PANTIP.COM : K4593820 อยากจะถามคนที่ใช้ mind map หน่อยครับ [การศึกษา]

ความคิดเห็นที่ 13

สวัสดีคะ คุณOmega Weapon ตามมาจากหลังไมค์ที่ให้มาแสดงความคิดเห็นนะค่ะ

จากที่ดิฉันเคยใช้ mind map ในชีวิตประจำวันนะค่ะ (คือก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเทคนิค mind map นัก แต่ใช้ concept mind map มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและก็ได้ผลดีค่ะ) ขอแสดงความคิดเห็นตามที่ดิฉันได้ปฎิบัติจริงนะค่ะ อาจจะไม่ถูกเป๊ะทางเทคนิค mind map

เริ่มจากเรื่องง่ายๆ ที่เรานึกออกเป็นภาพก่อน คือ เลียนแบบความคิดของสมอง โดยจะแตกแขนง กิ่งก้านไปเรื่อยๆ และจำเป็นภาพก็จะทำให้เรานึกก้านกิ่งได้เร็วและเป็นลำดับขึ้นด้วย

ทีนี้ก็ค่อยมาประยุกต์ใช้กับการจดบันทึกรายงานการประชุม หรือ การเรียน ซึ่งก็ได้ผลดีมากๆ ทำให้ดิฉันได้ผลการเรียนที่น่าพอใจ และสรุปรายละเอียดเข้าใจบทเรียนทั้งบท ได้เพียงกระดาษใบเดียว (คือ mind map นั่นเอง) หรือแม้กระทั่งภาพรวมของหนังสือทั้งเล่มโดยไม่หลุดประเด็นสำคัญไป

จากคำถาม
1. เขียนๆไปแล้วเกิดต้องมีลบหรือเปลี่ยนข้อความ ทีนี้ลบกันระนาวเลย เละไปทั้งแผ่น ใช้ดินสอก็ลบกันเละ ใช้ปากกาก็ลบกัน liquid paper กระจาย

เริ่มต้นก่อนเลยนะค่ะ สมมติเช่นอ่านหนังสือหนึ่งบท ในบทนั้นก็ลองนึกเป็นภาพ และดึงมาเฉพาะ key word ที่สำคัญ เช่น บทนี้เรื่องการเขียนแผนธุรกิจ ก็ลองสร้างสรรค์ไอเดียเฉพาะตัวออกมาว่าเราจำเรื่องนี้ได้เป็นแบบไหน เช่น แผนธุรกิจ เราอาจจะวาดภาพ รูปโลกแล้วมีเข็มทิศ ตรงกลางกระดาษแล้วค่อยๆ แตกกิ่งก้านเป็นแผนต่างๆ เช่น แผนการเงิน ก็วาดเป็นรูปเหรียญ แล้วก็แตกกิ่งใส่ key word ที่สำคัญไปเช่น current ratio เป็นต้น ก็ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นภาพรวมที่ชัดขึ้น พอเราวาดไปทีแรก แล้วก็นำมาอ่าน สมองมันจะจำเป็นกิ่งก้าน จะมหัศจรรย์สมองมากเลยคะ เพราะทีนี้พอไปทำอะไรแล้วเราลองหลับตามันก็จะขึ้นมาเป็นกิ่งก้านและภาพมาเลย

แต่ถ้าเป็นเรื่องยากๆ อาจจะเริ่มต้นทำเหมือนสรุป คือเขียนเป็น wording ลงไปเลย และหัวข้อสำคัญ โดยกำหนดว่าจะต้องให้จบภายใน 1 A4 แนวนอน เราก็จะมี concept การวาด การโยงก่อนจะลงมือวาดแล้ว อาจจะช่วยแก้ปัญหาลบๆ ขีดๆ ได้ แต่ที่สำคัญถ้าจะไม่ให้ลบเลย เราต้องทำความเข้าใจกับเรื่องนั้น ๆ ในภาพรวมได้แล้วก่อน แล้วจึงมาเขียนสรุปเป็น mind map ค่ะ เพราะเมื่อเราทำความเข้าใจแล้ว เราก็จะมองภาพรวมออกว่าเรื่องนี้ต้องมีกี่กิ่งกี่ก้าน คำสำคัญคืออะไร

2. โยงเส้น โยงไปโยงมาในกระดาษที่เขียน แล้วที่ไม่พอ หรือไม่ก็บางครั้งโยงไปโยงมาแล้วเส้นดันไปตกอยู่ในมุมแคบ โยงต่อไม่ได้แล้ว

อันนี้ก็เป็นปัญหาประจำของดิฉันเหมือนกันค่ะตอนแรกๆ แต่อย่างที่แนะนำคือถ้าเราอ่านหนึ่งรอบ เข้าใจ แล้วมาสรุปเป็น mind map จะช่วยลดปัญหาโยงเส้นลืมกะพื้นที่ เหลือที่ไม่พอ ได้ค่ะ

3. เวลาหาคำมาใส่ ส่วนใหญ่มักจะหาคำสั้นๆไม่ได้ซะที มักจะได้เป็นประโยคยาวๆ หรือวลียาวๆ คราวนี้เส้นเลยยาวเหยียดเลย ที่ก็เลยน้อยลงไปอีก

อันนี้ดิฉันว่าอย่าไปซีเรียสมาก คือ อย่างที่คห.ข้างบนบอก ถ้าเราเข้าใจเราจะสร้างสรรค์เป็นภาพเฉพาะตัว อย่างที่เรานึกปุ๊บจำได้ หรือ เข้าใจในเรื่องนั้นๆ ออกมาเป็น key word สำคัญ แต่ในความคิดเห็นของดิฉัน คิดว่าไม่จำเป็นก็ได้ถ้าเราประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับเรา เราถนัดแบบไหนก็ทำแบบนั้น แม้อาจจะไม่ถูกต้องทางเทคนิค แต่ก็ทำให้เราเข้าใจในแบบของเรา ก็ ok นะค่ะ แต่พยายามสรุปให้สั้นๆ แต่ได้ใจความ หรือ ใช้อักษรย่อไปเลยก็ได้

ลองดูนะค่ะ แล้วจะพบว่า concept mind map เปลี่ยนโลกการเรียนรู้และความจำได้อย่างน่าทึ่งจริงๆ

จากคุณ : ริ้วทรายภายใต้แสงจันทร์ - [ วันรพี 14:45:02 ]