ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าจำไม่ผิดจะมีที่มาเดียวกันรึเปล่าคะ ( ต้นราชสกุลเป็นพี่น้องกัน??? ) ทองใหญ่ ทองแถม ทองเจือ? ยังไงรอผู้รู้ละกันค่ะ แฮ่.. จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 3 พ.ค. 49 22:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตันราชสกุลทองแถม คือ พระองค์เจ้าชายทองแถมถวัลยวงศ์ (พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ) เป็นพระโอรส ใน รัชกาลที่ 4 กับเจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ประสูติ 17 ต.ค. 2400  สิ้นพระชนม์ 16 เม.ย. 2462 จากคุณ : น้องหอมแดง - [ 3 พ.ค. 49 23:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ต้นราชสกุลทองใหญ่ คือ พระองค์เจ้าชายทองใหญ่ (พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม) เป็นพระโอรส ใน รัชกาลที่ 4 กับ เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ประสูติ 5 เม.ย. 2399 สิ้นพระชนม์ 25 ม.ค. 2467 ปล. ไม่มีราชสกุลทองเจือ ใน รัชกาลที่ 4 ครับ จากคุณ : น้องหอมแดง - [ 3 พ.ค. 49 23:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม "พระองค์เจ้าทองก้อน ทองใหญ่" ผู้สร้างเมืองอุดรธานี จากคุณ : คนอุดรฯ - [ 4 พ.ค. 49 02:58:25 A:86.144.150.190 X: TicketID:106845 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเข้าใจว่าคุณคนอุดรฯ ตั้งใจจะพิมพ์ว่า "พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่" อันเป็นพระนามเดิมของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ครับ สกุล "ทองเจือ" นั้นไม่นับเป็นราชสกุลในพระบรมราชจักรีวงศ์ครับ แม้จะเป็นที่รู้กันว่ามีสายโลหิตนับเนื่องในราชสกุลทองแถมก็ตาม จากคุณ : นาย UP - [ 4 พ.ค. 49 06:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เคยได้ยินมาว่า สมเด็จพระพันปี จะสถาปนาให้เป็นเจ้าในราชวงค์แต่ ผู้เป้นต้นตระกูลไม่ปรารณาที่จะเป็น อะไรทำนองนี้ รบกวนผุ้รู้แม่นยำ ช่วยให้ความกระจ่างด้วย จากคุณ : Louvorian - [ 4 พ.ค. 49 10:21:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สรุป เหมือนที่ข้างบนบอกเลย ต้นตระกูล ทองเเถม คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ  มีพระชายาเอก คือ หม่อมเจ้าหญิงเม้า รองทรง    ส่วนมีใครสืบทอดมานั้น มีมากมายมหาศาล ทองใหญ่+ทองเเถม+ทองเจือ  เป็นญาติกันหมด เพียงเเต่ไม่นับว่า  ทองเจือ เป็นราชสกุล  เเต่ ถ้าพวกราชสกุลที่สืบสายมาทาง ร.4  ก็จะรู้กันเองเเละนับ  ทองเจือ  เป็นราชสกุลด้วย    ( ทองเจือ สืบสกุลมาจาก  ทองเเถม นะครับ)   เเต่ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ  ไม่รับรองเป็นบุตรตามกฏหมาย เท่านั้นเอง    ที่จริงอยากเล่าต่อ  เเต่จำรายละเอียดไม่ค่อยได้อะครับ  เป็นพวกเรื่องหึงหวงก็เเล้วกัน ส่วนใครสืบทอดมามั่ง ก็เยอะนะครับ  ทองเเถม เนี่ย  เเต่ที่มีตำเเหน่งสูงๆ ก็พอมีเเต่ไม่ได้ใช้นามสกุล  ทองเเถม  เช่น ท่านผู้หญิงพรรณวดี จุฑารัตนกุล  นางสนองฯ นายพลากร สุวรรณรัฐ  องคมนตรี หรือ จางมาหน่อยก็ นายภูริ หิรัญพฤกษ์ ฯลฯ 3 คนนี้เป็นลูก เเละ หลาน ของ ม.ร.ว.ประสาร(น)สุวรรณ สุวรรณรัฐ (ทองเเถม)    ซึ่งมีเชื้อทอง เต็มที่มาก เพราะเป็นพระธิดา ใน ม.จ.ทองเชื้อธรรมชาติ ทองเเถม (โอรสองค์โต ใน กรมหลวงเเละ ม.จ.เม้า  )  เเละ ม.จ.หญิงพันธ์สิหิงห์ ทองใหญ่ เขียนงงๆ ปะคับ ง่วงเเล้ว เดี๋ยวรอผู้รู้มาเพิ่มเติมละกันครับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 49 22:50:32 จากคุณ : Visby - [ 4 พ.ค. 49 22:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โอรสของกรมหลวงสรรพศาสตร์ฯที่เกิดจากข้าราชการฝ่ายในคนหนึ่ง  คุ้นๆเคยอ่านมาว่าเป็นโขลนในพระราชฐานฝ่ายในประมาณนี้ เพราะเนื่องจากกรมหลวงฯท่านทรงกำกับกรมช่างมหาดเล็ก รับผิดชอบทำเครื่องทองถวายฯ เจ้านายฝ่ายใน จึงมีเหตุให้ต้องเข้า ออกฝ่ายในไม่ค่อยเป็นเวลาอาจเลยไปถึงดึก จึงเกิดชอบกันจนเกิดโอรสอย่างลับๆ   เมื่อเรื่องฯเป็นความขึ้นก็อาจเป็นเพราะเกรงใจชายา หรือชายาบังคับให้เกรงใจไม่รู้ก็เลยไม่ยอมรับเด็กคนดังกล่าวเป็นลูก  เด็กคนนี้ ได้รับพระอุปการะเลี้ยงดูในสำนักพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระวรราชเทวี ( ในขณะนั้น )ต่อมารับราชการได้เป็นพระยาไพชยนต์เทพ สำหรับรูปมาจากนิตยสารฉบับนึงน่ะครับ จากคุณ : sivanont - [ วันฉัตรมงคล 01:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นประวัติศาสตร์ที่น่าเศร้ามากสำหรับชนยุคปัจจุบัน แต่เอาเถอะ... จากคุณ : เเจม. - [ วันฉัตรมงคล 08:20:39 A:58.9.183.244 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 สิ่งที่ยังคงเหลืออยู่ให้คนรุ่นหลังพอทราบได้ว่า ย่านนี้เคยเป็นวังที่ประทับของกรมหลวงสรรพสาตรฯ อยู่สิ่งเดียวก็คือซุ้มประตูทางเข้าวัง ที่ทำเป็นช่องกว้างใหญ่สูงเกือบเท่าตึกสี่ชั้น ด้านบนป็นกรอบโค้งบุกระจกสี และมีตุ๊กตาผู้หญิงชูโคมไฟอยู่เหนือบนสุด   โดยมีถนนแพร่งสรรพศาสตร์เป็นถนนที่ตัดผ่านบริเวณที่เคยเป็นวังมาก่อนไปออกบ้านหม้อได้ จากคุณ : sivanont - [ วันฉัตรมงคล 09:43:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ต่อนะครับขอถามต่อ สรุปแล้ว  ถ้าเป็นพระนามตามพระสุพรรณบัฏคือ "สรรพสาตรศุภกิจ"             แต่ถ้าเป็นชื่อถนนคือ "แพร่งสรรพศาสตร์" เป็นอันว่าทาง กรุงเทพฯ ต้งใจจะใช้เขียนแบบนี้เป็นชื่อถนนใช่มั้ยครับ จากคุณ : sivanont - [ วันฉัตรมงคล 09:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอนำส่วนหนึ่งของคำประกาศตั้งกรมมาลงไว้นะครับ : ศุภมัสดุ พระพุทธสาสนกาล เปนอดีตภาคล่วงแล้ว ๒๔๓๑ พรรษา ปัตยุบันกาล มุสิกสังวัจฉระกรรติกมาศศุกรปักษ์ สัตตมีดิถีโสรวารบริจเฉทกาลกำหนด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ ฯลฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริห์ว่า พระเจ้าน้องยาเธอพระองค์เจ้าทองแถมถวัลย์วงษ์ ทรงพระปรีชาชำนาญในการช่างต่างๆประกอบด้วยพระอุสาหอันยิ่งใหญ่มิได้ย่อหย่อน ได้ทรงรับทำการอันใดก็ตั้งพระหฤไทยทำการสิ่งนั้นให้สำเร็จได้ตามกำหนดมิได้พลาดพลั้ง เมื่อครั้งปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนสาศดาราม ได้ทรงรับน่าที่ประดับกระเบื้องทอง พระศรีรัตนเจดีย์มีกำหนดน้อยวัน มีผู้เห็นโดยมาก ว่าการจะไม่ทันกำหนดฉลองพระอาราม ก็ทรงพระอุสาหทำการสำเร็จได้ดังพระราชประสงค์ จึ่งได้โปรดเกล้าฯ จะให้เปนพระองค์เจ้าต่างกรมแต่นั้นมา แต่การยังหาพรักพร้อมไม่ ต่อนั้นมาก็ได้ทรงรับราชการบังคับช่างต่างๆ ทำการในพระบรมมหาราชวังชั้นใน ทรงทำการด้วยพระหัตถ์ในการประณีตต่างๆทั้งกลางวันกลางคืนมิได้เว้นว่าง ส่วนราชการอย่างอื่น ได้ทรงเปนพนักงานทำการที่พระราชวังบางปะอินแลสวนสราญรมย์ ทรงจัดการในที่สองสฐานนั้น เปนการเรียบร้อยเจริญขึ้นเปนอันมาก ทั้งการด้านทำการโยธาที่เปนการใหญ่ๆก็ได้ทรงทำเปนหลายแห่ง คือพระที่นั่งอำมรินทรวินิจฉัย แลวัดราชบพิธเปนต้น การทั้งนั้นก็สำเร็จได้ดังพระราชประสงค์ ใช่แต่เท่านั้นเมื่อได้ดำรงในตำแหน่งราชองค์รักษ์ ก็ต้องเสด็จมาประจำเวรในพระบรมมหาราชวัง แลตามเสด็จพระราชดำเนินประพาศหัวเมืองด้วยทุกตำบล แลทรงบังคับกรมหัวป่าครัวเข้าต้น มีราชการพัวพันอยู่เปนนิจ ได้ทรงรับราชการสนิทในที่ไว้วางพระราชหฤไทยเปนอันมาก บัดนี้ก็มีพระชนมายุเจริญไวย ประกอบด้วยคุณวุฒิดังกล่าวมาแล่วนั้น จึงเปนสมัยอันสมควรที่จะเลื่อนพระเกียรติยศขึ้นเปนพระองค์เจ้าต่างกรมพระองค์หนึ่งได้ จึงมีพระบรมราชโองการมารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสสั่ง ให้สฐาปนา เลื่อนตำแหน่ง ยศ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงษ์ เปนพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามตามจาฤกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นสรรพสาตรศุภกิจ อัชนาม ทรงศักดินา ๑๕๐๐๐ ตามพระราชกำหนดอย่างพระองค์เจ้าต่างกรม ในพระบรมมหาราชวัง จงทรงเจริญพระชนมายุพรรณศุขพลปฏิภาณ คุณสารสมบัติสรรพศิริสวัสดิพิพัฒน์มงคล วิบุลยศุภผลธนสารสมบูรณอดุลย์ เกียรติยศ เดชานุภาพทุกประการเทอญ จากคุณ : dAVINchi - [ 6 พ.ค. 49 02:39:50 A:58.64.125.82 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 กรมหลวงสรรพสารตศุภกิจ ต้นราชสกุลทองแถมนี้ ยังทรงเป็นพระบิดาแห่งภาพยนต์ไทย รายละเอียดดังคัดลอกจากเว็บมูลนิธิหนังไทย http://www.thaifilm.com/articleDetail.asp?id=48 กรมหลวงสรรพสารตศุภกิจ (บิดาภาพยนตร์ไทย) 01/01/04 กรมหลวงสรรพสารตศุภกิจ (พระองค์เจ้าชายทองแถมถวัลย์วงศ์) ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสังวาลย์เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2400 และด้วยความที่พระองค์ทรงมีความสนพระทัยในเรื่องการช่าง ดังนั้นเมื่อประดิษฐ์กรรมใหม่ ๆ ของโลกตะวันตกกำลังเป็นที่นิยม พระองค์จึงเป็นคนไทยคนแรก ๆ ที่ได้รับรู้ก่อนเสมอ และหนึ่งในปรดิษฐ์กรรมจากโลกตะวันตกที่พระองค์ทรงมีความโปรดปรานมากที่สุดคือ...ภาพยนตร์ กรมหลวงสรรพสารตศุภกิจได้ทอดพระเนตรภาพยนตร์เป็นครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์ในระหว่างที่ตามสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประพาสที่นั่นเมื่อปีพ.ศ. 2439 หลังจากนั้นพระองค์ก็ทรงให้ความสนพระทัยในประดิษฐ์กรรมภาพยนตร์ตลอดมา อย่างไรก็ตามพระองค์ก็ทรงหาได้มีโอกาสทดลองปฏิบัติจริงไม่ จนกระทั่งอีกหนึ่งปีต่อมา ในระหว่างที่ตามเสด็จพระพุทธเจ้าหลวงประพาสยุโรปครั้งแรกในปี พ.ศ.2440 ได้มีหลักฐานปรากฏว่ากรมหลวงสรรพสารตศุภกิจ ได้ทรงจัดซื้อหาภาพยนตร์ซีเนมาโตกราฟซี่มีคุณสมบัติเป็นทั้งกล้องถ่ายและเครื่องฉายภาพยนตร์ในเวลาเดียวกันกลับมาเมืองไทยด้วย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากรมหลวงสรรพสารตศุภกิจก็ทรงถ่ายทำภาพยนตร์อย่างจริงจัง ผลงานที่พระองค์ทรงถ่ายมี ตั้งแต่ภาพยนตร์บันทึกเหตุการณ์เบ็ดเตล็ดทั้งในและนอกเขตพระราชวังไปจนถึงภาพพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงในขณะเดียวกัน นอกจากพระองค์ทรงเป็นนักถ่ายภาพยนตร์เป็นรายแรกและรายเดียวของสยามในรัชสมัยนั้นแล้ว พระองค์ยังทรงเป็นผู้ดำเนินธุรกิจจัดฉายและให้เช่าภาพยนตร์เป็นรายแรกของชาติด้วย โดยนอกจากจะทรงให้โรงภาพยนตร์ต่าง ๆ เช่ายืมภาพยนตร์ของพระองค์แล้ว บางครั้งก็ทรงจัดฉายภาพยนตร์เก็บค่าดูจากสาธารณะชนขึ้นในบริเวณวังของพระองค์ และที่ทรงทำเป็นประจำคือ การออกร้านฉายภาพยนตร์เป็นเจ้าประจำในงานประจำปีวัดเบญจมบพิตร ในรัชการต่อมา พระองค์ทรงว่างเว้นและเลิกราการถ่ายทำภาพยนตร์ เนื่องจากมีผู้ดำเนินการขึ้นในสยามแล้วหลายราย ประกอบกับทรงชราภาพและประชวรเป็นพระโรคอัมพาต จนในที่สุดเมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๒ ก็สิ้นพระชนม์ฬนขณะที่ทรงมีพระชนมายุได้ ๖๒ พรรษา จากคุณ : dAVINchi - [ 6 พ.ค. 49 02:51:33 A:58.64.125.82 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 มี ม.ล. จารุพันธุ์ ทองแถม แล้วก็ ม.ร.ว. นภาจรี (รพีพัฒน์) ทองแถม ด้วย จากคุณ : Goya - [ 6 พ.ค. 49 03:20:54 A:124.120.147.187 X: TicketID:118201 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่ถูกแล้ว พระนามตามพระสุพรรณบัฏคือ สรรพสาตรศุภกิจ แต่หลังๆมีคนเขียนเพี้ยนไปเป็น สรรพสารตศุภกิจบ้าง สรรพศาสตร์ศุภกิจบ้าง สรรพศาสตรศุภกิจบ้าง น่าเสียดายที่กรุงเทพมหานครมาเป็นซะเอง จากคุณ : dAVINchi - [ 6 พ.ค. 49 03:21:42 A:58.64.125.82 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ม.ล. จารุพันธ์ ทองแถม ไม่มีสระอุครับคุณ Goya จากคุณ : dAVINchi - [ 6 พ.ค. 49 03:25:37 A:58.64.125.82 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมมีหนังสือเรื่องของสวยของดีครั้งแผ่นดินพระพุทธเจ้าหลวง แต่งโดย ธงทอง จันทรางศุ เขียนเล่าถึงองค์ต้นราชสกุลทองแถมไว้ดังนี้ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสรรพสาตรศุภกิจ (เป็นกรมหลวงในรัชกาลที่ 6) ทรงเป็นธุระรับผิดชอบในการสั่งของทั้งหลาย รวมทั้งมีหน้าที่เป็นพนักงานจัดซื้อของดีมีฝีมือสำหรับเป็นที่ระลึกจากประเทศต่างๆพร้อมทั้งพันธุ์ไม้ด้วย พระเจ้าน้องยาเธอพระองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงได้ทรงใช้สอยมาก ทรงเรียกพระนามแต่โดยย่อว่า "ดุ๊ค" ดุ๊คพระองค์นี้เองที่เป็นผู้เที่ยวเสาะแสวงหาฝีมือช่างชั้นสูงต่างๆแล้วเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรหรือมิฉะนั้นก็จัดซื้อมาถวายเลยทีเดียว แม้เมื่อกลับมาจากยุโรปแล้ว เวลาต้องพระราชประสงค์สิ่งของสำหรับประการใด แม้จนกระทั่งของสำหรับจับฉลากพระราชทานในงานเทศกาลต่างๆก็เป็นหน้าที่ของ "ดุ๊ค" ที่จะต้องจัดถวาย หม่อมเจ้าหญิงมารยาตรกัญญา ดิศกุล เคยเล่าประทานว่า บางครั้งเวลาไปเฝ้าเสด็จลุงกรมสรรพสาตร เคยได้รับประทานของเล่นอย่างดีๆอยู่เสมอ ที่ทรงจำได้แม่นก็คือตุ๊กตาจำลองสำหรับจัดเป็นเรื่องทะเลทราย งดงามแลดูสมจริงมาก จากคุณ : dAVINchi - [ 6 พ.ค. 49 03:40:55 A:58.64.125.82 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 โอ้โฮ ..ได้ความรู้ดีมากครับ .. ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่านครับ.....เยี่ยมจริงๆ..ทุกท่านเลย จากคุณ : -/-- - [ 6 พ.ค. 49 17:12:59 A:203.113.45.228 X:203.113.16.241 TicketID:119107 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ลองค้นดูภาพที่เคยได้มีโอกาสได้ถ่ายไว้จากบอร์ดนิทรรศการที่ทางกรุงเทพมหานครได้จัดทำขึ้น  เอามาแบ่งกันดูนะครับ จากคุณ : sivanont - [ 8 พ.ค. 49 00:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ครับ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : sivanont - [ 8 พ.ค. 49 00:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 21 และ..อีก 1 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : sivanont - [ 8 พ.ค. 49 00:41:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อาจารย์สอนภาษาไทยเราชั้นมัธยมท่านก็เป็นหม่อมหลวงในราชสกุลนี้เหมือนกัน ท่านชื่อ หม่อมหลวงพิณทอง ทองแถม ทราบมาว่าท่านเคยสอนที่โรงเรียนสตรีศรีพฤฒาราม แต่ตอนนี้ท่านสอนที่ราชวินิตบางแก้ว เวลาสอนท่านเป็นกันเองกับลูกศิษย์มาก และเอาใจใส่ลูกศิษย์ทุกคนเป็นอย่างดี แต่เราไม่เคยซังถามประวัติท่านนะไม่มีโอกาศอันควรถาม จากคุณ : เพ็ญปกรณ์ (เพ็ญปกรณ์) - [ 1 มิ.ย. 49 05:24:10 ]

ความคิดเห็นที่ 23 พ่อเพื่อนชื่อว่า หม่อมหลวง ภาณุมาศ ทองเเถม ตอนนี้ลูกสาวเพิ่งจบจากโรงเรียนโยธินบูรณะ จากคุณ : หาดทรายเเละหมาน้อย... - [ 5 มิ.ย. 49 19:33:01 ]