การที่เราจะได้งานดีๆทำนั้น  เราจะต้องรู้ว่าใครเป็นใครในวงสังคม    ในห้องรวมพลเคยมีกระทู้ร้อนแรงด่ากันรุนแรงระหว่างคนที่เข้ามาพยายามขายหลักสูตรการแปลบทภาพยนต์  ทะเลาะด่ากับตัวเรา  
เราอ้างว่าหลักสูตรที่ว่าสั้นๆเรียนให้ตายก็แปลไม่ได้ (เว้นเสียแต่ว่าจะมี script หนังให้ มัวแต่ไป transcribe นักแปลที่ไม่เคยอยู่ต่างประเทศนานๆ  ฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องแน่ๆ)  แต่พอถกๆกันไปเราจับเคล็ดได้ว่าการหา script หนังคงหาได้จาก google แล้วก็หาได้จริงๆ   
เราอ้างว่างานแปลภาพยนต์ ที่เป็นหนังโรงใหญ่ๆ  จะเก็บไว้ให้คนในวงการโดยเป็นเฉพาะเจาะจง แต่คู่กัดเราอ้างว่า "เป็นเพราะวงการเขาไม่ไว้ใจคนไม่มีชื่อเสียง" 
พี่สาวเขี้ยวลากดินของเรากระซิบบอกเราว่า  นักแปลภาพยนต์ที่ค่าตัวแพงที่สุด  ได้ค่าแปลเรื่องละ 4 หมื่นบาท  ในขณะที่นักแปลภาพยนต์หางแถว  แปลหนังเถื่อนกับแปลหนังราคาถูกๆ  ได้แค่เรื่องละ 500 - 2000 บาทเอง
หลังจากการทะเลาะกันในรวมพลนักแปลระหว่างเรากับคนโฆษณา course การเรียนภาพยนต์  "เจ้าพ่อกระโปโตก"  ย่องๆเข้าไปเรียนการแปลภาพยนต์และไปตีสนิทกับคนที่ทะเลาะกับเรา  เรื่องมันเกิดขึ้นนานหลายปีแล้ว   แล้ว "เจ้าพ่อกระโปโตก" ก็เข้ามาเขียนข้อความสดุดี  คนที่สอนหลักสูตรการแปลภาพยนต์  เราไม่ได้เฉลียวใจว่า  "เกิดอะไรขึ้น" 
แต่อีกหลายปีต่อมา  พี่สาวที่เขี้ยวลากดินในวงสังคมหนังสือ และการแปล  แอบกระซิบบอกเราว่า  ครูสอนการแปลภาพยนต์ที่เราไปทะเลาะด้วยนั้น  แท้จริงเป็นคนที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ขิดกับคนที่อยู่ในธุรกิจภาพยนต์  ซึ่งยิ่งใหญ่พอที่จะจ้างหรือไม่จ้างใครแปลภาพยนต์ได้   เราตกใจถามพี่สาวเราว่า "พี่รู้ได้อย่างไรกันล่ะ"  พี่สาวเราตอบว่า "คนๆนั้นติดต่อฉันมา  ฉันแค่เห็นชื่อนามสกุลเธอ  ฉันก็รู้แล้วว่า  เธอเป็นใคร  ....แกมันโง่   แกมันโง่  ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร  ไอ้เจ้าพ่อกระโปโตกมันฉลาดกว่าแก  มันเป็น salesman ที่เก่งมากๆ  มันจึงไปสวามิภักดิ์กับ  คนๆนี้  เพื่อหวังให้ได้งานราคาแพงๆ  ....... ส่วนตัวแกนั้น  ก็จะยังเป็นนักแปลที่รับงานแปลเหลือเดนราคาถูกๆต่อไป ...........สมน้ำหน้า  ...........ฉันสอนแกกี่ทีแล้วว่า  แกต้องหาความรู้ใส่กบาล  ว่า  ใครเป็นใครในสังคม  .....นี่คือคำอธิบายว่าทำไมแกถึงประสบความล้มเหลวในการทำงานของแก......!!!!"
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 49 16:59:52
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 49 16:54:26
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 49 16:53:58
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 49 16:46:30