื่อนบอกว่าประเทศไทยไม่ได้อยู่ในข่ายเข้มงวด แต่เพื่อนเป็นผู้ชายครับ จากคุณ : Freedom and Justice - [ 15 ส.ค. 48 08:59:00 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เล่าประสบการณ์ค่ะ  ขอวีซ่า จากแฟรงเฟริต์มาอเมริกา ในวันรอสัมภาษณ์ รอตั้งแต่เช้า ยัน บ่ายสองบ่ายสาม ไม่ได้ทานอะไรเลย หลายคนก็รออย่างนี้ แต่พนักงานเขาก็ไปพักทาน ข้าว   เราก็รอๆๆๆ อย่างไร้จุดหมาย ว่ากี่โมงกันเนี่ย แต่ใบนัดนะ เก้าโมงเช้าสัมภาษณ์  สรุป ถามสองประโยค แต่ก็ได้วีซ่ามา    แต่ที่แปลกคือ ตัวเอง ได้วีซ่านานกว่าแฟน หนึ่งปี ทั้งที่เรายื่นทุกอย่าง เหมือนกันและพร้อมกัน ต่างกันที่ พาสดิฉันเป็นไทย จากคุณ : ตถตา - [ 15 ส.ค. 48 09:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณตถตาคะ แล้วพาส ของแฟนเป็นชาติไหนเหรอคะ จากคุณ : - - [ 15 ส.ค. 48 09:11:54 A:58.10.128.178 X: TicketID:025472 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ Freedom and Justice เราว่าประเทศที่เราอยู่ก็เกี่ยวนะ อย่างคุณ #25, 29 พูด ถ้าอยู่ในประเทศที่โสเภณีไทยมากๆ ก็คงโดนหางเลขไปด้วย ซวยไป จากคุณ : - - [ 15 ส.ค. 48 09:18:10 A:58.10.128.178 X: TicketID:025472 ]

ความคิดเห็นที่ 39 แสดงว่าขอวีซ่าไปเมกาที่ประเทศไหนก็ยากพอๆ กันล่ะสิคะเนี่ย .... กะลังจะไปขอวันพรุ่งนี้อยู่พอดี อ่านแล้วรู้สึกเหมือนใจชื้น ได้รับความยุติธรรมกันถ้วนทั่วเจงๆ ถ้าไม่ได้คงไม่เสียใจแล้วล่ะค่ะ .... เอิ๊กๆๆ .... พี่เจ้าของกระทู้อย่าเครียดนะคะ คนเราก็นานาทัศนะนั่นแหล่ะค่ะ พี่ก็ลองสมัครดูอีกครั้งนะคะ ถ้ายื่นใหม่ก็ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : Cherrypie - [ 15 ส.ค. 48 09:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นใจเจ้าของกระทู้ครับ และเห็นด้วยกับคุณที่ตอบ 15 ถ้าเป็นผม ผมไม่ไปแล้ว ไม่กลับไปขออีก ถ้าไม่จำเป็นผมไม่มาหรอกครับประเทศนี้ เขาไม่ต้อนรับเราก็ไปที่ ๆ เค้าต้อนรับเราดีกว่า ยิ่งช่วงนี้ที่นี่เค้ากลัว ๆ เรื่องก่อการร้ายบนรถบัส รถไฟใต้ดินด้วย อย่ามาเลยครับ จากคุณ : Someone in US - [ 15 ส.ค. 48 10:26:33 A:66.44.122.101 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 เบื่ออเมริกาจริงๆ น่าจะให้ประเทศมันขอวีซ่าเข้าไทยบ้าง ก็รู้ว่าคงทำไม่ได้ แค่แอบหมันไส้ จากคุณ : แมท - [ 15 ส.ค. 48 11:45:04 A:158.108.38.133 X:158.108.40.194 TicketID:095507 ]

ความคิดเห็นที่ 42 Agree to the 15th comment. and Americans think that "America is the ONLY nation on the planet. You can count on that." จากคุณ : : ) - [ 15 ส.ค. 48 14:12:32 A:134.18.67.62 X:20.139.225.21 TicketID:100274 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อาถรรพ์ช่องแปด??? -_- จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 15 ส.ค. 48 16:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 44 แสดงความเสียใจกับเจ้าของกระทู้ เห็นใจ เห็นใจ หัวอกเดียวกันเลย ...แนะนำว่าอย่าไปขออีกนะคะ ไปก็ไม่ได้แน่นนอน 99.99% เขาโค๊ดกฏหมายมาให้เห็นจะ ๆ และเป็นมารยาทที่เขาให้ไปใหม่ (ได้เงินเข้าประเทศเขาชัวร์) แต่ไปแล้วก็จะถูกปฏิเสธแน่นอน เพราะถ้าถูกปฏิเสธแล้วเขาก็เปลี่ยนคนสัมภาษณ์ตามที่เขาบอกจริๆ แต่มันเป็นไปตามกฎของเขาอยู่แล้ว ไม่ใช่เขาจะเปลี่ยนเพราะเอาใจคุณ บอกได้เลยว่าเขาไม่สนหรอก เขายิ่งไม่อยากให้ใครไปเมืองเขาอยู่ เพราะเขาจะแยกเป็นกรณีขอซ้ำ ที่รู้เพราะมีประสบการณ์มาแล้ว โดยปฏิเสธ แต่ไปขอซ้ำ เขาก็เปลี่ยนนสัมภาษณ์ และทำเป็นดูเอกสารใหม่ที่เราเตรียมไป พลิกไปพลิกมาทำนองว่าสนใจ แต่เขามีสิทธิ์ที่จะไม่ดูอะไรเลย ตามที่เขาบอกในเว็บ ดิฉันก็โดนช่อง 8 ในกรุงเทพเหมือนกัน (คุณพี่ผู้หญิงช่องแปด เขากินเงินเดือนจากประเทศอเมริกา ก็ต้องทำงานให้คุ้มค่าตามกฎหมาย) เขาทำถูกแล้ว (แต่คนที่ไปขอวีซ่าในเมืองไทย เขาจะเรียกพี่ผู้หญิงช่องแปด เรียกเขาให้ไพเราะหน่อย) ว่า (อ..ดำช่องแปด,ยัยป้าช่องแปด ฯลฯ เคยได้ยินเพราะต้องไปคอยสัมภาษณ์นาน และตอนยืนเอกสารคนก็จะวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นา นา ทำให้รู้ถึงนิคเนมต่าง ๆ ขอยืนยันว่า ได้ยินมาอย่างนั้นจริงๆ ศักดิ์ศรีของหญิงไทยมันต้องช่วยกันรักษาไว้ เขาดูถูกเกือบทุกด่านที่ตรวจพาสเรา เคยไปเที่ยวยุโรป มาหลายประเทศ เขาก็ worried เห็นเราถูกสแตมป์ หลังพาสจากสถานทูตอเมริกา แม้แต่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินดอนเมืองขาออก ดิฉันโดนตรวจพาสอยู่นาน เจ้าหน้าที่คนไทยส่องดูพาส ดูแล้วดูอีก ทำให้เราเกิดอารมณ์นิดหน่อย เพราะเจ้าหน้าที่คนนั้นถามดิฉันว่าทำไม อเมริกาปฏิเสธวีซ่าคุณ ทำให้โมโหขึ้นอีก เลยตอบกลับไปว่าถ้าอยากรู้ก็ไปตามสถานทูตเมกาเอง ประมาณว่าตรวจสอบเหมือนพาสเราปลอมประมาณนั้น ทำให้ดิฉันต้องควักบัตรประจำข้าราชการมาโชว์ว่าดิฉันเป็นข้าราชการ ถ้าสงสัยน่าจะถามสถานทูตเมกาเอง ไม่ใช้เมกาปฏิเสธวีซ่าแล้ว จะต้องถูกมองไปในทางไม่ดีทั้งหมด เจ้าขอกระทู้โปรดอย่าเสียใจ เริ่มต้นใหม่ให้กำลังใจ คุณโดนแค่ครั้งเดียว ดิฉัน 2 ครั้งมาแล้ว คุณพี่ข้าราชการกำลังเรียนปริญญาเอก มีเหตุผลมากพอที่จะต้องกลับมาเรียนต่อ ยังโดนเลยพาสก็เป็นข้าราชการ ข้อมูลน่าเชื่อถือยังถูกปฏิเสธ ต้องทำใจนะคะ ขอให้กำลังก็แล้วกัน หญิงไทยถูกมองไม่ค่อยดี แต่ผู้ชายยุโรป และเมกาจำนวนไม่น้อยที่อยากมีเมียเป็นคนไทย คนมีอาชีพพิเศษไม่ได้ชั่วไปทุกคน บางทีเราเลือกไม่ได้ และไม่ได้สมหวังไปทุกสิ่ง การที่เมกาปฏิเสธวีซ่าประชากรทั่วโลก มีเหตุผลที่ทำให้คนกลุ่มนั้น มีความรู้สึกในทางลบกับประเทศเมกา แต่ก็ต้องเข้าใจเขาสกีนเพื่อบ้านเมืองเขา และเขาก็มีศัตรูเต็มไปหมด อย่างไรก็ขอให้กำลังใจ จากคุณ : หญิงไทย - [ 15 ส.ค. 48 22:35:56 A:202.28.103.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 I swear to God i like the way you write the email,, you are so so brave..i really think you are completely right...the American Embassy examined your application and rejected it immidiately!!!!!!!!! which is unreasonable. do you remember the interviwer's name? ---what you should do nowis you should study the imigration law of US and the application procedure. after that, prepare all the documents for the embassy(including the email from embassy) and go to apply again beacuse you have the right to go anywhere on earth..it's the place that God creats for every human being...not only the American. after you arrive in America, you can revenge...remember...not too late to revenge. จากคุณ : Al-qaida. - [ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 06:34:40 A:213.226.79.120 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 American is the..(เติมคำใช่ช่องว่างกันเอาเอง)......country in the world!!!!!!!!! จากคุณ : shory - [ 18 ส.ค. 48 21:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 47 America is the Best nation on the planet. You can count on that. เจอประโยคนี้เข้าไป หัวเราะไม่ออก :-) ดีที่สุดในด้านไหนละครับ ถ้าความเห็นผมละก็ คงเป็นด้านอาชญากรรมแน่ๆ เพราะว่าสูงที่สุดในโลก ชนชาตินี้ชอบรบราฆ่าฟัน ปล้นแผ่นดินคนอื่น ทำสงครามฆ่าคนปล้นไปทั่วโลก อย่างโหดร้ายและป่าเถื่อน แต่ชอบสร้างภาพว่าตัวเองเป็นคนดี เป็นผู้พิทักษ์ความดีงามแห่งมวลมนุษย์ตามหนังแอ็คชั่นจี้เส้นฮอลลีวูดอะไรนั่นอะนะ คงจะดีที่สุดในด้านนี้แน่ๆ ...  ใช่มั้ยครับ ? (ผมเดาใจคุณเอา) จากคุณ : Start now - [ 19 ส.ค. 48 00:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ให้คุณ จขกท กลับมาขอเมืองไทยก็ไม่แน่ว่าจะได้นะค่ะ เพื่อนเราหลายคนเลยที่อยู่และทำงานในลอนดอน กลับไปขอวีซ่าไปเมกาที่เมืองไทย แต่โดนรีเจคเลย เค้าให้เหตุผลว่า ตอนนี้คุณถือเวิอคเพอมิท ของลอนดอนอยู่ เพราะฉะนั้นคุณเป็นคนในปกครองของยูเค ต้องกลับไปขอที่ยูเค โน่น... เพื่อนเรางงเลย เค้าก็เลยตอบว่าแต่เค้าเป็นคนไทยนะทำไมขอที่เมืองไทยไม่ได้... เจ้าหน้าที่บอกว่าเพื่อนเรายังติดสัญญาทำงานอีกสามปี (residence permit) ยังไงก็ตามเพื่อนเรายังเป็นคนของที่ยูเคอยู่ เค้าเลยต้องกลับมาขอที่นี่ ไปแป๊บเดียวเองได้วีซ่าท่องเทื่ยวมา สิบปีแนะ....(ตกลงมันต้องไปขอที่ไหนกันแน่เนี่ย... บอกทีดิ จากคุณ : 3L (3L) - [ 19 ส.ค. 48 01:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ไปเมกามาสองครั้ง ครั้งแรกอยู่ ปีหนึ่ง ครั้งที่สอง ครึ่ง ปี  ..... ที่อยากจะบอกก็คือ .... There is no place like home.... ตอนอยู่น่ะอยากจะแท๊บรองเท้าสามที อย่างโดโรธีแล้วบินกลับบ้าน.... ไม่ใช่ว่า เมกาไม่ดี แต่ ไอ้ America is the Best nation on the planet. You can count on that. นี่ก็เก็บเอาไว้ให้อเมริกันชน เค้าพูดเถอะค่ะ จากคุณ : Yui,the kun ying - [ 19 ส.ค. 48 08:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 51 America is the Best nation on the planet. You can count on that. จากคุณ : - America is your best friend - [ วันแม่แห่งชาติ 19:42:14 A:151.196.139.85 X: TicketID:072648 ] คนไทยส่วนมากในนี้คงไม่เห็นด้วย เพราะคนไทยส่วนมากก้อชินกับบ้านเรามากกว่า แต่ถ้ามองในแง่ของคนพูด ผมว่าเค้าก้อพูดถูกเหมือนกัน คนส่วนมากในโลกก้อยังอยากมาหาโอกาสให้ตัวเองที่อเมริกา ผมว่าอเมริกายังมีทองให้คนขุดอีกแยะ ข้อดีๆเช่น 1. การศึกษาไม่ด้อยกว่าชาวโลก 2. รายรับ ลบ รายจ่าย ยังมีเงินเหลือเก็บ ถ้าทำงานแบบถูกกฎหมาย และรู้จักบริหารการเงิน 3. อยู่ดีกินดี ทั้งบ้านมีแอร์ มีตู้เย็น และเครื่องทุ่นแรงหลายๆอย่าง 4. คนด้อยการศึกษา ถ้ามีSkills ก้อสามารถหาเลี้ยงชีพได้ดี 5. คนขยัย สู้งาน ไม่มีจน 6. อเมริกาให้โอกาสคนมีความสามารถทุกคนเท่าเทียมกัน ถึงแม้จะเป็นชาวต่างชาติ 7. ระบบสวัสดิการดี หลังปลดเกษียณรัฐบาลมีเงินให้ อย่างไรก้อตามคนไทยส่วนมากก้อยังอยากกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิดเมืองนอน ถ้าทำงานตามวิชาชีพ เช่นหมอ วิศวกร สามารถขนเงินกลับบ้านได้หลายสิบล้าน ผมว่าก้อไม่เลวนะ จากคุณ : Benz (BenzSiam) - [ 21 ส.ค. 48 23:20:39 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอโทษที่นอกเรื่องนะค่ะ แต่ ... คุณ จขกท ช่วยติดต่อ Salsa กลับได้ไหมค่ะ อยากขอคำแนะนำเรื่องวีซาน่ะคะ จากคุณ : Salsa - [ 21 ส.ค. 48 23:30:05 ]