ความคิดเห็นที่ 16
ถ้าอ่านประวัติชีวิตของ Rossetti นั้น จะพบว่าพี่ชายของเธอทั้งสองคน อยู่ในแวดวงกวีและงานศิลป์ และได้ก่อตั้งชมรม Pre-Raphaelite Brotherhood ขึ้น เพื่อให้หนุ่มๆ สมัยนั้นได้แสดงออกในด้านศิลป์
Rossetti เอง ถึงแม้จะไม่ได้เข้าเป็นสมาชิกในชมรมนี้เนื่องจากเป็นหญิง และอุปนิสัยที่ไม่ชอบแสดงออก แต่สมาชิกในชมรมต่างก็ยอมรับเธอโดยดี และรับบทกวีของเธอไปตีพิมพ์ลงในนิตยสารของชมรมด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ คิดว่า Rossetti คงไม่ได้เขียนกลอนบทนี้ขึ้นเพื่อประชด เพราะถูกเหยียดความสามารถหรอก
ถ้าอ่านบทกวีของเธอ จะพบว่าส่วนใหญ่แล้ว จะเกี่ยวโยงซ่อนเงื่อนพาดพิง ถึงชีวิต ความตาย พระเจ้า (เพราะความที่เคร่งศาสนา) เธอชอบแต่งบทที่เกี่ยวกับสัจจธรรม แบบปลงแล้วอะไรแบบนั้น มากกว่าที่จะมาเสียดสีประชดประชัน อาจเป็นเพราะอุปนิสัยของเธอด้วยก็ได้ ถ้าจำไม่ผิด เธอจะแต่งบทกลอนอยู่หนึ่งบทครึ่ง (เพราะอีกบทแต่งไม่จบ) เพื่อประชดพี่ชายและเพื่อนพ้องในชมรม Pre-Raphaelite Brotherhood นอกนั้น ยังนึกไม่ออกว่ามีบทอื่นอีกหรือไม่ ถ้าใครนึกออก ช่วยบอกด้วยค่ะ
กลับมาที่ Up-Hill ในความเห็นส่วนตัว และความรู้สึกนั้น เธอเขียนเกี่ยวกับสัจจธรรมของชีวิตว่า ทุกคนเกิดมาแล้ว ต่างต้องฝ่าฝันอุปสรรคมากมายหลายรูปแบบกันมา แต่แล้วในที่สุด ก็ต้องไปยังสถานที่แห่งเดียวกันทั้งนั้น อย่างไรก็ดี ความตายมิใช่สิ่งที่น่ากลัว เพราะ Rossetti หยอดท้ายไว้ว่า Yes, beds for all who come. ทำให้รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ความสบาย ไม่ได้น่ากลัวเลย
เอามาให้อ่านกันอีกสองบทครึ่ง นอกเหนือจากบทดังๆ ของเธอ (Remember) ลองสังเกตดู จะเห็นว่า Rossetti ชอบใช้คำง่ายๆ อ่านเข้าใจได้สบายๆ แต่เลือกคำได้เหมาะมาก ทำให้คนอ่านเห็นภาพได้ชัดเจน และบางขณะสัมผัสได้อีกต่างหาก แต่เธอจะแฝงความหมายอื่นในบทนั้นด้วยหรือไม่ คงเป็นอีกประเด็นแล้วล่ะ
============== "Grown And Flown" ============== I loved my love from green of Spring Until sere Autumn's fall; But now that leaves are withering How should one love at all? One heart's too small For hunger, cold, love, everything.
I loved my love on sunny days Until late Summer's wane; But now that frost begins to glaze How should one love again ? Nay, love and pain Walk wide apart in diverse ways.
I loved my love - alas to see That this should be, alas! I thought that this could scarcely be, วายอีที has it come to pass: Sweet sweet love was, Now bitter bitter grown to me.
============ "De Profundis" ============ Oh why is heaven built so far, Oh why is earth set so remote? I cannot reach the nearest star That hangs afloat.
I would not care to reach the moon, One round monotonous of change; วายอีที even she repeats her tune Beyond my range.
I never watch the scattered fire Of stars, or sun's far-trailing train, But all my heart is one desire, And all in vain:
For I am bound with fleshly bands, Joy, beauty, lie beyond my scope; I strain my heart, I stretch my hands, And catch at hope.
=============== "In the bleak Mid-winter" =============== In the bleak mid-winter Frosty wind made moan, Earth stood hard as iron, Water like a stone; Snow had fallen, snow on snow, Snow on snow, In the bleak mid-winter Long ago.
บท In the bleak Mid-winter นี้ เอามาให้อ่านแค่บทต้น เพราะอยากถามว่า อ่านแล้วสัมผัสถึงความหนาวเย็นเยือกกลางฤดูหนาวกันได้บ้างหรือเปล่า
จากคุณ :
o;]
- [
วันมาฆบูชา 17:48:07
A:61.47.106.10 X: TicketID:012689
]
|
|
|