ความคิดเห็นที่ 1 ประโยคบนตอบไปแล้วในกระทู้ก่อนครับ  รบกวนช่วยไปควานหาหน่อยแล้วกัน personal ในประโยคล่างหมายถึงเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาปน  ส่วนที่ขีดเส้นใต้ไว้ต้องรอคนเก่งกว่าผม  สำนวนนี้ไม่เคยเห็นเหมือนกัน จากคุณ : Tanis - [ 21 ก.ค. 49 16:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณคุณ Tanis ค่ะ ก้อพอดีข้อความแรกถามไปแล้วรอมาประมาน 1 วัน 1 คืนม่ะมีใคมาช่วยชีวิตเลยต้องมาตั้งใหม่นี่แหละค้า จากคุณ : i_tua_yung - [ 21 ก.ค. 49 19:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 3 juggling commitments ไม่น่าจะเป็น "การให้สัญญาลมๆแล้งๆ" ครับ ความหมายน่าจะใกล้เคียงกับสแลง "สับราง" มากกว่า คือ สามารถรักษาคำมั่นสัญญากับเรื่องหลายๆเรื่องพร้อมๆกันได้ ซึ่งก็ต้องทำเป็นเรื่องปรกติประจำวันอยู่แล้วในชีวิตครอบครัว not taking notice ก็คือไม่สังเกตเห็น not taking [a blind bit of] notice ก็ยิ่งไม่สังเกตเห็นไปใหญ่เลย แบบ...เหมือนกับตาบอดไปเลยสำหรับเรื่องนั้นๆ sail through ...ก็ประมาณ ผ่านฉลุยไปเลย จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 21 ก.ค. 49 20:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สงสัยประโยคที่ 2 นะครับ When they  “are critical”  they are much more personal, whereas men sail through not taking a blind bit of notice. คือสงสัยว่าที่ยกมานี่ ยกมาถูกหรือเปล่า 1. are critical (X) น่าจะแปลว่า...เป็น.(X) .ที่สำคัญ 2. are criticized แปลว่าถูกวิพากษ์วิจารณ์     ซึ่งดูจากเนื้อหาประโยคและลักษณะการใช้คำว่า critical ..ไม่น่าจะใช่แบบที่1 แต่ถ้ายกมาไม่ถูก....ก็คงเป็นตาม 2. จะแปลว่า เมื่อ ผจก. ญ.ถูกวิจารณ์ก็จะถือเป็นเรื่องส่วนตัว (ถึงจะวิจารณ์งานก็รู้สึกเหมือนตนเองถูกเล่นงาน) แต่ ผจก.ช.กลับผ่านเรื่องนี้ไปแบบไม่ได้ รู้สึกอะไร   (ถึงตนเองจะถูกวิจารณ์ก็ไม่รู้สึกตัว)   **จขกท. ครับ พี่ๆในห้องนี้ห่วงใยและติดตามกระทู้เสมอครับ ไม่ต้องกลัวกระทู้จะถูกละเลยนะครับ หลายๆกระทู้ก็คุยกันยาว...ข้ามเดือน...ข้ามปีก็มี ถ้ายังไม่มีคำตอบเชื่อว่าเพราะติดภารกิจสำคัญมากอยู่ ดังนั้นถ้ามีคำถามอีก..ก็ใช้กระทู้นี้ไปเรื่อยๆนะครับ... จนกว่ากระทู้จะหายไปนะครับ {ถ้าจะรบกวนช่วยลบกระทู้นี้และถามต่อในกระทู้อันล่างจะดีเลยครับ}     เห็นใจกระทู้ล่างๆที่ยังถามตอบกันไม่จบด้วยนะครับ พื้นที่เราน้อยครับคุยกันยังไม่จบก็อาจจะถูกกระทู้ใหม่เบียดตกไปซะแล้ว แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 49 01:23:22 จากคุณ : Hannibal-Lecter-Psych - [ 22 ก.ค. 49 01:22:33 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณHannibal ตั้งข้อสังเกตุได้น่าคิดครับ..... จะอย่างไรก็แล้ว.....โดยเฉพาะประโยคนี้ it's something women have that men don't. When they are critical they are much more personal, whereas men sail through not taking a blind bit of notice. ผมขออนุญาตเสนอแนะวิธีการหาคำแปลใน "ส่วนที่ไม่รู้" โดยการอาศัยนำ "ส่วนที่รู้" มาเป็นเครื่องมือช่วยในการแปล(คล้ายๆ กับสมการคณิตศาสตร์ให "ค่า" ของ X จากการคำนวนและเปรียบเทียบค่าของส่วนอื่นที่กำหนดมาให้).....จะนำวิธีนี้กับเหตุการณ์ที่คล้ายกันก็ได้ ผมไม่สงวนลิขสิทธิ์ อิ อิ อิ ประโยคนี้ >>>>it's something women have that men don't...ประโยคนี้ก็ Hint อย่างโจ่งแจ้งแล้วว่า....เช่น ถ้าผู้หญิงเป็นอะไร ชายก็จะเป็นในสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับผู้หญิง ในกรณีนี้ ถ้าเราแปลส่วนใดส่วนหนึ่งได้แล้ว เราก็ย่อมสามารถแปลในส่วนที่เหลือได้ เพราะเขา "กำกับ" เอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า something X have that Y don't. ความหมายเชิงเลาๆ ในประโยคนี้ทั้งประโยคก็คือ ผู้หญิงจะหวั่นไหวกับคำวิพากษ์วิจารณ์เหลือเกิน ( เช่น แค่ทักว่าอ้วนนิดเดียว แม่เจ้าประคุณก็แอบตรอมใจเศร้าสร้อยไปหลายวันซะนี่!!) แต่กับผู้ชายกับทำเอาหูทวนลมซะอย่างนั้น จากคุณ : ฎร - [ 22 ก.ค. 49 03:48:35 A:86.141.91.54 X: TicketID:109703 ]

ความคิดเห็นที่ 6 juggling commitments ของคุณบูมเม่อร์ถูกต้องแล้ว คือ"สลับราง" นั่นก็คือว่าต้องรับผิดชอบงานอะไรหลายๆอย่างพร้อมกัน  เนื่องจากว่าผู้หญิงโดยธรรมดาก็ต้องรับภาระอะไรหลายๆอย่าง  เช่นดูแลบ้าน ครอบครัว (แล้วยังไปทำงานอีก)  จึงเป็นเรื่องปกติที่จะ สลับรางได้เก่ง ถ้ามีอะไรหลายๆอย่างให้รับผิดชอบ ประโยคนี้ it's something women have that men don't. When they are critical they are much more personal, whereas men sail through not taking a blind bit of notice. ความจริงที่พิมพ์มาแบบนี้ แล้วพิมพ์ถูกก็แปลได้ใจความ  เหมือนกันนะ เพราะว่ารูปแบบการใช้งานที่ว่า to be critical ก็มีเหมือนกันนะ แต่ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบนี้ to be critical of somebody or something ความหมายมันก็คือ if you are critical, you criticize someone or something  นั่นก็คือ "วิพากษ์วิจารณ์คนอื่น" ไม่ใช่ "ถูกคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์" ทีแรกเราเกือบจะแปลว่า it's something women have that men don't. When they are critical they are much more personal, whereas men sail through not taking a blind bit of notice. ผู้หญิงมีอะไรบางอย่างที่ผู้ชายไม่มี  เมื่อผู้หญิงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอะไรก็ตามพวกเธอจะพูดถึงเรื่องส่วนตัวมากๆในขณะที่พวกผู้ชาย sail through (ทำสำเร็จไวๆง่ายๆ) โดยไม่ให้ความสนใจเลยสักนิดเดียว  (ทำเป็นตาบอดมองไม่เห็น) แต่อ้าพอครั้นเหลือบไปดูประโยคก่อนหน้านั้นที่ว่า Female managers use time more effecttively....... เลยได้ contextual clues มา .... มันทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า  เขาพูดถึงผู้หญิงที่เป็น managers ก็เลยนึกถึงความหมายของ be critical ได้อีกความหมายหนึ่งซึ่งเข้ากับบริบท (contextual clues) มากที่สุด   นั่นก็คือ critical หมายถึง making judgments: making careful judgments about how good or bad something is แปลว่า   ใช้ดุยพินิจ, พิจารณาตัดสิน (เพราะว่านี่เป็นหน้าที่ของ managers) ตกลงประโยคนี้น่าจะตีความได้ว่า it's something women have that men don't. When they are critical they are much more personal, whereas men sail through not taking a blind bit of notice. ผู้หญิงมีอะไรบางอย่างที่ผู้ชายไม่มี  เมื่อผู้หญิงใช้ดุลยพินิจพิจารณาตัดสินใจในเรื่องอะไรก็ตามพวกเธอจะทำเหมือนกับว่าเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ (หรือพิจารณาในเรื่องส่วนตัว .....??? อันนี้ไม่แน่ใจ ......ต้องใช้วิชามาร  เขียนคำแปลภาษาไทยให้มันคลุมเคลือ 555...ไปเรียบเรียงเอาเองนะ) ในขณะที่พวกผู้ชาย sail through (ทำสำเร็จไวๆง่ายๆ) โดยไม่ให้ความสนใจเลยสักนิดเดียว  (ทำเป็นตาบอดมองไม่เห็น) แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 49 15:32:53 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 49 13:26:48 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 49 13:22:49 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 49 13:16:40 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 49 13:14:00 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 49 13:13:40 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 22 ก.ค. 49 13:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โหวันนี้ทำไมพิมพ์ผิดบานเลยว่ะ........สงสัยเป็นเพราะยังม่ะได้ซัดเบียร์ง่ะ .........เลยตาลาย....อิๆๆๆ จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 22 ก.ค. 49 13:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เฮียสอนของผมชี้มุมมองได้น่าคิดครับ..... แหะ แหะ.....ผมเองก็พิมพ์ผิดเยอะแยะ.....คนใช้บัตรผ่านนี่เวลาพิมพ์ผิดแล้วก้อผิดเลย....อย่างนี้สงสัยว่าต้องหัดโซ้ยเบียร์อย่างเฮียสอนซะแล้ว....... จากคุณ : ฎร - [ 22 ก.ค. 49 14:48:58 A:86.140.172.201 X: TicketID:109703 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โอ้ยพิมพ์ผิดจนจะบ้าตาย  นี่เพิ่งแก้อีกรอบ........เอ่อคุณฎรยังอยู่เมืองไทยหรือกลับไปแล้ว............ นี่ได้ข่าวว่าน้อยก็มาเมืองไทยตอนนี้ (ไม่รู้กลับไปแล้วหรือยัง)   หรือเผอิญเขานั่งเครื่องเดียวกับคุณมา แต่ม่ะเห็นหน้ากันหรือเปล่า 555   แต่จนป่านนี้มันยังไม่โผล่มาหาเราเลย จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 22 ก.ค. 49 15:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กลับไปแล้วครับ....อยู่ได้แค่ห้าวันเอง :-( ผมกับท่านทีดีพยายามต่อสายไปหาเฮียสอนเหมือนกัน แต่ไม่ติดและไม่รับ..... น้อยเหรอ? ไม่ได้เจอนานแล้วเหมือนกัน แต่ก็มีคนเอาข่าวคราวเขามาเล่าให้เป็นระยะๆ จากคุณ : ฎร - [ 22 ก.ค. 49 18:26:40 A:86.140.172.201 X: TicketID:109703 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอโทษทีตอนนั้นกำลังเครียดๆเรื่องงานมันชนกัน..........ต้องรับงานชนกัน ...เพราะเงินค่าแปลหนังสือเอาไปซื้ออุปกรณ์อะไรหลายๆอย่าง....พอจะแปลหนังสือต่อเลยเงินหมด .............เลยไปรับงานเอกสารมาชนกัน ..........แล้วแทนที่จะแก้เครียดโดยการเร่งแปลงาน แต่กลับแก้เครียดโดยการเล่น chess เล่นๆไปกำลังติดพัน.......ซึ่งเป็นตอนพวกพี่ๆโทรมาจะต่อสายให้คุณนั่นเอง ตอนนั้นเรากำลังสติแตกไม่อยากพูดกับใคร แต่ตอนนี้ได้เงินมาพอแล้วและหายบ้าแล้ว............คราวหน้าถ้าจะคุยกันใช้ msn ก็ได้นะ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 49 20:35:02 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 22 ก.ค. 49 20:34:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับเฮียแท่น...ไม่ได้เห็นคห.ของท่านพี่นานเลยครับ ดีใจที่ได้พบเจอท่านพี่อีกครั้งนะครับ เท่าที่เฮีย ยกมาว่า critical น่าจะเป็น  to be critical of sth ... เห็นด้วยเลยครับ เท่าที่ผมเจอการใช้  To be + critical  มีดังนี้ครับ To be critical     To be critical  for To be  critical to   To be  critical + Noun ซึ่งเป็นไปในเชิงความหมาย..ว่าสำคัญ ..จำเป็น...วิกฤต   * มีเพียง ...To be critical  “of sth” ..ที่หมายถึงการวิจารณ์ แต่..ผมก็ยังไม่เคยเห็นจริงๆนะครับ ที่ to be critical   เฉยๆที่แปลว่าใช้ดุลพินิจ พิจารณา .. ผมคิดว่าถ้าในความหมายนั้นน่าจะเป็น  to criticizeหรือ  to be criticism มากกว่าจะเป็น  to be  critical ครับผม คุยกับเฮียแท่น...และพี่ๆทุกท่านในห้องแล้วนี้สนุก/ได้ความรู้ดีครับ... หวังว่าคงได้มีเวลาสบายๆ ได้พบปะสังสรรค์...นั่งดื่มกันอีกนะครับ จากคุณ : Hannibal-Lecter-Psych - [ 23 ก.ค. 49 02:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ้าหวัดดีลูกเพ่ เราเคยเจอกันครั้งหนึ่งนิ ......สบายดีหรือ? ความหมายที่ว่า making judgments:making careful judgments about how good or bad something is นั้น เราเอามาจาก Longman รู้สึกดิกเล่มอื่นๆเช่น Oxford Advanced Learner's Dictionary ก็มี เขาให้ความหมายไว้ว่า making careful judgements หากแต่ว่าภาษาสมัยใหม่จะแปลแบบนั้นได้ส่วนใหญ่เขาจะใช้เป็น adjective แบบ attributive เช่น critical thinking แต่ลองค้นดูในดิก OED เจอเขาให้ตัวอย่างการใช้เป็น adjective แบบ attributive กับ predicative ได้เหมือนกัน (แต่เป็นภาษาโบราณ) OED เขาให้ความหมายไว้ว่า †2. Involving or exercising careful judgement or observation; nice, exact, accurate, precise, punctual. Now Obs. (or merged in other senses). ตัวอย่างประโยค 1650 Sir T. Browne Pseud. Ep. ii. v, Exact and critical trial should be made+whereby determination might be settled. 1654 Whitlock Zootomia 186 He is not criticall and exact in Garbes and Fashions. 1692 Ray Disc. ii. v. (1732) 272, I can hear of nobody that was so critical in noticing the Time. 1716 Cibber Love makes Man v. iii, Well, Madam, you see I'm punctual+I'm always critical—to a Minute. [1806 Herschel in Phil. Trans. XCVI. 463 The air is beautifully clear, and proper for critical observations. 1832 Regul. Instr. Cavalry ii. 37 A critical dressing need not be required.] .....แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ถ้า i_tua_yung พิมพ์ผิดละก้อเรื่องมันก็จะกลายเป็นโอละพ่อกันไป.......ฮ่าๆๆๆๆ..... แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 49 09:04:22 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 23 ก.ค. 49 09:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จริงแล้วประโยคนี้ it's something women have that men don't. When they are critical they are much more personal, whereas men sail through not taking a blind bit of notice. คำว่า critical ก้ยังพอที่จะตีความได้ว่า "วิพากษ์วิจารณ์" อนู่  แต่หมายถึงผู้หญิงเป็นคนวิพากษ์วิจารณ์นะ ไม่ใช่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ......คือว่า "ยังสงสัยม่ะหาย" หากเป็นเช่นนั้น personal ต้องแปลว่า ถือเป็นเรื่องส่วนตัว .... แต่พอจะตีความแบบนั้นแล้ว พอเหลือบไปดูคำว่า notice ที่ท้ายประโยค  มันแปลเหมือนๆกับ observation ก็เลยบิ่งลังเลคิดว่า critical คงแปลว่า making careful judgements ได้เหมือนกัน .......เลยต้องรอให้ i_tua_yung มาเฉลยว่า พิมพ์ถูกหมดหรือเปล่า? ถ้าพิมพ์ถูกหมดแล้วเวลาจะแปลจริงคงต้องอ่านเนื้อหามากกว่านี้เพื่อหา contextual clues มากกว่านี้ ซึ่งถ้าหาไม่เจอก็ต้องใช้วิชามารของนักแปล  นั่นก็คือแปลไปให้ภาษาปลายทางมันคลุมเคลือเหมือนๆกับภาษาต้นทาง........หวังว่าเขาคงไม่สอนวิชามารนี้ในหลักสูตรการแปลปริญญาโทนะ  .........เราจะได้เป็นมารร้ายคนเดียวในวงการแปล (ที่แปลแบบแทงกั๊ก.........แปลให้คลุมเคลือนั่นเอง) จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 23 ก.ค. 49 09:17:42 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ความจริงแล้วประโยคตัวอย่างใน OED ที่คล้ายประโยคที่มีปัญหาในกระทู้นี้มากที่สุดก็คือประโยคนี้ It was not in his nature to be either critical or indifferent. แต่ คำว่า critical ใน sense นี้ มันมีความหมายไม่เพียงแต่ "ใช้ดุลพินิจ" เท่านั้น มันแปลว่า "จับผิด" หรือ "วิพากษ์วิจารณ์" ได้อีกด้วย ใน OED มันให้ไว้แบบนี้ 1. Given to judging; esp. given to adverse or unfavourable criticism; fault-finding, censorious. 1590 Shakes. Mids. N. v. i. 54 That is some Satire keene and criticall. 1604 I Oth. ii. i. 120, I am nothing, if not Criticall. 1665–9 Boyle Occas. Refl. iii. vi. (1675) 157 The more Witty and Critical sort of Auditors. 1683 D. A. Art Converse 49 Those that are of a too critical humour approve of nothing. 1828 Southey Ballads, Brough Bells, ‘What! art thou critical?’ quoth he; ‘Eschew that heart's disease’. 1881 Russell Haigs Introd. 3 It was not in his nature to be either critical or indifferent. ให้สังเกตดูประโยคตัวอย่างสุดท้ายคือ It was not in his nature to be either critical or indifferent. มันคล้ายกับประโยคที่กำลังจะแปลในกระทู้นี้มากที่สุด.......แต่ก็อย่างว่านั่นแหละคือไอ้ครั้นจะตีความว่าแปลแบบนี้ ก็คงได้ ........หรือต้องแปลมันให้คลุมเคลือ (แทงกั๊ก) ไปเลย...........จะเข้าท่าดี..........ถ้ากลัวแปลผิด.... แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 49 15:24:24 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 23 ก.ค. 49 15:23:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มั่งฮิ เดี๋ยวจะไม่มีส่วนร่วม Female managers use time more effecttively, eith many of those serveyed commenting that juggling commitments is a familiar practice for women with a home and a family >> ผู้บริหารหญิงใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า หลายคนในกลุ่มตัวอย่างกล่าวว่าการสับหลีกงานไม่ให้ชนกันเป็นสิ่งที่ผู้หญิงที่ต้องดูแลบ้านและครอบครัวทำกันเป็นประจำ it's something women have that men don't. When they are critical they are much more personal, whereas men sail through not taking a blind bit of notice. >> มันเป็นอะไรสักอย่างที่ผู้หญิงมีแต่ผู้ชายไม่เป็น เมื่อยามผู้หญิงวิพากษ์วิจารณ์อะไรมักจะมองในเรื่องส่วนตัวมากกว่าส่วนผู้ชายนั้นจะมองผ่านข้ามไปไม่สนใจเลย จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 23 ก.ค. 49 17:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ง่า ... ม่ะได้เข้มาดูกระทู้ตัวเองแค่ 2 คืน 1 วัน ก็มีคนมาช่วยปั่นกระทู้เราเยอะขนาดนี้เชียว จริงๆ ก็สงสัยไอ้ประโยคที่ Hannibalฯ ถามอยู่เหมือนกันค่ะ แต่รีบสุดๆ เพราะว่าคิดว่าอ.จะเอามาออกข้อสอบ แต่ก็ปล่าว เซ็งเลยอุตส่าแปล คุณ Hannibal คะ ที่เอามาตั้งใหม่ ไม่ใช่อะไร เพราะคว่าคราวนี้จะถามอย่างยาว ก็ตามหัวข้อที่ตั้งไว้ คิดว่าตัวเองคงจะถามเยอะ เลยตั้งใหม่เลย (ยึดพท.เป็นของตัวเองซะเลย กริๆๆ) คุณฎร แหงะ แบบว่าตกคณิตอ่ะค่ะ เลยแอบงง ปานกลางถึงมากที่สุด ท่านปู่ แท่นสี แหงะ ... นู๋จำได้ว่าไม่ได้พิมพ์ผิดน้า (ดูดิ เลยต้องกลับไปพลิกหนังสือเปิดดูโดยไว) นู๋พิมพ์ถูกค้า อยากจะสแกนประโยคให้ดูจัง แต่มิสามารถ แบบว่ามิมีอุปกรณ์ จริงๆ ถ้าสงสัยมากขนาดนั้น ตัวยุ่งก็อยากพิมพ์ทั้งบทความให้ดูกันอยู่หรอก แต่แบบว่า ... ขี้เกียจง่ะ นี่ต้องอ่านแล้วสรุปอีกหลายสิบหน้าอยู่ เรื่องการบริหารบ. GE แง่มๆๆๆ บทความของประโยคเจ้าปัญหาชื่อ which bosses are best? จาก the Guardian ไม่แน่ใจว่าเป็นนิตยสารหรือเปล่า อ้อ ท่านปู่ ศิษย์หลานขอร่ำเรียนวิชาแปลคลุมเคลือจากท่านได้หรือไม่ เดี๋ยวขอไปอ่าน GE ก่อนนะคะ เดี๋ยวจะมาถามใหม่ กริๆๆๆ (อ๊ากกกก ตอนนี้อยากจับเด็กกิน แหะๆ พอดีหลานมาเที่ยวบ้านอ่ะค่ะ) จากคุณ : i_tua_yung - [ 23 ก.ค. 49 17:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ลุงแอ๊ด แหงะ ม่ะทันเห็น เชิญค้า มีส่วนร่วมๆ เดี๋ยวจะหาคำถามมาให้มีส่วนร่วมกันอีก อิอิ จากคุณ : i_tua_yung - [ 23 ก.ค. 49 17:28:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 The managers grouse that despite the rhetoric about managing for the long term at GE, they are under too much pressure to produce short-term results. หัวข้อเรื่องมันคือ how jack welch run GE แล้วมันก้อมีข้อความเป็นหน้าๆๆๆๆ เกี่ยวกับที่ jack welch ไปเป็นวิทยากร ให้กับผู้บริหารกลุ่มหนึ่ง ข้อความช่วงนี้ก็ประมานว่า ... =เหล่าผู้จัดการบ่นเกี่ยวกับการบรรยายของ jack welch  เกี่ยวกับการ บริหารธุรกิจระยะยาวใน GE พวกเขาอยู่ภายใต้ความกดดันที่จะผลิตผลงาน ระยะสั้น หรือเปล่าคะ เพราะมันมีข้อความที่ตาจอร์นบอกว่า "You can't grow long-term if you can't eat short-term. Anybody can manage short. Anybody can manage long. Balancing those two things is what management is." = คุณไม่สามารถเติบโตในธุรกิจระยะยาวได้ ถ้าคุณบริการงานในระยะสั้นไม่เป็น บางคนสามารถบริหารงานระยะยาวได้ บางคนก็บริหารงานในระยะสั้นได้ การขัดการทั้ง 2 สิ่งให้เท่ากันได้คืสิ่งที่การบริการเป็น จากคุณ : i_tua_yung - [ 23 ก.ค. 49 18:54:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอถามคำนี้ต่อค่ะ ลองดูในเวปดิกชั่นนารีก้อมิมี "I think someone is smoking pot here," he quips about the complaint over the lack of synergy among GE units. "We've got enormous shaing going on." = ผมคิดว่าที่นี่มี smoking pot เขาเยาะเย้ยเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่มีการทำงาน ร่วมกันระหว่างหน่วยงานเล็กๆ ของGE เราได้รับหุ้นจำนวนมากที่จะดำเนิน ต่อไป จากคุณ : i_tua_yung - [ 23 ก.ค. 49 19:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 21 The managers grouse that despite the rhetoric about managing for the long term at GE, they are under too much pressure to produce short-term results. >> พวกผู้จัดการบ่นอุบอิบว่าแม้จะมีคำพูดสวยๆที่ GE เรื่องการบริหารเพื่อเป้าหมายระยะยาว แต่พวกเขามีความกดดันมากเกินไปจนไม่สามารถสร้างผลผลิตระยะสั้นได้ "You can't grow long-term if you can't eat short-term. Anybody can manage short. Anybody can manage long. Balancing those two things is what management is." >> ถ้าระยะสั้นไม่ได้แอ้มแล้วมันจะไปโตระยะยาวได้ยังไง ระยะสั้นอย่างเดียวไม่ว่าใครก็ทำเป็น ระยะยาวอย่างเดียวไม่ว่าใครก็ทำเป็น การรักษาสมดุลระหว่างสองอย่างนี้ต่างหากที่แสดงกึ๋นของนักบริหาร "I think someone is smoking pot here," he quips about the complaint over the lack of synergy among GE units. "We've got enormous sharing going on." >> "ผมว่าต้องมีใครสักคนเมากัญชาแน่เลย" เขาแซวเมื่อมีคนบ่นเรื่องการทำงานแบบตัวใครตัวมันของหน่วยงานต่างๆใน GE "ที่นี่เรามีการแบ่งปันกันอย่างมหาศาล" จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 24 ก.ค. 49 01:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แอบอยากรู้ค่ะว่า ไอ้คำว่า Six Sigma นี่คนไทยใช้ทับศัพท์ไปเลยหรือว่ามีคำอื่นแทน Six Sigma is a methodology to manage process variations that cause defects, ... เอามาจาก wikipedia อ่ะค่ะ จากคุณ : i_tua_yung - [ 24 ก.ค. 49 12:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ใช้ทับศัพท์ไปเลยครับ จากคุณ : Hannibal-Lecter-Psych - [ 24 ก.ค. 49 13:39:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มันเป็นวิสามานยนาม เป็นชื่อเฉพาะ อย่างนี้ไม่นิยมแปล ควรจะทับศัพท์ครับ ยกเว้นแต่มีศัพท์บัญญัติเป็นทางการที่ใช้กันแพร่หลายแล้ว ไม่อย่างนั้นก็ต้องแปลชื่อคุณ Bush ว่าคุณพุ่มไม้ คุณ Ford ว่าคุณท่าข้าม คุณ Goldsmith ว่าคุณช่างทอง และคุณ Stone ว่าคุณศิลา ตัวอย่างของชื่อเฉพาะที่มีการบัญญัติศัพท์ใช้ก็เช่น องค์การสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ องค์การ สปอ. ( Southeast Asia Treaty Organisation - SEATO) จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 24 ก.ค. 49 13:49:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ลุงแอ๊ด ง่า ... ก็นั่นแหละที่นู๋สงสัยว่าไทยมีศัพท์บัญญัติของคำนี้หรือเปล่า จากคุณ : i_tua_yung - [ 24 ก.ค. 49 14:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่มีจ้ะ ทับลูกเดียว จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 24 ก.ค. 49 14:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ถามต่อค่ะ So giddy are some Wall Street analysts at GE’s prospect that they believe that when Welch leaves at the end of the year 2000, GE’s stock could trade at $150 to $200 a share, and the company could be worth $490 billion to $650 billion. Of course, GE’s success is hardly Welch’s alone. The company boasts what most headhunters believe to be the most talent-rich management bench in the world. Gary C. Wendt has led GE Capital Corp. to extraordinary height, where is contributes nearly 40% of the company’s total earnings. Nor dies Welch’s magic work everywhere in GE. แอบงงว่าประโยคแรกเป็นเรื่องที่ wall street คาดเดาใช่ไหมคะ ไม่ใช่ ราคาหุ้นจริงๆที่ GE ได้ แต่แอบไม่เข้าใจว่าถ้าผู้บริหารเก่งขนาดนั้นออก นี่ทำไมราคาหุ้นมันถึงขึ้นได้  ส่วนประโยคที่ 2 มันพูดถึงว่า ไม่ใช่เพราะ ความสามารถของ Welch เท่านั้นที่ทำให้บริษัทยิ่งใหญ่ ตรงช่วงที่ไม่เอา ข้อความมาใส่มันบอกว่า CEO คนนั้น คนนี้ทำกำไรให้บ.ได้มากแค่ไหน อ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าตัวเองเข้าใจถูกไหม แหะๆๆ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 49 18:09:27 จากคุณ : i_tua_yung - [ 24 ก.ค. 49 18:08:48 ]

ความคิดเห็นที่ 28 So giddy are some Wall Street analysts at GE’s prospect that they believe that when Welch leaves at the end of the year 2000, GE’s stock could trade at $150 to $200 a share, and the company could be worth $490 billion to $650 billion. >> นักวิเคราะห์บางรายมองอนาคตของ GE อย่างเลิศหรูจนหูตาลาย เขาเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาที่นายเวลช์อำลาตอนปลายปี 2000 หุ้นของ GE อาจมีราคาซื้อขายกันอยู่ระหว่าง 150-200 ดอลล่าร์ต่อหุ้น และมูลค่าของบริษัทอยู่ระหว่าง 490-650 พันล้านดอลล่าร์ Of course, GE’s success is hardly Welch’s alone. The company boasts what most headhunters believe to be the most talent-rich management bench in the world. Gary C. Wendt has led GE Capital Corp. to extraordinary height, where is contributes nearly 40% of the company’s total earnings. Nor dies Welch’s magic work everywhere in GE. >> แน่ละ ความสำเร็จของ GE ไม่ใช่ผลงานของนายเวลช์แต่เพียงลำพัง แมวมองหลายคนที่คอยจ้องฉกตัวมือดีจากที่ต่างๆเชื่อว่า GE คุยได้ว่ามีทีมงานบริหารที่เก่งกล้าสามารถที่สุดในโลก นายแกรี่ ซี. เวนดท์ เป็นผู้นำบรรษัท GE Capital Corp. ให้เจริญก้าวหน้าอย่างไม่น่าเชื่อและทำรายได้ให้แก่บริษัทเกือบ 40% ของรายได้ทั้งหมด ... และมนตราของเวลช์นั้นก็ใช่ว่าจะขลังไปเสียทุกที่ใน GE จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 24 ก.ค. 49 19:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ลุงแอ๊ด เห็นม๊ะ ลุงแอ็ก้อเป็งผู้มีส่วนร่วมมากมาย กริๆๆๆ ถามต่อค้า Much has been said and written about how Welch has astutely moved the once-Establishment maker of things into service. =ผู้คนมากมายเขียนพูดและเขียนหนังสือเกี่ยวกับวิธีการที่ Welch เคลื่อนผู้สร้างสิ่งของไปสู่บริการ once-Establishment แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 49 00:27:22 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 49 00:11:54 จากคุณ : i_tua_yung - [ 25 ก.ค. 49 00:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 30 Much has been said and written about how Welch has astutely moved the once-Establishment maker of things into service. >> มีคนทั้งพูดทั้งเขียนถึงมามากแล้วถึงกลเม็ดอันชาญฉลาดที่นายเวลช์ใช้เพื่อปรับเปลี่ยนกิจการของหน่วยงานที่กาลครั้งหนึ่งทุกคนคุ้นเคยว่าเป็นแต่ผู้ผลิตมานมนานกาเลให้หันมาเป็นผู้ให้บริการ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 25 ก.ค. 49 00:48:16 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ^ ^ เริ่มสงสัยว่า ลุงแอ๊ด ได้พักผ่อน กินอะไรมั่งหรือเปล่าคะเนี้ย เหมือนนั่งเฝ้าหน้าคอมทั้งวันทั้งคืน จากคุณ : i_tua_yung - [ 25 ก.ค. 49 00:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แล้วดีหรือเปล่าล่ะ? จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 25 ก.ค. 49 06:33:34 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ดีอ่ะดีก๊าบบบบบบ แต่แอบสงสัยว่าลุงแอ๊ดกลายเป็งแพนด้าไปแย้ว O_o 5555555555 จากคุณ : i_tua_yung - [ 25 ก.ค. 49 13:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถามต่อค้า ไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร เป็นการสำนวนเหรอคะ You don't get hung up on zero. ประโยคก่อนหน้านี้ก็ประมานว่า ตา welch เขาบอกว่าการบริการอง๕กรใหญ่ก้อเหมือนกับองค์กรเล็ก แล้วก็พูดเพียบเรื่องหลัก 4 P อ่ะค่ะ จากคุณ : i_tua_yung - [ 25 ก.ค. 49 14:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เอามันมาทั้งวรรคได้ไหม คนเขาคุยกันมาสามร้อยแปดสิบนาที แล้วยกเอาคำพูดนาทีที่สามร้อยแปดสิบเอ็ดมาถาม มันจะปะติดปะต่อเรื่องได้ก็แปลกไปละ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 25 ก.ค. 49 16:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ง่ะ ก็หนูรู้ว่าคนที่นี่สามารถนี่น่า ก้อเลยเอามาให้แค่เนี้ย กริๆๆๆๆ จากคุณ : i_tua_yung - [ 25 ก.ค. 49 18:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถามต่อค่ะ เดี๋ยวม่ะมันส่ง เหลืออีกเยอะมากกก คำว่า bureaucracy ที่ใช้ในทางธุรกิจ ภาษาไทยเขาเรียกว่าอะไรเหรอคะ จากคุณ : i_tua_yung - [ 25 ก.ค. 49 18:57:24 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ม่ะมีใคมา ... งั้นถามต่อ Just look at the Corporate Executive Council (CEC) sessions, where GE's top 30 officers gather before the close of each financial quarter. The antitesis of the staid, staged offsite meeting, these sessions earn description from executives like "food flight" and "free-for-all." = แค่ดูที่ CEC ที่ซึ่งพนักงานระดับสูง 30 คนเก็บผลกำไรก่อนปิดไตรมาท ทางการเงิน ช่วงวาระนี้ได้รับการอธิบายผู้บริหารว่าเหมือน food flight และทุกคนไม่ต้องจ่ายเงิน จากคุณ : i_tua_yung - [ 26 ก.ค. 49 00:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 39 มาเข้าเวรดึกครับ... #37 หมายถึงขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อน นะ #38 ..!!??.. gather หมายถึง มารวมตัวกันพบปะกัน sessions แปลว่าการประชุมไง close of financial quarter  หมายถึงปิดงบไตรมาส **สงสัยอีกแล้วว่ายกมาถูกหรือเปล่า !? ไม่น่าใช่ antitesis  น่าจะเป็น antithesis แปลว่า ข้อโต้แย้ง ไม่น่าใช่ food flight แต่น่าจะเป็น food fight มากกว่า food fight หมายถึง การ(เล่น!?) ที่ทุกคนปาอาหารใส่กัน เป็นการบรรยายถึงสภาพเละเทะ นะ   free for all ไม่น่าใช่ไม่ต้องจ่ายเงิน...น่าจะเป็นจะเอา/จะใช้ไรก็ได้ มากกว่านะ คือบรรยายสภาพการประชุมว่าซัดกันเละเทะ...และจะใช้อะไร(เข้าถล่มกัน)ก็ได้ หรือ จะเอา(กอบโกย) อะไรก็ได้ ....ต้องดูบริบท   ...อ่าน#38 นึกในใจว่า#34 จขกทแปลว่า "คุณไม่ได้ถูกแขวนบนเลขศูนย์" หรือเปล่า...(แซวเล่นนะครับ...คงไม่ได้แปลแบบนั้นจริงๆนะ)... ขยันเปิดหาคำแปลหน่อยนะครับ www.onelook.com แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 49 03:53:33 จากคุณ : Hannibal-Lecter-Psych - [ 26 ก.ค. 49 03:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 40 bureaucracy มีศัพท์บัญญัติของราชบัณฑิตยสถานว่า อมาตยาธิปไตย แปลตามตัวก็ทำนอง การบริหารด้วยอำมาตย์ ก็คือการทำงานแบบระบบราชการน่ะแหละ มีกฏเกณฑ์และขั้นตอนมากมายยุ่งยาก อืดอาด ล่าช้า อย่างที่ฝรั่งเรียก red tape ไงล่ะ องค์การธุรกิจนั้นใหม่ๆก็จะฉับไว ทำอะไรเร็ว แต่เมื่อโตขึ้น ความจำเป็นในการควบคุมมากขึ้นก็ชักจะลอกเลียนแบบความอุ้ยอ้ายของระบบราชการเข้ามา ในทางปฏิบัติ ระบบที่เหมาะสมก็คงจะต้องเป็นสมดุลย์ระหว่างสองขั้วนี้ ที่ถามมานั้นมีคนตอบให้แล้วจะไม่ฉายหนังซ้ำ ว่าแต่ไม่กลัวถูก Hannibal กินตับหรือ? จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 26 ก.ค. 49 08:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ Hannibal แหะๆๆ พิมพ์ผิดเล็กน้อย (แต่ทำให้ผิดความหมาย) antithesis ใช่แล้วค่ะ แต่แน่ใจสุดๆ ว่า food flight พิมพ์ถูก แต่ไม่แน่ใจว่าไอ้คนเขียนบทความนี้มันพิมพ์ถูกหรือเปล่า ถ้าเกิดในคห.34 แปลยั่งที่คุณว่าไปจริงๆละคะ หุๆๆๆๆ ลุงแอ๊ด แหงะ อมาตยาธิปไตย แค่เห็นก้ออึ้งแล้ว ใครอุตส่าใช้คำซะ ... -*- ว่าแต่ ... แอบสงสัย คุณ Hannibal เป็นปอบเหรอคะ กริๆๆๆๆ ^_______________________^ จากคุณ : i_tua_yung - [ 26 ก.ค. 49 12:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 42 Still. it was no small decision to launch a quality initiative because it called for massive investment in training tens of thousands of employees in a disciplined methodology heavily laden with statistics. = มันไม่ได้เป็นการตัดสินใจเล็กๆ ที่จะเริ่ม quality initiative เพราะมันเรียกหา การลงทุนก้อนใหญ่ในการฝึกฝนคนงานสิบในพันในวิธีการลงโทษ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 49 17:17:43 จากคุณ : i_tua_yung - [ 26 ก.ค. 49 17:17:11 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อะไรกัน แปล tens of thousands ไม่ได้ ลองแปลมาใหม่ซิ แปลมาได้ไง สิบในพัน เดี๋ยวตีมือ แล้ว disciplined นะ ไม่ใช่ discipline ในที่นี้เขาเขียนไว้ว่า disciplined methodology ลองแปลเองซิ ไม่ใช่วิธีการลงโทษแน่ๆ แล้ว heavily laden with statistics ไม่น่าจะแปลยาก ลองแปลเองอีกที จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 26 ก.ค. 49 17:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ^ ^ มือหลานบวมหมดแว้วววววววว จากคุณ : i_tua_yung - [ 26 ก.ค. 49 18:22:59 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ลองใหม่ (ก็ได้ แง่มๆๆ) มันไม่ได้เป็นการตัดสินใจเล็กๆ ที่จะเริ่ม quality initiative เพราะมันเรียกหา การลงทุนก้อนใหญ่ในการฝึกฝนคนงานหลายหมื่นคนในวิธีการฝึกฝน ละมั้ง ใช่ม๊ะท่านลุง heavily laden with statistics (จริงๆ ลืมไปแล้วนะเนี้ยว่ามันมีต่อท้าย) บรรทุกไว้หนักมากในทางสถิติ มั้ง กร๊ากกกกกกกกกกก 5555555555 (หลานบ้าไปแย้ว) แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 49 18:31:59 จากคุณ : i_tua_yung - [ 26 ก.ค. 49 18:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ว่าแล้วก็แอบถาม ... มันมีโปรแกรมแปลอะไรที่ถูกมากกว่าผิดไหมอ่ะคะเนี้ย แง๊ >______< จากคุณ : i_tua_yung - [ 26 ก.ค. 49 18:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 47 นึกแล้วเชียวว่า ต้องใช้โปรแกรมแปล!!! อย่างนี้น่าถูกควักสมองออกมากินเล่นซะหน่อย... (โปรแกรมคงแปล#34 ว่าถูกแขวนบนเลข0 ใช่ไหม) ใช้โปรแกรมก็ไม่ว่ากันนะ...แต่ลองอ่านเองแล้วรู้เรื่องไหม ถ้าใช้โปรแกรมแปลออกมาแล้วคนอ่านไม่รู้เรื่อง.. คนแปลก็ต้องทำงานหน่อยนะครับ เช่น ในภาษาไทยเราไม่พูดว่า สิบพัน เราพูดว่าหมื่น ศัพท์หนึ่งคำมีได้หลายๆความหมายนะครับ แต่ความหมายที่โปรแกรมเลือกออกมาให้อาจจะใช้ไม่ได้ ก็ต้องลองดูความหมายอื่น heavily laden with statistics นี่ขยายการฝึกฝนใช่ไหม แล้วการฝึกฝนนี่เป็นรถบรรทุกหรือถึง "บรรทุกไว้หนักมาก"??   เมื่อโปรแกรมแปลออกมาไม่ได้ข้อความที่อ่านรู้เรื่อง เรา(คนแปล)ก็ต้องลองค้นดูความหมายอื่นด้วยตัวเองนะครับ (...ศัพท์/ประโยคพวกนี้ไม่เกินความสามารถคุณหรอก คุณทำได้นะ พยายามอีกนิด) ท่านทั้งหลายก็คอยช่วยอยู่เสมอนะ...แต่พยายามเองด้วย Help me help you  นะครับ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 49 08:18:45 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 49 01:23:25 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 49 20:55:30 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 49 20:53:27 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 49 20:52:46 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 49 20:51:22 จากคุณ : Hannibal-Lecter-Psych - [ 26 ก.ค. 49 20:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 Still. it was no small decision to launch a quality initiative because it called for massive investment in training tens of thousands of employees in a disciplined methodology heavily laden with statistics. >> อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องเล็กเลยที่จะตัดสินใจริเริ่มงานคุณภาพเนื่องจากต้องลงทุนมหาศาลเรื่องฝึกอบรมทางวิชาการที่มีสถิติอยู่เพียบให้พนักงานเรือนหมื่น จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 27 ก.ค. 49 06:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ Hannibal ม่ะได้ใช้คะ ถ้าใช้คงไม่มาถามหาหรอก แฮ่ๆๆๆๆๆๆๆ ที่คิดหาโปรแกรมแปลเพราะคิดว่ามันช่วยเราประหยัดเวลา เรามานั่งปรับเองยังสบายกว่า เพราะไอ้ที่ทำอยู่เนี้ยยยยยยยยยยยย จะแปลสรุปเท่านั้นเองไม่ได้เอาทุกประโยค ทุกคำ >>ไม่เกินความสามารถคุณหรอก << โกหกชัดๆ นั่งทำเองยังรู้ความสามารถตัวเองเลย เหอๆๆ ถ้าทำได้เองคงไม่ต้องให้คนอื่นช่วยหรอกมั้งคะ (เมื่อคืนนี้แอบกลับมาดูกระทู้ก่อนไปนอน แต่วันนี้กลับมาดูใหม่ แอบสงสัยว่าทำไมข้อความมันอ่อนลงกว่าเดิม) เมื่อคืนอ่านไปแล้วยังนึกถึงปู่แท่นสีเลย โดนว่าประจำ -*- ลุงแอ๊ด ขอบคุณลุงแอ๊ดมากก๊าบบบบบบบบบบ ^_________________________^ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 49 10:53:39 จากคุณ : i_tua_yung - [ 27 ก.ค. 49 10:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่ได้ตั้งใจตำหนิคุณ จขกท นะ .. เพียงแต่อยากให้ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะการแปลด้วยนะ ถ้าเปรียบเทียบการแปล..เหมือนการเดินทางด้วยรถยนต์ ถ้าไม่รู้เส้นทางก็ไปไม่ถูก...เราจึงต้องมีแผนที่...Dictionary  นั่นเอง ถึงจะมีแผนที่แล้ว...แต่อ่านแผนที่ไม่ออกก็มีโอกาสหลงทางเหมือนกัน เราจึงต้องถามทางบ้าง...ซึ่งก็ไม่ผิดอะไร ที่บอกให้ลองเปิดหาความหมายอื่นของศัพท์ดู   ก็เพราะอยากให้ลองอ่านแผนที่(Dictionary)เองดู...อีกหน่อยจะเดินทางเองได้ ดูในแผนที่แล้ว..ก็จะเห็นว่า..อาจจะมีหลายเส้นทาง...ศัพท์ก็มีหลายความหมาย   บางครั้งขับไปตรงนั้นจริงๆถึงได้รู้ว่า...เส้นทางนั้นใช้ไม่ได้..ห้ามเลี้ยว/เดินรถทางเดียว บ้าง เหมือนกับที่ความหมายบางอันของศัพท์ ...ไม่ลงตัวกับประโยค ส่วนใหญ่แล้ว...เส้นทางต่างๆมักมีป้ายบอกทาง การอ่านประโยคก็จึงต้องหัดอาศัยดู...บริบท.. คำอื่นๆในประโยค   แล้วตอนนี้ใช้ Dictionary  อะไรอยู่ละครับ...แบบOnlineที่ใช้ได้ก็www. onelook.com ลองใช้ดูนะ...ป้อนศัพท์ 1 คำ ก็มีความหมายออกมาหลายๆอัน   ไม่รู้แล้วถาม...ไม่ผิดหรอกครับ.... แต่ไม่รู้แล้วไม่ลองพยายาม(จนสุดความสามารถ)นี่.... ก็ยังเชื่อนะครับว่า จขกท มีความสามารถ...แต่ยังไม่ได้พยายามเต็มที่...อาจจะเป็นเพราะต้องรีบ... เอาเป็นว่า ติดตรงไหนก็ลองเอา “ความเข้าใจ”  (ไม่ใช่คำแปลนะครับ) มาดูกันดีไหม จากคุณ : Hannibal-Lecter-Psych - [ 27 ก.ค. 49 16:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ^ ^ ที่ต้องมาถามศัพท์กะคนแถวนี้ก็เพราะว่าไม่รู้ว่าภาษาไทยเขาใช้คำว่าอะไรกัน ดิกเปิดไปเหอะ มีแต่เป็นคำอธิบาย ที่เราเรียนมาก็คนลละสาย ความรู้เฉพาะด้านก็ไม่มี (คิดถูกหรือคิดผิดเนี้ยที่เรียน MBA -*-) จากคุณ : i_tua_yung - [ 28 ก.ค. 49 00:49:01 ]

ความคิดเห็นที่ 52 รับทราบครับผม....เข้าใจแล้วครับ.... จากคุณ : Hannibal-Lecter-Psych - [ 28 ก.ค. 49 01:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อยากถามท่านผู้มีประสบการณ์ถูกน้ำร้อยลวกเอ๊ย! ผ่านน้ำร้อนมาก่อน ว่าทำอย่างไรให้แปลได้ทีละเยอะ ลื่นไหล ไม่เบื่อกันหรือไง อย่าบอกนะคะว่าให้ทานยอดข้าว (แบบว่าตอนนี้กะลังเบื่อสุดๆ แอบไถล + หาคำแนะนำ) จากคุณ : i_tua_yung - [ 28 ก.ค. 49 01:18:22 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ Hannibal แหงะ หัวเกือบชนกัน แซบแล้วเปลี่ยน ( ตะเบ๊ะ ^_____^\ ) จากคุณ : i_tua_yung - [ 28 ก.ค. 49 01:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 55 แอบถามค้า คำว่า stock option นี่คำไทยเรียกว่าอะไรอ่ะคะ ถ้าจะเอาประโยคด้วยเขาก็บอกว่า ... when he hands you a bonus or a stock options, he lets you know exactly what he want in the coming year. เป็นประโยคที่รองประธานบ.พูดถึงตา Welch อ่ะค่ะ จากคุณ : i_tua_yung - [ 28 ก.ค. 49 02:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สิทธิในการเลือกซื้อหุ้น มั้ง? เรียน MBA แล้วนี่ ตัวยุ่งคงเข้าใจอยู่แล้วนะว่า stock options คืออะไร จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 28 ก.ค. 49 10:12:33 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ^ ^ ม่ะเข้าใจอ่ะค่ะ เพิ่งจะเรียน ... ได้ ... เดือนเดียวเอง -*- จากคุณ : i_tua_yung - [ 28 ก.ค. 49 15:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 58 แอบถามหน่อยค้า Welch skillfully uses rewards to drive behavior. Those rewards are not inconsequential at GE, in part because of Welch's determination to hande out the kind of standard $1000 raise that he got back in 1961. To this day, Welch demands that the reward a leader disburses to people be highly differentiated - especially because GE is in many different business. สรุปแล้วว่า ... 1. not inconsequential มันจะสำคัญหรือไม่สำคัญกันแน่อ่ะคะ 2. มันจะเอา in part หรือว่า because of อ่ะคะ ตามที่เข้าใจแล้ว เขาบอกประมานว่า ... อย่างไรก็ตาม Welch มีทักษะที่จะใช้รางวัลเพื่อจะให้คนทำตามความต้องการ รางวัลสำคัญต่อ GE เพราะการตัดสินใจของเขาไม่ได้ให้มาตรฐานที่เพิ่ม 1000 ดอลล่าที่เขาได้คืนตอนปี 1961 ถึงวันนี้เขาต้องการให้หัวหน้าจัดสรรจำแนก รางวัลให้กับผู้คน เพราะ GE มีธุรกิจหลายประเภท แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 49 17:11:21 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 49 17:11:01 จากคุณ : i_tua_yung - [ 28 ก.ค. 49 17:10:17 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ถามคำหน่อยค้า Unlike many companies that hand out options as automatic annual grants, Welch doesn't want GE's program to be perceived as a "dental plan." So everyone who receive option grant doesn't neccessaly get them every year. ตามความเข้าใจของช่วงนี้ก็ ... ประมานว่า ... ไม่เหมือนกับบ.อื่นที่จัดส่งการอนุมัติอัตโนมัติประจำปี เขาไม่อยากให้คนอื่น คิดว่า GE เป็นเหมือนกับ dental plan ดังนั้นคนที่ได้รับทางเลือกในการอนุมัติ ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับทุกปี แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 49 18:30:19 จากคุณ : i_tua_yung - [ 28 ก.ค. 49 18:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สิทธิในการเลือกซื้อหุ้น หรือ stock options เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของผู้บริหารบริษัทเพื่อเป็นทางเลือกในการตอบแทนพนักงาน ปกติบริษัทจะให้รางวัลโบนัสเป็นเงินสดแต่ในกรณีนี้เขาก็จะเสนอกับพนักงานว่า จะให้สิทธิในการซื้อหุ้นของบริษัทแก่พนักงานในเงื่อนไข จำนวน ราคา และในกำหนดเวลาใด แทนที่จะรับโบนัสเป็นเงินสด อย่างนี้บริษัทก็จะประหยัดเงินสดเอาไปหมุนเวียนได้อีกโข นอกจากนั้นก็ทำให้พนักงานมีความรู้สึกเป็นเจ้าเข้าเจ้าของและอยู่กับบริษัทได้ทนขึ้น Welch skillfully uses rewards to drive behavior. Those rewards are not inconsequential at GE, in part because of Welch's determination to hand out the kind of standard $1000 raise that he got back in 1961. To this day, Welch demands that the reward a leader disburses to people be highly differentiated - especially because GE is in many different business. >> นายเวลช์เป็นผู้มีทักษะเยี่ยมยอดในการใช้รางวัลเป็นเครื่องควบคุมพฤติกรรมของคน รางวัลของ GE นี่ไม่ใช่จิ๊บจ๊อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความมุ่งมั่นของเวลช์ที่จะขึ้นเงินเดือนพนักงานทีละเป็นพันดอลล่าร์เป็นบรรทัดฐานอย่างเดียวกับที่เขาเคยได้สมัยปี 1961 แม้จนถึงทุกวันนี้ นายเวลช์ก็ยังเรียกร้องให้ผู้นำให้บำเหน็จรางวัลแก่ลูกน้องที่ต่างจากผู้อื่นอย่างชัดเจน - โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะว่า GE ประกอบธุรกิจหลากหลายชนิด Unlike many companies that hand out options as automatic annual grants, Welch doesn't want GE's program to be perceived as a "dental plan." So everyone who receive option grant doesn't neccessaly get them every year. >> เวลช์ไม่อยากให้โครงการของ GE ถูกมองว่าเป็นแค่แผนสวัสดิการที่ทำกันเกร่ออีกแผนหนึ่งทำนองแผนสวัสดิการทำฟัน เขาจึงไม่ทำเหมือนบริษัทอื่นๆอีกมากมายที่เสนอสิทธิการเลือกซื้อหุ้นให้กับพนักงานอย่างอัตโนมัติทุกๆปี ดังนั้นที่ GE คนที่ได้รับสิทธิเลือกซื้อหุ้นนั้นไม่จำเป็นว่าจะได้รับสิทธินี้ทุกปี จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ วันภาษาไทยแห่งชาติ 00:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 61 หายไป 1 วัน ตอนนี้กลับมาถามต่อแล้วค้า Three years ago, GE's transpotation business, struggling to attract talent at its headquarters in Erie, PA., began recuiting junior military officers. So successful were they that other GE unit did the same. ก็ ... เกี่ยวกับเหตุการณ์ทางธุรกิจประเภทการขนส่งของ GE ที่บ.ต้องการแข่งขัน เพื่อให้ได้ที่ เลยเริ่มจ้าง junior military officers (เออ ... ครือ ... เขาไป จ้างนายทหารมาทำไมอ่ะคะ) และหน่วยงานอื่นๆ ในบ.ก็ทำตาม จากคุณ : i_tua_yung - [ 30 ก.ค. 49 19:52:23 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ทหารทำได้ทุกอย่างไงล่ะ ในหน่วยทหารนั้นจะแบ่งเป็นเหล่าต่างๆที่จะสนองตอบต่อความต้องการของส่วนรวม แต่ละเหล่าก็คือผู้ชำนาญการในหน้าที่นั้นๆ เหล่าขนส่งเขาก็จะชำนาญในกิจการทั้งมวลที่เกี่ยวกับการขนส่ง บุคลากรหลักก็คือนายทหารขนส่ง ทีนี้จะไปล่อพวกที่ยศสูงๆอาวุโสมากแล้วเขาก็คงไม่มาและเปลืองเงินจ้าง สู้ไปล่อพวกที่ยังอาวุโสต่ำๆดีกว่า เรียนมาโดยตรงจนเก่งแล้ว ไม่ต้องเสียเงินฝึกอบรม เงินก็ไม่ได้ใช้เยอะนัก เห็นฝ่ายขนส่งไปล่อทหารมาแล้วได้ผล คนอื่นก็เอาอย่างมั่ง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 30 ก.ค. 49 20:23:36 ]

ความคิดเห็นที่ 63 โห ฝามรู้ใหม่ O_o สุดยอดดดดดด แอบอยากรู้ว่าไทยหัดทำกันมั่งหรือเปล่าน้า โหย งี้ก็ได้รับเงินสองทางเลยล่ะซิเนี้ย วู้ๆๆๆๆ จากคุณ : i_tua_yung - [ 30 ก.ค. 49 20:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่ได้ๆ ใครจะไปยอม อยากจะมาทำงานกับ GE ก็ต้องออกจากทหารมาก่อน แต่ทหารฝรั่งเขาออกกันง่ายเพราะมีกติกาอยู่ว่า อยู่ๆไปเมื่อถึงเวลาจะได้เลื่อนยศเขาก็จะมีคณะกรรมการพิจารณาเลือกคนที่หน่วยก้านดีที่สุดเลื่อนยศก่อน คนที่เหลือก็พิจารณาปีต่อๆไปแต่ก็หมายความว่าต้องพิจารณาร่วมกับเด็กรุ่นถัดไป ถ้าหากว่าพิจารณาหลายครั้งเข้าแล้วยังเลื่อนยศไม่ได้ - จะเป็นกี่ครั้งก็จำไม่ได้ - ก็ต้องออกไปจากกองทัพ คนที่ออกนี้ไม่ใช่คนที่ทำงานไม่ได้นะ เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถระดับเก่ง ดังนั้น พลเรือนจะแบมือรับเลยเพราะนอกจากความรู้ความสามารถแล้ว ระเบียบวินัยก็ยังเนี๊ยบ เป็นบุคคลคุณภาพ ผมเคยรู้จักอยู่คนหนึ่ง เป็นประธานมูลนิธิที่รัฐบาลสหรัฐฯเขาตั้งให้มาส่งเสริมการวิจัย อ่านประวัติเขาแล้วอึ้ง ตอนบริหารมูลนิธีนี้เงินหลายพันล้านเหรียญนะ มีโครงการที่สนับสนุนทั่วโลก ก่อนจะมาเป็นประธานมูลนิธิแกเป็นนายทหารยศพันเอกในกองทัพสหรัฐฯ ผ่านตำแหน่งหลายตำแหน่งมาอย่างโชกโชน แต่ละตำแหน่งนั้นบริหารเงินงบประมาณปีละหลายร้อยล้านเหรียญ พอแกเจอทางตันเพราะเป็นนายพลไม่ได้ก็ต้องออก เขาแบมือรับมาเป็นประธานมูลนิธิที่ว่านี่เลย ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัว อย่าให้เซดดีฝ่า กระจอกจริงๆตู ปีไหนได้บริหารเงินสักสามสี่สิบล้านบาทก็ดีใจแทบตายชักแล้ว จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 30 ก.ค. 49 22:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ^ ^ อ่านะ เป็นนักแปลออกจะร่ำรวยไม่ใช่เหรอคะ ลุงแอ๊ด แปลทีหน้าละเป็นร้อยๆ นี่ จากคุณ : i_tua_yung - [ 31 ก.ค. 49 17:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ถามต่อค่ะ ตา welch เขาบอกว่า ... "If I had my preference, I would have loved to have been a great professiona; golfer. But if you've got to pick a job in business, this is the best job God ever created. Every day is a whole new event. You're not dealing with products as much here as you're dealing with people. It's a kick" kick ในที่นี้หมายถึงอะไรอะคะ งงง อ้อ แถวนี้ใคสามารถสอนบัญชีนู๋ได้มั่งค้า มีแนวโน้มว่าวิชานี้จาตก หุๆๆๆ จากคุณ : i_tua_yung - [ 31 ก.ค. 49 17:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 67 kick ความมันในอารมณ์ สนุก สะจายยยย จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 31 ก.ค. 49 20:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ถามๆๆ อยากรู้ว่าคำนี้ในภาษาไทยมีไหมคะ (คงไม่มีหรอกเนอ) จากหัวข้อมันนะคะ Case Study : Jack Welch's Creative Revolutionary Transformation of General Electrics and the Thermidorean Reaction (1981-204) ค้นในวิกิพีเดีย มันก็ออกมาเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ผรั่งเศสช่วงปฏิวัติอ่ะค่ะ มันจะเกี่ยวกับ GE ตรงไหนเนี้ย มันมีเนื้อหาส่วนหนึ่งบอกว่า ไอ้ Thermidorean Reaction เกิดตอนที่ GE เปลี่ยนประธานบ. จาก Jack Welch เป็น Jeff Immelt จะใช้ทับศัพท์ไปดีหรือว่าแปลแล้วไปขยายความเอาอ่ะคะ แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 49 19:25:53 จากคุณ : i_tua_yung - [ 1 ส.ค. 49 19:22:06 ]

ความคิดเห็นที่ 69 โอ อาตมาไม่สามารถนั่งเทียนได้ว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไร ต้องคนที่ได้อ่านหนังสือเท่านั้นจึงจะจับต้นชนปลายได้ ก็คือเธอนะจ๊ะ แม่ตัวยุ่ง หรือไม่ก็ต้องอัญเชิญเซียนคนอื่นๆที่รู้เรื่องการบริหารธุรกิจมาตอบ ถ้าง่ายที่สุดก็คือทับศัพท์แล้วไปขยายความด้วยเชิงอรรถเอาอย่างว่าน่ะแหละ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 1 ส.ค. 49 20:24:10 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ^ ^ ก็มีฝามเชื่อว่าคนที่นี่รอบรู้แระทำได้ทุกอย่างอ่ะค้า กีๆๆๆ ฮะๆๆๆ โฮะๆๆๆ หุๆๆๆ เดี๋ยวเอาไปถามที่ห้องไร้สังกัดดูก้อได้ ^^ แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 49 21:14:46 จากคุณ : i_tua_yung - [ 1 ส.ค. 49 21:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 71 -จขกท. พัฒนาขึ้นนะ..พยายามค้นใน wikipedia มาซะด้วย - แต่ยังขาดความพยายามอีกนิดในการทำความเข้าใจว่า Thimodorean Reaction เล่าถึง ช่วงเวลาที่เหล่าผู้นำการปฏิวัติหัวรุนแรง(radical) หมดอำนาจ... และมีฝ่ายสายกลาง (moderate)  ขึ้นมามีอำนาจแทน http://www.wsu.edu/~dee/REV/RADICAL.HTM - หรือ (ถ้าจขกท มี บทความนี้อยู่ในมือและอดทน) อ่านจนจบหน้า 1 ของบทความก็จะพบคำอธิบายว่า ...(2) The collapse of GE’s market value was primarily due to what can be called a Thermidorean reaction after Welch’s retirement. (The French Thermidorean reaction refers to the period after the Reign of Terror, in 1794, when the tyrant Robespierre was removed from power and an economically and culturally liberal government came to power.) This reaction, in turn, was due to Welch’s less creative, more opportunistic and more intolerant leadership..... ก็จะเข้าใจว่าเขาเปรียบเทียบว่า Welch บริหารแบบเผด็จการนั่นเอง และผู้นำ GE คนต่อมาบริหารแบบ สายกลางมากกว่า - ดูท่าทางจะยังไม่เข้าใจ Help me (to) help you ใช่ไหมเนี่ย!!!! ถ้ายกเอารายละเอียดตรงนี้มาด้วย ท่านทั้งหลายก็จะรู้บริบทมากขึ้น และก็ช่วยตอบได้ง่ายๆเลย... แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 49 02:50:20 แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 49 02:43:38 จากคุณ : Hannibal-Lecter-Psych - [ 2 ส.ค. 49 02:42:54 ]

ความคิดเห็นที่ 72 นั่นๆ พี่ฮันนิบาลช่วยเอาไม้บรรทัดเคาะมือด้วย ถ้าบอกแค่นี้เราก็รู้เรื่องแล้ว เห็น thermidor ผ่าไปนึกถึงอาหารฝรั่งจานเด็ดคือ Lobster Thermidor นึกไปว่า Thermidorean reaction นี่คงเป็นกุ้งที่มันไหม้คาเตาเพราะกุ๊กมัวแต่ไปกุ๊กกิ๊กกับสาวเสิร์ฟเอ๊าะๆ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 49 06:42:53 จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 2 ส.ค. 49 06:40:53 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุณ Hannibal อ๊ะ!! นั่น!! เคสอันเดียวกะที่มีเลยยยยยยยยย หุๆๆๆ ฮี่ๆๆๆๆ ฮะๆๆๆๆ โฮะๆๆๆๆๆ ได้คนช่วยแย้ววววววววววววววว มีของในมือแสดงว่าต้องอ่านแล้วใช่ไหมค้า อธิบายให้อ่านสักกะ 10 หน้า A4 ได้ไหมค้า ลุงแอ๊ด TT^TT กาซิกๆๆๆ ผู้ใหญ่รุมกันแกล้งเด็กตาดำๆๆ เดี๋ยวนี้เม่ใช้วิธีทำให้ร่างกายบาดเจ็บแล้วววววววว (เดี๋ยวฟ้องกระทรวงศึกษาเลยนิ) จากคุณ : i_tua_yung - [ 2 ส.ค. 49 12:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 74 อย่ากระนั้นเลย ขอถามคำนี้ต่อเลยแล้วกันค้า The "dot-com bubble" was a speculative bubble covering roughly 1997–2001 in which stock markets in Western nations saw their value increase rapidly from growth in the new Internet sector and related fields. The period was marked by the founding (and in many cases, spectacular failure) of a group of new Internet based companies commonly referred to as dot-coms. มันมีคำที่ใช้ในภาษาไทยไหมค้า (defination นี่ค้นมาจากวิกิพีเดียอ่ะค้า) แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 49 12:36:57 จากคุณ : i_tua_yung - [ 2 ส.ค. 49 12:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ก็แปลไปเลยว่า เศรษฐกิจดอทคอมฟองสบู่ แล้วก็ตามด้วยเชิงอรรถเพื่อให้คนเข้าใจว่ามันคืออะไร จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 2 ส.ค. 49 13:31:30 ]

ความคิดเห็นที่ 76 กลับมาอีกแล้ว กลับมาหากัน <-- ร้องเพลงหงุงหงิงๆ อยากจะแซบว่าคำนี้ในภาษาไทยมันใช้คำว่าอะไรอ่ะคะ Core business (such as Power Generations, Appliance) with moderate returns, managed as cash cows with selective invesment. ถ้าเป็น cash flow ยังพอรู้จักมั่ง -*- จากคุณ : i_tua_yung - [ 4 ส.ค. 49 03:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เรียน marketing  หรือยัง.??.. ไปหาหนังสือ marketing ..ดูตรง Boston Model หรือ Growth-Share Matrix นะ  ไม่มีหนังสือ ก็ดูที่นี่เอาhttp://en.wikipedia.org/wiki/BCG_growth-share_matrix บอกตรงๆก็ง่ายไปหน่อย...เดี๋ยวจะไม่ยอมคิด อ่านแล้วลองจับคู่ดูนะ... 1.cash cow 2.star 3.dog 4.Question Mark 5. ธุรกิจที่อัตราเจริญเติบโตสูง/ส่วนแบ่งการตลาดสูง-ธุรกิจทำกำไรใช้ทุนสูง 6. ธุรกิจที่อัตราเจริญเติบโตสูง/ส่วนแบ่งการตลาดต่ำ-ธุรกิจที่ยังผลไม่แน่ชัด 7.ธุรกิจที่อัตราเจริญเติบโตต่ำ/ส่วนแบ่งการตลาดต่ำ- ธุรกิจกำไรต่ำต้นทุนสูง 8.ธุรกิจที่อัตราเจริญเติบโตต่ำ/ส่วนแบ่งการตลาดสูง -ธุรกิจทำกำไรใช้ทุนต่ำ ภาษาไทยเรียกว่าอะไร...อยู่หลัง - ไง...จับคู่ให้ถูกก็แล้วกัน   แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 49 03:51:43 จากคุณ : Hannibal-Lecter-Psych - [ 4 ส.ค. 49 03:31:09 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ฮ่า ตัวจริงเสียงจริง รู้เรื่องจริง ตัวยุ่งประจบไว้ให้ดีเป็นศรีแก่ตัว ถ้าตัวยุ่งมั่วจะโดนดุ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 4 ส.ค. 49 06:18:00 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อรุณสวัสดิ์ครับท่านแอ๊ด...ตื่นเช้าจริงๆครับพี่ท่าน จากคุณ : Hannibal-Lecter-Psych - [ 4 ส.ค. 49 06:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คุณ Hannibal ยังม่ะได้เรียนอ่ะค้า แต่ข้าน้อยขอเดา ... ธุรกิจทำกำไรใช้ทุนต่ำ แม่นบ่ ลุงแอ๊ด >>รู้เรื่องจริง<< น่ะใช่ แต่ >>ตัวจริงเสียงจริง<< นี่ ... ม่ะรุแหะ ยังม่ะได้เจอตัวเป็นๆ ^________________________^ เออ ... ครือ ... แล้วจะประจบยังไงละเนี้ย งงง แนะนำหน่อยค้า แบบว่าต้องเลี้ยงยอดข้าว ต้องไปก๊งกะท่านไหมอ่ะ เดะๆ เละๆ ม่ะควรกินสุราน้า จากคุณ : i_tua_yung - [ 4 ส.ค. 49 19:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ...ไม่ได้เรียนเลยยังไม่รู้...ไม่เป็นไร ...ก็บอกที่มา..แหล่งข้อมูลให้แล้ว...อ่านหรือยัง? ...เดาได้ถูกนะ...เหลือ อีก 3 คู่... ลองจับคู่ให้ดูด้วยครับ ...ความรู้ที่เกิดจากความพยายามของตัวเองอยู่กับเราได้นานครับ 1.บางคำที่ถามมาว่าคำไทยใช้ว่าอะไร...รู้หรือเปล่าว่ามันเป็นอะไร? เกี่ยวกับอะไร ?? ...เช่น Cash Cow นี่เกี่ยวกับวัว ?  เงิน ? หรือ ธุรกิจ/การลงทุน?   2.ไปหา/ถามว่าศัพท์คำนั้นมีรายละเอียดอย่างไร ? ...เช่น Cash Cow นี่เป็นธุรกิจ/การลงทุนแบบไหน? 3.แล้วค่อยถามว่าศัพท์คำนั้นซึ่งมีรายละเอียดแบบนั้น   แปลว่าอะไร ?   เพราะที่จขกท.ถามมานี่ไม่ได้มี 1,2 แต่กระโดดมา 3 เลย ท่านทั้งหลายใจดี...ตอบคำถามอยู่ตลอดนะ แต่คำตอบที่ให้ไปจะเป็นแค่คำตอบที่ถูกลืมเมื่องานเสร็จ (ส่งการบ้าน/จบเทอมก็ลืมแล้วว่า Cash cow =?) หรือ จะเป็นความรู้ให้ติดตัวไปตลอด (เปิดเทอมหน้าก็ยังจำได้ว่า Star กับQuestion Mark ต่างกันอย่างไร)   ก็ขึ้นกับกระบวนการตั้งคำถามนะครับ..   Hannibal (ในหนัง) ไม่ได้ชอบดื่มเท่าไหร่หรอกครับ... แต่โปรดเครื่องในมนุษย์มากกว่า ...(ถ้าเคยดูหนังก็จะเห็นวิธีการที่ Classic มากนะ) แต่ Hannibal ในเวปนี้ไม่ชอบเครื่องในครับ อีกอย่างที่ Hannibal (ในหนัง+ในเวปนี้ )ชอบคือ "คำถามที่ท้าทายความคิด" แบบว่าคนถามคิดมาก่อนเยอะแล้วค่อยมาถามนะ แถมอีกนิดว่าพวกเราในห้องนี้หลายคนก็ไม่ได้เป็นนักแปลอาชีพ .. ไม่ได้เรียนด้านการแปลกันมา..แต่ก็ฝึกฝนด้วยตัวเองกันเป็นส่วนใหญ่ครับ (ดังนั้นจึงอยากให้จขกท.ฝึกฝนตนเองบ้างเหมือนกัน) สุดยอดฝีมือในที่นี้คือท่านแอ๊ดนี่แหละครับ หน้าที่การงานท่านใหญ่โต..แต่ท่านก็สละเวลามาช่วยกัน ถามท่านทั้งที ก็ให้สมกับฝีมือท่านหน่อยครับ ประมาณว่า มี อ. แอ๊ดเก่งๆมาซักท่าน...แต่ นร. ity ดันยกมือถามท่านว่า อ.แอ๊ดคะ 37*25 =? (คือสิ่งที่คิดเอง/กดเครื่องคิดเลขก็ได้) อ.แอ๊ดท่านใจดีตอบให้... แต่ยามเฝ้าโรงเรียน Hannibalแอบเซ็งคนถาม อยู่นะครับ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 49 03:06:37 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 49 03:05:41 จากคุณ : Hannibal-Lecter-Psych - [ 5 ส.ค. 49 03:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 82 i_tua_yung ..การบ้านเสร็จแล้วหรือ ? ...หายไปเลย จากคุณ : Hannibal-Lecter-Psych - [ 8 ส.ค. 49 08:16:14 ]