ความคิดเห็นที่ 1
เป็นศัพท์การวิจัยทางการแพทย์เพื่อทดสอบสรรพคุณของยาหรือการรักษาชนิดหนึ่งๆ
สมมุติว่าได้ยาใหม่มาคือ ยา A ซึ่งน่าจะแก้ปวดหัวได้ชะงัด จะอ้างว่ามันได้ผลได้ก็ต้องพิสูจน์ การพิสูจน์เพื่อทดสอบสรรพคุณยารักษาโรคกับคนไข้จริงเรียกว่า clinical trial วิธีการก็คือเอาคนไข้ปวดหัวมาให้กินยาแล้วก็ติดตามผล ถ้าคนไข้หายปวดหัวก็แสดงว่ายาได้ผล
ว่าแต่แน่ใจนะว่ายาได้ผลจริง? คนไข้หายปวดหัวเพราะเผอิญคุณพยาบาลเธอสวยแล้วก็พูดเพราะหรือเปล่า? หรือเผอิญตอนเดินมากินยา เดินผ่านต้นสมุนไพรที่กลิ่นของมันเป็นยาแก้ปวดหัวได้?
เพื่อให้ตัดข้อสงสัยให้หมดไปเถียงไม่ได้ การทำ clinical trial จึงต้องแบ่งคนไข้เป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งกินยาจริงที่เราจะทดสอบเรียกว่ากลุ่ม treatment อีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มควบคุมหรือ control ซึ่งมีลักษณะเหมือนกลุ่มจริงทุกประการ ต่างกันตรงที่ว่ากลุ่มนี้กินยาหลอกหรือ placebo และเพื่อให้แน่ใจว่าคนไข้หรือหมอไม่ลำเอียงหรืออุปาทาน รายงานผลการรักษาตามเป็นจริง ใครได้กินยาหลอกยาจริงนั้นทั้งหมอและคนไข้ก็ไม่รู้ เรียกว่าเขาปิดหรือ blind ไว้และเนื่องจากปิดทั้งสองทางคือหมอกับคนไข้จึงเรียกว่า double-blind อนึ่ง การจะเลือกใครเข้ากลุ่มใดเขามักจะสุ่มหรือ randomized ด้วยเพื่อลดความลำเอียงให้น้อยที่สุด การทดสอบวิจัยยาแบบนี้จึงเรียกว่า randomized, double-blinded, placebo-controlled clinical trial ด้วยประการฉะนี้
นี่ใช้กับยากินยาฉีดนะครับ ยาจริงกับยาปลอมทำเม็ดทำขวดให้เหมือนกันได้ แต่ถ้าเป็นการทดสอบวิธีการรักษาเช่นการฝังเข็ม ตัวเข็มหลอกนั้นเขาไม่เรียก placebo เขาเรียก sham ครับ ดังนั้น sham-controlled study ก็คือสิ่งเดียวกันกับที่ผมอธิบายมา ต่างกันว่าสิ่งที่เราจะทดสอบนั้นมันเป็นยาหรือเป็นวิธีการเท่านั้นแหละ
จากคุณ :
แอ๊ด ปากเกร็ด
- [
22 มิ.ย. 49 01:12:31
]
|
|
|