ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าชอบทั้งสองหลัง ไม่เลือกหลังที่ใกล้ สถานที่สำคัญ สะดวกในการเดินทางล่ะค่ะ เช่นใกล้ ซุปเปอร์มาเก็ต ใกล้ โรงเรียน ใกลบ้ป้ยรถเมลล์ ฯลฯ จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น เพราะอ่านแล้วเหมือนจะชอบทั้งสองหลัง จากคุณ : monzy - [ 2 ก.ย. 48 19:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องต้องขออนุญาตว่าตัดต้นไม้ใหญ่ได้มั้ย นี่อาจจะแตกต่างกันแล้วแต่ city law นะคะ อย่างเมืองหลวงของรัฐที่ดิฉันอยู่ ถ้าจะตัดต้นไม้ใหญ่ทั้งต้น นี่ต้องขอใบอนุญาตก่อนตัด (บ้ามั้ย) แต่ถ้า trim แต่กิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ต้องน่ะค่ะ ทางที่ดีไปสอบถามกับทาง city จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องแน่นอนนะคะ ส่วนเรื่องบ้านนี่ ตัวดิฉันเองไม่ชอบที่จะต้องดูแลต้นไม้ แถมไม่มีเวลาด้วย เลยว่า ชอบบ้านหลังแรกมากกว่า แต่มาชอบบ้านหลังที่สองตรงที่ อยู่ห่างเพื่อนบ้านพอสมควร เพราะถ้าได้เพื่อนบ้านแบบติด ๆ กันแล้วเขาเป็นพวกเรื่องมากนี่ ไอ้โน่นนิดไอ้นี่หน่อย มันก็แจ้ง city แล้วอ่ะค่ะ น่าเบื่อ ยิ่งถ้าเรามีต้นไม้เยอะ ๆ แล้วไม่คอยเล็มกิ่งก้าน เขาบ้องตื้นไปแจ้ง city ไอ้ city ก็บ้าจี้ตามไปด้วย ทีนี้เลยได้ปวดขมองกันไปอีก (ไอ้ city แถวนี้เขาเป็นพวกบ้าจี้จริง ๆ นะคะ) สรุปแล้ว ท่าทางดิฉันจะเข้ามาทำให้คุณเจ้าของกระทู้งงเข้าไปใหญ่เลยมั้งเนี่ย จากคุณ : LittleApple - [ 2 ก.ย. 48 20:23:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลืมไปอีกนิดนึง ถ้าอย่างบ้านที่ดิฉันอยู่ตอนนี้ ไม่ได้อยู่ใน city limit แต่เป็นส่วนของ county จะทำอะไรก็ไม่ต้องห่วงเรื่อง city laws, city limits จะแต่ง จะตัด จะโค่นต้นไม้ ตัดหญ้า หรือปล่อยให้หญ้าสูงท่วมเอว ก็ไม่มีใครว่าค่ะ อ่านดูแล้วเห็นว่า บ้านหลังที่สองอยู่บนเนินเขานี่อาจจะไม่อยู่ภายใต้ city limit งั้น city laws ทั้งหลาย อาจจะไม่ apply to นะคะ เช็ครายละเอียดตรงนี้ก่อนตัดสินใจด้วยละกันค่ะ ส่วนเรื่องดูแลต้นไม้นี่ ดิฉันไม่มีความรู้เลย คิดดูขนาดเลี้ยงกระบองเพชร มันยังไม่รอดเลยอ่ะ  - -" ส่วนเจ้าไอวี่ทั้งหลาย ดิฉันก็จัดการเอา round up ฉีด จัดการเรียบแล้วค่ะ จากคุณ : LittleApple - [ 2 ก.ย. 48 20:32:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เจ้าบ้านที่อยู่บนเนินเขานี่ ก็อยู่ใกล้โรงเรียนลูกค่ะ ลูกเดินไปโรงเรียนได้ ขับรถดูเพื่อนบ้านแถว ๆ นั้น ก็ไม่เห็นมีใครต้นไม้ขึ้นบังหน้าบ้านเหมือนหลังนี้เลยค่ะ จะมีบ้าง แต่ก็โปร่งมองเห็นตัวบ้าน คือเค้าเล็มออกหมด เหลือแต่ลำต้นน่ะค่ะ แต่เจ้าบ้านหลังนี้ มีเป็นสิบต้นยังไม่พอ แถมเจ้าของบ้านปลูกต้นไม้แซมขึ้นมาอีก เห็นไอวี่เขียวเป็นดง โอย..จะเป็นลมค่ะ ยังคิดว่า..บ้านหลังนี้ขายไม่ออกเพราะต้นไม้บังหน้าบ้านรึเปล่า แล้วถ้าเราซื้อแล้ว ต่อไปเกิดจะขายขึ้นมาจะมีคนซื้อมั๊ย สู้ซื้อบ้านมีพื้นหญ้าเขียว ๆ ดูสะอาดตา มีต้นไม้นิดหน่อย ดูจะดีกว่ามั๊ยคะ? อยากให้แม่บ้านเข้ามาคุยหน่อยค่ะ วันนี้ลูกเรียนครึ่งวัน สามีหยุดครึ่งวัน จะไปดูบ้านกันค่ะ จากคุณ : รักเธอเสมอ - [ 2 ก.ย. 48 21:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณจขกท.มีลูกกำลังเรียนหนังสืออยู่  น่าจะเลือกที่ใกล้โรงเรียนอย่างที่คุณmonzy บอกดีไหมคะ  จะได้สะดวก จากคุณ : นางฟ้ากำพร้าพ่อ - [ 2 ก.ย. 48 21:42:24 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ช่วยเข้ามาตอบเรื่องต้นไม้ มีเพื่อนที่มีบ้านและมีต้นไม้ใหญ่อยู่ในบริเวณ เท่าที่เห็น รู้จัก และจากที่เขาเล่า เวลามีต้นไม้ใหญ่ในบริเวณ วันดีคืนดีควรไปหา tree specialist หรือคนที่ทำอาชีพอะไรทำนองนั้น มาดูว่ารากหรือข้างในต้นยังดีแข็งแรงอยู่หรือไม่ เพราะต้นไม้ใหญ่บางต้นข้างนอกดูดี แต่ข้างในเป็นโพรงมีโรค หรือรากชักไม่ดี มันอันตราย โดยเฉพาะเวลาที่มีพายุหรือเฮอริเคนเข้า เพราะพายุแรงๆอาจโค่นต้นไม้ลงมาบ้านเราได้ ทั้งนี้และทั้งนั้น มีต้นไม้ก็ว่าร่มรื่นดี แต่มันมีค่าใช้จ่ายร่วมด้วยอยู่บ้างเหมือนกับ'ค่าใช้จ่ายการเป็นเจ้าของบ้าน'อื่นๆ เรื่องตัดกิ่งก้าน ก็ต้องคอยดูบ้าง เพราะถ้ามันเป็นประเภทมีใบและใบร่วง แล้วกิ่งก้านย้อยมาตามหลังคาหรือรางน้ำ ก็อาจมีผลกับระบบถ่ายเทน้ำในบ้านได้ ก็ต้องคอยตัดคอยทริม ถ้าไม่ทำเอง ก็ไปหาคนที่รับจ้างพวกนี้มาทำ จากคุณ : Overseas - [ 2 ก.ย. 48 22:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จากความคิดเห็นของฝันน่าจะเลือกที่ใกล้โรงเรียนนะคะเพราะว่าเมื่อเวลาขายก็จะขายได้ง่ายกว่าคะ เพราะส่วนมากคนซื้อบ้านก็ต้องดูตรงนี้ว่ามีโรงเรียนดีๆ ใกล้บ้านหรื่อเปล่า ส่วนเรื่องต้นไม้น้องสาวมีต้นไม้อยู่หลังบ้านใหญ่มาก เค้าเล่าให้ฟังว่าเวลาลมแรง ๆ เค้ากลัวมากเลยว่ามันจะหักหรือล้มถ้าเกิดว่ามันแก่มาก ๆ แล้วดินมันเริ่มไม่พอดีกับต้นไม้ และที่สำคัญเค้าเหมือนคุณคะสามีไปต่างรัฐบ่อยๆ อยู่บ้านคนเดียว วันหนี่งมีกิ่งไม้หักมันสูงด้วยก็เลยต้องเรียกคนที่ชำนาญมาตัดให้ไม่งั้นเดี๋ยวตัดแล้วลงผิดทางมาทางบ้านก็จะพังเอา เสียเงินค่าตัดสามร้อยเหรียญคะ ไม่น่าเอานะคะและอีกอย่างคะต้นไม้เยอะๆ แมลงหรือสัตว์ก็น่าจะเป็นอันตรายด้วยคะ เวลาลมแรงๆ อาจมีพวกอาการแพ้ต่างๆ ตามมาอีก ฟันธงคะว่าหลังแรกน่าจะดีกว่า จากคุณ : ฝัน - [ 3 ก.ย. 48 00:12:41 A:68.65.215.48 X: TicketID:016816 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คิดเหมือนที่คุณ Overseas บอกนะคะว่าถ้ามีต้นไม้ใหญ่เราต้องคอยดูแล ตัดกิ่งก้านมัน แล้วมันเป็นต้นอะไรบ้าง ทราบหรือเปล่าคะ เวลาฤดูใบไม้ร่วง ใบของมันจะร่วงมากน้อยแค่ไหน ถ้าร่วงมากๆแบบเมเปิ้ลต้องกวาดกันตาเหลือกเลยนะคะ บ้านหลังเล็กหน่อย พื้นที่โล่งๆก็ดูแลรักษาง่ายดี ไม่เหนื่อยเรานะ ไหนจะต้องดูแลลูกอีก ดูแลบ้านใหญ่ๆ เหนื่อยแย่ แต่ส่วนตัวชอบบ้านที่ห่างๆจากบ้านหลังอื่นแล้วก็มีป่าหน่อย เพราะมีสัตว์เลี้ยงค่ะ แหะๆ เชื่อเรื่องหลักฮวงจุ้ยหรือเปล่าคะ ไม่ทราบว่าเรื่องการมีต้นไม้บังหน้าบ้านนี่มันดีหรือไม่ดีต่อฮวงจุ้ยบ้านนะ ลองหาหนังสือเกี่ยวกับฮวงจุ้ยที่ห้องสมุดมาอ่านดูนะคะ น่าจะมี จากคุณ : ปอมปอมเกิร์ล - [ 3 ก.ย. 48 00:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าตอบเฉพาะเรื่องต้นไม้นะคะ ถ้าบ้านอยู่ในหมู่บ้านควรไปถามหมู่บ้านก่อนค่ะ เค้าจะมี home owner association ที่ตั้งกฎอะไรพวกนี้ไว้ ถ้าไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านคงต้องถาม city ดูนะคะ ถ้าถามรวมๆว่าจะเอาอะไรประกอบการตัดสินใจซื้อบ้านนะคะ ก็จะดูทำเลที่ตั้งค่ะ ตัวเองชอบให้อยู่ในหมู่บ้าน จะได้เงียบสงบ ต้องอยู่ในที่ที่ดูแล้วที่และบ้านจะราคาขึ้นดีในอนาคต อยู่ไม่ไกลจะโรงเรียนลูก แล้วก็ไม่ไกลจากร้านค้า grocery อะไรพวกนี้ แต่ก็ไม่ใช่ห่างเมืองจนเกินไป บ้านขนาดไม่ใหญ่เกินไป มีต้นไม้นิดหน่อยก็ดี (เรื่องต้นไม้จ้างคนมาดูแลได้ค่ะ จ้างให้ดูแลได้ทั้งหญ้าแล้วก็ต้นไม้ ราคาไม่แพงเท่าไหร่ค่ะ เค้ามาใส่ปุ๋ย เล็ม ตัด ทุกอย่างตาม schedule ค่ะ) พอดีพึ่งซื้อบ้านเมื่อต้นปีพอดี ยัง fresh อยู่ แหะแหะ  อ้ออย่าลืมให้คนมา inspect บ้านก่อน close นะคะ inspector เค้าจะบอกอะไรได้เยอะเลยค่ะ จากคุณ : มิมิมิมิมิ - [ 3 ก.ย. 48 00:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุยนอกเรื่องที่ถามหน่อยนะค่ะ  ถ้าจะซื้อบ้านในหมู่บ้าน  ควรตรวจสอบว่าเขามี home owner association ไหม และ พวกrestriction และ covenant ก็สำคัญค่ะ เพราะมันจะช่วยให้สภาพหมู่บ้านน่าอยู่  สวยงามตลอด  เคยมีบทเรียนซื้อบ้านที่ไม่มีพวกนี้ค่ะ สามสี่ปีผ่านไป สภาพหมู่บ้านจะแย่ลงมาก ๆ มูลค่าบ้านพลอยตกต่ำตามไปด้วย ( ที่อื่นราคาบ้านเขาขึ้นกันพรวดพราด ) ขายแล้วขาดทุนค่ะ ทั้ง ๆ ที่ตั้งหมู่บ้านมันสะดวกสบายมาก ๆ อยู่ใกล้ รพ ใกล้ รร ใกล้ร้านซื้อของ ใกล้หมอแม่-หมอลูก ใกล้ฟรีเวย์ เรียกว่า สะดวกมาก ๆ  แต่จำเป็นต้องขายแบบขาดทุน เพราะหมู่บ้านไม่มี HOA นี้แหละค่ะ  การซื้อบ้านเป็นการลงทุนครั้งใหญ่นะค่ะ ( นึกถึงอนาคตเวลาเราจะขายน่ะค่ะ ) เพราะฉะนั้น ต้องดูให้ดี ดูหลาย ๆ อย่างประกอบกันค่ะ   สังเกตว่า หมู่บ้านที่สร้างขึ้นใหม่แถวนี้...รอบนอร์ทเมโทรแอตแลนต้า จอร์เจียนะค่ะ...คนเขาจะอยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองหน่อยค่ะ แต่ไม่ถึงกับ in the middle of nowhere .... ค่ะ เพราะราคาที่ดินในเมืองมันแพงขึ้นมาก ๆ จากคุณ : gw - [ 3 ก.ย. 48 05:03:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาแล้วค่ะ....ไปดูมาใหม่อีก ๔ หลัง ถูกใจหนึ่งหลัง แต่ไม่มีที่จอดรถน่ะค่ะ เค้าทำเป็นห้อง work shop ทำเป็นอิฐมีประตูอย่างดี ส่วนในบ้านถูกใจค่ะ ราคาก็พอซื้อ (ผ่อนได้น่ะ) แต่ก็ไกลที่ทำงานสามี และโรงเรียนลูกค่ะ ยังไม่รู้ว่ารถโรงเรียนมารับตรงไหนเลย.... ส่วนอีกสามหลัง ไม่ค่อยถูกใจ เหมือนเจ้าของไม่ค่อยได้ดูแลบ้าน เดินไปไยแมงมุมพันหัว เฮ้อ... ย้อนกลับไปดูบ้านบนเนินเขา...(สามีชอบ) นับต้นไม้ใหญ่หน้าบ้า มันจะเป็นเนินสโลปขึ้นไปค่ะ นับได้ต้นสนใหญ่ เกือบ ๔๐ ต้น เชื่อมั๊ยคะ....ว่าบริเวณมันกว้างแค่ไหน ยังไม่รวมหลังบ้านนะคะ และที่เจ้าของปลูกเองอีก ทางเดินเข้าหน้าบ้านก็แคบ ๆ คิดในใจ ยังไง ๆ ก็คงไม่เอาล่ะค่ะ เธอก็ไม่ค่อยจะอยู่ แล้วจะให้ฉันอยู่ยังไง วันไหนมีพายุ ฝนตกหนัก คงนอนไม่หลับแน่ มองดูต้นไม้ ในใจก็คิดว่า เอ...จะเลาะตรงไหนออกนะ มันจะได้โปร่ง ไหน ๆ จะเป็นหนี้แล้ว ขอบ้านโปร่ง ๆ มีสวนหน่อย ๆ พอหย่อนใจก็พอค่ะ กลับมาดูอีกหลัง....ที่เคยดูแล้ว แล้วก็ชอบน่ะค่ะ กระทัดรัดดี อยู่ใกล้โรงเรียนเหมือนกัน ใกล้สนามเด็กเล่นที่กำลังสร้างใหม่ด้วย กำลังทำราคาเสนอเจ้าของค่ะ ไม่รู้จะได้รึเปล่า.... ยังไม่ได้ขอบคุณ คุณ monzy เลย หลังที่เสนอราคานี่ อยู่ระหว่างที่ทำงานสามี และใกล้โรงเรียนลูกค่ะ ใกล้ Kroger ค่ะ คุณ LittleApple คะ เจ้าไอวี่ นี่เวลามันเลื้อยตามพื้นนี่ มันไม่โต คือมันไม่รกไปกว่านี้แล้วใช่ไหมคะ มันเป็นไม้เลื้อยที่ขึ้นเอง หรือว่า เราต้องปลูกคะ (ไม่มีความรู้เรื่องต้นไม้เลย) คุณ นางฟ้ากำพร้าพ่อ  ตอนนี้เลือกใกล้โรงเรียนแล้วค่ะ กลัวเวลาลูกไม่ทันรถ ต้องโทรไปตามสามีน่ะ คุณ Overseas คะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดี ๆ เรื่องต้นไม้ ยอมแพ้ค่ะ นับแล้ว ต้นใหญ่ ๆ ๔๐ ค่ะ (ยังไม่รวมสนเล็กสนน้อย) คุณ ฝัน คะ เราก็คิดเหมือนกันว่า บ้านใกล้โรงเรียนน่าจะขายได้ง่ายเหมือนกันค่ะ ส่วนต้นไม้หักเห็นในข่าวเวลามีพายุมาก็รู้สึกกลัวนะคะ ไม่ทราบว่า คนอื่น ๆ ที่เค้ามีต้นไม้ใหญ่ ๆ กลัวกันบ้างไหมหนอ... คุณ ปอมปอมเกิร์ล คะ ต้นไม้เยอะมาก ๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นต้นอะไรบ้าง รู้แต่ สนต้นใหญ่ และไอวี่ บางต้นก็ถามนายหน้า เค้าก็บอกว่า ต้นนี้ชื่อนี้ ช่วงสปริง มันจะออกดอกสวยมาก ๆ มีแต่ดอกไม่มีใบ ส่วนต้นอื่น ๆ ไม่รู้จะร่วงหมดต้นรึเปล่า ถ้าร่วงหมดคงกองเป็นภูเขาแน่ ๆ วัน ๆ ไม่ต้องทำอะไรเก็บแต่ใบไม้ ถ้าเป็นพี้นเรียบ ๆ มันก็คงไม่ลำบาก แต่นี่...นึกภาพเหมือนเดินขึ้นภูกระดึงอ่ะค่ะ มานั่งหลังบ้าน ก็โดนยุงกัด นึก เอ....นี่มันบ้านนะ ไม่ใช่ อุทยานแห่งชาติ  ส่วนเรื่อง ฮวงจุ้ย ก็คุยกับแฟนแต่แรกแล้วค่ะ คือแฟนเป็นคนจีน เราก็บอกว่า ฮวงจุ้ยบ้านมันดูไม่ดีนะ ต้นไม้มันบังหน้าบ้านหมดเลย เวลาขับรถผ่านก็พยายามมองส่องดูตัวบ้านน่ะคะ พอเข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่น มองออกมาก็ไม่เห็นทิวทัศน์หน้าบ้านเลย คุณ มิมิมิมิมิ คะ ช่วงเช้าขับรถไปแถวโรงเรียนลูกอีกคน มีบ้านชั้นเดียวขาย แต่อยู่ริมถนน ราคา ๒๒๒,๐๐๐  ดู ๆ บริเวณบ้านก็โอเคจากภายนอกนะคะ แต่เส้นนี้ ถนนแคบ รถเยอะ ไม่มีทางเดินเท้า สงสัยลูกจะอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น ค่ะ ใจสามีชอบบ้านที่อยู่ในหม่บ้าน อยากให้ลูกได้ถีบจักรยานเล่นกัน พื้นที่ดีหน่อย แล้วก็ไม่ไกลจากโรงเรียนค่ะ เอาไว้เจ้าของบ้านเค้าว่าไง....แล้วจะมาเล่าให้ฟังค่ะ แต่หลังบ้านเหมาะกับการย่างบาบีคิว สนามเล็ก ๆ มีนกป่าตัวเล็ก ๆ มากินข้าว ตอนนี้ยังไม่ขอพูดค่ะ....เอาไว้ฝันเป็นจริงก่อนนะคะ ขอบคุณทุก ๆ ท่านมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : รักเธอเสมอ - [ 3 ก.ย. 48 05:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นนิดนึง เลือกทำเลที่อำนวยความสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นที่ช็อป ใกล้โรงเรียน โรงพยาบาล การจราจรติดขัดไหมเราสามารถหลีกเลี่ยงในเส้นทางนี้ได้หรือเปล่า ฯลฯ และดูว่าเพื่อนบ้านเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนเรื่องของต้นไม้นั้นถ้าจะตัดนั้นขอบอกว่าแล้วแต่เขตนะคะ บางที่จะต้องขออนุญาตก่อนแล้วถึงจะตัดได้ และค่าจ้างตัดต้นไม้อยากบอกว่ามหาโหดมากๆๆๆๆ 1ต้นเกือบๆ600เหรียญยูเอส และจะต้องสอบถามราคาจากหลายๆบริษัทอีกด้วย เวลาที่ตัดต้นไม้แล้วอยากจะเผาพวกเศษหรือกิ่งของไม้ที่เราตัดนั้นไม่ได้เลย ผิดกฎหมายจ้า....และที่แน่ๆเสียภาษีแพงไหมในแต่ละปี เดี๋ยวคิดได้อีกจะมาเพิ่มให้จ้า(ถามคุณสามีก่อน555) นอกเรื่องนิด ไปเที่ยวเมืองไทยสนุกไหมค่ะ....หายไปซะนาน ทานอะไรเผื่อบ้างน๊อ..เอามายั่วน้ำลายคนแถวนี้หน่อย555 จากคุณ : s.my - [ 3 ก.ย. 48 05:30:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ได้อยู่ อเมริกา ค่ะ แต่อยาก มาร่วมคุย.. ถ้าเป็นคน ไม่(บ้า)รักต้นไม้มาก(แบบ หนาแน่น ต้นสูงใหญ่) ก็ควรตัดบ้านนี้ ทิ้งไปเลยค่ะ... ยามลมกรรโชกแรง พายุมา เสียงหวีดหวิว ของยอดสน จะน่ากลัวมาก (ยกเว้น คนอารมณ์ศิลปิน ที่ฟังเป็นเสียงเพลง ขับขาน ) บางที แค่เงา ยอดไม้ แวบวับ กลางดึก....ยังหวาด เลยค่ะ สัตว์เลื้อยคลาน ก็จะเยอะ...เป็นห่วงลูก ตัวเราด้วย กิ่งก้าน ใบ มันเจริญเติบโต ไว ซะจริง...ตัด กวาดทิ้ง งานหนักเหลือเกิน ค่ะ ต้นไม้ บังหน้าบ้าน...ก็ว่าฮวงจุ้ย ไม่ค่อยดี นะคะ บ้านหลังใหญ่ เกินไป...เหนื่อย ดูแลมาก ค่ะ ขนาด กำลังเหมาะ...ใกล้สักหน่อย สะดวกไป-มา--> รร.ออฟฟิส และ การจับจ่าย ...ให้คะแนน เต็ม 10 ค่ะ เพื่อนบ้าน...แค่มองเห็น อาจจะสรุปไม่ได้ ว่าดี รึ ไม่ดี ? ขอให้ ได้บ้าน ที่เหมาะใจ ที่สุด...อยู่มีความสุข นะคะ จากคุณ : samranjai - [ 3 ก.ย. 48 08:17:12 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หลังบ้านเป็นป่าคะ ต้นไม้ใหญ่เพียบ เวลาลมพัดตึง ๆ กิ่งก้านหล่นใส่หลังคาเสียวกลัวต้องเสียเงินซ่อมหลังคาเหมือนกัน แหะ แหะ แต่เป็นคนชอบต้นไม้ ทำไงได้ ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนเคยกลัวสารพัด โดยเฉพาะพวกจิตวิญญานทั้งหลาย บรือว์์ ทำไมไม่ลองเซอร์เวย์ เดินคุยกะเพื่อนบ้านรอบ ๆ ดูละคะ น่าจะเป็นได้ข้อมูลช่วยการตัดสินใจดีขึ้นนะคะ ไม่รู้สิ อ่านกระทู้แล้ว ดิฉันไม่กล้าคิดหรือช่วยตัดสินใจ ข้อมูลจิ๊ดเดียวเองอะ และกำลังคิดว่า เรื่องต้นไม้ไม่น่าจะเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจนา น่าจะพิจารณาเรื่องอื่น ๆ ประกอบด้วย อย่างเรื่องพาลูกไปโรงเรียน ก็น่าคิด  ที่หน้าบ้านดิฉันมีโรงเรียนให้ลูกเหมือนกัน แต่แปลก ดิฉันกลับไม่ค่อยชอบ อยากให้โรงเรียนกระเถิบไปไกล ๆ หน่อย แม่จะได้มีโอกาสเดินแร่ด ๆ ได้ไกลอีกหน่อย เอิ้กกก ยังไงขอให้โชคดี เลือกบ้านได้ถูกใจถูกอารมณ์นะคะ จากคุณ : . (มรรคณิชา) - [ 4 ก.ย. 48 01:19:45 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อยากถาม นิดหนี่งนะคะ ว่า ที่อเมริกา เค้าว่า บ้าน ราคาไม่แพงจริงหรือป่าวคะ แบบว่า เท่าที่ฟัง ดู ที่คุณ พูดถึง บ้านเดี่ยวมีเนื้อที่แบบนี้ ที่ อิตาลี คงไม่มีปัญญา แน่ ๆ เลยคะเพราะแพง ๆ มากๆ อย่างนี้ แบบ สองแบบ ที่กล่าวมาน่าจะอยู่ ที่400,000 Euro up เพราะ เห็นบ้านเพื่อนหนะคะ เค้ามีบ้านแบบมีสวนและบริเวณ แบบนี้ บ้านหลังใหญ่ มีเนื้อที่ สวน สวยมาก เค้าบอกว่า สามีเค้าซื้อราว 800,000 Euro ส่วนที่นี่ ถ้าเป็นอพาทเมนท์ ราว 100 ตร ม ก็ อยู่ที่ทำเล ด้วย ราคา ก็จะประมาณ 170.000 Euro แค่นี้ ก็ผ่อนกันอ๊วกแตก แล้ว เลยอยากทราบราคาโดยประมาณหนะคะ ประดับความรู้ ขอบคุณ มากคะ จากคุณ : ผักโขมจ้า - [ 4 ก.ย. 48 21:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พี่ผักโขม  บ้านแต่ละรัฐ แต่ละเอเรียล ราคามันต่างกันราวฟ้ากับเหวค่ะ  อย่างที่จอร์เจียเนี่ย ค่าครองชีพถูกค่ะ ราคาบ้านก็ถูกตาม ( บ้านที่อยู่รอบ ๆ แอตแลนต้านะค่ะ ไม่ใช่ในแอตแลนต้า ถ้าในแอตแลนต้าเลยเนี่ย มันก็แพรงงง เหมือนกันค่ะ )  อันนี้คือ ถูก... ถ้าเปรียบเทียบว่า บ้านขนาดเดียวกัน กับรัฐอื่น ๆ อย่างแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์คซิตี้  อะไรพวกนี้ค่ะ ( แต่หนูก็ยังไม่มีปัญญาซื้อบ้านสวย ๆ หรู ๆ อยู่อ่ะค่ะ แหะๆ )  ถ้าพี่อยากรู้จำนวนเงินเนี่ย ลองเข้าไปดูในเวปนายหน้าขายบ้านค่ะ หาดูแต่ละรัฐ....ที่จอร์เจียก็ดูตรงนี้ก็ได้ค่ะ http://www.morrisandraper.com/Listings/Home.asp ลองเสิรช์หาบ้านแถว Atlanta , Buckhead อะไรพวกนี้ แล้วก็เปรียบเทียบกับบ้านแถว Ballground, Canton, Alpharetta ดูค่ะ จะเห็นความแตกต่าง ใน price range เดียวกัน จะได้บ้านขนาดต่างกัน ( ทั้งนี้ทั้งนั้น เกรดของวัสดุ อุปกรณ์ ที่อยู่ในบ้าน มีส่วนทำให้ราคาแพงขึ้นด้วยค่ะ  บางบ้าน หลังใหญ่ แต่เกรดวัสดุไม่ค่อยดี ราคาก็ไม่แพงค่ะ บางบ้านหลังกระจิ๊ด แต่แพง เพราะเกรดวัสดุที่ใช้ แพง และอยู่ในย่านแพง มันก็จะแพงตาม มันเป็นประมาณนี้ค่ะ ) จากคุณ : gw - [ 6 ก.ย. 48 01:57:41 ]