ความคิดเห็นที่ 1 สำหรับท่านที่เพิ่งจะเข้ามา  เพื่อความเข้าใจต่อเนื่อง  หากมีเวลาพอ  อาจต้องกลับไปอ่านซ้ำในอีก ๓ ตอนที่ผ่านมาดังนี้ก่อนครับ - เนื่องมาจากการคุยกับ "เหงามาก" – ไปเที่ยวพม่า ตอน ๑ : ย่างกุ้ง-แปร-พุกาม http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/06/K4461019/K4461019.html - เที่ยวพม่า ตอน ๒ : พุกาม ๑ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/06/K4474732/K4474732.html - เที่ยวพม่า ตอน ๓ : พุกาม ๒ เมื่อยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดินของวันคริสต์มาสอีฟ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/06/K4480312/K4480312.html แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 49 15:01:11 จากคุณ : NickyNick - [ 27 มิ.ย. 49 15:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ๑๒.๓๐ น.   ถึง ภูเขาโปปา (Mount Popa) ชื่อนี้มาจากรากศัพท์ภาษาสันสกฤตแปลว่าดอกไม้   พวกเราแทบไม่มีเวลามากเพราะตามแผนเดิมตั้งใจจะไปนอนพักคืนนี้ที่ทะเลสาบอินเล (Inle Lake)  คงเป็นไปไม่ได้   แต่ก็อยากไปถึงให้ใกล้ที่สุด   รีบกินข้าวกลางวันกันก่อนที่ตีนเขา   แล้วรีบเดินขึ้นไปข้างบน  มีทางเดินดีตลอด   มีหลังคากันแดดกันฝนให้   จากข้างบนซึ่งสูง ๑,๕๑๘ เมตร (๔,๙๘๑ ฟุต)  จากระดับน้ำทะเล   มองเห็นทิวเขาที่อยู่ติดกันเป็นหย่อมเดียวกับโปปา   เห็นแม่น้ำ  เห็นภูเขารูป U-shape ไกลๆ ทางทิศใต้? (หลงทิศซะแล้ว)  ที่นี่เป็นสถานที่ที่มหาคีรีนัท (Mahagiri Nats) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ๒ ตนสิงสถิตอยู่ (Nat มีทั้งหมด ๓๗ ตน)  คงจะเหมือนกับพระขะพุงผีของชาวอาณาจักรสุโขทัยที่เป็นใหญ่แห่งอมนุษย์ทั้งปวง   Nat ผู้ชายมีชื่อว่า พ่อรูปงาม (Mr.Handsome)  ส่วน Nat ผู้หญิงชื่อ นางหน้าทอง  (Sister “Golden Face”) ........................... ยังไม่ใช่นัทนะครับ เป็นพระพุทธรูป เดินเที่ยวต่อกันตามลำดับเลยครับ จากล่าง ขึ้นบน เฮ้อ  เหนื่อยอีกแล้วซิเรา จากคุณ : NickyNick - [ 27 มิ.ย. 49 15:40:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กำลังหลอกเด็กอยู่ หรือไม่ก็โดนเด็กหลอก มีทั้งนักท่องเที่ยว แล้วก็เด็กขายของตลอดทางเดินขึ้นลงเลยครับ ใครจะเป็นเหยื่อใครก็ไม่รู้ ที่แน่ๆ ที่เม้าท์โปปา  เราไม่โดนพม่าหลอกหรอกนะ  จะบอกให้ (อีกแย้ว) ตอนพวกเราขึ้นลงเขา ก็ต้องใส่รองเท้า พอเข้าเขตวัด  ก็ต้องถอดทั้งรองเท้าทั้งถุงเท้า ใครจะไปเที่ยวพม่าให้ใส่รองเท้าแตะ  จะสะดวกสุด เพราะต้องถอดหมดตั้งแต่รั้ววัดกันเลยทีเดียว จากคุณ : NickyNick - [ 27 มิ.ย. 49 15:49:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นวิวทางขึ้น ตอนที่ถ่ายมารู้สึกว่าจะเห็นภูเขารูปยูเชฟ  อยู่ไกลๆ แต่พออัดมา  ไหงมันหายไปไหนน้อ ใครตาดี บอกหน่อย จากคุณ : NickyNick - [ 27 มิ.ย. 49 15:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โชว์วิวอีกสักรูป  พรุ่งนี้ค่อยมาโชว์วัด ใครมาแอบดู  ลงชื่อหน่อยละกัน อ้อ ลืมบอกไปครับ ภูเขาโปปา  เป็นกลุ่มภูเขาหย่อมเดียว  เหมือนกับเขาโยนดินกระเด็นมาแปะตรงนี้ เหมือนกับภูเขาตอนกลางของภาคกลาง เช่น อำเภออู่ทอง สุพรรณบุรี   ชัยนาท  นครสวรรค์ ไม่เป็นเทือกเหมือนกับภูเขาในภาคเหนือของไทยหรอกครับ จากคุณ : NickyNick - [ 27 มิ.ย. 49 16:05:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ NickyNick ขออนุญาตเกาะ  ตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ จากคุณ : กัมม์ - [ 27 มิ.ย. 49 16:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตามสบายครับ  ขอต้อนรับทุกท่านด้วยความยินดี สำหรับการไปเที่ยวครั้งนี้  ขอสรุปเส้นทางอีกครั้งดังนี้ครับ ย่างกุ้ง (Yangon) –  มอบี (Hmawbi) – ไทจี (Taikkyi) – โอ๊กกะ (Okkan) – ทราวดี (Tharrawaddy) - แปร (Pyi) – พยา (Pya) – เมียเดะ (Myayde) – ตองวินยี (Taungdwingyi) - แมกเวย์ (Magway) - ยีนางยอง (Yenangyaung) – ย็อกปาดอง (Kyaukpadaung) เป็นชุมทางแยกไปพุกาม – พุกาม (Bagan) – ภูเขาโปปา (MOUNT POPA) – ย็อกปาดอง (Kyaukpadaung) อีกครั้ง - มิถิลา (Meiktila) – ตาซี (Thazi) – เยมมาเบะ – กะลอ (Kalaw) – อองบาน (Aungban) – สนามบินเฮโฮ (Heho Airport) – ชเวยอง (Shwenyaung) – งายชเว หรือยองชเว (Nyaungshwe) - ทะเลสาบอินเล (Inle Lake) – ตองยี (Taungyi) – ยาเมติน (Yamethin) – ตาหวัวจิ (Thawatti) – ยีดาชี (วาย-อี-ดี-ashe) – ตองอู (Taung-Oo) - สียาวดี (Zeyawaddi) – พยู (Pyu) – เพนวากอน (Penwagon) – ยองลิบิน (Nyaunglebin) – ยองดาซา (Pyuntaza) – พะโคหรือหงสาวดี (Bago – Hunthawaddi) – เถ้าเจี๊ยะ (Htaukkyant) – ย่างกุ้ง (Yangon) สำหรับกลุ่มเมืองหลวงเก่าทั้งสาม  ไม่ได้ไป  เพราะเลยพุกามไปอีกนิ้ดดดดดเดียว  เสียดายเหมือนกัน คือ  อังวะ (Ava)  อมราปุระ (Amarapura)  และมัณฑะเลย์  (Mandalay) กับเมืองสกาย (Sagaing)  ซึ่งเปรียบเหมือนธนบุรีกับกรุงเทพ คู่กับเมืองอังวะ  แม้จะไม่ได้อยู่ในกำหนดการเพราะเวลาจัดไว้ไม่พอ  แต่สิ่งที่น่าสนใจภายในเมืองเหล่านี้ที่เราทราบจากหนังสือยังมีอยู่อีกมาก ..................... สำหรับตอนนี้เป็นการนำเที่ยวตั้งแต่เม้าท์โปปา  จนถึงสนามบินเฮโฮครับ หมายเหตุ ๑. เมืองยีดาชี  ผมเขียนภาษาอังกฤษเว้นวรรคไว้แบบนั้น  เพราะเขียน วาย-อี-ดี ติดกันสามตัว  เป็นคำไม่สุภาพครับ  พันทิปไม่ยอม ๒. แก้แล้วแก้อีก  เขาก็ไม่ยอม  เอางี้แล้วกัน เมืองยีดาชี  เขียนว่า วาย-อี-ดี-ashe ครับ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 49 15:03:42 แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 49 10:08:56 แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 49 09:21:37 จากคุณ : NickyNick - [ 28 มิ.ย. 49 08:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 องค์นี้เรียกพระธาตุเจดีย์ได้รึเปล่า ตั้งอยู่บนยอดเขาข้างบน จากคุณ : NickyNick - [ 28 มิ.ย. 49 08:57:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอ้า  อีกรูปหนึ่ง  สะสมไว้เยอะ เป็นภาพถ่ายตอนกำลังเดินลง จากคุณ : NickyNick - [ 28 มิ.ย. 49 08:58:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ภายในวัด ดูเอาเองละกัน  ว่าอะไรเป็นอะไร จากคุณ : NickyNick - [ 28 มิ.ย. 49 09:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อุบาสกอุบาสิกาทั้งจริง  และปลอม  กำลังกราบถวายพระพุทธองค์ บางทีเราก็แยกไม่ออก  เพราะพม่าปั้นรูปคนเหมือนจริงมาก  แล้วก็ทาสีสันสวยงาม จากคุณ : NickyNick - [ 28 มิ.ย. 49 09:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ่ายอีกมุมหนึ่งให้เห็นชัดๆ เป็นอุบาสกอุบาสิกาปูนปั้นครับ เห็นความสวยงามของศิลปะพม่าแล้วใช่ไหมครับ จากคุณ : NickyNick - [ 28 มิ.ย. 49 09:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นรูปปั้นพระสงฆ์พม่าครับ สีจีวรเป็นแบบนี้เลยครับ จากคุณ : NickyNick - [ 28 มิ.ย. 49 09:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ๒ ตนนี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นมหาคีรีนัท (Mahagiri Nats) รึเปล่า ที่มีนามว่า พ่อรูปงาม (Mr.Handsome)  กับนางหน้าทอง  (Sister "Golden Face") ใครอ่านภาษาพม่าออก ช่วยหน่อยครับ  มีป้ายเขียนไว้ จากคุณ : NickyNick - [ 28 มิ.ย. 49 09:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่นี่มีเด็กชายผู้หนึ่งชื่อ เย มิน ตู (Ye Myint Thu)  อายุ ๑๐ กว่าขวบ   พยายาม take care เรา   ซึ่งก็เป็นการดีเพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเราซึ่งอยากรู้อยากเห็นไปเสียหมด   และเขาก็จะได้ประโยชน์จากการฝึกภาษาอังกฤษกับชาวต่างประเทศ   รวมทั้งได้รับของขวัญเล็กๆ น้อยๆ อีกด้วย จากคุณ : NickyNick - [ 28 มิ.ย. 49 09:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ๑๔.๑๕ น.  ลงจากโปปา   ที่นี่จะเห็นว่าหนุ่มสาวทันสมัยกว่าที่ผ่านมา   มีการนุ่งยีนส์ใส่เสื้อยืดกันมากกว่า  แต่ก็ยังมีวัยรุ่นเคี้ยวหมากมากเหมือนเดิม หลังจากหาอะไรรองท้อง  ทั้งหนักทั้งเบา  แล้วก็ยืนเต๊ะจุ๊ยถ่ายรูปกันตามระเบียบ จากคุณ : NickyNick - [ 28 มิ.ย. 49 17:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ต่อกันเลยครับ  สำหรับเช้าวันนี้ .................... ๑๔.๓๐ น.  ออกเดินทางต่อ  ถ่ายรูปโปปาทั้งวิวใกล้  และวิวไกลจากสนามกอล์ฟ จากคุณ : NickyNick - [ 29 มิ.ย. 49 08:31:25 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มีหลายภาพครับ  คล้ายๆ กัน   ไม่รู้ว่าภาพไหนสวยกว่ากัน เลยลงให้หมดเลย ดินแดงๆ ขาวๆ ตรงมุมล่างของภาพเป็นพื้นสนามกอล์ฟนะครับ  อยู่ติดถนนพอดี จากคุณ : NickyNick - [ 29 มิ.ย. 49 08:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ๑๕.๐๐ น.  ถึง ย็อกปาดอง (Kyaukpadaung)  จากนี้ไปจะผ่านเทือกเขาตลอด ๑๕.๒๐ น.  เห็นเขื่อนใหญ่ๆ  ไกลๆ  ทางเหนือ  แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของที่นี่ยังคงแห้งแล้ง ๑๖.๓๕ น.  ถึง เมืองมิถิลา (Meiktila)  มีคนหนาแน่น   รถวิ่งบนเหนือเขื่อนเล็กๆ ๑๖.๕๐ น.  ถึง เมืองตาซี (Thazi)   เป็นชุมทางรถไฟใหญ่   ทั้งที่นี่และตามเมืองอื่นๆ ของพม่า  จะมองเห็น เสาไฟส่วนใหญ่ทำจากต้นไม้จริงๆ ที่ตัดแล้วลอกเปลือกออก   ไม่ได้เกลาให้ดูกลมเลยแม้แต่นิดเดียว  คงเหมือนกับเมืองไทยเมื่อสักประมาณ ๒๐ ปีก่อน จากคุณ : NickyNick - [ 29 มิ.ย. 49 08:35:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จากนั้นมองเห็นกลุ่มเทือกเขาแต่ไกลที่ชื่อว่า ชานโยมา (Shan Yoma)  ทางตะวันออก  ซึ่งทะเลสาบอินเลก็อยู่บริเวณแนวเทือกเขานี้ด้วย   ความสูงเหมือนกับของเทือกเขาอาระกันโยมา   แต่แลดูมีต้นไม้มากกว่า   ไม่แห้งแล้วแตกระแหงเหมือนอาระกันโยมา ๑๗.๓๐ น.  เริ่มเข้าเขตภูเขาของเทือกเขาชานโยมา   บริเวณนี้มีทางแยกไปทิศตะวันตกสู่ เมืองช็อท   ส่วนพวกเรานั่งรถต่อลงไปทางใต้ค่อนตะวันออก ๑๘.๐๐ น.   ถึงเยมมาเบะ  แวะเติมน้ำมันที่นี่   ชาวพม่าที่เห็นทุกคนต่างทักทายปราศรัยกับชาวต่างประเทศเป็นอย่างดี   บ้านนี้สงสัยจะเป็นชาวอิสลาม   เพราะมีรูปภาพของหินกาบาห์ในประเทศซาอุดีอาระเบียติดอยู่หลายภาพ   สอบถามระยะทางได้ความว่าอีก ๓๖ ไมล์จะถึงเมืองกะลอ   ตอนนี้เริ่มมืดแล้ว พวกเราเปลี่ยนใจอยากไปให้ถึงบริเวณทะเลสาบอินเลภายในคืนนี้ถ้าเป็นไปได้  จึงพยายามสอบถามคนขับรถ   ซึ่งก็ให้ความมั่นใจว่า   สามารถไปถึงได้โดยไม่ลำบากนัก  เพราะเขาเคยชินกับเส้นทางนี้เป็นอย่างดี   บางครั้งขับรถทั้งคืนโดยไม่ได้นอนเลยก็ยังมี   แต่พวกเราคงไม่ทรมานเขาถึงขนาดนั้น   เพราะไม่จำเป็นต้องอดนอนเพื่อขับรถทั้งคืน   อยากใช้เวลาแค่ถึง ๓-๔ ทุ่มเท่านั้น   และถ้ายังคงเดินทางกลางดึกตลอดอาจเกิดอันตรายได้ทั้งจากอุบัติเหตุและจากโจรผู้ร้าย   หรืออาจเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลก็เป็นได้ เราพักดื่มน้ำชากาแฟกันที่ร้านนั้นสัก ๑๐ นาทีแล้วเดินทางต่อ   Riki ขอคำสัญญากับคนขับรถว่าจะไม่ขับรถเร็วเกินไป   เนื่องจากถนนไม่ดี  เธอนั่งข้างหลัง  ประกอบกับเดินทางมาทั้งวัน   เวลารถวิ่งเร็วจะทำให้โรคเก่ากำเริบ  คลื่นไส้อาเจียนหมดแรงได้ จากคุณ : NickyNick - [ 29 มิ.ย. 49 08:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถนนจากเยมมาเบะถึงกะลอเป็นช่วงของถนนที่เลวร้ายที่สุดในพม่า  เราคงจำไว้อีกนานเท่านาน   ถนนเล็ก  ทางคดเคี้ยวมาก   ขึ้นลงภูเขาตลอดเวลา  ถนนยังสึกกร่อนโดยตลอด   แถมบางช่วงยังมีทางขาด   เนื่องจากน้ำบนภูเขาไหลเซาะลงมา   ขณะนี้เริ่มมืดแล้ว   ทางเปลี่ยวตลอด  มองออกไปข้างนอกไม่เห็นสัญญาณใดๆ ที่แสดงว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่รอบข้างเลย   พวกเรากังวลมากเกี่ยวกับอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น   สองข้างทางตอนนี้ยิ่งมองว่าเป็นป่าทึบเข้าไปใหญ่   เพราะท่ามกลางความมืด  สายตาเราไม่สามารถแยกป่าโปร่งออกจากป่าทึบได้   แถมเป็นป่าซึ่งอยู่บนเทือกเขาสูงตระหง่านอีกด้วย   จึงเพิ่มความกลัวให้กับพวกเรายิ่งขึ้นไปอีก  แทบไม่มีใครกล้าปริปากพูดอะไรออกมาให้เป็นลางใดๆ เลย   เราทราบกันในภายหลังว่า Sigi มองเห็นงูที่ด้านหน้ารถตามแนวไฟส่องทาง ๓-๔ ครั้ง   อาจเป็นจริงหรือส่วนหนึ่งจากอุปาทานด้วยก็ได้   เพราะเธอกลัวงูเป็นชีวิตจิตใจ   กลัวยิ่งกว่าที่ Riki กลัวเสียอีก   สำหรับ Lali กลัวเกี่ยวกับเรื่องการจี้ปล้น  ทั้งจากชาวบ้าน  จากฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล   หรือจากทหารตำรวจเอง   รวมทั้งอุบัติเหตุด้วย   ซึ่งก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายพอๆ กัน ขณะนี้ทางคดเคี้ยวตลอด   เวลาขับรถผ่านแนวที่เทือกเขาบังแต่ละครั้ง   คนขับจะใช้แตรตลอดเวลา   ซึ่งฟุ่มเฟือยเกินความเป็น   เขาควรใช้ไฟกระพริบสูงต่ำซึ่งน่าจะปลอด  และได้ประโยชน์กว่า   แถมลดความรำคาญลงด้วย   ไม่ทราบว่าทำไมเขาจึงไม่ใช้   อาจจะชินกับการใช้แตร  หรือคงเคยทดลองใช้ไฟสูงต่ำมาแล้วแต่เห็นว่าสู้แตรไม่ได้กระมัง ระหว่างทางช่วงนี้ Riki ไม่สบายหนัก   เกิดอาการเหมือนกับตอนที่เคยเดินทางไปอยุธยากับเราครั้งแรก  คือปวดเวียนหัว  หน้ามืด  คลื่นไส้อยากจะอาเจียน  เนื่องจากถนนคดเคี้ยวและรถสั่นสะเทือนมาก  พยายามบอกให้คนขับขับช้าๆ   ซึ่งความจริงก็ช้าอยู่แล้วจนรถนักท่องเที่ยวคันอื่นๆ แซงหน้าไปลิบลับก็ยังไม่ดีขึ้น   จึงขอเปลี่ยนที่นั่งกับเราไปอยู่ด้านหน้าแทน  หลังจากนั้นอาการก็เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ   เราเคยพยายามบอกให้เธอเปลี่ยนมาอยู่ข้างหน้าตั้งหลายครั้งแล้วแต่เธอปฏิเสธ  คงคิดว่าเหมือนๆ กัน   แต่เราไม่เห็นว่าจะเป็นอย่างนั้น   เพราะพอเราไปนั่งหลังแทนก็เริ่มมีอาการวิงเวียนบ้างเล็กน้อย   แต่ยังไม่ถึงกับรุนแรงแบบ Riki  ซึ่งตอนนี้เธอกลายเป็นคนอ่อนแอที่สุดในกลุ่มแล้ว  แม้ตัวจะสูงตั้ง ๑๘๐ ซม. ก็ตาม จากคุณ : NickyNick - [ 29 มิ.ย. 49 08:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ๒๐.๓๐ น.  ถึงเมืองกะลอ (Kalaw)  เป็นเมืองใหญ่  อากาศหนาวมาก   มีโรงแรมแห่งเดียวซึ่งเป็นของรัฐ   เราจำเป็นต้องพักที่นี่แม้ราคาจะแพงแสนแพง  เทียบไม่ได้กับคุณภาพที่มีอยู่  Riki ถึงกับบ่นตลอดเวลาในเรื่องการบริการของรัฐที่นี่   โดยเฉพาะความสะอาดของห้องน้ำในโรงแรม  ความขี้บ่นของ Riki เป็นเรื่องขบขันที่พวกเราล้อเลียนกันอยู่เนืองๆ ที่นี่อากาศหนาวมาก   หายใจแต่ละทีพ่นออกมาเป็นควันเลยทีเดียว  เราพักใน Kalaw Hotel  ห้องเดียวกับ Lali-Riki  ห้อง ๓๐๒  ราคา ๔๒ บวกกับอีก ๑๗ ดอลลาร์สำหรับ Extra-bed for superior room (ห้องพักที่นี่มี ๓ ระดับ คือ Standard, Economy, ซึ่งเต็มหมดแล้ว  เหลือแต่ Superior Room ที่ราคาแพงที่สุด)  ห้องนี้มีน้ำอุ่น  ส่วน Heater พวกเราต้องหอบหิ้วกันจากล็อบบี้เข้ามาเอง   ตั้งเวลาได้เพียงสองชั่วโมงเท่านั้นแล้วไฟฟ้าสาธารณะก็จะดับอัตโนมัติกันหมดทั้งเมือง   ซึ่งเรื่องไฟฟ้าในพม่าแทบทุกแห่งแม้แต่ในย่างกุ้งจะปิดเปิดเป็นเวลา  ตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้าจะพบว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างดับหมด ........................ เป็นภาพ ๑ ใน ๓ อาคารของ Kalaw Hotel จากคุณ : NickyNick - [ 29 มิ.ย. 49 08:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อาบน้ำเรียบร้อยแล้วก็รีบไปกินอาหารเย็นกันที่ภัตตาคารของโรงแรม   ครัวเกือบปิดกันหมดแล้ว   และมีร้องเพลงคริสต์มาสหมู่กันในภัตตาคารของโรงแรมสำหรับชาวต่างประเทศ   พวกเรารีบๆ กินและรีบไปนอน ในห้องนอน เรายังคงนอนท่าเคยชินเหมือนเดิมคือ นอนคว่ำและต้องคลุมโปงจนมิด  อาจโผล่จมูกออกนอกผ้าห่มเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์เพียงเล็กน้อย   ซึ่งก็เป็นตำนานให้พวกเพื่อนๆ ล้อกันไม่รู้จบ  กว่าจะหลับได้ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเพราะไม่เคยชินกับการนอนแต่หัวค่ำ  แม้จะเป็นเวลา ๕ ทุ่มแล้วก็ตาม   และจากการที่ห้องข้างบนเดินเสียงดังมากเพราะพื้นห้องแต่ละชั้นเป็นไม้   แต่ตอนเช้าเราก็ยังอ้างว่าเป็ฯเพราะไม่ชินกับการที่ต้องฟัง Riki บ่นตลอดทั้งคืน จากคุณ : NickyNick - [ 29 มิ.ย. 49 08:49:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ๒๖ ธันวาคม ๒๕๓๗ ๐๗.๓๐ น.  ตื่นเช้า   อาบน้ำด้วยความทรมานเพราะหนาวจัด   แม้ว่าจะมีน้ำอุ่น   แต่ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไร ออกมาถ่ายรูปกะลอโฮเต็ลเป็นที่ระลึกว่าเป็นโรงแรมในเมืองกลางป่าที่มีราคาแพงที่สุด   รอบบริเวณมี ๓ ตึก  ตั้งอยู่บนเนินเขา   ซึ่งเมืองกะลอทั้งเมืองตั้งอยู่บนขุนเขาที่สูงใหญ่ของเทือกเขาชานโยมา   จึงมองเห็นหมอกหนาทึบ   อากาศเย็นเฉียบ   คาดว่าอุณหภูมิน่าจะต่ำกว่า ๕ องศาเซลเซียส   พวกเราพ่นควัน (ธรรมชาติ) กันตลอดเวลา   มองดูแล้วน่าจะเป็นสุขมากถ้าที่นี่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างเพียงพอ   คงจะเป็นสถานที่ฮันนีมูนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ..................... นี่เป็นอาคารที่เรานอนกัน  หากไปพม่าอีกครั้ง จะไปเยี่ยมห้องเดิมซักกะหน่อย  ราคายังเท่าเดิมรึเปล่าก็ไม่รู้ จากคุณ : NickyNick - [ 29 มิ.ย. 49 08:52:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ๐๙.๓๐ น.  หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จก็ออกเดินทางเพื่อไปทะเลสาบอินเล   ช่วงผ่านชุมชนจะเห็นบ้านเมืองปลูกอยู่ท่ามกลางหุบเขาสวยงามมาก บนยอดเขาแห่งหนึ่งที่สูงเด่นมีตึกสไตล์ตะวันตกปลูกอยู่อย่างสง่าเพียงตึกเดียว   เราคุยกันว่าน่าจะเคยเป็นบ้านพักของผู้นำชาวอังกฤษที่ใช้เมืองนี้เป็นที่พักผ่อนในฤดูร้อน  สถานที่สวยๆ งามๆ อย่างนี้ เจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษคงจะไม่พลาดอยู่แล้ว ๐๙.๔๕ น.  ถึง เมืองอองบาน (Aungban)  เป็นเมืองใหญ่อีกเมือง   แต่บรรยากาศก็ยังเป็นแบบเมืองในชนบทต่างๆ   มีเกวียนอยู่มากมาย รถขับผ่านป่าสนโดยตลอดซึ่งป่าช่วงนี้ส่วนใหญ่เป็นป่าโปร่งเนื่องจากเป็นป่าที่ขึ้นบนที่สูง  อากาศหนาว   จึงแตกต่างจากป่าดงดิบของเมืองไทยที่มักเป็นป่าทึบ เรามองเห็น Sigi ค่อนข้างหงอยเหงา   นั่งสัปหงกตลอด   รู้ภายหลังว่าเมื่อคืนเขานอนเพียงชั่วโมงเดียวประมาณช่วงตี ๔-๕  เพราะความกลัวงูฝังอยู่ในจิตใจ   พวกเราก็ได้แต่หวังว่าระยะเวลาอีก ๔-๕ วันในพม่า   คงจะทำให้เขาชินขึ้นและลดความกลัวในเรื่องเหล่านี้ลงไปได้บ้าง จากคุณ : NickyNick - [ 29 มิ.ย. 49 14:03:26 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ๑๐.๐๕ น.  ถึงจุดที่จะพ้นแนวเทือกเขาคดเคี้ยวออกมาจนหมด  มองจากยอดสุดท้าย  เห็นพื้นที่ราบข้างหน้าอันกว้างใหญ่  ซึ่งเป็นที่ตั้งของ สนามบินเฮโฮ (Heho Airport) ด้วย พวกเราลงจากรถถ่ายรูปวิวที่สวยงามของช่วงเวลาเช้า   ยังมีหมอกปกคลุมประปรายเป็นแห่งๆ   จากนั้นอีก ๕ นาทีก็ขับรถผ่านลงมาถึงปากทางเข้าสนามบิน   ซึ่งอยู่กลางป่ากลางทุ่ง   รอบข้างไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ ที่บ่งบอกว่าภายในเป็นสนามบินเลย ................. ภาพทิวทัศน์ก่อนถึงสนามบินเฮโฮ  ยังมองเห็นหมอกยามเช้า (แก่ๆ) จากคุณ : NickyNick - [ 29 มิ.ย. 49 14:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กราบขออภัยท่านผู้แวะมาเยี่ยมเยือนทุกท่าน แม้จะไม่ได้ลงชื่อไว้ก็ตาม พอดีกำลังมีเรื่องยุ่งๆ ในชีวิต  เลยห่างหายไปพักหนึ่ง ตอนนี้เรื่องคลี่คลายลงบ้างแล้ว   ไว้ให้สบายใจอีกหน่อยค่อยขอมาลงต่อครับ คงเหลืออีกราว ๓ ลิ้งค์ใหญ่ๆ เลยครับ ว่างๆ แวะไปเยี่ยมทักทายใน blogGang ของผมได้เลยครับ คลิ๊กหลังอมยิ้มใหม่ของผมได้เลย เพิ่งสร้างง่ายๆ เมื่อสักครู่นี้เองครับ มีสิ่งใดจะแนะนำเชิญได้ทุกท่านเลยครับ จากคุณ : NickyNick - [ 5 ก.ค. 49 10:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ลองอีกทีครับ บล็อกออกรึยัง จากคุณ : NickyNick - [ 5 ก.ค. 49 13:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สบายใจหน่อยแล้วครับ ต่อกันเลยนะครับ ........................ เนื่องจากมีบันทึก  และภาพประกอบอยู่อีกเป็นอันมาก จึงขอตั้งกระทู้ใหม่ต่อเนื่องจากตรงนี้เลยครับ กรุณาแวะไปชมได้เลยครับ เที่ยวพม่า ตอน ๕ :  ยองชเว (Nyaungshwe) - ทะเลสาบอินเล (Inle Lake) แห่งรัฐไทยใหญ่  จนถึงตองอู (Taung Oo) http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4517640/K4517640.html จากคุณ : นิค (NickyNick) - [ 8 ก.ค. 49 12:58:16 ]