ขอบคุณข้อมูลจากทุกคนในห้องนี้นะคะ ขอแชร์ข้อมูลตัวเองไว้อีกซักเคสนึงนะคะ
ขอวีซ่าไปเรียนภาษา 1 ปี ( I-20 ระบุว่าคอร์สยาว 2 ปี ) ไปเรียนโรงเรียนภาษาค่ะ
เอกสารที่ยื่นไปนะคะ
-ใบคำร้อง กรอกให้ครบค่ะ รายละเอียดลองหาที่คุณ Susie โพสไว้นะคะ ละเอียดเชียว :)
- I-20 อย่าลืมเซ็นชื่อต่างๆให้เรียบร้อย ทีนี้ใน I-20 โดยมากจะระบุจำนวนเงินที่คาดว่าเราจะต้องใช้ในการศึกษากับค่าใช้จ่าย อันนี้เราก็ต้องเตรียมสเตทเมนท์ให้สมเหตุสมผลค่ะ
- สเตทเมนท์ ไปขอให้ธนาคารออกให้ค่ะ ของเรามีสปอนเซอร์ 2 คน คือ น้ากับแม่ คนละประมาณ 2x,xxx รวมทั้งในใบที่กรอก supplement เค้าจะมีถามว่า ใครเป็นสปอนเซอร์บ้าง ทำไมถึงเป็นให้คุณ ต้องหาเหตุผลดีๆนะคะ
เหตุผลของเราคือ น้าสาวยังโสด(แต่อายุมากแล้ว) อยู่บ้านเดียวกัน (แต่ไม่ได้เอาทะเบียนบ้านให้ไป) แล้วก็เป็นผู้ปกครองร่วมกับแม่เราตั้งแต่เล็กๆ
- ใบรับรองการทำงาน ของสปอนเซอร์ทุกคนค่ะ
- ใบรับรองว่าเป็นนักศึกษา Transcript อันนี้ถ้าใครทำงานก็เอาใบรับรองการทำงานไป พร้อมทั้ง คิดเหตุผลด้วยนะคะว่าทำไมถึงต้องไปเรียน เรียนแล้วได้ประโยชน์ยังไง
- เอกสารอื่นๆที่แสดงให้เห็นว่าเรา้ต้องกลับมา เช่น หนังสือรับรองบริษัท อะไรพวกนี้นะคะ แต่ละคนแตกต่างกันค่ะ
วันสัมภาษณ์เราเอาบุคแบงค์ตัวจริงไปเพิ่ม อย่าลืมอัพเดทก่อนนะคะ แล้วเอาเอกสารไปเผื่อ เช่น รูปครอบครัว รูปถ่ายกับน้า ทะเบียนสมรสแม่ ( กลัวเค้าให้หาหลักฐานความสัมพันธ์กับน้าอ่ะค่ะ)
ที่จริงแล้วของเราให้แม่เป็นสปอนเซอร์คนเดียวก็ได้ เพราะเงินน่าจะพอ แต่ตอนนั้นงงๆไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะค่ะ เลยกรอกสองคน ทีนี้วุ่นวายเอกสารใหญ่เลย
วันสัมภาษณ์คืออังคารที่ผ่านมาค่ะ ฝนตกปรอยๆ เราไปถึงประมาณตีห้าได้คิวที่สาม ประตูเปิดหกโมงครึ่ง ฝากของแล้วเข้าไปต่อแถวที่ช่อง 13 อีกทีค่ะ
เราต่อเป็นคิวที่สอง คนแรกเป็นคุณป้ามากจากกัมพูชาค่ะ ขอวีซ่าไปท่องเที่ยว ป้าถามว่าเปิดกี่โมง เราบอกเจ็ดโมง
เจ็ดโมง ช่อง 13 ยังเงียบสนิท ป้าหันมาทางเรา ( หน้าตามีคำถาม -"- ) เจ็ดโมงสิบห้า.. เจ็ดโมงยี่สิบ ช่อง 13 กับช่อง 12 เปิดพร้อมกัน
แล้วคำตอบก็ปรากฏค่ะ วันนี้บัตรคิวเสียนี่เอง ป้าไปช่อง 12 เรายื่นบัตรช่อง 13 เค้าหาเอกสารเราแล้วถามสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษได้มั้ย ก็บอกว่าได้ เจ้าหน้าที่เลยไล่ไปยืนหน้าช่อง 11 ค่ะ กลายเป็นคนแรกเลย
ซักพักป้าคนเดิมมาต่อแถว ยืนติดเรามากกกกก ( เอ่อ ป้าคะ แค่นี้หนูก็เครียดแล้ว ป้ายืนจนแทบจะเข้าไปในลอคที่เค้ากั้นๆพร้อมหนูแล้วนะ ) เจ้าหน้าที่ก็ส่งคนมาต่อแถวเรื่อยๆค่ะ คนสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษได้ช่อง 11 ทุกคนเลยวันนี้ สงสัยฝนตก เจ้าหน้าที่มาสาย
เราก็ยืนรอๆๆๆ ได้ยินเสียงฝรั่งพูดโทรศัพท์อยู่ข้างใน เสียงแบบหงุดหงิดมาก เราก็แบบ เฮ้ย ถ้าเค้าอารมณ์ไม่ดีทำไงเนี่ย -"-
เจ็ดโมงครึ่งช่องเปิดค่ะ เห็นคุณพี่ฝรั่งมีหนวดเครา สงสัยเป็นคนที่บอกว่าดูดุๆ แต่เราว่าไม่นะ เพราะเค้ามองหน้าเรา เราก็มองตอบ ก็ตกใจอ่ะค่ะ ไหว้ก็ไม่ได้ไหว้ แต่เราว่าตาเค้าไม่ดุนะ เพียงแต่นิ่งๆแค่นั้นเอง
เค้าก็หยิบพาสปอร์ตกะเอกสารเรามา พยายามยิงบาร์โคด บาร์โคดใช้ไม่ได้อีก พี่แกเลยพิมๆเอา แล้วก็มองใบคำร้องของเราผ่านๆ ( สองวิ) ให้สแกนนิ้วชี้ ซ้ายขวา แล้วก็ถาม ใครเป็นคนจ่ายเงินให้เรา ตอบ My parent เค้าก็เอาเอกสารอื่นๆคืนให้เรา This is ur document. ใจเราก็แบบเฮ้ย ไม่อ๊าววววว ไม่เอาคืน อยากได้วีซ่า ไม่เอาเอกสาร T-T
พอมองดีๆ อ้าวแกไม่ได้คืนพาสปอร์ตเรานี่หน่า จับไปมัดๆกะ I-20 แล้วก็หยิบบัตรนัดให้เรา บอกให้มาเอาพาสปอร์ต พฤหัส บ่ายสองโมง บุคแบงค์ไม่ดูค่ะ
ทั้งหมดไม่ถึงสองนาทีเลยค่ะ :)
คนที่จะสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ ไม่ต้องกลัวฟังไม่รู้เรื่อง เพราะเราว่าฟังค่อนข้างง่าย แล้วคำถามก็เดิมๆ ถ้าอ่านในนี้น่าจะเดาได้ว่าเค้าถามอะไรบ้าง
เราเชื่อว่าแต่ละคนมีจุดแข็ง จุดอ่อนต่างกันนะคะ เพราะฉะนั้นถ้ารู้ว่าอะไรคือจุดอ่อนของตัวเอง พยายามแก้ไขซะ เค้าไม่ได้ตัดสินเพราะเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งแน่ๆค่ะ
อย่างจุดอ่อนเราคือไปเรียนโรงเรียนภาษาทั่วๆไป แต่เราก็ตั้งใจว่า ถ้าถามก็จะบอกว่าเพราะเวลามันยืดหยุ่นมากกว่า อีกเรื่องคือ สปอนเซอร์ไม่ใช่พ่อแม่ ก็ใส่เหตุผลไปแล้วอย่างที่บอกค่ะ
จุดแข็งคือ ยังไงเราก็เรียนอยู่ ไปแล้วต้องกลับมาเรียน แล้วผลการเรียนโอเค คือถ้าทิ้งไปก็น่าเสียดายอ่ะค่ะ
สำหรับคนที่วีซ่านักเรียนนะคะ สำรวจคือ เงินที่เรามีครอบคลุมพอมั้ย แล้วบัญชีควรให้มีการหมุนเวียนค่ะ ไม่ใช่มีเงินมาเลยตูมนึง ถ้ามีเงินเยอะๆเข้ามา ควรเตรียมคำตอบด้วยว่ามาจากไหน ใครไปเรียนโท สอบโทเฟลไปแล้ว ยื่นให้เค้าดูด้วยนะคะ
แล้วก็ถ้าสปอนเซอร์ไม่ใช่พ่อแม่ อย่าลืมหลักฐานความสัมพันธ์ค่ะ
คนที่ทำงานแล้วจะออกไปเรียน ถ้าลาออกมาก่อนแล้ว พยายามชี้เห็นนะคะว่าเราเตรียมตัวยังไงบ้าง เรียนภาษาหรืออะไรก็ว่าไป
เอกสารทุกอย่างยื่นไปตั้งแต่วันยื่นเอกสารค่ะ เค้าอ่านแน่นอน เพราะเราเห็นมันมีเขียนๆอะไรซักอย่างมาแล้วในใบคำร้องนะคะ น่าจะมีผลประกอบการสัมภาษณ์ค่ะ
ส่วนคนที่วีซ่าท่องเที่ยว เห็นชอบถามเรื่องบัญชีมากๆ เงินไม่ใช่ปัจจัยหลักนะคะ ขอแค่พอมีบ้าง มีเงินหมุนเวียนเรื่อยๆ มากน้อยไม่น่าสำคัญ หลักฐานการทำงานสำคัญกว่าค่ะ ยืนยัน :)
ขอให้โชคดีทุกคนค่ะ
จากคุณ :
Lunar_moon
- [
15 ก.ย. 48 11:14:46
]