CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เนื่องมาจากการคุยกับ "เหงามาก" – ไปเที่ยวพม่า ตอน ๑ : ย่างกุ้ง-แปร-พุกาม

    ๒๑ ธันวาคม ๒๕๓๗

    ออกเดินทางจากที่พักแล้วไปสมทบกับเพื่อนชาวต่างประเทศที่ JB Mansion Room 19  ของ Lali-Riki  ที่นั่นมีเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันใหม่อีก ๒ คน คือ Sigi-Pauli  ซึ่งยังไม่ได้แต่งงานอีกเหมือนกัน  นั่งแท็กซี่ไปสนามบินดอนเมือง  พอ check ที่นั่งเรียบร้อยแล้วก็ไปนั่งกินอาหารว่างรอขึ้นเครื่อง  และถ่ายรูปเครื่องบินขึ้นลงที่สนามบินอย่างตื่นตาตื่นใจ  และนึกถึงความสุขของฝันที่จะเป็นจริงอันรออยู่ข้างหน้า

    ๑๘.๓๐ น.  เครื่องบินโบอิ้ง ๗๓๗-๔๐๐  เริ่มออกจากดอนเมือง  เที่ยวบิน UB-222  เราได้ที่นั่ง 8A  แต่สลับกับ Sigi ของสายการบิน  Myanmar Airways International  บนเครื่องซึ่งใช้เวลาบินเพียง ๑ ชั่วโมง  พวกเราต่างวุ่นวายกับการกรอกแบบฟอร์มการเดินทางเข้าเมืองและทรัพย์สินที่นำติดตัวเข้าพม่า

    ๑๙.๔๕ น. เวลาไทย (๑๙.๑๕ น. เวลาพม่า  เนื่องจากช้ากว่าของไทย ๓๐ นาที)   ถึงกรุงย่างกุ้ง (Yangon)  เมืองหลวงของพม่า  ณ สนามบินมิงกะลาโดน (Mingaladon Airport)  เป็นสนามบินแห่งชาติ  แต่ยังมองดูเล็กๆ และมืดครึ้ม  ไม่ค่อยสบายตา   ที่นั่นไม่มีช่องให้คนเดินติดต่อให้คนเดินติดต่อระหว่างเครื่องบินเข้าสู่สนามบินโดยตรงเหมือนกับสนามบินใหญ่ๆ ทั่วไป   ต้องนั่งรถมาที่ตัวท่าอากาศยาน   ที่จุดตรวจคนเข้าเมือง  นักท่องเที่ยวทุกคนต้องนำเงินดอลลาร์สหรัฐที่ติดตัวมาไปแลกเงินจ๊าต (Kyat)  ตามธรรมเนียมของการเข้าประเทศพม่า  คือคนละ ๓๐๐  ดอลลาร์สหรัฐ  โดยแลกเป็นธนบัตรพิเศษหรือที่เรียกว่า FEC (Foreign Exchange Certificate) ก่อน   รวม 300 FEC  ซึ่ง 1 FEC มีมูลค่า ๕.๖ จ๊าต  ตามข้อกำหนดของรัฐบาล  แต่ถ้าไปแลกในตลาดมืดจะได้ถึงประมาณ ๑๐๐ จ๊าต  ซึ่งเป็นค่าที่สมจริงมากกว่า   เมื่อเทียบเป็นเงินไทยของค่าเงินในตลาดมืด  ๑ จ๊าตประมาณ ๑ สลึง   สำหรับเงิน 1 FEC นี้  เทียบได้กับ 1 US Dollar  และพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องแลกเป็นเงินจ๊าตทั้งหมด  เพราะใช้ FEC ส่วนใหญ่กับโรงแรมหรือร้านรวงของรัฐบาล  ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการเข้าชมสถานที่หรือค่าเหมารถ  ในจำนวนที่มากกว่าเงินจ๊าตหลายเท่า  แต่นำไปซื้อสินค้าตามท้องตลาดทั่วไปไม่ได้  ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย   ภายในและรอบสนามบินดูค่อนข้างเงียบเหงา  ผู้คนไม่พลุกพล่าน  เป็นบรรยากาศเก่าๆ  มีคนมาช่วยยกกระเป๋าสัมภาระต่างๆ   อันที่จริงพวกเราก็สามารถทำเองได้  แต่ไม่อยากขัดพวกเขามาก  จึงยอมให้ช่วยเข็นไปที่รถตู้ของใครบ้างก็ไม่รู้ซึ่งจอดรออยู่เพื่อเข้าเมือง  และให้สินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ เช่น บุหรี่ฝรั่ง ๑ ซอง   แค่นี้พวกเขาก็พอใจแล้ว

    สิ่งแรกที่เห็นและสะดุดตาเราในสนามบินแห่งนี้ก็คือ   ชาวพม่าแม้แต่ในสนามบินทุกคนนุ่งโสร่งกันหมด   ผู้ชายส่วนใหญ่เคี้ยวหมาก (กวานยา)  ตัวดำกันเป็นแถวทั้งหญิงและชาย  โสร่งก็เย็บขอบรอบเหมือนผ้าถุงคนไทย   แต่ลวดลายเป็นตาหมากรุกแบบผ้าขาวม้า  ไม่มีสีสันฉูดฉาดแปลกตา   มองดูแล้วก็ดีที่ไม่ได้สร้างนิสัยสุรุ่ยสุร่ายเรื่องการแต่งกายให้กับชาวพม่าเหมือนคนไทยในตอนนี้

    นั่งรถแท็กซี่ซึ่งเป็นรถตู้คันใหญ่เทอะทะไปลงที่โรงแรม Beauty Land Hotel  บนรถได้พบกับชายชาวพม่าคนหนึ่งหนึ่งชื่อ  หม่อง คิน วิน (Mg. Khin Win) เป็นชายร่างอ้วน  พูดภาษาอังกฤษเก่ง  ซึ่งต่อไปแทบจะไม่เป็นที่แปลกใจเลยว่า  ชาวพม่าหลายคนโดยเฉพาะคนรุ่นเก่าสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว  แม้เราจะฟังไม่ค่อยชัดเจนเนื่องจากไม่เคยชินกับภาษาอังกฤษสำเนียงพม่า

    Khin Win  พาเรามาที่โรงแรมนี้ซึ่งเป็นของเพื่อนเขา  ถึงเวลา  ๒๑.๐๐ น.  พักอยู่ที่นี่ ๑ คืน  ก่อนออกเดินทางไปพุกามในวันถัดไป

     
     

    จากคุณ : NickyNick - [ 16 มิ.ย. 49 18:52:49 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com