ความคิดเห็นที่ 1 Chaos Theory http://www.imho.com/grae/chaos/chaos.html http://en.wikipedia.org/wiki/Chaos_theory http://www.imho.com/grae/chaos/chaos.html จากคุณ : Aisha - [ 2 ส.ค. 49 20:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใช่ครับ chaos Theory ตาม ที่คห1 ว่ามา ความเห็นส่วนตัวคือ โดยหลักๆแล้วคิดว่าทุกๆสิ่งไม่ถึงกับไร้ระเบียบเลยซะทีเดียว หากแต่เป็นการจัดระเบียบที่เรายังไม่สามารถเข้าใจรูปแบบนั้นๆได้ ทำให้เราไม่สามารถที่จะแบ่งแยกสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในเวลาที่พร้อมเพรียงกัน และด้วยจำนวนมหาศาลของเหตุการณ์ ทำให้ยากที่จะเข้าใจและแยกแยะได้ ดังนั้นเมื่อวันหนึ่งเราเข้าใจอะไรๆอย่างถ่องแท้ได้แล้ว สิ่งที่เรียกว่าไร้ระเบียบขาดรูปแบบอาจลดน้อยลง และอาจถึงขั้นมีรูปแบบได้ซักวันหนึ่ง จากคุณ : KongMing - [ 2 ส.ค. 49 22:41:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พลังอันไร้ระเบียบและจัดตั้งตนเอง..........? ความไร้ระเบียบคือ...ความน่าจะเป็นของความมีระเบียบ...มันเป็นกระบวนการที่กำลังดำเนินอยู่-ดำเนินไป-เป็นห้วงเวลาของการจัดการตนเองของพลังหรืออนุภาคของพลังที่กำลังสร้างเครือข่ายโยงใย เกิดภาวะปฏิสัมพันธ์ของปริมาณกับคุณภาพตลอดเวลาของการจัดระเบียบหรือภาวะจัดตั้งตนเอง.......ทั้งหมดอยูภายใต้มิติของเวลา...ดำเนินไปจนกว่าจะถึงจุดสมดุลหรือภาวะที่มีเสถียรภาพ.....อัตราเร่งของการจัดระเบียบตัวเองก็จะชะลอตัวลง.....ดังนั้นความไร้ระเบียบจึงเป็น...ระยะผ่าน....ที่จำเป็น...และการจัดตั้งตนเองคือคุณภาพใหม่ที่เกิดขึ้น  .........สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในตัวเรา....ในสังคม...ในโลกธรรมชาติและในเอกภพ......... จากคุณ : dicky5 - [ 3 ส.ค. 49 00:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก็คล้ายๆกับกฏปติพัฒนาการเลยนะครับ(จากกระทู้ข้างล่าง) ที่ว่าในปริมาณหนึ่งจะถูกควบคุมด้วยคุณภาพหนึ่ง เพียงแต่ไอ้ chaos เนี่ยมันมีเรื่องทิศทางของวัตถุและทิศทางที่สำพันธ์กันของส่วนต่างๆเป็นเครือข่ายของส่วนทั้งหมด -มีการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพเหมือนกันที่ถูกควบคุมในปริมาณๆหนึ่ง -มีภาวะหยุดนิ่งชะงักเมื่อทุกอย่างดำเนินมาถึงจุดสูงสุด เพียงแต่ไอ้ chaos เนี่ย โครงสร้างทั้งหมดมันมีความอ่อนไหวต่อตัวแปรเล็กๆอันหนึ่งที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงสร้างทั้งหมด เกล็ดหิมะแต่ละเกล็ดย่อมไม่เหมือนกัน,ชุมชนแต่ละชุมชนก็ไม่เหมือนกัน,แกแล็กซี่แต่ละแกแล็กซี่ก็ไม่เหมือนกัน คล้ายไดอะเล็กติค เพียงแต่ไอ้ทษฎีที่ว่านี่มีเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่และเวลาเฉพาะรูปแบบเป็นเวลาที่สำพัทธ์กันเองในโครงสร้าง แล้วก็จะเคลื่อนไปด้วยตัวมันเองอีกรอบเหมือนสิ่งมีชีวิตๆหนึ่ง รึว่าไง v v v v แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 49 11:03:06 แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 49 10:40:26 จากคุณ : the author (the author) - [ 3 ส.ค. 49 10:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โดยเนื้อแท้มาจากความเชื่อที่ว่า "ทุกอย่างมีความต่างของมันเอง" ครับ เพราะถ้าทุกอย่างเหมือนกันหมด เราจะมีซ้ำให้มากไปทำไม? ถ้าคุณกับผม เหมือนกันทุกอย่าง อายุ สมรรถภาพร่างกาย สติปัญญา รูปร่างหน้าตา ทำไมต้องทั้ง "คุณและผม" มี "คุณ" หรือ "ผม" คนเดียวไม่ได้เหรอ? chaos theory ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างไร้ระเบียบ แต่อำนาจการจัดการระเบียบมันเกินว่าที่เรารู้ และเข้าใจ มากกว่าครับ จากคุณ : Ace striker - [ 4 ส.ค. 49 11:28:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จากความเห็นที่5นะครับ "อำนาจการจัดระเบียบมันเกินกว่าที่เรารู้และเข้าใจ" งี้ก็แปลว่าการเคลื่อนไปข้างหน้าของสรรพสิ่งก็เคลื่อนไปอย่างที่คาดเดาลำบากขึ้น และอัตราเร่งของวงจรชีวิตไม่ตายตัว...(แต่มันก็มักจะเร็วขึ้นเสมอเช่น คนเล่นดนตรีแจ๊สจะเล่นดนตรีอื่นๆเป็นเร็วและเรียนรู้ดนตรีชนิดอื่นได้รวดเร็ว,ครอบครัวที่ให้เสรีแก่ลูกๆ ลูกๆก็มักจะเรียนเก่งคุณแม่มีเมนูกับข้าวใหม่ๆคุณพ่อมีเรื่องใหม่ๆมาคุยกับลูกๆ(ผลิตภาวะที่มีวงจรสั้นเป็นช่วงๆ),ทีมงานที่แต่ละคนมีวิธีการทำงานของตัวเองงานที่ออกมาก็มักจะเเปลกใหม่และผลิตได้เร็วขึ้น เป็นต้น) มุมมองโลกทางตรงในแบบscinceจะเป็นพื้นฐานให้กับกระบวนทัศแบบนี้เท่านั้นในการผลิต แต่จะให้ค่าแก่การมองโลกในแบบart ของ "Caos Theory"มากกว่าและจะมีลักษณะของการคิดกระบวนระบบ(systematic thinking)มากกว่า ที่จริงกระบวนทัศน์ทั้ง2แบบไม่มีอะไรจริงกว่าอะไร แต่สำหรับการผลิตที่ต้องอาศัยความเร็วและสร้างสรรค์จำเป็นต้องใช้กระบวนทัศน์แบบทั้งระบบ ในระบบนี้เสรีภาพจึงเป็นส่วนที่สำคัญของการผลิต(แปลว่าคนต้องมีความรู้) หรือว่าไง v v v v แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 21:04:40 จากคุณ : the author (the author) - [ 4 ส.ค. 49 14:45:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มองอีกมุมหนึ่ง ผมว่ามนุษย์คุ้นเคยกับการจัดระบบทางความคิด และชอบความเป็นระเบียบ มากกว่าความไร้ระเบียบ เขาใช้ระบบความคิดของตัวเองตีความธรรมชาติเพื่อหาบทสรุป ซึ่งในยุคสมัยหนึ่ง มันก็เป็นสิ่งที่อธิบายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับการมีชีวิตของเขาได้...(อาจเป็นเพราะเงื่อนไข..factors ในการนำมาวิเคราะห์มันครอบคลุมได้มากเพียงพอ) ... แต่เมื่อโลกเคลื่อนไปพร้อมกับจำนวนคนที่มากขึ้น ความสังเกตมีมากขึ้นก็พบกับเงื่อนไขอื่นๆที่ตนไม่เคยนำมาวิเคราะห์ร่วมมาก่อน และทำให้ความมั่นใจในระบบความคิดเดิมๆมันสั่นคลอน เขาต้องการจะอธิบายมันให้แจ่มชัดขึ้นตามจำนวนแห่งเงื่อนไขที่เปลี่ยนไปด้วย จึงพบกับ ความไร้ระเบียบที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการความเป็นระเบียบ...(ที่พอจะเข้าใจได้) เป็นไปได้มั้ยครับว่า การมองโลกด้วยความคิดแบบไร้ระเบียบ ก็คือการพยายามจะจัดระเบียบใหม่ให้กับความคิด และความเข้าใจที่มนุษย์มีต่อโลกอีกครั้ง เพราะยังไงก็ตาม ธรรมชาติของมนุษย์คุ้นเคยกับสิ่งที่เป็นระเบียบมากกว่าอยู่ดี จากคุณ : C T X color monitor - [ 5 ส.ค. 49 05:00:05 A:203.147.20.70 X: TicketID:076835 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ธรรมชาติของมนุษย์คุ้นเคย-ชอบสิ่งที่เป็นระเบียบมากกว่า เสรีภาพเป็นส่วนสำคัญของการผลิต(แปลว่าคนต้องมีความรู้).........??        มนุษย์คือผลผลิตขั้นสูงสุดของธรรมชาติ    กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเจตจำนงค์......เสรีภาพคือ.... ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์และ....การคิดได้....คือ......ภาพสะท้อนกฏการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกธรรมชาติ...       ทุกสรรพชีวิตคือ...ปลายทางกระบวนการจัดระเบียบตนเองที่เสร็จสิ้น...  มีห้วงเวลาของภาวะเสถียร...และกำลังไปสู่ภาวะไร้เสถียรหรือ ภาวะไร้ระเบียบ...ไม่ช้าก็เร็ว......และความตายคือ การล้างไพ่หรือภาวะไร้ระเบียบโดยสมบูรณ์...      ในการจัดระเบียบสังคม.....องค์กร....มนุษย์สำคัญที่สุด......การเพิ่มอัตราเร่งการผลิตก็คือ การติดอาวุธทางความคิดให้บุคคลากรและโดยการพยายามรวมเจตจำนงค์ทุกภาคส่วนให้เป็นหนึ่งเดียว...นั่นคือพลัง-อำนาจในการจัดระเบียบตนเอง...... จากคุณ : คน-นอก (dicky5) - [ 5 ส.ค. 49 11:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ที่จริงไม่มีอะไรที่จริงกว่าอะไรในการมองโลกแบบวิทยศาสตร์หรือศิลปะ เพียงแต่การมองโลกแบบscinceที่ใช้เหตุผลเพียงด้านเดียวนั้นจะทำให้เรารู้ความจริงแค่เพียงด้านเดียว เปรียบดั่งการโฆษณาต่างๆที่ให้เห็นเฉพาะส่วนที่ดีของสินค้าแต่จะไม่บอกทั้งหมด ในองกร ทีมงาน หรือครอบครัว หากอยู่กันด้วยเหตุผลที่แข็งโป๊กก็จะกลายเป็นครอบครัวทหารที่มีแต่ระเบียบวินัยแต่ไร้อารมณ์ คนเราควรเป็นไปตามเจตุจำนงของตนเองมากกว่าอย่างน้อยก็อำนาจหน้าที่การงาน แต่เราก็ต้องการระเบียบกับชีวิตอย่างน้อยก็ในชีวิตประจำวัน การมองโลกในเชิงสังเคราะห์และจัดระเบียบขึ้นมาเองจึงเป็นความจำเป็น(ที่มีความบังเอิญเข้ามาเกี่ยวข้อง)สำหรับการมีความหมายในชีวิต ผู้คนจะมีพื้นที่และเวลาที่เป็นเฉพาะตัวและมีโครงสร้างชีวิตของเขาเอง คนในองกรจะเป็นคนที่มีแต่ความภูมิใจในวิธีของตัวเองในการทำงานและมีชีวิตที่มีความหมายจากการเป็นส่วนของกันและกันกับคนอื่นๆในกลุ่ม ในสังคม เป็นเรื่องที่น่าชื่นบานพอๆกับน่าอันตราย แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 49 23:05:41 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 49 14:27:30 จากคุณ : the author (the author) - [ 5 ส.ค. 49 14:18:29 ]