PANTIP.COM : K4651074 อยากเป็นนักแปลอิสระมากๆค่ะ แต่ไม่ทราบว่าเขาหางานกันยังไง []

ความคิดเห็นที่ 9

งานแปลอิสระ ถ้ามีงานประจำที่มั่นคงทำ หรือมีธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้ว และรับแปลหนังสือแค่ปีละ 2-3 เล่ม จะทำให้สนุกและเพลิดเพลินมากๆ .........

แต่ถ้าทำงานแปลอิสระอย่างเดียว ไม่ว่าจะแปลหนังสือ หรือแปลเอกสาร ปัญหาต่างๆก็จะตามมา เช่น

กรณีแปลหนังสือ ถ้าแปลช้าๆ เช็ค (เงินค่าแปล) ที่ สนพ ออกให้จะไม่ต่อเนื่องกัน ทำให้การเงินติดขัดชักหน้าไม่ถึงหลัง แต่ถ้าแปลเร็วจนคนอ่านๆไม่ทัน แล้วเผอิญไปเจอหนังสือยากๆเข้า ก็จะแปลผิดเยอะมากๆ

กรณีแปลเอกสาร รับงานจากลูกค้าโดยตรง เสียเวลาไล่ตามเก็บเงิน บางทีเก็บเงินไม่ได้ก็มี ...ถ้าหางานเก่ง ทำเองคนเดียวไม่ไหวต้องจ้างคนอื่นทำ ปัญหาเรื่องหานักแปลและควบคุณคุณภาพนักแปล มีเยอะมากๆ ........

ถ้ารับงานจากบริษัทแปลปัญหาเรื่องตามเก็บเงิน ก็ไม่มีเพราะบริษัทแปลรับประกันการจ่ายเงิน แต่เขาจะกินหัวคิวคุณไป 50% ซึ่งเป็นการบีบบังคับให้คุณต้องแปลเร็วๆและลวกๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้มีเด็กจบใหม่มาตัดราคาค่าแปล ทำให้บริษัทแปลจ้างนักแปลที่ยอมลงราคาค่าแปลต่ำๆ ........ใครจะทำงานแบบนี้ ต้องแปลเร็วมากๆ (เร็วผิดมนุษย์) จึงได้เงินมาก

....บางทีได้เงินดี ถ้าคุณแปลงานเฉพาะทางได้ เพราะลูกค้าหาที่แปลเร็วๆไม่ได้จึงต้องเพิ่มค่าแปลให้ 2- 3เท่า............บริษัทแปลบางแห่งโก่งราคาให้นักแปลได้....ซึ่งมีไม่มากนัก แต่เผอิญเราโชคดี ได้งานแบบนี้หลงๆมามากพอสมควรเพราะว่าเพื่อนเราเป็นผู้จัดการสาขานั้นเอง...... พอได้งานแบบนี้แปลแล้วหายเหนื่อย ไม่เหมือนบริษัทบางแห่ง เร่งเกือบตายแต่ค่าแปลก็เท่าเดิม ..........

พวกที่แปลอยู่นานแล้วจะได้เปรียบเพราะแปลเร็วกว่า (ถึงแม้เอกสารจะยาก) แต่ในทางกลับกันนักแปลที่ยังอ่อนหัดก็จะอาจแปลได้เร็วกว่านักแปลที่ชำนาญเสียอีก เนื่องจากนักแปลที่อ่อนหัดไม่รู้ว่าแปลผิดเพียบเลยนั่นเอง ..........เลยพิมพ์เร็วเต็มสปีดได้............โดยไม่เฉลียวใจเลยว่า "แปลผิดเกือบหมด"

การเขียนภาษาอังกฤษดีมากๆทำให้คุณสูญเสียรายได้ถ้าคุณแปลงานที่ต้องไปให้กระทรวงการต่างประเทศรับรองการแปล เพราะเจ้าหน้าที่กระทรวงเขียนภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง เขาจะหมั่นใส้ที่คุณเขียนดีเกินไป เขาจะหาที่จับผิดมากมาย .........ตอนจบบริษัทแปลจะเลือกคนเขียนภาษาอังกฤษแบบสำนวนไทยๆมาทำงานประเภทนี้ (เพราะนอกจากกระทรวงการต่างประเทศชอบภาษาอังกฤษแบบสำนวนไทยๆแล้ว นักแปลที่เขียนภาษาอังกฤษแบบสำนวนไทยๆ จะยอมคิดค่าแปลถูกๆ แบบตัดราคาคนอื่นอีกด้วย)

งานแปลบางอย่างที่ยากๆ เช่นสัญญากฎหมายที่ซับซ้อน ถ้าคูณรู้มาก แต่ลูกค้าไม่รู้ คุณก็มีปัญหา เพราะลูกค้าแก้มาเพียบเลย .......ถ้าเจ้าของบริษัทแปลเป็นนักแปลเก่งๆ เขาจะช่วยคุณเถียงกับลูกค้าได้ แต่ถ้าเจ้าของบริษัทแปลเคยขายก๋วยเตี๋ยวแต่เขาเปลี่ยนหน้าร้านเป็นร้านแปลเฉบๆ แล้วจ้างนักแปลทำงานกับเขาโดยเขาไม่รู้เรื่องภาษามากนัก (มีนะเจ้าของบริษัทแบบเนี้ย) เขาอาจเชื่อลูกค้า แล้วนักแปลอาจซวยเอาก็ได้ ........

แต่ไม่ว่าจะทำงานแปลแบบไหนพอได้เงินมากๆอย่าฮึกเหิมใช้เงินเปลือง เพราะตอนจบจะกลายเป็นคนโลภ ใช้เงินเปลืองแล้วรับงานแปลมากเกินกำลังทำให้สุขภาพเสียได้ ถ้าทำงานแปลเป็นงานหลักควรทำแค่พออยู่ได้ และประหยัด และพยายามหาเวลาว่างดูแลสุขภาพ และหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ....มีนักแปลสิงห์ปืนไวหลายคนในอดีต มัวแต่แปลงานไวๆเอาเงินแต่ลืมหาความรู้รอบตัวเพิ่มเติม เมื่อกาลเวลาผ่านไป เทคโนโลยีก้าวไปไกล เขายิ่งแปลมากก็ยิ่งแปลผิดมากยิ่งขึ้น เพราะมัวแต่แปลงานด่วนๆและไม่มีเวลาเติมความรู้รอบตัวให้แก่ตนเองนั่นเอง ........

สิ่งที่สำคัญพอๆกับความรู้เรื่องถาษาก็คือเรื่องความรู้รอบตัว นักอยากแปลหลายๆคนใฝ่ฝันแต่จะเรียนการแปล แต่ลืมคิดไปว่า

"ต่อให้เรียนการแปล หรืออ่าน textbooks เรื่องการแปลที่เขียนโดยนักแปลผู้ยิ่งใหญ่มากสักเพียงใดก็ตาม เขาไม่มีทางแปลได้หากเขาไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เขากำลังแปลอยู่"
แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 49 02:56:40
แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 49 02:50:18

จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 27 ส.ค. 49 02:41:11 ]