ครั้นถึงวันที่ ๖ ตุลาคม มีพยานปรากฏว่า พระยอดภายในแตกมีพระบุพโพออก แต่นั้นมาพระอาการก็ทรุดลงรวดเร็วอย่างน่าใจหาย ภายใน ๓ วันเท่านั้น และสมเด็จพระนางเจ้าพระอัครมเหสีทรงหายพระทัยครั้งสุดท้าย ในวันที่ ๑๐ ตุลาคม พุทธศก ๒๓๙๕ เพลา ๖ นาฬิกาหลังเที่ยง เสียงโศกาลัยอาดูรภาพปริเทวะนาการแห่งพระประยูรวงศาข้าหลวงในราชสำนักขณะนั้นดังสร้าสนั่น น่าอเนจอนาถยิ่งนัก
ได้สรงพระศพพระนางเจ้า และทรงเครื่องขัตติยมราภรณ์ศุกลัม ตามพระราชประเพณีพระอัครมเหสีอันสูงศักดิ์ สมพระเกียรติยสอย่างเต็มที่ ห่อด้วยกัปบาสิกะ เศวตพัสตร์หลายชั้น แล้วเชิญลงพระลองทอง และสวมพระชฎากษัตริย์เหนือพระศิโรเพศประกอบพระโกศทอง แห่จากพระตำหนักพระอัครมเหสีในราตรีนั้นสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ประดิษฐานไว้เหนือพระแท่นแว่นฟ้า ตรงที่ตั้งพระบรมศพพระบาทพระสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
คัดลอกจาก ส.พลายน้อย ซึ่งนำมาจากพระนิพนธ์ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ เรื่อง พระประวัติและพระอาการประชวร สมเด็จพระนางเจ้าโสมนัสวัฒนาวดี
แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 49 13:36:31
จากคุณ :
nickmee
- [
11 เม.ย. 49 10:24:45
]