ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ขอโหวตสักข้อคะ สำหรับเราไม่อายนะ  เพราะมันเป็นกิตติศัพท์ที่คนอื่นรู้ว่าเรากตัญญูแล้วเอามาเล่าขานกัน แต่ตาโง่คนนึง  ถ้าจะเอาข้อนี้มาดูถูกเหยียดหยามกัน  เราว่า  คนที่พูดแหละควรละอายแก่ตัวเอง จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 6 มิ.ย. 49 01:19:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จริงๆประเด็นนี้ไม่ได้ ว่าลกเจ๊กตรงๆนะ... แต่แค่แสดงออกว่า...ฉันรู้ภูมิหลังแกแบบสุดๆทุกเม็ด... เพราะฉะนั้น....พูดไรมาฉันรู้หมด.... จากคุณ : Muyan - [ 6 มิ.ย. 49 02:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ภูมิใจในความกตัญญูของตัวเอง ยังมีอะไรต้องอายอีกหรือ ลกเจ๊กนี่เป็นหนึ่งใน 24 ยอดกตัญญูของจีนเชียวนะครับ แต่ก็เห็นด้วยกับคุณ Muyan ที่จุดประสงค์ของขงเบ้งในสงครามน้ำลายก็เพื่อข่มลกเจ๊กก่อนปะทะคารมกัน จากคุณ : วัวน้อยในไร่หญ้า - [ 6 มิ.ย. 49 03:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่อายครับ....หน้าด้าน จากคุณ : wario - [ 6 มิ.ย. 49 06:18:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก็ไปว่าพระเจ้าอาเป็นแค่คนทอเสื่อขายก่อนไม่ใช่รึ อาเหลียงแกก็สวนกลับสิ ว่าทีเอ็งตอนเด็กยังไปลักส้มเขามาให้มารดาเลย จากคุณ : Ryuichi - [ 6 มิ.ย. 49 07:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หน้าด้านไว้ก็ไม่เจ็บครับ จากคุณ : Lu Xun - [ 6 มิ.ย. 49 10:35:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อายครับ ถ้าจะมองในมุมที่ว่า เรายังมีอวัยวะครบ 32 ไม่ยอมทำมาหากินสุจริต ต้องไปขโมยของมาให้แม่ แต่จะไม่อาย ถ้าแม่เราป่วยอยู่ จำเป็นต้องได้ของนั้นจริงๆ แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 49 12:55:42 จากคุณ : มองหลายมุมนะ (เฟิงสิงเลี่ย) - [ 6 มิ.ย. 49 12:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แม้จะพอรับได้ แต่ก็ไม่อยากให้คนพูดครับ ให้พวกเรามองตัวเองอยู่ในฐานะเป็นขุนนางผู้ใหญ่ ภาพพจน์เป็นสิ่งที่ต้องรักษา อีกทั้งวงการขุนนางนั้น ล้วนเต็มไปด้วยการชอบติฉินนินทา เหยีบบหัว ล้มทับ คำพูดเพียงนิดเดียวอาจยาวยืดไปใหญ่โต เรามิอาจจะอธิบายได้กับคนครบทุกคน ปล. อย่างไรเสีย ขโมยก็คือขโมย มิควรยกย่องไม่ว่ากรณีใดๆ จะแม่ป่วยใกล้ตายแค่ไหน มิใช่ข้ออ้าง ถ้าเกิดว่าผมไปฆ่าผ่าท้องเด็กเอาหัวใจมาให้แม่ผมกินเพื่อให้หายจากโรคร้าย ท่านทั้งหลายจะยกย่องหรือสาปแช่งผมกันครับ จากคุณ : Duke-ดุ๊ก - [ 6 มิ.ย. 49 14:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอกกลับเรื่องที่ไปว่าเล่าปี่ ทอเสื่อขายไงครับ อายตรงที่ว่า ไปว่าเขา แล้วดันโดนย้อนเข้าตัวเองไง เจอเข้าไปก็พูดไม่ออก จากคุณ : Niceguy_C (Niceguy_C3) - [ 6 มิ.ย. 49 15:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่น่าอายหรอกครับ เราต้องดูเจตนาและคิดถึงสภาพตอนนั้นด้วยนะครับ สมัยนั้นโอกาสที่คนจนๆจะได้ทานของดีๆมันยากมากๆ เรียกได้ว่าแทบจะเป็นความฝัน  พอลกซุนได้มีโอกาสลิ้มรสชาติของส้มที่แสนอร่อย แทนที่เขาจะรู้สึกดีกลับส้มใบนั้น จิตใต้สำนึกของเขากับไปนึกถึงมารดาที่แก่ชราและป่วยอยู่ หากได้ทานส้มอาจพอช่วยให้ดีขึ้นบ้าง จากคุณ : เซียวฟง (ผีเฮี้ยน) - [ 6 มิ.ย. 49 16:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าไม่อาย หน้าด้านได้ คงไม่ใช่ลกเจ๊กแล้วหละ ต้องใช้แซ่สุมา จากคุณ : อืม (เทียนหล่ง) - [ 6 มิ.ย. 49 19:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นการปะทะด้วยวาจาครับท่าน อายมั้ยก็คงจะอายแต่อย่าลืมนะครับว่าในสมัยนั้นคนอ่อนแอคือคนแพ้ อีกอย่างขงเบ้งก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยเพียงแค่ตอกกลับเท่านั้นเอง55 จากคุณ : นกน้อยในป่าไผ่ - [ 6 มิ.ย. 49 21:13:06 A:203.144.140.64 X: TicketID:108298 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คงต้องแยกประเด็นให้ถูกนะครับ ผมคิดว่าการทำคุณต้องดูถึงการกระทำว่าเป็นเช่นไร ถูกต้องสุจริตหรือไม่ ด้วยมิใช่ว่าเพียงแต่การทำเพื่อบุปผการีแล้วจะถูกต้องเสมอไป สมมติว่ายกตัวอย่างว่าถ้าคุณต้องขโมยของเพื่อให้มารดากินดีอยู่ดี ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้องเสมอเพราะว่าอย่างไรก็คือการขโมย แม้ว่าจะเป็นการขโมยเพื่อความกตัญญูก็มิใช่ข้อที่ควรอ้าง เพียงแต่การที่คนมองว่าควรหรือไม่คงขึ้นอยู่กับคนมองเท่านั้นเองครับ โดยเฉพาะเมื่อขโมยของที่สามารถซื้อหาได้ไม่ยากเย็น ผมคิดว่าการยินยอมให้คนทำ กลับเป็นการส่งเสริมให้คนมักง่ายต่อชีวิตเกินไปครับ จากคุณ : นายทิว - [ 7 มิ.ย. 49 01:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อายครับ  ถ้าตามท้องเรื่องเป็นแบบนั้น  เหมือนมีคนมาด่าแม่เราเป็นโสเภณีกลางตลาด แม้ไม่จริง แต่ก็อายเขา ด้วยโดนคนสารดีอย่างขงเบ้งดูถูกเอาว่าขโมยส้มไปให้มารดาด้วยความกตัญญู  ขณะเดียวกันขงเบ้งกำลังวางแผนปล้นดินแดนเขาด้วยความดี จากคุณ : สุธี - [ 7 มิ.ย. 49 08:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อาหารงานบุฟเฟ่ต์ ถ้าคุณเอากลับบ้าน หมายความว่าคุณเป็นหัวขโมยหรือ จากคุณ : นางสเตนเลส - [ 8 มิ.ย. 49 06:32:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่า ขงแบ้งพูดด้วยคำนั้น ด้วยความนับถือในความกตัญญูมากกว่านะครับ แล้วก็แฝงไว้ด้วยว่า เจ้ายังเป็นเด็กน้อยยิ่งนัก ให้นั่งลงก่อนแล้ว ค่อยคุยกัน มั้งครับ จากคุณ : ปล่อยผม - [ 8 มิ.ย. 49 09:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านอีกรอบหนึ่งนะครับ  แล้วดูสภาพแวดล้อม  พฤติกรรมของขงเบ้ง  ที่ตนเป็นทูตมาขอความร่วมมือกับเขาแบบนั้น  มันเป็นมารยาทของคนมาขอความร่วมมือ (จริง ๆ แล้วขอความช่วยเหลือ) ? จากคุณ : สุธี - [ 8 มิ.ย. 49 09:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คห.15 อาหารงานบุฟเฟ่ต์ ถ้าคุณเอากลับบ้าน หมายความว่าคุณเป็นหัวขโมยหรือ >>> อย่างงี้ก็ห่ออาหารโออิชิกลับบ้านได้สิครับ ผมว่า เขาให้กินได้เฉพาะในงานนะ จากคุณ : Ryuichi - [ 9 มิ.ย. 49 09:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 น่าจะอายครับ แต่ว่าในสงครามวาทะครั้งนั้นทั้งขงเบ้งและกลุ่มเตียวเจียวก็มีเป้าหมายของตนอยู่แล้วนี่ครับจึงไม่น่าจะเจรจากันดีๆได้นะครับ  ขงเบ้งต้องพยายามข่มกลุ่มเตียวเจียวให้ได้เพื่อจะได้เจรจาการร่วมกันระหว่างเล่าปี่และซุนกวนทำสงครามต้านโจโฉในขณะที่กลุ่มเตียวเจียวที่ค้านการทำสงครามกับโจโฉก็พยายามจะข่มขงเบ้งเช่นกัน  ทั้งสองฝ่ายก็ต้องพยายามใช้ปากล้มฝ่ายตรงข้ามให้ได้อยู่แล้วครับ จากคุณ : brookloach (brookloach) - [ 10 มิ.ย. 49 01:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องลกเจ๊กลักส้มนี่ ถูกรวมไว้ในหนังสือ ยอดกตัญญูของจีนเชียวนะ เรื่องคือ ลกเจ๊กไปบ้านใครหว่า (น่าจะเป็นตระกูลอ้วนนี่แหละ) แล้วรับประทานส้มที่เขานำมาให้แขก ลกเจ๊กรู้สึกว่าส้มหวานอร่อยมาก ก็นึกถึงมารดา เลยเอาใส่ไว้ในแขนเสื้อ 3-4 ลูก พอไปเจอเจ้าบ้านก็คำนับ ส้มเลยหล่นมาจากแขนเสื้อกลิ้งหลุนๆ ความเลยแตก ลกเจ๊กอธิบายว่า อยากเอาส้มไปฝากมารดา เจ้าบ้านก็ชมว่า เป็นผู้มีความกตัญญูดี แต่ควรให้วิธีให้ ถูกต้อง ขอดีๆก็ได้ ประมาณนั้น ส่วนตัวเราคงอายอ่ะ อายในฐานะที่ถูกเปิดโปงพฤติกรรมสมัยเด็กๆ นึกถึงถ้าเราเป็นขุนนางผู้ใหญ่ แล้วโดนเปิดโปงว่าสมัยเด็กๆฉี่รดที่นอน จะเป็นไง? (แต่ยังไง ขโมยก็คือขโมยแหละนะ ผิดศีล) แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 49 14:15:39 จากคุณ : นานานะจัง - [ 12 มิ.ย. 49 14:12:40 ]