ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเป็นดิฉัน... จะช่วยเรื่องอื่นค่ะ ไม่เอาเข้ามาอยู่บ้านเดียวกันเด็ดขาด ไม่ใช่ว่าจะใจจืดใจดำ แต่ถ้ามีเรื่องในครอบครัวคุณแล้ว ไม่คุ้มค่ะ... เคยมาแล้วทีนึง เข็ดค่ะ.... จากคุณ : DeeDee - [ 16 ก.ย. 48 05:10:13 A:4.232.96.196 X: TicketID:027048 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยกับคุณ DeeDee ครับ "รู้หน้าไม่รู้ใจ อาจจะนำปัญหาใหญ่มาในครอบครัว" จากคุณ : JumboNanaimo - [ 16 ก.ย. 48 05:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ช่วยแนะนำเขาเรื่องอื่นดีกว่า อย่าเอามาอยู่ด้วยเลย และถ้าเกิดเราไปทำงานล่ะ เขาอยู่กันสองต่อสองกับสามีเรา ถึงเขาจะไม่มีอะไรกันก็ทำให้คิดมากอยุ่ดี งานการเป็นอันไม่ต้องทำกันพอดี และเขาก็ต้องยืมเงินเราก่อนที่จะได้งาน รถลาไปไหนก็ต้องเดือดร้อนไปรับส่ง คิดดูดี ๆ จะทำให้ครอบครัวลำบากใจมาก อีกอย่างถ้าสามีฝรั่งชอบเป็นส่วนตัวมาก (เขาชอบเดินแก้ผ้าในบ้าน) มาอยู่ได้แค่สองสามวันก็พอหอมปากหอมคอ พี่ขอแนะนำอย่าให้เขามาอยู่ด้วยเป็นดีที่สุด จากคุณ : ฟากฟ้า - [ 16 ก.ย. 48 07:47:09 A:131.191.14.131 X: TicketID:107460 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเป็นดิฉัน ก้อจะขอเป็นผู้ให้คำปรึกษาดีกว่าค่ะ แต่ คงไม่ถึง คิดจะรับเข้ามาอยู่ด้วย..กลัวปัญหาหลายๆอย่างจะตามมาค่ะ.. จากคุณ : วีบี - [ 16 ก.ย. 48 09:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ให้ความช่วยเหลืออย่างอื่นดีกว่าค่ะ การให้มาอยู่ร่วมบ้าน มันจะต้องมีปัญหาจุกจิกตามมานะคะ ไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ต้องมีแน่ๆ เดี๋ยวจะพาลไปเป็นมองหน้ากันไม่ติดไปเสียอีก คุณก็อาจจะซวย เข้าตำราเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แล้วยังเอากระดูกไปแขวนคอ จากคุณ : mrs.night owl - [ 16 ก.ย. 48 09:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้าค่ะ จากคุณ : PP - [ 16 ก.ย. 48 09:55:12 A:68.145.113.117 X: TicketID:014963 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ทราบว่ากรีนการ์ดที่เขาถือ ถือมาก่อนแต่งงานหรือหลังแต่งงานค่ะ ถ้าก่อนแต่งไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าเพิ่งถือเพราะแต่งงานกับคนเมกันหละก้อ คิดว่าถ้าอย่าจากกันแล้วกรีนการ์ดจัถูกยกเลิกนะค่ะ เพราะกรีนการ์ดที่ได้ตอนแต่งงานคือกำหนดสองปี เพราะเขาต้องให้แน่ใจว่าอยู่กินกังจริงๆถึงต่อให้อีกปี แต่ว่าเรื่องที่จะให้เอาเขามาอยู่ด้วยนี่อย่าเลยนะค่ะ หาอพาร์ทเม้นถูกๆให้เขาเช่าอยู่เองดีกว่าค่ะเพราะถ้าเกิดมีัปัญหาอะไรกันเราจะเป็นผ่ายกลื่นไม่เข้าคายไม่ออก คิดดีๆนะค่ะ จากคุณ : Dolce & Gabbana - [ 16 ก.ย. 48 10:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ใช่ใจจืดใจดำนะคะ แต่อย่าเอาเข้ามาอยู่ด้วยเป็นดีสุดค่ะ ช่วยแนะนำ ช่วยเป็นกำลังใจ ช่วยให้คำปรึกษา ช่วยหาอพาสเมนท์ หรือช่วยแบบอื่นดีกว่าค่ะ หากนำเข้ามาอยู่ด้วยปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกแน่นอนค่ะ ช่วยได้เท่าที่ช่วยนะคะ อย่าให้ตัวเองเดือนร้อน จากคุณ : meneya - [ 16 ก.ย. 48 13:27:02 A:67.38.47.87 X: TicketID:106400 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เหมือนอย่าที่ข้างบนแนะนำค่ะ เราไม่รู้จักเข้ามากมาย อย่าเพิ่งไว้ใจมากเลยค่ะ อีกอย่างทุกอย่างคุณก็รู้จากปากเพื่อนคนนี้เท่านั้น มันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้นก็ได้ พยายามมองหลาย ๆ มุมนะค่ะ จากคุณ : monzy - [ 16 ก.ย. 48 15:55:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกๆความเห็นค่ะ แล้วจะปรึกษาสามีดูอีกทีว่าคงต้องให้เขามาพักด้วยสักระยะให้เขาหางานได้ก่อน แล้วหลังจากนั้นจะให้เขาหาที่พักต่างหาก เพราะเพื่อนบอกว่ามีเงินอยู่แค่สองร้อยดอลลาร์เองค่ะ กรีนการ์ดเขาได้มาหลังแต่งงานมีการปรับสถานะน่ะค่ะ เพื่อนคงจะอยู่จนกรีนการ์ดหมดอายุน่ะค่ะและคิดว่า เขาคงอยากมองหาแฟนใหม่เพราะเขาไม่อยากกลับไปอยู่เมืองไทยแล้ว จากคุณ : papal - [ 16 ก.ย. 48 17:27:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เราอาจจะเป็นคนเห็นแก่ตัวนะคะ แต่ถ้าเป็นเรา จะช่วยอย่างอื่นค่ะ อย่างที่ จขกท บอกว่า "จะปรึกษาสามีดูอีกทีว่าคงต้องให้เขามาพักด้วยสักระยะให้เขาหางานได้ก่อน แล้วหลังจากนั้นจะให้เขาหาที่พักต่างหาก เพราะเพื่อนบอกว่ามีเงินอยู่แค่สองร้อยดอลลาร์เองค่ะ" เราอาจจะช่วยหาที่พักหรือช่วยค่าที่พักไปเลย แต่จะไม่ให้พักด้วยเด็ดขาด ไม่ว่าจะระยะสั้นหรือยาว เพราะเราเคยเจออะไรมาเยอะ เลยถือคติว่า "รู้หน้าไม่รู้ใจค่ะ" อาจจะทำให้ครอบครัวเรามีปัญหาก็ได้ จากคุณ : ศรีธนา - [ 16 ก.ย. 48 22:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แหม มาเล่าซ่ะ หน่อย ค่ะ คือว่า เคยมีเพื่อนเค้าเป็นพยาบาลที่ไทยอายุเค้าก็ 51 ปีแล้ว ที่นี่เค้ามีคนจ้างมาดูแลที่อเทมริกา 1 เดือนที่วอชิงตันดีซี ตอนแรกเค้าก็โทรมาร้องไห้กับดิฉัน ว่าโดนเค้าไล่ออกจากบ้าน ดิฉันก็สงสารเพราะเห็นว่าเคยเป็นเพื่อนบ้านที่ไทยกันมาก่อน ดิฉันกับสามีก็ไปรับมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน เพ็ฯวิลวาเนีย ค่ะ ตอลดเวลาเค้าพูดเสมอว่า ไม่เคยคิดอะไรกับสามีดิฉัน..แต่กริยาเค้าไม่เป็นดังพูด หรอก ค่ะ เค้ายั่วสามีดิฉันหลายๆๆ ครั้ง ( รายล่ะเอ๊ยดเยอะ ไม่ขอเล่า นะ ) ดิฉันก็พอทราบ ก็ไม่พอใจ นะ ครั้งสุดท้ายเค้ามาขอนอนข้างๆสามีดิฉัน ค่ะ...ดิฉันเลยบอกสามีว่า ญ.ไทยเสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสีย ผัวให้ใครหรอก นะ ดังนั้นดิฉันก็เลนเชิญเค้าออกจากบ้าน ค่ะ อ๋อ ช่วงที่เค้าอยู่บ้านดิฉัน เค้าไม่เคยจ่ายอะไรเลย....ทั้งๆที่เค้ามีเงินประฒาณ 2-3 แสนบาทจากงานพยาบาลที่เค้ามาเฝ้าไข้......แถม จะไปไหนมาไหนให้สามีดิฉันตามรับ ตามส่งตลอดเลย ล่ะ.......คิดว่ากรณีดิฉัน น่าจะเป็นข้อคิดสำหรับคุณ เจ้าของกระทู้นะค่ะ..... จากคุณ : ส้มจี๊ด... - [ 17 ก.ย. 48 01:15:29 A:64.136.163.218 X:64.136.164.35 TicketID:102363 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เหอะ มาทุกความเห็นมีใครเห็นด้วยบ้าง ระวังนะคะ ปัญหาตัวอย่างเพื่อนๆก็ยกให้คุณเห็นแล้ว แม้แต่มาอยู่ชั่วคราวก็เหอะ ตัดปัญหาให้เค้าอยู่ข้างนอกตั้งแต่แรกจะดีกว่า เดี๋ยวคุณจะเข้าข่าย กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะไล่เค้าก็ใช่อยู่ และที่สำคัญ เคสข้างบนนี่ เป็นไง อันตรายมากค่ะ คืดให้ดีๆ ก่อนที่จะเกิดปัญหานะคะ เพราะเกิดขึ้นแล้ว ไม่มีใครช่วยคุณได้ นอกจากตัวคุณเอง จากคุณ : ป้อม (Petersway) - [ 17 ก.ย. 48 04:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับทุกความเห็นเลยค่ะ   ไม่ใช่ญาติ หรือพ่ี่น้อง  อย่าเอามาอยู่ด้วยเลยค่ะ .. “คิดในแง่ร้ายไว้ก่อน จะได้ป้องกันปัญหาที่จะเกิดกับครอบครัวตัวเอง”  ...  หากคุณต้องการจะช่วย  คิดว่าแค่คำปรึกษา หรือหาบ้านเช่า หางาน น่าจะเพียงพอ ตอนนี้เขาเองก็ัยังไม่ได้หย่า หากเขาจะหย่าจริงๆ ควรให้เขาเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่เนินๆ  แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เข้ามาวุ่นวายในชีวิตส่วนตัวของคุณเอง  อย่าเอาปัญหาของเขามาเป็นปัญหาของคุณเอง ไม่มีประโยชน์อะไรเลย จากคุณ : Khemmarassamee - [ 17 ก.ย. 48 18:57:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ตอนนี้ตั้งแต่เพื่อนมาถึงเมกาแล้วเราก็เริ่มปวดหัวเครียดไปด้วย ก็เขาบอกว่าถ้าถึงสนามบินจะโทรบอกเราแต่ก็ไม่โ่ทรมา ไอ้เราก็กลัวว่าสามีเขา จะคิดร้ายกับเขาก็โทรเช็คสายการบินสารพัดแต่เขาไม่ให้ข้อมูลอะไร แถมเราโทร คุยกับที่บ้านเพื่อนที่เมืองไทยตั้งเป็นนานสองนานเพื่อหาข้อมูลเขาจะได้เช็คที่นี่ได้ ผลปรากฏว่าเราก็รอจนเที่ยงคืนที่บ้านเขาที่เืมืองไทยก็โทรมาบอกว่าเขาไปพักอยู่ บ้่านเพื่อนสามีแล้วปลอดภัยดีและให้เราโทรหา  แล้วก็แนะนำไปหลายเรื่องว่าจะ ทำยังไงบ้างจนตี 2 ตี 3 และสามีเราก็มีการถามว่าถ้าตัดสินใจแน่นอนแล้วก็ บอกมานะอยากให้เราขับรถไปรับมาไหม เอาเป็นว่าตั้งแต่เพื่อนมาถึงเมกาี้เราก็โทรหา ให้คำแนะนำเขาสารพัดแต่ปรากฏ ว่าเพื่อนยังไม่สรุปว่าจะทำอะไรเลย บอกว่าอยากให้เรากับสามีไปที่นั่นด้วย อยากให้มาช่วยดูเอกสารให้ที  เรากับสามีก็คิดว่าจะขับรถไปซึ่งรัฐไกล กันมากด้วยค่ะ แต่จน ณ ตอนนี้เราคิดๆแล้วก็คุยกับสามีว่าดูเขาไม่ตัดสินใจ สักทีว่าจะทำยังไง แล้วจะมาหลบไม่ให้สามีเขารู้อยู่อย่างนี้จะมีประโยชน์อะไร แล้วถ้าเราอุตส่าห์ขับรถไปตั้งไกลแล้วเพื่อนบอกว่าเปลี่ยนใจหล่ะ เราก็เลยบอกสามีว่าเอาเป็นว่าเราจะไม่ไปเครียดหรือกลุ้มใจแทนเขาแล้วหล่ะ เราก็บอกเขาไปว่าเอาเป็นว่าเราจะคอยฟังข่าวแล้วกันนะ  เพราะเรื่องการ ตัดสินใจต้องเป็นของเพื่อนแล้วหล่ะว่าจะทำยังไง จากคุณ : papal - [ 18 ก.ย. 48 02:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โห เจ้าของกระทู้เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ ค่ะ (ไม่ได้ประชดนะ) ตามความรู้สึกเรา ดูๆ เพื่อนคุณเค้าจะไม่ค่อยคิดถึงหัวอกของคุณเลยนะเนี่ย คุณก็เป็นห่วงสารพัด ทำโน่นทำนี่ให้ทุกอย่าง แต่ดูเพื่อนคุณจะไม่ค่อยรับรู้เลยอะ นี่เราจะยุให้เพื่อนเค้าแตกคอกันเปล่าหว่า จากคุณ : ศรีธนา - [ 18 ก.ย. 48 03:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอแทรกนะคะจากที่อ่านมา คุณก็พอทราบว่าเค้าแต่งงานกับสามีคนปัจจุบันเพราะอะไร และถ้าสามีเค้าไม่ยอมคืนดีด้วยก็จะหาสามีใหม่เพื่อที่จะได้อยู่ที่นี่ต่อ      แค่เหตุผลนี้ก็ไม่น่าไว้ใจแล้วนะคะ ดูจะเป็นคนคิดถึงตัวเองมากกว่าคนอื่นนะคะ (ไม่ทราบว่าดิฉันประเมิณค่าเค้าต่ำไปหรือเปล่า) แต่คุณเป็นเพื่อนเค้าน่าจะพอเข้าใจนิสัยเค้าดีนะคะ  ถ้าเค้าไม่ติดต่อมาก็ดำเนินชีวิตเป็นปกติต่อไปเถอะคะ อย่าไปคิดแทนเข้าเลยคะ จะปวดหัวเปล่าๆนะคะ ครอบครัวเราก็มีสนใจและดูแลครอบครัวเราดีกว่านะคะ      อย่าคิดมากนะคะ ยังมีทางอื่นให้ช่วยเหลืออีกมากคะ จากคุณ : ซึการิซัง - [ 20 ก.ย. 48 08:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณคุณศรีธนาที่เข้ามาอีกรอบค่ะ ขอบคุณคุณซึการิซังด้วยค่ะ ตอนนี้ก็รู้สึกว่าดีค่ะที่เขา ไม่ยอมตัดสินใจสักที เพราะถ้าเขามาอยู่กับเราจริงๆคงสร้างปัญหาแน่ๆเพราะแค่นี้ก็ได้รับรู้เขาเต็มที่แล้วค่ะ ตอนนี้สบายใจแล้วค่ะก่อนนี้กลายเป็นว่าเราคิดมากไปกับคำพูดเรื่องราวที่เขาบอกเรา(เรารู้แค่จากเพื่อน เพราะไม่เคยเจอหรือรู้จักสามีเขาเลยค่ะแค่เห็นรูป) บางทีเรื่องที่เราฟังจากปากฝ่ายเดียวเราก็ ไม่รู้ว่าจะจริงแค่ไหน จากคุณ : papal - [ 20 ก.ย. 48 12:38:49 ]