ความคิดเห็นที่ 1 ...ผมขอพูดตามข้อเท็จจริง คือ ข่าวในพระราชสำนักนั้น เป็น Sccript ที่ถูกเขียนขึ้นโดย สำนักพระราชวัง แล้วส่งให้สถานีโทรทัศน์ทุกช่องออกอากาศ โดยต้องอ่านตาม Script นั้น ห้ามมีการเสนอข่าวเอง ...ดังนั้น ถ้าจะว่ากันตามจริงแล้ว ข่าวในพระราชสำนักจึงเป็น ข่าวที่มีการปรับแต่งจากสภาพความเป็นจริงในหลายส่วน และเป็นข่าวที่ "เลือก" ในการเสนอความจริงบางด้าน ดังนั้น ผู้รับข่าวจึงต้องใช้วิจารณญาณในการรับข่าวอย่างยิ่ง ...ผมพูดได้แค่นี้ ที่เหลือก็คงต้องใช้วิจารณญาณต่อกันเองครับ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 49 17:40:32 แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 49 17:40:20 จากคุณ : หมากเด็ด - [ 16 ส.ค. 49 17:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ ^ คิดนานไหมครับ จากคุณ : เมื่อวันฟ้าหม่น - [ 16 ส.ค. 49 19:01:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เอ่ๆๆๆ.... ข่าวในพระราชสำนัก มีรายละเอียดของข่าวมาจากกองข่าว สำนักราชเลขาธิการ ไม่ใช่หรือครับ.... จากคุณ : เด็กท้ายวัง - [ 16 ส.ค. 49 23:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไอ้ความเห็น 1 มันมั่ว เหตุผลตามความเห็น 3 จากคุณ : pacharawong - [ 16 ส.ค. 49 23:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ความเห็นที่ 1ทำไมต้องใช้วิจารณญาณในการชม เป็นข่าวที่ดีอยู่แล้ว ทำไมต้องใช้คำนี้ด้วย จากคุณ : knock_zee - [ 16 ส.ค. 49 23:53:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เนื้อหาในข่าวส่วนใหญ่จะเผยแพร่ว่าแต่ละพระองค์เสด็จไปที่ใดเพื่อทรงทำอะไร และเนื้อหาข่าวธรรมดา ไม่เคยมีการเติมแต่งเนื้อหาเหมือนอย่างข่าวทั่วไปที่เราได้อ่านในหนังสือพิมพ์ด้วยซ้ำ ตามความิคดเห็ฯที่หนึ่ง ไม่จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณด้วยซ้ำ เพราะว่าข่าวเขียนอย่างตรงไปตรงมา "ไปไหนเพื่ออะไร" นี่คือเนื้อหาข่าว ไม่มีการเติมสร้อยคำเพื่อเยินยอแต่ละพระองค์ ผมว่าเป็นข่าวที่ตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว และเป็นข่าวที่มีเนื้อหาน่าดูกว่าข่าวทั่วไปด้วยซ้ำ ดโยเฉพาะการนำเสนอว่าแต่ละพระองค์เสด็จไปไหนนั้น บางครั้งในการสเด็จต่างประเทศ เราจะได้รับความรู้จากสกู๊ปข่าวด้วย ผมชอบเป็นพิเศษเพราะมันเหมือนได้ดูสารคดี จากคุณ : คนไทย - [ 17 ส.ค. 49 08:51:35 A:218.223.192.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วย หากการตั้งกระทู้นี้จะทำให้เกิดความแตกแยก เพราะหลังจากได้ตั้งกระทู้ (แรก) เรื่องความสนใจในข่าวราชสำนักแล้ว พอได้อ่านความคิดเห็นแล้ว รู้สึกดีมากๆ เลยอยากจะสอบถามเรื่องรูปแบบดูบ้าง เผื่อเพื่อนๆ มีความคิดเห็นดีๆ ที่อาจคิดกันไว้แต่ยังหาที่ทางแสดงออก หรือยังไม่ได้แสดงออก  สำหรับเรื่องการนำเสนอข่าวราชสำนักประจำวัน เท่าที่ทราบจากผู้รู้ คือ แต่ละช่องมีแนวทางการนำเสนอข่าวตามความเหมาะสมของแต่ละช่อง  ไม่มีบทข่าว หรือภาพข่าวจากสำนักพระราชวัง หรือ สำนักราชเลขาธิการ (รับผิดชอบกันเองแต่ละช่อง) ยกเว้นบางข่าวที่ไม่สามารถเขียนเองได้ อาทิ ข่าวเฝ้าฯ ที่จะมีข่าวจากสำนักราชเลขาธิการ,  แถลงการณ์ หรือประกาศสำนักพระราชวังจะมาจากสำนักพระราชวัง สำหรับข่าวการเสด็จตปท. มีเพียงช่องเดียวตามเสด็จ แล้วนำมาผลิตออกอากาศแจกจ่ายทุกช่อง (จะสังเกตว่ามีโลโก้หัว-ท้าย และลงเสียงเป็นส่วนใหญ่) จากคุณ : phufaa - [ 17 ส.ค. 49 09:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องอย่างนี้ผมพูดมากไม่ได้ ถ้ายังมองกันไม่ออก ผมก็คงช่วยอะไรได้ไม่มาก ...เอาเป็นว่าผมตัดข้อความฝากไว้ข้อความหนึ่ง แล้วคิดต่อกันเองก็แล้วกัน "...ทรงเสด็จแข่งขันแบดมินตันที่ประเทศมาเลเซีย ยังความปลื้มปิติแก่ผสกนิกรชาวมาเลเซียเป็นอย่างยิ่ง..." ...ถามจริงเถอะ คุณฟังข้อความอย่างนี้แล้ว มองไม่เห็นอะไรเลยหรืออย่างไร? จากคุณ : หมากเด็ด - [ 18 ส.ค. 49 09:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 "ถ้ายังมองกันไม่ออก ผมก็คงช่วยอะไรได้ไม่มาก" ดูข่าวในพระราชสำนักเนี่ย  มีข้อเสียตรงไหนถึงขนาดต้องช่วยกันเลยเหรอครับ สำหรับรูปแบบที่เสนออยู่ทุกวันนี้ก็โอเค แต่อยากให้นำเสนอเหมือนตอนช่วงงานฯ 60ปี ที่เป็นข่าวที่ออกมาจากที่เดียวกันพร้อมกันทุกช่อง จากคุณ : artkachi - [ 18 ส.ค. 49 13:23:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมยังมองไม่เห็นปัญหาจากประเด็นของคุณครับ จากคุณ : รอยใบลาน - [ 18 ส.ค. 49 13:35:24 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความเห็น 8 กรุณาแจ้งด้วยครับว่าที่อ้างว่า "ตัดข้อความมา" นั้น ได้ตัดข้อความมาจากแหล่งใด หรือถ้าเขียนมาจากความทรงจำ ก็กรุณาแจ้งใหม่ด้วยว่า "เท่าที่ผมจำได้" ไม่ใช่ "ตัดข้อความมาจาก" เพราะเท่าที่สติปัญญาของผมพอจะมีอยู่บ้าง การใช้ราชาศัพท์ผิด ๆ และเขียนคำบางคำผิด เช่นนั้น ไม่ใช่ข่าวในพระราชสำนักอย่างเป็นทางการแน่นอนครับ จากคุณ : จางวางเต่า - [ 18 ส.ค. 49 14:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หลังจากอ่านข้อความของคุณความคิดเห็นที่ 8 แล้ว เป็นไปได้ไหม๊ที่ทีมข่าวที่ตามเสด็จต้องการบรรยายความคิด ความรู้สึกจริงๆ ที่ได้รับรู้ขณะทำงานว่ามีชาวมาเลเซียให้ความสนใจที่มีพระราชวงศ์ต่างประเทศไปทรงแข่งขันในประเทศเค้า แต่เผอิญคนไทยเราชินกับคำว่า ความปลื้มปิติที่มักจะใช้กับคนไทยด้วยกันที่มีพระราชวงศ์ทรงทำอะไรแล้วสร้างความปลื้มปิติยินดี ความปลื้มใจ ความซาบซึ้งให้แก่พสกนิกรชาวไทย พอไปใช้กับชาวต่างประเทศ บางคนเลยอาจรู้สึก? ดังนั้น ความบกพร่องในการไม่ระมัดระวังการใช้คำ จึงน่าจะอยู่ที่ทีมข่าวมากกว่า  สมมติถ้าเปลี่ยนเป็น "การเสด็จไปทรงร่วมการแข่งขันแบดมินตันที่ประเทศมาเลเซีย สร้างความสนใจให้แก่ชาวมาเลเซียเป็นอย่างยิ่ง" จะโอเคกว่าไหม๊ แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 49 15:11:53 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 49 15:09:32 จากคุณ : phufaa - [ 18 ส.ค. 49 15:08:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณหมากเด็ด เอาแนวความคิดนี้ไปใช้กับข่าวของรักษาการนายกฯดีกว่าค่ะ มีอะไรให้จับผิดเยอะแยะมากมายก่ายกอง   กระทู้นี้ของคุณไม่สร้างสรรค์เลยค่ะ ขอบอก... จากคุณ : wanalee - [ 18 ส.ค. 49 16:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตามที่คุณภูฟ้าบอกมานั้นถูกต้องแล้วค่ะ แต่ละช่องจะมีทีมข่าวสายราชสำนักออกไปทำข่าวในแต่ละวัน การหาข่าวก็แล้วแต่ค่ะ ว่างานอะไร อย่างเช่นงานพระราชทานเพลิงศพ ก็จะนำข้อมูลมาจากหนังสือในงาน แต่หากเสด็จต่างจังหวัดก็แล้วแต่เราว่าจะหาข้อมูลจากใคร อย่างไร โดยมากก็จะช่วยๆกันค่ะ ส่วนต่างประเทศก็แล้วแต่ว่าช่องไหนตามเสด็จพระองค์ใด(ซึ่งเป็นทีมที่ตามเสด็จกันเป็นประจำ) แล้วก็เขียนข่าวลงเสียงสำเนาให้ทุกช่องค่ะ ส่วนบุคคล หรือคณะบุคคลเข้าเฝ้าทางสำนักราชฯก็จะมีรายชื่อมาให้ก็เขียนตามนั้นขึ้นอยู่กับว่าแต่ละช่องจะให้ความละเอียดมากน้อยต่างกันอย่างไร บางช่องจะเห็นว่านำเสนอละเอียดทุกพระองค์ บางช่องนำเสนอตามปกติ แต่บ่งช่องนำเสนอละเอียดมากเป็นบางพระองค์ค่ะ จากคุณ : หนูนวล - [ 18 ส.ค. 49 17:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นข่าวที่ส่งเสริมสถาบันกษัตริย์ที่มาตอน2ทุ่มของทุกช่องซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังอยู่หน้าทีวี จากคุณ : the author (the author) - [ 19 ส.ค. 49 10:57:26 ]

ความคิดเห็นที่ 16 การฟังอะไรโดยทึกทักเอาว่า เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ มันดีเหรอครับ ผมอ่านแล้วหงุดหงิดมากเลย ที่คนที่กล้ามองโลกอย่างตรงไปตรงมาต้องมาโดนรุมว่าเสียๆหายๆในกระทู้นี้ ก็พอเข้าใจอยู่นะว่าที่นี่เป็นห้องประวัติศาสตร์ แต่ไม่ได้แปลว่าเราต้องยึดถือแต่เพียงความเชื่อที่มีรากฐานทางประวัติศาสตร์ซะหน่อย จากคุณ : TakumiKung - [ 19 ส.ค. 49 22:13:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ความเห็น 16 ก็อย่าไปทึกทักว่าคนอื่นที่เขาคิดว่าดีอยู่แล้ว เขาไม่ได้ใช้วิจารณญาณในการวิเคราะห์สิครับ ความเห็น 16 ทราบได้อย่างไรว่าคนอื่นเขาสักแต่ว่าเชื่ออย่างไม่ลืมหูลืมตา ความเห็น 16 อย่าไปหงุดหงิดเลยครับ ทำใจสบาย ๆ ทุกอย่างมันมีเหตุผลของมัน คนที่คุณเคืองแทนนะ ถ้าเขามองโลกตรงไปตรงมาอย่างที่คุณคิดก็คงจะดี แต่ผมให้ข้อคิดไว้อย่างหนึ่งว่า การมองโลกแบบตรงไปตรงมานั้น มันต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงอยู่บ้าง จริงก็ว่าจริง เท็จก็ว่าเท็จ พอถูไปกันไป แต่นี่พ่อเล่นอ้างอะไรมาก็เท็จเสียแทบหมด จะเรียกว่ามองโลกแบบตรงไปตรงมาคงไม่ได้กระมัง จากคุณ : จางวางเต่า - [ 20 ส.ค. 49 09:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ฮั่นแน่ พูดอย่างนี้ จะเอาผมเป็นพวกล่ะสิ ลองอ่าน คห 5 9 13 ดูสิครับ นั่นแหละผมถึงพูดอย่างที่ผมพูด เพราะจะบอกว่าดี ไม่ต้องใช้วิจารณญาณ เอ๊ะ แล้วไม่ใช้วิจารณญาณ แล้วเอาอะไรมาบอกว่าดีเหรอ วิจารณญาณต้องมีก่อนครับถึงจะเกิดการบอกว่าดีไม่ดีจริงไม่จริงขึ้นได้ ไม่ได้เชื่อ คห 1 แต่ก็ไม่อยากให้ค้านกันข้างๆคูๆเกินไป แต่สรุปว่าอ่านไปอ่านมาเลยไม่รู้ว่าข่าวในพระราชสำนักนี่ใครเขียน ข้อความใน คห ที่ 8 มีจริงรึเปล่าผมก็ไม่รู้ เพราะถึงเขาบอกว่ามาจากข่าวช่อง 3 เวลา 19.30 วันที่ 20 พฤษภาคม ผมก็คงไม่มีปัญญา (และไม่บ้าตาม) ไปตรวจสอบอยู่ดี แต่ถ้าจริงผมก็ว่าเป็นประเด็นได้ ซึ่ง คห 12 ก็ตอบให้แล้ว จากคุณ : TakumiKung - [ 20 ส.ค. 49 14:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เข้าใจคุณหมากเด้ดนะ คิดว่าคงเรียนมาสายเดียวกะเราอ่ะ เราถูกสอนให้มองปรากฏการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้น มามันมีที่มา ที่ไป ไม่ว่าจะเป็น power, authority หรือเเม้กระทั่งความรัก ว่ามันมักจะมี pattern ของมัน เเละคนที่ทำตาม pattern นี้ก็จะมีอำนาจอยู่ต่อไป มันก้เเค่ paradigm ของเเต่ละคน จากคุณ : Felys - [ 20 ส.ค. 49 16:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ยุคสมัยแห่งความรู้ หากไม่ ตั้งคำถาม หรือวิพากษ์วิจารย์อำนาจ ก็จะไม่สามารถถอดรื้อความรู้และเรียนรู้ใหม่ได้ แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 49 09:20:14 จากคุณ : the author - [ 21 ส.ค. 49 09:19:26 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เอาหัวสมองไปคิดอย่างอื่นเถอะ !! แค่รูปแบบการนำเสนอข่าวแค่นี้ จะทำให้คนถึงกับดิ้นตาย ก็ให้มันรู้ไป จากคุณ : คนไท - [ 21 ส.ค. 49 12:56:27 A:203.113.55.197 X:203.151.140.116 TicketID:122435 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สมัยนี่ สื่อไม่ได้มีแค่ TV อย่างเดียวนี่ครับ Internet ก็มี ถ้าข่าว TV คิดโกหกจริงมีเหรอครับว่า คนที่จับผิดได้จะมีแค่ไม่กี่คน อย่างน้อย คนที่เล่นเนทในนี้ส่วยใหญ่ ก็น่าจะเห็นมั้งแหละครับ อย่าดูถูกสติปัญญา ผู้อื่นนักสิครับ สื่อหลายรูปแบบในสมัยนี้มันทำให้สังคม มันเล็กลงผู้คนสื่อสารกันได้ใกล้ตัวขึ้นนะครับ อย่างข่าว แพทย์ อาสา ตามเสด็จ พระองค์ท่านไปถิ่น ทุรกันดาร ผมก็มีเพื่อน เป็นนักเรียนทุนแพทย์บางคนที่ผมก็คุยด้วยได้ว่าข่าวนั้นจริงเท็จยังไง ชึ่งหลายๆคนในนี้ถ้าอยากตามกันจริงๆ มีรึเขาจะโง่ไม่รู้ กัน อย่าดูถูกสติปัญญาคนเลยครับ โดย ส่วนตัวผมไม่เคยคิดด้วยช้ำไปครับ ที่จะตั้งคำถามว่าทุกสิ่งที่พระองค์ท่านทำไปนั้นทำไปทำไม ท่านมีทุกสิ่งพร้อมอยู่แล้ว จะต้องมาเหนื่อยทำไม และทุกสิ่งที่ท่านทำ ทำเพื่อใครถ้าไม่ใช่เพื่อเรา ประชาชนคนไทยทั้งชาติ แล้วทุกสิ่งที่ท่านทำไปให้คน ที่ยากไร้ ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น "แบบยั่งยืน" มันเป็นจริงไหม สาเหตุ ที่เราคนไทย สามารถผ่านพ้น กลียุค มาได้มากมายไม่ว่าจะ 14 ตุลา พฤษภาทมิฬ ที่คนไทยจะมาฆ่า กันเอง เราผ่านวิกฤษณ์ มาได้ทุกครั้งเพราะใครกันครับ สมัยก่อน ตอนเด็กๆ ผมร้องเพลงชาติหรือ ถวายคำปฏิญาณ แบบ ไม่รู้ไม่สนใจอะไรนัก ตามประสาเด็กๆ แต่เมื่อผมได้โตขึ้น ได้เห็นอะไรหลายอย่างมากมาย เดียวนี้ถ้าผมต้อง ผมถวายคำปฏิณาญ ผมจะระลึกถึงพระมหากรุณาของท่านเสมอ เพราะผมได้เห็นสิ่งที่ท่านทำ ไม่ใช่เพราะใคร ยัดเยียดให้ผมเชื่อครับ จากคุณ : Che Guevara อดีตไม่ลืมเลือน (Che Guevara อดีตไม่ลืมเลือน) - [ 21 ส.ค. 49 13:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จะบอกให้ ระบบระบอบหนึ่ง บางทีก็เหมาะสมกับที่ที่หนึ่งเท่านั้น ถ้ามันดีอยู่แล้วก็อย่าพยายามเปลี่ยนเลย ดีอยู่แล้ว อย่างเช่นบางประเทศที่เจริญแล้ว ประชาชนเคารพและยำเกรงต่อกฏมากๆ มีวินัยและมีระเบียบ เขาเป็นกันมานานคงไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไร สำหรับคนไทย เรามีสถาบันสูงสุดเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่มีใครบังคับ แล้วทำไมต้องเปลี่ยน จากคุณ : พี่สอนน้อง - [ 21 ส.ค. 49 19:18:47 A:129.125.7.116 X: TicketID:123560 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ความเห็นที่ 18 ครับ ผมคงไม่สามารถทำให้ใครเป็นพวกใครได้กระมัง อย่าเข้าใจผมผิดไป หาไม่ผมจะกลายเป็นคนพาลไป ผมไม่ได้ติดใจอะไรคุณมากหรอกครับ ผมติดใจคำว่า "ทึกทัก" อย่างเดียวเท่านั้น หะแรกคุณพูดรวม ๆ ไปเลย หาได้แยกว่าความเห็นใดที่คุณคิดว่าเขาทึกทักไม่ การที่คุณพูดรวม ๆ นั้น มันก็เป็นเหตุให้คนอื่นที่เขาคิดว่าเขาใช้เหตุผลที่ดีแล้ว มาแย้งคุณได้มิใช่หรือ ถ้าคุณแยกแยะว่าความเห็นใดบ้างที่คุณคิดว่าเขาใช้เหตุผลไม่ดีแต่แรก ผมก็คงไม่มาตำหนิคุณหรอก แต่นี่คุณพูดเหมารวมเสียนี่ และถ้าคุณพูดแยกแยะตั้งแต่แรก ก็จะเป็นการดีกับคุณเสียอีก เพราะคนที่คุณแย้ง เขาจะได้เข้ามาตอบ นี่คุณไม่แยกแล้วความเห็นนั้นเขาจะทราบ แล้วมาตอบข้อข้องใจของคุณหรือครับ จากคุณ : จางวางเต่า - [ 21 ส.ค. 49 19:38:09 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ส่วนเรื่อง "วิจารณญาณ" ในความเห็น 5 นั้น ผมไม่เห็นแปลกที่เขาจะพูดอย่างนั้น เพราะประโยคที่ว่า "ผู้รับข่าวจึงต้องใช้วิจารณญาณในการรับข่าวอย่างยิ่ง" ในความเห็น 1 ตามความเห็นของความเห็น 5 นั้น เขาอาจเห็นว่า "วิจารณญาณ" มันเป็น "คำย้อมสี" อย่างไรครับ คือ "ใช้วิจารณญาณ" หมายถึง "ไม่ดี" เหมือนขึ้นคำว่า "ควรใช้วิจารณญาณในการชม" ในฉากสูบบุหรี่ ฉากเล่นการพนัน ฉากกินเหล้า ตามละครโทรทัศน์ทั่วไป ความเห็น 5 เขาอาจเห็นว่า ข่าวพระราชสำนักเป็นการเสนอข้อเท็จจริงธรรมดา ไม่ใช่สิ่งไม่ดี ไม่มีพิษมีภัย ก็เลยแสดงความคิดเห็นว่า ทำไมต้องใช้วิจารณญาณในการชมด้วย ก็อาจจะแค่นั้นเอง นี่ผมไปคิดแทนเขานะครับ อย่าเชื่อทั้งหมด ผมเพียงจะยกตัวอย่างให้คุณเห็นเท่านั้นว่า อย่าไปพูดคำว่า "ทึกทัก" ให้บ่อยนัก จากคุณ : จางวางเต่า - [ 21 ส.ค. 49 19:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อืม บอกตามตรงผมไม่เห็นด้วยกับคุณ ถ้าเป็นสิ่งที่เรารับฟังมาจากคนอื่น เราจะพูดได้ทันทีเลยหรือว่าสิ่งนั้นเป็นข้อเท็จจริง แม้แต่สิ่งที่มาจากประสาทรับรู้ของเราเอง ยังไม่จำเป็นต้องเป็นข้อเท็จจริงเลย ยิ่งถ้าเป็นการเมืองนี่การนำเสนอข้อมูลด้านเดียวเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่โอเคผมเห็นด้วยว่าคำว่าทึกทักเป็นคำแรง ว่าแต่คุณไปป่วนกระทู้ข้างบนทำไมน่ะ - - จากคุณ : TakumiKung - [ 21 ส.ค. 49 23:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ความเห็นที่ 26 ครับ คุณเข้าใจผมผิดอย่างมหันต์ ผมหาได้ไปป่วนกระทู้นั้นแต่อย่างใดไม่ เนื่องจากกระทู้ดังกล่าว เจ้าของกระทู้ต้องการ "การแสดงความคิดเห็นแบบปรัชญา" ในเมื่อเจ้าของกระทู้เธอถามคำถามไม่ชัด คำที่ใช้ในคำถาม แม้แต่คำในการแสดงความคิดเห็นก็ไม่ชัดเจน ผมก็ต้องถามหาคำนิยามของแต่ละคำว่าหมายถึงอะไร เพื่อที่จะได้แสดงความคิดเห็นร่วมด้วยได้ ถ้าคนถาม ถามคำถามไม่ชัด ผมถามหาคำนิยามก็ตอบไม่ได้ หรือเมื่อเจ้าของกระทู้ให้คำนิยามมาแล้วทำให้การอ้างเหตุผลของเขาผิด ก็ต้องถือว่าผมแย้งเจ้าของกระทู้ได้ไม่ใช่หรือครับ มันเป็นเพียงวิธีแย้งวิธีหนึ่งของผมเท่านั้นแหละครับ หาได้มีเจตนาจะไปป่วนแต่อย่างใดไม่ ส่วนการใช้คำของผมอาจจะดู "กวน ๆ" แต่จริง ๆ ไม่ได้ "กวน" เลยครับ แค่แบบ "ขำ ๆ" จะได้ไม่เครียดกันมาก จากคุณ : จางวางเต่า - [ 22 ส.ค. 49 12:03:16 ]