ความคิดเห็นที่ 1 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  รัชกาลที่ 9 ...รศ.ธงทอง   จันทรางศุ  เรียบเรียง... 2470   เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม  พุทธศักราช  2470  ณ โรงพยาบาลเมานท์ออเบอร์น  เมืองเคมบริดจ์  รัฐแมสสาชูเสตต์   ประเทศสหรัฐอเมริกา  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  พระราชโอรสในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  ได้เสด็จพระราชสมภพ  ในครั้งกระนั้นไม่มีใครหยั่งทราบได้ว่า  พระราชกุมารพระองค์น้อยจะได้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของสยามประเทศในอนาคต จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 2471    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ทรงมีพระเชษฐภคินี คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา  และสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช คือ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอนันทมหิดล  พระบรมฉายาลักษณ์ภาพนี้ ฉายเมื่อวันที่  20  กันยายน  พุทธศักราช  2471  ที่เมืองโลซานน์  สวิสเซอแลนด์ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:30:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 2472    เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เจริญพระชนมพรรษาได้เกือบ 2 ปี  มีเหตุสำคัญเกิดขึ้นในพระชนมชีพ  ด้วยสมเด็จฯ พระบรมราชชนก  ซึ่งทรงทำงานหนักเพื่อคนอื่นมาตลอดเวลา  สวรรคตเมื่อวันที่  24  กันยายน  พุทธศักราช  2472  คงมีแต่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  ทรงเป็นผู้อภิบาลรักษาพระราชโอรส และพระราชธิดาทั้ง 3 พระองค์  พระบรมฉายาลักษณ์ภาพนี้  ฉายเมื่อวันที่  20  กันยายน  พุทธศักราช  2472  ที่วังสระปทุมเพียง  4 วัน ก่อนหน้าวันสวรรคตของสมเด็จฯ พระบรมราชชนก จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 2473    ในสมัยเมื่อประทับอยู่ที่วังสระปทุมนั้น  ผู้ทรงเป็นเจ้าของวังคือ  สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี  ผู้ทรงเป็นพระอัยยิกาในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  เจ้านายน้อย ๆ ทั้ง 3 พระองค์  จึงได้ทรงพำนักอยู่ในรั้ววังแห่งนั้นด้วยความสงบร่มเย็นใต้พระบารมี  บางคราวได้เสด็จออกงานพิธีข้างนอกวังตามควรแก่โอกาส  เช่น  งานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติครั้งที่  2  ที่พระราชอุทยานสราญรมย์  เมื่อเดือนกรกฎาคม  พุทธศักราช  2473  เป็นต้น จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 2474    ในปีนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ทรงเข้าโรงเรียนเป็นครั้งแรกที่โรงเรียนอนุบาลของมิสซิสเดวีส  อันเป็นโรงเรียนขนาดเล็กเปิดสอนกันเองที่บ้าน  ในเวลานั้น พระเชษฐภคินีทรงเป็นนักเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่  2  โรงเรียนราชินี  ส่วนสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช  ทรงเรียนอยู่ชั้นอนุบาลปีที่  2  โรงเรียนมาแตร์เดอี จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 2475    ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่มิสซิสเดวีส  และครอบครัวเดินทางกลับประเทศ  โรงเรียนอนุบาลเล็ก ๆ  ต้องปิดไป  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช จึงทรงย้ายมาเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอี แต่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอันยิ่งใหญ่กว่านั้นยังมีอีก นั่นคือ  การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบราชาธิปไตย  มาเป็นระบอบประชาธิปไตย  ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เมื่อเดือนมิถุนายน  พุทธศักราช  2475 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 2476    เมื่อบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปดังนั้นแล้ว สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี  ทรงเห็นว่าสภาพบ้านเมืองไม่เรียบร้อย  อาจมาพัวพันกับพระราชนัดดาของท่านได้  จึงโปรดให้พระราชนัดดาทั้ง 3 พระองค์ไปศึกษาและรักษาพระพลานามัยที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์  เมื่อเดือนพฤษภาคม  พุทธศักราช  2476 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:33:11 ]

ความคิดเห็นที่ 8 2477    เป็นปีที่นำความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงมาสู่ราชสกุลมหิดล  ด้วยเหตุว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงสละราชสมบัติ  พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลจึงเสด็จขึ้นผ่านพิภพเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่  8  ในพระมหาจักรีบรมราชวงศ์  พระราชสถานะของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ในเวลานั้นจึงทรงเปลี่ยนแปลงไปด้วย  ด้วยทรงดำรงอยู่ในฐานะพระอนุชาในแผ่นดินใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:33:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 2478   จนปีรุ่งขึ้น  ในวันที่ 10 กรกฎาคม  พุทธศักราช  2478  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  จึงทรงได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช  ชีวิตใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปดังนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกนักสำหรับเด็กชายที่อยู่ในวัยกำลังเล่นกำลังเรียน  แต่ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครไปห้ามโชคชะตาและวันเวลาให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ได้ สมเด็จพระบรมราชชนนีซึ่งทรงอยู่ในที่ลำบากพระราชหฤทัยเป็นที่สุด  ทรงได้แต่เพียงตั้งความหวังว่าขอให้ได้ทรง “มีโอกาสอบรมลูกให้เป็นคนดี  จะได้ทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองได้” จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:34:15 ]

ความคิดเห็นที่ 10 2479    “พระเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ”  อาจจะฟังดูยิ่งใหญ่ และหรูหรามากนักสำหรับคนทั้งหลาย  แต่สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2 พระองค์  แล้วทรงเป็นพี่น้องที่รักกันมาก  พระเกียรติยศที่ทรงได้รับในฐานะที่ทรงเป็นเจ้านาย มิได้เป็นอุปสรรคในการที่จะทรงสนุกสนานกันตามประสาเด็กที่เหมาะแก่พระชามายุ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 2480    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ทรงมีพระราชอัธยาศัยโปรดการกีฬา  และงานช่างมาตั้งแต่พระชนมายุยังน้อย  การที่ประทับอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ในเวลานั้น  แม้จะทรงอยู่ห่างไกลจากเมืองไทย  แต่ก็มีคุณอยู่มาก  เพราะได้ทรงพบเห็นอะไรหลายอย่างที่เป็นประโยชน์แก่หน้าที่ของพระมหากษัตริย์ในเวลาต่อมา  ในปีนี้สายพระเนตรสั้นลงเป็นเหตุให้ต้องทรงฉลองพระเนตรนับแต่นั้นมา จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:35:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 2481    ปลายปีพุทธศักราช  2481  ราชสกุลมหิดลทั้ง 4 พระองค์  ได้เสด็จกลับมาเมืองไทยชั่วคราว  เพื่อให้ประชาชนเฝ้าชมพระบารมี  ครั้งนั้นเป็นคราวแรกที่คนไทยได้เห็นพระเจ้าอยู่หัวพระองค์น้อย ๆ และพระอนุชา  เสียดายแต่ว่าทรงมีเวลาอยู่ในเมืองไทยเพียงไม่กี่เดือน  ก็ต้องเสด็จกลับไปทรงศึกษาต่อท่ามกลางความอาลัยรักและภักดีของพสกนิกรทั้งปวง จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 2482    เสด็จกลับไปสวิสเซอร์แลนด์ได้ไม่นาน  มหาสงครามโลกครั้งที่  2  ก็เริ่มขึ้นเมื่อเดือนกันยายน  พุทธศักราช  2482  สมเด็จพระบรมราชชนนีทรงตัดสินพระราชหฤทัยที่จะประทับอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์ต่อไป  ด้วยทรงเห็นว่าเป็นประเทศที่เป็นกลาง  การสงครามรบพุ่งกันคงไม่เป็นอันตรายต่อราชสกุลมหิดล จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 2483    ทุกปีในเวลาหยุดหน้าร้อน  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง 2 พระองค์ได้เสด็จประพาสตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ บางที่เขาจัดให้มีการออกกำลังกายบริหารทุกวัน มีบ่อน้ำให้ว่ายเล่น  หรือได้ตีกรรเชียงในทะเลสาบบนภูเขา  ซึ่งเป็นการสนุกและเหมาะแก่พระราชอัธยาศัยโดยแท้ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 2484    ระหว่างที่เกิดมหาสงครามขึ้นทั่วโลกนั้น  ทุกพระองค์ยังคงประทับอยู่ในเมืองโลซานน์  เวลานั้นต้องทรงพบกับความลำบากเนื่องจากสงครามบ้าง  เช่น ยามสงครามมีน้ำมันน้อยต้องหันมาทรงใช้รถจักรยานแทน จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:37:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 2485    ระหว่างที่ประทับอยู่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์นั้น  รัฐบาลเช่าพระตำหนักถวายเป็นที่ประทับ  เป็นบ้านขนาดใหญ่  3 ชั้น สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  พระราชทานชื่อพระตำหนักแห่งนี้ว่าวิลล่าวัฒนา  ณ พระตำหนักแห่งนี้  ราชสกุลมหิดลได้ใช้เป็นที่ประทับ  ตลอดระยะเวลาของมหาสงครามโลกครั้งนั้น จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 17 2486    พระบรมฉายาลักษณ์ภาพนี้  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง 2 พระองค์ ทรงฉายกับนายเซอร์ราย ดาลิส  พระอาจารย์ที่มาถวายสอนพิเศษที่พระตำหนัก  ผู้มีหน้าที่มาเฝ้าที่พระตำหนักทุกวันเพื่อให้ทั้ง 2 พระองค์ทำการบ้าน  สอนงานฝีมือช่างไม้  หรือนำเสด็จไปเที่ยวไหนต่อไหน เป็นต้น จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:39:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 2487     สองพระองค์ทรงศรีสวัสดิ์ คือร่มฉัตรคุ้มศิระไทย พ้นเข็ญอยู่เย็นใจ ดั่งสุริย์จันทร์มิ่งขวัญเมือง.... จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:39:39 ]

ความคิดเห็นที่ 19 2488    เมื่อสงครามทางเอเชียสิ้นสุดลงกลางปีพุทธศักราช  2488  ทางรัฐบาลไทยกราบบังคมทูลพระกรุณาขอให้เสด็จกลับมาเป็นมิ่งขวัญของพสกนิกร  แม้เพียงชั่วคราวก่อนเสด็จไปทรงศึกษาต่อก็ยังเป็นการดี  เสด็จกลับมาเมืองไทยคราวนั้น เสด็จถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่  5  ธันวาคม  พุทธศักราช  2488  คนทั้งหลายพากันตื่นเต้นยินดีมากเมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และพระอนุชา  ไม่ใช่เจ้านายน้อย ๆ  น่ารักอย่างเช่นที่ได้ชมพระบารมีเมื่อคราวก่อน  หากแต่ทรงพระเจริญขึ้นเป็นเจ้านายที่งดงาม  ทั้งพระวรกาย และทั้งพระราชหฤทัย  สมใจราษฎร จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 2489    เช้าวันอาทิตย์ที่  9  มิถุนายน  พุทธศักราช  2489  เกิดเหตุร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติไทยขึ้นในพระบรมมหาราชวัง  โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลต้องพระแสงปืนสวรรคต  ค่ำวันนั้นรัฐสภาลงมติกราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดชขึ้นทรงราชย์  ทรงตัวสินพระราชหฤทัยรับภาระอันหนัก  ขณะพระชนมายุเพียง  18 พรรษาเท่านั้น จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:40:41 ]

ความคิดเห็นที่ 21 2490    เมื่อเสร็จงานบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพตามโบราณราชประเพณีแล้ว  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  เสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังสวิสเซอร์แลนด์เพื่อทรงศึกษาต่อ  แต่คราวนี้ทรงเปลี่ยนวิชาจากวิศวกรรมศาสตร์  ซึ่งทรงสนพระราชหฤทัยมาแต่เดิม  มาทรงศึกษาทางรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์  ซึ่งเหมาะแก่พระราชภาระที่จะต้องทรงเป็นพระประมุขของประเทศ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 22 2491    ระหว่างเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ประทับอยู่ในทวีปยุโรปนั่นเอง  ต้นเดือนตุลาคม  พุทธศักราช  2491  รถยนต์พระที่นั่งซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขับด้วยพระองค์เองประสบอุบัติเหตุร้ายแรง  เป็นเหตุให้ต้องเสด็จไปประทับในโรงพยาบาลเป็นเวลานานหลายวัน  ข่าวอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ผู้คนทางเมืองไทยวิตกทุกข์ร้อนกันมาก  ด้วยทรงเป็นความหวังของคนไทยทั้งแผ่นดิน แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 49 07:38:57 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:41:44 ]

ความคิดเห็นที่ 23 2492    หลังจากพระอาการประชวรเนื่องจากอุบัติเหตุค่อยดีขึ้นตามลำดับ  คนไทยทั้งแผ่นดินก็ได้รับทราบข่าวอันเป็นมงคลด้วยความปลื้มปิติ นั่นคือ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปฏิพัทธ์ในหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์  กิติยากร  พระธิดาของพลเอกพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถและท่านผู้หญิงหม่อมหลวงบัว  กิติยากรฯ  ในที่สุดได้ทรงกระทำพิธีหมั้นเมื่อวันที่  19 กรกฎาคม พุทธศักราช  2492 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 24 2493    เมื่อวันที่  28  เมษายน  พุทธศักราช  2493  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ได้ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์  กิติยากร  โดยมีสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี  พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า  ทรงเป็นองค์ประธานในพิธี  วันเดียวกันนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ เป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ตามขัตติยราชประเพณี จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 2493   เมื่อวันที่   5  พฤษภาคม  พุทธศักราช  2493   พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ทรงรับบรมราชาภิเษกตามธรรมเนียมอันมีมาในสยามประเทศ  วันนั้นเอง  ณ  ท่ามกลางมหาสมาคมในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงหลั่งพระเต้าทักษิโณทกตั้งสัตยาธิษฐาน  พระราชทานอารักขาแก่ทวยพสกนิกร  พร้อมทรงประกาศพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม  เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 26 2493    ในตอนท้ายแห่งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมีพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร  ที่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานในพระบรมมหาราชวัง  อันเป็นพระวิมานที่ประทับของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์แต่อดีต  ทั้ง 2 พระองค์  ประทับแรมคืน ณ พระที่นั่งแห่งนั้นเป็นสิริมงคลแห่งรัชกาล 1 ราตรี  แล้วจึงเสด็จไปประทับยังพระราชวังดุสิตตามปกติ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:44:12 ]

ความคิดเห็นที่ 27 2494    หลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว พระบาทสมเด็จพระปริมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  พร้อมสมเด็จฯ พระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินกลับไปประเทศสวิสเซอร์แลนด์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อรักษาอาการประชวรพระเนตรอันเนื่องจากอุบัติเหตุเมื่อครั้งก่อน และในวันที่ 5 เมษายน  พุทธศักราช  2494  ได้มีพระประสูติกาลของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์แรกในรัชกาล คือ  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตน์ราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดีฯ  หลังจากพระประสูติกาลแล้วไม่นาน ทั้ง 3 พระองค์ก็เสด็จกลับเมืองไทยพร้อมกัน  ท่ามกลางความชื่นชมยินดีของข้าแผ่นดินทั้งปวง จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 28 2495    ปีรุ่งขึ้น  วันที่  28  กรกฎาคม พุทธศักราช  2495  หน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์จารึกว่าสมเด็จเจ้าฟ้าราชกุมาร  ได้เสด็จพระราชสมภพมาสู่ชาติ หลังจากที่เมืองไทยว่างเว้นการมี “เจ้าฟ้าชาย” มาเป็นเวลาหลายสิบปี  วันนั้นดอกสายน้ำผึ้งที่พระที่นั่งอัมพรสถานออกดอกงามสะพรั่ง  รับเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ฯ ด้วยความปราโมทย์รื่นเริง  เช่นเดียวกับหัวใจของคนไทยนับล้านดวง จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 29 2496    พระบาทสมเด็จพระปริมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ทรงมีพระราชอัธยาศัยโปรดการดนตรีมาตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์  เครื่องดนตรีที่ทรงถนัดที่สุด  คือเครื่องเป่า ที่เรียกว่า แซกโซโฟน  ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทเพลงอันไพเราะถึงกว่า 40 เพลง  ไว้เป็นศรีสง่าแก่วงการดุริยางคศิลป์ของชาติ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 30 2497    นอกจากเครื่องดนตรีที่ทรงโปรดปรานยิ่งนักแล้ว  งานอดิเรกที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงพอพระราชหฤทัยยิ่งอีกเรื่องหนึ่ง คือ กิจกรรมของสถานีวิทยุ อส.  ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งขึ้นที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต  เพื่อเป็นสื่อกลางที่จะประสานสายใยความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนกับพระองค์เอง จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:46:50 ]

ความคิดเห็นที่ 31 2498    กลางฤดูร้อนของวันที่  2  เมษายน  พุทธศักราช  2498  สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  ได้มีประประสูติกาลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่  3  คือ  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธร  เทพรัตนสุดากิติวัฒนาดุลยโสภาคย์  ผู้ทรงเป็นพระปิยชาติที่รักยิ่งของคนไทยในทุกวันนี้ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 32 2499    ปลายปีพุทธศักราช  2499  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ทรงบำเพ็ญเนกขัมมบารมี  โดยเสด็จออกทรงผนวชในพระพุทธศาสนา  มีสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์  ทรงเป็นพระราชอุปัธยาจารย์  เสด็จประทับ ณ พระตำหนักปั้นหยา  วัดบวรนิเวศวิหาร  ทุกวันเวลาเสด็จลงทำวัตร มหาชนจากทุกสารทิศหลั่งไหลมาเฝ้าชมพระบารมี จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:47:49 ]

ความคิดเห็นที่ 33 2500    ณ  วันที่  4  กรกฎาคม  พุทธศักราช  2500  หลังเสร็จพิธีพระราชทานปริญญาบัตร  แก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รีบเสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน  ด้วยในวันเดียวกันนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ  ทรงมีพระประสูติกาล  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์  อัครราชกุมารี  พระราชธิดาพระองค์น้อยในรัชกาลปัจจุบัน  พระบรมฉายาลักษณ์นี้ ฉายเมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอฯ  พระชนมายุ ราว 3 พรรษา จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 34 2501    พระราชกิจเรื่องหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงถือเป็นเรื่องสำคัญใหญ่หลวง คือ การเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนครและเยี่ยมเยียนทุกข์สุขของราษฎรด้วยพระองค์เอง  อันเป็นต้นเค้าหรือที่มาของโครงการตามพระราชดำริในภายหลัง  พระบรมฉายาลักษณ์นี้ฉายเมื่อคราวเสด็จเยี่ยมราษฎรตามจังหวัดในภาคเหนือของประเทศ เมื่อพุทธศักราช  2501 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 35 2502    ในปีนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศเป็นทางการครั้งแรกในรัชกาล เริ่มจากประเทศเวียดนาม  อินโดนีเซีย และพม่า  ตามลำดับ  ที่ประเทศพม่าได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการพระมหาเจดีย์ชเวดากองด้วย จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:49:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 2503    ปีพุทธศักราช  2503  เป็นสมัยที่พระเกียรติยศได้เผยแผ่ไปในนานาไพรัชประเทศ  เพราะได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่าง ๆ ในยุโรป  และสหรัฐอเมริกาที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชได้พระราชทานกระแสพระราชดำรัสในที่ประชุมสภาครองเกรส  พระราชดำรัสที่พระราชทานวันนั้น ชนะใจผู้ฟังไม่มีเว้นตัว จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 37 2504    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ทรงสนพระราชหฤทัยเป็นที่ยิ่งในงานด้านเกษตรกรรม  ด้วยทรงเห็นว่าเป็นอาชีพหลักของราษฎรทั้งประเทศ  ได้ทรงทดรองริเริ่มการเกษตรแผนใหม่ขึ้นในเขตพระราชฐานที่ประทับ คือ บริเวณพระตำหนักจิตรลดาก่อนเป็นแห่งแรก  แล้วจึงขยายผลเป็นโครงการพัฒนาต่าง ๆ ในภายหลัง จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 38 2505    ต้นปีพุทธศักราช  2505  สมเด็จพระเจ้าเฟเดอริค  พระราชธิบดีแห่งกรุงเดนมาร์ก  เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทย  ปลายศกเดียวกัน  เกิดมหาวาตภัยร้ายแรงที่แหลมตะลุมพุก  จ.นครศรีธรรมราช  มีผู้คนต้องเสียชีวิตจำนวนนับร้อย  ทรัพย์สินเงินทองเสียหายมากจนประมาณมิได้  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงอำนวยการช่วยเหลือประชาชน  ตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิดเหตุ  และภายหลังทรงก่อตั้งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ขึ้น  เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการถาวร จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 39 2506   วันที่  5  ธันวาคม  พุทธศักราช  2506    เป็นมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ  นอกจากพระราชพิธีตามปกติแล้ว  ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค  จากพระบรมมหาราชวังไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร  ผู้ที่เฝ้าชมพระบารมีอยู่ตามหนทางที่กระบวนยาตราผ่าน  ต่างออกปากเป็นเสียงเดียวกันว่า ทรงงามสง่าเกินถ้อยคำจะบรรยาย จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:51:47 ]

ความคิดเห็นที่ 40 2507    ปีนี้ทรงริเริ่มโครงการพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หุบกระพง  อ.ชะอำ  จ.เพชรบุรี  ซึ่งเป็นถิ่นฐานที่ภูมิประเทศแห้งแล้ง  ราษฎรทำนาทำไร่ไม่ได้ผลบริบูรณ์  ทรงแนะนำวิธีการเกษตรกรรมแผนใหม่และระบบสหกรณ์  เป็นผลให้ชาวบ้านหุบกะพงสามารถยืนอยู่บนลำแข้งของตนเองได้ในเวลาต่อมา จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 41 2508    ปีนี้ทรงเจริญพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร  อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก  จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้มีการบำเพ็ญพระราชกุศลนมงคลวโรกาสข้างต้นตามโบราณราชประเพณีที่นิยมเฉลิมฉลองโอกาสที่เจริญพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระบรมราชบุรพการี จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 42 2509    งานอดิเรกอย่างหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงพอพระทัยยิ่ง คือ กีฬาเรือใบ  ทรงต่อเรือด้วยพระองค์เองหลายแบบ  ได้แก่ แบบ “ราชปะแตน” “มด” “ซุปเปอร์มด” และ “ไมโครมด”  กับทั้งยังทรงส่งเสริมการแข่งขันกีฬาประเภทนี้  จนเป็นที่นิยมแพร่หลายกว้างขวางตราบจนทุกวันนี้ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 43 2510    ปีพุทธศักราช  2510  ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่  4  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ  ทรงร่วมการแข่งขันกีฬาประเภทเรือใบ ในฐานะทีมชาติไทยด้วย  ผลการแข่งขันปรากฏว่าทรงได้รับรางวัลเหรียญทองร่วมกัน จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 44 2511    ปีนี้ทรงเริ่มโครงการพัฒนากลุ่มชาวไร่ดอนขุนห้วย ตามพระราชประสงค์ตามแนวทางที่ได้เคยทดลองจนได้รับผลดีแล้วที่หุบกะพง  ทุกวันนี้ตามหนทางถนนเพชรเกษม  จากกรุงเทพฯ  ไปยังภาคใต้เมื่อผ่านดอนขุนห้วย  จ.เพชรบุรี  เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรกรรมที่เป็นผลงานของสมาชิกสหกรณ์วางขาย  สำหรับผู้ผ่านไปมาได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:54:41 ]

ความคิดเห็นที่ 45 2512    ปีพุทธศักราช  2512  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ทรงเริ่มต้นโครงการหลวง อันเป็นโครงการช่วยเหลือราษฎรชาวไทยภูเขาในภาคเหนือของประเทศ  โดยทรงพระราชดำริว่า ราษฎรเหล่านี้ส่วนมากมีอาชีพทำไร่เลื่อนลอยและปลูกฝิ่นซึ่งเป็นยาเสพติดร้ายแรง  ทรงแนะนำการเพาะปลูกพืชพันธุ์อย่างใหม่  กอปรด้วยเทคนิควิธีการที่ทันสมัย  ทำให้ราษฎรชาวไทยภูเขามีรายได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน  นับว่าเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาวที่ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 46 2513    วันที่  9  มิถุนายน  พุทธศักราช  2513  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เฉลิมพระนามาภิไธยพระอัฐิสมเด็จพระราชบิดา  เจ้าฟ้ากรมหลวงสงขลานครินทร์  เป็นที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ  พระบรมราชชนก  กับทั้งเฉลิมพระนามาภิไธย  สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ เป็นที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 47 2514    วันที่  9  มิถุนายน  พุทธศักราช  2514  เป็นสมัยที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหราราช ทรงดำรงอยู่ในสิริราชสมบัติครบ  25  ปีบริบูรณ์  ทางราชการและประชาชนพร้อมใจกันจัดงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 48 2515    วันที่  28  ธันวาคม  พุทธศักราช  2515  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ  สยามมกุฎราชกุมาร  ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม  พระราชวังดุสิต จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 49 2516    ค่ำวันที่  14  ตุลาคม  พุทธศักราช  2516   ขณะที่เกิดจลาจลร้ายแรงทั่วประเทศ  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  พระราชทานกระแสพระราชดำรัสทางโทรทัศน์แก่ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศให้ร่วมมือกันแก้ปัญหา เพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยโดยเร็ว  ทุกคนที่ได้เห็นพระพักตร์ของพระเจ้าอยู่หัวในคืนวันนั้นแล้ว  ไม่มีใครกลั้นน้ำตาไว้ได้  เพราะได้เห็นแก่ตาว่า  ทุกข์ของพระผู้เป็นพ่อเมืองนั้นยิ่งใหญ่หนักหนา จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 50 2517    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชฐานประทับแรมขึ้นตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ  เช่น  ภูพิงคราชนิเวศน์  จ.เชียงใหม่  ภูพานราชนิเวศน์  จ.สกลนคร  และทักษิณราชนิเวศน์  จ.นราธิวาส  เพื่อจะได้ทรงมีโอกาสเยี่ยมเยียนทุกข์สุขของราษฎรได้โดยใกล้ชิด  ที่จังหวัดนราธิวาสนี้เอง เมื่อปีพุทธศักราช  2517  ได้ทรงริเริ่มโครงการระบายน้ำพรุบาเจาะ  และโครงการชลประทานมูโนะ  ซึ่งเป็นผลให้ราษฎรจำนวนมาก  ได้มีที่ทำมาหากินเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อน จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 51 2518    ส่วนพระราชฐานที่ประทับในกรุงเทพฯ  คือ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน  พระราชวังดุสิต  ทรงกันพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้สำหรับการเกษตรกรรมตามพระราชดำริ  เช่น บ่อปลา หรือนาข้าวทดลอง  เป็นต้น  ในปีนี้ได้ทรงริเริ่มโครงการโรงบดแกลบสวนจิตรลดา  เพื่อแสวงหาหนทางใช้ประโยชน์จากแกลบที่ได้จากการสีข้าว  เพื่อประหยัดทรัพยากรพลังงานในรูปอื่น จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 14:59:28 ]

ความคิดเห็นที่ 52 2519    วันที่  17  ธันวาคม  พุทธศักราช  2519  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  สยามมกุฎราชกุมาร  ทรงหมั้น  หม่อมหลวงโสมสวลี  กิติยากร  หลังพระราชพิธีหมั้นแล้วไม่นาน ก็โปรดให้มีพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขึ้น ในตอนต้นเดือนมกราคม  พุทธศักราช  2520 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 53 2520    ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาปีนี้  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา  เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร  รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ  สยามบรมราชกุมารี  ท่ามกลางความชื่นชมยินดีของพสกนิกรทั่วประเทศ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 54 2521    ปลายปีพุทธศักราช  2521  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร  ทรงผนวชในพระพุทธศาสนา  มีกำหนด 15 วัน  ในวันพระราชพิธีทรงผนวชที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม   นายเติ้งเสี่ยวผิง  นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนในเวลานั้น  ได้เฝ้าถวายเครื่องสักการะแด่พระภิกษุสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ด้วย จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:01:24 ]

ความคิดเห็นที่ 55 2522    วันที่  11  มกราคม  พุทธศักราช  2522  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มีการพระราชพิธีสมโภชเดือน  และขึ้นพระอู่พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา  พระราชนัดดาพระองค์แรก  ซึ่งประสูติตั้งแต่ปลายปีพุทธศักราช  2521  หลังวันเฉลิมพระชนมพรรษาแล้วเพียง  2  วัน จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 56 2523    เนื่องจากปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศเพื่อนบ้านที่รุนแรงขึ้นโดยลำดับ  ติดต่อกัน 2-3 ปี  ทำให้มีผู้อพยพจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร  พระเกียรติคุณเป็นที่ร่ำลือไปในนานาประเทศ พระบรมฉายาลักษณ์นี้ ฉายเมื่อคราวที่นางโรสลิน  คาร์เตอร์  ภรรยาประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา  เดินทางมาเยี่ยมค่ายผู้อพยพในประเทศไทย  และเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทที่ภูพานราชนิเวศน์ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 57 2524    ในฐานะที่ทรงเป็นจอมทัพไทย  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  ทรงเป็นมิ่งขวัญและมิ่งมงคลเหนือเศียรเกล้าของทหารหาญทุกกรมกอง  คราใดก็ตามที่เกิดเหตุความไม่สงบเรียบร้อย หรือภัยรุกรานจากศัตรูภายนอกประเทศขึ้น  ทหารทุกคนจึงพร้อมใจถวายชีวิตเป็นราชพลี  เพราะเขารู้ดีว่า  การทำงานเพื่อบ้านเมือง และเพื่อ “พระเจ้าอยู่หัว” เป็นเกียรติสูงสุดของคนไทย จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 58 2525    ปีนี้เป็นโอกาสเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี  ในวันที่ 4 เมษายน  พุทธศักราช  2525  ขณะทรงประกอบพระราชพิธีบวงสรวงสังเวยสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์  ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พระอาทิตย์ทรงกลดงามโชติช่วงเหมือนเหตุการณ์เมื่อครั้งแรกสร้างกรุง  ตามที่พระราชพงศาวดารจดไว้ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 59 2526    ปลายฤดูฝนพุทธศักราช  2526  เกิดอุทกภัยขึ้นในเขตกรุงเทพมหานคร  และปริมณฑล  โดยไม่มีใครทราบล่วงหน้า  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรภูมิประเทศที่มีปัญหาน้ำท่วมเพื่อทรงหาหนทางแก้ไข  ด้วยทรงยึดมั่นในพระราชหฤทัยเสมอว่า  ทุกข์สุขของราษฎร  คือทุกข์สุขของพระองค์เอง ชาวบ้านที่ได้เฝ้าชมพระบารมีโดยไม่คาดฝัน  หลายคนนึกอยู่ในใจว่า “น้ำท่วมหรือจะชนะน้ำพระราชหฤทัย” จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 60 2527    ด้วยพระราชกรณียกิจที่ทรงงานหนักมาเป็นเวลาหลายสิบปี  โดยไม่มีวันหยุด และไม่เลือกเวลา  พระราชกฤษดาภินิหารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  เป็นที่ขจรขจายไปทั่วทิศานุทิศ  เช่นในปีพุทธศักราช  2527  นี้  มหาวิทยาลัยทัฟท์  ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก  ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญานิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์  เฉลิมพระเกียรติยศ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 61 2528    นอกเหนือจากโครงการตามพระราชดำริ  นับร้อยนับพันโครงการ  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชมหาราช  ได้ทรงจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาขึ้นหลายแห่ง  เพื่อเป็นเสมือนหนึ่งห้องทดลองขนาดใหญ่ที่เปิดโอกาสให้ราษฎรที่อยู่ใกล้เคียง  ได้เข้ามาศึกษาวิธีการพัฒนาแผนใหม่ได้ด้วยตนเอง  เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้  จ.เชียงใหม่ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:05:37 ]

ความคิดเห็นที่ 62 2529    วันที่  24 กุมภาพันธ์  พุทธศักราช  2529  คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติขอพระราชทานน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสมัญญา “อัครศิลปิน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติในฐานะที่ทรงพระปรีชาเยี่ยมยอดในงานศิลปะทุกแขนง จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 63 2530    ปีพุทธศักราช  2530  เป็นปีมหามงคลของชาวไทย  50  กว่าล้านคน  ด้วยเป็นมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ  ทุกฝ่ายทุกคนพร้อมใจกันจัดงานสมโภชด้วยความรื่นเริงใจ  งานเฉลิมพระชนมพรรษาคราวนั้น  มีงานใหญ่ติดต่อกันหลายวัน  แต่ถึงกระนั้น หลายคนก็ยังรู้สึกว่าไม่พอแก่พระมหากรุณาธิคุณที่เป็นที่ล้นที่พ้นเกินจะประมาณ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 64 2531    วันที่  2  กรกฎาคม  พุทธศักราช  2531  เป็นศุภมงคลวโรกาสพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก  อันเป็นสมัยที่หาได้ยากยิ่ง  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้แต่งการพระราชพิธี  ทั้งที่กรุงเทพฯ และที่กรุงเก่า  จ.พระนครศรีอยุธยา  ตามแบบแผนพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษกครั้งแรกเมื่อครั้งแผ่นดินพระพุทธเจ้าหลวงมหาราช ขอจงทรงพระเจริญ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:07:45 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มีภาพแถมให้นะคะ จากหนังสือเล่มเดียวกันเลยค่ะ.. ^_^ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล  รัชกาลที่ 8 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 66 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  รัชกาลที่  9 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ณ  พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์  พระมหากษัตริยาธิราชเจ้ารัชกาลที่ 9  แห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์เสด็จขึ้นประทับแล้วทรงรับน้ำอภิเษกจากผู้แทนพสกนิกรทั้งแผ่นดิน จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 68 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ  ไปทรงประกอบพิธีประกาศพระองค์เป็นอัครศาสนูปถัมภกต่อหน้าคณะสงฆ์ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 69 พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ที่ทรงเป็นผู้ลาดพระที่บรรจถรณ์ในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานวันเฉลิมพระราชมณเฑียร วันที่ 6 พฤษภาคม พุทธศักราช  2493  คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ  พระองค์เจ้านภาพรประภา  กรมหลวงทิยรัตนกิริกุฏกุลินี และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐารี จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 70 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ  เสด็จพระราชดำเนินขึ้นเฉลิมพระราชมณเฑียร  ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน  อันเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  เมื่อถึงเวลาพระฤกษ์  ชาวที่ประโคมลั่นฆ้องชัยประโคมแตรสังข์ทั้งเครื่องดุริยดนตรี  แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  จึงเสด็จขึ้นประทับบนที่พระบรรทม  พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในชั้นผู้ใหญ่  ถวายพระแส้หางช้างเผือกและจั่นหมากทอง  ท้าววรคณานันท์  ถวายกุญแจทอง  ทรงรับวางข้างพระที่ทั้งสามสิ่งแล้วพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในชั้นผู้ใหญ่  ถวายพระพรชัยมงคล  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงเอนพระองค์ลงบนที่พระบรรทมเป็นพระฤกษ์  เป็นความหมายของการเสด็จเข้าที่ในพระมหามณเฑียร จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 71 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานราชสังคหวัตถุแก่ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้สูงอายุฝ่ายหน้าและฝ่ายใน  61  ท่าน จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:14:39 ]

ความคิดเห็นที่ 72 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ  ไปทรงประกอบพิธีประกาศพระองค์เป็นอัครศาสนูปถัมภกต่อหน้าคณะสงฆ์ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:15:09 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ^_^ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:16:08 ]

ความคิดเห็นที่ 74 (-/-) จากคุณ : blue Planet Earth (Blue Planet Earth) - [ 25 เม.ย. 49 15:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ... ^_^ ... จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 76 .^_^ . จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:17:58 ]

ความคิดเห็นที่ 77 . ^_^ . จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:18:52 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ท้องสนามหลวงในค่ำคืนวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาห้ารอบของวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2530  ไม่ต่างไปจากมหาสมุทรใหญ่ของพสกนิกรไทยทุกสารทิศที่หลั่งไหลไปร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล และเปล่งเสียงสดุดีมหาราชาไปกึกก้อง...แสงเทียนแต่ละเล่มของแต่ละคน เหมือนหมู่ดาวนับแสนที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:19:38 ]

ความคิดเห็นที่ 79 มหาชนนับแสน ๆ แน่นขนัดเต็มถนนราชดำเนินและท้องสนามหลวง  เพื่อรอชมพระบารมี เมื่อจะเสด็จพระราชดำเนินออกจากพระบรมมหาราชวัง ในค่ำวันที่ 5 ธันวาคม  2530  เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ฝูงชนชาวไทยต่างเดินทางมาพร้อมหัวใจแห่งความจงรักภักดีมารวมกันอยู่  ณ  ใจกลางผืนแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทย  ราชอาณาจักรที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์พระประมุขมาแต่โบราณกาลแล้ว จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 80 สมเด็จพระปิยมหาราช   นางสาววาสนา  กุลประสูตร  เรียบเรียง จากหนังสือเล่มเดียวกันค่ะ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงฉายร่วมกับสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนรัศมีและสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:21:39 ]

ความคิดเห็นที่ 81 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:22:32 ]

ความคิดเห็นที่ 82 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงฉายร่วมกับสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 83 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   ทรงผนวชเมื่อ พ.ศ. 2416 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 84 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:24:33 ]

ความคิดเห็นที่ 85 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ขณะเสด็จประพาสประเทศเยอรมันนี พ.ศ. 2453  ช่วงเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 86 พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท  ในสมัยรัชกาลที่ 5  จะเห็นว่าพระที่นั่งจักรีในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิม  อาทิ มุขหน้าพระที่นั่งเปลี่ยนและตัวบาลีบนสันหลังคาไม่มีเหมือนในภาพนี้ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:25:55 ]

ความคิดเห็นที่ 87 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงทักทายราษฎรระหว่างเสด็จฯ ทอดพระเนตรความก้าวหน้าของการก่อสร้างพระราชวังดุสิต  พระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรของพระองค์  ประดุจบิดามีต่อบุตร  จึงไม่น่าสงสัยในความจงรักภักดีอย่างล้นเหลือของพสกนิกรไทยยุคนั้นที่มีต่อพระองค์  สมแก่พระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช” จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 88 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องแบบเต็มยศพลเรือเอก ประทับบนพระโธรนแกะสลักลายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ทรงฉายคราวพระชนมายุเสมอด้วยรัชกาลที่ 2  พ.ศ. 2452 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 89 รัชกาลที่ 5  ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรก พ.ศ. 2411 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:28:06 ]

ความคิดเห็นที่ 90 รัชกาลที่ 5  ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2416 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:28:41 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ฝูงชนคลาคล่ำเฝ้าชมพระบารมีในพระราชพิธีรัชมงคล ที่หน้าพระที่นั่งรัตนสิงหาสน์ราชบัลลังก์ บริเวณพระราชวังโบราณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (1) จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ฝูงชนคลาคล่ำเฝ้าชมพระบารมีในพระราชพิธีรัชมงคล ที่หน้าพระที่นั่งรัตนสิงหาสน์ราชบัลลังก์ บริเวณพระราชวังโบราณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (2) จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 93 รัชกาลที่  5  ทรงประกอบพิธีก่อพระฤกษ์ พระที่นั่งอนันตสมาคม จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 94 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร  กราบบังคมทูลฯ ถวายพระบรมรูปทรงม้า จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:32:00 ]

ความคิดเห็นที่ 95 พระที่นั่งอนันตสมาคมอยู่ในช่วงกำลังก่อสร้าง จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 96 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงกระทำพิธีเปิดพระบรมรูปทรงม้า จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 97 พระบรมรูปทรงม้าประดิษฐานท่ามกลางธงทิวในวันพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก  ร.5 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 98 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงมีพระราชดำรัสตอบในพิธีเปิดพระบรมรูปทรงม้า จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:35:35 ]

ความคิดเห็นที่ 99 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ขณะมีพระชนมายุเพียง 15 พระชันษา จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ซุ้มรับเสด็จพระราชดำเนินกลับจากประเทศยุโรป ครั้งที่สอง ซึ่งยิ่งใหญ่มโหฬารเป็นที่สุด จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 101 พระราชอาคันตุกะ   ดยุ้ค โยฮัน อัลเบิร์ต และพระชายา  เสด็จประพาสจังหวัดเพชรบุรี จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 102 รถพระที่นั่งทัตมารุตแต่งเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑ  สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์  ทรงออกแบบถวายเป็นตราสำหรับงานพระราชพิธีรัชมังคลาพิเษก  โดยเฉพาะ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 103 กระบวนรถโมเตอร์คาร์ ตั้งกระบวนหน้าวังสราญรมย์ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 104 รถพระขรรค์เพชร  ที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร  ทรงจัดเข้าร่วมกระบวน จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:43:05 ]

ความคิดเห็นที่ 105 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  เสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนรถโมเตอร์คาร์ไปทรงเปิดสะพานเฉลิม 55 หรือสะพานเฉลิมโลกที่บริเวณประตูน้ำปัจจุบัน เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ร.ศ.127 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 49 15:44:57 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 106 กระบวนรถโมเตอร์คาร์วิ่งไปตามถนนที่ตัดผ่านทุ่งนาของย่านประตูน้ำ เป็นภาพที่ชวนตื่นตาของชาวกรุงในสมัยนั้นยิ่งนัก จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:46:27 ]

ความคิดเห็นที่ 107 กระบวนแห่เฉลิมพระเกียรติเคลื่อนผ่านหน้าพระที่นั่ง  เป็นกระบวนที่จัดโดยหน่วยราชการและมณฑลต่าง ๆ ที่แสดงออกถึงพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ค์ขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 108 กระบวนแห่เฉลิมพระเกียรติของกรมรถไฟ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:49:33 ]

ความคิดเห็นที่ 109 กระบวนแห่ทุกกระบวนนำไปตั้งให้ประชาชนได้ชมกันที่ท้องสนามไชย จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 110 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีสรงมุรธาภิเษก วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2451 จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:51:40 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ขอบคุณ จขกท. ค่ะ จากคุณ : ปุ้ม หญิง - [ 25 เม.ย. 49 15:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 112 พระราชพิธีสรงมุรธาภิเษก  ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย (1) จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 113 พระราชพิธีสรงมุรธาภิเษก  ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย (2) จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:53:47 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ฝูงชนทั้งชาวกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดหลั่งไหลมาชมกระบวนแห่เฉลิมพระเกียรติที่ท้องสนามไชย จะเห็นว่ายังมีรถม้าและรถโมเตอร์คาร์ตามถนน จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ภาพผู้คนสมัยรัชกาลที่ 5  ที่เที่ยวชมกระบวนแห่เฉลิมพระเกียรติ  จะเห็นว่าคนไทยสมัยนั้นยังนุ่งโจงกระเบน  สวมกางเกงน้อยคน  ในขณะที่บางคนก็นุ่งโสร่งมาเที่ยวชมงาน จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:55:02 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ผู้คนแออัดหนาแน่นหน้ากระทรวงนครบาล จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 15:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 117 สวัสดีค่ะ คุณ Blue Planet Earth และคุณ ปุ้ม หญิง ภาพชุดแรกหมดเท่านี้ก่อนนะคะ...^_^ ภาพช่วงหลัง ๆ เป็นภาพช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ต้องขออภัยด้วยนะคะที่นำมารวมกันในกระทู้นี้.. เห็นว่ามาจากหนังสือเล่มเดียวกัน และอีกอย่าง บางภาพหาดูได้ยาก ก็เลยลงในกระทู้เดียวกันนี้เลย   ยังมีภาพที่น่าสนใจและหาดูได้ยากอีกพอสมควรเลยทีเดียว  แล้วจะนำมาโพสต่ออีก แต่ต้องขอเวลานิดนึงนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาชมค่ะ จากคุณ : ปริยวาที - [ 25 เม.ย. 49 16:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : สาวชนบท - [ 25 เม.ย. 49 16:20:49 ]

ความคิดเห็นที่ 119 โอย รูปดีดีทั้งนั้นเลยค่ะ ขอบคุณคุณปริยวาทีมากนะคะที่อดทนโพสต์จนหมด ขอเป็นกำลังใจค่ะ จากคุณ : little kitty - [ 25 เม.ย. 49 16:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ขอบคุณมากครับ   จากคุณ : 447 - [ 25 เม.ย. 49 18:14:08 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ขอบคุณมากๆ ครับ ที่โพสเนื้อหา + ภาพดีๆ เช่นนี้ให้พวกเราได้ชื่นชมพระบารมีโดยทั่วกัน เอาไปเลย --->  1 โหวต + เก็บเข้าคลังกระทู้เก่า ครับ!!! จากคุณ : ๛tum๛ - [ 25 เม.ย. 49 18:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ไม่ผิดหวังที่รอมานาน เป็นเดือนแล้วมั้ง ที่โพสต์รูปชุดสุดท้าย ขอบใจจิงๆ จากคุณ : นิค (nickmee) - [ 25 เม.ย. 49 21:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 123 LONG LIVE THE KING จากคุณ : ประจุบวก - [ 26 เม.ย. 49 01:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 124 LONG MAY HE REIGN จากคุณ : RAVEEYOS - [ 26 เม.ย. 49 08:19:21 A:10.2.26.4 X:202.44.231.8 TicketID:058324 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ขอบพระคุณครับ  คุณ ปริยพาที และหลังจากที่ได้ที่ฟังกระแสพระราชดำรัสเมื่อคืนนี้ ทำให้วันนี้เป็นวันที่รู้สึกว่ามีความสุข  กว่าวันก่อนๆที่ผ่านมา รู้สึกว่าแผ่นดินไทยที่มืดมิดมานาน   พระองค์ท่านได้พระราชทานแสงสว่างให้กับประชาชนของพระองค์ท่าน พระองค์ท่านได้พระราชทานวันคืนแห่งความสงบสุขให้กลับคืนสู่แผ่นดินไทย คำที่จะบรรยายความรู้สึกได้ดีที่สุดในขณะนี้นั้น  เห็นจะเป็นคำนี้นะครับ                       เย็นศิระ เพราะพระบริบาล                    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน . แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 49 09:46:04 จากคุณ : กัมม์ - [ 26 เม.ย. 49 09:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ตอนนี้ผมก็มีความรู้สึกเดียวกับคุณกัมม์ครับ เหมือนขาดน้ำได้น้ำในยามแล้ง เหมือนขาดแสงได้แสงเดือนเยือนผ่องใส เหมือนขาดร่มสมหมายได้ร่มไทร เหมือนป่วยไข้ได้หมอมาบรรเทา เหมือนหลงทางพบทางในกลางป่า เหมือนธาราหลั่งพิภพอบแดดเผา เหมือนเรือแตกเห็นฝั่งยังทำเนา เหมือนผู้เฒ่าได้ไม้เท้าไว้ก้าวเดิน จากเพลงร่มเกล้า พระนิพนธ์ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 49 09:56:36 จากคุณ : นาย UP - [ 26 เม.ย. 49 09:55:12 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Derek - [ 26 เม.ย. 49 09:57:29 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย จัง จากคุณ : Marine Red - [ 26 เม.ย. 49 09:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ทรงพระเจริญ จากคุณ : Ottomova - [ 26 เม.ย. 49 10:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ๏ เย็นศิระเพราะพระคุ้ม              ครองไทย หกสิบปีจวบสมัย                      บัดนี้ สองสี่แปดเก้าไกล                    กาลก่อน สืบราชสมบัติชี้                         เปี่ยมน้ำพระทัยหนุน ๚ ๏ บุญไทยมาแต่เบื้อง                บรรพกาล มีกษัตริย์สืบสาน                      ปกเกล้า เมตตาพระราชทาน                   ทั่วเขต ดินร่มเย็นค่ำเช้า                       ราษฎร์ล้วนชวนเกษม ๚ ๏ เดือดร้อนพระผ่อนผ้าย             มลายลง ทุกข์ยากพระประสงค์                  ช่วยได้ ลำบากพระจำนง                        หนุนเนื่อง เป็นสุขเพราะพระให้                    ตราบฟ้าดินสลาย ๚ ๏ พานพุ่มรัตนน้อม                     บูชา ถวายแด่พระจักรา                      เทิดไท้ รำลึกพระกรุณา                         เกินเปรียบ กรองวัจนกวีไว้                          นบน้อมถวายพระพร ๚ะ๛ ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 49 11:32:26 แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 49 11:11:44 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 26 เม.ย. 49 11:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ทรงพระเจริญ ขอบคุณ จขกท. ด้วยค่ะ :) จากคุณ : tiara - [ 26 เม.ย. 49 13:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ขอบพระคุณ นาย UP   ที่ให้ได้เห็นคมกวีที่สื่อความรู้สึก ในเวลานี้ได้เป็นอย่างดี ขอบพระคุณ ท่าน จำปูน ครับ กวีท่านช่วยพูดแทนใจคนไทยได้นับสิบๆล้านคน อยากจะขออนุญาต คุณ  ปริยวาที เชิญชวนเพื่อนๆทุกท่าน   ช่วยกันทำบทอาศิรวาทเฉลิมพระเกียรติกันคนละบทครับ จากคุณ : กัมม์ - [ 26 เม.ย. 49 13:39:02 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ตามคำเชื้อชวนของคุณกัมม์ ผมได้ร้อยกรองวสันตดิลกฉันท์ ๑๔ มา ๓ บท เพื่อแสดงภักดีจิตมา ณ ที่นี้ครับ @ปวงข้าประชากรประนัง..........มนะตั้งประนมกร ขอเทวเทพมหิทธิธร................ฐิติทั่วพิมานไท @บันดาลภิบาลบรมขัต............-ติยรัชนิรามัย ผ่องแผ้วพระกายพระหฤทัย.......ถิระเนิ่นพระชนม์นาน @แผ่เผยพระคุณกรุณภาพ........ประลุตราบจิรังกาล เลี้ยงราษฎร์มิอาจลุอวสาน.........ดุจะแสงตะวันเดือน จากคุณ : นาย UP - [ 26 เม.ย. 49 14:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ยินดีค่ะคุณกัมม์...เรียนเชิญทุกท่านเลยนะคะ จากคุณ : ปริยวาที - [ 26 เม.ย. 49 15:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ขอบคุณ จขกท ครับ :) จากคุณ : sego (เซโก้4) - [ 26 เม.ย. 49 15:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ขอกราบลงแทบพระบาท หากว่ามีโอกาสสักครั้งในชีวิตที่เกิดมานี้ จะขอมอบกายถวายชีวิตเป็นราชพลีโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ด้วยความยินดีและเต็มใจ ขอจงทรงพระเจิญยิ่งยืนนาน จากคุณ : พมลวัชร (pamolwatch) - [ 26 เม.ย. 49 17:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 137 เชิญชวนเพื่อนๆทุกท่าน   ช่วยกันทำบทอาศิรวาทเฉลิมพระเกียรติกันคนละบทตามคำเชิญของคุณกัมม์นะคะ ส่วนตัวเองจะโพสภาพประกอบไปเรื่อย ๆ ค่ะ ^_^ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เมื่อพระชนมายุ  5  พรรษา  ทรงชุดละครไทย จากคุณ : ปริยวาที - [ 26 เม.ย. 49 17:06:39 ]

ความคิดเห็นที่ 138 คุณ  พมลวัชร (pamolwatch) คะ  คิดได้ตรงใจมากค่ะ..^_^ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่  8  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน  และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา  ขณะประทับที่สวิตเซอร์แลนด์ จากคุณ : ปริยวาที - [ 26 เม.ย. 49 17:08:25 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ภาพชุดนี้ มาจากหนังสือ "ร่มเกล้าชาวไทย" ค่ะ สมเด็จพระบรมราชชนนี  พร้อมด้วยพระโอรสและพระธิดา  ที่โลซานน์  สวิตเซอร์แลนด์ จากคุณ : ปริยวาที - [ 26 เม.ย. 49 17:09:39 ]