ความคิดเห็นที่ 1 จากหลักฐานที่เป็นบันทึกของ เดเซซาส ( ที่ปินโต้ใช้) ระบุถึงกองทัพรับจ้างของโปตุเกส ในสมัยของพระไชยราชาสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 จนถึงสมัยพระชัยราชา ประมาณว่ามีอยู่ 200 -500 คน จนถึงสมัยพระนเรศวร โปตุเกสพ่ายสเปญ ทหารรับจ้างชาวโปตุเกส-สเปญยังพอมีอยู่ ในกองทัพพระเนศวร แต่พอพ้นสมัยพระเอกาทศรถ ชาวฝรั่งเศสมีจำนวนมากขึ้น บทบาทของชาวโปตุเกสลดลง ( งานประวัติศาสตร์โปตุเกสในสยาม มีขายที่แพร่พิทยา เซ็นทรัล) หมู่บ้านโปตุเกส อยู่ทางใต้เกาะเมือง มีนักบวชชาวโปตุเกสอาศัยอยู่จนถึงปลายอยุธยา แต่มีจำนวนไม่มากนักไม่เกิน 10 คน ส่วนมากเป็นพวกเข้ารีตที่ขุดพบศพฝังอยู่เป็นจำนวนมากบริเวณบ้านโปตุเกส โบสถ์นักบุญยอแซฟหลังที่เห็นในปัจจุบัน( ทางใต้ของเกาะเมือง) สร้างขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 4 ส่วนโบสถ์เดิม เป็นโบสถ์ไม้กึ่งปูน น่าจะเป็นชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาในสมัยพระนารายณ์เป็นต้นมา สร้างไว้และถูกเผาทำลายในสงครามครั้ง 2303 และ 2310 ( อ่านบึนทึกชาวต่างประเทศ นักบวชในนิกายเยซูอิค) จากคุณ : วรณัย - [ 11 มี.ค. 49 13:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : i to u - [ 12 มี.ค. 49 00:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เพิ่มเติมนะครับ  เกี่ยวกับบริเวณหมู่บ้านโปรตุเกส เมื่อตอนน้ำท่วมหนักเมืองไทย 2 ปีซ้อน ปี 2538 กับ 2539  จ.อยุธยาได้มีน้ำท่วมหนักมากในปีแรก  ท่วมราวๆ 3 เดือน  ผู้คนประกอบอาชีพไม่ได้  แต่พอปีหลังได้รับอานิสงส์ที่ควีนแอลิซาเบธเสด็จเมืองไทยและเสด็จมาอยุธยา  น้ำจึงท่วมอยุธยาไม่ได้เด็ดขาด จึงต้องผันน้ำจากภาคเหนือลงสู่ลุ่มน้ำสุพรรณบุรี (ท่าจีน) ทั้งหมด  และปี 2539 จึงเป็นปีโศกเศร้าของชาวลุ่มน้ำท่าจีนทั้งมวล ปี 2538 ที่น้ำท่วมหนักนั้น  หนักน่ากลัวจริงๆ ครับ  โบราณสถานในเกาะเมืองอยุธยาขณะนั้นอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่า  "ต้องปล่อยตามบุญตามกรรม"  ขนาดชีวิตคนเป็นๆ ยังลำบากยากเข็ญ  คงไม่ต้องไปนึกถึงเรื่องอนุรักษ์ในตอนนั้นเลยครับ ยังมีต่อ จากคุณ : nickmee - [ 12 มี.ค. 49 13:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 บริเวณหมู่บ้านโปรตุเกสนี้ก็เช่นเดียวกัน  ทางราชการก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ  เมื่อน้ำเริ่มท่วมครั้งแรกๆ เขาก็มากั้นทำนบไว้ แต่เนื่องจากอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา  และเป็นการท่วมที่เนิ่นนานเกินควร  พอน้ำสูงขึ้นจัดก็บ่าท่วมลงหลุมโครงกระดูกโบราณที่ถูกขุดแต่งเพื่อแสดงเป็นนิทรรศการให้คนได้ชม ผมไม่รู้ว่าท่วมโครงกระดูกนั้นอยู่นานเท่าไร  เพราะวันที่ไปดูน้ำท่วมสูงใหม่ๆ  และวันนั้นน้ำก็ไหลลงหลุมเรียบร้อยแล้ว  พอจะขับรถไปดูอีกที  ถนนก็ถูกตัดขาดหมด แม้แต่ถนนเข้าวัดไชยวัฒนารามที่เปรียบเสมือนปราสาทหินนครวัดเมืองไทย  น้ำก็ท่วมถึงอก  บางจุดก็มิดหัว ผมพอทราบมาว่า  เนื่องจากเป็นโครงกระดูกโบราณ  พอถูกน้ำท่วมนิดหน่อยก็ผุสลายอย่างรวดเร็ว  กระดูกในหลุมที่โผล่เหนือดินเหล่านั้นคงถูกย่อยสลายไปหมด ภายหลังไปแวะเยี่ยมเยียนซ้ำ  ก็ยังเห็นโครงกระดูกเยอะเท่าๆ เดิม ไม่รู้ว่าเป็นโครงกระดูกชั้นใต้ลงไปที่เขาขุดขึ้นมาใหม่  หรือเป็นกระดูกเดิมที่เหลืออยู่แน่ ใครรู้ช่วยบอกบ้างครับ ยังมีต่อ จากคุณ : nickmee - [ 12 มี.ค. 49 13:56:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อสักครู่นึกไปพิมพ์ไป  แต่พอส่งแล้วข้อความหายหมดเลย  ทำยังไงก็ไม่ออก  เสียดายจริงๆ  เลยต้องพิมพ์ซ้ำใหม่อีกครั้ง  ความคิดเลยไม่ต่อเนื่อง  สะดุดกึกเลยครับ จากคุณ : nickmee - [ 12 มี.ค. 49 15:00:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สิ่งก่อสร้างที่ทำคลุมกลุ่มโครงกระดูกที่ขุดค้นเหล่านั้น  รุ่นก่อนน้ำท่วม  เป็นโครงไม้ธรรมดา  ลมพัดผ่านสะดวก  หลังคาจั่วเหมือนที่ทำคลุมเตาเผาอิฐมอญ  ดูเหมือนจะมีแค่จั่วเดียว  หลังคาคิดว่าน่าจะเป็นสังกะสีหากจำไม่ผิด  มีรูปถ่ายไว้  ต้องใช้เวลาค้นหานานหน่อย ส่วนรุ่นหลังน้ำท่วม  ทางการได้สร้างเป็นอาคารใหญ่โตคลุม  ผนังทึบ  รูปทรงเหมือนกับโบสถ์คริสต์ปัจจุบัน  ส่วนรอบๆ ก็เอาอิฐทำใหม่มาก่อเรียงไว้มากกว่าเดิม จากคุณ : nickmee - [ 12 มี.ค. 49 15:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 pic [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : p (ปลาทองสยองเมือง) - [ 12 มี.ค. 49 16:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ้า ศาลนักบุญเปโตรและเปาโลแบบไทยๆ จากคุณ : p (ปลาทองสยองเมือง) - [ 12 มี.ค. 49 16:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รูปวิวมุมกว้างของบ้านโปรตุเกสครับ จากคุณ : p (ปลาทองสยองเมือง) - [ 12 มี.ค. 49 16:19:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อันนี้โบสถ์นักบุญยอแซฟ หันหน้าไปทางทิศตะวันตกลงแม่น้ำตามแบบโบสถ์คริสต์ทั่วไป จากคุณ : p (ปลาทองสยองเมือง) - [ 12 มี.ค. 49 16:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โบสถ์นี้สร้างแบบโรมันเนสก์ (แต่ก็มีเจือลักษณะของเรอเนสซองหน่อยๆ) รูปทรงคล้ายกับโบสถ์คอนเซปชัญที่กทม จะเห็นได้ว่าแม้ว่าจะสร้างรูปแบบตะวันตก แต่ก็ใช้หลังคาโครงไม้ ไม่ใช่หลังคาก่ออิฐแบบ barrel vault ซึ่งเป็นทรงโค้ง เป็นเพราะกำแพงไม่สามารถรับน้ำหนักได้เพราะต้องใส่กระจกสีจำนวนมาก หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าวงโค้งเหนือประติมากรรมบางรูปเริ่มเบี้ยวแล้ว เนื่องจากตอนปฏิสังขรณ์ไม่ได้เสริมความมั่นคง ถ้าผมจำไม่ผิดรู้สึกว่าคนออกแบบโบสถ์หลังปัจจุบันนี้จะเป็นคนเดียวกับที่ออกแบบหัวลำโพง? จากคุณ : p (ปลาทองสยองเมือง) - [ 12 มี.ค. 49 16:44:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 นี่คือ กระจกสีบริเวณ chapel ที่เป็นปีกของโบสถ์ (transept) สังเกตที่โลงเป็นโลงที่เก็บกระดูกมิชชันนารีสมัยอยุธยา ถ้าจำไม่ผิดจะมีของบาทหลวงเดอ ชัวสีร์ด้วย (รอผู้รู้มาจอบ) สังเกตว่าโบสถ์นี้มีพัดลมแยะมากกกกกกกกกกกกกก เนื่องจากติดกระจกสีเข้าไปแล้วร้อนตับแลบ เมืองนอกอาจจะใช้ได้ดีเพราะเค้าหนาว แต่เมืองไทยน่ะสิครับ จากคุณ : p (ปลาทองสยองเมือง) - [ 12 มี.ค. 49 16:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วจะมีชาวโปรตุเกสที่แต่งงานกับคนไทยบ้างไม๊อ่ะคะ จากคุณ : i to u - [ 13 มี.ค. 49 01:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เยอะแยะครับ บรรพบุรุษผมคนนึงก็เป็นโปรตุเกส (แต่ผมหน้าลาวมั่กๆ) มันหลายรุ่นแล้วอะ จากคุณ : p (ปลาทองสยองเมือง) - [ 13 มี.ค. 49 11:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อยากถามคุณ p (ปลาทองสยองเมือง) อีกนิดน่ะค่ะ บรรพบุรุษของคุณ เป็นคนแถวไหนอ่ะคะ ใช่บริเวณใกล้ๆบ้านโปรตุเกสรึป่าวคะ คือเราสงสัยว่า ทำไมคนสูงอายุแถวๆนั้นอ่ะ หน้าตาจะคล้ายๆๆฝรั่งเยอะน่ะค่ะ เพราะบรรพบุรุษเราก้อคล้ายเหมือนกัน จากที่ฟังบอกเล่ามา อยากรู้เกี่ยวกับบรรพบุรุษตัวเองนะคะ แต่ระยะเวลามันผ่านมานานจนไม่รู้จะตามสืบได้ที่ไหน จากคุณ : i to u - [ 14 มี.ค. 49 00:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อยู่ในกรุงเทพครับ อย่าลืมนะครับว่าชุมชนต่างชาติในกทม มีมากมาย ไม่ต้องสืบค้นไปถึงอยุธยาหรอกครับ (หาหลักฐานยาก) เท่าที่นึกออกก็ชุมชนกุฏีจีน โบสถ์ซางตาครูส ชุมชนโบสถ์กาลหว่าร์ (มีสถานทูตโปรตุเกสอยู่ใกล้ๆ) ชุมชนบ้านเขมร (แต่ก็มีชาวโปรตุเกสด้วย) ชุมชนบ้านญวน (อันนี้น่าจะเป็นญวนเข้ารีต แต่ไม่มีชาวตะวันตก)ตรงสามเสน บางทีบรรพบุรุษคุณอาจเป็นชาวตะวันตกชาติอื่นๆก็ได้ครับ เท่าที่ดู คนเก่าคนแก่ในชุมชนเหล่านี้หน้าตาไปทางตะวันตก หรือเด็กๆบางคนก็ยังมีเชื้อหลงๆมาอยู่เลยครับ จากคุณ : p (ปลาทองสยองเมือง) - [ 14 มี.ค. 49 09:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตระกูลเราพื้นเพ เป็นคนอยุธยาทั้งฝ่ายพ่อและแม่เลยล่ะค่ะ ทางตากับยาย บ้านอยู่แถวๆละแวกนั้นมาตลอด จากที่ฟังคนเก่าแก่เล่าให้ฟังมา เค้าบอกว่าตาทวดเหมือนฝรั่งมาก ผมสีนำตาล ตาสีนําตาลอ่อนๆๆ จนมาถึงยายของเราก็ยังเหมือน และมาถึงแม่เราก็โดนทักอยู่บ่อยๆว่าเป็นฝรั่งรึเปล่า ก้อมาถึงรุ่นเรานี่แหละค่ะ ที่ดูจะไม่หลงเหลือเลย 55 ก็เลยรู้สึกสงสัย แต่ก็ถามใครก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเป็นชาติใด คนที่พอจะรู้บ้างก็คงไม่เหลือให้ถามซะแล้ว มันคงผ่านมานานเกินไปแล้วมังคะ เสียดายจัง จากคุณ : i to u - [ 14 มี.ค. 49 23:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ได้เข้ามา 2-3 วัน  เห็นรูปจากคุณปลาทองสยองส่งมาให้แล้วเห็นภาพพจน์เลย  ไม่ต้องนึกให้ลำบาก ยังไง จขกท อย่าลืมนับญาติกับเรามั่งก็แล้วกัน  พื้นเพเราส่วนหนึ่ง  (นิดหนึ่ง) ก็อยู่ทางเสนาเหมือนกัน  ไกลกันหน่อยนะ  เขาบอกว่าเป็นไทยแท้ แต่ตอนหลังปนเปกันไปหมด  หลายชาติหลายภาษาเหลือเกิน  แต่บางสายก็สืบค้นได้ไปถึง 200 ปีเชียวนะ ขยันค้นขยันถามพวกท่านหน่อยก็แล้วกัน อย่าปล่อยให้คนแก่ที่บ้านเหงานะ จากคุณ : nickmee - [ 15 มี.ค. 49 13:06:32 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความจริงหัวข้อนี้โพสต์ผิดไปที่กระทู้ประชุมพงศาวดาร http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4176476/K4176476.html พอกลับมาอ่านตรงนี้แล้วเลยเรื่องที่สนทนากันไปไกลแล้ว  ขอลงหน่อยหนึ่งนะครับ พอดีเพิ่งไปซื้อหนังสือมาเมื่อวันจันทร์  เห็นหนังสือเก่าเล่มหนึ่งของศึกษาภัณฑ์  เป็นนิยายอิงพงศาวดารสมัยพระนเรศวร  ชื่อว่า “ดาบนันทกาวุธ” ของ “ฉันทิชย์ กระแสสินธุ์”  ราคา 20 บาทเองครับ  แต่ใกล้จะหมดแล้ว เปิดอ่านผ่านๆ ตอนแรกๆ เห็นพูดถึง  “ฝรั่งโปจุเกต”  อาจมีเรื่องเกี่ยวกับชีวิตทหารฝรั่งในนี้บ้างก็ได้ ในหนัง “สุริโยไท” ก็มีฝรั่งรับจ้างถือปืนไปยิงสู้กับพม่าอยู่หลายตอนนะครับ  ต้องสังเกตดีๆ จากคุณ : nickmee - [ 15 มี.ค. 49 13:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไปหามาแล้วค่ะ มันไม่มีอ่ะค่ะ แอบเส้านิดนึง จากคุณ : i to u - [ 19 มี.ค. 49 23:12:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่เป็นไรน้อง  ใจเย็นๆ   มีหนังสือของกรมศิลปากรเล่มหนึ่งนะครับ   รู้สึกว่าจะพิมพ์ฉลองโอกาสความสัมพันธ์ 300 ปี ไทย-โปรตุเกส หมดรึยังไม่รู้ครับ แต่ถึงหมด  ที่นั่นก็มีหนังสือแปลจากเอกสารของชาวต่างประเทศที่มาเมืองไทยสมัยอยุธยา  มีมากครับ เรายังมีเวลาศึกษาอีกมากครับ จากคุณ : nickmee - [ 20 มี.ค. 49 21:09:13 ]