CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ผัดไทยของผู้แพ้

    เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา มีปาร์ตี้ติดกันสองวัน งานแรกในวันเสาร์เป็นปาร์ตี้ของเพื่อนคนไทยที่คุ้นเคยกันดี ส่วนงานในวันอาทิตย์เป็นปาร์ตี้ของที่ทำงานของแฟน โดยที่เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งจัดขึ้นค่ะ

    แน่นอนว่างานแรกน่ะ ตามสถานะของคนคุ้นเคยกัน  ก็ต้องมีการมอบหมายให้นำอาหารไปร่วมด้วย หนูได้รับโจทย์เป็นผัดไทย ซึ่งหนูก็ยืดอกเต็มใจรับเป็นอย่างยิ่ง เพราะได้ฝึกฝนฝีมือมาหลายงานแล้ว ทำให้ขั้นตอนการทำและรสชาติออกมาค่อนข้างลงตัว ซึ่งสูตรผัดไทยของหนูเป็นดังนี้ค่ะ

    1. นำพริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำอุ่นจนนุ่มดี ไปปั่นรวมกันกับกระเทียม หอมแดงและเกลือ  ในปริมาณตามใจชอบ จะออกมาเป็นเครื่องแกงเละ ๆ หน่อยค่ะ  เครื่องแกงนี้จะสามารถใส่โหลแช่ตู้เย็นเก็บไว้ได้นาน

    2. เมื่อไหร่คิดจะทำผัดไทยก็แช่เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ไว้สักสองชั่วโมง  แล้วก็เปิดตู้เย็นหยิบเอาเครื่องแกงที่ปั่นไว้มาใส่ลงกะทะที่ตั้งน้ำมันเยอะ ๆ ไว้  ผัดจนหอมแล้วก็ใส่น้ำปลา น้ำตาลและน้ำมะขามเปียกในปริมาณเท่า ๆ กัน  ผัดจนน้ำตาลละลายเดือดปุด ๆ

    3. ใส่กุ้ง(และ/หรือปูอัด)ลงไปว่ายในน้ำนั้นสักครู่ แล้วก็ตามด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยว  ผัดไปเรื่อย ๆ จนเส้นสุกนิ่มดี ถ้ากลัวพลาดก็ชิมรสพอเป็นพิธี ก่อนจะใส่ใบกุ้ยช่ายและถั่วงอก ผัดสักครู่ก็ยกขึ้นค่ะ

    ง่าย ๆ แค่นั้นก็ออกมาเป็นผัดไทยไฮโซพาไปออกงานไหนก็ไม่ขายหน้าใครแล้ว เช้าวันเสาร์ก็ตื่นมาแช่เส้น แล้วก็ทำผัดไทยตามสูตร ตักใส่หม้อหิ้วขึ้นรถรางไปบ้านเพื่อนพบปะพูดคุยกันสนุกสนานเฮฮาเหมือนงานก่อน ๆ นั่นเอง

    วันอาทิตย์เป็นงานของที่ทำงานแฟนค่ะ แฟนหนูเป็นผู้จัดการฝ่ายบัญชีในร้านเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ยักษ์แห่งหนึ่งที่หลายคนน่าจะรู้จักดี ในร้านหนึ่ง ๆ จะมีผู้จัดการใหญ่คนหนึ่งดูแลผู้จัดการของแต่ละแผนกอยู่สิบกว่าคน ปาร์ตี้นี้ก็เป็นปาร์ตี้ผู้บริหารเทือกที่กล่าวถึงนั่นแหละค่ะ แต่ละคนก็จะพาคู่สมรสและลูกเต้ามากันด้วย  เคยไปมาสองครั้งเมื่อซัมเมอร์ที่แล้วยังสยองไม่หายกับมาดมั่น ๆ เชิ่ด ๆ ของบรรดาท่านผู้บริหารทั้งหลาย  ผ่านไปปีนึงก็ต้องไปอีกตามธรรมเนียมที่ไม่รู้จะเลี่ยงยังไงนั่นแหละค่ะ

    ด้วยความที่อยากให้ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงานของเขา แฟนหนูจึงเสนอกับคนจัดงานว่าหนูจะนำอาหารไปร่วมด้วย ซึ่งก็จะเป็นอะไรไปได้หละคะ นอกจากผัดไทยสูตรปราบเซียนของหนูนั่นเอง  หนูก็กระดี๊กระด๊าผัดออกมาตามสูตรดั้งเดิม ใส่หม้อใบเดิมช่วยกันหิ้วขึ้นรถรางไปบ้านของเพื่อนร่วมงานแฟนเหมือนเมื่อวานเด๊ะ

    ผลน่ะหรือคะ....

    เชื่อไหมคะ ว่าผัดไทยสูตรเดียวกันที่หนูแสนจะมั่นอกมั่นใจนั้น เมื่อไปอยู่ในต่างสังคมต่างวาระ มันช่างมีรสชาติที่ต่างกันได้ราวกับฟ้าและเหวจริง ๆ

    เมื่อไปถึงงาน แฟนหนูก็พูดเชิญชวนให้ทุกคนลองชิมผัดไทยของหนู  พร้อมกับบรรยายสรรพคุณต่าง ๆ นานา แทนที่ทุกคนจะตื่นเต้นลองชิมกัน กลับกลายเป็นว่าแต่ละคนจะมีข้ออ้างที่จะไม่แม้แต่จะลองตักเข้าปากด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็น “ชั้นกินอาหารรสจัดไม่ได้”(ผัดไทยเนี่ยนะรสจัด) “ชั้นไม่เคยกินอาหารไทย”(ก็ทำไมไม่ลองซะเล่าอีกร๊วก) และเหตุผลอื่น ๆ บลา บลา บลา  เท่านั้นยังไม่พอ ทุกคนพร้อมใจปล่อยให้หนูนั่งเป็นอีบื้อได้อยู่คนเดียวตลอดงานตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่ยอมแย้มภาษาอังกฤษออกมาใช้เลยด้วยซ้ำ

    หนูได้แต่อึ้งกิมกี่กับความหยาบคายของคนเหล่านี้ นึกไปว่าโอ้โฮเฮะ ในแต่ละวันที่เราพยาย๊ามพยายามที่จะดีกับผู้คนรายรอบ แต่เหตุไฉนพวกเขาเหล่านั้นถึงได้คงความหยาบคายของเขาได้อย่างไม่สะทกสะท้านได้ราวกับว่าคนอื่น ๆ ไม่ได้รู้สึกร้อนหรือหนาวอะไรเลยอย่างนี้ก็ไม่ทราบ

    จริงอยู่ค่ะ หนูอาจจะเป็นกะเทยตัวดำ ๆ ที่ดูเด๊กเด็ก แถมพูดดัชต์ก็ไม่ได้ แต่นั่นก็ไม่ถึงกับทำให้พวกเขาหยาบคายใส่เราเท่ากับที่เมื่อไม่นานมานี้ แฟนหนูถูกเรียกไปคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของสำนักงานใหญ่ว่าผลงานของแฟนเราทำให้เห็นว่าแฟนไม่มีสมรรถภาพที่จะทำงานนี้(หลังจากที่ทำงานนี้มาได้ปีครึ่งแล้ว) โดยทางสำนักงานใหญ่จะย้ายให้ไปทำงานส่วนอื่นที่เหมาะสมกว่าในเร็ว ๆ นี้

    จริง ๆ แฟนหนูทำงานให้กับบริษัทนี้มากว่าสิบปีแล้ว และถูกส่งมาประจำที่ฮอลแลนด์โดยสาขาใหญ่โดยที่แฟนหนูเองก็ไม่ใช่คนดัชต์แต่เป็นเฟลมมิช(คนเบลเยี่ยมที่พูดดัชต์ได้) งานก่อนที่เคยทำมาที่เมืองอื่น ๆ ก็ไม่เคยมีปัญหา จนหนูย้ายมาอยู่ด้วยนี่แหละ ถึงได้ขอบริษัทให้ส่งมาทำงานในอัมสเตอดัมเพื่อให้ชีวิตหนูได้มีสีสันกว่าอยู่เมืองอื่น ๆ ที่เงียบเป็นป่าช้า ผลของการทำงานกับพวกดัชต์จ๋าก็ส่งผลให้โดนเด้งไปตามระเบียบ(ทั้งนี้ผู้จัดการใหญ่ชาวสก็อตก็เพิ่งโดนเด้งไปเช่นกัน)

    งานนี้แฟนหนูถึงกับจ๋อยไปเลย  คงจะไม่เคยคิดน่ะค่ะ ว่าคนเราเวลาเขาหมดผลประโยชน์แก่กันแล้ว เขาก็จะกลับหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างนี้ ปาร์ตี้ครั้งก่อน ๆ  ที่แม้เค้าจะดูเชิ่ด ๆ หยิ่ง ๆ  ตามสไตล์พนักงานที่ทำงานดีจนได้เลื่อนขั้นมาเป็นผู้บริหารชั้นสวะก็เหอะ แต่ก็ยังเข้ามาคุยมาเสวนากับเราตามธรรมเนียมการเข้าสังคม แต่ครั้งนี้นี่สุด ๆ แล้ว ทั้งหนูกับแฟนเหมือนโดนกันออกจากสังคมผู้ประสบความสำเร็จของเขาจริง ๆ

    อนิจจังนะคะ มีลาภก็มีเสื่อมลาภ มียศก็มีเสื่อมยศ เป็นของคู่กันจริง ๆ  ก็ได้แต่ปลอบกันไปมาว่าเอาเถอะ ยังไงก็คงเป็นปาร์ตี้สุดท้ายที่จะได้ไปอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้นแล้ว ก็ได้แต่หวังว่าจะประสบความสำเร็จในงานใหม่ที่จะถูกย้ายไปต่อไป ทิ้งวันเวลาแย่ ๆ ของผู้แพ้ไว้ให้เป็นแค่ความทรงจำค่ะ

    ป.ล. อ่านกันแล้วก็ขอเชิญติชมหรือลงชื่อไว้เป็นกำลังใจด้วยนะเจ๊ ตอนนี้ยิ่งดาวน์ ๆ อยู่ เผื่อหนูจะหาเรื่องเป็นนักเขียนไส้แห้งกับเค้ามั่งไง

    จากคุณ : สุดสวยแห่งอัมสเตอดัม - [ 15 ส.ค. 48 07:43:37 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป