ความคิดเห็นที่ 1 ๑๖.๐๐ น.  ออกเดินเที่ยวในกรุงย่างกุ้ง   จุดมุ่งหมายอยู่ที่แม่น้ำ   ต้องการดูพระอาทิตย์ตกที่นั่น  โดยเดินอย่างรีบเร่งเพราะใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกมากแล้ว เดินผ่าน พระเจดีย์ซูเล (Sule Pagoda)  ผ่านอนุสาวรีย์แห่งอิสรภาพ (Independence Monument) แล้วไปดูแม่น้ำย่างกุ้งขณะพระอาทิตย์ตกพอดี   ซึ่งแม่น้ำตอนนี้กว้างใหญ่กว่าแม่น้ำเจ้าพระยาตรงที่ไหลผ่านกรุงเทพฯ ของเราเป็นไหนๆ   มีเรือสินค้าลำใหญ่ๆ เทียบท่า  ปะปนกับเรือข้ามฟากและเรือพายลำเล็กๆ ระหว่างทางตอนขามา  มองเห็นคนพม่ารอขึ้นรถอย่างเป็นระเบียบ   เป็นรถสองแถวเล็กๆ จอดอยู่เต็มไปหมด  และจอดที่ท่าสำหรับสายนั้นๆ  มีล็อคกั้นไว้ให้คนคอยเข้าคิวเดินเรียงเดี่ยวขึ้นรถโดยไม่ให้แซงกัน   เมื่อเต็มคันหนึ่งแล้วก็รอขึ้นคันถัดไป  สำหรับรถบัสที่นั่นคล้ายกับรถ ขสมก.บ้านเราก็มีอยู่บ้าง  แต่เก่ากว่า  คนโหนแน่นเหมือนๆ กัน  แต่จำนวนรถน้อยกว่ามากมายหลายเท่านัก ........................... พระเจดีย์ซูเลครับ ทรวดทรงงามที่สุดในพม่า จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 49 14:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อนุสาวรีย์แห่งอิสรภาพ (Independence Monument) จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 49 14:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แม่น้ำย่างกุ้งครับ  ใหญ่โตกว้างขวางดีแท้  แม่น้ำเจ้าพระยาตรงปากน้ำ สมุทรปราการ ยังอายม้วนต้วนเลย วิวตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน  ใกล้กับโรงแรมสแตรนด์ (Strand Hotel) พออัดภาพนี้มาทีแรก  ใครๆ ก็อยากได้ครับ เพราะฝีมือดี  พอเก่าเข้าหน่อยก็ยังมีเค้าโครงความสวยงามเหลืออยู่  นี่ขนาดก็อปมานะเนี่ยะ ไม่อยากจะคุย จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 49 14:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เดินเข้าไปใน โรงแรมสแตรนด์ (Strand Hotel)  ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำย่างกุ้ง  เป็นโรงแรมชั้นหนึ่งของที่นี่  พวกเราจึงไม่ควรละเลยโอกาสที่จะแวะเข้าไปชื่นชมข้างใน  ได้เข้าไปจิบยินโทนิค (Gin & Tonic) กันในนั้น  เป็นบรรยากาศเลิศหรู  แน่นอนที่ราคาต้องแพงตามไปด้วย  มีเปียโนและกีตาร์บรรเลงให้ฟังเบาๆ  แขกที่นั่งข้างในมีอยู่ไม่กี่คน  พวกเราเป็นกลุ่มแรกของช่วงนั้น  พอเข้าไป  นักดนตรีก็เริ่มมีงานที่จะต้องทำ  จึงเริ่มต้นบรรเลงเพลงขับกล่อมพวกเรา  ยินโทนิคราคาแก้วละ ๕+ ดอลลาร์  ดื่มกันคนละ ๒ ดริ๊งค์  ดริ๊งค์หลัง Sigi เป็นคนเลี้ยง .................. ไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศภายในโรงแรมมา  เพราะอยากเก็บความทรงจำดีๆ ไว้เพียงคนเดียว ขี้เหนียวไง เลยเอาความกว้างของแม่น้ำย่างกุ้งมาโชว์อีกรอบ ตรงนี้เหมือนทางท่าน้ำนนท์ ท่าน้ำบางกรวยบ้านกุรุกุลาปลาแก้มป่องของเรารึเปล่า จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 49 14:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ออกมาเดินช็อปปิ้งภายในกรุงย่างกุ้งยามกลางคืน  แล้วเดินขึ้นไปบนเจดีย์ซูเลซึ่งยังไม่ปิด  อนุญาตให้เข้าชมได้ เราพยายามมองหาซื้อแผนที่ใหญ่ๆ ของประเทศพม่าที่เป็นภาษาอังกฤษในตลาดได้ในราคา ๙๐ จ๊าต  จากคนแก่คนหนึ่งซึ่งบอกว่าเคยมาเที่ยวเมืองไทยสัก ๒๐ ปีก่อน ในแผนที่ได้แบ่งเขตการปกครองของประเทศออกเป็น ๗ Division  กับอีก ๗ State  แผนที่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเรา   ไปเที่ยวที่ไหนต้องซื้อติดมือมาด้วยทุกครั้ง เดินจนเหนื่อยแล้วก็ไปนั่งกินอาหารอินเดีย  ใช้มือเปิบเป็นส่วนใหญ่ ....................... ตรงนี้เกือบเหมือนท่าช้างท่าพระจันทร์แล้วล่ะ จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 49 14:57:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แสวงหาธรรมะ (ไหว้พระเจดีย์ซูเล) แล้วก็มาแสวงหาอธรรมมั่ง เป็นธรรมชาติของมนุษย์ครับ ............................ จากนั้นหารถกลับ  ก่อนเข้าโรงแรมได้แวะจิบเบียร์กันอีก (ขาดไม่ได้เหมือนกัน)  ที่ภัตตาคารใกล้ๆ โรงแรม  ที่นี่มีนักร้องร้องเพลงทั้งฝรั่งและพม่าให้ฟังรวม ๔ คน  ผู้หญิงแต่งชุดค่อนข้างรัด  ดูทันสมัยกว่าที่เห็นโดยทั่วไปในพม่า  แต่ก็ยังปกปิดอยู่ไม่เปิดเผยมากมายเหมือนในเมืองไทย   ภัตตาคารแบบนี้และที่มีนักร้องแบบนี้  เราเพิ่งจะเห็นที่นี่เป็นครั้งแรกในรอบสิบวันที่มาพม่า   แต่ไม่ค่อยเห็นมีคนมานั่งกินสักเท่าไร สำหรับค่าอาหารในภัตตาคารหรือในโรงแรมพม่าจะบวกค่าภาษี ๑๐%  และค่า Service Charge อีก ๑๐% สำหรับนักท่องเที่ยวเข้าไปด้วย  ทั้งๆ ที่ไม่เห็นจะบริการอะไรให้เป็นพิเศษเลย   ทำให้ราคาอาหารและเครื่องดื่มแพงขึ้นผิดปกติ จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 49 15:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ส่งภาพเพลิน  ลืมบอกอีกจนได้ โทษทีครับ สำหรับท่านที่เพิ่งจะเข้ามา  เพื่อความเข้าใจต่อเนื่อง  หากมีเวลาพอ  อาจต้องกลับไปอ่านซ้ำในอีก ๖ ตอนที่ผ่านมาดังนี้ก่อนครับ - เนื่องมาจากการคุยกับ "เหงามาก" – ไปเที่ยวพม่า ตอน ๑ : ย่างกุ้ง-แปร-พุกาม http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4461019/K4461019.html - เที่ยวพม่า ตอน ๒ : พุกาม ๑ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4474732/K4474732.html - เที่ยวพม่า ตอน ๓ : พุกาม ๒ เมื่อยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดินของวันคริสต์มาสอีฟ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4480312/K4480312.html - เที่ยวพม่า ตอน ๔ : ภูเขาโปปา (Mount Popa) ที่สถิตของมหาคีรีนัท (Mahagiri Nats) http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4488313/K4488313.html - เที่ยวพม่า ตอน ๕ :  ยองชเว (Nyaungshwe) - ทะเลสาบอินเล (Inle Lake) แห่งรัฐไทยใหญ่  จนถึงตองอู (Taung Oo) http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4517640/K4517640.html - เที่ยวพม่า ตอน ๖ : พะโค (Bago) ย้อนรอยอดีตหงสาวดี (Hunthawaddi) และมหาเจดีย์ชเวมอดอ หรือ มุเตา (Shwemawdaw Pagoda) http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4525295/K4525295.html จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 49 15:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับการไปเที่ยวครั้งนี้  ขอสรุปเส้นทางอีกครั้งดังนี้ครับ ย่างกุ้ง (Yangon) –  มอบี (Hmawbi) – ไทจี (Taikkyi) – โอ๊กกะ (Okkan) – ทราวดี (Tharrawaddy) - แปร (Pyi) – พยา (Pya) – เมียเดะ (Myayde) – ตองวินยี (Taungdwingyi) - แมกเวย์ (Magway) - ยีนางยอง (Yenangyaung) – ย็อกปาดอง (Kyaukpadaung) เป็นชุมทางแยกไปพุกาม – พุกาม (Bagan) – ภูเขาโปปา (MOUNT POPA) – ย็อกปาดอง (Kyaukpadaung) อีกครั้ง - มิถิลา (Meiktila) – ตาซี (Thazi) – เยมมาเบะ – กะลอ (Kalaw) – อองบาน (Aungban) – สนามบินเฮโฮ (Heho Airport) – ชเวยอง (Shwenyaung) – ยองชเว หรือยองชเว (Nyaungshwe) - ทะเลสาบอินเล (Inle Lake) – ตองยี (Taungyi) – ยาเมติน (Yamethin) – ตาหวัวจิ (Thawatti) – ยีดาชี (วาย-อี-ดี-ashe) – ตองอู (Taung-Oo) - สียาวดี (Zeyawaddi) – พยู (Pyu) – เพนวากอน (Penwagon) – ยองลิบิน (Nyaunglebin) – ยองดาซา (Pyuntaza) – พะโคหรือหงสาวดี (Bago – Hunthawaddi) – เถ้าเจี๊ยะ (Htaukkyant) – ย่างกุ้ง (Yangon) สำหรับกลุ่มเมืองหลวงเก่าทั้งสาม  ไม่ได้ไป  เพราะเลยพุกามไปอีกนิ้ดดดดดเดียว  เสียดายเหมือนกัน คือ  อังวะ (Ava)  อมราปุระ (Amarapura)  และมัณฑะเลย์  (Mandalay) กับเมืองสกาย (Sagaing)  ซึ่งเปรียบเหมือนธนบุรีกับกรุงเทพ คู่กับเมืองอังวะ ..................... สำหรับตอนนี้เป็นการนำเที่ยวกรุงย่างกุ้ง (ฉบับกระเป๋า)  แล้วก็เน้นที่พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ครับ จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 49 15:10:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 (ต่อครับ) กลับมาที่โรงแรม  ก่อนนอนเราให้ชายชราคนหนึ่งนวดให้เพื่อลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ  และจะได้เพลิดเพลิน  คิดราคา ๒๐๐ จ๊าตต่อชั่วโมง เรื่องนวดเราติดใจมานานตั้งแต่ไปนอนตามภูเก็ต – เกาะสมุย – เกาะเสม็ด  เรียกว่าถึงหาดเมื่อไร  หาคนมาบรรเลงได้เลย  เมื่อก่อนนวดแผนไทยยังไม่บูมมากเหมือนตอนนี้  ไม่งั้นเป็นต้องเสร็จเราทุกที่ เริ่มนวดตั้งแต่ ๕ ทุ่มถึงเที่ยงคืน  แต่พอนวดแล้วกลับกลายเป็นว่าค่อนข้างเจ็บมาก  และเขาวนเวียนอยู่เฉพาะแต่ตรงหน้าแข้งกับน่องเท่านั้น   ส่วนบริเวณอื่นไม่ค่อยได้เน้นเท่าไร  ไม่สมกับราคาคุยของผู้จัดการโรงแรมที่เป็นกองเชียร์เลย  แทนที่จะหายเพลียกลับนอนด้วยความปวดเมื่อยจากการนวด  และเพิ่มเติมจากการเดินเมื่อตอนหัวค่ำเป็นระยะทางตั้งไกล จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 49 15:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอสรุปเป็นความรู้พื้นฐานสั้นๆ ก่อนจะเริ่มท่องเที่ยวต่อในวันพรุ่งนี้กันครับ ในกรุงย่างกุ้ง  มีพระเจดีย์สำคัญที่คนต้องมาเที่ยวชมรวม ๔ แห่ง คือ เจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda)  เปรียบเสมือนวิญญาณของชาวพม่า     คำว่า Shwe แปลว่า  ทอง   ส่วน Dagon หรือตะโกง  เป็นชื่อเดิมของกรุงย่างกุ้ง  ใกล้ๆ กันทางทิศใต้คนละฝั่งของถนนมีเจดีย์องค์ใหม่กว่าทาสีทองเหมือนกัน  แต่ขนาดเล็กกว่ามากชื่อ Wiszya Pagoda  สร้างในสมัยนายพลเนวิน  ชาวบ้านเรียกกันว่า  "เจดีย์เนวิน" เจดีย์ซูเล (Sule Pagoda)  เป็นชื่อของ Nat ตนหนึ่ง (Sule Nat) จากทั้งหมด ๓๗ ตน  เปรียบเสมือนเป็นหัวใจของชาวพม่า   แต่เดิมที่นี่อังกฤษยึดเป็นจุดศูนย์กลางของการก่อสร้างเมืองย่างกุ้ง  หรือที่เรียกกันว่า   "สะดือนคร"  และคนไทยในพม่ามักถือเอาพระเจดีย์นี้เป็นศาลหลักเมือง  เรียก หลักเมืองพม่า  และเป็นเจดีย์ที่ทรงสวยงามที่สุดของพม่า เจดีย์โบตะตอง (Botataung Pagoda)  ความหมายแปลว่า "หนึ่งกองพัน"  จะมองเห็นเด่นแต่ไกลตามลำน้ำย่างกุ้ง   เหมือนเห็นยอดพระปรางค์วัดอรุณฯ   ก็รู้ได้ว่ามาถึงกรุงเทพฯ  แล้ว   เจดีย์องค์ปัจจุบันสร้างในตำแหน่งที่องค์พระเจดีย์เดิมตั้งอยู่   ซึ่งถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรถล่มในวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๔๘๖  ของช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ เจดีย์กาบาเอ  (Kaba Aye Pagoda)  อยู่ห่างจากทะเลสาบอินยาขึ้นไปทางเหนือ   สร้างใหม่ในสมัยรัฐบาลอูนุ  ระหว่างปี พ.ศ.๒๔๙๓-๒๔๙๕  ชาวบ้านจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า"เจดีย์อูนุ" เรามีวาสนาได้ชมแค่ ๒ แห่งแรก   เจดีย์กาบาเอได้มองเห็นแต่ห่างๆ  ส่วนเจดีย์โบตะตองไม่รู้เลยว่ารูปร่างเป็นอย่างไร จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 49 15:25:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับ จะตามอ่านให้ครบ จากคุณ : ช - [ 12 ก.ค. 49 21:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ยังแอบตามอยู่ครับ  คุณ Nick จากคุณ : กัมม์ - [ 13 ก.ค. 49 09:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อยากไปเที่ยวบ้างจังครับ จากคุณ : พลายแป้ง - [ 13 ก.ค. 49 09:27:40 A:210.203.176.145 X: TicketID:120371 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับทุกท่าน คุณ ช ครับ  เคยอ่านเจอแต่ในกระทู้บอลโลก ไม่รู้ว่าสนใจเรื่องเหล่านี้ด้วย ยินดีต้อนรับครับ คุณกัมม์ด้วย ผมก็ติดตามอ่านของท่านเป็นประจำ  บางทีแทบทั้งวันทั้งคืน แต่ไม่เคยได้ลงชื่อ คุณพลายแป้ง ยังไงก็เก็บเงินเก็บทองไว้นะครับ หาพรรคพวกที่ลุยๆ ด้วย ถึงจะเที่ยวพม่าได้สนุก จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 10:20:55 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ๓๐ ธันวาคม ๒๕๓๗ ๐๘.๐๐ น.   ตื่นนอนแล้วมากินอาหารเช้าที่โรงแรม   จากนั้นเดินไปเที่ยวเจดีย์ชเวดากอง  พุทธสถานแห่งนี้ดูช่างยิ่งใหญ่ไพศาลเสียจริงๆ   รอบทางเดินขึ้นบนมีสินค้าเป็นแบบของที่ระลึกขายเต็มไปหมด เจดีย์ชเวดากองตั้งอยู่บนเนินเขาที่ชื่อว่า  สิงกุตตระ (Singuttara)  อันเป็นไหล่สุดท้ายของเทือกเขาพะโคโยมา (Bago Yoma) ตัวเนินสูงจากพื้น ๕๘ เมตร (๑๙๐ ฟุต)   ตัวเจดีย์สูงจากฐานปทักษิณจนถึงฉัตรครองเกือบ ๑๐๐ เมตร (๓๒๖ ฟุต)  จึงช่วยขับให้พระมหาเจดีย์แห่งนี้สูงเด่นเห็นตระหง่านแต่ไกล เจดีย์แห่งนี้หุ้มด้วยทองคำจริงๆ  แต่เนื่องจากกรุงย่างกุ้งมีฝนตกหนักมาก   หมุดทองแดงจะถูกน้ำฝนชะทำให้แผ่นทองหลุด   จึงต้องซ่อมทุก ๔ ปี จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 10:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เราขึ้นไปนมัสการองค์พระเจดีย์   ซึ่งรอบๆ มีสิ่งสักการะเพื่อประกอบศาสนกิจมากมายลายตาไปหมด   ชาวต่างประเทศต้องเสียค่าบัตรผ่านเข้าชมคนละ ๕ ดอลลาร์   มีบันไดทางขึ้นทั้ง ๔ ทิศ   เราขึ้นไปจากทางด้านตะวันออก จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 10:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มองเห็นชาวพม่าสรงน้ำพระพุทธรูปรวมทั้งพระประจำวันหลายๆ ขัน   ทราบมาว่า  จำนวนขันที่สรงน้ำพระเท่ากับจำนวนอายุเป็นปีของคนสรง เสร็จแล้วก็ลงมาซื้อของกลับ  กะจะใช้เงินจ๊าตที่เหลืออยู่ให้หมด   สำหรับเงิน FEC เราใช้ไปจนหมดตั้งแต่อยู่ที่ทะเลสาบอินเล  จนต้องควักเอาเงินดอลลาร์มาใช้ส่วนหนึ่งแล้ว .................... คนพม่ากำลังสรงน้ำพระพุทธรูปครับ หากคนสรงอายุ ๗๐-๘๐ ปี คงเหนื่อยแย่ จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 10:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ส่งภาพเรื่อยๆ ครับ นี่เป็นส่วนฐานขององค์พระเจดีย์ชเวดากอง จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 10:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มุมนี้คนถ่ายกันเยอะครับ ในหนังสือท่องเที่ยวจะมีแทบทุกเล่ม พอกลับมาอัดดูที่บ้าน เอ เราก็มีหัวช่างภาพมืออาชีพเหมือนกัลล์? จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 10:59:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อีกมุมหนึ่งครับ ตรงนี้ก็สวย ก่อนเข้าเที่ยวชม คิดว่าคงจะไม่มีอะไรให้เห็นมากนัก อาจเหมือนดอยสุเทพ ที่เห็นอะไรในนั้นนิดหน่อย แต่พอเข้าไปแล้ว  โอ้โฮ เหมือนเป็นอาณาจักรย่อยๆ เลยครับ  เจดีย์ย่อยๆ อย่างกับพระธาตุดอยสุเทพมีเป็นสิบ  เจดีย์เล็กๆ อย่างที่เห็นอีกเป็นร้อยเป็นพัน  สิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ก็เยอะ  หรือพระพุทธรูปก็มีเป็นร้อยองค์ ช่างมหัศจรรย์จริงๆ จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 11:09:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อาคารประกอบเยอะแยะหมด จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 11:14:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ลืมลงส่วนยอดของพระเจดีย์ ต่อจาก คคห.๑๘ จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 11:17:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เล่นมุมกันมั่ง องค์กลางเป็นพระเจดีย์ชเวดากองครับ สององค์ขนาบข้างเป็นองค์เล็กบริวาร  มีเยอะครับ จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 11:19:47 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เล่าความหลังต่อเลยครับ ของที่ระลึกที่เราต้องการซื้อมาเก็บไว้เอง  และแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าง  อาทิ ฆ้องพม่าขนาดเล็ก  ราคา ๔๐๐ จ๊าต กลองหนังขนาดเล็กหน้าเดียว  ราคา ๔๐๐ จ๊าต (จากเดิม ๕๕๐) ขลุ่ยเหล็ก  ราคา ๒๐๐ จ๊าต กระดิ่งเล็ก  ราคา ๖๐ จ๊าต (ซื้อ ๒ อัน) กังสดาลเล็ก  ราคา ๑๐๐ จ๊าต (ซื้อ ๔ อัน) ซื้อจนแทบไม่มีเงินจ๊าตเหลือ  ต้องขอจาก Riki บางส่วนมาซื้อกลองหนัง   ........................ พระปางต่างๆ หรือรูปแบบต่างๆ มีเยอะครับ จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 11:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วมานั่งดื่มกาแฟกันในร้านข้างล่างริมถนน   ที่ตรงนี้เราซื้อทานาคาที่ทำเป็นเหมือนสบู่ ๔-๕ ก้อน  เพราะเห็นเป็นของแปลกดีมาฝากเพื่อนๆ ชาวโยเดียของเรา ตอนนี้แอบถ่ายพระพม่า กับแม่ชีพม่าครับ จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 11:24:41 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ที่นี่เรามีโอกาสได้ถ่ายรูปแม่ชีพม่าอย่างใกล้ๆ  เพราะไม่ค่อยมีโอกาสเหมาะซักที   แม่ชีที่นี่แต่งชุดสีชมพูสวยสด   เวลาบิณฑบาตตอนเช้า  จะมีผ้าโพกศีรษะและมีกระจาดเล็กๆ เทินอยู่ข้างบนศีรษะเพื่อเอาไว้ใส่ของ  ร่มที่ใช้ก็มีสีสวยสดเช่นเดียวกับของพระพม่าที่ร่มมีสีสรรเช่นเดียวกัน จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 11:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ปาปาราซซี่มาเอง  ต้องหน้าด้านหน่อย ไม่งั้นอดได้ภาพ ถ่ายทั้งหน้า ถ่ายทั้งหลัง โชคดีที่ยังมีชีวิตรอดปลอดภัยจนถึงบัดเดี๋ยวนี้ จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 11:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เดินกลับมาที่โรงแรมเพื่อเก็บของกลับเมืองไทย  คนงานโรงแรมที่มีใบหน้าด้านซ้ายเป็นเนื้องอกเส้นเลือด (Hemangioma or AVM) ที่เราคุยด้วยหลายครั้ง  ได้ให้กล่องเล็กๆ ที่ลงรักปิดแผ่นทองคำเปลวแก่เราเป็นที่ระลึก ๑๔.๐๐ น.  ออกจากโรงแรมโดยมิวมยิคนเดิมขับรถมาส่งที่สนามบิน   พวกเราให้ของที่ระลึกแก่เขา  เราให้เสื้อแจ๊กเก็ตยี่ห้อแกรนด์สปอร์ตที่เราให้ Riki ยืมใส่แก่เขา  ซึ่งเราคิดว่าเขาคงไม่ทราบว่าเป็นของเราหรอก  เพราะมีแต่ Riki เท่านั้นที่ใส่ให้เขาเห็นตลอดเวลา มิวมยิขอเรียกเก็บเงินจากพวกเราจำนวน ๕ ดอลลาร์  เป็นค่ารถที่พามาสนามบินเพื่อนำไปให้แก่เจ้าของรถ   Lali คิดว่าคงจะเป็นแผนของผู้หญิงเจ้าของโรงแรมมากกว่า  เนื่องจากก่อนหน้านั้นทางผู้ให้เช่ารถเคยตกลงกับพวกเราว่า   การไปส่งที่สนามบินรวมอยู่ใน ๕๐๐ ดอลลาร์แล้ว  โดนฤทธิ์เดชพม่าเข้าอีกแล้ว .............. บ๊ายบาย มิวมยิ โชเฟอร์ที่แสนดีของพวกเรา ที่ลงรูปนี้ เพราะฉากหลังเป็นบุหรี่ยี่ห้อหนึ่ง ช่วงที่ไปนั้น เห็นมีแต่โฆษณายี่ห้อนี้ตลอดเลย จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 11:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถึงท่าอากาศยาน  พอเช็คที่นั่งเสร็จแล้วก็มานั่งรอในอาคาร   ผ่านด่านศุลกากรด้วยความสะดวก   แม้จะหวั่นใจเรื่อง Opium Weight มาก่อนหน้านี้เพราะเขาห้ามไม่ให้นำออกนอกประเทศ  แต่ไม่แน่  ถ้าตรวจสอบของเราปรากฏว่าเป็นของที่ทำขึ้นใหม่ (ซึ่งเราไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น) ก็คงไม่มีปัญหา กลับโดยเที่ยวบิน UB 221  เวลา ๑๕.๓๐ น. (เวลาไทย ๑๖.๐๐ น.)  ที่นั่ง 10A  นั่งริมหน้าต่าง  สายการบินเดิมคือ Myanmar Airways International  นั่งติดกับสองสามีภรรยาวัยราวๆ ๕๐-๖๐ ปีชาวพม่า   เพิ่งเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก   เขาไม่รู้วิธีการเขียนใดๆ เลย  และไม่รู้ภาษาอังกฤษด้วย   เราจึงช่วยกรอกแบบฟอร์มบางส่วน   ที่เหลือเช่นเกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทองเราไม่ค่อยอยากยุ่ง   และไม่รู้ว่าจะสอบถามเขาว่ายังไง  จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพนักงานบริการบนเครื่องที่ทุกคนเป็นชาวพม่า ................ เอาใบจองที่นั่งมาโชว์  เดี๋ยวจะหาว่าโม้  เมื่อเกือบ ๑๒ ปีที่แล้วครับ จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 11:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 30 Bye Bye Mingaladon Airport  ลาก่อน แล้วจะกลับมาใหม่ เมื่อไรไม่รู้ นะครับ มิงกะลาโดน จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 12:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถึงดอนเมืองอย่างโล่งอกที่ได้กลับมาสู่อ้อมกอดเมืองแม่โดยสวัสดิภาพ  และเห็นความแตกต่างของสนามบินทั้งสองแห่งรวมทั้งความเจริญของประเทศทั้งสองอย่างชัดเจน  เพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น .................. ถ่ายภาพจากบนเครื่องบินมาให้ดู  ตอนอยู่แถวย่างกุ้ง แม่น้ำจะแตกแขนงมากมายเป็นดินดอนสามเหลี่ยมอย่างที่พวกเราท่องกันตอนเด็กๆ  แต่ว่าเป็นสามเหลี่ยมหลายสิบรูปมารวมกัน  ยุบยิบไปหมด  มากกว่าของลุ่มน้ำเจ้าพระยาตั้งไม่รู้กี่เท่า  พม่ามีอะไรให้เราชมมากกว่าที่คิด จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 14:41:48 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พวกเรามีเวลาในพม่าเพียง ๑๐ วัน   ซ้ำต้องเสียเวลาพัก ๑ คืนโดยไม่คาดฝันที่เมืองกะลอ  หลังจากต้องขับรถกลับไปเอาพาสปอร์ตที่ลืมไว้ในพุกามอีกรอบหนึ่ง   เดิมอยากจะมาค้างย่างกุ้ง ๒ คืนก่อนกลับ   เพื่อวันแรกจะได้นั่งเรือจากย่างกุ้งไปเมืองสิเรียม (Syriam)  ตามแม่น้ำย่างกุ้งเพื่อชมทิวทัศน์บ้านเมือง ๒ ข้างฝั่งไปด้วย  อยากมีเวลาไปเที่ยวชมตลาดกลางวันของกรุงย่างกุ้งที่เคยอ่านจากหนังสือ  เช่น Indian Market, Open-air Market, Chinese Market และ Scott Market หรือที่เปลี่ยนชื่อเป็นตลาดโบ๊ะโจ๊ะอองซาน (Bogyoke Aung San Market)  อยากมีเวลาเที่ยวชมพุทธสถานสำคัญของพม่าให้นานกว่านี้ อยาก อยากทุกอย่างเลย   แต่เวลาที่เหลืออยู่อย่างจำกัดทำให้ต้องงดไปโดยปริยาย ไม่สามารถไปเที่ยวถ้ำพินดายา (Pindaya Cave) ได้ตามกำหนดการ ไม่ได้ไปเที่ยวเมืองหลวงของรัฐฉาน คือ เมืองตองยี (Taungyi) ตามที่ใจต้องการ  แม้ว่าจ่อจะถึงอยู่แล้ว สำหรับกลุ่มเมืองหลวงเก่าทั้งสาม คือ  อังวะ (Ava)  อมราปุระ (Amarapura)  และมัณฑะเลย์  (Mandalay) กับเมืองสกาย (Sagaing)  ซึ่งเปรียบเหมือนธนบุรีกับกรุงเทพ คู่กับเมืองอังวะ  แม้จะไม่ได้อยู่ในกำหนดการเพราะเวลาจัดไว้ไม่พอ  แต่สิ่งที่น่าสนใจภายในเมืองเหล่านี้ที่เราทราบจากหนังสือยังมีอยู่อีกมาก  รวมทั้งดินแดนที่ได้ไปเที่ยวมาทั้งย่างกุ้ง พุกาม หรือทะเลสาบอินเล  ทุกแห่งล้วนมีเสน่ห์เย้ายวนพร้อมที่จะเชิญชวนให้เรากลับไปเยือนประเทศพม่าอีกอย่างแน่นอน จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 14:54:12 ]

ความคิดเห็นที่ 33 การไปเที่ยวพม่าครั้งนี้  เหมือนเดินทางไปในดินแดนอันไกลโพ้น  และย้อนกลับไปสู่อดีตของเมืองไทยเมื่อ ๔๐-๕๐ ปีก่อน เกี่ยวกับศาสนา  ผู้คนค่อนข้างเคร่งครัดในศาสนา  แต่น่าเสียดายที่ถูกบีบด้วยอำนาจทางการเมือง  จึงหมดโอกาสเปิดเผยความสามารถของตนที่มีอยู่ตามสมควร พวกเราซึ่งเป็นชาวต่างชาติ   เราไม่มีการพูดเรื่องการเมืองหรือเรื่องเผ่าพันธุ์กันที่นั่น   เพราะไม่รู้ว่าจะมีคนคอยติดตามฟังการสนทนาของพวกเราบ้างหรือไม่   และบางทีอาจจะสะเทือนใจผู้ฟังอย่างไม่คาดฝัน  ถึงกระนั้นก็ตาม  เรายังเผลอไปครั้งหนึ่งตอนกินอาหารเย็นริมแม่น้ำอิระวดีในเมืองแปร  อย่างที่เราไม่คาดฝันจริงๆ  และเห็นปฏิกิริยาของคนๆ หนึ่ง  อาจจะเป็นข้าราชการของเมืองนั้น ที่นั่น  การคมนาคมไม่มีความสะดวก  รถประจำทางขาดแคน  แม้แต่รถบัสโดยสารปรับอากาศยังไม่มีแม้แต่คันเดียว บ้านตามริมทางหลวงจะเป็นกระท่อมเล็กๆ ส่วนใหญ่   ครั้งนี้พวกเราเดินทางโดยรถยนต์เข้าสู่ใจกลางประเทศ   เพื่อดูทัศนียภาพและความเป็นอยู่ของชาวบ้านตามรายทางไปด้วย  ครั้งต่อไปหากมีโอกาสให้ได้ไปเที่ยวอีก  คงจะใช้บริการเครื่องบินแต่เพียงอย่างเดียว   เพราะอายุที่มากขึ้นคงไม่ค่อยทนทานต่อชีวิตสมบุกสมบันแบบนี้มากนัก พวกเราตัดสินใจไปเที่ยวพม่าขณะที่เพิ่งเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวใหม่ๆ  เป็นโอกาสอันดีที่ยังคงมองเห็นความบริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งหลายอยู่  คิดว่าอีก ๕-๑๐ ปีถัดไป  คงไม่เห็นภาพแบบนี้อีกแล้ว จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 15:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 34 พวกเราตัดสินใจไปเที่ยวพม่าขณะที่เพิ่งเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวใหม่ๆ  เป็นโอกาสอันดีที่ยังคงมองเห็นความบริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งหลายอยู่  คิดว่าอีก ๕-๑๐ ปีถัดไป  คงไม่เห็นภาพแบบนี้อีกแล้ว คงไม่มีเกวียนให้เห็นมากนัก ผู้ชายอาจนุ่งยีนส์แทนที่โสร่ง  ผู้หญิงจะนุ่งกระโปรงแทนผ้าซิ่น เสื้อยืดจะมาแทนเสื้อเชิร์ตแขนยาวคอตั้ง เครื่องสำอางค์จะมาแทนที่แป้งทานาคา รองเท้าหนังหุ้มส้นจะถูกสวมแทนรองเท้าแตะหนีบ เด็กๆ วัยรุ่นจะไม่มีการเคี้ยวหมากให้เห็นโดยทั่วไป คนทุกวัยจะวุ่นวายอยู่กับการคุยโทรศัพท์มือถือ บ้านเมืองคงเต็มไปด้วยถุงพลาสติกเหมือนเมืองไทย ผู้คนหน้าตายิ้มแย้มลดลง  และเห็นแก่เงินทองมากขึ้น จะไม่ค่อยมีผู้คนไปนั่งสมาธิตามวัดหรือพระเจดีย์ต่างๆ ผู้คนจะสวมใส่รองเท้าถุงเท้าเข้าไปภายในบริเวณวัดได้เช่นเมืองไทย รวมทั้งพวกเราอาจสนทนาเรื่องทางการเมือง  หรือเกี่ยวกับชนเผ่าต่างๆ  อย่างเต็มที่กลางวงเหล้าริมถนน หรือแม้แต่ในโรงแรมของรัฐบาล ใครไปพม่าหลังจากผม ๑๐ ปี  ลองมาเล่าให้ฟังกันบ้างซิว่า  ภาพแบบเดิมที่ผมบรรยายไว้  ยังเหลืออยู่อีกสักเท่าไร และสิ่งที่ผมคาดคิดไว้ใน คคห. นี้  มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าใดแล้ว จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 49 15:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ลืมบอกไป  ไปมั่วอยู่กระทู้อื่นซะเพลิน จบแล้วครับ ไม่รู้จะฉลองกับใคร อยู่คนเดียวโดดโดด ไม่โลดไม่โผน  ไม่เดือดไม่ร้อน  เรื่อยเรื่อยเอื่อยเอื่อย อยู่คนเดียวให้เข็ด ........ จากคุณ : NickyNick - [ 15 ก.ค. 49 15:07:36 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณมากค่ะคุณนิค  ที่สละเวลามาโพสทั้งข้อความและรูปภาพที่หาดูยากยิ่ง  ถึงแม้จะเก่าไปนิด  เวลาผ่านมา 10 กว่าปี  ไม่รู้เดี๋ยวนี้ประเทศพม่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนนะค่ะ  ทำให้นึกยากไปเที่ยวพม่าบ้างจัง  เคยคุยกับแฟนแต่กลัวความไม่ปลอดภัย  ตอนนี้พยายามไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านอยู่ค่ะ  ลาว  เวียดนาม  เขมร  หาโอกาสอยู่  ประเทศต่อไปอยากไปพม่าบ้างค่ะ จากคุณ : ซาเจิ้น (ซาเจิ้น) - [ 19 ก.ค. 49 13:03:01 ]