ความคิดเห็นที่ 1 ขอยกข้อความจากหนังสือ "ฝรั่งศักดินา" ของท่าน มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช มาตอบแล้วกันนะครับ "การพระราชทานตราของพระมหากษ้ตริย์แก่ร้านค้าต่างๆ นั้นเป็นธรรมเนียมสากล แสดงว่าร้านค้าต่างๆ เหล่านั้นได้ขายสินค้าให้แก่พระมหากษัตริย์มาด้วยดี เป็นเกียรติแก่ร้านนั้นๆ ในเมืองไทยเรานั้นองค์การค้าต่างๆ บางแห่งได้รับพระราชทานตราครุฑเป็นเกียรติ..." สรุปแล้วน่าจะหมายถึงว่าธนาคารหรือว่าร้านค้าที่มีตราครุฑพระราชทานที่หน้าร้านได้เคยทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับราชการมาด้วยดี อะไรทำนองนั้นกระมังครับ จากคุณ : เกียรตินำ - [ 12 ก.ย. 49 11:19:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ครุฑ เป็นสัญลักษณ์สำคัญเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ของไทยก็มีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ด้วยว่าไทยเราได้รับลัทธิเทวราชของอินเดียที่ถือว่าพระมหากษัตริย์คืออวตารของพระนารายณ์ ดังนั้น ครุฑซึ่งเป็นผู้มีฤทธิ์มากและเป็นพาหนะของพระนารายณ์ จึงเป็นสัญลักษณ์แทนพระมหากษัตริย์ ดังที่ปรากฏอยู่ในดวงตราหรือพระราชลัญจกรประจำพระองค์ ประจำแผ่นดิน ประจำราชวงศ์ และประจำรัชกาล เป็นต้น ซึ่งจากการที่เราใช้ “ตราครุฑ” เป็นพระราชลัญจกรสำหรับประทับหนังสือราชการแผ่นดินที่เป็นพระบรมราชโองการ และใช้พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ประทับหนังสือราชการแผ่นดินมาแต่โบราณกาล ต่อมาจึงได้มีการใช้ ตราครุฑ เป็นหัวกระดาษของหนังสือของราชการทั่วๆไปด้วย เพื่อให้ทราบว่างานนั้นเป็นราชการ ส่วนรูปครุฑที่เป็นธงแทนองค์พระมหากษัตริย์นั้นเรียกว่า “ธงมหาราช” เป็นรูปครุฑสีแดงอยู่บนพื้นธงสีเหลือง เริ่มใช้ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ธงมหาราชนี้เมื่อเชิญขึ้นเหนือเสา ณ พระราชวังใดแสดงว่าพระมหากษัตริย์ประทับอยู่ ณ ที่นั้น สำหรับครุฑที่ปรากฏอยู่ในขบวนเรือหลวงก็มีอยู่ ๓ ลำคือเรือครุฑเหินเห็จ เป็นหัวโขนรูปพญาครุฑสีแดงยุดนาค เรือครุฑเตร็จไตรจักรเป็นหัวโขนรูปพญาครุฑสีชมพูยุดนาค และ เรือนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่ ๙ เป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ เป็นเรือที่สร้างขึ้นในรัชกาลปัจจุบัน นอกเหนือจากการที่ “ตราครุฑ” ปรากฏในส่วนราชการต่างๆแล้ว ในภาคเอกชนก็สามารถรับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราครุฑหรือตราแผ่นดินในกิจการได้ด้วย โดยเริ่มมีมาแต่รัชกาลที่ ๕ ซึ่งเดิมเป็นตราอาร์ม โดยมีข้อความประกอบว่า “โดยได้รับพระบรมราชานุญาต” ต่อมาในรัชกาลที่ ๖ได้เปลี่ยนตราแผ่นดินเป็นตราพระครุฑพ่าห์ การพระราชทานตรานี้ แต่เดิมถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่จะพระราชทานตามพระราชอัธยาศัย ผู้ได้รับนอกจากจะเป็นช่างหลวง เช่น ช่างทอง ช่างถ่ายรูป เป็นต้นแล้ว ก็มักจะเป็นผู้ประกอบกิจการค้ากับราชสำนัก และเป็นประโยชน์ต่อราชการงานแผ่นดิน ปัจจุบันการขอพระราชทานตราตั้งนี้ต้องยื่นคำขอต่อสำนักพระราชวัง เพื่อพิจารณานำความขึ้นกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ซึ่งตราตั้งนี้ถือเป็นของพระราชทานเฉพาะบุคคล สิทธิรับพระราชทานและการใช้เครื่องหมายนี้จะสิ้นสุดเมื่อสำนักพระราชวังเรียกคืนเนื่องจากบุคคล ห้างร้าน บริษัทที่ได้รับพระราชทานฯตาย หรือเลิกประกอบกิจการหรือโอนกิจการให้ผู้อื่น หรือสำนักพระราชวังเห็นสมควรเพิกถอนสิทธิ จากบทความของ คุณอมรรัตน์ เทพกำปนาท กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 12 ก.ย. 49 11:28:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากค่ะ  ได้รับความรู้ดีมากๆจริงๆค่ะ จากคุณ : หยีซันกุ้ย - [ 12 ก.ย. 49 11:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 .........ผมเห็นมีอยู่ร้านหนึ่ง....แถวสวนสยามเป็นอู่ซ่อมรถเล็กๆๆๆ...มีรูปครุฑที่หน้าร้านด้วยล่ะ....ผมล่ะหงุดหิดมาก...เพราะผมพอจะรู้ว่าครุฑที่ติดหน้าร้านจะต้องได้มาอย่างไร.....แต่ร้านพึ่งเปิดใหม่ทำไมถึงทำอย่างนั้น จากคุณ : ราชันย์นักฆ่า - [ 12 ก.ย. 49 11:46:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 งั้นขอถามครับ อย่างในกรณีชินคอร์ป ที่ขายให้ สิงคโปร์ไปแล้ว หน้าอาคารชินวัตรทั้ง 3 แห่ง ยังเห็นมีครุฑอยู่แสดงว่าบริษัทที่มีเจ้าของเป็นต่างชาติก็สามารถได้รับพระราชทานใช่ไหมครับ ปล.ไม่เอาความเห็นทางการเมืองนะครับ จากคุณ : MRT - [ 12 ก.ย. 49 15:36:51 A:203.146.115.24 X: TicketID:113511 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตัวอย่างพระบรมราชโองการให้บริษัทเป็นบริษัทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสามารถใช้ตราครุฑในกิจการได้ ขออภัยไม่สามารถโพสต์ภาพได้ อาจเป็นเพราะภาพใหญ่เกินไป  แต่ต้องการแสดงตัวอย่างของบริษัทคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ(ประเทศไทย)จำกัดซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราครุฑในกิจการได้ เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๔๗ ลองดูตัวอย่างในเว็บข้างล่างก็แล้วกัน http://www.colgateprofessional.co.th/upload/index/GarudaDetail.jsp?lang=th แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 49 16:35:21 จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 12 ก.ย. 49 16:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กรณีการได้รับพระราชทานตราตั้ง หรือการขอรับพระราชทานตราตั้ง นิติบุคคล สามารถทำได้ครับ แต่ก็ตั้งเข้าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ซึ่งต้องประกอบกิจการอันเป็นสุจริต และสนองพระเดชพระคุณด้วยดีเสมอมา โดยไม่จำเป็นต้องเป็นธนาคารเก่าแก่ ห้างร้าน หรือกิจการขนาดใหญ่ กรณีธนาคาร ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับพระราชตราตั้งเสมอ เช่น ธนชาต ถึงแม้ว่าจะสนองพระเดชพระคุณด้วยดี ไม่ขอรับพระราชทานก็ทำได้ หรือกรณีชินคอร์ป ก็รับสนองพระเดชพระคุณเช่นกัน และขอรับพระราชทาน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้บริหารแต่ละที่ครับ (ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของกิจการครับ อย่างธนชาต ถือเป็นธนาคารใหม่ แต่ก็ประกอบกิจการเงินทุนหลักทรัพย์ ตอนนี้ก็เกือบ 30 ปีแล้วครับ) จากคุณ : พระนายไวย - [ 12 ก.ย. 49 19:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แบงก์บางที่ก็ไม่มีครุฑนะครับ อย่าง ธนชาต ก็ไม่มี เพราะยังไม่ได้ขอพระราชทาน แต่ในส่วนของแบงก์ออมสิน กรุงไทย ฯลฯ ที่ไม่มีครุฑเพราะมีสภาพเป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ของเอกชน ตามความเข้าใจผมนะ ตราตั้งน่าจะพระราชทานเฉพาะบริษัทห้างร้านของเอกชนเท่านั้น ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 49 13:53:16 จากคุณ : ๛tum๛ - [ 23 ก.ย. 49 13:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตามตำนานของศาสนาฮินดูเล่าว่าครุฑมีฤทธิ์มาก ต่อสู่ไม่แพ้ใคร อยู่มาวันหนึ่งมาเจอเข้ากับพระนารายณ์ จึงได้ประลองกัน สุ่กันยังไงก็ไม่มีใครชนะใครแพ้ จึงได้ทำข้อตกลงสงบศึกว่า โดยไม่ให้ใครเสียเปรียบได้เปรียบจึงให้เลือกคนละข้อ โดยครุฑเลือกว่า ตอนที่พระนารายณืประทัยอยู่ที่ใดให้มีครุฑอยุ่เหนือหัวเสมอ (ปัจจุบันสังเกตุได้ว่าที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเห็นรูปครุฑอยู่ข้างบนเสมอ เช่น ในวังสวนจิตรฯ เมื่อในหลวงประทับอยู่จะเชิญธงมหาราชนึ้นเสมอ) ส่วนพระนารายณ์เลือกว่าเมื่อใดที่พระองค์เสด็จไปไหนจะต้องให้พระองค์ขี้ครุฑไป (ปัจจุบันเห็นได้จากรถยนต์พระที่นั่งที่จะมีธงรูปครุฑอยู่หน้ารถ เครื่องบินพระที่นั่งก็ต้องติดรุปครุฑที่เครื่องบิน) ก็ไม่รุ้เหมือนกันนะวะระหว่างครุฑกับพระนารายณ์ใครฉลาดกว่ากัน เนื่องจากกษัตริย์ตามความเชื่อของศาสนาฮินดูคือเป็นอาวตารของพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าของศาสนาฮินดูที่สำคัญมี3 องค์คือ พระพรหม หรพนารายณ์ และพระศิวะ ซึ่งความสำคัญของพระนาราย์ได้กล่าวไปแล้ว เหลือพระพรหมกับพระศิวะ สิ่งที่กษัตริย์แสดงเปรียบพระพรหมคือพระพรหมนั้นมีพระพาหนะคือหงส์ ดังนั้น กษัตริย์ตอนเสด็จพระราชดำเนินทางชลมาครจึงต้องประทับเรื่องสุวพรรณหงส์ ส่วนพระศิวะ สิ่งแสดงคือเวลาฏษัตริย์แสดงออกว่าราชการจะประทับเหนือพระที่นั่งบุดตาลกาญจณสิงอาสน์ (เขียนไม่ถูกอะครับ) ซึ่งลักษณัของพระที่นั่งจะมีทั้งรู้สิงห์ ยักษ์ เทวดา อยู่ที่ฐานพระที่นั่ง ตลอดจนด้านข้างแวดล้อมด้วยต้นไม้เงิน ต้นไม้ทอง ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งแวดล้อมในพระหิมพาน ซึ่งเหนือพระที่นั่งจะกั้นด้วยพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร คือฉัตรที่มีสีขาวอันแสดงถึงเขาหิมาลัย สถานที่อยู่ของพระศิวะนั้นเอง จากคุณ : xiaoxin - [ 18 ต.ค. 49 13:44:17 ]