คำนำ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
หนังสือเรื่องพระราชกรัณยานุสรนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์เมื่อปีฉลู พ.ศ. ๒๔๒๐ เปนปีที่ ๑๐ ในรัชกาล โดยพระราชประสงค์จะให้มีตำราราชประเพณีไว้สำหรับพระนคร ตั้งพระราชหฤไทยว่าจะทรงพระราชนิพนธ์หนังสือเรื่องนี้ในเวลาว่างราชการไปทุกๆวันจนกว่าจะสำเร็จตลอดเรื่อง ด้วยในสมัยนั้นพระราชธุระในราชกาลต่างๆ อันมีประจำวันยังไม่สู้หนาแน่นทีเดียว ก็มีเวลาทรงพระราชนิพนธ์หนังสือเรื่องนี้มาตามพระราชประสงค์ตลอดระยะเวลากาลอันหนึ่ง ครั้นต่อมาเมื่อทรงพระราชดำริห์จัดการบ้านเมืองมากขึ้น พระราชกิจต่างๆซึ่งจำจะต้องทรงตรวจตราแลกระทำด้วยพระองค์เองก็มากขึ้น เวลาว่างสำหรับทรงพระราชนิพนธ์หนังสือนี้ก็มีน้อยลงทุกที จนที่สุดต้องหยุดทรงพระราชนิพนธ์ด้วยความจำเปน หนังสือเรื่องนี้จึงไม่จบตลอดเรื่อง
ผู้ใดอ่านพระราชนิพนธ์ที่พิมพ์ในสมุดเล่มนี้ คงจะมีความเห็นพ้องกันหมดว่า ถ้าหนังสือเรื่องนี้ทรงพระราชนิพนธ์สำเร็จตลอดเรื่องได้ดังพระราชประสงค์เดิม จะเปนหนังสืออย่างสำคัญที่สุดเรื่อง ๑ น่าเสียดายที่ไม่สามารถจะทรงให้สำเร็จได้ แต่เมื่อพิเคราะห์ดูโดยรูปเรื่องหนังสือก็จะแลเห็นว่า หนังสือเรื่องพระราชกรัณยานุสรนี้กว่าจะจบจะเปนหนังสือมากตั้งร้อยเล่มสมุดไทย ดูพ้นวิไสยจริงๆที่จะทรงพระราชนิพนธ์ให้สำเร็จตลอดได้ ในเวลาที่ต้องทรงเปนกังวลด้วยพระราชกิจต่างๆอยู่เสมอ แต่ถึงกระนั้นผู้ที่ได้เคยอ่านมาแต่ก่อนก็ไม่วายเสียดาย
ด้วยเหตุนี้ เมื่อทรงบัญชาการหอพระสมุดวชิรญาณแทนสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ เมื่อปีชวด พ.ศ. ๒๔๓๑ โปรดให้ขอแรงพวกสมาชิกผู้มีความสามารถช่วยกันแต่งหนังสือส่งให้พิมพ์ในหนังสือวชิรญาณ แลทรงรับว่าในส่วนพระองค์ก็จะแต่งประทานด้วยเหมือนกัน มีรับสั่งถามความประสงค์ของสมาชิกว่าจะให้ทรงเรื่องอย่างไร พวกสมาชิกซึ่งได้เคยอ่านหนังสือพระราชกรัณยานุสรจึงกราบทูลอาราธนาให้ทรงพระราชนิพนธ์กรัณยานุสรนี้อย่างย่อๆ พอเปนประโยชน์ทางความรู้แก่สมาชิกทั้งปวง
เพราะฉะนั้นหนังสือเรื่องพระราชกรัณยานุสรนี้ คือต้นเค้าของพระราชนิพนธ์เรื่องพระราชพิธี ๑๒ เดือนนั้นเอง แต่มีความที่แปลกแลความพิศดารกว่าเรื่องพระราชพิธี ๑๒ เดือน ควรอ่านเปนเรื่องหนึ่งต่างหากได้ แลโดยทางวรรณคดีก็น่าอ่านเพราะพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ไม่ว่าจะทรงบรรยายเรื่องใดๆ อ่านจับใจไม่รู้จักเบื่อทุกเรื่อง
..............................
เรื่องพระราชกรัณยานุสรที่จะคัดต่อไปนี้
เป็นตอนพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
แต่ขออนุญาตตัดเฉพาะพระราชนิพนธ์ตอนที่ว่าด้วย
พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นฉลององค์พระมหากษัตริย์
และพระบรมราชาธิบายว่าด้วยพระนามในพระมหากษัตริย์
อีกเรื่องที่น่าสนใจ คือพระนามของพระองค์ท่านเอง
"พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว"
คำ "จุลจอมเกล้า" มีหลายคนเข้าใจว่า มงกุฏอันเล็ก
และอีกหลายคนเข้าใจเลยไปถึงว่าเป็น พระเกี๊ยว
แต่แท้จริงแล้ว "จุลจอมเกล้า" มีความหมายว่า "จอมเกล้า"
ซึ่งสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงจะพระราชทานพระบรมราชาธิบายด้วยพระองค์เอง
แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 49 10:57:52