ความคิดเห็นที่ 1 สงสัยต้องถามคณะกรรมการมรดกโลกของไทยแล้วค่ะ คณะกรรมการมรดกโลกฯ คงจะมีแผนไว้ในใจอยู่แล้วว่า จะเสนอที่ใดในประเทศไทยเป็นมรดกโลกต่อไป เพราะเราคงไม่สามารถเสนอได้ทุกปี เราต้อง vote ให้ของประเทศอื่นด้วยค่ะเพื่อแลกเสียงที่เขาจะมา vote ให้สถานที่ของเราด้วย (นี่ตามความเข้าใจของตัวเองนะคะ) นอกจากนี้ สถานที่ๆ จะเสนอให้คณะกรรมการมรดกโลกของ UNESCO พิจารณาต้องเข้าเกณฑ์ที่เขาตั้งไว้ ต้องเสนอเอกสาร ถาพถ่าย แล้วเขาจะส่งทีมมาดู โดยทั่วไปรอบสถานที่นั้นๆ จะต้องกันเขตไว้เป็น buffer zone ไม่ให้มีสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เพื่อให้สถานที่นั้นโดดเด่น หากมีสิ่งปลูกสร้างต้องรื้อทิ้งน่ะค่ะ และเมื่อได้เป็นมรดกโลกแล้วจะได้รับเงินช่วยเหลือเพื่อปรับปรุงที่นั้น+สิ่งแวดล้อม (นั่นเป็นสิ่งที่วัดพู โห่ยอานเว้ ฮาลอง ต้องการ แต่ไทยอาจจะไม่อยากได้สำหรับวัดในกรุงเทพนะคะ) และเมื่อรับเงินเขามาแล้วก็ต้องปฏิบัติตามกฎที่เขาวางไว้อย่างเคร่งครัดน่ะค่ะ เมื่อปีที่แล้วกัมพูชาอยากจะเสนอเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก เสนอเอกสารไปแล้วก็ยังไม่ผ่านตามเกณฑ์นะคะเพราะติดปัญหาเกี่ยวกับเขต buffer zone ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้างค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคณะกรรมการมรดกโลกค่ะhttp://www.geocities.com/thaiherritage/a3.html จากคุณ : the Vicky - [ 5 ก.ย. 49 04:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องกรณีการเสนอสถานที่เป็นมรดกโลกนั้นในประเทศไทยเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการมรดกโลกของไทย ตามที่คุณ Vicky กล่าวไว้ถูกต้องแล้วครับ โดยเริ่มแรกนั้นคณะกรรมการมรดกโลกจะต้องทำการเลือกสรรสถานที่ที่มีความโดดเด่นในระดับหนึ่งตามกฎเกณฑ์ที่ Unesco กำหนดอย่างน้อยหนึ่งกฎเกณฑ์ (Criteria) เมื่อทางคณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วก็จะทำการเขียนเสนอแก่ Unesco World Heritage Committee โดยระบุประวัติ ความสำคัญ ความโดดเด่น การศึกษาเปรียบเทียบ และบริเวณพื้นที่ที่จะทำการอนุรักษ์ (Core Zone และ Buffer Zone) การเสนอช่วงนี้เพื่อจะได้บรรจุในบัญชี Tentative List ซึ่งถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมระดับที่หนึ่งในการเสนอเป็นมรดกโลก ในปัจจุบันนั้นแม้จะมีการนำเสนอข่าวมากมายว่าจะเสนอหลายพื้นที่เป็นมรดกโลก เช่น เชียงแสน พระปฐมเจดีย์ วัดเบญจมบพิตร ภูเขาทอง วัดสุทัศน์ เสาชิงช้า แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไทยนั้นเสนอไปแค่สองแห่งเท่านั้น คือ อุทยานภูพระบาท ที่บ้านผือ และเส้นทางวัฒนธรรมปราสาทหินพิมาย ที่จะรวมเหล่าปราสาทหินต่างๆของอีสานใต้ ที่สำคัญคือ พนมรุ้งและเมืองต่ำ เสนอเข้าบรรจุมาได้ ๓ ปีกว่าแล้วแต่ไม่มีอะไรคืบหน้ามากน่ะ เมื่อบรรจุใน Tentative list แล้ว ทางไทยมีเวลา 10 ปีที่จะเตรียมตัวนำเสนอสถานที่นั้นเป็นมรดกโลก เมื่อพร้อมแล้วก็แจ้ง Unesco ทาง Unesco ก็จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์ ถ้าเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจะเป็นหน้าที่ของ IUCN ส่วนวัฒนธรรมนั้นจะเป็นหน้าที่ของ ICOMOS แทน เมื่อทางผู้เชี่ยวชาญมาดูแล้วก็จะทำรายงานว่าสถานที่นั้นควรเป็นมรดกโลกหรือไม่ การสรุปผลนั้นมีตั้งแต่ ให้เป็น ไม่ให้เป็น ให้เลื่อนไปก่อนเพราะยังไม่พร้อม หรือให้เลื่อนไปก่อนเพื่อเปิดโอกาสให้ทางผู้เสนอไปแก้ไขตามที่ผู้เชี่ยวชาญร้องขอ World Heritage Committee จะประชุมกันทุกปีช่วงปลายกรกฎาคม ซึ่งตามปกติจะตัดสินตามที่ทางผู้เชี่ยวชาญเขียนมา แต่จะเปิดโอกาสให้แต่ละประเทศได้ชี้แจ้งว่าได้ทำการแก้ไขแล้วตามที่ผู้เชี่ยวชาญร้องขอ ซึ่ง WHC ก็อาจจะอนุมัติรับเป็นมรดกโลกได้เช่นกันแม้จะขัดกับรายงานเบื้องต้น (แต่ถ้าผู้เชี่ยวชาญบอกว่าไม่ นี้คือจบเลยน่ะครับ) การตัดสินใช้ Vote ว่ารับหรือไม่รับเท่านั้น ไม่มีการขอคะแนนตามที่คุณ the Vicky เข้าใจครับ ปัจจุบันมีคนเข้าใจว่ามรดกโลกจะนำมาซึ่งรายได้การท่องเที่ยว คำอ้างนี้ถูกเพียงครึ่งเดียวครับ มรดกโลกมากมายไม่จำเป็นต้องอาศัยชื่อมรดกโลกเลยเพื่อหาเงิน เช่น ปารีส โรม กำแพงเมืองจีน ปิรามิดกิซา แกรนแคนยอน หรือเทพีเสรีภาพ และมรดกโลกบางแห่งก็เพื่อการคุ้มครองอย่างแท้จริงจนห้ามคนเข้าไป เช่น ป่าชิรากามิใน ญี่ปุ่น พวกโบสถ์เก่าๆแถวยุโรปตะวันออกที่ห้ามคนเข้าเลยนอกจากผู้เชี่ยวชาญ หรือพวกแหล่งโบราณคดี ฯลฯ แต่มรดกโลกบางแห่งนั้นดังได้เพราะชื่อมรดกโลก เช่น หลวงพระบาง พวกเมืองเก่าต่างๆในยุโรป พวกนี้ทาง Unesco ต้องการให้มีรายได้เพื่อจะได้อนุรักษ์ เรื่องเงินช่วยเหลือจาก Unesco นั้นน้อยมากๆครับ จนไม่พอใช้ ผมเคยไปคุยกับคนดูแลมรดกโลกแห่งหนึ่งในยุโรป เขาบอกว่าเงินที่จะมาปลูกหญ้าใหม่ยังไม่มีเลย รายได้นั้นส่วนใหญ่จะมาจากรัฐโดยตรงที่สัญญากับ Unesco ว่าจะให้ จากคุณ : worldheritagelover - [ 5 ก.ย. 49 20:08:02 A:58.8.125.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 กลับมาที่คุณ Cherokee 1 ถามนั้นในกรณีพระบรมมหาราชวังนั้นคุณเข้าใจถูกแล้วครับ ถ้าพระบรมมหาราชวังเป็นมรดกโลก อย่างน้อยพระที่นั่งบรมราชสถิตยฯ ก็ต้องรื้อทิ้งหรือห้ามสร้างตั้งแต่แรก ซึ่งผมถือว่าเป็นหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างมาก ที่จะไปห้ามในหลวงปรับปรุงบ้านท่าน ทางคณะกรรมการมรดกโลกเลยใช้ทางเลี่ยงเป็น "สภาพภูมิทัศน์ริมฝั่งเจ้าพระยาจากสะพานพุทธถึงท่าวาสุกรี" แต่ว่าผลก็เหมือนกันครับฉะนั้นการเสนอมรดกโลกอันนี้น่าจะยากมากจนกว่าจะได้รับพระบรมราชานุญาต ตัวอย่างง่ายๆคือ วัดโพธิ์ยังไม่เสนอเลยครับเพราะ Buffer Zone จะไปทับเขตพระบรมมหาราชวัง แต่ที่ผมแปลกใจมากคือวัดเบญจฯ ที่กลับอยู่ในแผนทั้งๆที่ยังไงคงต้องทับเขตวังสวนจิตฯ แต่เรายังมีอีกหลายที่ครับที่อยู่ในแผน เช่น วัดอรุณฯ วัดราชนัดดาราม วัดสุทัศน์ฯ เสาชิงช้า ภูเขาทอง วัดราชาธิวาส วัดบวรฯ ที่เราสามารถเสนอได้ ถ้าเจ้าอาวาสยอม! คุณ Cherokee1 คงต้องภาวนาให้ทางคณะกรรมการมรดกโลกไทยเสนอเร็วๆอย่างน้อยเข้า Tentative list ก็ยังดี เพราะวัดไทยสวยไม่เหมือนใคร และถ้าเทียบกับกรณีของเกียวโตของญี่ปุ่น ซึ่งแม้เมืองจะสร้างใหม่ทันสมัย ทางเกียวโตก็เสนอเฉพาะเขตวัดเท่านั้นไม่ใช่ทั้งเมือง ผมคิดว่าถ้าเราเสนอ ได้เป็นแน่นอนครับ กรณีเขาพระวิหารที่คุณ the Vicky กล่าวถึงนั้น รอกรกฎาคมปีหน้าครับ ทางรัฐบาลกัมพูชาส่งเรื่องให้ Unesco แล้ว และทาง ICOMOS ก็ได้รับว่าจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาดู ฉะนั้นคงต้องรอว่าทางกัมพูชาจะได้มรดกโลกแห่งที่สองหรือไม่ (แห่งแรกคือกลุ่มปราสาทนครวัด นครธมและบันทายศรี นับเป็นอันเดียว) ในปีหน้าที่เขาจะประชุมกันที่ New Zealand จากคุณ : worldheritagelover - [ 5 ก.ย. 49 20:20:01 A:58.8.125.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ว๊าว กระจ่างแจ่มแจ๋วไปเลยค่ะคุณ worldheritagelover ขอบคุณนะคะ จากคุณ : the Vicky - [ 5 ก.ย. 49 21:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณมากเลยครับ แจ่มกระจ่างดีจริงๆ เท่าที่ทราบประเทศไทยเสนอไป 3 ที่ในปี 2005 คือ อุทยานแห่งชาติภูพระบาท เส้นทางวัฒนธรรมปราสาทหินพิมาย และผืนป่าเขาใหญ่ดงพญาเย็น  แต่มีเพียงเขาใหญ่ดงพญาเย็นเท่านั้นที่ได้รับการคัดเลือกในปีเดียวนั่นเอง ผมเองกำลังสะสมโปสการ์ดของ UNESCO World Heritage Sites จากทั่วโลก  ภาพจากหลายๆ ที่นั้นยังสวยไม่เท่ากับวัดต่างๆ ในกรุงเทพฯ  เลยสงสัยว่าทำไมที่สวยๆ อย่างนี้ถึงไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกให้เชิดหน้าชูตา  เห็นของชาติอื่นแล้วบอกได้เลยว่าศิลปะของชาติเรานี่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครในโลก (อาจจะยกเว้นเขมร ลาว พม่า ที่พอจะใกล้เคียงบ้าง)  เห็นแล้วก็ได้แต่ภูมิใจในเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาติไทยครับ จากคุณ : Cherokee1 - [ 5 ก.ย. 49 22:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่า กำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม มันไม่ได้สวยไปกว่าวัดอะไรของไทย นะ แต่มันอลังการงานสร้างกว่าเท่านั้น อยากรู้เหมือนกันว่ามรดกโลกมีอะไรบ้าง จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 5 ก.ย. 49 23:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ Cherokee 1 ผมยินดีมากเลยที่คุณสนใจในเรื่องมรดกโลก ซึ่งผมถือว่าเป็นนโยบายที่ดีมากของ Unesco ในการที่จะอนุรักษ์สถานที่ต่างๆ แต่ที่สำคัญที่สุดของโครงการนี้คือ ต้องการให้ชาวโลกสนใจในความแตกต่างทางวัฒนธรรม และเข้าใจในความแตกต่างนั้น การที่รัฐแต่ละรัฐเสนอสถานที่เป็นมรดกโลกนั้น รัฐเหล่านั้นต้องคัดสรรว่าสิ่งนี้แสดงถึงวัฒนธรรมหรือธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นในชาติของตน ยกตัวอย่างกรณีของเนเธอร์แลนด์ มรดกโลกของเขานั้นเกี่ยวข้องกับการที่เขาต้องต่อสู้กับน้ำเพราะประเทศของเขาอยู่ในระดับต่ำกว่าน้ำ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไปประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อแค่ชมดอกทิวลิปกับกังหันลม ก็จะเข้าใจประเทศนี้แบบผิวเผิน แต่ถ้าคุณไปเที่ยวตามมรดกโลกของเนเธอร์แลนด์ คุณจะเข้าใจประวัติศาสตร์การต่อสู้กับธรรมชาติ สงครามกับเยอรมัน หรือแม้แต่การออกแบบทันสมัยทางวิศวกรรม ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจในตัวตนของประเทศนั้นมากขึ้น จริงอยู่สถานที่เป็นมรดกโลกบางแห่งแม้ไม่สวยงาม แต่เราต้องดูด้านอื่นด้วย โดยเฉพาะความโดดเด่นและประวัติศาสตร์ เช่น กรณีของพระราชวังต้องห้ามในปักกิ่ง ถ้าเราไปดูแค่ความใหญ่อย่างเดียวเราก็จะไม่เข้าใจและชื่นชมมัน เราต้องอย่าลืมว่าที่นี้เป็นศูนย์กลางอำนาจของจักรวรรดิจีนเกือบ 700 ปี อำนาจของฮ่องเต้กระทบไปทั่วแม้แต่ประเทศไทย การเข้าใจประวัติศาสตร์เบื้องหลังมรดกโลกจึงสำคัญมาก ฉะนั้น Unesco จึงพยายามให้คนไปเที่ยวมรดกโลกต้องศึกษาทำความเข้าใจก่อนไปชม กรณีของไทยนั้นนับว่าโชคร้ายที่ทางคณะกรรมการมรดกโลกมีความคิดรูปแบบมรดกโลกที่คับแคบ คือเน้นซากโบราณสถานหรือแหล่งโบราณคดีที่เรียกว่า โดนแช่แข็งแล้ว เช่นกรณีของริมฝั่งเจ้าพระยาที่อยากจะเสนอ คุณคงจำได้ว่ามีความคิดรื้อชุมชนต่างๆแถวท่าเตียนท่าช้างออกไปเพื่อเปิดภูมิทัศน์วัดโพธิ์ วังหลวงและวังหน้า ถ้าเป็นเมืองนอกเขาจะบ่อยให้ชุมชนนี้อยู่ต่อ แต่จะปรับปรุงให้เข้ากับบรรยากาศโดยรอบ แต่ของไทยต้องรื้อเพราะชอบอะไรที่แช่แข็งแล้ว (สงสัยเพราะเป็นเมืองร้อนเลยชอบทำอะไรแบบเย็นๆ) มีสถานที่มากมายครับที่เราสามารถเสนอเป็นมรดกโลกได้อย่างสบายแต่ทางคณะกรรมการไม่สนใจ จากการที่ผมมีโอกาสไปศึกษาดูมรดกโลกกว่า 200 แห่งทั่วโลก ผมพูดได้เต็มปากเลยไทยนั้นควรมีมรดกโลกอย่างน้อย 8 แห่งครับ เพราะมีความโดดเด่นมาก เช่น วัดของทางเหนือที่เป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักรล้านนาโบราณ (พวกอาณาจักรโบราณแล้วหายไปนี้ ทาง Unesco จะชอบมากเวลาเสนอ) วัดวังในกรุงเทพฯ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานถ้าเสนอร่วมกับป่าฝั่งพม่า หรือแม้แต่ทางรถไฟสายมรณะ มรดกโลกนั้นตอนนี้กำลังจะเปลี่ยนบทบาทมากขึ้น มีการเชื่อมโยงฐานะมรดกโลกกับการปกป้องชุมชนและเศรษฐกิจ มีหลายชาติที่เสนอพวกไร่สวนต่างๆ โดยเฉพาะแหล่งทำไวน์ขึ้นเป็นมรดกโลก ผลิตภัณฑ์จากแหล่งมรดกโลกจะกลายเป็นของดีราคาแพง แถมรัฐต้องคอยอุดหนุนปกป้อง ไม่ให้มีคู่แข่ง ช่วยหยุดยั้งการเข้ามาของธุรกิจข้ามชาติ (เช่นกรณีฮังการี แหล่งปลูกองุ่นทำไวน์ของเขานั้นเกือบจะสูญไปแล้ว เพราะสู้ไวน์จากที่อื่นไม่ได้ พอได้เป็นมรดกโลก รัฐบาลฮังการีเลยใช้ข้ออ้างนี้ในการค้มครองแม้จะขัดกับการค้าเสรีก็ตาม) จะเห็นว่ามรดกโลกนั้นมีอะไรลึกๆมากกว่าที่คนทั่วไปคิดน่ะครับ ถ้าสนใจมรดกโลกและอะไรมากมายที่ซ้อนอยู่มากๆก็ไปที่เว็บไซท์ http://whc.unesco.org/ หรือไปที่เว็บไซต์ของกลุ่มคนรักมรดกโลกก็ได้ที่ http://www.worldheritagesite.org/ เว็บหลังนี้จะมีคนจากทั่วโลก (ผมด้วย) มาเขียนประสบการณ์เล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับมรดกโลก และบางข้อเขียนจะให้ความรู้มากเรื่องเบื้องหลังของการเสนอสถานที่แต่ละแห่ง สนใจก็ไปดูน่ะครับ จากคุณ : worldheritagelover - [ 6 ก.ย. 49 09:38:28 A:58.8.119.217 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพันครับ มรดกโลกปัจจุบันมีถึง 830 แห่ง (มีข่าวลือว่าทาง Unesco จะยอมให้มีถึงแค่ 1000 แห่งเท่านั้น แล้วก็จะปิดโครงการมรดกโลก) แต่ที่บอกว่า 830 นั้นไม่ได้หมายถึงสถานที่ 830 แห่งน่ะครับ จริงๆแล้วมันมากมายจนแทบนับไม่ถ้วน เช่น กรณีสุโขทัย ชื่อเดียวแต่หมายถึง สุโขทัย ศรีสัชนาลัยและกำแพงเพชร รวม 3 แห่ง หรือหอระฆังแห่งเบลเยี่ยมหมายถึงหอระฆังทั่วเบลเยี่ยมกว่า 30 แห่ง คุณอาจจะคิดว่ามากแล้ว คุณอาจจะไม่อยากเชื่อกรณีของสเปนที่เสนอถ้ำเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์กว่า 300 แห่งในคราวเดียวภาพใต้ชื่อเดียว สนใจอยากรู้ก็ไปดูได้ที่เว็บไซต์ด้านบนน่ะครับ จากคุณ : worldheritagelover - [ 6 ก.ย. 49 09:39:19 A:58.8.119.217 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยเลยครับว่าประเทศไทยน่าจะมีมรดกโลกมากกว่านี้ เพราะมีความโดดเด่นในแง่ประวัติศาสตร์และธรรมชาติ  แต่คงเป็นเพราะการบริหารจัดการมากกว่าเลยไม่ได้ทำเรื่องเสนอไป  ไม่เหมือนชาติอื่นที่เขาฉวยประโยชน์จากตรงนี้ในการสร้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หลายที่ที่เป็นมรดกโลกก็ไม่ได้สวยงามอะไรเลยครับ แต่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างเช่น ค่ายกักกัน Auschwitz Concentration Camp ที่นาซีใช้ขังพวกยิวและฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เห็นแบบนี้แล้วก็เห็นด้วยว่าเส้นทางสายมรณะของเราก็น่าจะได้รับการพิจารณาบ้างเช่นกัน  ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในภูมิภาคนี้ แต่กลับมีมรดกโลกแค่ 5 ที่ และ 2 ใน 5 ก็ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวใหญ่เสียด้วย  ไม่แน่ใจว่าหน่วยงานหรือองค์กรไหนที่ทำรับผิดชอบเรื่องนี้ของประเทศไทยครับ กรมศิลปากรหรือเปล่า นอกจากนี้ผมยังได้ยินอีกว่าผืนป่าเขาใหญ่ดงพญาเย็นนั้นที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลก เพราะเราไปสัญญาว่าจะเชื่อมป่าทั้งหมดให้เป็นผืนเดียวกัน  แต่เห็นว่ากำลังสร้างทางหลวงที่ตัดผ่านผืนป่านี้  แบบนี้ไม่ทราบว่าจะมีการถอดถอนเอาคืนหรือเปล่านะครับ จากคุณ : Cherokee1 - [ 6 ก.ย. 49 13:38:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 การเสนอพื้นที่มรดกโลกนั้น นโยบายของแต่ละประเทศไม่เหมือนกันครับ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบ 1) เอาของดีจริงๆเป็นมรดกโลกเพราะทำให้เห็นความสุดยอดของประเทศนั้น 2) เอาของระดับกลางๆเป็นมรดกโลกจะได้เรียกนักท่องเที่ยวให้มาดู ส่วนของดีไม่จำเป็นเพราะดังอยู่แล้ว (พวกนี้อาศัยชื่อมรดกโลกครับ) 3) เน้นของแปลกไม่เหมือนใคร เป็นของที่คนทั่วไปมองข้าม หรือสำคัญเฉพาะกลุ่ม (อาศัยชื่อเช่นกันแต่ในทางที่ดีเพราะปกตินักท่องเที่ยวจะเข้าชมได้ยากอยู่แล้ว ประเภทเอากล่องไม่เอาเงิน) บางประเทศฉลาดมากในช่วงแรกจะเสนอของด้อยๆ ไปก่อน พอได้เป็นมรดกโลกแล้ว ก็เสนอของดีตาม WHC พอเห็นของดีกว่าก็ต้องยอม สุดท้ายแทนที่จะได้มรดกโลกแห่งเดียวกลายเป็นอย่างน้อยสองแห่ง (พวกชาติในยุโรปชอบทำกัน) ปัจจุบันชาติที่มีมรดกโลกเป็นจำนวนมากคือ จีน อิตาลี สเปน เยอรมัน คือมีมากกว่า 30 แห่ง อิตาลีกับจีนนั้นคุณคงต้องรับเพราะเป็นแหล่งวัฒนธรรมและของสุดยอดทั้งหลาย เวลามองดูรายชื่อมรดกโลกของอิตาลีคุณจะรู้จักเป็นส่วนใหญ่เพราะมันดังของมันเอง แต่ปัญหาที่ผมบอกนั้นเริ่มลดน้อยลงเพราะปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไกล การศึกษาเปรียบเทียบหาความโดดเด่นนั้นมีความละเอียดมากยิ่งขึ้น พวกสถานที่เกรดบีก็จะถูกคัดออกก่อนที่จะมาถึงมือ WHC ยุคทองในการเสนอมรดกโลกแบบต่ำมาตรฐาน (นี้เป็นสาเหตุว่าบางสถานที่เราไม่เข้าใจเลยว่าเป็นมรดกโลกได้อย่างไร ทั้งๆที่มีสถานที่อื่นที่ดีกว่า) น่าจะผ่านไปแล้วครับ ไทยเหินห่างจากการนำเสนอมรดกโลกถึงกว่า 10 ปี แต่การเสนอของเรานั้นจะเป็นการยืนยันว่าของๆเราดีจริงๆ (ถ้าเขายอมรับ) แม้จะมีน้อยแต่ได้รับการยอมรับดีกว่ามีมากแต่ไปชมแล้วเกิดความสงสัยน่ะครับ จากคุณ : worldheritagelover - [ 6 ก.ย. 49 16:56:09 A:58.8.124.239 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 49 20:59:54 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 49 17:32:34 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 49 17:29:41 จากคุณ : worldheritagelover (worldheritagelover) - [ 6 ก.ย. 49 17:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กรณีของเขาใหญ่นั้นน่าสนใจครับ เมื่อประมาณ 10กว่า ปีที่แล้ว หลังจากที่ไทยได้เข้าเป็นสมาชิกของกฎบัตรมรดกโลก ไทยได้แจ้งแก่ Unesco ว่าจะเสนอสถานที่ทั้งหมด 6 แห่งให้พิจารณานั้นคือ 1. สุโขทัย - ศรีสัชนาลัย - กำแพงเพชร 2. อยุธยา 3. บ้านเชียง 4. ห้วยขาแข้ง 5. ตะรุเตา 6. เขาใหญ่ เรียกว่าเป็นทางวัฒนธรรม 3 และธรรมชาติ 3 ดูดีมากครับ 4 อันแรกเขารับแทบจะทันที เพราะโดดเด่นมาก แต่ตะรุเตานั้นเขาปฎิเสธครับเพราะไม่ได้มีความโดดเด่นอะไร ส่วนเขาใหญ่นั้นเขาให้เลื่อนไปก่อน เพราะมีข่าวว่าจะสร้างเขื่อนในช่วงนั้น และพื้นที่ที่เสนอไปมีขนาดเล็กเกินไป ทางคณะกรรมการมรดกโลกพอเสนอไปไม่ได้ก็ดองเค็มครับ ตามสไตล์ราชการไทย แต่ในที่สุดก็พื้นขึ้นมาเพราะจริงๆแล้วทาง IUCN ชอบเขาใหญ่มาก ทางคณะกรรมการเลยเสนอไปใหม่ โดยแก้ไขข้อติเดิมคือเรื่องเขื่อนกับขนาดที่เล็ก โดยการแจ้งว่าโครงการเขื่อนยกเลิกไปแล้ว ส่วนพื้นที่ก็ขยายไปรวมกับปางสีดา ตาพระยาและอื่นๆตามทิวเขาดงพญาเย็น จนได้พื้นที่ใหญ่โตสร้างความพอใจแก่ IUCN เป็นอย่างมาก เพราะป่าใหญ่แถมสัตว์เยอะดีสมเป็นมรดกโลก ปัญหาคือตรงกลางระหว่างเขาใหญ่กับกลุ่มป่าดงพญาเย็นนั้นมีถนนกั้นอยู่ จริงๆแล้วการมีถนนกั้นนั้นไม่ขัดต่อการเป็นมรดกโลกน่ะครับ มรดกโลกทางธรรมชาติมากมายที่มีถนนผ่ากลาง แต่ทางไทยนั้นกลัวว่าจะเป็นข้อด้อยขอการนำเสนอ จึงสัญญาว่าจะทำทางเชื่อมระหว่างป่าให้กลายเป็นผืนเดียวกัน การทำนั้นก็ไม่มีอะไรมากครับคือ ทำถนนเดิมให้เป็นอุโมงค์ ด้านบนก็ถมดินจนกลายเป็นเนินขนาดใหญ่แล้วก็ปลูกต้นไม้ไว้ให้สัตว์เดินโดยไม่ต้องข้ามถนน รู้สึกว่าต้องทำอย่างน้อยสองจุดครับที่ไทยไปสัญญาไว้ โครงการเจ้าปัญหานั้นก็คือถนนสายเดิมนั้นแหละครับแต่จากสองเลนจะขยายเป็นสี่เลน ทาง Unesco นั้นได้กังวลเรื่องปริมาณรถที่ใช้ถนนสายนี้มาก ถ้าทำเป็นสี่เลน รถย่อมมากขึ้นตามลำดับซึ่งจะทำให้คุณค่าของผืนป่าด้อยลงไปในที่สุด ตามปกติถ้ามีโครงการเช่นนี้จะต้องแจ้งแก่ Unesco ทางนั้นจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาประเมิน ถ้าเขายอมรับก็ไม่มีปัญหาครับ แต่ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นคือรัฐทำเลยไม่เคยถาม Unesco เมื่อทำเสร็จแล้วค่อยบอก (หรือลืมบอกไปเลย) Unesco จะส่งคนมาดูแล้วรายงานแก่ WHC ให้ตัดสินอีกที โดยปกติ WHC ก็จะออกหนังสือแสดงความเสียใจที่รัฐไม่ปฎิบัติตามที่สัญญาไว้ว่าจะอนุรักษ์ให้คงสภาพเดิม (นี้คือจุดอ่อนของ Unesco ครับคือไม่มีอำนาจบังคับใครได้) ถ้าผู้เชี่ยวชาญที่ส่งมาดูแล้วบอกว่าพอแก้ไขได้ก็ค่อยยังชั่ว เลวร้ายหน่อยก็ทำการแก้ไขพื้นที่ที่เคยเสนอเป็นมรดกโลกโดยเสนอพื้นที่เล็กลงตัดส่วนที่เสียหายไป ถ้ามันเละเสียหายมากจริงๆก็จะถอนสถานะมรดกโลก แต่เหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นครับ แต่ใช่ว่าจะไม่เกิดน่ะครับ ปีนี้เองที่ WHC ประกาศว่าจะถอนสภาพมรดกโลกของเมืองเดรสเดน ในเยอรมนี ถ้าทางเทศบาลเมืองเดรสเดนสร้างสะพานข้ามแม่น้ำในย่านเมืองเก่า คำประกาศนี้สร้างความแตกตื่นมากสำหรับคนในวงการ เพราะเป็นอะไรที่รุนแรงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แสดงว่าต่อไป WHC เอาจริงแล้วครับ (หวังว่า) พอเดรสเดนได้คำขู่เลยเปลี่ยนเป็นอุโมงค์ลอดแม่น้ำแทน เลยรอดไป ผมหวังว่าไทยคงจะไม่ได้รับเกียรติที่จะเป็นชาติแรกที่ถูกถอนน่ะครับ จากคุณ : worldheritagelover - [ 6 ก.ย. 49 21:00:10 A:58.8.124.33 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านกระทู้นี้ได้ความรู้มากครับขอคุยด้วยคนนะครับ ผมเห็นด้วยเลยว่า เส้นทางรถไฟสายมรณะ สามารถเสนอเป็นมรดกโลกได้สบายๆ ผมได้ไปเมืองกาญจน์มาเมื่อหน้าหนาวปีที่แล้ว ปรากฎว่าอากาศหนาวมากๆ แล้วไปเจอ คนยุโรปมากมาย พวกเขามาเคารพหลุมศพญาติผู้ใหญ่ มิตรสหายที่ตายในสงครามโลกครับ ส่วนคนญี่ปุ่นก็นิยมไปเที่ยวที่นี่กันมาก เพราะเขาต้องการไปดูสิ่งที่เชื่อมโยงกับชาติของเขาในประเทศเราครับ บางคนก็มีญาติมาตายที่นี่ก็เยอะครับ แต่นักท่องเที่ยวไทย กลับสนใจเรื่องนี้กันน้อย (จริงๆ ต้องบอกว่า เราสนใจสถานที่ๆ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กันน้อยมากกว่า อย่างคนที่ไปอยุธยา ส่วนมากไปไหว้พระกัน จะมีสักกี่คนที่ไปศึกษาประวัติศาสตร์) อีกเรื่องคือ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนที่มีอยู่เดิมในสถานที่นั้นๆ อย่างที่คุณ worldheritagelover ได้กล่าวไปแล้วว่า ไทยเราชอบแช่แข็งสถานที่ ทำให้สถานที่เป็นที่แข็งๆ แห้งๆ ไม่มีชีวิตชีวา ชอบไล่คนออกนอกสถานที่ เราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการศึกษาถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนนั้นๆ ซึ่งตรงนี้ต้องขอแสดงความยินดีกับชุมชนหลังป้อมพระสุเมรุ ที่ต่อสู้จนได้อยู่ต่อในเขตที่บรรพบุรุษเคยอยู่มากว่า 100 ปี แล้วตกลง ปากคลองตลาด ท่าเตียน ท่าพระจันทร์ยังต้องย้ายไปอีกไหมครับ ถ้าต้องย้ายไปน่าเสียดายแย่ และก็คงจะทำให้บริเวณนั้นเหลือแต่ "ภูมิทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำ" อย่างเดียวจริงๆ จากคุณ : ขอแจม (Toddy&Hammy) - [ 9 ก.ย. 49 01:57:05 ]