ความคิดเห็นที่ 2 เข้าห้องสมุด แล้วอ่าน "การเมืองในอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี" จากคุณ : CrazyHOrse - [ 9 พ.ค. 49 13:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มุมมองของสยามกับมุมมองของล้านช้างเวียงจันทน์มองไม่เหมือนกัน ในฐานะผู้มีอำนาจเหนือกว่าเช่นสยาม มองการกระทำของเจ้าอนุว่าเป็นกบฏ แต่ถ้ามองในแง่ของเวียงจันทน์ เจ้าอนุคือผู้ที่ต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียงจันทน์ เชิดชูยกย่องในแง่ของวีรบุรุษแห่ง ถ้าจะพูดเรื่องนี้มันจะต้องลากไปถึงอดีตที่ยาวนานพอสมควร และเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์ ก่อนที่จะเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น ในช่วงที่เวียงจันทน์ถูกกองทัพสยามบุกโจมตีและเวียงจันทน์ได้พ่ายแพ้ ต่อกองทัพสยาม และเจ้าอนุเองก็เคยโดนจับมาเป็นตัวประกันลงมาอยู่ที่กรุงเทพฯ รวมทั้งองค์เชษฐาคือ เจ้านันทเสน และพระนางแก้วยอดฟ้า หนึ่งปีให้หลัง พระบิดาของพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ เจ้านันทเสนจึงนิวัตกลับไปครองเมืองเวียงจันทน์ แต่เจ้าอนุและเจ้าพรหมวงศ์ยังต้องเป็นตัวประกันต่ออีกหลายปีก่อนที่จะได้กลับไปครองราชที่เวียงจันทน์หลังจากการสิ้นพระชนม์ขององค์เชษฐาทั้งสอง คือเจ้านันทเสน ที่สิ้นพระชนม์ที่กรุงเทพฯ และเจ้าอินทวงศ์ สิ้นพระชนม์ที่เวียงจันทน์ เคยมีนักศึกษาท่านหนึ่งได้ทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับย่าโม เท่าที่ทราบจะเป็นชาวโคราชด้วยซ้ำไป วิทยานิพนธ์เล่มนั้นฉีกแนวความคิดเดิมที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับย่าโม่เป็นคนละด้าน จนมีการประท้วงถึงขนาดว่าต้องให้ย้ายออกจากพื้นที่ ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับความปลอดภัยเลยทีเดียว ถ้าจะพูดถึงเรื่องย่าโม ขอลากไปเกี่ยวกับประเด็นการสักเลขชาวลาวในหัวเมืองก่อน ในสมัยนั้น หลวงยกบัตรเมืองโคราชเสนอให้มีการสักเลขชาวลาว(รวมถึงชนเผ่าต่างๆ ในการปกครองของล้านช้าง) เพื่อแสดงให้ทราบถึงจำนวนผู้คนที่สามารถเรียกเกณฑ์แรงงานได้ การสักเลขนี่ไม่ต่างกับการสักเลขวัวเลขควาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวข่าซึ่งเป็นชนเผ่าที่มักโดนเกณฑ์แรงงานมากที่สุด ประชาชนจำนวนมากในฝั่งขวาแม่น้ำโขง จึงหนีไปพึ่งเจ้าอนุ เจ้าอนุจึงออกมาปกป้องประชากรของพระองค์โดยการนำทัพไปต่อต้านกองทัพที่ยกพลมาสักเลขชาวลาวล้านช้างตามหัวเมืองต่างๆ พร้อมกันนั้น ได้ชักชวนครอบครัวชาวลาวที่สระบุรีกลับคืนเวียงจันทน์ด้วย ชาวลาวในสระบุรีนั้นส่วนใหญ่มาจากเวียงจันทน์โดยกองทัพสยามได้กวามต้อนมาและให้ตั้งบ้านเรือนอยู่ในสระบุรี ส่วนบรรดาขุนนางและเชื้อพระวงษ์สำคัญให้ลงมาถึงกรุงเทพฯ ในระหว่างยกทัพกลับเวียงจันทน์ ได้มีกองกำลังแอบแฝงเข้ามาในขบวนและเกิดการจลาจลในที่สุด เจ้าอนุจึงยกทัพกลับเวียงจันทน์ก่อน และตามด้วยการยกทัพของกองทัพสยามเข้าถล่มเวียงจันทน์และทำลายเวียงจันทน์จนไม่เหลือซากความเป็นเมืองในกาลต่อมา บั้นปลายสุดท้ายของเจ้าอนุถูกจับมาขังใส่กรงตากแดดไว้ที่สนามหลวง พร้อมพระมเหสี พระโอรสและพระธิดา และเจ้าอนุทรงสิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา จะเห็นได้ว่า เรื่องระหว่างเจ้าอนุกับสยาม มีเพียงแต่เรื่องการชักชวนชาวลาวที่สระบุรีและหัวเมืองต่างๆ กลับคืนเวียงจันทน์ เจ้าอนุไม่ได้ยกกองกำลังลงไปถึงกรุงเทพฯ หรือกระทำการที่เรียกว่าประกาศสงครามกับกรุงเทพฯ เลย เจ้าอนุเป็นกษัตริย์ผู้มีความสามารถพระองค์หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการปราบกบฏผู้มีบุญ ภิกษุสาที่จำปาสัก จนได้รับรางวัล ให้เจ้าราชบุตรพระโอรสได้ครองเมืองจำปาสัก ซึ่งเป็นอีกแคว้นหนึ่งต่างหาก หรือการได้รับชัยชนะจากการทำศึกกับพม่าถึงสองครั้ง และศึกกับเมืองเชียงตุง เชียงรุ่ง และยังมีปรากฏข้อความถึงเจ้าอนุว่า พระองค์นั้นเป็นที่รักขององค์พุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อครั้งพระองค์ครองเวียงจันทน์ก็ยังส่งจดหมายฝากความฮักแพงมาหา และรัชสมัยของพระองค์นั้นเอง ที่พระราชทานรางวัลตามคำร้องขอของเจ้าอนุในการปราบกบฏภิกษุสา โดยคำขอของเจ้าอนุคือ ให้เจ้าราชบุตรพระโอรสของพระองค์ได้ครองนครจำปาสัก ซึ่งองค์พุทธเลิศหล้านภาลัยทรงประทานให้ เราทุกคนไม่สามารถรู้ได้หรอกว่า ในตอนนั้นเจ้าอนุคิดยังไง แต่ดูจากเหตุการณ์และหลักฐานที่ปรากฏขึ้น เจ้าอนุทำเพียงแต่นำผู้คน ชาวลาวสระบุรีกลับคืนสู่เวียงจันทน์และต้านกองกำลังของหลวงยกบัตรเมืองโคราชที่จะนำทัพไปสักเลขพลเมืองของพระองค์ และเหตุการณ์จลาจลในเมืองโคราชนั้น ก็เป็นเหตุการณ์ขากลับ จากคุณ : 999 - [ 9 พ.ค. 49 13:19:50 A:61.7.131.11 X: TicketID:112835 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมไม่บอกว่าใครผิดใครถูก แต่เราควรจะฟังความทั้งสองข้าง ก่อนจะตัดสินครับ คุณก็ยังบอกเองไม่ใช่เหรอครับ ว่าเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ จากคุณ : 999 - [ 9 พ.ค. 49 14:13:12 A:61.7.131.11 X: TicketID:112835 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราว่าเค้าเขียนถูก เเม่นนนนนนนนนนนน จากคุณ : ผีทะเลที่รัก - [ 9 พ.ค. 49 14:35:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เสริม คห.2 หนังสือที่อ้างถึงเป็นวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(ไม่แน่ใจว่าชื่อเดียวกันหรือเปล่า) แต่ที่แน่ๆ สำนักพิมพ์มติชนเคยตีพิมพ์เรื่องไม่มีท้าวสุรนารีไม่มีอนุสาวรีย์...อะไรสักอย่างนี่แหละ  จำไม่ได้แล้ว แต่ที่แน่ๆ แค้นหนังสือเล่มนี้มากมาย เพราะได้เห็นหนังสือเล่มนี้วางขายแล้วแต่...   "เอาไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยซื้อก็ได้" สรุป  อดซื้อเพราะมีคนประท้วงเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จนต้องสั่งเก็บ ทั้งๆ ที่ในหนังสือเขียนอ้างอิงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ไม่ได้เขียนแบบโคมลอยสักหน่อย (อดซื้อถาวรไปเลยอ่ะ) ปล.  ศ.จันทร์ฉายได้พูดให้แง่คิดทำนองสงสัยว่า กรณีของเจ้าอนุวงศ์ที่ได้ขอคนลาวคืนในช่วงพลัดแผ่นดินในสมัยรัชกาลที่ 3 มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า เพราะเจ้าอนุวงศ์เป็นคนโปรดของรัชกาลที่ 2 ถ้าเจ้าอนุวงศ์เป็นคนโปรดของรัชกาลที่ 2 แล้วดังนั้น หากเจ้าอนุวงศ์ต้องการได้ครอบครัวชาวลาวกลับคืน ทำไมเจ้าอนุวงศ์จึงไม่ขอพระกรุณาจากรัชกาลที่ 2 ส่วนกรณีย่าโมก็ยังคงถกเถียงกันอยู่ต่อไป จากคุณ : no-trump (เข้ามาจอบ) - [ 9 พ.ค. 49 15:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 วิทยานิพนธ์ เรื่องนี้ เป็นของ คุณสายพิณ (นามสกุลอะไรจำไม่ได้แน่ชัดครับ) แต่เป็นประเด็นตัวอย่างที่ นศ.ประวัติศาสตร์ต้องเรียน ต้องอ่าน จากคุณ : น้องกี้...ความรู้แค่คืบ - [ 9 พ.ค. 49 15:22:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตกลงว่า หนังสือที่ว่าเป็นหนังสือที่ดีเล่มหนึ่งใช่ไหมครับ แต่ว่าต้องกลายเป็นหนังสือต้องห้ามไปในบัดดล เคยได้ยินคนพูดเหมือนกันว่าเป็นวิทยานิพนธ์เล่มที่ดีที่สุดเล่มหนึ่ง ยังพอจะหาอ่านได้ไหมครับ จากคุณ : 999 - [ 9 พ.ค. 49 15:42:01 A:61.7.131.11 X: TicketID:112835 ]

ความคิดเห็นที่ 10 การเมืองในอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี : สายพิณ แก้วงามประเสริฐ หนังสือเล่มนี้หาอ่านได้ตามห้องสมุดมหาวิทยาลัยต่างๆ หรือ ห้องสมุดรับสภา ห้องสมุดสยามสมาคม ศูนย์ข้อมูลมติชน จากคุณ : ขุนนางอยุธยา - [ 9 พ.ค. 49 17:01:10 A:58.147.41.18 X: TicketID:032642 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ห้องสมุดรัฐสภา จากคุณ : ขุนนางอยุธยา - [ 9 พ.ค. 49 17:02:30 A:58.147.41.18 X: TicketID:032642 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านคห.ของหลายๆท่านข้างต้นแล้วทำให้คิดได้ว่ากระทรวงวัฒนธรรมหรือหน่วยงานใดก็แล้วแต่ในรัฐบาลที่รับผิดชอบการออกอากาศเรื่องที่ไม่สมควร ควรที่จะคำนึงถึงความรู้สึกของเพื่อนบ้านรอบๆข้างเราด้วยโดยเฉพาะลาว เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าเขาดูทีวีเราทั้งๆที่รัสเซียถึงกับลงทุนย้ายดาวเทียมมาไว้แถบนั้นเพื่อส่งรายการทีวีมาให้เขายังไม่สนใจดูเลยเนื่องจากเขาใกล้ชิดกับเรามากกว่า อย่าปล่อยให้พวกตลกทุเรศตามหน้าจอทีวีสร้างความเกลียดให้กับคนไทยและประเทศไทยโดยไม่ตั้งใจ มันไม่คุ้มกัน อย่ามัวแต่ไปคิดดูถูกว่าเขาจนด้อยพัฒนา ที่จริงถ้าเขาแค่บริหารทรัพยากรณ์ที่มีอยู่ให้เหมาะสมด้วยจำนวนประชากรของเขาคิดรายได้ต่อหัวแล้วเขารวยกว่าเราเยอะ เคยมีการศึกษากันเรื่องพลังงานไฟฟ้าจากน้ำของลาวที่มีอยู่ถ้าลงทุนทำให้เต็มที่ลาวจะเป็นผู้ส่งออกพลังงานรายใหญ่ในแถบนี้ไม่แพ้เศรษฐีน้ำมันเลยทีเดียว จากคุณ : Cyber Sage - [ 9 พ.ค. 49 17:37:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ พอดีผมลองค้นแล้ว ของสำนักพิมพ์มติชน ไม่มีการพิมพ์ต่อหรือจำหน่าย คล้ายๆ ว่า หนังสือชุดนี้หมดแล้วหมดเลยไม่พิมพ์ต่อมั๊งครับ จากคุณ : 999 - [ 9 พ.ค. 49 17:37:51 A:61.7.131.11 X: TicketID:112835 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หนังสือเล่มนี้หมดเพราะบางส่วนถูกฝูงชนบ้าคลั่งทำลาย ที่เหลือสนพ.เก็บทำลายทิ้งเองครับ แน่นอนว่าไม่กล้าพิมพ์ใหม่ให้เกิดปัญหาอีก แต่ยังเหลือให้หาอ่านได้ตามห้องสมุดดีๆ วิทยานิพนธ์เรื่องนี้ได้รับรางวัลวิทยานิพนธ์ดีเด่นของธรรมศาสตร์ ควรหาอ่านเป็นอย่างยิ่ง อ่านแล้วขอให้เกิดปัญญานะครับ ไม่ใช่เอียงไปอีกข้าง ซึ่งไม่ได้ดีไปกว่าเดิมเลย จากคุณ : CrazyHOrse - [ 9 พ.ค. 49 18:02:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นพูดถึงหนังสือเรื่อง การเมืองในอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ของ คุณสายพิณ แก้วงามประเสริฐ ผมขอพูดในฐานะคนโคราช และมีหนังสือเล่มนี้ไว้ในครอบครอง ผมซื้อหนังสือเล่มนี่ตั้งแต่ตีพิมพ์ครั้งแรกในตอนเรียนปริญญาตรี แต่ยอมรับว่าทันทีที่เห็นชื่อเรื่องและคำโปรยบนหน้าปก ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก หลังจากได้อ่านเนื้อหาคร่าวๆ ในร้านหนังสือ และเห็นเอกสารอ้างอิงทีมีที่มาและที่ไปทั้งหมดแล้ว ผมเองต้องยอมรับกับความพยายามของคุณสายพิณในการทำวิทยานิพนธ์เล่มนี้ออกมาครับ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอย่างที่หนังสือเขียนไว้หรือไม่ ทุกวันนี้เมื่อผมกลับโคราชผมก็ยังไหว้ย่าโมทุกครั้งไปครับ เสียดายก็แต่สื่อในสมัยนั้น โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ที่ประโคมข่าวเสียจนคุณสายพิณต้องลาออกจากโรงเรียนที่สอนอยู่และ ตัวหนังสือเองก็กลายเป็นสิ่งต้องห้ามไปเสีย จากคุณ : เมื่อวันฟ้าหม่น - [ 9 พ.ค. 49 22:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อประมาณต้นปีก็มีเสวนาวิทยานิพนธ์เรื่องนี้ที่ธรรมศาสตร์ค่ะ(ถ้าจำไม่ผิด) เป็นวิทยานิพนธ์ที่น่าสนใจจริงๆ ทำให้นึกถึงกรณี หลักศิลาจารึก และกรณีสุทรภู่ที่ถกเถียงกันว่าเป็นคนระยองหรือคนเพชร มันสะท้อนว่าการศึกษาประวัติศาสตร์ในวงวิชาการ หลายครั้งมันไปขัดแย้งกับความเชื่อท้องถิ่น จากคุณ : isisis (isisis) - [ 9 พ.ค. 49 23:14:02 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณย่าโม ท่านตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของ จอมพล ป. พิบูลสงครามนั่นแหละครับ ไม่มีอะไร แต่ตอนนี้ท่านก้อเป็นเหมือนเทวดาประจำเมืองไปแล้ว ส่วนตัวผมก็รักและเคารพย่าโมเช่นลูกโคราชเหมือนเดิมแหละครับ แต่อยากให้พวกเราลองพิจารณาดูอย่างแยบคาย อย่าเชื่อไปหมดแม้ว่าสิ่งนั้นมีอยู่ในตำรานะครับ ประวัติศาสตร์ ก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง ตำนานก็ว่ากันตามตำนาน หาบุคคลาฐิษฐานมาดูว่าถกกัน เอามาปนกันเป็นเรื่องจริง ก็ยุ่งสิครับ.. ว่าป่ะ จากคุณ : แฟนน้องหนุ่ย (orcahappy) - [ 10 พ.ค. 49 00:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นคนลาวว่าเขาไม่นับโคราชเป็นเมืองของลาวอีสาน ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับเรื่องย่าโมหรือเปล่าว เป็นคนอีสานเหมือนกัน มีความรู้สึกกึ่งๆกลางๆกับเรื่องย่าโมมาก เมื่อใด้อ่านประวัติศาสตร์ของลาว(ล้านช้าง) เพราะอีสานเคยเป็นหนึ่งของลาว(ล้านช้าง)มาก่อนเลยอยากอ่านดู เทียบกับประวัติศาสตร์ที่ใด้เรียนมาทางไทย ย่าโมเหมือนฮีโร่ และทางลาว(ล้านช้าง)เป็นกบฎ ทำไหมถึงมีความรู้สึกอย่างงี้? อาจเป็นเพราะทางไทยกลางชอบบอกคนอีสานนะว่าเป็นคนลาว เป็นคนลาวเขาไม่นำถือย่าโมกันหรอกจริงไหม คนอีสานเสื้อสายลาวจากล้านช้างเดิมจะคิดเหมือนเราไหม เมื่อใด้อ่านประวัติศาสตร์ทางลาว(ล้านช้าง)แล้ว อยากรู้ว่าเรื่องย่าโมจำเป็นต้องขุดขึ้นมาอีกไหม ในเมื่อไทยกับลาวเป็นมิตรกันกว่านี้และจะเปิดสะพานทางรถไฟหลายด้าน การค้าขายออกจากไทยที่ให้ทางลาวเป็นทางออกไปจีนและเวียดนามที่เป็นตลาดค้าขายสำคัญของไทย จากคุณ : สาวใหม - [ 10 พ.ค. 49 02:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เข้าใจว่าคนเชื้อสายลาวในสมัยก่อนจะอยู่ถัดจากเมืองโคราชออกไปคือ อ.โนนไทย (โนนลาว) เนื่องจากเมืองโคราชเป็นเมืองชายขอบวัฒนธรรมเชื้อชาติสยาม ภาษาโคราชถือเป็นภาษาถิ่นของไทยสยาม ต่างจากภาษาลาวถิ่นอิสาณแถบ เหนือและใต้ ที่นับเป็นภาษาถิ่นของภาษาลาว วิทยานิพนธ์ของคุณสายพิณ ได้รับเลือกให้เป็นวิทยานิพนธ์ดีเด่นของ ม.ธรรมศาสตร์ น่าเสียดายที่ยังมีคนอีกมากมายไม่ยอมเปิดหูเปิดตารับมุมมองทางประวัติศาสตร์ใหม่ๆที่ได้ถูกนำเสนออย่างมีหลักทางวิชาการ เรื่องเจ้าอนุวงศ์นี้เกิดขึ้นเพียงสามหรือ สี่ชั่วอายุคน ดังนั้นมันคงไม่เป็นตำนานแน่ คนลาวมากมายถูกกวาดต้อนมาอยู่ภาคกลางของสยามได้ออกลูกหลานมาเป็นพลเมืองไทย หากแต่ยังได้รับการถ่ายทอดเรื่องราวจากปู่ย่าตายาย ก็ยังมีอีกมากมาย ในภาคกลางหลายจังหวัด ยังมีหมู่บ้านคนลาวที่คนรุ่นย่า ยาย ยังพูดภาษาลาวแบบโบราณอยู่ก็ไม่น้อย จากคุณ : นิรนาม - [ 10 พ.ค. 49 07:39:23 A:124.121.71.145 X: TicketID:086026 ]

ความคิดเห็นที่ 20 พูดถึงคนที่โดนกวาดต้อนมา ผมเคยเจอกรณีหนึ่ง เขาเรียกตัวเองว่า ลาวหลง เป็นกลุ่มคนลาวที่อยู่ในพม่า ทีแรกก็สงสัยว่า อ้าว ไปอยู่ในพม่าได้ไง อยู่แถวมะละแหม่ง เขาก็บอกว่า รุ่นทวดของทวดเขาเล่าว่า หลังจากเวียงจันทน์พ่ายต่อสยาม คนถูกกวาดต้อนมาจำนวนมาก กลุ่มของพวกเขาถูกส่งไปเป็นแรงงานในเขตเมืองแถบมะละแหม่ง และให้ตั้งบ้านเมืองอยู่นั้น จนถึงอังกฤษเข้าปกครองพม่า พวกเขาจึงโดนตัดขาดจากทางนี้ เลยต้องอยู่กันเองแบบตั้งบ้านเรือนและใช้ชื่อบ้านเดิมที่เคยอยู่ในเวียงจันทน์ จนมีการกระทบกระทั่งกันระหว่างทหารพม่ากับทหารกระเหรี่ยงพวกเขาเลยได้หลบหนีเข้ามาอยู่บริเวณชายแดนกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ก็ถามว่าพวกเข้าเป็นคนชาติใด เขาบอกว่าเป็น ลาว เจ้าหน้าที่ก็ว่า ลาวทำไมมาอยู่ในพม่า เขาก็ตอบว่าเป็นลาวหลง หลงบ้านหลงเมืองมา พวกเขาอยู่ในพม่าไม่ต่ำกว่าสองร้อยปีแล้ว แต่ยังคงพูดภาษาลาวควบคู่กับภาษาพม่าสืบกันมา หลายคนยังฝันจะกลับคืนไปยังถิ่นเวียงจันทน์ที่บรรพบุรุษของพวกเขาจากมา ประชากรลาวหลงในพม่า คาดว่ามีไม่ต่ำกว่าเป็นแสนคนเลยทีเดียว แต่เขาได้รับการปฏิบัติจากกลุ่มทหารพม่าค่อนข้างดี เพราะกลุ่มลาวหลงไม่มีกองกำลังทหาร ไม่มีอาวุธ เป็นแค่เชื้อชาติส่วนน้อย แต่ก็มีการมาขอปันเสบียงบ่อยๆ จากทั้งมอญ กระเหรี่ยงบ้าง บางคนกลัวภัย จึงหลบนี้เข้ามาอยู่บริเวณชายแดนเป็นจำนวนมาก ทุกวันนี้ก็ยังมีที่อยู่ในศูนย์ผู้อพยพ จากคุณ : 999 - [ 10 พ.ค. 49 14:14:05 A:61.7.131.151 X: TicketID:112835 ]

ความคิดเห็นที่ 21 บางอย่างความจริงก็ขัดกับความเชื่อ บางอบฃย่างความเชื่อก็มีอิทธิพลเหนือความจริง แต่สรุปว่า กรณีเจ้าอนุวงศ์กับย่าโม ทั้งสองประเทศต่างใช้ท่านเป็นเครื่องมือสำหรับรับใช้อุดมการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันกันทั้งนั้น จากคุณ : cybrarian - [ 10 พ.ค. 49 14:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับความเห็นที่สิบสอง บรรดาพวกตลกที่ชอบใช้สถานะความเป็นลาว หรืออีสานมาเล่นเป็นมุข หวังเพียงเพื่อเรียกเสียงเฮเสียงฮาไปวันๆ ....พวกนี้น่าประณาม.....ดาวตลกที่มาจากยโสธรและดาวตลกจมูกบานที่ชอบพูดคำว่า "ลาวแดก" สองดาวตลกนี้เป็นคนอีสานทั้งคู่ และชอบเล่นมุขล้อเลียนอย่างนี้บ่อยๆ.....เพราะสถานะของตัวเองเป็นคนอีสานอยู่แล้ว พอเอามุขล้อเลียนคนอีสานหรือคนลาวมาเล่นก็เลยฮาตึง แต่ถ้าหากตลกที่มาจากภาคอื่นมาเล่นมุขนี้.....มีสิทธิ์โดนโห่ บรรดาดาวตลกๆ ทั้งหลายควรเลิกเล่นมุขประเภทที่ล้อเลียนสถานะ ชาติกำเหนิด และถิ่นกำเหนิดของคนอื่นซะเถอะนะครับ คุณอาจจะเรียกเสียงฮาได้ประเดี๋ยวประด๋าว และเสียงฮาก็จางหายไป แต่คุณอาจจะไม่รู้ว่าอาจจะมีคนบางกลุ่มบางส่วนรู้สึกเจ็บปวด น้อยเนื้อต่ำใจ และรู้สึกว่าถูกกระทำ(ด้วยวาจา)โดยไม่เป็นธรรม ด้วยมุขตลกของดาวตลกผู้เห็นแก่ตัวเหล่านี้ วีรกรรมของท้าวสุรนารีนั้นเลื่องลือมาตั้งแต่วีรกรรมนั้นสิ้นสุด หรือว่าเพิ่งจะมาเลื่องลือเอาสมัยจอมพลแปลก??? จากคุณ : คนอุดรฯ - [ 10 พ.ค. 49 16:02:29 A:193.195.73.66 X: TicketID:109703 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ชาวลาว ก็ยังมองประวัติศาสตร์ของประเทศไทยว่า แปลก ๆ งง ๆ บ้านเมืองในเวียงจันทร์ถูกทำลาย วัดวาอารามถูกทิ้งให้เป็นทราก เป็นอนุสรณ์เตือนความทรงจำถึงชาว"สยาม" ที่บุกเข้ามาทำลายบ้านเมือง ชาวลาวยังคงเคารพแลเทิดทูนเจ้าอนุวงศ์ในฐานะผู้กอบกู้เอกราชของชาวลาว ในขณะที่ประวัติศาสตร์ไทยยังคงให้สมญานามว่า"กบฎ" ย้อนไปในช่วงเวลารอยต่อของรัชกาลที่ 2-3 เจ้าอนุวงศ์เป็นที่โปรดปรานของรัชกาลที่ 2 มาก ๆ ถ้าเทียบอายุ ก็มีอายุในรุ่นพ่อของรัชกาลที่ 3 แต่การเมืองอาจจะผิดพลาด ตรงที่ท่านต้องการชาวลาวในภาคกลางคืนจากกรุงเทพฯ และความรู้สึกที่ห่างเหินจากรัชกาลที่ 3 จึงจุดชนวน สงครามรัฐต่อรัฐขึ้นมา บางครั้งยังให้สงสัยว่า จริง ๆ แล้ว เหตุการณ์การแปรพักสมัครฝ่ายของลาวโคราช ที่เป็นจุดปะทุที่สำคัญของสงครามทั้งสอง เกิดขึ้นจากการเมืองของสยามเองหรือเปล่า หรือเป็นการเมืองของฝ่ายลาวเอง ที่จริง ๆ ก็มีหลายราชวงศ์ในลาวเหนือใต้ ..... ความขัดแย้งที่ไม่ยอมเปิดเผยเรื่องราวในบริบทเดียวกัน จึงนำพาให้เกิดความขัดแย้งมาถึงในปัจจุบัน ยิ่งขบวนการรัฐชาติได้นำเรื่องราวเล็กน้อยของย่าโม้ขึ้นมาเป็นจุดสร้างชาติ ในวาระที่แตกต่างในช่วงเวลาของจักรวรรดินิยม ความห่างเหินจากความจริงก็ยิ่งมากขึ้น จนคำว่า"กบฎ" กลายมาเป็นคำประกอบเพื่อสร้าง"วีรสตรี" ในช่วงเวลา ไม่เกิน 80 ปีที่แล้วมา แต่ผลข้างเคียงก็คือ ว่าว่า"กบฎ" ได้สร้างความเจ็บแค้นและร้าวฉาน ต่อความสัมพันธ์ของผู้คนที่มีภาษาพูดใกล้เคียงกันที่สุดในโลก ในตระกูล ไท - ลาว นักวิชาการ 80 ปี ที่แล้ว ก็ยังคง "ดื้อตาใส แจ๋วแหวว" และก็ยังคงยืนยันว่า ไม่ได้โม้ ...........โมต่างหากที่ปรากบฎลาว จบข่าว!!!! จากคุณ : วรณัย - [ 11 พ.ค. 49 14:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ยอมรับความเป็นข้อเท็จกันบ้างก็จะดี  หลายสิ่งหลายเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของไทยเขียนจารึกเอาไว้ไม่สอดคล้องกับเพื่อนบ้านเลย อย่างของลาว  หรือแม้แต่ของทางเชียงใหม่เชียงราย  ก็ไม่ค่อยจะสอดคล้อง  หรือว่าเป็นเพราะเป็นเพียงความต้องการของผู้เขียนที่ต้องการแสดงว่าเมืองของตนเองเป็นใหญ่ในแถบนี้   ผมไปศึกษามาหลายเรื่อง ทั้งที่เป็นเรื่องเดียวกัน  แต่การบรรยายต่างกัน จากคุณ : supawong - [ 13 พ.ค. 49 18:18:56 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เหอๆผมโตมาจากอ.โนนไทยตั้งแต่เด็กถึงประมาณ 9 ขวบ จากคุณ : อยากบอก (ไอซ์_เป็นคน) - [ 13 พ.ค. 49 20:23:20 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณนะคะที่วิทยานิพนธ์เรื่องนี้ยังอยู่ในความทรงจำ จริง ๆ ไม่ได้มีเจตนาที่จะลบหลู่ย่าโม อย่างที่มีคนคิด งานประวัติศาสตร์ขึ้นอยู่กับการใช้หลักฐานและการตีความหลักฐาน ประวัติศาสตร์คงตอบไม่ได้ว่าเรื่องใดจริงหรือไม่จริง เพียงแต่ต้องมองหลาย ๆ ด้าน เข้าใจว่าหนังสือเล่มนี้นอกจากอ่านได้ตามห้องสมุดต่าง ๆ แล้ว ยังพอหาซื้อได้ เห็นสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกันเคยซื้อมา แต่ไม่ทราบว่าซื้อมาจากที่ไหน เคยมีบางสำนักพิมพ์ติดต่อจะพิมพ์อีก แต่ผู้เขียนก็เกรงว่าจะเกิดปัญหา ไปกระทบกระเทือนจิตใจของคนโคราช แต่หากได้อ่านจริง ๆ จะรู้ว่าไม่ใช่อย่างที่คิด โดยความรู้สึกจริง ๆ ของผู้เขียนหากได้มีโอกาสไปโคราชครั้งใด ก็ต้องไปกราบไหว้ย่าโม ในฐานะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองเช่นเดียวกับคนไทยโดยทั่วไปเสมอ จากคุณ : สายพิน - [ 14 พ.ค. 49 01:10:53 A:203.113.67.37 X:203.113.16.241 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ชื่นชมคุณสายพินมากครับ ประวัติศาสตร์อยู่ที่มุมมองจริง แต่หากเป็นมุมมองที่ได้มาจากการค้นคว้าเปรียบเทียบข้อมูลอย่างมีหลักวิชาการย่อมเป็นงานวิจัยที่น่าชื่นชม อยากให้ สนพ มติชนพิมพ์งานนี้ออกมาอีกครั้ง มีงานเขียนเกี่ยวกับประวัติศาตร์รัฐชายขอบสยามที่ดีๆอีกหลายเรื่องเช่นเดียวกัน แต่ผลงานที่ตรงไปตรงมาส่วนใหญ่จะเป็นงานเขียนของชาวต่างชาติ หรือ คนไทยที่ไปเรียนในต่างประเทศ จากคุณ : นิรนาม - [ 14 พ.ค. 49 08:57:21 A:124.121.71.182 X: TicketID:086026 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ยินดีที่ได้พบคุณสายพิน ชื่นชมผลงานมากค่ะ จากคุณ : คนรักประวัติศาสตร์ - [ 15 พ.ค. 49 00:07:15 A:203.118.93.159 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 ประวัติศาสตร์ใครประวัติศาสตร์มัน แวะมาอ่าน -------------------------------------- จากคุณ : ไม่จบ กศน - [ 15 พ.ค. 49 20:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณ คุณนิรนาม และคุณคนรักประวัติศาสตร์ มากค่ะ ทำให้มีกำลังใจที่จะเขียนหนังสือต่อไปค่ะ และทำให้รักงานประวัติศาสตร์เช่นกันค่ะ จากคุณ : สายพิน - [ 16 พ.ค. 49 10:58:05 A:192.168.1.226 X:61.19.153.114 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ยินดีที่ได้พบคุณสายพินค่ะ เพราะเป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อในประวัติศาสตร์ในตำราที่เรียนมาทั้งหมด  ดตัวอย่างง่าย ๆ ที่เห็นก็คือนักร้องชื่อดัง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ขณะที่เธอเสียชีวิต เธฮไปด้วยความตับแค้น ทุกข์โศก น่าสงสาร แต่พอเธอไปแล้ว คนที่ได้ผลประโยชน์จากการตายของเธอ พยายามทำให้เธอกลายเป็นเจ้าแม่ ขนาดในสมัยเราที่รู้เรื่องของเธอมาตลอด ยังเป็นไปขนาดนี้ แล้วอีกสักร้อยปี เรื่องของเธอจะเป็นตำนานที่ต่อเติมไปอีกเท่าไร จากคุณ : ภุมรีภิรมย์ - [ 16 พ.ค. 49 12:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อุฟ ตัวจริงมาเองเลยรึครับ ผมก็นึกว่าเป็นเรื่องนมนานมากแล้วนะเนี่ย แหะๆ  :) จากคุณ : Archi - [ 16 พ.ค. 49 16:38:42 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สวัสดีค่ะคุณสายพิน งานของคุณกระตุ้นความคิดให้แตกออกไปได้อีกมาก โชคดีที่ได้อ่าน จากคุณ : แสนอักษร - [ 21 พ.ค. 49 07:21:53 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดกันนะคะ ดีใจที่ทำให้คนอ่านวิทยานิพนธ์แล้วสนุกกับการอ่าน ขอบคุณคุณแสนอักษร และคุณภุมรีภิรมย์นะคะ ไม่ได้เขียนงานประวัติศาสตร์นานมาก เขียนแต่บทความสั้น ๆ ลงมติชนเป็นครั้งคราว ตามโอกาสอันควร ตอนนี้รู้สึกเริ่มอยากเขียนงานประวัติศาสตร์อีกสักครั้งนะคะ พึ่งได้มีโอกาสเข้ามาเวปนี้ ตอนแรกคิดว่าเป็นเวปของวัยรุ่น พอเข้ามาจริง ๆ รู้สึกเป็นประโยชน์มาก ได้รู้ว่าอะไรไปถึงไหน อย่างน้อย ๆ ก็ในวงการประวัติศาสตร์ แล้วยังได้เพื่อนคุยที่สนใจประวัติศาสตร์ด้วยค่ะ จากคุณ : สายพิน - [ 22 พ.ค. 49 12:06:54 A:192.168.1.159 X:61.19.153.114 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อยากอ่านจังเลยครับ ขอหลังไมค์ครับ จากคุณ : zaiko - [ 26 พ.ค. 49 01:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เท่าที่เคยคุยกับ คนลาว ระดับมีตำแหน่ง เจ้าอนุวงศ์  มาช่วยไทยด้วยใจรัก  แต่ สุดท้าย ถูกหลอกใช้   และ โดนกำจัด    จีงหนี กลับลาว  ได้ในที่สุด  ไม่ตาย ลาวจึงเกลียดไทย ในหลายๆด้าน ผมว่า เราคงถูก ฝรั่ง "เสี้ยมเขาให้ชนกัน"  เพื่อง่ายในการปกครอง หาก ภูมิภาคนี้  รวมตัวกันได้แบบ Euro  คงสร้างปัญหา ให้ ฝรั่ง ผมว่า ไทย ลาว พม่า เขมร  น่าจะลืมประวัติศาสตร์  Forget the past   คิดดูนะ   ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ  รบกันไม่กี่ปีมานี่เอง ยัง สุมหัวกัน พัฒนาประเทศ  ดีต่อกันได้   แต่  เรารบกันมา ตั้งหลายร้อยปีแล้ว  ยังมาเป็น เด็กๆ  ให้ ฝรั่งเสีี้ยมเขา  ปั่นหัวเป็นจิ้งหรีด   มันแสดงให้เห็น ความไม่ mature ใน คนของเราครับ ลดอคติ   ร่วมกัน ทำมาหากิน สร้างสันติภาพได้แล้ว ยิ่ง สร้าง หนัง  แบบ ก้านกล้วย  ให้พม่า เขาเกลียดเราเปล่าๆ เมื่อไร ผู้กำกับ  จะั คิดได้  สะที จากคุณ : จัตตาโร - [ 4 มิ.ย. 49 21:04:52 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นด้วยกับความเห็น 37  เราควรศึกษาประวัติศาสตร์  และดูแลนำเอาประวัติศาสตร์มาพัฒนาปัจจุบัน  แต่ทุกวันนี้มักจะเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยบ่อยๆ  สำหรับประวัติศาสตร์ประเทศอื่น ประเทศนั้นก็เขียนเอง ศึกษาเอง เราการันตีไม่ได้เลยว่านั่นคือถูก  แล้วเราผิด  ถ้าจะให้ดีผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ต้องเข้าไปค้นคว้าแหล่งอ้างอิงทุกสถานที่ที่อ้างถึง  รวมทั้งบุคคลที่กล่าวในประวัติศาสตร์ด้วย จากคุณ : สีฟ้า (รากเหง้า) - [ 2 ก.ค. 49 08:00:11 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สุดท้ายไทยก็กุเรื่องเอง จากคุณ : Nutcsaimun - [ 5 ก.ค. 49 14:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 40 บิลเกรตก็รู้ ผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆท่านก็รู้ และรู้มานานแล้วว่า .. มีผู้คนอีกมากมายในประเทศนี้ใช้ software ผิดกฎหมาย ทำไมเขาจึงยัง "เอาหูไปนา เอาตาไปไร่" ??? ขณะที่เราต้องการเป็น "ผู้รู้" "บัณฑิต" "มหาบัณฑิต" ด้วยการจ้องจี้ ขุดคุ้ย แจกแจง หาหลักฐาน วิเคราะห์เปรียบเทียบ ซ้ำยังตะโกนก้องฟ้องโลกว่า.... บ้านนั้น ย่านนั้น จังหวัดนั้น ภาคนั้น ของประเทศนี้ ใช้ windows+software ผิดกฎหมาย อะไร เท่าไร แค่ไหน แม้ส่วนหนึ่งมันเป็นความถูกต้อง แต่ทั้งหมดมันไม่ถูกกาลเทศะ โดยเฉพาะเรื่องละเอียดอ่อนที่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยิ่งควรตระหนักและเห็นแก่บ้านเมืองให้มากกว่าผลประโยชน์เพียงส่วนตน ภูมิภาคนี้อ่อนแอเกินกว่าจะมาทำสงครามกันเอง. จากคุณ : ขุนศึก - [ 19 ก.ค. 49 15:48:20 A:203.146.6.86 X: TicketID:090411 ]