ความคิดเห็นที่ 1 คำว่า Porkolt นี้ถ้าตีความหมายเป็นไทยก็คงประมาณ " แกงคั่ว " น่ะค่ะ แต่หน้าตาจริงๆของ Porkolt นี่จะมีน้ำแกงเยอะกว่า *** พี่ติ๊กจ๋า ( Tiktoth ) อยู่ใหนเนี่ย มาช่วย Confirm ให้นัทด้วยน้า ทีนี้เรามาดูส่วนประกอบต่างๆกันค่ะ ( เมนูนี้สำหรับ 2-3 คนนะค่ะ ) เนื้อสัตว์หั่นชิ้นพอคำ  300 กรัม จะเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว กระต่าย กวาง หรือ ไก่ ( จะดีที่สุดถ้าใช่ส่วนน่อง หรือ ปีก เอาทั้งชิ้นเลยค่ะ ) ก็ได้ค่ะ   ที่ จขกท ทำนี้ใช้เนื้อไก่ส่วนอกทำค่ะ ( มีแต่เจ้านี่แหละค่ะที่เหลือติดตู้เย็นวันนั้น แหะๆ ) หอมหัวใหญ่หัวขนาดกลาง  2 หัว มะเขือเทศ 2-3 ลูก น้ำมันพืช พริกปาปริก้าป่นแบบเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น น้ำ พริกเชอรี่แห้ง หรือพริกแห้ง *** เพิ่มไวน์แดงสำหรับคนที่ใช้เนื้อกระต่าย เนื้อกวาง หรือ สัตว์ป่าอื่นๆนะค่ะ *** ในรูปเครื่องปรุงขาดหายไปบ้าง ไม่ว่ากันนะค่ะ เรื่องของเรื่องคือลืมค่ะ มานึกได้ตอนจะใช้นั้นแล จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 21:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อเครื่องปรุงต่างๆพร้อมแล้วก็ติดเตา ตั้งหม้อใส่น้ำมันเลยค่ะ แต่ไม่ต้องใช้น้ำมันเยอะนะค่ะ นิดเดียวพอ สักพักก็ใส่หอมหัวใหญ่ที่สับแล้วลงไปเลยค่ะ ผัดไปผัดมาสัก 2-3 ทีแล้วให้ปิดฝาหม้อเลยค่ะ แล้วลดไฟลงนิดนึงด้วย พอผ่านไปสัก 1 - 2 นาทีก็เปิดฝาหม้อดูค่ะ ให้หัวหอมมันดูเป็นเงากระจกแบบนี้นะค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 21:55:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากนั้นก็ใส่ผงพริกปาปริก้าลงไปได้เลยค่ะ แล้วผัดไป - ผัดมาสัก 2 - 3 ที ( อีกแล้ว แหะ ๆ ) รูปไม่ค่อยชัด ขอโทษด้วยนะค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 21:56:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จากนี้ก็ใส่เนื้อสัตว์ลงไปผัดได้เลยค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 21:57:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พอเนื้อเริ่มสุก ก็โรยเกลือป่นเข้าไปปรุงรสหน่อยค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 21:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผัดให้ส่วนผสมเข้ากันอีก 2 - 3 ที ก็ให้เติมน้ำลงไปเลยค่ะ เอาแค่ให้พอท่วมๆ ( นี่ จขกท ใส่น้ำเยอะไปหน่อยค่ะ อย่าทำตามนะค่ะ ) ถึงตรงนี้ใครที่ใช้เนื้อสัตว์ป่าก็ให้ใส่ไวน์แดงในสัดส่วนที่น้อยกว่าน้ำ  1 : 3 นะค่ะ แล้วก็ปิดฝาหม้อค่ะ พร้อมกับลดไฟลงด้วย จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 21:58:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พอผ่านไปสัก 5 - 10 นาที ก็เอามะเขื้อเทศที่หั่นไว้แล้วใส่เข้าไปได้เลยค่ะ ( จริงๆแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับประเภทของเนื้อด้วยแหละค่ะ ว่าเราใช้เนื้ออะไร ฉะนั้นคงต้องรบกวนตรวจสอบความเปื่อยยุ่ยของเนื้อกันเองนะค่ะ ) แล้วก็หยอดพริกเชอรี่ หรือพริกแห้งลงไปซะหน่อย บิให้มันแตกก่อนก็ดีค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 21:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สักแป๊บเราก็กลับมาชิมรสได้เลยค่ะ ถ้าอ่อนเค็มไปก็เติมเกลือ พอมะเขือเทศนิ่ม เนื้อเปื่อยดีแล้วก็ยกลงจากเตาได้แล้วค่ะ เราก็จะได้ Porkolt ที่มีน่าตาอย่างนี้ค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Porkolt นี้จะทานกับ มันฝรั่งต้ม , เส้นพาสต้า , Galuska ( midget dumplings ในภาษาอังกฤษ หรือ  Nudeln ในภาษาเยอรมันค่ะ ) หรือพาสต้าที่เรียกว่า Tarhonya ในภาษาฮังเกเรี่ยนค่ะ เป็นพาสต้าที่ทำเป็นเม็ดเล็กๆเหมือนก้อนกรวด น่าจะหาได้แต่ในฮังการีค่ะ จขกท ไม่แน่ใจเดี๋ยวหารูปมาลงให้ดูค่ะ ทานกับผักดอง ( Pickles ) ต่างๆนะค่ะ คราวนี้ที่ จขกท ทำเป็น Porkolt กับมันฝรั่งค่ะ แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 48 22:01:57 จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อ้อ เชอรี่ปาปริก้า หน้าตามันเป็นอย่างนี้นะค่ะ เห็นน่ารักๆอย่างนี้เผ็ดดีจริงๆค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนเจ้า  Tarhonya  หน้าตามันเป็นแบบนี้ค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นมั้ยค่ะว่าทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอะไรเลยแถมอร่อยด้วยค่ะ ใหนๆก็มาแล้ว ขอพาไปเที่ยวด้วยเลยแล้วกันค่ะ ก่อนอื่น จขกท ขอพาไปรู้จักฮังการีก่อนเลยนะค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาว มอยอรฺ = Magyar กันก่อนนะค่ะ ชาว Hungarian ในปัจจุบัน เนี่ยเค้าชอบที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นคน มอยอรฺ = Magyar  ค่ะ และมาจาก มอยอรฺออซ้าก = Magyarorszag (คำในภาษาฮังเกเรี่ยนหลายๆคำในกระทู้ จขกท ใส่สัญลักษ์เสียงสระไม่ได้นะค่ะ ) ซึ่งหมายถึงประเทศของชนเผ่า มอยอรฺ Orszag หมายถึง ประเทศ ค่ะ แต่ที่ได้ชื่อ Hungary ในภาษาอังกฤษ ก็เพราะว่ามาจากชื่อชนเผ่าดั้งเดิม ที่เป็นบรรพบุรุษสายหนึ่งของชาว Hungarian ในปัจจุบัน ที่อพยพมาจากเอเชียกลาง  ในที่ราบตอนเหนือของประเทศจีนในปัจจุบัน พูดง่ายๆก็ในแถบ ไซบีเรีย และ มองโกเลียนั้นแหละค่ะ ซึ่งเราอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับเหล่านักรบบนหลังม้ามาบ้างแล้ว พวกเค้าคือพวกชนเผ่า Hun ค่ะ ( เผ่า ฮุน นะค่ะ ไม่ใช่เผ่าฮั่น คนละเผ่ากันค่ะ ) แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 48 22:07:11 จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:06:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ชาว Hungarian ในปัจจุบัน สืบเชื้อสายมาจากชนเผ่า 2 เผ่าค่ะ 1. เผ่า Hun เผ่านี้มีถิ่นอาศัยอยู่ในที่ราบตอนเหนือของประเทศจีนในปัจจุบันแถบ ไซบีเรีย และ มองโกเลีย 2.เผ่า Magyar เผ่านี้มีถิ่นอาศัยอยู่เดิมในเอเชียกลาง ทางด้านตะวันออกของเทือกเขา Ural เมื่อประมาณ 7,000 ปีก่อนคริสต์กาล เผ่า Magyar นี้ยังแบ่งย่อยออกเป็น 7 เผ่าค่ะ คือ Megyer ( Magyar ) , Nyek , Kurt - Gyarmat , Tarjan , Jeno , Ker และ  Keszi เมื่อประมาณ 5,000 ปีก่อนคริสต์กาล ชาวเผ่า  Magyar ได้เริ่มอพยพผู้คน ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเทือกเขา Ural และตั้งถิ่นฐานอยู่ในแถบนั้น จนถึงประมาณ 4,000  ปีก่อนคริสต์กาล จึงเริ่มออกเดินทางอีกครั้งขึ้นไปทางเหนือ และย้ายไปทางใต้อีกหลายครั้ง สาเหตุที่ชาว Magyar ย้ายถิ่นฐานบ่อยๆ ก็เพราะพวกเขามีอาชีพเลี้ยงสัตว์ จึงออกเดินทางหาที่ๆเหมาะสมไปเรื่อยๆ กอปกับการถูกรุกรานจากชนเผ่าอื่นๆอยู่เสมอ จึงจำเป็นต้องหาที่ใหม่ที่มีความปลอดภัยกว่า ส่วนพวก  Hun ประมาณ 36 - 35 ปีก่อนคริสต์กาล ได้เริ่มออกเดินทางจากถิ่นที่อยู่เดิมในที่ราบตอนเหนือของประเทศจีนในปัจจุบัน แถบไซบีเรีย และ มองโกเลีย มาทางด้านทิศตะวันตก เพราะกองทัพจีนเริ่มแข็งแกร่งและมีอำนาจมากขึ้น กองทัพจีนได้บุกเข้าขับไล่พวก Hun ออกจากที่ๆพวกเขาเคยอยู่ ( ก่อนหน้านี้ พวก Hun เค้ามีอณาจักรที่ยิ่งใหญ่และมีกองทัพที่แข็งแกร่งมากค่ะ และมักจะบุกเข้าโจมตีชนชาติจีนอยู่บ่อยๆ ) จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตลอดเส้นทางที่อพยพมานั้น ชาวเผ่า Hun ก็ได้เข้าบุกยึดครองชนชาติต่างๆ เช่นบางส่วนของอณาจักรรัสเซีย, อณาจักรเยอรมัน และชนชาติเล็กๆอีกหลายชนชาติ หลังจากนั้นจึงเข้ายึดครองบางส่วนของอณาจักรโรมันที่แผ่ขยายมาถึงพื่นที่ ที่ตั้งของประเทศ Hungary ในปัจจุบัน ( ตอนนี้ก็ยังมีร่องรอย อารยธรรม สิ่งปลูกสร้าง ของอณาจักรโรมันที่เข้ามาครอบครองอยู่ในสมัยนั้นหลงเหลืออยู่ค่ะ อยู่ไม่ไกลจาก Budapest นัก ) ชาว Hun ขับไล่ชาวโรมันที่อยู่มาแต่เดิมออกไป และก่อตั้งดินแดนแถบแม่น้ำ Duna = Danube  และ Tisza ขึ้นเป็นอณาจักรของชาว Hun เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาของ Attila หรือที่เรารู้จักกันในนาม Attila The Hun พวกชนเผ่า Hun สามารถสร้างอณาจักร Hun ครอบคลุมพื่นที่เกือบทั้งหมดของทวีปยุโรปในปัจจุบัน โดยการบุกเข้าโจมตี ยึดครองอณาจักรต่างๆ มีทหารรักษาการณ์ทั้งหมดกว่า 500,000คน หลังจากนั้น Hun จึงเริ่มบุกเข้าโจมตีอณาจักรโรมันอีก แต่สงครามครั้งนี้ไม่มีผู้ชนะ ทั้ง 2 ฝ่ายสูญเสียผู้คนไปเยอะ ทั้ง 2 อณาจักรจึงเริ่มทำสัญญาสงบศึก โดย Hun จะไม่โจมตีต่อ และ โรมันจะต้องส่ง ส่วย จ่ายภาษีอากรให้กับพวก Hun จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หลังจากการตายของ Attila ในปี 453 หลังคริสต์กาล ในระหว่างชนเผ่า Hun เองเริ่มมีการขัดแย้งกันเองเกิดขึ้นสำหรับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ บรรดาอณาจักรต่างๆที่อยู่ภายใต้การปกครองจึงได้รวมตัวกัน ก่อการกบฎ ขึ้นเพื่อล้มอณาจักรของพวก Hun จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ชาวเผ่า Hun ต้องอพยพออกจากพื้นที่ ( Hungary ในปัจจุบัน ) ไปทางที่ราบระหว่าง แม่น้ำ Duna = Danube และแม่น้ำ Dnyeper และในบริเวณนี้นี่เองที่ชาว Hun และชาว Magyar มาพบกันและรวมเข้าเป็นพวกเดียวกัน ในระยะเวลาหนึ่ง จึงมีการผสมผสานทางเชื้อชาติเกิดขึ้น จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:11:08 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ในปี 885 - 890 หลังคริสต์กาล โดยการนำของ Apad และเหล่าผู้นำของชนเผ่า Magyar ทั้ง 7 เผ่า ก็ได้อพยพชาว Magyar ทั้งหมดเดินทางมา ณ. ดินแดนที่เคยเป็นที่ตั้งของอณาจักร Hun ( Hungary ในปัจจุบัน ) ในขณะนั้นชาวเผ่า Magyar มีผู้คนประมาณ 200,000 คน และทหารอีก 15,000 คน   ต่อมามีการสร้างรูปปั้นนักรบผู้นำทั้ง 7คน ขึ้นเป็นอนุสาวรีย์หรือที่เราเรียกว่า Heroes Square นี่แหละค่ะ ** Lucky Number ของชาว Magyar คือเลข 7 ค่ะ เพราะพวกเค้ามีกันอยู่ 7 เผ่า ในนิทานต่างๆ รวมถึงบทเพลง มักจะมีเลข 7 เข้าไปเกี่ยวข้องเสมอ ในปี 895 หลังคริสต์กาล ชาว Magyar ได้เริ่มรวบรวมดินแดนรอบๆบางส่วนที่เคยเป็นของอณาจักร Hun กลับคืนมา ในปี 896 หลังคริสต์กาล ชาวเผ่า Magyar จึงได้ประกาศก่อตั้งอณาจักรของตัวเองขึ้นในนาม Magyarorszag ต่อมาในปี 1,000 หลังคริสต์กาล จึงมีการสถาปนา Szent Istvan ขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของ Magyarorzag ขึ้นที่เมือง Szekesfehervar เมืองที่เคยเป็นเมืองหลวงของ Hungary มาก่อน ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของ Budapest ค่ะ ไม่ไกลเท่าไหร่นัก ** ก่อนหน้านี้มีเพียงผู้นำ นับจาก Arpad ก็มีอีก 4 คนเท่านั้นค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ประเทศไทย และ Hungary มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมานานพอสมควรค่ะ เริ่มตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1870 หรือ พ.ศ. 2413 ได้มีการส่งทูตไปเยือนกันและกัน และมีการทำสัญญาทางการค้าระหว่างประเทศขึ้นด้วย ผู้แทนไทยคือ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ ( หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ ชุมสาย ) และทาง Hungary คือ ท่านเคานต์ Szechenyi ภาษา  Hungarian หรือ  Magyarul นี้อยู่ในกลุ่มภาษา Finno - Ugric ค่ะ แต่ถึงยังงั้น คน Hungarian เค้าก็ไม่เข้าใจ ไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับคนที่ใช้ภาษา Finnish หรือ Estonian หรอกนะค่ะ เรื่องชื่อเหมือนกันค่ะ ชาว Hungarian จะใช้ " ชื่อสกุล "  ก่อน " ชื่อตัวเสมอ " ทั้งการพูดและการเขียน เหมือนชาวเกาหลีค่ะ   เอ... ชาวจีน ชาวมองโกล เค้าใช้กันยังไงค่ะ ??? ใครพอจะทราบ รบกวนให้ความรู้ จขกท หน่อยค่ะ ถือว่าเอาบุญนะค่ะ Magyarul หรือ ภาษา Hungarian นี่มีไวยกรณ์ ที่สลับซับซ้อนมากค่ะ คน Hungarian เองยังบอกเลยว่ายาก  ตัวอักษรทั้งหมดมี 44 ตัว แบ่งเป็นตัวพยัญชนะ 30 ตัว และสระอีก 14 ตัว เสียงสระในภาษา Hungarian จะมีอยู่ 14 เสียงค่ะ คือ อุ อู อิ อี อึ อื โอะ โอ เอะ เอ แอะ แอ เออะ เออ แต่ถึงยังไงก็น้อยกว่าของไทยเราอยู่ดีเนอะ สำหรับคนไทย การออกเสียงนี่ไม่ยากค่ะ จะไปยากที่รูปประโยคกับไวยกรณ์ซะมากกว่า จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ชุดพื้นเมืองในอดีต จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:15:03 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ข้อมูลประวัติศาสตร์จาก Magyar Tortenelmi Kronologia Otezer ev A Kezdetektol Napjainkig รูปภาพจาก www.hungary.org          www.neprajz.hu จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 21 จริงๆแล้วในกระทู้ต้นฉบับที่ จขกท ได้ลงไว้ในห้อง Blueplanet นั้นได้กล่าวถึงการเสด็จประพาส Europe ครั้งแรก ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือน Hungary ไว้ด้วยค่ะ แต่มีเพื่อนคนหนึ่งที่คอยติดตามอ่านตั้งแต่กระทู้แรกเข้ามาแย้งตรงข้อมูลจุดนี้ จขกท เลยต้องแก้ไข และพยายามหาคำตอบ ( อยู่จนถึงทุกวันนี้ค่ะ ) ก็ให้นึกขอบคุณเค้าอยู่เสมอค่ะ ที่แย้งมาเพราะ จขกท จะได้ไม่เอาความผิดๆไปบอกคนอื่นๆต่อ ( ไป ) จขกท ขอยกเอามาลงให้อ่านกันเล่นๆตรงนี้ด้วยเลยนะค่ะ นี่จากกระทู้ ที่อ้างถึงนะค่ะ +++ พาเที่ยว - พาชม Budapest , Hungary ตอนที่ 3 +++ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E3726792/E3726792.html ความคิดเห็นที่ 5 ประเทศไทย และ Hungary มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมานานพอสมควรค่ะ เริ่มตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1870 หรือ พ.ศ. 2413 ได้มีการส่งทูตไปเยือนกันและกัน และมีการทำสัญญาทางการค้าระหว่างประเทศขึ้นด้วย ผู้แทนไทยคือ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ ( หม่อมเจ้าปฤษฎางค์ ชุมสาย ) และทาง Hungary คือ ท่านเคานต์ Szechenyi หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1897 หรือ พ.ศ. 2440 ในการเสด็จประพาส Europe ครั้งแรก ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือน Hungary และทรงประทับ ณ. โรงแรม Gellert แห่งนี้แหละค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:18:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ทีนี้มาดูอันที่แก้แล้วกันค่ะ นี่จากกระทู้ ที่อ้างถึงนะค่ะ +++ พาเที่ยว - พาชม Budapest , Hungary ตอนที่ 4 +++ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E3735517/E3735517.html จริงๆแล้ว จขกท  โผล่มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ เผอิญไปกดดูกระทู้ตอนที่ 3 ก่อนตั้งกระทู้ใหม่ เลยไปพบว่า คุณ : Joszef มาฝากข้อความไว้ว่า " ผมได้มีโอกาสอ่านพระราชนิพนธ์ เรื่อง ไกลบ้าน อะครับ แล้วก็ได้มีโอกาสอ่านตามรอยเสด็จพระราชดําเนินนี้ครับ เขาตามหาโรงแรมที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประทับนะครับ เขาว่าไม่ใช่โรงแรม Gellert นะครับ แต่เขาบอกว่าเป็นอีกโรงแรมนึงซึ่งในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นเมืองนี้เสียหายหนักมาก ทั้ง Royal Palace และโรงแรมที่พระองค์ที่เคยประทับซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเปสต์นะครับ ตรงใกล้ถนน Jozsef Attila utca กับถนน Apaczai Csere Janos utca อะครับ รู้สึกว่าปัจจุบันได้สร้างใหม่เป็นโรงแรมชื่อใหม่ว่า Marriott Budapest หรูริมแม่นําดานูบครับ ยังไงใครทราบช่วยบอกคอนเฟริมด้วยนะครับ " ขอบคุณ  คุณ: Joszef ด้วยใจจริงค่ะที่แย้งมา เพราะมันเป็นการจุดประกายในการค้นคว้า หาความจริงขึ้นอีกครั้ง ให้กับ จขกท ดังนั้น จขกท ก็เลยเริ่มค้นหาข้อมูลจากทาง Internet น่ะค่ะ เลยไมได้ post ตอนที่ 4 แหะๆ ไม่ว่ากันน้า แบบว่ามันคาใจน่ะค่ะ ไม่อยากให้ข้อมูลผิดๆกับใครไป จขกท ขอยอมรับค่ะว่า ยังไม่เคยมีโอกาสอ่านพระราชนิพนธ์ เรื่อง ไกลบ้าน แบบสมบูรณ์เลย โดยเฉพาะในตอนที่เสด็จพระราชดําเนินเยือน ฮังการี ที่มีข้อมูลแน่นอนก็แค่ เสด็จเยือนฮังการีเมื่อวันที่ 26 -  30 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2440 หรือ ปี ค.ศ. 1897 ที่ จขกท ว่าทรงประทับที่ Gellert Hotel เพราะ จขกทเคยอ่านหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว 2 - 3 เล่มและทั้งหมดเขียนไว้ว่า ทรงประทับที่ Gellert Hotel กอปรกับเมื่อประมาณ 3 - 4 ปีก่อนมีเด็กนักเรียนไทย 2 - 3 คนเข้ารับการฝึกประสบการณ์ทางด้านการโรงแรมที่ Gellert Hotel พวกเขามาเล่าให้ฟังน่ะค่ะว่า เจ้าหน้าที่ของทางโรงแรม พาชมสถานที่ทั้งหมดภายใน Hotel และพาไปชมห้องพัก ห้องหนึ่งและบอกว่าห้องนี้เคยเป็นที่ประทับของ King Of Thailand จขกท ก็เลยปักใจเชื่อเลย โดยที่ไม่เคยตรวจสอบด้วยตัวเอง แล้วนี่ยังริมาบอกข้อมูลผิดๆให้กับคนอื่น ๆ จขกท ต้องขอโทษทุกคนจริงๆนะค่ะ ไม่ได้เจตนาจริงๆ ดังนั้นขออนุญาตลบรูปและข้อความบางตอนในความคิดเห็นที่ 5 ในกระทู้ตอนที่ 3 ออกนะค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:19:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอนนี้ขอแก้ตัวอีกทีนะค่ะ จากข้อมูลที่ คุณ: Joszef ให้มา จนขณะนี้ จขกท ค้นหาข้อมูลหลักฐานต่างๆในเบื้องต้นได้มาพอสมควรค่ะ แต่ยังไม่ขอสรุปนะค่ะ มาดูกันค่ะ ขออนุญาตยกข้อความของ คุณ: Joszef มาประกอบอีกทีนะค่ะ " โรงแรมที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประทับนะครับ เขาว่าไม่ใช่โรงแรม Gellert นะครับ " = ดูเหมือนจะไม่ใช่ Gellert Hotel แล้ว จริงๆด้วยค่ะ เพราะข้อมูลที่ จขกท ได้มาแจ้งว่า Gellert Hotel เปิดเมื่อวันที่ 24 กันยายน ปีค.ศ. 1918 รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาส Hungary เมื่อ ปีค.ศ. 1897 ก่อนที่จะมี Gellert Hotel ค่ะ " แต่เขาบอกว่าเป็นอีกโรงแรมนึงซึ่งในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นเมืองนี้เสียหายหนักมาก ทั้ง Royal Palace และโรงแรมที่พระองค์ที่เคยประทับซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเปสต์นะครับ ตรงใกล้ถนน Jozsef Attila utca กับถนน Apaczai Csere Janos utca อะครับ " = ถ้าเป็นบริเวณแนวของถนนทั้ง 2 เส้น ที่ คุณ: Joszef ยกมา บริเวณนั้นคือ  Sofitel Hotel ในปัจจุบันค่ะ ก่อนหน้านี้ 2 ปี คือ Hyatt Hotel แต่ก่อนหน้า ที่จะสร้าง Hyatt Hotel ขึ้นมานั้น เคยมีตึกเก่าสวยๆอยู่ตึกหนึ่งและพังทลายลงจากการทิ้งระเบิดในสมัยสงครามโลก แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าตึกที่ว่านี้ไม่ใช่โรงแรมค่ะ แต่คือ A Tozsde regi epulete หรือ ตลาดหลักทรัพย์น่ะค่ะ " รู้สึกว่าปัจจุบันได้สร้างใหม่เป็นโรงแรมชื่อใหม่ว่า Marriott Budapest หรูริมแม่นําดานูบครับ ยังไงใครทราบช่วยบอกคอนเฟริมด้วยนะครับ " = ที่นี้เรามาดูกันในประเด็นนี้นะค่ะ ก่อนอื่น Marriott Budapest Hotel ตั้งอยู่บน Duna korzo นะค่ะ แต่อีกด้านเราจะอนุโลมว่าอยู่บน Apaczai Csere Janos utca ก็คงได้ ดูแผนที่ประกอบนะค่ะ จะได้เข้าใจง่ายๆ จุดสีแดง คือ Sofitel Hotel ในปัจจุบัน จุดสีเหลือง คือ Marriott Budapest Hotel ในปัจจุบัน จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จขกท ตรวจสอบดูแล้วค่ะ ก่อนที่พื้นที่นี้จะเป็น Marriott Budapest Hotel เช่นในปัจจุบัน ที่นี่เป็นโรงแรม Intercontinental มาก่อนค่ะ สอบถามต่อไปอีกจึงพบว่า ก่อนที่ที่ตรงนี้ก็เป็นโรงแรมเหมือนกัน ซึ่งมีชื่อว่า " Duna Szallo " อาคารของโรงแรมนี้เป็นอาคารหลังเดียวที่ไม่พังทลายลงจากการโจมตีอย่างหนักในสมัยสงครามโลก จะมีก็แต่รอยสะเก็ดระเบิด หรือ กระสุนปืนต่างๆ หลังจากสงครามโลกสิ้นสุดลงก็มีการซ่อมแซมตัวอาคารนิดหน่อย และเปิดบริการในฐานะโรงแรมต่อมาอีก 20 ปี จากนั้นจึงมีการทุบตัวอาคารเก่าทิ้งและสร้างอาคารสมัยใหม่ขึ้นมาเป็น Intercontinental Hotel ต่อมาอีก ปี จึงเปลี่ยนมือไปเป็นของ Marriott Budapest Hotel อย่าง ที่เห็นในปัจจุบันนี่แหละค่ะ ดังนั้นอาจมีความเป็นไปได้ว่า Duna Szallo คือสถานที่ที่เราค้นหากัน จขกท ยังไม่ขอยืนยันนะค่ะ ขอติดต่อกับกองจดหมายเหตุแห่งชาติของ Hungary ก่อนค่ะ ใครมีความคิดเห็น หรือข้อมูลอื่นใดเพิ่มเติ่มรบกวนแนะนำด้วยนะค่ะ ค้นเจอรูป เก่าๆมาฝากค่ะ ของจริงไม่มีแล้วดูรูปแทนนะค่ะ รูปนี้จากด้านหน้าของ Duna Szallo ค่ะ ข้อมูลรูปภาพจาก http://www.bajabela.sulinet.hu/okp จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 25 วันนี้ขอแค่นี้ก่อนแล้วกันนะค่ะ มาชวนทำอาหารอยู่ดีๆ ตอนท้ายกลับพาเข้าห้องเรียนประวัติศาสตร์ซะอย่างงั้น จขกท ขอขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะค่ะ แต่เนื่องจาก จขกท ไม่มี Internet ใช้ที่บ้าน ดังนั้นขอเวลาอีก 2-3 วัน จขกท จะกลับมาทักทายอีกทีนะค่ะ สวัสดีค่ะทุกคน ปล. ขอขอบคุณพี่ติ๊ก ( tiktoth ) ที่เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ จากคุณ : Picike - [ 14 ต.ค. 48 22:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาชม และก็ มาชิม อาหารฮังเกเรี่ยน อร่อยมากเลยคะ ขอบคุณมากนะคะ.... จากคุณ : bequeen - [ 14 ต.ค. 48 23:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 27 น้องนัท..Porkolt นี่ยังไม่เคยทำทานเลยค่ะ เอาไว้พ่อบ้านพี่กลับจากทำงาน ก่อน พี่จะถามเค่้าอีกทีนะคะ มีบางเมนูหน้าตาอาหารคล้ายๆกันเลยค่ะ  เคยทำที่ทานกันชื่อฮังกาเรี่ยนค่อนข้างยาว พี่ไม่ค่อยสันทัดภาษาฮังกาเรี่ยนด้วยน่ะค่ะ แต่ Porkolt นี่ หน้าตาน่าทานดีจังเลยค่ะ ถ้าพี่ได้ลองทำเองบ่อยๆนี่ น้ำหนักพี่เพิ่มขึ้นแน่ๆเลย อิอิ.. ..ไว้รอสูตร Gulyas ของน้องนัทต่อไปละกันนะคะ..แต่พี่เซฟเอาไว้แล้วค่ะ.. ช่วงหลังๆมานี่ พ่อบ้านพี่ยังไม่มี่เวลาทำให้ทานอีกเลย แฮ่ๆ.. จากคุณ : tiktoth - [ 15 ต.ค. 48 02:04:45 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ่มาต่อเพิ่มเติมอีกนิดนึงนะคะ..ที่พ่อบ้านเคยทำทาน ""Dried beens soup with smoked pork hock""เท่าที่พี่จำได้จะมีกระเทียม มะเขือเทศ ปราปริกา(เผ็ด)พริกไทย ถั่วแดงแห้ง มันฝรั่ง ไม่แน่ใจว่าจะมีหอมใหญ๋หรือเปล่านะคะ..และมี  ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนานเหมือนกันค่ะ กว่าจะได้ทาน เพราะต้องเคี่ยว smoked pork hock นานกว่าจะเปื่อยน่ะค่ะ..น้ำซุปเหมือนน้ำแกงแดงๆเหมือนกันค่ะ อย่างที่พี่บอกคล้ายๆแกงฮังเลบ้านเราเลย..แต่น้ำจะข้นกว่าหน่อยค่ะ.. จากคุณ : tiktoth - [ 15 ต.ค. 48 02:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 น่าตาน่าทานจังค่ะ เหมือนแกงคั่วจริงด้วยแหล่ะ ขอบคุณน่ะค่ะ พอดีเลยที่บ้านปลูกพริกเชอรี่ไว้ แต่เอ จะใช้แบบสดๆเลยจะดีไหมน่ะ...แหะ แหะ พี่ติ้กก็วันไหนว่างมาสอนทำซุปถั่วหน่อยน๊า...(รึว่าส่งสูตรหลังไมค์ก็ได้จ้า) ชอบทำซุปค่ะ มันสะดวกและอุ่นกินได้หลายวัน จากคุณ : petunia lover - [ 15 ต.ค. 48 04:28:32 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ว้าวว หน้่าตาน่าทานจริงๆค่ะ เห็นครั้งแรกก็ปิ๊งเลย ไว้จะไปลองทำดู เจ้าตัวนี้ออกเสียงว่ายังไงคะ พอร์คคอลต์หรือเปล่า ขอบคุณสาระจากคุณเจ้าของกระทู้นะคะ แล้วก็คุณติ๊กด้วย น่ากินมั่กๆๆ จากคุณ : BFR - [ 15 ต.ค. 48 11:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 31 น่าทานดีนะคะ ทำไม่ยากด้วย น่าลองค่ะ ทัวร์นี่เขียนได้ละเอียดดีจัง อ่านเพลินไปเลย :) ชุดที่สาวน้อยใส่กันก็สวยดีนะ ชอบๆ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 48 15:32:20 จากคุณ : DropAtearInMyWineGlass - [ 15 ต.ค. 48 15:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แวะเข้ามาตอบเป็นเพื่อนน้องเค้าก่อนนะคะ.. น้องแอมมม..พี่ถามร้อบแล้วเรื่องพริกเชอร์รี่แล้วจ้ะ ของชอบของเค้าเช่นกัน น้องแอมใช้พริกเชอร์รี่แบบสดๆทำได้นะคะ อร่อยด้วย ถ้าเป็นแบบแห้ง ก็เก็บไว้นานได้ ถ้าดิบก็เก็บบ่มไว้จนสุกจะเปลี่ยนสีด้วย เพราะทางบ้านที่ฮังการี่เค้่ามีพริกเชอร์รี่ด้วยน่ะจ้ะ..ส่วนซุป น้องแอมรอหน่อยเน่ออ..แล้วพี่จะบอกสูตรให้นะจ้ะ.. น้องเบญ...แท้งค์กิ้วมั่กๆๆเลยจ้าา..น้องเค้าทำได้น่าทานกว่าพี่อ่ะ พี่ยังไม่เคยลองทำให้พ่อบ้านทานเลย แหะๆ.. เค้าทำให้พี่ทานไม่กี่ครั้งเองจ้ะ ใจจริงๆอยากลองทำดูเองเหมือนกันค่ะ ยังไม่รู้เมื่อไหร่เลยจ้ะ.. สวัสดีน้องอายและคุณ bequeen ด้วยน่ะค่ะ.. จากคุณ : tiktoth - [ 15 ต.ค. 48 19:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอแวะมาแปะสูตรอาหาร(ซุป)ที่พ่อบ้านเคยทำให้ทาน มาฝากทุกๆๆท่านเผื่อจะลองทำทานกันดูนะคะ..ตัวเองยังไม่ได้ลองทำเลยค่ะ แหะๆ..สูตรนี้พ่อบ้านแปลจากฮังกาเรี่ยนเป็นอังกฤษอีกทีน่ะค่ะ.. Bean soup with smoked pork hocks. Soak the smoked pork hocks and beans in water overnight in separate pots. Dump the water off the smoked pork hocks, add fresh cold water and bay leafs and cook it until the meat gets soft. Take the meat out of the sup and remove the bones, let the meat cool off and cut it into bite size pieces. Dump the water off the beans and put the beans into the sup what came off the coked pork hocks. Add the vegetables to it and start to cook slowly until the bean gets soft. Put the meat and spices to the sup, and bring it to boil. Take an egg add a little bit of salt and add some white flour and mix it until you get a firm pasta. Pinch off small pieces into the boiling sup until it's all done. Cook it until the pasta is fully coked. You could add some sour cream and or vinegar to your plate, as you like. Ingredients: 1 large smoked pork hocks 30 dkg dry beans 1 bunch of parsley 1 large tomato 1 large green paprika 3 garlic 3 bay leafs 1 table spoon of red paprika powder ground black pepper salt 1 egg 8 dkg white flour sour cream vinegar ขอให้อร่อยๆนะคะ.. แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 48 22:15:38 จากคุณ : tiktoth - [ 15 ต.ค. 48 22:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ดีค่ะดีค่ะ ชอบๆ มีอาหารฮังการเรียนมาอย่างนี้ ถูกใจค่ะ เก็บทั้ง 2 สูตรเลย ขอบคุณมากๆ ค่ะ ทั้ง คุณ Picike และคุณ tiktoth เคยไป Budapest มาเมื่อ 7 ปีที่แล้ว อยู่ 8 วันค่ะ เที่ยวทั่วเลย ดูรูปของคุณแล้วก็ทำให้นึกถึงเลยค่ะ รูปที่ 12 คือสะพานที่สร้างเป็นอนุสรณ์ของราชินี Zizi หรือเปล่าค่ะ ที่พอจะจำได้ก็มีว่าไป เมืองโรมันมา ที่เขามีภาพโมเสคน่ะค่ะ ที่นี้ต้องนั่งรถบัสออกไปไกลเหมือนกัน แล้วก็ไปเข้าอาบน้ำในอ่างน้ำโรมันน่ะค่ะ แยกเป็นเฉพาะของผู้หญิง แต่ไม่ใช่ที่โรงแรมใหญ่ๆ น่ะ ที่อยู่ตรงเนินเขาน่ะ ไปที่นั่นแต่ไม่ได้เข้าไปอ่าง อ่างที่ไปนี่ จะเก่าๆ และสำหรับคนในเมืองนะ ที่ไปเห็นจะมีเป็นหญิงสูงอายุทั้งนั้น (ดิฉันด้วย) ก็แก้กันหมดเลย มีดิฉันคนเดียวใส่ชุดว่ายน้ำ และน้ำแร่อย่างนี้ เหม็นไข่ต้มจริงๆ มีคำถามว่า น้ำแร่นี่ มาจากแหล่งเก่าเลยจริงๆ และท่อน้ำนี่สมัยเก่าเลยไหมคะ อ้อ มีร้านอาหารนึงนะ อยู่ตรงทางขึ้นไปวังน่ะค่ะ วังหลักแบบป้อมปราการที่อยุ่บนเขาน่ะ ชื่อร้านคือ Pest-Buda อร่อยมากๆ เลยค่ะ ติดใจ ก่อนกลับแวะ tourist office ก็ยังแวะเอาหนังสือสูตรอาหารฮังกาเรียนติดมาด้วย แจกฟรี แต่ว่ายังไม่เคยได้เอามาทำเลย คือว่า ไม่มั่นน่ะค่ะ ว่าจะทำได้อร่อยไหม จะรอคุณมานำเสนอสูตรอีกนะค่ะ จากคุณ : พธูไทย - [ 16 ต.ค. 48 02:43:52 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ : bequeen เข้ามาชม และก็ มาชิม แล้ว ลองทำดูด้วย ดีมั้ยค่ะ ไม่ยากจริงๆนะค่ะ คุณ : tiktoth พี้ติ๊ก วันนี้มาลงสูตร " กูยาช " แล้วค่ะ ทำง่ายๆเหมือน " เปอเกิอ " เลยค่ะ แต่ต้องใช้เวลาตุ๋นนานหน่อย ขอบคุณสำหรับสูตร Dried beens soup with smoked pork hock ที่พี่ติ๊กถามพี่ร้อบมาให้ด้วยค่ะ นัทเซฟไว้แล้ว เดี๋ยวจะลองทำค่ะ คุณ : petunia lover พี่แอม สูตร " กูยาช " มาแล้วค่ะ ลองทำดูนะค่ะ ไม่ยากค่ะ เรื่องพริกเชอรี่ พี่ติ๊กใจดีตอบให้ไปแล้ว พี่แอมชอบทำซุป เดี๋ยวถ้าคราวหน้ามีโอกาสอีกนัทจะเอาสูตรซุปใหม่ๆมาลงให้นะค่ะ อ้อ พี่แอม รูปถ่ายสวยๆของพี่แอม นัทเซฟมาติดเป็น Wallpaper บนหน้าจอโน๊ตบุ๊คนัทเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณนะค่ะ คุณ : BFR ลองทำ Porkolt ( เปอเกิด ) ดูละยังค่ะ เผ็ดมากเผ็ดน้อยตามชอบนะค่ะ วันนี้นัทมาเซพขนมโตเกียวของคุณ : BFRด้วยค่ะ ชอบกินมากๆๆๆๆ คุณ : DropAtearInMyWineGlass เห็นด้วยค่ะ ชุดประจำชาติที่สาวๆ ตัวน้อยๆใส่นี่น่ารักจริงๆ คุณ : พธูไทย วันนี้มาเพิ่มสูตร Hungarian Gulyas อาหารขึ้นชื่อของฮังการีด้วย ลองทำดูนะค่ะ ถ้าชอบอาหารฮังเกเรี่ยน จริงๆแล้วนัททำกระทู้ท่องเที่ยว Budapest ไว้ที่ห้อง Blue Planet นู้นค่ะ รายละเอียดก็มีเยอะกว่าที่เอามาลงที่ห้องแม่บ้านนี่อีก ถ้าคุณ : พธูไทยคิดถึง อยากย้อนความหลังครั้งไปเยือนฮังการีก็ลองแวะไปชมได้ค่ะ นัทลงรูปไว้เยอะเลย ส่วนรูปที่ 12 ไม่ใช่สะพานที่สร้างเป็นอนุสรณ์ของราชินี Zizi ค่ะ แต่เป็น Chain Bridge Chain Bridge เป็นสะพานที่สร้างขึ้นเป็นสะพานแรกเพื่อเชื่อมฝั่ง Buda กับ Pest เข้าด้วยกัน โดยการบริจาคเงินเพื่อสร้างสะพานนี้ขึ้นโดยท่าน Count Istvan Szechenyi Chain Bridge ถูกออกแบบโดย William Tierney Clark และควบคุมการก่อสร้างโดย Adam Clark เมื่อปี ค.ศ. 1839 - 1849 ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานแห่งนี้ได้ถูกทำลายลง แต่ได้มีการก่อสร้างขึ้นใหม่ ในปีค.ศ. 1949 ซึ่งถือเป็นวาระฉลอง 100 ของ Chain Bridge ด้วยค่ะ ส่วนสะพานที่ตั้งตมพระนามของราชินี Zizi นั้นคือ Elizabeth Bridge ค่ะ Elizabeth Bridge สะพานแขวนที่โยงด้วยสายลวดสะพานนี้สร้างขึ้นในปี 1903 และได้รับการบันทึกว่าเป็นสะพานแขวนที่โยงด้วยสายลวด ที่ยาวที่สุดในโลกจนถึงปี 1926 สะพานนี้ได้รับการตั้งชื่อตามพระนามของ  Queen Elizabeth หรือ Sisi พระชายาของ Emperor Franz Joseph สะพานถูกวางระเบิดโดยกองทัพเยอรมันในระหว่างสงครามโลก ในปี 1945 จากนั้นจึงมีการสร้างขึ้นใหม่ในปี 1964 โดย Pal Savoly คุณ : พธูไทยไปถึงฮังการีจริงๆด้วยค่ะ นัทอยู่มา 5-6 ปีแล้วยังไม่เคยไปอาบน้ำแร่เลยค่ะ พูดแล้วอายจริงๆ อิอิ ส่วนคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า "  น้ำแร่นี่ มาจากแหล่งเก่าเลยจริงๆ และท่อน้ำนี่สมัยเก่าเลยไหมคะ " = เป็นแหล่งเก่าทั้งหมดเลยค่ะ ในฮังการีมีบ่อน้ำแร่ดีๆเยอะแยะไปหมดค่ะ ส่วนท่อที่ส่งผ่านน้ำน่าจะมีอายุราวๆ 200 ปีได้แล้วค่ะ ร้านอาหารนัทไม่แน่ใจค่ะว่ายังมีอยู่รึเปล่าค่ะ ต้องลองมองหาดูหน่อยแล้ว คุณ : พธูไทยไม่ต้องห่วงเลยค่ะว่าถ้าทำเองนี่จะอร่อยไหม อาหารฮังเกเรี่ยนรสชาติคล้ายอาหารไทยค่ะ ทำไม่ยากด้วย ลองเริ่มด้วยกูยาชดูมั้ยค่ะ *** นี่เป็นรูปสะพาน Elizabeth ค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 48 01:10:37 จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 20:31:45 ]

ความคิดเห็นที่ 36 Hungarian Gulyas ( กูยาช ) Soup จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 20:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ส่วนประกอบ เนื้อวัว ๑/๒ กิโลกรัม ( ส่วนที่ดีที่สุดของสูตรดั้งเดิมคือ เนื้อส่วนที่ขาที่ติดเอ็น กูยาชของแท้ต้องเป็นเนื้อวัวเท่านั้นนะค่ะ ถ้าเป็นเนื้อสัตว์ประเภทอื่น นั้นไม่ใช่ฮังเกเรี่ยนกูยาชแล้วค่ะ) หั่นชิ้นเล็กประมาณ 1 -  1.1/2 เซนติเมตร หอมหัวใหญ่ 1 หัว มันฝรั่ง 200 กรัม แครอท 150 กรัม เกลือ ผงปาปริก้า พริกชี้ฟ้าเขียว 1 เม็ด มะเขือเทศ 1 ผล พริกแห้ง 1 เม็ด ไขมันจากเบคอน ( ถ้ามี ) *** วันนี้ จขกท ใช้เนื้อหมูแทนนะค่ะ อย่าเพิ่งตกใจไปว่าทำไมเนื้อวัว จขกท สีดูแปลกๆ แหะ ๆ จขกท ทำกินเองคนเดียวค่ะวันนี้ พ่อบ้านไม่มีโอกาสกินด้วยเพราะไม่สบาย แล้ว จขกท ก็ไม่ชอบเนื้อวัวเท่าไหร่ นอกจากลูกชิ้น อิอิ จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 20:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 38 csipetke ( ชิบเปทเก้ ) แป้งสาลีเอนกประสงค์ 6 ช้อนโต๊ะ ไข่ 1 ฟอง เกลือ จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 20:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สับหอมหัวใหญ่แล้วเอาลงผัดในน้ำมันที่ได้จากเบคอนค่ะ ถ้าเป็นสูตรดั้งเดิม แต่อนุโลมให้ใช้น้ำมันพืชหรือมาการีนก็ได้ค่ะ ผัดสักพัก แล้วปิดฝาพร้อมลดไฟลงค่ะ รอให้หัวหอมเป็นเงากระจก จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 20:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ทีนี้ก็ใส่ผงพริกปาปริก้า ผัดให้ผงพริกกับหัวหอมเข้าด้วยกัน ตรงนี้ระวังอย่าให้ไหม้นะค่ะ จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 20:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สักพักก็ให้ใส่เนื้อวัวลงไปได้เลยค่ะ จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 20:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผัดไปสักพัก พอเนื้อเริ่มตึงๆก็ไส่เกลือเข้าไปปรุงรสค่ะ จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 20:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 43 จากนั้นก็ใส่น้ำนิดนึง อย่าให้เยอะนะค่ะ เอาพอท่วมๆ ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนเนื้อเริ่มเปี่อยนุ่มค่ะ ตอนนี้ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อนนะค่ะ ระหว่างนี้ถ้าน้ำลดน้อยลงเกินไปให้เพิ่มน้ำทีละนิดๆนะค่ะ จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 20:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 44 จากนั้นก็ใส่พริกชี้ฟ้า แครรอท กับมะเขือเทศลงไปได้เลยค่ะ คนๆซะหน่อย แล้วก็ปิดฝาหม้อไว้ก่อนค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 48 21:00:19 จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 20:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ระหว่างนี้เราจะมาทำเตรียม csipetke กันค่ะ ( ไว้ตอนใกล้ๆ ใส่มันฝรั่งค่อยทำก็ได้ค่ะ ) เอาแป้งและไข่มาผสมกันค่ะ โดยใส่เกลือเข้าไปสักหยิบมือนึง ( หยิบเล็กๆ นะค่ะ ) คนๆผสมให้แป้งกับไข่เข้ากันจนได้แบบนี้ จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 20:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ทีนี้ก็พัก csipetke ไว้ก่อนค่ะ หันไปหามันฝรั่งก่อน ถึงตอนนี้ลองเปิดหม้อดูความนุ่มของเนื้อนะค่ะ ว่าใกล้เปื่อยดีละยัง ถ้าน้ำน้อยไปก็เติมน้ำเพิ่มได้ค่ะ พอเนื้อเกือบได้ที่แล้ว ก็เอามันฝรั่ง พริกแห้ง ใส่ลงไปเลยค่ะ แล้วคนๆซะหน่อย แล้วปิดฝารอให้น้ำเดือดอีกครั้ง จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 21:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 47 พอน้ำเดือดแล้ว ทีนี้ก็มาถึงเวลาของ csipetke แล้วค่ะ ให้ใช้ช้อนกาแฟ ปาด csipetke ออกจากถ้วยลงไปในหม้อ Gulyas แบบนี้นะค่ะ จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 21:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 48 กะขนาดให้ใหญ่ประมาณเมล็ดกาแฟนะค่ะ ทำไปจน csipetke หมดเลยค่ะ ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยคนแบบเบาๆมืออีกทีสัก 2-3 ครั้ง จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 21:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 49 จากนั้นก็ปิดฝาแล้วรออีกสักแป๊บค่ะ ถ้าเนื้อเปื่อยดีแล้วก็ยกลงจากเตาได้เลยค่ะ แค่นี้เราก็ได้ Hungarian Gulyas Soup แบบดั้งเดิมมาลองชิมแล้วค่ะ ( อ้อ บางพื้นที่ในฮังการีี่เค้าก็ไม่ใส่แครรอทนะค่ะ แต่รสชาติจะเหมือนกันค่ะ ) ขอให้อิ่มอร่อยกันนะค่ะ ใครลองทำดูแล้วถูกใจไม่ถูกใจยังไงรบกวนส่งข่าวบอกกันมั้งนะค่ะ จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 21:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ...Thank you kaaaa...     จากคุณ : tiktoth - [ 17 ต.ค. 48 21:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ^ ^ ^ ^ ^ ย่องมาเงียบๆเลยพี่ติ๊ก นัทตกใจหมด อิอิ วันนี้พี่ติ๊กจะให้คะแนนนัทกี่คะแนนค่ะ จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 21:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 52 น้องนัทเคยทำทานแล้วอ่ะ พี่ยังเรยยย..แต่แค่รูปที่ทำแล้ว น่าทานนมากๆๆเลยค่ะ คะแนนต้องถามพ่อบ้านน้องนัทอ่ะ ฮ่าาาา.. ปล.เห็นด้วยกับคุณพธูไทยจ้ะ ถ้าพี่ทำครั้งแรก จะออกมายังไงไม่รู้น่ะ จะดูน่าอร่อยเหมือนต้นฉบับเค้าหรือเปล่าาาาน๊อออ..นี่ถ้าพี่ไปฮังการี่ปีหน้า อาจจะฝากท้องน้องนัทด้วยเมนูสูตรนี้...ต้องขอขอบคุณคุณพธูฯเรื่องข้อมูลร้านอาหารที่ฮังการี่อีกครั้งนึงนะคะ.. จากคุณ : tiktoth - [ 17 ต.ค. 48 21:29:53 ]

ความคิดเห็นที่ 53 พี่ติ๊กๆ อย่าเอ็ดไปนะ เนี่ยนัทขอสารภาพ กูยาชหม้อนี้เป็นหม้อแรกที่ทำคนเดียวในชีวิตเลยค่ะพี่ เหอๆๆ แค่นี้คงประกันได้แล้วมั้งค่ะว่าไม่ยาก อิอิ จากคุณ : Picike - [ 17 ต.ค. 48 22:34:26 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อาหารน่าอร่อยทั้งน้านเลยครับ อย่างงี้พ่อบ้านต้องอยู่ติดบ้านแน่ๆเลยอ่ะ เรื่องโรงแรมที่พระองค์ท่านเคยเสด็จมาประทับนั้น ผมเพิ่งไปยืมหนังสือจากห้องสมุดที่ที่ทํางาน เรื่อง ตามรอยเสด็จฯประพาส ปี พ.ศ. 2440 ยุโรปในสายพระเนตร กลับมาอ่านอีกทีครับ เขาเขียนว่าในรายละเอียดอยู่ใน " Letters to the Butterflys" ซึ่งนิพนธ์โดย Carlton H. Terris หรือพระนามแฝงของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ครับ เขียนว่า พระองค์ท่านเคยทรงประทับที่โดรงแรม แกรนด์ โฮเต็ลฮุงกาเรีย ครับ และผู้เขียนเรื่อง ตามรอยเสด็จฯประพาส ปี พ.ศ. 2440 ยุโรปในสายพระเนตร เขาเขียนว่าน่าจะเป็น โรงแรมมาริออท ในปัจจุบัน จริงเท็จอย่างไรผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ผมว่าไม่น่าซีเรียสอะไรนะครับ แค่ได้ทราบว่าพระองค์ท่านเคยเสด็จมาประทับที่เมืองที่น่าอยู่มากแห่งนี้ ผมและคุณนัทก็คงปลาบปลื้มมากแล้วครับ แหม ผมก็เขียนผิดบ้างถูกบ้างบ่อยๆ ทุกคนก็ย่อมมีบ้าง ไม่งั้นคงเป็นคนที่ไม่ได้ทําอะไรเลย คุณนัทคงไม่ต้องซีเรียสหรอกครับ เรื่องเล็กน้อยมั้กๆ ข้อมูลกระทู้ก็ยังดีเยี่ยมเหมือนเดิมครับ จากคุณ : Joszef - [ 17 ต.ค. 48 23:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณมากๆ เลยค่ะสำหรับสูตรซุป ตอนที่ไปนั้น มีงานเลี้ยงรับรองเล็กๆ ด้วยซุปนะ แต่ว่ามีแต่น้ำๆ เนื้อน้อยมาก กินไม่อิ่มเลย แต่ว่าน้ำซุปนั้นใช้ได้เลยค่ะ ถึงจะไม่อิ่มก็เถอะ ราชินี Sisi ไม่รู้เขียนอย่างไร เรียก Elisabeth ละกัน ดิฉันก็ซื้อหนังสือประวัติมาด้วย อ้อ อีกอย่างเพราะว่าไปเที่ยวต่อที่เวียนนาน่ะค่ะ ทริปนั้น เลยค่อนข้างจะจำเรื่องได้ เพราะว่าเป็นราชินีที่เดินทางไปทั่ว แทบไม่พักที่ใดนานๆ แล้วถ้าจำไม่ผิด พูดถึงเรื่องที่สูญเสียลูกไป กับเรื่องความรักมากมายของสามี แล้วก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับคนที่มีทุกๆ อย่าง แต่ว่าไม่มีความสุขจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของชีวิต คุณติ๊กคะ ร้าน Pest Buda นี่ ไปให้ได้ค่ะ ร้านเล็กๆ นะ จัดร้านดี อาหารอร่อย ราคานั้นถ้าจ่ายโดยเงินดอลล่าร์นี่ เรียกว่าถูกได้เลยค่ะ สั่งเมนูอาหารแนะนำของร้านนะคะ กินจนท้องแตกเลยค่ะ อร่อยหมดทุกอย่าง (ในเมนูนั้น) คิดถึงฮังการีทีไร จะคิดถึงที่ร้านอาหารนี้ทุกครั้ง ถ้าจำไม่ผิดนะ เหมือนจะมีร้านตรงลานกว้างๆ ที่จอดรถหรือเปล่า อยู่ไม่ไกลหรืออยู่หน้าทางเข้าวังเก่านี้ มีร้านขายขนมพาทิเซอรี่นะ อร่อยมากๆ ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่รสชาติคล้ายๆ โดนัท ดิฉันกินแบบไม่ยั้งเลยคุณ ถ้ากินตอนร้อนๆ สดๆ จะอร่อย แต่พอซื้อมาแล้วทิ้งไว้ข้ามคืนจะไม่อร่อยแล้ว มีอีกอย่างที่ชอบนะ คือระบบรถไฟใต้ดิน ที่น่าจะเป็นรถไฟสายแรกๆ ของโลกเลยนะ ลักษณะสถานีและรถไฟก็ยังเก่าๆ อยู่ นั่งแล้วรู้สึกดีมากเลย ไม่เหมือนรถไฟรูปร่างสมัยใหม่ แล้วจะตามไปดูท่องเที่ยวฮังการีละกัน เผื่อจะระลึกความหลังได้มากขึ้นอีก ตอนนั้นยังไม่มีกล้องดิจิตอลเลย เก็บภาพไว้ในความทรงจำเสียมากกว่า จากคุณ : พธูไทย - [ 18 ต.ค. 48 01:07:44 ]

ความคิดเห็นที่ 56 น่ากินอีกแล้วคุณนัท ตามมาเก็บสูตรค่ะ จดดๆๆๆๆ อยากลองทำมากเลย จากคุณ : BFR - [ 18 ต.ค. 48 04:19:25 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คุณโจ แว๊บมาตามเหรอค่ะ อิอิ ช่วงนี้ขออู้นะค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ งั้นสรุปว่าขอมูลที่คุณให้นั้น มาจากพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖ ใช่มั้ยค่ะ ยังไงก็ตาม นัทเห็นด้วยค่ะ เป็นที่น่าปลาบปลื้มอย่างยิ่งที่ได้รู้ว่าพระองค์ท่านได้เสด็จประพาสและประทับที่กรุงบูดาเปสต์ เมืองที่เป็นสุดยอดของความประทับใจแห่งหนึ่งของใครๆหลายๆคน รวมทั้งคุณโจ และนัทด้วย จากคุณ : Picike - [ 19 ต.ค. 48 20:01:44 ]

ความคิดเห็นที่ 58 แวะรอบแรก แอบเก็บสูตรแต่ไม่ได้ลงชื่อค่ะ วันนี้เข้ามาดูเครื่องปรุงอีกทีจะได้ไปซื้อถูก  ดีใจเห็นอีกสูตร รวมของคุณติ๊กด้วย จดค่ะจด อยากทำเพราะไม่เคยชิมอาหารฮังกาเรียนเลยค่ะ จากคุณ : ตรีนุช3903 - [ 19 ต.ค. 48 23:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 59 โห  พี่นัท  มายั่วน้ำลายกันอีกแล้ว  เดี๋ยวว่าง ๆ ต้องลองทำตามซะแล้วว จากคุณ : ชั้นนี่แหละ...หมาหัวเน่า - [ 20 ต.ค. 48 19:28:56 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ส่งการบ้าน Porkolt  ค่ะ อร่อยมากๆและขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้ไก่ทำและกินกะมันฝรั่งเหมือนคุณครูเลยค่ะ รูปเล็กไปนิดนะคะ เพราะถ่ายไปถ่ายมากล้องเจ๊งซะแล้ว เลยอดถ่ายกูยาชเลยค่ะ เพราะลองทำเหมือนกัน จากคุณ : ตรีนุช3903 - [ 24 ต.ค. 48 21:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ้าว รูปไม่ไปค่ะ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ตรีนุช3903 - [ 24 ต.ค. 48 21:13:31 ]