สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2443 ทรงเป็นบุตรคนที่ 3 ของพระชนกชู และพระชนนนีคำ ทรงมีพระภคินีและพระเชษฐา 2 คน ซึ่งได้ถึงแก่กรรมเสียตั้งแต่ยังเยาว์วัย เหลือแต่พระอนุชา คือคุณถมยา ซึ่งอ่อนกว่าสมเด็จย่า 2 ปี ได้มีชีวิตอยู่ต่อมาจนโต ส่วนพระชนกชูนั้น ได้ถึงแก่กรรมเมื่อสมเด็จย่ายังทรงพระเยาว์มาก และเมื่อพระองค์มีพระชนม์มายุเพียง 9 พรรษาพระชนนีคำก็ถึงแก่กรรม หลังจากนั้นทรงอยู่ในความอุปการะของป้าซ้วย พี่สาวของพระชนนีคำ ซึ่งมีอาชีพรับจ้างมวนบุหรี่และทำขนมขาย
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ทรงบรรยายถึงบ้านข้างวัดอนงคารามไว้ในหนังสือพระนิพนธ์เรื่อง "แม่เล่าให้ฟัง" ว่า "เมื่อจำความได้ แม่ก็อยู่ที่ธนบุรีแล้ว ที่ซอยซึ่งปัจจุบันเป็นซอยวัดอนงค์ "บ้าน" นั้นเหมือนห้องแถวชั้นเดียวแต่มีหลายห้อง แทนที่จะเป็นห้องเดียว "บ้าน" จะเป็นส่วนหนึ่งของอาคารที่ก่อด้วยอิฐ หลังคาเป็นกระเบื้อง และประกอบด้วยหลายชุด อีกด้านหนึ่งของบ้าน มี 4-5 ชุด ซึ่งมีคนอยู่ อีกด้านหนึ่งพังไปแล้วและร้าง บ้านที่อยู่นั้นเก่าพอใช้ และอยู่ในสภาพไม่ดีเพราะไม่มีการซ่อมแซมเลย บ้านนั้นเป็นบ้านเช่า แต่มีเพียงกำแพง ผนัง และหลังคาทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไม้ เช่น พื้นนั้น ผู้เช่านำมาเอง"
เป็นที่รู้กันว่าในสมัยก่อน คนไทยไม่นิยมให้ผู้หญิงเรียนรู้หนังสือ พระชนนนีคำเป็นคนเดียวในบรรดาพี่น้องที่รู้หนังสือและนำมาถ่ายทอดให้สมเด็จย่า ซึ่งนับได้ว่าเป็นรากฐานที่สำคัญในกาลต่อมา
ต่อมาสมเด็จย่าได้เข้าเรียนในโรงเรียนสำหรับเด็กหญิงที่ตั้งที่วัดอนงคราม ทรงเรียนอยู่ไม่ถึงปีโรงเรียนก็ปิด พระองค์จึงเข้าเรียนที่โรงเรียนศึกษานารีทรงเรียนอยู่ได้เดือนกว่าๆเท่านั้น ก็ต้องทรงลาออก เพราะทางบ้านไม่มีเงินพอที่จะเสียค่าเล่าเรียน ด้วยพระอุปนิสัยที่ชอบการเรียนรู้และการอ่านหนังสือตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ สมเด็จย่าจึงทรงเฉลียวฉลาดและมีคุณลักษณ์โดดเด่น ในบรรดาผู้อยู่ในวัยเดียวกัน
เมื่อสมเด็จย่าพระชนมายุได้ 7-8 พรรษาได้ถูกนำเข้าถวายตัวเป็นข้าหลวงชั้นสองใน สมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร และสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวันสา อัยยิกาเจ้า ต่อมาสมเด็จย่าทรงถูกส่งไปเป็นนักเรียนประจำที่โรงเรียนของหม่อมเจ้าหญิงมัณฑารพ กมลสาสน์ เมื่อโรงเรียนเลิกกิจการในอีก 1 เดือนต่อมา ก็ทรงถูกส่งไปยังโรงเรียนแห่งหนึ่งที่อยู่ ใกล้กับพระบรมมหาราชวัง ซึ่งอีก 2-3 เดือนต่อมาโรงเรียนก็ปิดกิจการอีก จึงถูกส่งไปยังโรงเรียนสตรีวิทยา โดยให้ไปประทับอยู่บ้านคุณหวน หงสกุล ที่อยู่ข้างวัดมหรรพณพาราม คุณหวนเป็นพระพี่เลี้ยงในสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวันสา อัยยิกาเจ้า ในระหว่างนั้น สมเด็จย่าทรงถูกเข็มเย็บผ้าตำฝ่าพระหัตถ์ จึงทรงย้ายไปประทับที่บ้านพระยาดำรงแพทยคุณ เพื่อผ่าตัดฝ่าพระหัตถ์
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเล่าไว้ในพระนิพนธ์ "แม่เล่าให้ฟัง" ว่า
"...ในระหว่างที่เรียนซ้ำชั้นประถมปีที่ 3 อยู่ เจ้าคุณดำรงฯ มาถามแม่ว่า อยากเรียนเป็นนางพยาบาลไหม แม่รับทันที ในสมัยนั้นผู้หญิงไม่มีอาชีพที่จะเลือกมากนัก เมื่อจบประถมปีที่ 3 แล้วจะมีชั้นมัธยมปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 เท่านั้น ถ้าอยากเรียนต่อก็ต้องเรียนเป็นครู เวลานั้นโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลแห่งศิริราชมีผู้หญิงเรียนอยู่น้อย ในการเข้าไม่มีกฏเกณฑ์มาก เพียงแต่อ่านออกเขียนได้ก็พอแล้ว เพื่อสนับสนุนให้มาเรียน ยังมีการให้เงิน เดือนละ 15 บาทต่อคน จำนวนเงินนี้เพียงพอสำหรับค่าอาหารตลอดทั้งเดือน"
การที่สมเด็จย่าทรงตัดสินพระทัย เข้าโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลแห่งศิริราชในครั้งนี้ นับเป็นหัวเลี้ยวสำคัญในชีวิตของพระองค์ เพราะกาลเวลาต่อมา ทรงได้รับทุนไปศึกษาต่อ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา
หรือเข้าไปอ่านรายระเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.theprincessmothermemorialpark.org
จากคุณ :
Lionman
- [
30 พ.ค. 49 15:01:18
]