ความคิดเห็นที่ 4
ความคิดเห็นที่ 9
บทที่ ๑๐ ชัยภูมิ
ชัยภูมิแบ่งเป็น ปลอด , ขวาง , ยัน , ปากขวด , ผาชัน , ห่าง
1. ที่ซึ่งเราไปได้ ข้าศึกก็มาได้ เรียกว่า ปลอด ชัยภูมิเช่นนี้ เราต้องชิงตำแหน่งซึ่งอยู่ในที่สูงและหันหน้าไปทางทิศเหนือ จากนั้นทำให้เส้นทางขนส่งเสบียงเป็นไปอย่างสะดวกปลอดโปร่ง เช่นนี้ยามชิงชัยกับข้าศึกจึงจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายเรา
2. ชัยภูมิซึ่งเส้นทางมีอุปสรรค เข้าไปได้แต่ยากจะถอยกลับได้ เรียกว่า ขวาง หากทัพศัตรูไร้การป้องกัน ให้จู่โจมทันทีจะประสบชัย แต่หากศัตรูมีการป้องกันแล้วเราไปจู่จม เราจะไม่อาจเอาชัยได้ เราก็ยากจะถอยได้ จะเป็นผลเสียต่อฝ่ายเรา
3. ชัยภูมิซึ่งทั้งฝ่ายเราและฝ่ายศัตรู ใครลงมือก่อนเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เรียกว่า ยัน ในชัยภูมิเช่นนี้ ต่อให้ศัตรูพยายามล่อลวงเราอย่างไรก็ห้ามเป็นฝ่ายจู่โจมก่อนเด็ดขาด ทางที่ดีให้แสร้งทำเป็นจะถอยทัพเพื่อล่อให้ศัตรูบุกเข้ามาครึ่งหนึ่ง จากนั้นฝ่ายเราจู่โจมอย่างกะทันหัน จึงจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายเรา
4. ชัยภูมิ ปากขวด ซึ่งมีทางออกคับแคบ หากเรายึดชัยภูมิได้ก่อน ให้ส่งทหารจำนวนมากอุดจุดซึ่งเป็นปากขวด แต่หากศัตรูยึดจุดที่เป็นปากขวดได้ก่อน ก็อย่าไปจู่โจม หากจุดปากขวดนั้นมีทหารศัตรูเฝ้าอยู่ไม่มาก ให้รีบจู่โจมยึดให้ได้ทันที
5. ชัยภูมิ ผาชัน หากเราเข้ายึดได้ก่อนศัตรู ให้ยึดที่สูงหันหน้าไปทางใต้แล้วตั้งค่ายรอจู่โจมข้าศึก หากข้าศึกยึดได้ก่อน ก็ให้ถอยเสีย อย่าไปจู่โจม
6. ในชัยภูมิ ห่าง ซึ่งทั้งฝ่ายเราและศัตรูอยู่ห่างกันค่อนข้างมาก กำลังของฝ่ายเราและศัตรูพอๆ กัน ไม่ควรจะไปท้าทาย ฝืนใจรบ จะไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายเรา
6 ข้อข้างต้น คือหลักในการใช้ประโยชน์จากชัยภูมิ และเป็นความรับผิดชอบอันสำคัญยิ่งของแม่ทัพ จึงมิอาจไม่พิจารณาอย่างจริงจัง
สภาพการพ่ายแพ้ของกองทัพมี หนี , ขาดระเบียบ , ขาดการฝึกฝน , แตกพ่าย , สับสน , พ่ายยับ
6 ประเภทนี้ล้วนมิได้เกิดจากภัยธรรมชาติทั้งสิ้น แต่เกิดจากความผิดพลาดของแม่ทัพ
1. ในสภาพการณ์ที่ปัจจัยต่างๆ ของฝ่ายเรากับฝ่ายศัตรูมีพอๆ กัน หากไปจู่โจมศัตรูที่มีจำนวนมากกว่าเราสิบเท่าแล้วแพ้ เรียกว่า หนี
2. เหตุแห่งการแพ้อันเกิดจากทหารฮึกเหิม แม่ทัพขลาดเขลา เรียกว่า ขาดระเบียบ
3. เหตุแห่งการแพ้อันเกิดจากแม่ทัพเก่งกล้าสามารถ แต่ทหารขลาดเขลาอ่อนแอ เรียกว่า ขาดการฝึกฝน
4. การพ่ายแพ้อันเกิดจากการที่ พลทหารเดือดดาลไม่เชื่อฟังคำสั่ง เจอกับศัตรูก็บุกเข้าปะทะโดยพลการ ทั้งแม่ทัพเองก็ไม่กระจ่างในความสามารถของลูกทัพแล้วยังไปควบคุมบังคับมากเกินไปจนกองทัพไม่อาจเปล่งประสิทธิภาพได้ เรียกว่า แตกพ่าย
5. เหตุแห่งการพ่ายแพ้อันเกิดจากแม่ทัพขลาดเขลาอ่อนแอและขาดพระเดช การฝึกฝนอบรมลูกทัพก็เป็นไปอย่างไม่กระจ่างชัดเจน ทำให้ลูกทัพปฏิบัติตามไม่ถูก การจัดขบวนทัพสับสนไม่เป็นระเบียบ เรียกว่า สับสน"
6. เหตุแห่งความพ่ายแพ้อันเกิดจากแม่ทัพไม่อาจหยั่งคาดศัตรูได้อย่างถูกต้อง ใช้กำลังน้อยเข้าตีกำลังมาก ทั้งยังไม่มีทหารที่เข็มแข็งเป็นแกนหลัก เรียกว่า พ่ายยับ
ชัยภูมิคือสิ่งที่มีส่วนช่วยในการทำศึก หากสามารถคาดคะเนสถานภาพของศัตรูได้อย่างแม่นยำ จากนั้นวางแผนพิชิตชัย ศึกษาสภาพชัยภูมิอย่างละเอียด คำนวณระยะทาง เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่แม่ทัพพึงกระทำ
หากแม่ทัพเข้าใจสิ่งเหล่านี้และสามารถนำมาใช้ในการรบได้ จะต้องชนะอย่างแน่นอน แม่ทัพที่ไม่เข้าใจหลักการเหล่านี้อันทำให้ไม่อาจนำมาใช้ประโยชน์ได้ จะต้องพ่ายแพ้
ดังนั้น หากคาดคำนวณทุกปัจจัยในสมรภูมิโดยละเอียดแล้วมีความมั่นใจว่าสามารถเอาชนะได้ ต่อให้ราชามีคำสั่งว่าห้ามรบ ก็สามารถยืนกรานจะรบได้ หากคาดคำนวณทุกปัจจัยในสมรภูมิโดยละเอียดแล้วมั่นใจว่าไม่อาจเอาชนะได้แน่ ต่อให้ราชาสั่งให้รบ ก็อย่ารบ
ในฐานะที่เป็นแม่ทัพ ควรไม่ละโมบชื่อเสียงเกียรติยศจากชัยชนะ และไม่หวั่นเกรงภัยจากอาญาเมื่อพ่ายศึก คิดหวังเพียงให้กองทัพและประชาสามารถอยู่รอดปลอดภัย อันจะสอดคล้องต่อผลประโยชน์หลักของราชา แม่ทัพเช่นนี้จึงจะนับว่าเป็นแม่ทัพอันมีค่าของประเทศ
หากแม่ทัพรักปรานีลูกทัพประดุจบุตรรัก ลูกทัพจะยินดีร่วมเป็นร่วมตายกับแม่ทัพถึงที่สุด แต่หากแม่ทัพปรานีต่อลูกทัพจนถึงขั้นไม่ยอมลงโทษตามระเบียบทัพ ทำให้ลูกน้องไม่เชื่อฟังคำสั่ง ก็เหมือนเลี้ยงลูกให้เสียคน กองทัพเช่นนี้ก็จะไร้ประโยชน์เช่นกัน
รู้แต่ว่าฝ่ายเรามีความสามารถบุกได้โดยไม่เข้าใจว่าสภาพศัตรูในตอนนั้นยังไม่ควรบุก ความเป็นไปได้ที่จะชนะจะมีเพียงครึ่งเดียว
รู้แต่ว่าเราเข้าจู่โจมฝ่ายศัตรูในตอนนี้ได้ แต่ไม่รับรู้ว่าเราในตอนนี้ไม่มีความพร้อมพอจะไปจู่โจมศัตรูได้ ความเป็นไปได้ที่จะชนะก็มีเพียงครึ่งเดียว
ทำความเข้าใจกระจ่างว่าศัตรูในตอนนี้กำลังเหมาะที่เราจะจู่โจม และรู้ว่าความพร้อมของเราในตอนนี้เหมาะจะจู่โจมศัตรู แต่ไม่เข้าใจว่าสภาพชัยภูมิในตอนนั้นไม่เหมาะจะจู่โจมศัตรู ความเป้นไปได้ที่จะชนะก็ยังคงมีเพียงครึ่งเดียวเช่นกัน
ดังนั้น แม่ทัพที่เข้าใจการใช้ทหารอย่างถ่องแท้นั้น ยามเคลื่อนไหวต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน แผนการที่ใช้มีการพลิกแพลงได้ไม่สิ้นสุดโดยไม่ยึดตายตัวตามตำราใดๆ
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า
รู้เขารู้เรา ย่อมชนะ
รู้เวลา รู้ชัยภูมิ ย่อมชนะ
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 46 13:42:49
จากคุณ : ซีเรีย (Linmou) - [ 21 ต.ค. 46 10:17:47 ]
จากคุณ :
ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน
- [
1 มิ.ย. 49 04:20:26
]
|
|
|