ความคิดเห็นที่ 1 จากนั้นตระเวนหาที่พัก  เริ่มจากที่ New Bagan ก่อน  แต่มีเพียงแค่ ๒ ห้องเหลือให้เท่านั้น  ราคาคนละ ๑๐ ดอลลาร์  จึงต้องออกเสาะหาที่อื่นอีกหลายที่ทั้งของรัฐและเอกชนรวมประมาณ ๑ ชั่วโมง  จนมาได้ที่ Aung Mingalar Hotel  เป็นของเอกชน  อยู่ตรงข้ามกับเจดีย์ชเวซิกอง (Shwezigon Pagoda)  ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณงายอู Nyaung Oo  ราคาห้องคู่ ๓๐ ดอลลาร์  ส่วนห้องเดี่ยวที่เราพักราคา ๒๐ ดอลลาร์ต่อคืน  พวกเราตกลงใจพักกันที่นี่เนื่องจากที่อื่นมีแต่แพงๆ เหมือนกันทั้งนั้น  ซ้ำคุณภาพก็ยังไม่ดีดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ........................................ ในภาพเป็นโรงแรมของพวกเราครับ จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 09:25:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เขตท่องเที่ยวของเมืองพุกามแบ่งออกเป็น ๒ ส่วนใหญ่ๆ คือ เขตเมืองเก่า (Old Bagan)  ซึ่งเต็มไปด้วยโบราณสถาน  ทางรัฐบาลได้ย้ายชาวบ้านออกไปเมื่อหลายปีก่อน  อนุญาตให้มีสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ  ได้เพียงโรงแรมและภัตตาคารบางแห่งเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว  ซึ่งมีความจำเป็น  เพราะเขตอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้กว้างขวางมาก บริเวณที่ชาวบ้านย้ายไปอยู่เรียกว่า  เขตเมืองใหม่ (New Bagan)  ก็มีโบราณสถานมากเช่นเดียวกัน  แต่จะหนาแน่นน้อยกว่า  มีสิ่งปลูกสร้างของชาวบ้านแทรกอยู่ระหว่างโบราณสถานเหมือนกับของอยุธยาของเราทีเดียว  ในเวลากลางวันจะมองเห็นเกวียนเทียมม้าหรือวัวของชาวบ้านที่ออกไปทำงานวิ่งปะปนกับรถม้าของนักท่องเที่ยวโดยตลอด สำหรับ เขตชุมชนเมือง  ที่เจริญกว่า  หรือตลาด (Market Area)  ใกล้สถานที่แห่งนี้เรียกว่า งายอู (Nyaung Oo) .............................. เป็นภาพมุมไกล ของเจดีย์ชเวซิกอง  สวยเป็นลำดับ ๒ ในพุกาม (Shwezigon Pagoda : The second most beautiful Pagoda in Bagan) ถ่ายจากหน้าโรงแรม ยังมีภาพของพระเจดีย์และองค์ประกอบอีกมากในตอนหลังครับ จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 09:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับกระทู้นี้ เป็นตอน ๒ ต่อจากกระทู้ เนื่องมาจากการคุยกับ "เหงามาก" – ไปเที่ยวพม่า ตอน ๑ : ย่างกุ้ง-แปร-พุกาม http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4461019/K4461019.html เพราะการนำเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ครั้งนี้  มีบันทึกและรูปภาพประกอบค่อนข้างมาก  จึงต้องเพิ่มตอนขึ้นมาจากเดิมครับ เพื่อความเข้าใจต่อเนื่อง  หากมีเวลาพอ  อาจต้องกลับไปอ่านซ้ำในตอน ๑ อีกครั้งครับ สำหรับการไปเที่ยวครั้งนี้  ขอสรุปเส้นทางอีกครั้งดังนี้ครับ ย่างกุ้ง (Yangon) –  มอบี (Hmawbi) – ไทจี (Taikkyi) – โอ๊กกะ (Okkan) – ทราวดี (Tharrawaddy) - แปร (Pyi) – พยา (Pya) – เมียเดะ (Myayde) – ตองวินยี (Taungdwingyi) - แมกเวย์ (Magway) - ยีนางยอง (Yenangyaung) – ย็อกปาดอง (Kyaukpadaung) เป็นชุมทางแยกไปพุกาม – พุกาม (Bagan) – ภูเขาโปปา (Mount Popa) – ย็อกปาดอง (Kyaukpadaung) อีกครั้ง - มิถิลา (Meiktila) – ตาซี (Thazi) – เยมมาเบะ – กะลอ (Kalaw) – อองบาน (Aungban) – สนามบินเฮโฮ (Heho Airport) – ชเวยอง (Shwenyaung) – งายชเว หรือยองชเว (Nyaungshwe) - ทะเลสาบอินเล (Inle Lake) – ตองยี (Taungyi) – ยาเมติน (Yamethin) – ตาหวัวจิ (Thawatti) – ยีดาชี (:-)ashe) – ตองอู (Taung-Oo) - สียาวดี (Zeyawaddi) – พยู (Pyu) – เพนวากอน (Penwagon) – ยองลิบิน (Nyaunglebin) – ยองดาซา (Pyuntaza) – พะโคหรือหงสาวดี (Bago – Hunthawaddi) – เถ้าเจี๊ยะ (Htaukkyant) – ย่างกุ้ง (Yangon) สำหรับกลุ่มเมืองหลวงเก่าทั้งสาม  ไม่ได้ไป เสียดายเหมือนกัน คือ  อังวะ (Ava)  อมราปุระ (Amarapura)  และมัณฑะเลย์  (Mandalay) กับเมืองสกาย (Sagaing)  ซึ่งเปรียบเหมือนธนบุรีกับกรุงเทพ คู่กับเมืองอังวะ  แม้จะไม่ได้อยู่ในกำหนดการเพราะเวลาจัดไว้ไม่พอ  แต่สิ่งที่น่าสนใจภายในเมืองเหล่านี้ที่เราทราบจากหนังสือยังมีอยู่อีกมาก จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 09:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็ไปกินอาหารเย็นกันที่ River View Restaurant  ใน  New Bagan  อยู่ติดแม่น้ำอิระวดี  ลักษณะเป็นสวนอาหาร  มืดครึ้ม  มีแค่แสงเทียนส่องดูอาหาร  ซึ่งก็เข้ากับบรรยากาศดี  มีคนกินกันอยู่แล้วหลายโต๊ะ  ล้วนแต่เป็นชาวต่างประเทศ  ที่นี่อากาศเย็นหน่อย  ดีที่พวกเรานำเสื้อกันหนาวมา สำหรับเราคืนนี้ได้นุ่งโสร่งเป็นคืนแรก  และเป็นครั้งแรกในชีวิต   ดูโล่งสบายดี  ทำให้ชาวพม่ายิ่งคิดว่าเป็นชาวพม่าจริงๆ โดยก่อนหน้านั้นชาวพม่าบางคนมักเข้าใจผิด  พอไปนั่งกินอาหารกันที่ไหน  ทางเจ้าของร้านหรือเด็กเสิร์ฟจะตรงเข้ามาหาเราก่อนพร้อมกับพูดเป็นภาษาพม่า  เราได้แต่ส่ายหน้าให้เขาเป็นความหมายว่าไม่ใช่ชาวพม่าพร้อมกับยิ้มสไตล์ไทยแลนด์ไปด้วย จากนั้นกลับมากินที่ร้านภายในโรงแรมต่อจนถึง ๕ ทุ่มจึงได้เข้านอน  ห้องที่เรานอนเป็นห้องคู่  แต่จ่ายแบบห้องเดี่ยว  ภายหลังตอนจ่าย  เพื่อนฝรั่งทั้ง ๔ ยอมให้เราออกแค่คืนละ ๑๐ ดอลลาร์เท่านั้น  คุ้ม จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 10:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมืองพุกาม  เป็นฝันอันสูงสุดอีกแห่งหนึ่งที่เราจำเป็นจะต้องมาเที่ยวชมให้ได้  และต้องให้คุ้มค่า ในอดีตที่นี่เคยมีเจดีย์ ๑๓,๐๐๐ แห่ง  ปัจจุบันเหลือเพียง ๒,๒๐๐ แห่งเท่านั้น  จึงมีชื่อเรียกมาแต่ครั้งอดีตอีกอย่างว่า  "เมืองแห่งเจดีย์สี่ล้านแห่ง" พุกามเป็นราชธานีแห่งแรกของอาณาจักรพม่า  สร้างก่อนกรุงสุโขทัย ๒๘๔ ปี  รุ่งเรืองอยู่นาน ๒๔๓ ปี (พ.ศ. ๑๕๘๗ - ๑๘๓๐)  มีกษัตริย์ปกครอง ๑๑ พระองค์นับเนื่องแต่สมัยพระเจ้าอโนรธาเป็นต้นมา  ถูกกำลังของกุบไลข่าน (Kublai Khan)  ชาติมองโกลตีแตกเมื่อปี พ.ศ.๑๘๓๐ และชาวพม่ารวมกันได้ใหม่อีกครั้งในยุคของพระเจ้าบุเรงนอง จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 10:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ๒๔ ธันวาคม ๒๕๓๗ ตื่น ๐๖.๓๐ น.  กินอาหารเช้าที่โรงแรม ได้ถ่ายรูปเจดีย์ชเวซิกองจากมุมโรงแรม วันนี้พวกเราจะต้องเดินทางเที่ยวภายในอุทยานประวัติศาสตร์พุกาม  ที่สะดวกที่สุดคือ ถีบจักรยานที่เช่าจากโรงแรม  ราคาวันละ ๗๐ จ๊าต  เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากที่เคยนั่งแต่บนรถยนต์ตลอด ๒ วันที่ผ่านมา  ค่าเข้าชมอุทยานฯ แห่งนี้ราคา ๑๐ ดอลลาร์  พวกเราต้องจ่ายเงินกันที่โรงแรมเลย ............................. เป็นบรรยากาศขณะรับประทานอาหารเช้าในโรงแรม จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 10:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เริ่มปั่นจักรยานออกจากโรงแรมในเวลา ๐๘.๑๐ น.  มุ่งไปทางกำแพงเมืองและวัดอนันดาก่อน  เพียงแค่เริ่มปั่นได้แค่ ๑๕ นาทีก็เมื่อยแล้ว ได้จอดรถจักรยานเพื่อถ่ายรูปตลอดทางโดยไม่เสียดายฟิล์ม  โดยเฉพาะภาพเจดีย์ต่างๆ  เพราะโอกาสที่จะกลับมาอีกครั้งคงนาน จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 10:21:17 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พุกามเป็นเมืองในฝันของผมเลยครับ เช่นเดียวกับพระนครหลวง ความจริงเราไม่จำเป็นต้องไปดูของไกลตัวถึงต่างทวีป มองซ้ายมองขวาก็มีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอยู่ใกล้ๆ (ในความคิดผมขอยกพุกามเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้ไหมครับ คุณนิก)  คาดว่าสักวันหนึ่งจะไปเยือนให้ได้ ขอบคุณคุณนิกที่นำอะไรๆแปลกตามาให้ชมกันเสมอๆครับ วันหลังถ้าไปไหนก็อยากตั้งกระทู้นำเที่ยวแบบนี้บ้าง เสียดายว่าอยู่แต่ในบ้าน จากคุณ : " (ปลาทองสยองเมือง) - [ 22 มิ.ย. 49 10:24:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ภาพข้างบน เป็นประตูทางเข้า  มองเห็นไกลๆ ข้างหน้า ส่วนภาพนี้ ถ่ายจากตำแหน่งเดิม  แต่หันไปทางซ้ายมือ  เป็นกลุ่มพระเจดีย์เยอะแยะไปหมด  ไม่รู้ชื่อวัดอะไรมั่ง  ชักเริ่มตื่นตาตื่นใจเสียแล้วซี เห็นมั้ยครับ มีต้นตาลเยอะแยะเลย  ไม่รู้จะสู้ "เพชรบุรีแดนใจ" ของคุณปลาทองฯ ได้รึเปล่า จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 10:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ใจตรงกันเลยนะครับ  เข้ามาพร้อมกันเลย  แล้วก็ทักทายกันอย่างไม่คาดฝัน ผมถือว่าพุกามเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้เลยครับ ผมตั้งกระทู้นำเที่ยวตรงนี้ก็หวั่นๆ เหมือนกันว่าจะโดนอะไรรึเปล่า  เพราะห้องสมุดเราขณะนี้ดุกันจริ๊ง  แต่เห็นว่าเป็นของเก่าๆ แต่เดิมถึง ๑๒ ปีแล้ว  คงจะอนุโลมให้อยู่ในห้องประวัติศาสตร์ได้บ้างละมั้ง ............... ในภาพคือ วัดซูตองจิ (Sutaung-Pyait Pagoda) ภาพสวยครับ เพราะถ่ายดี อิอิอิ  ถ่ายซ้ำจากภาพเก่าครับ  เลยดูเหลืองๆ เข้ากับบรรยากาศ  สมัยโน้นยังไม่มีกล้องดิจิตอลครับ เราเที่ยวกันตามลำดับ (ของผม) เลยครับ  ตั้งแต่ประตูทางเข้าไปเลย แอ่นแอ้น  ต่อไปรูปจะมาเป็นพรวนเลยนะ จะบอกให้ จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 10:34:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พุกาม  เมืองแห่งเจดีย์  ตอนไปได้พักที่ resort ริมแม่น้ำอิระวดี ห้องพักดีมาก ๆ เลย  พม่ามีเมืองที่น่าสนใจไปเยี่ยมชมมากมาย อยากกลับไปเที่ยวอีกสักครั้ง จากคุณ : ดอกยี่เข่ง - [ 22 มิ.ย. 49 10:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นพระประธานในวัดซูตองจิ (Sutaung-Pyait Pagoda) จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 10:36:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีครับ คุณดอกยี่เข่ง ตอนนั้นผมไปแบบ "ตะลอนทัวร์" ครับ หรือว่า "ทัวร์นกขมิ้น" ก็ไม่รู้แน่ ไม่ได้จับจองอะไรล่วงหน้าเลย  ค่ำไหนนอนนั่น เจอโรงแรมที่ไหน ก็แวะเลย บางแห่งดูหรูหรา แต่เขาก็ไม่ให้ยอมพัก เพราะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติพักได้   ครั้งต่อไปคงต้องบุ๊คไว้ล่วงหน้าจากเมืองไทยแล้วครับ คงจะสะดวกกว่าเมื่อ ๑๒ ปีก่อน แล้วก็ อยากเห็นแม่น้ำอิระวดียามเช้าด้วยครับ ........................... นี่คือ วัดมิงโอซันดา (Min-O-Chantha) ครับ ตั้งแต่แรกที่เข้ามาชมสถานที่ทั้งสองแห่งก็มีคนตามมาขายพระเครื่ององค์ใหญ่ๆ ให้กับเราในราคาที่แพงมากเมื่อเทียบกับราคาของในพม่า  มองดูเหมือนของที่ทำขึ้นใหม่  เขาพยายามตามตื้อเราตลอด  และคนนี้ก็พบกันจนถึงตอนมืดเลยทีเดียว จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 10:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นี่เป็นพระเจดีย์กับวัด  ใกล้ๆ กับวัดมิงโอซันดา (Min-O-Chantha) ครับ มีเจดีย์มากมายเหลือเกิน ลายตาไปหมด พยายามจดชื่อให้ครบทุกภาพที่ถ่ายมา แต่บางแห่งก็ไม่มีป้ายเขียนไว้ เสียดาย  เสียชื่อคุณชายเปอร์เฟ็คหมด จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 10:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 วัดอนันดา (Ananda Phaya)  ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่สวยที่สุดในพุกาม ก่อนเข้าต้องเสียค่านำกล้องเข้าไปกล้องละ ๕ จ๊าต ภายในโอ่อ่าจริงๆ  แต่ลักษณะบูรณะเหมือนใหม่  ทำให้มองไม่เห็นเป็นอิฐแดงเหมือนกับวัดและเจดีย์องค์อื่นๆ รอบข้างเลย จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 11:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ที่นี่มีพระพุทธรูปยืนทั้ง ๔ ทิศ ทางทิศใต้ลักษณะแปลกกว่าองค์อื่นตรงที่จะมองเห็นท่านยิ้มหรือวางเฉยแล้วแต่ดูระยะไกลหรือใกล้  คิดว่าเนื่องมาจากการตกกระทบของแสง นี่คือภาพทางทิศใต้ครับ จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 11:34:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 องค์นี้ไม่ทราบว่าทิศไหน แต่ไม่ใช่ทิศใต้แน่นอน จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 11:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นี่ก็อีกทิศหนึ่งครับ ถ่ายยากครับ แสงไม่พอ จะใช้แฟลชก็สะท้อนแสงกลับอีก หรือว่าฝีมือไม่ถึงน้อ จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 11:37:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตรงนี้เขียนว่า Foot Print จะแปลว่า "พระพุทธบาท" คงได้มั้ง อยู่ภายในวัดนี้เช่นกัน ข้างในวัดแต่ละแห่งมีของมากมาย เริ่มเหนื่อย  ไม่ค่อยอยากจะถ่ายภาพแล้วล่ะ จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 11:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นี่เป็นรั้วรอบพระเจดีย์มุมหนึ่งของวัดอนันดา มุมไหนจำไม่ได้  เพราะหลงทิศ  ซุ้มนี้ทำด้วยไม้ ทาสีออกดำ จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 11:45:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 จากวัดอนันดาออกมาจะเห็นเป็นรั้วไม้ไผ่  สร้างอย่างแน่นหนาติดๆ กันหลายรั้วเหมือนกับตอนที่ผ่านเมืองตองวินยี  คงจะเป็นตลาดนัดวัวควาย? .............................. ภาพนี้เป็นกุฏิพระบริเวณใกล้วัดอนันดา หรือว่าเป็นเขตวัดเดียวกันก็ไม่รู้? แยกไม่ออก  เพราะอยู่ติดกันไปหมด แล้วก็อ่านหนังสืออะไรไม่ออกด้วย ตัวยุบยิบเหมือนกัน จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 11:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 22 รูปนี้ไม่รู้ว่าอะไร  ใกล้ๆ กับวัดอนันดา  ตามแผนที่เหมือนกับ Pitakat Taik  แปลว่าห้องสมุดของพระเจ้าอโนรธา  ดูยังไงก็ไม่น่าใช่ห้องสมุด  ใครรู้บ้าง บอกทีครับ จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 15:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 23 วัดทะบินยู (Thatbyinnyu Phaya)  เป็นวัดที่สูงที่สุดในพุกาม  โดยสูง ๖๑ เมตร (๒๐๑ ฟุต)  รูปทรงเหมือนกับวัดอนันดา จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 15:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นกันชัดๆ แล้วใช่ไหม ชื่อวัดนะครับ  เขียนแตกต่างกันบ้างแล้วแต่ตำรา อย่าถือเป็นเรื่องจริงจังในชีวิต ส่วนที่คาดหน้าคาดตานี่ พรรคพวกส่งหลังไมค์มาถามว่าใช่พวก "ก็อดอาร์มมี่" ที่หนีไปจากเมืองไทยรึเปล่า อยากถามก็ถามตรงนี้ได้เลย  ไม่ต้องเขิน จะได้รู้ว่ามีผู้ปิดทองหลังพระอีกกี่ท่าน จะได้มีกำลังพิมพ์นะครับ อุอุ จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 15:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ในประเทศพม่า  มีคำศัพท์เรียกปริมณฑลที่มีวิหารเป็นประธานว่า  พยา (Phaya)  ซึ่งน่าจะมีความหมายใกล้เคียงกับคำว่าวัด (Temple) ในภาษาไทย    ส่วนประเภทที่เป็นสถูป (Sutpa)  หรือเจดีย์  (Pagoda)  พม่าจะเรียกว่า  เซดีย์  (Zedi) ออกทางลัดผ่าน วัดชเวกูยี (Shwegugyi Phaya)  เห็นเป็นแต่อิฐแดงๆ  ลักษณะไม่เป็นทองเหมือนชื่อ  เป็นวัดสไตล์พม่าที่เก่าที่สุดในพุกาม   สร้างเมื่อปี พ.ศ.๑๖๗๔  ในวัดมีพระประธานหันหน้าไปทางทิศเหนือ  คือหันไปทางวังหลวง  ซึ่งแตกต่างกับวัดพุทธโดยทั่วไปที่พระประธานจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก  วัดนี้สร้างโดยพระเจ้า Alaungsithu  ซึ่งท่านก็สิ้นพระชนม์ในวัดนี้เมื่ออายุ ๘๑ ชันษา ............................ Shwegugyi Phaya : The Oldest Burmese Style in Bagan จากคุณ : NickyNick - [ 22 มิ.ย. 49 16:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มาตามต่อ ไปเที่ยวด้วยกันครับ   จากคุณ : ~ก้านกฤษณา~ - [ 22 มิ.ย. 49 17:54:36 ]

ความคิดเห็นที่ 27 thatbyinnyu = สัพพัญญู จากคุณ : ผู้ชนะหลายทิศ - [ 22 มิ.ย. 49 21:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณครับ คุณ ~ก้านกฤษณา~ สวัสดีครับ คุณ ผู้ชนะหลายทิศ  ยินดีต้อนรับเพื่อนใหม่ครับ  ชื่อก็งามนามก็เพราะเข้ากับบรรยากาศเที่ยวเมืองพม่าดีจัง  ยังไงติดตามต่อไปเรื่อยๆ นะครับ  ดูรูปบ้างก็ยังดี  แต่เหลืองหน่อย อย่างที่เคยบอกไว้ในลิ้งค์แรก  แทบไม่ได้รู้เรื่องพม่าก่อนไปเท่าไร  อ่านแบบเร่งรีบก่อนไปไม่กี่วัน  ไม่รู้ชื่อวัดชื่อเมืองเป็นภาษาไทย  เพราะบางทีเขียนแบบอังกฤษแต่พออ่านเป็นไทยคนละเรื่องกันเลย  รวมทั้งไม่มีเวลาทบทวนชื่อในช่วงนี้เลยครับ ขอบพระคุณที่ช่วยชี้แนะ  แต่ตอนนี้ขอใช้ชื่อต่างๆ แบบเดิมไปก่อนครับ  เพราะหากแก้ต้องแก้ใน คห.เก่าๆ หมดเลย จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 29 วัดมหาบดี (Mahabodhi Pagoda) มีเจดีย์ ลักษณะคล้ายพุทธคยา ที่นี่มีเสียงตามสายเชิญชวนญาติโยมให้มาบริจาคเงินทำบุญ   ต่างกับที่อื่นๆ ที่ไม่ค่อยมีเสียงดังเท่าไร จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:20:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 วัด Myat Taw Pye Phaya  และ A Twin Sigon Phaya  อยู่ติดๆ กัน ในภาพนี้คือ วัด Myat Taw Pye Phaya จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 31 วัด Myat Taw Pye Phaya  และ A Twin Sigon Phaya  อยู่ติดๆ กัน ในภาพนี้คือ A Twin Sigon Phaya จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 32 วัดกอดอพะลิน (Gawdawpalin Phaya) ที่นี่มีพระรอบวิหารทาสีแดงเลือดหมู  คล้ายสีจีวรพระพม่า  แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ถ่ายแต่พระเจดีย์ในมุมแคบ  เพราะวิ่งออกไปถ่ายมุมไกลไม่ไหวแล้ว  เจดีย์ใหญ่มากมาก จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เป็นพระประธานในวัดกอดอพลิน (Gawdawpalin Phaya) จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:33:23 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ภาพนี้เป็นพระประธานในวัดมหาบดี (Mahabodhi Phaya) รูปร่างคล้ายๆ กัน  เมื่อกี้ลืมส่งภาพให้ดู จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:34:36 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ถ่ายดะไปเรื่อยๆ  ตรงไหนไม่มีป้ายเขียนไว้ ก็ไม่รู้จะบอกว่าเป็นวัดอะไร  เดาไม่ออก จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตรงนี้ก็ไม่มีป้ายบอกว่าวัดอะไร ท่าน "จะเด็ด" (ผู้ชนะหลายทิศ") รู้ไหมครับว่าตรงนี้คือวัดอะไร แต่ข้างหลังไกลๆ นั่นคือวัดทะบินยู  หรือวัดสัพพัญญู ในภาษาไทยดังที่ท่านว่าไว้ครับ จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 37 วัด Minyein Gone Phaya จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:40:32 ]

ความคิดเห็นที่ 38 วัด Nwa Pyagu Phaya จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:42:20 ]

ความคิดเห็นที่ 39 วัดมิงกะลาเซดีย์ (Mingalar Zedi)  มีเจดีย์เป็นรูปทรงระฆังคว่ำใบใหญ่  เป็นเจดีย์องค์แรกที่เดินขึ้นไปข้างบนได้  มีทางเดินวนรอบหลายชั้น เจดีย์องค์ใหญ่มาก  มากจริงๆ จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เราถ่ายรูปเลียนแบบภาพ Panoramic View บนนี้  เพื่อนำภาพมาต่อกันเข้าทีหลัง มองเห็นตั้งแต่แนวแม่น้ำอิระวดีอ้อมไปทางทิศเหนือจนถึงอาณาบริเวณของป่าพระเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่ของพุกาม ......................................... เห็นภาพกันชัดๆ อีกที  ทั้งองค์พระเจดีย์  ทั้งชื่อวัด  แล้วก็ก็อดอาร์มมี่ตัวปลอม จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ที่นี่มีมุมหนึ่งซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงก่อนเที่ยง  ทางด้านทิศเหนือจะมีที่ร่มให้นั่งพัก   ดูร่มรื่นและสงบดี  Lali ขอนั่งพักหน่อยหนึ่ง ที่นี่ได้พบกับเด็กหญิงคนหนึ่ง  อายุราว ๑๐ กว่าขวบ  สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและชัดเจน  เป็นลูกของคนดูแลเจดีย์แห่งนี้  บ้านปลูกเป็นกระต๊อบอยู่ข้างเจดีย์  ส่วนแม่ของเธอก็ขายของเก่าๆ ตั้งวางหน้าพระเจดีย์  เช่น กังสดาล ดาบ ระฆัง ฆ้อง ฯลฯ  ทุกคนพูดภาษาอังกฤษคล่องหมด ..................... ในภาพ เป็นทางเดินรอบองค์พระเจดีย์  มีตั้งหลายชั้น  แบบที่ภูเขาทองอยุธยาบ้านเราไงครับ ส่วนก็อดอาร์มมี่ตัวปลอม  ล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้ว  ภาพเบลอจังนิ  เห็นหน้าไม่ชัดเล้ย จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 42 จากนั้นเพื่อนฝรั่งทั้งสี่ขอตัวกลับก่อน  เพราะเพลียกัน  ส่วนเรายังอยากที่จะชมต่อให้รอบ   เพราะการเดินทางมาเที่ยวครั้งนี้สำคัญสำหรับเรามาก  เราอยากเห็นให้หมดทุกอย่าง  แม้จะรู้ไม่หมดก็ยังดีกว่ากลับไปนั่งอยู่เฉยๆ  อาจจะเหนื่อยบ้าง  แต่ก็ต้องทน  นัดกันไว้เวลา ๑๓.๓๐ น.  เราจะกลับไปรวมกับพวกเขาที่โรงแรมเพื่อนั่งรถยนต์ไปชมเครื่องเขิน (Lacquerware)  ต่อตอนบ่าย ถีบจักรยานไปเรื่อยๆ  จนถึง วัดเมี้ยะเซดีย์ (Mya Zedi)  เป็นวัดที่มีเจดีย์ดูลักษณะใหม่ๆ   ใกล้ๆ กันมีลักษณะเหมือนวิหาร  (คิดเอง)   ชื่อว่า วัด Kyu Pyukgyi ............................. ภาพนี้คือ วัดเมี้ยะเซดีย์ (Mya Zedi)  มีรูปปั้นสิงห์หมอบตรงบันไดทางขึ้นด้วยครับ  ในวัดใหญ่ๆ ของพม่ามักจะมีรูปสิงห์อยู่  ดังที่เคยเล่าไว้ตอนเที่ยวพระเจดีย์ชเวซันดอในเมืองแปรแล้วครับ จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 08:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 43 พระประธานใน วัดเมี้ยะเซดีย์ (Mya Zedi) ครับ พระพุทธรูปเมืองพม่า  จะประดับสีสรรสวยงาม  บางองค์ก็ยิ้ม  ต่างกับของเมืองไทยที่ดูขรึม จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 09:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 44 วัด Kyu Pyukgyi  อยู่ใกล้ๆ กันกับวัดเมี้ยะเซดีย์ (Mya Zedi) จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 09:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ถึง วัดมะนูฮา (Manuha)  ที่นี่เป็นวัดที่มีเชื่อเดียวกับกษัตริย์มอญที่ถูกกษัตริย์พม่า   คือพระเจ้าอโนรธา (King Anawrahta) จับมา ภายในวัดมีพระประธานองค์ใหญ่   และพระองค์ขนาดย่อมกว่าเล็กน้อย  แต่ก็ยังดูใหญ่มากอีก ๒ องค์ขนาบซ้ายขวา  อยู่ทางด้านข้างภายในวิหารหรือโบสถ์เดียวกัน  แต่กั้นไว้ด้วยกำแพงทึบและมีทางเดินแคบมากๆ เชื่อมถึงกัน   ที่สำคัญคือ  หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเหมือนกัน ภายในวัดยังมีขันใบใหญ่   มีรูปนัท (Nat)  ซึ่งเป็นภูติที่ชาวพม่าเคารพนับถือ   คงจะเหมือนกับพระภูมิเจ้าที่ของคนไทย มีรูปปั้นของพระเจ้ามะนูฮา (King Manuha)   กษัตริย์มอญคู่กับพระมเหสี คือ  พระนางนิงกะลาเทวี (Queen Ningaladevi) และยังมีพระนอนยาวประมาณ ๙๐ ฟุต  หันเศียรไปทางทิศเหนือ   และผินพระพักตร์ไปทางแม่น้ำอิระวดีที่อยู่ทางทิศตะวันตก วัดมะนูฮานี้  จะมีภาพให้ชม ๒ รอบครับ  รอบนี้ถีบจักรยานคนเดียว   อีกรอบตอนนั่งรถยนต์มาเป็นกลุ่ม จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 12:04:57 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขันใบใหญ่ตั้งอยู่  เรียกว่า "บาตรพระ" คงจะเหมาะกว่า จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 12:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 47 พระประธานนั่ง ๑ ใน ๓ องค์ของวัดมะนูฮา One of three big-seated Buddhas in Manuha ถ่ายเก่งเท่าไรก็ได้แค่เนี้ยะ  เพราะในโบสถ์หรือวิหารนี่แคบมาก  แคบยังกับในวัดศรีชุมสุโขทัย  แค่คนเดินข้างในสองคนยังต้องเบียดกันเลย จึงต้องถ่ายใกล้ๆ  หากใครไปช่วงนี้ที่มีกล้องดิจิตอลแล้ว  คงจะได้ภาพสวยแน่นอน จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 12:14:41 ]

ความคิดเห็นที่ 48 พระปางไสยาสน์ในวัดมะนูฮา Big Reclining Buddha in Manuha ถ่ายดีที่สุดแค่นี้เหมือนกัน ข้างในแคบ คงสร้างเป็นคติพม่า คติไทยมั้ง  ที่พระใหญ่ๆ ดีๆ ต้องอยู่ในที่แคบๆ จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 12:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 49 แปะรูปเกี่ยวกับวัดมะนูฮาให้ชมกันต่อเลยครับ จะได้ไม่เสียอารมณ์ ภาพตอนนี้เป็นช่วงนั่งรถยนต์ไปเที่ยวอีกครั้ง  เหนื่อยกันเหลือเกิน ........................ Mon's King, Manuha and Queen Ningaladevi  in Manuha Temple เป็นรูปปั้นของพระเจ้ามะนูฮา (King Manuha)   กษัตริย์มอญคู่กับพระมเหสี คือ  พระนางนิงกะลาเทวี (Queen Ningaladevi)  เขาทำที่กั้นไว้ไม่ให้คนเข้าไปแตะ  แต่ดูเผินๆ เหมือนกับกรงขังเลย  ซึ่งพระองค์ก็ถูกขังจริงๆ  พระองค์เป็นกษัตริย์มอญ  ถูกกษัตริย์พม่าจับมาขังที่ วัดนันพญา (Nanpaya) ครับ  อยู่ใกล้ๆ กัน  เดี๋ยวจะพาไปชมต่อ จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 12:30:45 ]

ความคิดเห็นที่ 50 Nats in Manuha Temple เป็นรูปนัท  ภูติที่ชาวพม่าเคารพนับถือ  หน้าตาสวยงามดีจัง ช่วงที่พาไปเที่ยว ภูเขาโปปา (Mount Popa) ซึ่งเป็นที่สิงสถิตย์แห่งนัท  จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครับ ที่นั่งหันหน้ามา  ไม่ใช่นัท  เป็นก็อดอาร์มมี่ตัวปลอมนะครับ  ยังไม่สูงส่งถึงขั้นนั้น จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 12:35:54 ]

ความคิดเห็นที่ 51 Mahabodhi = มหาโพธิ ไม่ใช่มหาบดี ครับ บาตรพระนั่น นั่นคือบาตรที่ใญ่ที่สุดในโลกนะครับ กษัตริย์มอญที่ถูกขัง ชื่อ มนูหะ จากคุณ : ผู้ชนะหลายทิศ - [ 23 มิ.ย. 49 17:14:26 ]

ความคิดเห็นที่ 52 หากไปเที่ยวพม่าครั้งต่อไป  ต้องเชิญคุณผู้ชนะหลายทิศเป็นไกด์แล้วล่ะ  ทราบละเอียดดี  ผมไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไรหรอกครับ  แต่เพราะอยากเอามาอวดเท่านั้นแหละ  ถึงได้พยายามทำอยู่อย่างงี้ไง เพราะภาษาอังกฤษจากคำพม่า  แปลมาเป็นไทย  ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย  แล้วก็ตอนนั้นไม่ค่อยมีหนังสือนำเที่ยวพม่า หรือพุกามฉบับที่สมบูรณ์  จึงเทียบคำแปลมาเป็นไทยไม่ได้  ดูอย่างเมืองนี้ซิครับ ภาษาอังกฤษเขียนว่า Prome - หรือ Pyay - หรือ Pyi  ดูซิ อ่านเป็นไทยว่า "เมืองแปร" ได้ยังไง จากคุณ : NickyNick - [ 23 มิ.ย. 49 18:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ผมคิดว่าการสร้างพระใหญ่ๆในที่แคบๆอาจมาจากคติคันธกุฏีก็เป็นได้ มิงกาละเจดีย์ก็คือมงคลเจดีย์ครับ อยากไปมากๆเลยล่ะ ถ้าคุณ NickyNick มีจิตรกรรมพุกามช่วยโพสมาแบ่งกันชมได้ไหมครับ จากคุณ : + (ปลาทองสยองเมือง) - [ 23 มิ.ย. 49 21:03:21 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ได้ทันทีเลยครับคุณปลาทองฯ เดี๋ยวรอภาพถัดไปจากนี้ครับ .................. เข้าไปใน วัดนันพญา (Nanpaya Temple) ต่อ   ที่นี่เล็กกว่าวัดมะนูฮา   เป็นวัดสไตล์มอญ  สร้างโดยเชลยมอญที่พระเจ้าอโนรธากวาดต้อนมา   เสร็จแล้วก็ขังพระเจ้ามะนูฮาที่วัดนี้เสียเลย   ภายในมีภาพสลักหินที่ผนังดูสวยงามมาก   มองไม่เห็นพระประธานภายในพระอุโบสถ   แต่ลักษณะคล้ายช่องว่างตรงกลาง   เดิมอาจเป็นที่ประดิษฐานของพระประธานตรงนี้ก็ได้   วัดนี้ คาดว่าเป็นวัดแรกที่สร้างในพุกาม จากคุณ : NickyNick - [ 24 มิ.ย. 49 10:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าภาพสลักหินรึเปล่า แต่ไม่ใช่จิตรกรรมฝาผนังแน่นอนนะคุณปลาทองฯ ขอโทษด้วย ภาพนี้ตอนที่ถ่ายนั้นไม่ได้หวังไว้ว่าจะสวยสดงดงามอย่างนี้หรอก แต่พอกลับมาเมืองไทยแล้ว  เสียดาย เราน่าจะถ่ายรายละเอียดอย่างนี้ไว้เยอะหน่อย เพราะดูแล้วชื่นตาชื่นใจเหลือเกิน ความจริงก็มีภาพจิตรกรรมจากหนังสือที่มีอยู่บ้าง แต่เกรงว่าหากใส่ภาพนอกเหนือจากที่ได้ไปเที่ยวแล้วมันจะเยอะเกินไป แค่ที่มีอยู่นี้ก็มากมายพอควร หากว่างๆ อาจรวบรวมใหม่มาตั้งอีกเป็นกระทู้หนึ่งก็เป็นได้ เมื่อไรดีล่ะ ที่พุกามมีศิลปะสวยๆ งามๆ เยอะแยะไปหมด  พิจารณาละเอียดไม่ไหว ของเราบางที่มีแค่พระเจดีย์องค์เดียว  เรายังใช้เวลาพินิจพิจารณาดูกันเป็นวันๆ แต่ที่นี่มีตั้งหลายพันองค์  แค่เดินให้ผ่านเฉียดเฉพาะหน้าองค์พระเจดีย์ก็แทบจะแย่แล้ว ไว้คราวหน้าต้องอยู่ให้คุ้มเป็นสิบวัน  แล้วก็อย่างน้อยเชิญท่าน "ผู้ชนะหลายทิศ"  ท่าน "ปลาทองสยองเมือง" ร่วมบรรยายด้วย คงจะดี   แต่ เอ ค่าผ่านประตูแพงเหลือเกิน  ไม่รู้ว่าบัตรใบเดียวใช้ได้ทุกวันหรือเปล่า  ตอนนั้นค่าเข้าชม ๑๐ ดอลลาร์ต่อคน  ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะขึ้นอีกเป็นเท่าไร คุณ ~ก้านกฤษณา~  หรือคุณ ดอกยี่เข่ง  ทราบไหมครับ จากคุณ : NickyNick - [ 24 มิ.ย. 49 11:14:23 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ถึง วัดโกตะมะ (Gawtama Phaya)  อยู่ฝั่งตะวันออกของถนนลึกเข้าไปด้านใน มีเจดีย์ทาสีขาว ถนนที่แยกเข้าไปข้างในเป็นฝุ่นคลุ้ง  บางช่วงถีบจักรยานไม่ได้เนื่องจากจมฝุ่น [b]ที่นี่เรากลายเป็นฝรั่งไปอีกคน  เนื่องจากเป็นของแปลกสำหรับพวกเด็กๆ จากคุณ : NickyNick - [ 24 มิ.ย. 49 14:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เป็นหมู่บ้านชาวพุกามข้างๆ วัดโกตะมะ (Gawtama) ลักษณะก็เหมือนชนบทบ้านเรานี่แหละครับ จากคุณ : NickyNick - [ 24 มิ.ย. 49 14:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เนื่องจากมีบันทึก  และภาพประกอบอยู่อีกเป็นอันมาก จึงขอตั้งกระทู้ใหม่ต่อเนื่องจากตรงนี้เลยครับ กรุณาแวะไปชมได้เลยครับ เที่ยวพม่า ตอน ๓ : พุกาม ๒ เมื่อยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดินของวันคริสต์มาสอีฟ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4480312/K4480312.html จากคุณ : NickyNick - [ 24 มิ.ย. 49 16:25:07 ]