ความคิดเห็นที่ 10
ตอน ๔ ธนบัตร หมาย เงินกระดาษหรือธนบัตร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2396 เพื่อความสะดวกในการชำระหนี้จำนวนมาก ดังหลักฐานจดหมายเหตุรัชกาลที่ 4 เรียกว่า หมาย เป็นเครื่องแลกทำด้วยกระดาษ มีตัวอักษรพิมพ์และประทับพระราชลัญจกร 3 ดวง ให้ราคาตั้งแต่เฟื้องจนถึงหนึ่งบาท ผลิตขึ้น 3 ประเภท คือ หมายประเภทที่หนึ่ง ทำด้วยกระดาษปอนด์สีขาวขนาดใหญ่ ความกว้าง 4 นิ้ว ความยาว 5 นิ้วครึ่ง สันนิษฐานว่าผลิตขึ้นครั้งแรกใน พ.ศ. 2396 ตามหลักฐานที่ปรากฏ มีสี่ราคา ได้แก่ สามตำลึง สี่ตำลึง หกตำลึง และสิบตำลึง ด้านหน้ามีกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองชั้นและบ่งราคาไว้ เช่น หมายราคาสี่ตำลึง มีความหมายว่า ใช้สี่ตำลึงให้แก่ผู้เอาหมายนี้มาให้เก็บหมายนี้ไว้ทรัพย์จักไม่สูญเลย ทั้งสองข้างมีตราอักษรจีน (แปลว่าพิทักษ์หรือคุ้มครองประทับอยู่เท่ากับจำนวนตำลึง และมีตราใบไม้ประทับอยู่บนตราอักษรจีนอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันการปลอมแปลง ตรงกลางประทับตราจักรและตรามหาพิชัยมงกุฎ สำหรับด้านหลังเป็นลายเครือเถาเต็มทั้งด้าน มีตราชาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นอักษรขอมประทับอยู่ แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า กรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทรมหินทรายุธฌิยาบรมราชธานี หมายประเภทที่สอง เป็นกระดาษปอนด์สีขาว ขนาดความกว้าง 2 นิ้ว ความยาว 3 นิ้วครึ่ง สันนิษฐานว่าออกใช้ในปี พ.ศ. 2396 มีราคาหนึ่งเฟื้อง หนึ่งสลึง สลึงเฟื้อง สองสลึง สองสลึงเฟื้อง สามสลึง สามสลึงเฟื้อง และหนึ่งบาท ด้านหน้ามีกรอบรูปวงกลมเล็ก ๆ เหนือกรอบมีวงกลมดุนเล็ก ๆ สองวง ประทับตราชาดเช่นเดียวกับหมายประเภทที่หนึ่ง และบ่งราคาไว้ เช่น หมายราคาสองสลึง ก็มีว่า เงิน2 ใช้หมายนี้แทนเถิด เข้าพระคลังจักใช้เงินเท่านั้น ให้แก่ผู้เอาหมายนี้มาส่งในเวลาแต่เที่ยง ไปจนบ่ายสามโมงทุกวัน ณ โรงทหารพระบรมมหาราชวังฯ ด้านหลังเป็นกรอบรูปดอกไม้และใบไม้ มีอักษรบอกราคาเป็นหนังสือไทย จีน ลาติน อังกฤษ กุจาตี มลายู เขมร พม่า รามัญ ลาว สันสกฤตและบาลี ประทับตราจักรและตรามหาพิชัยมงกุฎ สำหรับหมายมูลค่าต่ำจะมีดุนนูน จำนวนเท่ากับมูลค่าของหมาย ประทับไว้ที่ขอบของหมายแต่ละฉบับ เพื่อป้องกันการปลอม และเพื่อให้คนตาบอดคลำดูจะได้ทราบมูลค่าชนิดราคาที่พิมพ์ไว้ หมายประเภทที่สาม เป็นกระดาษปอนด์สีขาว ความกว้าง 2 นิ้ว ความยาว 3 นิ้ว เท่าที่หลักฐานปรากฏว่ามีราคายี่สิบบาท และแปดสิบบาท ด้านหน้ามีกรอบลวดลายต่าง ๆ กัน ภายในกรอบมีข้อความว่า หมายสำคัญนี้ ให้ใช้แทน 320 ซีก ฤา 640 เสี้ยว ฤา 1280 อัฐ ฤา 2560 โสฬส คือเป็นเงินยี่สิบบาท ฤา ห้าตำลึง ฤา 12 เหรียญนก ฤา 28 รูเปีย ได้ให้ไปเปลี่ยนที่พระคลังจะได้จงเชื่อเถิด ประทับตราจักร และตรามหาพิชัยมงกุฎ ด้านหลังเป็นภาษาอังกฤษ ปรากฏข้อความดังนี้ Twenty Ticals This is the Testimony for exchange of the following names 320 halves, or 640 quarters, or 1280 eights, or 2560 sixteenths of a fuang, or 20 Ticals, or $ 12, or 28 Ruppees, can be obtained in any one manner at Grand Treasury Palace, Bangkok บัตรพระราชทานเงินตรา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้ผลิตขึ้นใช้ ผู้ที่ได้รับสามารถโอนต่อให้ผู้อื่นหรือนำไปขึ้นเงินสดได้ หากเก็บไว้จนมีครบเก้าใบ แล้วนำไปขึ้นเงินสด พระองค์จะพระราชทานเพิ่มให้อีกหนึ่งใบ นับว่าเป็นตราหนี้ชนิดที่เรียกว่า เช็คในปัจจุบัน ใบ พระราชทานเงินตรา หรือ เช็ค เป็นกระดาษสีขาวพิมพ์หน้าเดียว ไม่พบหลักฐานว่า ออกใช้ในปีใด สันนิษฐานว่าคงเป็นเรื่องจ่ายเบี้ยหวัดให้แก่ข้าราชการในยามที่เงินตราโลหะขาดแคลน ซึ่งอาจเป็นระหว่าง พ.ศ. 2399-2403 ว่ากันว่ามีราคา สามตำลึง สี่ตำลึง ห้าตำลึง เจ็ดตำลึง สิบตำลึง สิบสองตำลึง สิบห้าตำลึง หนึ่งชั่ง หนึ่งชั่งห้าตำลึง และหนึ่งชั่งสิบตำลึง มีขนาดกว้าง 3 นิ้วครึ่ง ยาว 4 นิ้วครึ่ง ใบพระราชทานเงินตราที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำขึ้นนี้ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ก็ได้ถือเป็นแบบอย่างใบสั่งจ่าย ให้ได้ใช้กันต่อมา แต่เรียกว่า พระบรมราชโองการ มีขนาดใหญ่ประมาณสามเท่าของใบพระราชทานเงินตรา การใช้หมายหรือที่พระคลังมหาสมบัติ เรียกว่า ธนบัตร และทั้ง เช็ค หรือที่เรียกกันว่าใบ พระราชทานเงินตรา นั้นมีมาตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์จึงทรงเป็น ผู้นำในการสร้างเครื่องแลกทำด้วยกระดาษโดยแท้จริง
จากคุณ :
เฉลิมพระเกียรติฯ
- [
13 ก.ย. 49 11:46:03
A:210.1.22.23 X: TicketID:102871
]
|
|
|