ความคิดเห็นที่ 1 จากกระทู้แล้วที่ถามเรื่องเชวอล บลองนั้น มันเป็นเรื่องของกลไกละค่ะ เพราะเคยเล่าให้ฟังแล้วว่า เชวอลได้พ่ายแพ้ต่ออำนาจเงินของ LVMH จนต้องขายไปให้กับ นายอาร์โนลต์ เช่นเดียวกับดีเคม และมือขวาของเขา คือ Pierre Lurton ที่มีวัยเพียงสามสิบเศษนั้น ไม่ใช่ธรรมดาเช่นกัน เพราะ คนคนนี้เป็นลูกหลานชาวไวน์ มีไร่ของครอบครัวชื่อว่า Chateau Marjosse ในพื้นที่ของ Entre-Deux-Mers อองเตร-เดอ-แมร์ อันหมายถึง ระหว่าง-สอง-ทะเล  ความจริงมันไม่ใช่ทะเลแต่เป็นแม่น้ำสองสาย คือ Garonne  และ Dordogne ที่ได้รับอิทธิพลของกระแสน้ำที่ขึ้นลงจากระดับของน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติค   ไร่ไวน์ในแถบของสามเหลี่ยมอองเตร เดอ แมร์ นี้ ทำการปลูกองุ่นขาวทำไวน์เป็นส่วนใหญ่ ที่มีทั้ง ดรายและหวาน เช่น  Semillon, Sauvignon, Muscadelle เชื่อว่าอีกหน่อย ก็คงจะเห็นผ่านตากันบ่อยๆ เพราะเริ่มส่งออกขายนอกประเทศเป็นจำนวนมาก.. ดูตามแผนที่ มุมล่างขวา จะเห็นมีลูกศรชี้ไปยังตำแหน่งที่ตั้ง.. แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 49 02:56:04 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 49 02:55:03 จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 02:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ว้า..ไม่รู้จะลดภาพแผนที่ได้อย่างไร เอาเป็นว่าตรงมุมขวาล่าง  ตรงพื้นที่สีเขียวสดๆนั่นไง.. เอ้า..เล่าต่อ เดี๋ยวจะกู่ไม่กลับ.. นายเลอตองนี้..เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง พอเข้ามาบริหารงานของเชวอล เธอก็ถอนสัญญาของกลุ่มตัวแทนการขายเก่าๆออกไปหมด หันมาคบค้าเซ้นสัญญา กับ เจฟฟรี่ย์ เดวี่ย์ เจ้าพ่อไวน์รถที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี่ไง.. (เห็นม๊ะ..ว่าวงจรไวน์ไวน์บอร์คโดซ์ที่ว่ายิ่งใหญ่นั้น ความจริงมันแคบนิดเดียว หมุนไปทางไหนก็ชนกันได้หมดแหละ) เพื่อเป็นการตอบแทนในความเอื้อเฟื้อ  เจฟฟรี่ย์ได้นำไวน์ของเลอตอง คือ ชาโต มาร์โชส์เซ  ไปให้บ๊อบได้ลองชิม ผลคือ ยอดเยี่ยม เป็นไวน์ที่ถือว่า best buy ก็เลยขายดีระเบิดเถิดเทิงไป.. แต่ผลงานในไร่ของเชวอล เลอตองได้บริหารอย่างเอาจริงเอาจัง  เขาสั่งปรับปรุงใหม่หมด ทุ่มทุนมหาศาลตามความเห็นชอบของนายอาร์โนลต์ ซีอีโอ.. รวมทั้งการปลูกองุ่นพันธ์ดีกว่าเก่า  ทำโลว์ยีลด์  เก็บสุกจัด และผลคือ เชวอล บลอง ปี 2000 ได้คะแนนจากบ๊อบ ไปถึง 98 (นั่นหมายถึงขั้นตอนการผลิตทั้งหมดตั้งแต่เริ่มแรก ถูกรายงานให้ทราบอย่างละเอียดจากเจฟฟรี่ย์) ถ้าอ่านมาจากกระทู้ก่อนๆคงจะจำกันได้ดีว่า เจ้าของเก่าของเชวอล คือนาย Hebrard เคยปล่อยให้หมากัดขาบ๊อบ  เพราะไม่ชอบใจในเรื่องของแต้มที่ได้..ในปี 1989 เคยมีเรื่องเล่ากันสนุกๆว่า..ปีต่อมา..มีคนรู้จักของบ๊อบคนหนึ่งมาบอกว่า เขากำลังจะไปเยียมชมไร่ เชวอล.. บ๊อบฝากกระซิบว่า.. "ช่วยแอบเตะไอ้หมาเวรนั่นให้ทีหนึ่งจะเป็นพระคุณยิ่ง" ตอนที่สุนัขเจ้ากรรมนั่นได้ล่วงลับหาชีวิตไม่ไปแล้ว.. นายเอบรารด์ เจ้าของไร่ได้ส่งจดหมายไปบอกบ๊อบว่า.. "อ้อ..ไอ้หมาคู่กัดของคุณน่ะ..มันตายไปแล้วนะ หวังว่าข่าวนี้คงทำให้คุณสบายใจขึ้น" แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 49 04:01:25 จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 02:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การทุ่มทุนสร้างซ่อมแซมไร่ไวน์เชวอลใหม่นั้น ได้ทุ่มทุนไปกว่า 1.5 ล้านเหรียญ.. ตอนนั้น กลุ่ม LVMH แทบจะไม่สนใจไร่ดีเคมเลย เรียกว่าซื้อไว้ดูเล่นก่อน  แต่หันไปเร่งมือกับเชวอลแบบ ไม่ยั้ง.. ผู้รับเหมางาน..ไม่ใช่ใครอื่นไกล..เขาคือ Michel Garcia  เจ้าของไวน์โรงรถขนานแท้ Ch. Garcia ที่บ๊อบประเคนแต้มให้นั่นเอง ทั้งเลอตองและอาร์โนลต์ต่างต้องการความเร่งด่วนที่ทุกอย่างจะต้องเสร็จภายในเดือนมีนาคม เพื่อที่จะได้เปิดอวดโชว์กับเหล่านักข่าวในเทศกาลชิมไวน์ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ   มิเชล กราซิอาร์ หนักอกหนักใจอย่างที่สุด ตอนนั้นก็ล่วงไปปลายเดือนกันยายนเข้าไปแล้ว ไหนจะฝนจะเข้ามาอีกเล่า..แล้วที่สำคัญ..ไหนจะต้องมาห่วงเรื่องการเก็บองุ่นในไร่ของตัวเองอีก.. มันเครียดถึงขนาดที่เขาต้องสบถว่า.."Putain!" ตลอดเวลาของงาน.. หมายเหตุ  "Putain!" แปลว่าอะไร ไปหากันเอาเอง..!! แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 49 09:15:47 จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 04:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนทางด้าน อีฟ วาเตโลต์ ที่กำลังขมักเขม้นกับไร่ไวน์ ของเล่นชิ้นใหม่ที่เพิ่งไปซื้อมา นั่นคือ ไร่ Ch. Lascombes ซึ่งเป็นกรอง ครู ชั้นสอง(มาร์โกซ์) ที่กำลังมีปัญหาถึงเรื่องการเก็บองุ่นที่เป็นไปอย่างไม่ได้ดังใจ ความจริงอีฟมีไร่ไวน์อยู่แล้วคือ ชาโต เรญัค ที่อยู่ทางฝั่งขวาของบอร์คโดซ์  เขายังขาดประสบการณ์ในพื้นที่ทางฝั่งซ้าย อีกทั้งยังมีความรู้สึกที่เรียกได้ว่ากลัวๆกล้าๆ เนื่องจากชื่อเสียงเก่าและความเป็นไวน์กรอง ครู นั้นทำให้รู้สึกขยาดจนเกินเหตุ.. วันที่ 28 กันยายน นั่นคือวันดีเดย์เก็บองุ่น ที่คนงานจะออกไปที่ไร่ตั้งแต่ 8 โมงเช้า การทำงานนั้นไม่ใช่ง่ายๆ เนื่องจากต้นองุ่นมีความสูงแค่สองหรือสามฟุต  จึงต้องก้มๆเงยๆ ตัด และการตัดนั้น..ต้องเลือกตัดเฉพาะที่สุกจริงๆ ที่เหลือจะต้องกลับมาตัดมาเก็บในวันหลัง ในพื้นที่บอร์คโดซ์  การเก็บองุ่นนั้นไม่พร้อมกัน องุ่นขาวชนิด โซวิญอง บลอง,เซมิญอง, จะถูกเก็บไปก่อนแล้ว องุ่นเมอร์โลต์ คือคิวต่อมา..ที่มาเก็บกันในช่วงนี้ ส่วนองุ่น แคบ/โซ จะใช้เวลาออกไปอีกสักหน่อย เพราะสุกยากกว่าใครๆ และถ้าต้องการให้สุกจัด ก็ต้องใช้เวลา ที่ไร่ลาส์โคมบส์ ใช้คนงานร่วมครึ่งร้อย ที่มีทั้งชาวบ้าน แม่บ้าน นักศึกษา ทุกเพศ ทุกวัย ดาหน้าออกไปทำงานด้วยค่าแรง ชั่วโมงละ $7.00  โดยที่หน่วยแบกจะเรียกว่า porteurs แต่ละคนจะมีตระกร้าคาดแน่นที่หลัง เรียกว่า hottes ตามด้วยหน่วยตัดองุ่นที่ส่วนใหญ่จะเป็นหญิง..ที่จะคอยตัดและนำไปใส่ให้เต็ม เพื่อที่ผู้ที่แบกนั้นจะได้นำองุ่นไปถ่ายใส่ในถังเตรียมไว้ให้..ทุกคนต้องทำงานกันเป็นทีม..ทีมใครทีมมัน แนวองุ่นของใครก็ของมันต่างต้องรับผิดชอบกันเต็มที่ นี่คือปัญหาของไร่ในบอร์คโดซ์ คือ คนตัดที่นั้นหาได้ไม่ยาก คือกลุ่มแม่บ้านที่ต้องการหารายได้พิเศษมีเยอะแยะ  แต่คนแบก หรือ ปอร์คเตอร์ส์ นั้นหายากยิ่ง เพราะเป็นงานที่หนักหนาสาหัส ที่ต้องแบกตระกร้าที่หลัง บรรจุน้ำหนักถึง 60 ปอนด์ในแต่ละเที่ยวของการนำไปถ่ายเท และเมื่อมีน้ำหนักอัดแน่นถึงหลายสิบปอนด์ ทำให้เวลาที่นำไปเทรวมกัน องุ่นส่วนใหญ่มักจะเหลวเละไปตั้งแต่ตรงนั้น.. ไวน์เมธีทุกคน ต้องการองุ่นที่มาถึงมือในขณะที่เป็นพวงสวย เต่งตึง  เพราะนั่นคือคุณภาพของไวน์ที่จะออกมาเช่นกัน.. ดังั้น อีฟจึงนำวิธีใหม่ที่ใช้ในชาโต เรญัค มาใช้กับ ไร่ลาส์โคมบส์ เช่นกัน นั่นคือ  ใช้รถกะบะขนาดเล็ก (เท่ารถกอล์ฟประมาณนั้น) ที่พ่วงท้ายด้วยรถเข็นที่มีชั้นเหล็กสามารถวางลังองุ่นได้ตามชั้น ในแต่ละลังบรรจุองุ่นเพียง 25 ปอนด์ รถนี้สามารถวิ่งเข่าไปแทรกได้ตามแนวองุ่น เพื่อรับองุ่นจากคนแบก นับว่าทุ่นแรงไปได้มากโข.. (เรื่องลังองุ่น ขนาดบรรจุ 25 ปอนด์ที่ซ้อนกันได้นี้..มีให้เห็นในหนัง มอนโดวิโน คงยังจำได้) จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 05:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พูแตง อุ้ย ดุเอาเรื่องเลยครับ ลงชื่อฮะ จากคุณ : Natt_ac121 - [ 21 ก.ย. 49 05:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดียามดึกครับ พี่วิ ขึ้นกระทู้ใหม่อีกครั้งนึง รู้สึกเดี๋ยวนี้ขึ้นเร็วกว่าแต่ก่อนเยอะเลยครับ เหมือนมีคนมาอ่านมากขึ้น ผมไปนอนแล้วครับ พึ่งเขียนงานส่งเรียบร้อย จะตีหนึ่งแล้ว ราตรีสวัสดิ์ครับ ปล. พี่งอ่านเรื่องของมองซิเออร์เลอตอง ไม่ทราบว่าพี่วิมีความเห็นเรื่องของ low yield ในวงการผลิตไวน์ยุคนี้่อย่างไรครับ มันต่ำลงมากเกินไปรึเปล่า เดี๋ยวนี้เริ่มเห็นระดับสิบกว่าๆกันมากขึ้นเรื่อยๆแล้วด้วยสิครับ จริงๆแล้วมันควรจะต้องอยู่ในระดับกลางๆรึเปล่า จากคุณ : LaGrandeRue - [ 21 ก.ย. 49 06:06:58 A:213.39.204.54 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ในปีนั้น การก่อสร้างซ่อมแซมโรงไวน์งไม่เสร็จสมบูรณ์ พื้นยังต้องใช้แผ่นไม้กระดานมาพาดไว้ก่อน หลังคาก็ยังไม่เสร็จ  พอฝนตกทีก็ย้ายลังองุ่นหนีกันอุตลุด ทีนี้มาถึงเรื่องของการระบายน้ำที่ยังไม่เสร็จอีกเช่นกัน.. ทำให้น้ำเจิ่งนอง ทุกอย่างเป็นไปด้วยความทุลักทุเล..เพราะคนงานที่ยืนเลือกองุ่นบนแท่น ที่ส่งมาทางสายพาน(หรือที่เรียกว่า sorting table) ถึงขนาดต้องใส่บู๊ทยางสูงครึ่งแข้ง.. การเลือกนี้..หมายถึงการที่จะต้องเด็ดก้าน เลือกเอาแต่องุ่นที่สุกใช้ได้ ส่วนที่เน่าๆหรืออ่อนไปก็ทิ้ง.. จำนวนทิ้งนี้ขอบอกว่ามากมาย มหาศาล เรียกว่ากองพะเนินเทินทึก..(สำหรับการทำไวน์รุ่นใหม่) อย่างที่ไร่ของอเลน คือ Ch. La Croix de Gay ที่เขาทำอย่างเดียวกัน  ทิ้งองุ่นเกลื่อน.. พอมารดาของเขามาเห็นเข้า..ถึงกับลมจับ..โวยวายเรียกลูกสาวหรือน้องสาวคนเก่งของอเลน คือ ฌองตัล ให้เข้ามาดู..พร้อมกับฟ้องเสียงดังลั่น อเลน..ต้องรีบอธิบายว่า.. "แม่ครับ..คิดว่าสิ้นเปลืองไม่ได้หรอกครับ..เพราะองุ่นพวกนั้นมันจะทำให้ไวน์เสียรส เสียราคา" ฌองตัล..ถึงกับน้ำตาไหลพรากด้วยความเสียดาย.. ประชดพี่ชายว่า.. "ตัวเองนึกว่าไร่ของเรามันร่ำรวยแบบในหนังทีวี Dallas หรือไงยะ?" จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 06:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ที่คุณ LaGrandeRue ถามมาว่า low yield นั้น เริ่มแรกเลย เขารีดผลผลิตให้เหลือแค่ 2-4 ตันต่อเอเคอร์ องุ่นหนึ่งตัน จะทำได้ไวน์ขนาด 750ML ได้ประมาณ 700 ขวด ในขณะที่เมื่อก่อน การทำไวน์นั้นเป็นแบบตามมีตามเกิด ปล่อยให้ดกตามธรรมชาติ เข้าขั้น 10 ตันต่อเอเคอร์ ส่วนเรื่องแอลกอฮอลจะบีบให้ขึ้นไปเท่าไหร่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสุกขององุ่น ส่วนเรื่องที่ถามความเห็นของพี่นั้น..ตลอดเวลาในการเขียนเรื่องนี้ พยายามที่จะไม่บอกความเห็นของตัวเอง (หลุดไม่มั่งหรือเปล่าก็ไม่รู้) เนื่องจาก ไม่ใช่ wine critic ไม่ใช่ wine columnist   แต่เป็นหนึ่งใน wine merchants ที่ต้องมองไวน์เป็นสินค้าค้าขายทำกำไรชนิดหนึ่ง.. สนับสนุนของดีราคายุติธรรม....ระแวงระไวในเรื่องของ ราคาในอนาคต..กักตุนได้ก็กัก.. และทราบดีแก่ใจว่า..ไวน์บางชนิดมีราคาขึ้นลงตามกระแสของแฟชั่น เมื่อไหร่ที่กระแสตก..ราคาก็ตกตามลงมา และเหล่าบริษัทไวน์ส่วนใหญ่เขาก็ทราบดีในเรื่องนี้ เขาจึงบวกราคาไว้เรียบร้อยแล้ว..เรียกว่าได้กำไรคุ้มทุนการผลิตตั้งแต่ล็อตแรกที่ออกตลาด (ไม่งั้นขวดหนึ่งจะตกเป็นพันเหรียญหรือ?) ที่เหลือ..ขายไม่ออกก็เก็บไว้ดูเล่น..ไม่ขาดทุน ไม่เดือดร้อน.. จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 07:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไวน์เมธีของลาส์โคมบส์ ดังที่เล่ามาแล้วว่าเป็นมือเก๋ามาจากลาฟีต คือ โดมินีค เบฟว์ นั้น เขาเคร่งเรื่องคัดองุ่น มาก..สั่งคนงานโหวกเหวก..ว่า ..ถ้าไม่สุกห้ามเก็บเด็ดขาด..ทิ้งไว้ที่ต้นอย่างนั้น เล่นเอาเจ้านายทั้งสอง คือ อีฟและอเลน ต่างพลอยใจหายใจคว่ำไปด้วย เพราะว่า เกรงจะทำผลผลิตไม่เข้าเป้า เนื่องจาก ตอนที่ทำ green harvest นั้น ก็คัดโลว์ ยีลด์ ไปแล้ว..จนเหลือองุ่นจับพวงได้แค่ 40% ขืนมาคัดทิ้งอีก..จะไปเหลืออะไร การเก็บองุ่นเข้ามาคัดเลือกบนแท่น sorting table นั้น ต้อง ต้องปลิดส่วนเกินทิ้งให้หมด ก่อนที่จะเข้าการบีบ เอาน้ำเพื่อส่งไปในแท้งค์หมัก ซึ่งตรงนี้ ในการทำไวน์รุ่นใหม่นั้น เขาคัดสรร ทำความสะอาดองุ่นในแต่ละเม็ดราวกับจะส่งไปประกวด  จับต้องด้วยความทนุถนอม เบามือราวกับอุ้มทารกแรกเกิด ไวน์เมธีและผู้ช่วยจะยืนคุมสายพานที่ส่งองุ่นก่อนเเครื่อง ด้วยสายตาที่จับจ้องหาสิ่งผิดปรกติ..สิ่งแปลกปลอม ราวกับเป็นตำรวจ..ถ้าพบสิ่งใดดังว่า เขาจะปิดสวิทซ์ให้สายพานหยุดทันที.. เมื่อมาถึงในเรื่องการปั๊มน้ำไวน์ในแท้งค์ให้เกิดกระแสหมุนเวียนให้นัวไปกับเปลือกองุ่นนั้น ไร่อื่นๆอาจจะแค่เปิดสวิทซ์ให้เครื่องทำงาน แล้วไปพักผ่อนกันได้ แต่สำหรับ โดมินีค ไม่ได้เลย..เขาต้องให้มีช่างคุมอยู่ตลอดเวลา ตรงนี้ จะเรียกว่า pumpover หรือ remontage Cellar master รู้สึกรำคาญกับความจู้จี้ ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างวิธีการของ โดมินีค..จึงสวนไปว่า "อยากคุมนัก ก็มายืนทำเอง..ผมไม่ทำ" โดมินีคสะอึก..รู้สึกโกรธจนแทบกระอักออกมาเป็นโลหิตราวกับหนังจีน..กะว่าจะไล่ออกตรงนั้นเลย.. แต่มาคิดอีกที..ว่า ขืนไล่มาสเตอร์ เซลล่าร์ ออกไป มีหวังได้เกิดเรื่องใหญ่ พวกคนงานที่ล้วนแต่มาจากหมู่บ้านเดียวกัน เป็นเพื่อนกันญาติกัน..อาจตบเท้าเรียงแถวเดินออกจากงานก็เป็นได้  และถ้าเกิดขึ้น..นั่นหมายถึง ความหายนะล้วนๆ.. เขาเลยต้องเลือกที่จะไม่โกรธ.. แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 49 07:58:13 จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 07:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จะไปกล้าโกรธได้อย่างไร ในเมื่อยามนั้น ทั่วทั้งบอร์คโดซ์ ฝั่งซ้ายเต็มไปด้วยกลิ่นไอของการสไตรค์แรงงาน อย่างที่ไร่ Lynch-Bages ที่คนงานมาทำงานกันเวลา 8 โมงเช้าตรง..ไปได้ครึ่งวัน..ฝนตกลงมาปรอยๆ ผู้จัดการจึงประกาศให้คนงานกลับไปบ้านได้  ค่อยกลับมาใหม่พรุ่งนี้.. คนงานจึงประกาศสวนกลับไปว่า.. "ถ้าวันนี้ไม่จ่ายค่าแรงเต็มวัน..ก็อย่างหวังว่าจะกลับมาทำงานให้พรุ่งนี้" และนั่นคือ คำขู่ไม่ใช่คำเตือน.. Jean-Michel Cazes  เจ้าของไม่กล้าเถียงแม้แต่แอะเดียว..รีบจ่ายตามข้อเรียกร้องทันที.. ที่ลาส์โคมบส์, โดมินีคพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ให้กลุ่มคนงานเกิดความขัดเคืองใจจนถึงขนาดนัดกันหยุดงาน แต่บางครั้งเขาก็เหนื่อยใจเต็มที เพราะ พวกคนงาน..จะหยุดการทำงานทันทีเมื่อเวลา 5.30 ตรง เพราะครบแปดชั่วโมงเป๊ะ.. เพราะในบางครั้ง ยามที่ห้าโมงเย็นในช่วงของฤดูร้อน แสงอาทิตย์ยังร้อนแรงจ้าอยู่  องุ่นยังสามารถสุกได้อีก แต่ไม่มีใครยอมอยู่ทำงานต่อ ทุกคนมุ่งแต่จะกลับบ้าน ในที่สุด..โดมินีค ต้องทำเอง บางครั้งเขาต้องอยู่โยงในโรงไวน์จนดึกดื่นเที่ยงคืน เลือกองุ่นเอง เฝ้าสวิทซ์เอง เพราะขืนไม่รีบ..ฝนอาจตกลงมาอย่างที่ไร่ของ ลีนช์-บาจส์ โดนมา..เพราะห่างกันแค่แปดไมล์ แต่..โชคดี ฝนในบอร์คโดซ์นั้นมักจะตกเป็นหย่อมๆแบบตกไม่ทั่วฟ้า.. แล้วแต่ไร่ไหนจะเฮง..*** (***ตรงนี้..อยากจะขยายไปถึงพวกนักเขียนวิจารณ์ไวน์อเมริกันที่มักมั่วไปเรื่อย เกี่ยวกับไวน์บอร์คโดซ์ว่าปีนั้นดี ปีนั้นเยี่ยม  ปีนั้นห่วย..แถมบอกอีกว่า..เพราะฝนตกเท่านั้นนิ้วเท่านี้นิ้ว เรื่องนี้..ถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่ หรือคนทำไวน์แล้ว..จะไม่ทราบรายละเอียดมากนัก ดังที่บอกว่า..ฝนมักจะโปรยมาเป็นสาย เป็นระยะ และไม่ทั่วฟ้า..บางไร่โดน บางไร่ที่อยู่ไม่ห่างกันเท่าไหร่ ไม่โดน..ถ้าต้องการความแน่ใจจริงๆเราสามารถดูได้จากผลผลิตกับอัตราส่วนของเนื้อที่ผลิต ถ้าน้อยกว่าปรกติ..นั้นหมายถึงโดนฝนเข้าไปเป็นแน่แท้.. ถ้าเหมือนเดิมทุกปี..ก็หมายถึงทุกอย่างเป็นไปตามปรกติ จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 08:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 รีบมาลงชื่อแต่เช้า กับกระทู้ตอนใหม่ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 21 ก.ย. 49 08:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เช่นในกรณีของลาสโคมบส์นี้ก็เช่นกัน คือองุ่นแคบ/โซ ที่ว่าโคดดเหนียว เพราะสุกยากนั้นต้องคอยไปจนถึงเดือน ตุลาคม สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2001 นั่นคือ ก่อนการเก็บเพียงสองวัน ฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา.. โดมินีค พร้อมคนงานตะลุยเก็บขึ้นมาให้ได้มากที่สุด คัดเลือกที่"บวม"ฝนออกไป  เหลือองุ่นแค่ 50% เมื่อเทียบกับของปีก่อน ก็ต้องผลิตไปแค่นั้น.. ในแซง-เตมิญอง มิเชล การ์ซิอาร์ รอเก็บองุ่นจนถึงวินาทีสุดท้าย  เพราะพื้นที่ปลูกนั้นเป็นดินปนหิน ไม่ใช่ดินเหนียวปนกรวดอย่างไร่อื่นๆ อีกทั้งอยู่ทางด้านเหนือที่มีอากาศหนาวเย็นกว่า องุ่นจึงสุกช้ากว่าชาวบ้าน และเขาโชคดีที่มีอาชีพเป็นช่างรับเหมาที่มีลูกน้องมาช่วยงานมากมาย และคนพวกนี้รับเงินเดือนรายเดือนอยู่ดี ไม่ว่าจะมาเก็บองุ่น หรือทำงานก่อสร้าง.. ด้วยจำนวนแรงงานที่เหลือเฟือนี้..เขาสามารถเก็บองุ่นได้หมดทั้งไร่ในเวลาเพียงสองวัน และโชคดีอีกนั่นแหละ ที่องุ่นในไร่ของเขาสุกช้า ดังนั้นเขาจึงรีบทำงานให้กับไร่เชวอลจนสามารถปลีกตัวออกมาได้สองสามวันเพื่อแจ้นไปที่ไร่ของตัวเอง หัวเรี่ยวหัวแรงในการช่วยทำไวน์นั้นคือลูกสาวทั้งสองของเขา..Caroline  และ Marina คนที่มาเป็นผู้ช่วยที่สำคัญอีกคนหนึ่ง คือ แฟนเก่าของมาริน่า ชื่อว่า..Ludovic Pochard  ชายวัย 26 ที่เคยผ่านงานไวน์ในออสเตรเลีย นั่นคือ Rosemont Estate  ซึ่งประสบการณ์ใหม่ในบอร์ดโดซ์นั้น ได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับลูโดวิค พอสมควร..เพราะมันช่างต่างกับไวน์ออสเตรเลียชนิดขาวกับดำ.. การทำไวน์ของโรสมอนต์  คือ high yield  เก็บองุ่นด้วยเครื่อง  องุ่นมาทั้งก้านและใบ ไม่มีการปลิดริดรอน อีกทั้งเป็นเดินทางมาในรถบรรทุกนับเป็นร้อยๆไมล์ แม้จะเป็นรถบรรทุกที่มีเครื่องทำความเย็นก็เถอะ.. สุดท้าย..คือ..การใช้ผงโอ๊คกันอย่างแพร่หลาย แต่..ส่วนดีของไวน์ออสซี่ คือ อากาศที่เป็นใจ สม่ำเสมอ ฤดูเก็บเกี่ยวไม่มีฝนมากวนใจ องุ่นสุกได้เต็มที่ สามารถ ทำให้แอลกอฮอลทะลุไปได้เกิน 14% อย่างง่ายดาย หรือถ้าองุ่นสุกเกินไป ขาดแอซิด กฏหมายได้อนุญาตให้เติมได้ในการผลิต ดังนั้น..ไวน์ออสเตรเลีย สามารถกำหนดรสชาติให้ออกมาได้เหมือนกันหมดทุกปี..เพราะมีสูตรตายตัวเฉพาะให้ สามารถเติมได้ทุกอย่างที่ต้องการ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 49 11:16:40 จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 10:47:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีค่ะ คุณผีใต้ถุน.. เข้ามาแต่เช้าเลยนะ  วันนี้เป็นวันหยุดหรือเปล่าคะ.. เงียบเชียบจัง.. จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 11:20:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ...สวัสดีครับพี่วิและสหายไวน์ทุกท่าน ...ก็วุ่นวายอยู่กับงานเขียน งานช้าง และงานปฎิรูป ...เลยไม่ได้เข้ามาเสียหลายวันครับ ...เพิ่งได้นั่งอ่านอยู่ครับ ...พี่วิสบายดีนะครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 21 ก.ย. 49 11:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ลุโดวิคได้มองเห็นแล้วว่า..ไวน์ออสเตรเลียที่เขาเคยได้เรียนรู้มานั้น ขาดบางอย่างไป..นั่นคือ ภูมิปัญญาที่ถ่ายทอดมาในสายเลือดอย่างที่ชาวบอร์โดซ์มี ดังที่เขาเห็นในการทำไวน์ของกราซิอาร์ ที่ไม่ใช่ว่าแต่จะปลิดก้าน ริดใบเท่านั้น หากแต่แกะออกจากก้านพวงเป็นเม็ดๆ เท่านั้นไม่พอ..มิเชลยังเอาลงวางในตะแกรง  ร่อน องุ่นให้เศษผงหลุดออกมาให้หมด..วิธีนี้เขาได้มาจากการก่อสร้าง ที่มีการร่อนกรวด ร่อนทราย.. มิเชลทำงานผลิตไวน์ด้วยความสุข..เพราะมันช่างต่างกับการทำงานหากินในด้านก่อสร้าง ที่เขาจะต้องไปรอประมูลงานที่โน่นที่นี่  กว่าจะวิ่งงานติดต่อนั้นไม่ใช่ง่ายๆ คู่แข่งก็มีมาก..ในการทำไวน์นั้น เขามีตัวแทนการขายที่มายืนคอยอยู่ไม่ต่ำกว่ายี่สิบราย..ใครๆก็คอยที่จะซื้อไวน์ไปจากเขา..ในราคาที่เขาต้องการ เพราะพวกตัวแทนนั้นได้เห็นมาจากผลสำเร็จของตุนแวง ในไวน์ ชาโต เดอ วาลังโดรด์ ยิ่งไวน์ของ มิเชล กราซิอาร์ ที่ผลิตมาได้เพียง 7000 ขวด ใครต่อใครยิ่งแย่งกันสุดชีวิต.. โดยเฉพาะ เจฟฟรี่ย์ เริ่มเป็นห่วงว่า ส่วนแบ่งของเขาจะถูกเฉือนออกไป.. จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 11:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีค่ะ คุณวิโรจ.. พี่ก็กำลังอ่านข่าวปฏิรูปอย่างเมามันเช่นกัน.. งานเขียนก็ต้องส่งต้นฉบับเหมือนกัน ถึงเวลาแล้ว แต่รอให้เครื่องคอมพ์ใหม่ติดตั้งให้เรียบร้อยก่อน สบายดีหรือคะ? จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 11:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีคับพี่วิ และท่านอื่นๆมารออ่านเหมือนเดิมคับผม ผมเคยทาน Ch. Lascombes ปี2002 เมื่อปีก่อน Low yield ขนานแท้ไวน์มีความข้นเหนียว เข้มกว่าปกติมาก ผลไม้สุกจัดมากๆ ยิ่งกว่าวินเทสที่ร้อนจัดๆอีก ดื่มอร่อยมากคับ แต่ไม่ซึ้งอ่ะคับ พี่ว่าพวก low yield จะเก็บได้นานกว่าปกติหรือน้อยกว่าเดิมคับ พักหลังผมได้ทานไวนืเก่าๆเยอะรู้สึกว่าบอร์โด ต้องเก็บเกิน 10 ปี ถึงจะพร้อมดื่มอ่ะคับ จากคุณ : nic (Nic Nenin) - [ 21 ก.ย. 49 12:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 . พี่วิวันดาจ๊ะ ว่าแต่อีตาบ้า วิวันดาเป็นเอง .... เอ๊ ต้องบุษบาสินะเป็นเอง ไปว่าอีตาสื่อศิลปกินดีหมี เลยร่ายซะยาวเหยียด พี่เองก็เบาซะที่ไหนล่ะจ๊ะ ล่อเข้าไปตั้ง 12-13 คคห ระหว่างเวลาที่เว้นนั่นน่ะ พักบ้างหรือเปล่าจ๊ะ อย่าหักโหมมากนัก เดี๋ยวเค้าจะรู้ว่าว่างงานมาก ไม่มีอะไรทำ!!! ภารกิจที่ให้เป็นธุระนั้น เรียบร้อยแล้ว เชิญไปติดตามได้ที่หลังไมค์จ้ะ . จากคุณ : ชอบแช้งค์ - [ 21 ก.ย. 49 12:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 นี่ตาป๋า.. อย่างงี้ไม่ใช่ดีหมีแล้ว..เล่นพิมพ์อึดแบบสวมหัวใจไอ้ทุยมาเลยเชียว เพราะเกรงใจที่หายไปหลายวัน.. เดี๋ยวเค้าว่าเอา..!! หลังไมค์ไปอ่านแล้ว..ขำกลิ้งเลย..อิอิอิอิอิ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 49 13:06:12 จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 12:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณนิคคะ.. ไวน์บอร์คโดซ์สมควรเก็บตามเวลาที่กำหนดดื่ม ที่มักจะใช้เกินกว่าสี่ห้าปี ไปจนถึง สิบปี ปัญหาคือ..ในประเทศที่ไม่ได้ผลิต จึงมีการเร่งดื่มเพราะไม่รู้จะไปหันไปหาที่ไหน มันเป็นของที่ไม่ได้วางขายอยู่ตามร้านขายยาทั่วไปเสียเมื่อไหร่ ผู้คนจึงมักไม่คอย..ที่คือสาเหตุที่มี clef du vin ออกมา..(แหกตา)ขาย..เคยคุยเรื่องนี้แล้วในกระทู้ต้นๆ.. ส่วนชาวไวน์จริงๆ มีไวน์มากมายหายชนิดหลายราคาอยู่ใกล้ตัว  ซื้อของดีเก็บไว้ยามที่มีเงินพิเศษ ไว้รอโอกาสสำคัญ เก็บไปเรื่อยๆมันก็มากเข้า..เลือกหยิบมาเปิดกินได้ยามเมื่อถึงเวลา หรือกับคนพิเศษ ถ้าจะเป็นนักชิมไวน์จริงๆ ต้องถือคติที่ว่า.. "ยามไร้..เด็ดดอกหญ้าแซมผม" ส่วนดอกคัทลียานั่น..ถ้ามี..ก็รอให้เขาเบ่งบานเต็มที่ก่อน แล้วค่อยเด็ดมาเชยชม.. จากคุณ : WIWANDA - [ 21 ก.ย. 49 13:17:09 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เอ้อ สำนวนมันไม่จิ๊กโก๋ รุ่นหลังวังไปหน่อยเหรอครับคุณพี่ เดี๋ยวนี้เขายามไร้ก็ไม่แคร์ ก็แค่โทรหากิ๊ก นาทีละบาทเดียว ก็เ....ว ว๊อย จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 21 ก.ย. 49 14:05:45 ]

ความคิดเห็นที่ 22 hotte ที่ porteur กำลังใช้งานอยู่ (  ภาพจาก cc-estuaire.fr ) จากคุณ : sofatboy - [ 21 ก.ย. 49 14:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้เป็นพลาสติกหมดแล้วครับ ของเก่าจะทำมาจากหวายหรือไม้ (  ภาพจาก avignon-et-provence ) จากคุณ : sofatboy - [ 21 ก.ย. 49 14:50:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ในภาพเป็นการคัดองุ่นบนสายพาน ( ภาพจาก perrin-et-fils ) จากคุณ : sofatboy - [ 21 ก.ย. 49 14:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แวะมารายงานตัวตอกบัตรครับ บรรยากาศเมืองไทยตอนนี้น่าจะปกติดีแล้ว ขนาดคนใกล้ตัวผมยังไปมอบอาหาร ถ่ายรูป สอบถามสารทุกข์สุขดิบ เหล่าทหารกับรถถังกันมาด้วย.... แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 49 15:18:39 จากคุณ : Thirdwave - [ 21 ก.ย. 49 14:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นด้วยกับพี่วิเลยคับบอร์โดต้องทาน5 ปีอัพ ถ้ายิ่งวินเทสดีๆต้องสิบปีอัพเรย..... แต่บางครั้งผมจำต้องทานเร็วเพราะ -ดูว่าไวน์วินเทสนี้ควรจะเก็บไหม ควรซื้อเปล่า -ดื่มเพราะเพื่อนนำมาอันนี้ก็จำใจคับ -ยุคหลังไวน์บอร์โดหลายชาโต เปลี่ยนวิธีปรุงจนกลายจะเป็นโลกกันหมด เช่น มูตอง เป็นต้น ตอนนี้ผมก็เด็ดหญ้าแพรก หญ้าคา หญ้าญี่ปุ่นเหน็บตลอดหล่ะคับ ถ้าวันไหนวันดี วันพิเศษก็จะงัดของรักออกมาทานกับเพื่อนๆที่รู้ใจคับ "ไวน์ดี มิตรภาพที่ดี หายากจัง" จากคุณ : คนรักไวน์ (Nic Nenin) - [ 21 ก.ย. 49 16:12:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาตอกบัตรอ่าน.. ก่อนตอกบัตรกลับบ้าน... ดีใจที่เห็นทุกท่านยิ้มแย้มแจ่มใสครับ.. จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 21 ก.ย. 49 21:11:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีค่ะพี่หวาน วันนี้ยุ่งหลายเรื่องค่ะ คอมฯก็รวน ล้างเครื่องอีกแล้วเป็นรอบที่สามในสัปดาห์นี้ วิ่งไปซื้อโปรแกรมมาใส่อีก   วิ่งไปซื้อกับข้าวซูเปอร์ญี่ปุ่นในเมือง  แฮ่กๆๆๆ พี่หวานอีเมล์รูป คคห 1 มาให้นกซีคะ (มี ADSL ใช้แล้วค่ะ รับไฟล์ใหญ่ได้แล้ว) เดี๋ยวนกใช้ photoshop ทำให้ค่ะ (ป.ล. ตะกี๊นาย vandyman มาเยี่ยมที่บ้านค่ะ ควงนักข่าวสาวมาด้วย) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 21 ก.ย. 49 21:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ทำไมไม่หลาบไม่จำก้ไม่รู้เรา มีเวบกระทู้ ดี ๆ อ่านก็ยังแอบไปอ่าน ห้องอื่นแล้วก็ ต้องมาแอบอยู่แถวนี้เหมือนเดิม ฮิ ๆ เห็นเค้าบอกว่า ชาวกสิกรทำไร่ไวน์ที่ Bordeaux กำลังต่อสู่กะรัฐเพราะว่าจะทำ มอเตอร์เวย์ผ่าน หวังว่าคงไม่จริง พักสมองอ่านเรื่องไวน์ แก้ไขคำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 49 00:55:31 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 49 00:54:31 จากคุณ : horseshoes - [ 22 ก.ย. 49 01:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านเรื่องไวน์ที่ทำที่ฝรั่งเศสแล้วดูเค้ามีแบบแผนดีจัง เทียบกะไวน์จากประเทศเล็ก ๆ อย่างสโลวีเนียที่มีโอกาสไปเห็นไม่ได้เลย คงมีไม่กี่คนได้ดื่มไวน์จากที่นี่แล้วตัวเองก้ไม่แน่ใจว่ามันจะมีในตลาดโลกหรือไม่เพราะไม่มีคนเอาไปขายมั้ง ที่นี่เกือบทุกบ้านจะมีค้างองุ่น อย่างน้อย สองค้าง หรือมากกว่านั้นทุกบ้านจริง ๆ เค้าคงปลูกเอาไว้กินลูก หรือ ทำไวน์แบบบ้านเราทำสาโทค่ะ ดูจากต้นไวน์แล้วลำต้นอายุน่าจะซัก มากกว่าสิบกว่าปีโน้นแหล่ะ จึงเห็นว่าการปลูกองุ่นนี่มันเป็นวัฒนธรรมแล้วเป็นเรื่องธรรมดาสามัญของประเทศในยุโรปจริง ๆ จากคุณ : horseshoes - [ 22 ก.ย. 49 01:35:09 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไวน์สโล จากคุณ : horseshoes - [ 22 ก.ย. 49 01:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แชมเปญ หรือไวน์ ไม่รู้ จากคุณ : horseshoes - [ 22 ก.ย. 49 01:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ลืมรูป จากคุณ : horseshoes - [ 22 ก.ย. 49 01:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โทษทีค่ะ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : horseshoes - [ 22 ก.ย. 49 01:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ประมาณนี้ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : horseshoes - [ 22 ก.ย. 49 01:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จริง ๆ ซื้อทวรืเพื่อไปลองชิมไวน์ แต่ปรากฏว่าไกด์ เอาไวน์ใส่เหยือกแบบนี้มาเสร์ฟ ฮ่วย แล้วจะรู้ได้ไงหนอว่าเอาองุ่นไหน ทำ ที่นี่เค้าเรียก white wine และ black wine ค่ะ ที่เรียกไวนืดำเพระว่าดื่มแล้วลิ้น ปากดำเหมือนเคี้ยวหมาก (ไม่ใช่หมากฝรั่งน่ะ) จากคุณ : horseshoes - [ 22 ก.ย. 49 01:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีค่ะ คุณ horseshoes ยินดีที่ได้เห็นคุณมาแวะเยี่ยมในกระทู้อีก.. การทำไวน์มีทุกที่ในประเทศอื่นๆในยุโรป ดังที่เลยเล่าไว้ในกระทู้ต้นๆ ที่เกี่ยวกับประวัติของ อังเดร (Andre Tchelicheff) ที่เปรียบเสมือนผู้ก่อตั้งรากฐานให้กับ ไวน์นาปา เขาเป็นพวกสลาวิค และได้นำวิชาความรู้ของความเป็นไวน์พื้นบ้านและการทำไวน์ในรูปแบบอนามัย จากสถาบันหลุยส์ ปลาสเตอร์ มาสู่คาลิฟอร์เนีย.. ในภาพ คคห. 34 นั่น..ของในหีบน่าสนใจกว่าไวน์ค่ะ ขวดที่ใหญ่ๆนั่นคือ ไวน์ซ่าพื้นบ้าน(sparkling wine) ส่วนดาบ หรือ saber เล่มนั้น บ่งบอกถึงความเป็นพวกสลาฟโดยแท้ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ย. 49 15:45:45 จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ก.ย. 49 12:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาติดตามอย่างใกล้ชิด... จากคุณ : Master_Indy - [ 22 ก.ย. 49 14:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีฮะ อาวิ และท่านสมาชิก FC WIWANDA :) พูดถึงการ low yield แล้ว ก็มีเรื่องเล่าให้ฟังครับ ผมเคยไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และได้ไปชมไร่ไวน์ พร้อมชิมไวน์บริเวณนั้น ซึ่งไร่ไวน์หลายไร่ด้วยกัน มีอยู่ไร่หนึ่ง ผมชิมไวน์แดงของเขา โดยไล่จากปีผลิตน้อยไปหามาก ไปสะดุดอยู่ปีผลิตหนึ่ง รู้สึกว่ามันมีโครงสร้างมากกว่าปีอื่นๆ สี และรส หนักแน่น เจ้าของเขาก็สาธยายให้ฟังว่า "ปีนี้เป็นปีที่เราทำใช้วิธี low yield และช่วงปีผลิตนี้ อากาศแห้ง องุ่นตอนช่วงฤดูเก็บเกี่ยวก็จะได้น้ำองุ่นที่เข้มข้น fullbody และนำมาให้wine maker ปรุงรสอีกนิดหน่อย" แต่ผมสงสัยว่า ไวน์ไทย มันมีฤดูที่แตกต่าง ขนาดมีอิทธิพลต่อรสชาติของไวน์แบบยุโรปเลยหรือ? ต้นองุ่นในประเทศไทย อย่างมากก็อายุ10ปี ก็คงเป็นไร่องุ่นที่นำสมัย มีความคิดแบบเมืองนอกเขาน่าดู? รึไม่ก็artificialน่าดูเช่นกัน? จากคุณ : lovescooter (lovescooter) - [ 22 ก.ย. 49 14:07:09 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ อาครับ  ดาบ หรือ กระบี่ที่ เห็นใน คห.34 ผมเคยเห็น พิธี ๆ หนึ่งที่สมุย เขาใช้ ดาบ ฟัน(ปาดๆ) ที่ปากขวด แชมเปญ อ่ะครับ แล้วก็ เอาแชมเปญที่ พุ่งๆ นั่น มาริน แจก อยากทราบว่า มันเป็นพิธีอะไร หรือ ครับ ถามเค้าก็ไม่รู้เรื่องเพราะเขาพูด ฝรั่งเศส กัน จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 22 ก.ย. 49 14:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอโทษที ว่าจะอธิบายภาพในคคห.ที่ 34 ให้ละอียด แต่เผอิญว่ามีอีเมล์ต้องส่งด่วนเลยไปทำให้เสร็จเสียก่อน กลับมา..เหมือนกับใจตรงกัน คุณพ่อหมีถามมาพอดี ในภาพ..จะเป็นหีบสมบัติในการกินไวน์ซ่า (ไม่อยากเรียกว่าแชมเปญ เพราะอะไรคงทราบดีแล้ว..) ของชาวสลาฟ หรือผู้ที่มีเชื้อสายเป็นสลาฟ ที่เขาจะต้องเอาดาบฟัน(ใช้ทางสันดาบนะคะ) ให้คอขวดหลุดออก สำหรับเฉลิมฉลองในงานมงคลต่างๆ อันเป็นพิธีการ และดาบนั้น ต้องเป็นดาบแบบ saber ดังในภาพ ที่จำลองย่อส่วนลงมาจากดาบจริงที่พวกทหารม้า คอสแซคหรือพวกเหล่านักรบใช้กัน.. อุปกรณ์การใช้สำหรับเปิดไวน์ซ่านี้ นับว่าเป็นสิ่งที่ประดับเกียรติเหมือนเครื่องยศอย่างหนึ่ง ที่มีหลายระดับ ประวัติมีอยู่ว่า.. สมัยนโปเลียนส่งทัพทหารไปรบ..นายทหารแต่ละคนจะได้รับแจกแชมเปญ(จริงๆ)คนละขวด สมัยนั้นยังไมมีการทำจุกแบบมีลวดพันอย่างสมัยนี้ เป็นจุกแบบปิดตาย แน่นหนา เพราะไม่งั้นแชมเปญก็พวยพุ่งออกหมด.. พวกทหารไม่มีเวลาที่จะมาดึงมาทึ้งให้เหนื่อยแรง .. และเพื่อเป็นการโชว์ออฟของความขำนาญในการใช้ดาบด้วย..เขาจึงเอาสันฟันเฉียงๆไปที่คอขวดให้หลุดออก แล้วก็ดื่มเป็นการฉลองออกเดินทัพ ทีนี้..พระเจ้าซาร์ของรัสเซีย ท่านทรงโปรดแชมเปญเป็นอย่างมาก และชอบวิธีการใช้..“art of Sabrage” ของทหารฝรั่งเศส   เลยนำไปใช้ในพิธีการหรือเทศกาลในรัสเซียด้วยอย่างเอาจริงเอาจัง   ดาบที่ใช้ ก็เลยมากลายเป็น เซเบอร์ขนาดย่นย่อให้เหมาะกับการเอาไว้เปิดไวน์ซ่า(ที่ทำในพื้นที่อื่น) หรือ แชมเปญ จากฝรั่งเศส.. ในปัจจุบัน..ก็คงยังทำกันอยู่สำหรับเทศกาลต่างๆในฝรั่งเศส เพียงแต่ต้องหามือที่แน่จริงๆ (ส่วนใหญ่คือพวกเชื้อสายสลาฟดังที่ว่า) จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ก.ย. 49 16:23:46 ]

ความคิดเห็นที่ 42 จะตีสามแล้ว ยังไม่นอนเหรอคะพี่หวาน เดี๋ยวสิวขึ้นนะคะ :p แล้วพี่หวานเคยลองหัดเปิดขวดแบบนั้นบ้างหรือเปล่าคะ? น่าสนุกดี จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 22 ก.ย. 49 17:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผมว่าไม่ใช้ฟันกันง่ายแน่เลยคับ ถ้าทางต้องไปฝึกกระบี่ที่บู้ตึ้งมาก่อน แค่เปิดแชมเปญให้มีเสียงลมแค่ฟีดเดียว ผมยังทำไม่ค่อยได้เลยอ่ะคับ จากคุณ : nic Nenin (Nic Nenin) - [ 22 ก.ย. 49 17:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 44 กระบี่บู๊ตึ๊ง สงสัยว่าแล้วเศษแก้วไม่ลงไปในขวด ไม่กลัวหลุดเข้าคอเวลาดื่มเหรอคะ? จากคุณ : ขี้สงสัย (Tweety สี่ตา) - [ 22 ก.ย. 49 19:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คงต้องเอาตะแกรงมาร่อนออกแล้วค่อยทานมั้งคับ คุณ Tweety สี่ตา ปล.ผมขออนุญาติของอีเมลพี่วิ หน่อยน่ะคับ อยากปรึกษาเรื่องเวปไซด์อ่ะคับ ขอบคุณคับ mail ผม nickywino@hotmail.com จากคุณ : nic (Nic Nenin) - [ 22 ก.ย. 49 20:54:16 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แรงดัน ของไวน์ซ่ามันคง ดันเศษแก้ว ออกอ่ะครับ....ไม่ไหลย้อนกลับ อย่างตอนที่ดูเค้าฟัน  มันก็ฟู่ ๆ ๆ ๆ ออกไปแยะ ครับ แล้วก็รินแจกเลย ซะอย่างนั้น... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 22 ก.ย. 49 22:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สโลเวเนีย จากคำว่าสลาฟนี่เอง คุณลุงเจ้าของร้านไวน์ก็โช้ใช้สันของดาบที่เห็นเปิดไวน์ให้ดูเหมือนกันค่ะ จากคุณ : horseshoes - [ 23 ก.ย. 49 01:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไม่แน่ใจว่าผมตกข่าวหรือเปล่า... แต่ขอแสดงความเสียใจ ที่โลกนี้ สูญเสีย ไวน์เมธี ที่ ไม่เป็นรองใคร อย่าง Henri Jayer ครับ จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 23 ก.ย. 49 01:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ถูกของพ่อหมีค่ะ แรงฟู่พุ่งขึ้นของแชมเปญ..มันจะดันทุกอย่างออกหมด  แต่ขอขยายให้ฟังให้เห็นภาพ เพราะน้องนกคงยังติดใจสงสัย.. สมัยออกรบของทหารในยุคของนโปเลียน ผู้ที่จะได้รับแจกแชมเปญคือ นายทหารม้าระดับหัวหมู่ ที่กำลังนั่งสง่าอยู่บนหลังม้าตัวสูงใหญ่ยักษ์ แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ดาบห้อยเอวยาวเกือบลากพื้น.. นายทหารพวกนี้ ยามเข้าพันตูในการทำศึก ก็จะใช้ดาบแกว่งฟาดฟัน กุดหัวข้าศึก  เลือดพุ่งเป็นไฟพะเนียง.. ดังนั้น..เมื่อเขารับขวดแชมเปญคือการที่รับจากการโยนขึ้นไปให้ และไม่ได้แช่เย็นมาให้แบบเย็นเจี๊ยบ เมื่อรับแล้ว..เขาจะควงขวดด้วยมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งกระชากดาบออกมาสับโช๊ะที่คอขวด..ด้วยความฮึกเหิม และกรอกแชมเปญลงคอ...ก่อนที่จะแบ่งส่งต่อไปให้ลูกน้อง อันคือความหมายประหนึ่งว่า ได้สับหัวข้าศึกให้ขาดออกจากกัน.. แชมเปญจะมีลักษณะเหมือนกับเลือดที่ที่พุ่งออกมา.. เป็นเหมือนการตัดไม้ข่มนาม..ของพิธีศึกสงครามฝรั่งเศส และต้องแม่นยำด้วยนะ..ขืนสับไม่ขาดรับรองว่าเสียหม.. แน่ๆ.. ทหารลูกแถวมันจะได้พาลดูถูกเอาว่า..กะอีสับขวดแชมเปญยังไม่ขาด จะออกไปตัดหัวใครด๊ายยย... ...... เมื่อคืน..ตื่นขึ้นมาตอนตีสามอ่างน้องนกว่าละค่ะ เพราะตั้งใจโทรหาคุณแม่..ไม่ได้คุยกันมาเป็นอาทิตย์แล้ว ท่านไม่ว่าง เวลาไม่เคยตรงกันเสียที ขนาดอดตาหลับขับตานอนแล้ว..ก็ยังไม่ได้พูดเลย ไม่อยู่ซะอีกแล้ว.. จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ก.ย. 49 06:08:44 ]

ความคิดเห็นที่ 50 Henri Jayer เพิ่งเสียไปเมื่อวันพฤหัสนี่เองค่ะ ไม่ตกข่าวหรอก  เพราะใครๆก็เพิ่งทราบเหมือนกัน อายุสิริรวมได้ 84 เรื่องประวัติของเขาไว้เล่าทีหลัง..เพราะ ไวน์ของเธอก็โคตะระมหาแพง.. รู้ไปก็เท่านั้น.. และที่คุณ lovescooter พูดถึงเรื่องไวน์ low yield ของไทยที่ได้ทำการทดลองมาแล้ว.. คืองี้ค่ะ.. การทำโลว์ยีลด์นั้น  เหมือนกับการที่เราดูแลรักษา ประคบประหงม ต้นองุ่นตั้งแต่เริ่มผลิเป็นดอก..เริ่มเป็นตุ่มๆแบบจับพวง ที่ต้องตัดแต่ง จัดระยะ ไม่ให้แน่นในกิ่งแบบหลายพวง..การส่งน้ำหล่อเลี้ยงก็เป็นแบบมัธย้สถ์ พอดีๆ ที่สำคัญ..ต้องมีความรู้ในเรื่องธรรมชาติขององุ่นพันธ์ที่ปลูก เท่านั้นไม่พอ ยังจะต้องรู้สภาพดินและอากาศแบบ ขึ้นใจ..ว่า ตอนเช้าแดดจะมาทางนี้ บ่ายจะไปทางไหน คอยตัดแต่งใบไม่ให้มาปกคลุม  และ ไหนจะทางลมพัดผ่านอีก.. ชาวฝรั่งเศสทำไวน์มาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์  รู้จักพื้นที่ ดินฟ้าอากาศ มีภูมิปัญญาและเทคนิคเป็นของตัวเอง ที่ได้ถ่ายทอดมาจนถึงลูกหลานเหลนทุกวันนี้.. ระหว่างไวน์โลกเก่า และโลกใหม่ นั้น..ขอบอกว่า คำว่าโลกใหม่นั้น.. ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาทำกันในระยะหลังๆนี่ จึงได้เรียกว่าโลกใหม่..ที่บางคนเอาไทยแลนด์เข้าไปเสียบ อ้างว่าเป็นโลกใหม่ไปกะเขาด้วย..ไม่ใช่ค่ะ ไวน์โลกใหม่นั้น..เริ่มมาตั้งแต่ ค.ศ. 1520s ที่องุ่นจากยุโรปมุ่งไปในเม๊กซิโก ตามไปด้วยกันกับเส้นทางของมิสชั่นนารีที่ออกเผยแพร่ศาสนา..ต่อมาคือ 1530s ลงใต้ไปที่เปรู 1540s ลงต่ำลงไปที่ชิลี 1560s ข้ามฟากมาขวามือ คือที่ อาร์เจนตินา 1560s-1800s จากยุโรปมุ่งหน้าไปสู่ทวีปอเมริกาฝั่งตะวันออก  และได้เดินทางไปยังฝั่งตะวันตก หรือ คาลิฟอร์เนีย ก็เมื่อปี 1770s (หลังเม๊กซิโกเสียด้วยซ้ำ) 1650s  จากยุโรป เดินเรือลงใต้ ผ่านทวีปอาฟริกาเหนือ ลงมาปักหลักปลูกองุ่นบนพื้นที่ตรงติ่งของอาฟริกาใต้ หรือที่เรียกว่า Cape 1788 คือการเดินทางจาก Cape ข้ามมหาสมุทรอินเดียไปยังทวีปออสเตรเลีย.. นี่ละค่ะ..ที่เราเรียกเขาเป็นไวน์โลกใหม่..ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็อายุหลายร้อยปี..เก่าแก่กว่ารัตนโกสินทร์เสียอีก แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 49 10:27:19 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 49 06:51:17 จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ก.ย. 49 06:42:13 ]

ความคิดเห็นที่ 51 สำหรับคคห.ที่ 36 ที่คุณ horseshoes  พูดถึง black wine ของ Slovenia  ไวน์นั้นคือ REFOSK ที่องุ่นสีดำสนิท ไม่มีปลูกที่ไหนได้ นอกจากที่นี่ที่เดียว..และไวน์เรฟอส์ค นี้ถือว่าเป็นไวน์พื้นบ้านของชาวสลาฟใน Croatia ทั้งหมด ตอนนี้เขากำลังเร่งพัฒนาเป็นสินค้าส่งออกอยู่ ที่มีส่วนผสมกับองุ่นพันธ์พื้นเมืองอื่นๆ ให้รสชาติหลากหลายไปด้วย มีทั้งออกหวาน และ ทำเป็นไวน์ซ่า.. มีภาพองุ่น REFOSK ให้ดู..  เหมือนลูกหว้าเลยแหละ จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ก.ย. 49 07:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ตามมาอ่านเงียบๆครับ...กลัวปืนกับรถถัง จากคุณ : Uncle Tee - [ 23 ก.ย. 49 08:06:06 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คนข้างบนนั่น..คงตกใจกลัวจนตัวซีดตัวสั่นเลยซิ.. เมียยิ่งไม่อยู่บ้านด้วย..สงสารอิ๊อ๋าเลยเนี่ยยย.. เลยแวะเอารูปมาฝากอีกด้วย..น่ารักดีนะ เป็นเศรษฐกิจพอเพียง เป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน เป็นผัวแบกเมียตัด..(องุ่น) จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ก.ย. 49 08:40:53 ]

ความคิดเห็นที่ 54 หวัดดีชาวไวน์ทุกท่านครับ เล่าให้ฟังครับ วันเกิดปีนี้พิเศษมากเลยครับ เมื่อวันพุธหิ้ว Bin 95 ไปฉลองอายุขึ้นเลขสามที่จุสโต้ ต้องจารึกไว้ด้วยว่าวันคล้ายวันเกิดเราเป็นวันปฎิรูปซะนี่ จากคุณ : D19 - [ 23 ก.ย. 49 19:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 55 HBD น่ะคับ คุณ D19 มีคนที่ชอบอ่านในนี้ก็เพิ่งทาน Grange ปี1992 เมื่อวันศุกร์นี่เองคับ ขอเทสโน้ตทั้งสองคนเรยคับผม จากคุณ : Nic (Nic Nenin) - [ 23 ก.ย. 49 20:02:00 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณพี่หวานสำหรับเรื่องนักรบค่ะ สยองดี คุณ D19 คะ "จุสโต" นี้ อ่านออกเสียงแบบชาวอะไรคะ? จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 23 ก.ย. 49 22:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังครับ คุณ D19 หายไปนานมาก กลับมาจาก Perth แล้วหรือครับ... พรุ่งนี้ ผมก็ต้องไป อเดเลดอีกแล้ว... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 23 ก.ย. 49 23:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ช่วงนี้อยู่เมืองไทยสอนหนังสือครับ ปลายเทอมอย่างงี้ก็เตรียมเปิด Club-F อีกแล้วครับ อิอิ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรจากทุกท่านนะครับ ส่วนจุสโต้นี่เรื่องภาษาผมก็ไม่ค่อยถนัดเท่าไร โทรไปจองที่ร้านเขาบอกว่าชื่ออะไรผมก็เรียกอย่างงั้นแหละครับ อิจฉาคุณพ่อหมีจัง ได้ไปดินแดนไวน์อีกแล้ว ส่วนผมก็แพคของไปเที่ยวแถวๆนี้แหละครับ(ตามรูป) riedel 2 ใบ icewine, tyrrell vat 8, chateau magnol แล้วก็ดาวแดงสองขวดครับ จากคุณ : D19 - [ 24 ก.ย. 49 06:08:33 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขออวยพรวันเกิดให้กับคุณ D19 ให้ร่ำรวย และสุขกายสบายใจ เพื่อนรัก หญิงหลง  มีไวน์(ดีๆ)กินอย่างไม่มีวันหมด.. ทั้งหมดที่ว่ามา..รับไหวไหมคะเนี่ยย..??? อ้อ..ลืมถามไปว่า..คลับเอฟ คืออะไรหรือคะ? แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 49 09:00:26 จากคุณ : WIWANDA - [ 24 ก.ย. 49 08:59:04 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ...สวัสดีครับพี่วิ ...ผมยังวุ่นวายไม่เลิกเลยครับ ...คุณ D19 ครับ ...เรามีภาระกิจบางอย่างที่ยังไม่ได้ลงมือเลย...กับไวน์สเปนขวดนั้น (เรื่องอื่นนะลืมได้...เรื่องไวน์น่ะจำแม่น) ...คุณนกครับ ...Giusto ตามที่คุณ D19 น่ะ ถูกต้องแล้วครับ "จุสโต" (จี-อุซ-โต) ไม่ใช่ "กู๊สโต" เพื่อนผมบางคนยังติดเรียกเป็น "กุ๊ยสโต" อยู่เลย จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 24 ก.ย. 49 09:52:47 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ตามอ่านมานาน เก็บขวดนี้ไว้ให้คุณ WIWANDA เห็นในกระทู้ก่อนหน้านี้ บ่นเสียดายปี 70 ที่เอาไปเปิดรับแขก ผ่านมาแถวบ้านแวะมาเอาไปเลย จากคุณ : Evilmo - [ 24 ก.ย. 49 10:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ต้องขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะ คืออยากสวัสดีและทักทายชาวไวน์น่ะครับ และอยากขอบคุณ คุณ WIWANDA กะ คุณ วิโรจ ที่ช่วยให้ความรู้และความบันเทิงกับชาวไวน์ครับ จากคุณ : Evilmo - [ 24 ก.ย. 49 10:43:34 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สวัสดีคุณ Evilmo และขอต้อนรับเข้ากระทู้ค่ะ ขอบพระคุณมากสำหรับ Calon-Segur 1995 .. ที่บ่นว่าเสียดายไวน์เก่าขวดนั้น ก็บ่นไปงั้นละค่ะ เพราะยังไงก็ต้องเปิดอยู่แล้ว..มันถึงเวลาแล้ว ดิฉันอยากให้คุณเก็บไว้เปิดฉลองในวันสำคัญกับผู้ที่เป็นที่รักมากกว่า เพราะ ฉลากของไวน์นี้มีนัยยะสำคัญ แต่ขอขอบพระคุณในความเอื้ออารีอีกครั้งค่ะ.. อ้อ..ว่าแต่บ้านน่ะ..อยู่ไหนเอ่ยยยย...??? (พูดเล่งงงงนะ) จากคุณ : WIWANDA - [ 24 ก.ย. 49 11:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 64 คุณวิโรจมาพอดี..วันอาทิตย์เช้าๆนี่ไม่ไปฟิตเนสหรือคะ? คุณพ่อหมีต้องเดินทางอีกแล้ว น่าเหนื่อยแทน..แต่หวังใจว่าคงได้ชิมไวน์หลากหลายชนิด ทีนี้จะเล่าต่อเลยละกัน เดี๋ยวอู้ยาวนัก..จะเพลินหลงทางไปอีก เมื่อผ่านขั้นตอนการส่งองุ่นเข้าหมักเสร็จ ก็ถึงเวลาของการเก็บเข้าเซลล่าร์หรือที่เราเรียกว่า  Cellar Time มันเป็นช่วงปลายเดือนตุลาคมพอดี..ซึ่งตรงกับวันเทศกาลอเมริกัน นั่นคือ วันฮาโลวีน ที่ได้กลายเป็นวัฒนธรรมประจำชาติไปโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว แม้กระทั่งในฝรั่งเศส ที่ผู้เฒ่าผู้แก่ต่างพากันไม่พอใจ เพราะมันไม่ใช่กิจกรรมทางศาสนาแต่อย่างไร ซ้ำร้าย..มันกลายเป็นเทศกาลหาเงินของกลุ่มนายทุนที่อุปโลกเอาเรื่องบ้าๆบอๆออกมาเป็นเครื่องมือหากินเอากับเด็กกับเล็ก โดบปรกติ ในยามนั้น เวลานั้น ภูมิอากาศในบอร์คโดซ์จะเริ่มขมุกขมัว  หากแต่ในปี 2001 นั้น กลับกลายเป็นว่า ท้องฟ้าแจ่มใส..แดดดีถึงขนาดแผดเผาใบองุ่นจนกรอบเกรียม ผู้คนต่างรีบตักตวงหาความสุขกับอากาศที่เป็นใจ  พากันหยุดงานหนึ่งอาทิตย์และยกโขยงไปพักร้อนตามชายหาด หรือจัดปิคนิคกันเอิกเกริก แต่ มิเชล..ไวน์เมธีคนดังกลับต้องทำงานจรตัวเป็นเกลียว..วิ่งจากไร่..เข้าไปดูงานในเซลล่าร์ ตามไร่โน้นไร่นี้ของพวกเหล่าลูกค้า.. เพราะช่วงนี้คือหัวเลี้ยวที่สำคัญ..ของการทำไวน์..ว่าพร้อมที่จะถ่ายจากถังสเตนเลส เข้าสู่การหมักครั้งที่สองในถังโอ๊คหรือยัง..? และเนื่องจากเหล่าลูกค้าของเขา..ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีปัญญาซื้อถังโอ๊คชั้นดูใหม่ๆได้ตั้งมากมายทุกปี  ดังนั้น มิเชลจึงต้องใช้วิธีใหม่โดยเลือกว่า..ไวน์ล๊อตไหนควรจะแบ่งไปหมักในถังใหม่ และล๊อตไหนที่ควรจะไปหมักในถังเก่า... ขอเรียนให้ทราบนิดหนึ่ง..ไวน์ที่หมักในถังโอ๊คใหม่ จะดูดซึมรสชาติหอมหวานของเนื้อไม้ใหม่ อีกทั้งจะได้รับกลิ่นหมอเกรียมของการรมไฟในเนื้อไม้ ส่วนไวน์ในถังเก่าจะด้อยในสองสิ่งไปหน่อยนึง หากแต่จะมีความเป็นธรรมชาติของไวน์มากกว่า ทุกๆเช้า..มิเชลจะกระโดดขึ้นนั่งเบาะหลัง ปล่อยให้การขับยวดยานนั้นเป็นหน้าที่ของโชเฟ่อร์ส่วนตัว เพราะเขารู้ดีว่า ตำรวจในบอร์คโดซ์ทุกคนรู้จักรถและเลขทะเบียนอย่างขึ้นใจ เพราะ..ใครๆก็รู้ว่า วันหนึ่งๆเขาต้องตะเวณดื่มไวน์มากมายแค่ไหน..โปลิศจึงเตรียมพร้อม..ถ้าเห็นขับรถเองเมื่อไหร่..เป็นโดนดีแน่ๆ จากคุณ : WIWANDA - [ 24 ก.ย. 49 11:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เช้าวันหนึ่ง ที่มิเชลได้เข้าไปเยี่ยมไร่ Ch. Kirwan (มาร์โกซ์) ที่เป็นไร่ไวน์กรอง ครู ชั้นสามที่ถูกลืม เพราะการเปลี่ยนมือไปมาหลายครั้งในอดีต เจ้าของที่เข้ามาครอบครองไม่ได้พัฒนาให้ไวน์มีคุณภาพคงเดิม แต่..ในปี 1990s  กลุ่มครอบครัว Schylers รุ่นใหม่ รุ่นทายาทเริ่มมองเห็นการณ์ไกล รู้ว่าควรจะต้องทำอะไรให้เป็นการเรียกชื่อเสียงเก่าๆกลับคืน  พวกเขาจึงตัดสินใจจ้างมิเชลให้เข้ามาควบคุมการผลิต มิเชล..รับงานนี้ เพราะว่า มันช่างเป็นเรื่องที่แสนท้าทายความสามารถอย่างยิ่ง..เนื่องจากเหล่าผู้ดีไวน์ชั้นหนึ่งทั้งหลายไม่เคยชำเลืองตาแลเขาเลย..เพราะเห็นว่า..มิเชลเป็นเพียงเด็กอมมือจากบอร์คโดซ์ฝั่งขวาที่แสนจะบ้านนอก ดังนั้น..เขาจึงหมายมั่นที่จะปั้นไวน์ของ ชาโต เคียร์วาน ให้โด่งดังขึ้นมาเทียบรัศมีกับไวน์ห้าอรหันต์นั้นให้ได้ เมื่อมิเชลเข้ามาถึงไร่  เขาจะอ้อมไปข้างหลังมุ่งหน้าสู่ เซลล่าร์ทันที  ไวน์ 12 ขวดวางเรียงบนโต๊ะ พร้อมให้เขาทดลองชิมทดสอบ เรียงไป ตั้งแต่ เมอร์โลต์,  แคบ/โซ, และ เปอติท แวร์โดต์ ผู้ที่เข้ามาร่วมในการทดสอบคือ นาตาลี ไชเล่อร์ เจ้าของไร่และนายช่างผู้ควบคุมเซลล่าร์ "เราเริ่มกันด้วยเมอร์โลต์ก่อนแล้วกัน"  มิเชลประกาศทดสอบ..เป็นการเริ่มทำงาน.. นาตาลีรินไวน์ใส่แก้ว  ไวน์เหล่านั้นคือไวน์ที่เลือกมาจากล๊อตต่างๆในถังสเตนเลส เพื่อที่จะเลือกว่า อันไหนจะส่งไปหมักในถังโอ๊คใหม่ หรือ เก่า.. มิเชลยกแก้วที่บรรจุเมอร์โลต์นั้นขึ้นดม.. ชิม..และบ้วนทิ้ง ไม่ได้ออกความเห็นอะไรเลยสักคำเดียว  จนกระทั่ง  ชิมจบไปเจ็ดรายการ ก่อนที่จะบอกว่า.. "ใช้ได้ดีทีเดียว" มิเชลเป็นคนที่มีความน่ารักในบุคลิก กล่าวคือ..ในช่วงของการชิมไวน์ เขาจะไม่ติ..หรือ ออกความเห็นในด้านลบเลย..นอกจาก ช่วยแก้ใขและแนะนำ เช่น..ไวน์เบอร์หนึ่ง..หมักใช้ได้พอดีแล้ว..ต้องหมักครั้งที่สองในถังใหม่เพื่อเติมแต่งความเนียนและนุ่มนวลในเนื้อไวน์ ไวน์เบอร์สอง ยังดิบไปหน่อย  เบอร์สามส่งไปถังเก่าได้เลย..เบอร์หกเบอร์เจ็ดปล่อยในถังไว้ก่อน ยังไม่พร้อมถ่ายถัง.. จบจากการชิมเมอร์โลต์ที่ใช้เวลาไปทั้งหมดคือ 45 นาที..มิเชลต้องขอตัว..เขาบอกว่าจะกลับมาชิมไวน์ที่เหลือในวันหลัง เพราะเขาจะต้องรีบไปต่อที่ไร่อื่นๆ เช่น  Ch. Siran และ Ch. Clarke  ที่จ่อคิวคอยอยู่.. จากคุณ : WIWANDA - [ 24 ก.ย. 49 12:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 66 สวัสดีฮะ อาวิ และเพื่อนๆทุกคน ขอบคุณครับ สำหรับคำอธิบายlow yield และไวน์โลกใหม่ ... รออ่านต่อครับ จากคุณ : lovescooter (lovescooter) - [ 24 ก.ย. 49 17:03:06 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณพี่วิโรจค่ะ (พี่ แม่นแล้ว) นกไม่ได้หาว่าคุณ D19 ผิดหรอกค่ะ คือนกไม่รู้จริงๆ เพราะเพื่อนชาวอังกฤษเขาเรียก กวิสโต้ (หรือนกอาจจะฟังผิดเองก็ได้) แต่ร้านนั้นน่ะอิแทเลี่ยน ไม่ใช่อังกฤษหรืออเมริกัน นกก็เลยอยากจะรู้ว่าอะไรถูกแน่น่ะค่ะ ไม่อยากเปิ่น คนเสริฟร้านนั้นน่ะค่ะ เกร็งจนน่ารำคาญ ฟังภาษาฝรั่งก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง (ฝรั่งพูดนะคะ ไม่ใช่นกพูด ถ้านกพูดนกไม่โทษเขาหรอก) สั่งอะไรได้ไม่ค่อยครบ (แต่ดูเขาพยายามจนน่าสงสาร เลยไม่ได้ว่าอะไรเขาหรอกค่ะ แต่ขอมาบ่นในนี้ ใครไปจะได้เช็คออร์เดอร์ดีๆ ไม่งั้นนั่งคอยเงกก็ไม่มาเพราะเขาไม่ได้จด) พี่หวานคะ รับไว้เถอะค่ะขวดนั้นน่ะค่ะ แสดงว่าพี่หวานเป็นคนพิเศษไงคะ ;) เอาไว้พี่หวานกลับมา นกขับรถพาไปรับนะคะ (ยังไงพี่หวานก็ดื่มไม่หมดหรอก ไม่ตะกละเล้ยหนู อิ๊อิ๊) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 24 ก.ย. 49 20:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ...ผมมีความล้มเหลวที่อยากจะมาเล่าให้ฟัง ...เมื่อ 23/8/2545 ก็แค่สี่ปีที่ผ่านมา ...ผมดื่มไวน์ขาวตัวหนึ่งที่ชื่อว่า ...Domaine de la Janasse 1999 รุ่น Prestige ...วันนั้น Tasting Note ออกมาเป็นเช่นนี้ "สีเหลืองทองสวย เข้มปานกลาง กลิ่นโอ๊กนำโด่ง ...หอมแบบไม่มีโครง โครงหนา โอ๊กแน่น ครีม ...ผลไม้ไม่ดีนัก อมขม อมหวาน ไม่มีความลึก ...โซดา จบแบน ไม่คุ้ม" ...วันนั้น...ผมจบไวน์ตัวนี้ไว้ด้วย Rate: 83 ...ด้วยความผิดหวังอย่างแรง ...แต่มาวันนี้ผม ...ผมเปิดตู้ไวน์และพบหน้าอีกครั้งในช่องล่างของตู้ที่ซับซ้อน ...มันยังเหลืออยู่อีกขวด นี่มันไวน์ขาวอายุเจ็ดปี ต้องจัดการแล้ว ...ผมเปิดมัน...ที่เดิม ...เวลาเดิม...กับเจ้าหญิงคนเดิม ...แม้เจ้าหญิงของผมจะสมบูรณ์ขึ้นเกือบสี่ปี..แต่เธอเพรียวขึ้นเยอะ ...แต่ทีสำคัญกว่านั้น ...วันนี้...ไวน์ขวดนี้แสดงผลที่ทำให้รู้สึกผิดและ...อับอาย " เหลืองทองสวย เข้ม สว่างตา บ่งบอกถึงความเก่า องุ่นเหลืองหอม ซางอ้อย น้ำอ้อยหวาน น้ำมันสน ...โอ๊กงดงาม ปูนขาว ครีมหวาน ...เป็นกลิ่นเข้ม กึ่งดรายกึ่งหวานที่สมบูรณ์แบบ ...ไอแอลกอฮอล์โชยมาระริก พริ้วสวย โครงเนื้อหนาเต็ม เข้ม สลวย แอลกอฮอล์สูงจนพุ่งพล่าน ...ออกหวานกึ่งขมจาง ๆ ผลไม้เหลืองเข้ม ...โอ๊กเข้มและสวยมาก...มีความซับซ้อนในรสชาติ จบยาวเร้าใจ" ...ผมจบด้วย Score ที่ 93 แต้ม ...เหตุการณ์นี้สอนผมหลายอย่าง ...พี่วิช่วยบอกน้อง ๆ หลาน ๆ ด้วยครับ ...ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 49 20:59:47 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 49 20:51:32 จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 24 ก.ย. 49 20:50:11 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณสำหรับคำอวยพรดีๆจากคุณวิครับ คลับเอฟจริงๆหมายถึงคลับของสาวเซ็กซี่หนะครับ ดำเนินงานโดยเก๋ ชลดา แต่ชื่อมันแสลงใจสำหรับเด็กมหาลัย คงไม่มีใครอยากได้เอฟเท่าไร ส่วนเรื่องภาษาเนี่ยมันก็คงมีคนเหนือคนใต้คนภาคกลางแบบเรามังครับ เหมือนชื่อองุ่นบางตัวอ่านกันไปคนละแบบ ช่วงนี้ผมชอบขวดนี้อ่ะ เป็นZinfandel ที่หนักแน่น ไม่ทราบว่ามีใครมีคอมเมนต์เกี่ยวกับตัวนี้บ้างครับ จากคุณ : D19 - [ 24 ก.ย. 49 21:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 70 สงสัยจะเป็น mission impossible เสียแล้วล่ะครับคุณวิโรจน์ เนื่องจากว่าตาข่ายสีทองมันเตะตาพ่อผมมากเลยครับ เลยมิอาจปฎิเสธท่านได้ ขอเสนอ SGN ขวดนี้แทนได้ไหมครับ จริงๆน่าลบยี่ห้อออกแล้วให้เดาเหมือนในเกมส์แฟนพันธุ์แท้นะเนี่ย ขอไปจัดการกองข้อสอบสักสองอาทิตย์ หลังวันที่6 ตค เวลาและสถานที่คุณวิโรจน์นัดมาได้เลยครับ จากคุณ : D19 - [ 24 ก.ย. 49 21:48:29 ]

ความคิดเห็นที่ 71 แหม..คุณวิโรจทิ้งท้ายให้พี่อีกแล้ว.. ก็นี่คือหนึ่งของปัญหาและปริศนาที่ล้ำลึกของไวน์ ที่ขึ้นอยู่กับคำว่า..รอ..รอ..และ รอ  ยิ่งเป็นของฝรั่งเศส(โลกเก่า) โดยเฉพาะพื้นที่ทำไวน์อย่าง  Rhone ไม่ว่าจะเป็นเหนือหรือใต้ ที่มีส่วนผสมขององุ่นที่หลากหลาย ที่ไม่ใช่ เมอร์โลต์ หรือ แคบ/โซ...เพราะองุ่นที่ปลูกได้หลักๆ คือ Grenache นอกนั้นก็มี Cinsault, Counoise, Mourvedre, Muscardine, Syrah, Terret Noir, Vaccarese อันเป็นที่รู้กันว่า อดีตไวน์บ้านนอกอย่าง ชาโตเนอฟ ดู ป๊าป  (ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะบ๊อบชอบ)นั้น คือไวน์ที่มีความเถื่อนสูง..หรือที่ภาษาฝรั่งเรียกว่า rustic  มีความเข้มข้นโดยธรรมชาติ จึงต้องใช้เวลานานหน่อย..เพื่อบ่มให้นุ่มละมุนคอ.. สำหรับไวน์ขาวของพื้นที่นี้..ผลิตได้น้อยมาก..และมาจากองุ่น เกรอน๊าชขาว..เป็นองุ่นหลักประมาณว่า 70-80% เป็นไวน์ขาวที่สามารถเก็บได้นานถึงสิบปี หรืออาจได้นานกว่านั้นถ้าอยู่ในที่ที่มีอุณภูมิใกล้เคียงกับแหล่งผลิตค่ะ จากคุณ : WIWANDA - [ 24 ก.ย. 49 22:07:54 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คุณ WIWNDA ครับ ไอ้ Calon-Segur นี่ผมคงไม่ดื่มอีกแล้ว (ยังมีเหลือ 4-5 ขวด) ดื่มทีไรมันขมขื่นชวนให้น้ำตาใหลรินไปทุกที ถ้าชวนคุณ "Tweety สี่ตา" ขับรถมา ก็แค่ข้ามสะพานใหญ่ๆสีแดง มาสักหน่อย ไม่ใกล้ไม่ไกลจนเกินไปจากบ้านคุณ WIWANDA หรอกครับ เดี๋ยวผมมีเผื่อให้คุณ "Tweety สี่ตา" ด้วยอีกขวด จากคุณ : Evilmo - [ 25 ก.ย. 49 01:38:15 ]

ความคิดเห็นที่ 73 สวัสดีครับพี่วิ คุณวิโรจ และทุกท่าน แวะมาทักทายครับ ตอนนี้ต้องไปงาน conference ที่โปรตุเกสตั้งอาทิตย์นึง เลยอาจจะได้เข้ามาบ้างไม่เข้ามาบ้างครับ ว่าแต่ พอทราบมั้ยครับว่าแถวนี้มีไวน์อะไรดีๆแนะนำ้บ้างครับ :) แต่ว่าไวน์ขาวอายุหกปีแล้ว ยังไม่พร้อมดื่มนี่ สุดๆจริงๆนะครับ จากคุณ : LaGrandeRue - [ 25 ก.ย. 49 04:24:03 A:81.193.75.207 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 อ้าว..แล้วกัน คุณ Evilmo เป็นคนฟากขะโน้นนี่เอง นึกว่าใครที่ไหน..คนกันเองแท้ๆ เอางี้..ถ้า Calon-Segur 1995 มันค้างคาและบาดใจในยามที่ชำเลืองแลนักละก้อ..เก็บเอาไว้ให้มิดชิดก่อนนะคะ วันไหนวันหนึ่ง..ถ้าผ่านไปแถวนั้น ก็จะเอา"ของอื่น"ไปแลกก็แล้วกัน.. แต่แหม..ที่แปะชื่อน้องทวีตี้เอาไว้น่ะ..อย่าทำเล่นไปนะ บ้านน้องสาวของเธออยู่ไม่ห่างจากคุณไปเท่าไหร่หรอก เธอตามไปทวงได้ถึงที่เลยเชียว.. สำหรับคุณ LaGrandeRue ที่ถามเรื่องไวน์ Portugese ขอแนะนำนี่ค่ะ Moscatel de Setubal 20 Year Old JM da Fonseca กับ Moscatel de Setubal Alambre 1992 JM da Fonseca ที่พอไหวนะคะ..(แต่อย่าตั้งความหวังไว้สูงนัก) ทางที่ดีลองหาเหล้า Port ดีๆติดไม้ติดมือกลับมาประดับบ้านก็ไม่เลว เพราะไหนๆก็ไปถึงที่แล้ว.. จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.ย. 49 05:24:19 ]

ความคิดเห็นที่ 75 พูดถึงเรื่องความพร้อมดื่มหรือไม่พร้อมของไวน์นี่.. เห็นทีจะต้องหาเรื่องมาเล่าอีกแล้ว..(จะเบื่อกันหรือยังคะเนี่ย..??) อย่างไวน์ Chablis ไวน์ขาวที่ผลิตในพื้นที่ของเมืองชาบลีส์ ที่อยู่ทางด้านตะวันออกของกรุงปารีส ที่ทำด้วย องุ่นชาร์ดอนเนย์ หรือจะว่าอีกทีคือ  ไวน์ White Burgundy นั่นเอง เพียงแต่ส่วนที่ผลิตในเมือง Chablis ก็ต้องเรียกตามชื่อเมือง..ในสมัยก่อนที่ยังไม่รู้จักวิธีทำ มาโลแลคติค..ไวน์ขาวชาบลีส์นี่ต้องรอกันเป็นสิบปีทีเดียว กว่าจะกินได้ เพราะพื้นที่ที่ปลูกมีอากาศหนาวเย็น องุ่นมีความเฝื่อนมากกว่าปรกติ อีกทั้งการเก็บในเซลล่าร์ที่เย็นราวกับห้องเย็นนั้น..ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย.. รอกันเงก.. เพิ่งจะมาพัฒนากินกันได้ในระยะสั้นก็เมื่อการรู้จักใช้การหมักครั้งที่สองนี่แหละ.. แต่กระนั้น..ก็ยังแค่พอแหลกล่ายเท่านั้น..แต่ถ้าอดใจคอยสักหน่อย รับรองว่า..รสชาติดีกว่าเดิมแยะ อันนี้เชื่อว่า..คุณวิโรจคงตระหนักในข้อนี้แล้ว.. ทีนี้เรื่องไวน์แดง  ในอดีตกาลนั้น ยกมาตั้งแต่ครั้ง ก่อนคริสต์กาลก็ได้มัง..ว่า..การดื่มไวน์หรือน้ำองุ่นหมักนั้น (สำหรับชาวบ้านทั่วไป)ไม่ได้มุ่งในเรื่องรสชาติ หรือ หวังจะดมกลิ่นโอ๊คให้เบิกบานสำราญใจก็หาไม่.. เขาดื่มกันเพราะ มันปลอดภัยกว่าการดื่มน้ำ น้ำในสมัยนั้น ไม่ใช่น้ำประปา หากแต่เป็นแม่น้ำลำคลองล้วนๆ จะเอามากรอง หรือ ต้ม ก็มากเรื่องมากความ เล่นไวน์นี่แหละ สะดวกดี  ใช้ได้สารพัด..ใช้เป็นยาก็ได้ อีกทั้งเป็นยาอายุวัฒนะได้อีกด้วย.. เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่สมัยโรมันยังเรืองอำนาจ และเรื่องถังโอ๊ค..ก็เป็นเรื่องบังเอิญ เพราะ ถังไม้นั้นสะดวกต่อการขนส่งเคลื่อนย้าย..ไม่ต้องยกต้องหามให้เหนื่อยแรง กลิ้งไปไหนไปได้ทั่ว.. ไวน์ที่อยู่ในถังไม้..ได้ปรากฏว่า อร่อยและหอมหวานกว่าไวน์ในตุ่มดิน.. จากนั้นมา..คนก็เริ่มเรียนรู้ว่า..ไวน์เก่าๆเก็บนานๆจะอร่อยกว่าไวน์ใหม่ๆที่ฝาดเฝื่อน จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.ย. 49 06:06:00 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เรื่องการทำวิกฤติให้เป็นโอกาสนั้น ในวงการไวน์ก็เกิดขึ้นบ่อยๆตามระยะทางของประวัติศาสตร์ ขอยกตัวอย่างถึง เรื่องของไวน์ โบโฌเลส์ นูโว (Beaujolais Nouveau) ที่ทำด้วยองุ่น Gamay 100% และใช้เวลาหมักในถังแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็นำออกสู่ตลาด(ทั่วโลก) ขายกันสดๆเลยในกลางเดือนพฤศจิกายน..ในจำนวนถึงห้าล้านลัง.. ในหนังสือบางเล่ม เขียนว่า เพื่อเป็นการออกมาขายฉลองให้ทันกับเทศกาลขอบคุณพระเจ้า (คือพฤหัสที่สามของเดือนพฤศจิกายน) แต่ความจริงในนั้นมีอยู่บ้างในเชิงของการค้า..แต่ไม่ใช่เนื้อหาหลัก.. คือว่า..ไวน์นูโวนี้..เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นาน คือจากผลของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งนี่เอง (1914-1918)ที่เยอรมันได้เข้ายึดครองฝรั่งเศส (เหมือนกับคราวสงครามครั้งที่สองเลย) เยอรมันได้รีดส่วย ขนย้ายไวน์เอาไปหมด ไม่ใช่เอาไปกินนะ เอาไปทำแอลกอฮอลเพื่อใช้ในยุทธปัจจัย ดังนั้น..การขาดแคลนไวน์จึงมีทั่วไปหมด..ผู้คนอดอยาก ถึงขนาดต้องเอาไวน์มาหยดใส่ในน้ำดื่ม คือขอให้ได้กลิ่นก็ยังดี.. ดังนั้นชาวฝรั่งเศสจึงต้องหาวิธีทำไวน์เฉพาะกิจ ชนิดรวดเร็ว..ไม่ต้องหมักต้องแหมกกันให้เมื่อย..ทำเร็ว กินเร็วเพราะของเก่ามันไม่เหลือซากไว้ให้ดูแล้ว.. ไวน์โบโฌเลส์ นูโว จึงเรียกได้เลยว่า เกิดมาเพราะสถานะการณ์บังคับ.. ต่อจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งไม่นาน..ก็เอาอีกแล้ว สงครามครั้งที่สอง เหตุการณ์ทุกอย่างเกิด ขึ้นมาเหมือนกับแผ่นเสียงตกร่อง.. เหล่าพันธมิตรทั่วโลก..ต่างเรียกร้อง ถวิลหาไวน์ โบโฌเลส์ นูโว  และ ได้กระทำติดต่อกันมาจนกลายเป็นประเพณี.. และเพื่อเป็นการบอกให้ทุกคนได้เตรียมตัว เตรียมใจไว้ว่า วินเทจใหม่(ของไวน์อื่นๆ)เก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ผ่านการหมักและ...กำลังนอนนิ่งรอคอยอยู่ในถัง.. จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.ย. 49 07:18:15 ]

ความคิดเห็นที่ 77 คุณ D19 คะ ใช่ตัวนี้ไหมเอ่ย..???? Hugel Gewurztraminer "Selection de Grains Nobles"   หรือจะเป็น Tokay..... จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.ย. 49 07:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 78 แม่นแล้วครับ คุณวิ จากคุณ : D19 (D19) - [ 25 ก.ย. 49 07:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อรุณสวัสครับทุกคน HBD ย้อนหลังครับ คุณ D19 จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 25 ก.ย. 49 08:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 80 พี่วิ...ขออนุญาตครับ ...ในโอกาสสำคัญที่ผมจะได้พบกับคุณ D19 ...และ Hugel  "Selection de Grains Nobles" (แพลบ...น้ำยายไหญ) ของท่าน ...ก็อยากขอเรียนเชิญชวน...Wiwanda FC...ทุกท่านเข้าร่วมทำประชาพิจารณ์ ...และถือโอกาสเห็นหน้าตาพร้อมทำความรู้จัก ...ขอเสนอร้าน Giusto (สุขุมวิท 23...ร้านนี้คุณนกหนิดหนม) ...หรือไม่ก็ Harvey (ทองหล่อซอย 9...ร้านนี้ผมเส้นใหญ่) ...ในวันศุกร์ที่สิบสาม (ฝันหวาน) นี้เลยครับ ...อยากจะขอเรียนเชิญทุกท่านนำไวน์ในดวงจิตติดกายมาด้วย ...ไม่ต้องเกรงบารมีไวน์ผู้ใด มีอะไรก็ให้เอามาอย่างนั้น ...หรือไม่สะดวกนำมาก็ไม่ว่า ...คิดแค่อยากเห็นหน้าเพื่อนไวน์ ...ใครใคร่มา...ยกมือขึ้น ...ใครติดขัดอย่างไร...ขอโปรดนำเสนอ... ปล.. ..ผมละอยากเจอ...คุณนก...อ.สื่อฯ...ป๋าชช...คุณลุงที ...คุณวาริชเวสม์...คุณปีบ...หลานแน๊ท...หนูอ้วนเกิน ...โอยมีเยอะเลยในกระทู้นี้ ...คุณ Phantom of the Cellar ผีใต้ถุน นิค..... ...รวมทั้งผู้สนใจทุกท่านที่ไม่ได้ระบุ และไม่เปิดเผยตัว ฯลฯ) ...ผมตั้งใจจะเอาขวดนี้ไปดื่มกับทุกท่าน แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 49 08:24:21 จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 25 ก.ย. 49 08:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 81 รีบยกมือเป็นคนแรก (ไปคร้าบ ไปคร้าบ) อยากเจอพี่ๆทุกคนเลย จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 25 ก.ย. 49 08:59:11 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ปายด้วย .... จากคุณ : LightStream1010 - [ 25 ก.ย. 49 09:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 83 อะจึ๊ย!! ช็อคแต่เช้าเลย!! _/l\_ ขอบคุณคุณ Evilmo ค่ะ ถ้าไปรับได้จริงๆ และไปวันศุกร์ได้ จะเอาขวดนั้นแหละค่ะไปเปิด มิกล้าอุบอิบไว้คนเดียวหรอกค่ะ เดี๋ยวท้องอืด ที่ว่าท้องอืดนี่ไม่เกี่ยวกับพี่หวานนะคะ   ก็นกไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้ใครในนี้เลยน่ะค่ะ จะรับไว้คนเดียวได้ไง (ไม่รับก็ไม่ดี ผู้ใหญ่ให้ของ เด็กก็ต้องรับค่ะ อิอิอิ) แล้วพี่วิวันดาไม่อยู่นี่น่ะค่ะ teleconference ได้หรือเปล่าคะ? ไม่งั้นคิดถึงแย่ (คอมฯพี่หวานมีกล้องกับไมโครโฟนมั้ยคะ???) ปัญหาหนักคือ ตอนนี้คุณแจ๋วของนกกลับบ้านไปเกี่ยวข้าวค่ะ ถูบ้านซักผ้ารีดผ้าทำกับข้าวแล้วก็เฝ้าลูกทุกวันเลยนี่สิคะ จะไปได้ไง แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 49 10:26:16 จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 25 ก.ย. 49 10:03:44 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ลืมผมแล้วหรือไร วันศุกร์ก็ไม่ไป คราวนี้ก็ไม่ชวน โกรธร้อยปีอย่ามาดีร้อยชาติ จากคุณ : ใครๆก็ไม่รัก (sckg) - [ 25 ก.ย. 49 10:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 85 โอ้ แล้วก็.. พี่วิโรจคะ นกมิกล้าซี้ร้าน Giusto หรอกค่ะ ไปกินมาสามทีเอง ซี้ไม่ไหวหรอกค่ะ กินสองคนประมาณสามพันทุกที (ไม่นับไวน์) ไม่เคยออกสตางค์เองเลยด้วยค่ะ เพื่อนเลี้ยงทุกที ถ้าเป็นร้าน Tessa (ทองหล่อ 23) น่ะ ซี้จริงค่ะ เจ้าของเป็นเพื่อนรักกัน แต่เขาไม่มีไวน์ดีๆ ขนาดมาตรฐานคนห้องนี้ (เพราะคงจะขายน้อยจนไม่อยากสต๊อค อันนี้ไม่ทราบค่ะ) แต่อาหารยุโรปไม่แพ้ใครค่ะ เธอไปเรียนมาจากฝรั่งเศส คุณแม่เธอก็ไปเรียนกอร์ดองเบลอและช่วยดูแลด้วย ถ้าจะเปลี่ยนไปชิมที่ร้านนี้นกขอราคาพิเศษให้ได้ค่ะ ถ้าไม่สนใจไม่เป็นไรค่ะ แค่เสนอดู นกไม่มีส่วนได้เสียอะไรเลย จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 25 ก.ย. 49 10:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 86 คุณนก.... ...ผมก้อแซวเล่น เรื่องหนิดหนมกับจุสโต ...แต่ก็จริงอย่างที่คุณนกว่า ...ไปจที่นั่นทีไร...กลับถึงบ้าน...ต้องยืนนิ่ง...อยู่เป็นนาน ...แฟนถาม.....หมดตูดละสิท่า...ถึงนั่งไม่ได้ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 25 ก.ย. 49 10:56:00 ]

ความคิดเห็นที่ 87 สวัสดี ตอนพักเที่ยงครับ อยากไปเจอกันมากเลยครับ แต่วันที่ 12-14 ตค.ผมอยู่ที่หัวหินครับ  ไปไม่ได้ครับ แง แง ..... จากคุณ : วาริชเวสม์ - [ 25 ก.ย. 49 12:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 88 พี่sckg แหมใคร จะลืมพี่ได้เล่า อิอิ พี่ไลท์จ๋า งานนี้จะงัดอะไร ไปเอ่ย?? จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 25 ก.ย. 49 12:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณครับคุณวิโรจฯที่กรุณาเชิญชวน   อยากไปพบปะเพื่อนๆเช่นกัน แต่คงไปไม่ได้เพราะครอบครัวจะไปหัวหินเช่นเดียวกับคุณวาริชเวสม์ครับ ตกเย็นย่ำก็คงนั่งจิบเพลินๆแล้วส่งใจถึงกัน  ส่วนตอนกลางวันตากแดดตัวดำเหมือนเดิมครับ จากคุณ : Uncle Tee - [ 25 ก.ย. 49 13:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 90 แหมคุณวิโรจน์พูดยังกับไม่เคยเจอกันแน่ะครับ ไม่ทราบว่าคุณวิโรจน์เส้นใหญ่ขนาดเขาไม่คิดค่าเปิดขวดได้หรือปล่าวครับ เพราะถ้าเราเอาไวน์ไปกันคนละขวด ร้านรับแค่ค่าเปิดก็รวยแล้วล่ะครับ อยากเจอหลายๆท่านนะครับ ว่าแต่ประธานวิจะกลับมาเมื่อไรครับจะได้ฉลองกับสมาชิกแฟนคลับ จากคุณ : d19 (D19) - [ 25 ก.ย. 49 13:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ผมไปด้วยคับพี่วิโรจ ที่ไหนก็ได้ บ่ได้กินไวน์นานแล้ว ถึงช่วงนั้นคงทานได้แระอ่ะคับ แต่เอ...........จะหยิบไรไปดีเอ่ย............. จากคุณ : หิวไวน์ (Nic Nenin) - [ 25 ก.ย. 49 13:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 92 "....ไม่ทราบว่าคุณวิโรจน์เส้นใหญ่ขนาดเขาไม่คิดค่าเปิดขวดได้หรือปล่าวครับ" ...หมายถึง Harvey หรือครับ ...Corkage Charge...ขี้ปะติ๋ว แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 49 13:41:12 จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 25 ก.ย. 49 13:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 93 อ้า.... ...คาดว่า...ตอนนี้เรามีอยู่ 2 ร้าน...ในใจแล้ว ได้แก่ Tessa...ทองหล่อ 23 กับ Harvey...ทองหล่อ 9 ...ยังสามารถเสนอได้เรื่อย ๆ ครับ ...จนกว่าสมาชิกทั้งหมดรายงานตัวกันครบ ...แล้วจะให้ท่านประธาน FC สรุป จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 25 ก.ย. 49 13:55:53 ]

ความคิดเห็นที่ 94 Harvey ก็ดีครับ La Grotta ก้อเจ๋ง(ผมว่านะ) จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 25 ก.ย. 49 17:18:34 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ยินดีด้วยต่อการที่พวกเราชาวกระทู้จะได้ไปพบปะ เจอะเจอกันในคราวนี้.. ต้องขอขอบคุณคุณวิโรจเป็นอย่างมากที่ให้เกียรติพวกน้องๆ ................. น้องนกขา.. ที่คุณ Elvimo เธอว่า....ทางไปบ้านเธอต้องข้ามสะพานสีแดงไปน่ะ...เธอหมายถึง สะพาน Goldengate เจ้าค่ะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ก.ย. 49 18:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 96 สมาชิก wiwanda fc รายงานตัวครับ ถ้าไม่ติดอะไรไปแน่นอนครับ และคงนำ almaviva 2002 ไปครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : jear - [ 25 ก.ย. 49 18:57:11 A:124.120.167.136 X: TicketID:007004 ]

ความคิดเห็นที่ 97 มิน่าล่ะคะพี่หวาน นกก็ เอ๊...สะพานพระนั่งเกล้านี่ไม่เห็นจะสีแดงเลย อิอิอิ โธ่  อดเลย ขอฝากไว้ก่อนนะคะ (น้องสาวนกก็ย้ายบ้านไปอยู่ฟากขะโน้นแล้วค่ะ ลูกชายเขามาอยู่ด้วย) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 25 ก.ย. 49 21:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 98 อรุณสวัสดิ์ค่าพี่หวาน ตื่นหรือยังคะ เจ็ดโมงเช้าแล้วค่า ลืมเล่าว่าคุณหลวงชำนาญสถานบริการเธอแจ้งมาว่า ใช้กระเป๋าเป้ใส่ไวน์ที่พี่หวานให้บ่อยมาก และเธอชอบสุดๆ เพราะมันเท่สุดๆ ค่ะ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 25 ก.ย. 49 22:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 99 งั้นผมขอราตรีสวัสก่อนล่ะนะครับ พรุ่งนี้ต้องไปงานของโซเป๊กซ่าอีก จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 25 ก.ย. 49 22:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 100 สรุปแล้ว จำกัดคนไปไหมอ่ะครับ อยากไปด้วยอ่า .... จากคุณ : LightStream1010 - [ 25 ก.ย. 49 22:43:10 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ลงชื่อครับ ฮื่อๆๆๆ ยังอยู่เซี่ยงไฮ้หนะครับ ไปมะล่าย จากคุณ : อด เยย เสียดายจัง (Natt_ac121) - [ 26 ก.ย. 49 06:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 102 พี่วิครับ ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ นี่จดไว้แล้ว ปลายสัปดาห์ถ้ามีโอกาสว่างๆเมื่อไหร่ เป็นได้เข้าร้านไวน์สำรวจตลาดแน่ๆครับ ถ้าเจอไวน์สองขวดนั้นจะได้สอยกลับมาที่บ้าน คุณวิโรจครับ เสียดายไม่ได้อยู่เมืองไทยตอนนี้ ไม่งั้นคงไม่พลาดไปร่วมแน่ๆ อดมีโอกาสได้พบหน้าท่านต่างๆในบอร์ดนี้เลย (และก็อดจิบ Hugel กะ almaviva ด้วยสิ) แต่ถ้าไปนี่ ว่าจะหิ้วขวดนี้ไปครับ หนึ่งเดียวที่สามารถคงความเป็น monopole 1er cru ใน vosne romanee ไว้ได้ แม้ต้องแลกกับการไม่ได้ parcel ใน richebourg ก็ตาม จากคุณ : LaGrandeRue - [ 26 ก.ย. 49 06:06:05 A:81.193.75.207 X: TicketID:105596 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ขอให้การแนะนำนิดนะคะ..สำหรับเรื่องการนัดพบเพื่อมิตรภาพเคล้าชิมไวน์ในครั้งนี้.. 1.ควรเลือกร้านอาหารที่เข้าใจในวัตถุประสงค์ว่าเรากำลังมาพบกันเพื่ออะไร.. 2.ควรให้เขาเข้าใจด้วยว่า นี่คือ โอกาสทองของร้านที่กำลังจะ"รุ่ง" เนื่องจากเหล่าสมาชิกแต่ละคน..ไม่ใช่ธรรมดา สามารถเรียกแขกให้ได้อีกตรึม 3. ถ้าเป็นเจ้าของร้านที่เข้าใจ หรือ เป็นคอไวน์ด้วยแล้ว.. เชิญให้เข้าร่วมก๊วนชิมด้วยเลย..หรืออย่างน้อยก็ต้องส่งตัวอย่างไวน์ไปให้ทดลองชิม ถือเป็นการให้เกียรติ 4. ไม่ควรเลือกร้านที่"คิดค่าเปิดขวด" เอาเงินส่วนนี้ไปเก็บให้"ทิป" เด็กเสริฟ ให้กับร้านที่ต้องการการอุดหนุนของเราดีกว่า.. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น..เจ้าของงานหรือ CEO คือ คุณวิโรจ ที่น้องๆหลาน หรือผู้สนใจ(ที่ไม่เคยแสดงตัว)ควรติดต่อเธอโดยตรง (หมายถึงหลังไมค์น่ะค่ะ) ส่วนทางป้า..เอ๊ย พี่..จะคอยฟังข่าวของการสังสรรครั้งนี้ด้วยใจระทึก.. แหม..ตื่นเต๊นนน..ตื่นเต้นนน ไปด้วยเลยนะเนี่ยย..!! แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 49 07:16:48 จากคุณ : WIWANDA - [ 26 ก.ย. 49 06:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ขอโทษทีครับ พึ่งจะทราบว่าบัตรผ่านไม่สามารถโพสรูปได้ เขินเลยครับ ไวน์ที่พูดถึงก็คือ Clos des reas ของ domaine michel gros น่ะครับ รอเวลาจะเปิดมานานแล้ว ขาดแต่ขาร่วมดื่มนี่แหละครับ จากคุณ : LaGrandeRue - [ 26 ก.ย. 49 06:15:31 A:81.193.75.207 X: TicketID:105596 ]

ความคิดเห็นที่ 105 หลาน Natt อ่านหลังไมค์ด้วยค่ะ จากคุณ : WIWANDA - [ 26 ก.ย. 49 06:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 106 งั้นจัดห้ายยย...แต่อาจต้องเพ่งหน่อย.. Clos des Reas, Domaine Michel Gros จากคุณ : WIWANDA - [ 26 ก.ย. 49 06:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เรื่องค่าเปิดขวดไม่เป็นปัญหาหรอกค่ะ คุยได้ ที่จอดรถก็มีเยอะ ปัญหาคือร้าน Tessa เล็กมากๆ ค่ะ ห้องแอร์มีแค่ 6 โต๊ะ(เล็ก) ถ้าไปจริงคงต้องแจ้งล่วงหน้าปิดร้าน private party มีที่ข้างนอกนั่งสบายๆ เฮฮาไม่ยุ่งกับแขกในห้องแอร์ก็ได้แต่ถ้าฝนก็แย่ ก็แล้วแต่ท่าน CEO ค่ะ นกให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ถือว่านกชวนให้ไปร้านนี้ก็แล้วกันนะคะ ประเดี๋ยวจะไม่สบายใจ เป็นการสังสรรค์ "วิวันดาแฟนคลับ" ใช่มั้ยคะ? ดาราไม่มาปรากฏตัว แฟนอย่างหนูอะ ..แห้งเหี่ยวหัวใจ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 26 ก.ย. 49 08:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ปีนี้ไวน์น่าจะไม่เลวทีเดียว  ช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวอย่างที่พี่วิ..ว่าไว้พอดี   ปีที่แล้ว(2005)  ถึงจะดีมากๆแค่ไหนแต่ราคาจับไม่ไหว ปล่อยให้พวกเศรษฐีรัสเซียกว้านซื้อจนราคาพุ่งกระชูดเลยเนอะ 2006 harvest – first impressions St.-Christoly Medoc, September 14. It is sure that the 2006 vintage cannot be bad, yet nobody ventures to say it will be great. After an exceptional beginning of summer, the weather changed from August 1st. One month later, proprietors hesitate between optimism or uneasiness. Optimism at Chateau Margaux, where first white grapes had been harvested on September 13, “in a euphoric atmosphere rather similar to that 2005 or 2004 at the same period”, explains Paul Pontallier, technical director. At Chateau Haut Brion, the harvest began on August 30, “under pressure of an instable weather”, Pascal Baratie says. The fifteen coming days will be determinant, in particular for the red wines. แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 49 09:53:33 จากคุณ : วาริชเวสม์ - [ 26 ก.ย. 49 09:48:51 ]

ความคิดเห็นที่ 109 พี่หวานคะ นกยังตามหากลิ่นไวโอเล็ตอยู่ค่ะ ไปเจอที่เขาขายหลายเจ้าแต่ไม่ทราบอันไหนกลิ่นแท้ พี่หวานช่วยเลือกได้มั้ยคะ จะได้ฝากน้องสาวซื้อมาค่ะ อันแรกนี้เป็นน้ำหอม Ajaccio Violets จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 26 ก.ย. 49 10:11:58 ]

ความคิดเห็นที่ 110 นี่เป็นลูกอม Violet Cachous จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 26 ก.ย. 49 10:13:01 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ส่วนเจ้านี้มีหลายอย่างค่ะ http://www.fragrancesetc.com/devon.html จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 26 ก.ย. 49 10:14:53 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ขำน้องนกจัง..ส่งมากระทั่งลูกอม..ไม่ได้ค่ะเพราะมันเป็นกลิ่นวิทยาศาสตร์ล้วนๆ เช่นเดียวกับกลุ่มหอมแบบน้ำหอมที่มีการใช้แอลกอฮอล ถ้าน้องสาวจะมา..ขอแนะนำสบู่อันนี้.. สั่งได้ในลิงค์นี่.. http://www.denhamsnatural.com/Soaps/Botanical-Collection-Violet.htm เพราะใกล้กลิ่นธรรมชาติมากที่สุด..ขนาดนั้นยังต้องห่อกระดาษสองชั้นเลย เพราะต้องการแบบกลิ่นแว่วๆ ลอยมาจางๆ ให้จมูกเริ่มคุ้นกับกลิ่นดอกไม้จากต่างแดนไว้แต่เนิ่นๆ จากคุณ : WIWANDA - [ 26 ก.ย. 49 10:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 113 เข้ามาดม  จะรอคอยฟังบรรยากาศอย่างใกล้ชิดครับ   แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 49 20:05:26 จากคุณ : Master_Indy - [ 26 ก.ย. 49 16:30:59 ]

ความคิดเห็นที่ 114 มาสวัสดีตอนเย็นครับ วันนี่ได้ไปงานแนะนำไวน์ alsace ที่ทาว Sopexa จัดมาครับ งานดีมากๆ เดี่ยวรายละเอียดคงต้อง ให้พี่วิโรจมาเจียรไนให้อ่าน กันครับ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 26 ก.ย. 49 18:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 115 สวัสดีครับ สมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้วครับ ผม jear นะครับ แต่ชื่อเต็มเลยเป็นชื่อนี้ครับ jearjear เข้ามาบอกและรอฟังต่อครับ จากคุณ : jearjear - [ 26 ก.ย. 49 21:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 116 สวัสดียามฝนพรำ ครับคุณ jearjear จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 26 ก.ย. 49 21:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 117 พี่วิ...และสหายไวน์ ...วันนี้มีโอกาสไปร่วมสัมมนาในหัวข้อ ...'Alsace Wines Matching with Thai Food' ...จัดโดย Sopexa ซึ่งได้เชิญ Mr.Thierry Fritsch ...ตัวแทนจาก CIVA (Conseil Interprofessionnel des Vins d Alsace ) ...มาดำเนินการเลือกไวน์จากอัลซาสจับคู่กับอาหารไทย ...ในส่วนอาหารไทยนั้น ...อยู่ในความรับผิดชอบของคุณชาลี อมาตยกุล ...ผู้มีชื่อเสียงคับฟ้าสำหรับผู้เจนจัดในอาหารไทยแท้ ๆ ...งานนี้มีผู้เข้าร่วมสัมมนาราวห้าสิบท่าน จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 26 ก.ย. 49 22:32:52 ]

ความคิดเห็นที่ 118 สวัสดีครับ คุณ phantom of the cellar ไวน์ที่คุณแนะนำผมยังไม่เจอเลยครับ ว่าจะไปดูที่ paragon ซะหน่อยไม่ได้ไปสักที สวัสดี อาวิโรจ ด้วยครับ จากคุณ : jearjear - [ 26 ก.ย. 49 22:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 119 "...พันธุ์องุ่น 7 ชนิด ผลิตไวน์ 7 รสชาติ" ...Mr.Thierry Fritsch ปูพรมความรู้เรื่องไวน์อัลซาส ...ด้วยการแนะนำพันธุ์องุ่น ...Sylvaner...Pinot Blanc...Riesling...Muscat ...Tokay Pinot Gris...Gewurztraminer และ Pinot Noir ...องุ่นทั้งเจ็ด (ไม่ใช่คนแคระ) มีแนวเขา Vosges คอยปกป้องสายฝนจากมหาสมุทร ...ทำให้แคว้นอัลซาสมีปริมาณน้ำฝนต่ำที่สุดในฝรั่งเศส ...กระนั้น...แคว้นอัลซาสก็สามารถผลิตไวน์ขาวปริมาณเกือบ 40 % ของประเทศ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 26 ก.ย. 49 23:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ...สำหรับวันนี้...มีการจับคู่ไวน์กับอาหารไทยดังนี้ครับ ยำผลไม้กับกุ้งและไก่ฉีก ...กับ Sylvaner 2004, Alsace Cuvee Louis Klipfel, Maison Klipfel ...ลักษณะอาหารเป็นสลัดผลไม้ที่มีความหวานปานกลาง ...เมื่อมาพบกับไวน์สดที่มีลักษณะเบาและไม่มีความซับซ้อนนัก ...ผลออกมาคือ ไวน์จากองุ่น Syvaner ช่วยส่งให้อาหารจานนี้เด่นขึ้นมาชัดเจน ...เหมือนฝ่ามือสอดใส่ในถุงมือได้อย่างกลมกลืนพอใช้ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 26 ก.ย. 49 23:28:50 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ...สำหรับจานที่สอง...ปูจ๋าและอาจาด ...มีการชิมทดสอบกับไวน์ถึงสองตัว ...ตัวแรกคือ Riesling 2005, Alsace, Leon Beyer ...ซึ่งตายหยังเขียด ...โดยเหตุว่าตัวไวน์เองนั้นมีความซับซ้อนอยู่ในที ...ลำพังเจอแค่ปูจ๋ายังพอทำเนา ...แต่มาเจอกับอาจาดที่มี Base เป็นแตงกวาในน้ำส้มสายชูหวาน ...ตายสนิทครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 26 ก.ย. 49 23:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ...แต่ปูจ๋าและอาจาด..กลับไปได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ...กับไวน์ตัวที่สอง...Muscat 2005, Alsace, CIVA ...ขอทำความเข้าใจก่อนว่า Muscat ที่อัสซาสจะไม่หวาน ...เป็นไวน์ Dry ที่มีกลิ่นหอมรัญจวน ...ซึ่งแตกต่างจาก Muscadet ในแคว้น Rhone ที่ออกหวาน ...ไวน์ Dry หอมหวานตัวนี้จึงสงอาหารจานนี้ออกมาได้อย่างวิเศษ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 27 ก.ย. 49 00:03:54 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ...มาถึงจานที่สาม...ต้มส้มหอยพัดกับเห็ดและขาวหอมมะลิ ...คราวนี้จับคู่กับ Pinot Gris 2004, Alsace Rotenberg ของ Zind-Humbrecht ...อุแม่เจ้า ...อาหารจาน เอ่อ...ถ้วยนี้...สุดยอดมาก ...น้ำออกหวานเล็กน้อย ...แต่เผ็ดอ่อน ๆ อมเปรี้ยวหน่อย ๆ ...ไวน์สีเหลืองเข้มจนสงสัยว่าปี 2004 ทำไมมันเข้มอย่างนี้ ...แถมมีกลิ่นไหม้จาง หืน มีความสลับซับซ้อน เฮ้ย...อาหารก็อร่อย...ไวน์ก็เยี่ยม ...ไปได้ดี มีทั้งปี่...แถมมีขลุ่ย จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 27 ก.ย. 49 00:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ...มาถึงอาหารคาวจานสุดท้าย...แกงคั่วสัปปะรดกับเนื้อปลาเก๋า ...ก็ให้เป็นห่วงอยู่ก่อนหน้าว่าจะไปไหวไหมเนี่ย ...เครื่องเทศน่าจะกลบไวน์สนิทแน่ ๆ ...แต่คุณชาลีก็ออกตัวว่า...จานนี้ใช้สมุนไพร... ...ก็งง ๆ ...ยืนยันว่า สมุนไพรจะไม่กลบอาหารเหมือนอย่างเครื่องเทศ...อย่างแกงกะหรี่ ซึ่งก็จริงที่อาหาร...ไปได้ดีมากกับ Gewurztraminer 2003, Alsace Holzweg, Domaine Andre Scherer ที่มีกลิ่นลิ้นจี่อ่อน ๆ ที่ถูกลบด้วยกลิ่นมะนาวอ่อน จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 27 ก.ย. 49 00:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ...สุดท้ายกับของหวาน ...ข้าวเหนียวมะม่วง (ซึ่งออกเค็มเกินไป) ...และกระท้อนลอยแก้ว (ซึ่งหวานเกินเหตุ) ...นี่ยังดีที่ว่า...Gewurztraminer VT 2001 ...Vendanges Tardives...ของ Hugel & Fils ...คือไวน์ชั้นยอดที่มีความหวานจับจิต ...จึงเอาตัวรอดมาได้อย่างเฉียดฉิว จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 27 ก.ย. 49 00:50:17 ]

ความคิดเห็นที่ 126 สรุปก่อนจะไปนอนครับ...พี่วิ...และสหายไวน์ ...เป็น Experiment ที่ดีและหาได้ยากยิ่ง ...โดยเฉพาะกับคนไทยที่ไม่ค่อยจะชื่นชอบกับไวน์ขาว ...กับไวน์ขาวที่เข้ากันได้กับอาหารไทยใกล้เคียงที่สุด ...ขอยืนยันครับ ...ดีใจที่...งานนี้...คุณผีใต้ถุน...รับความรู้ไปเต็ม ๆ ทีเดียว จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 27 ก.ย. 49 00:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ทั้งหมดที่คุณวิโรจเล่ามา..พี่เต็มตื้นมากค่ะ ที่เห็นว่าวงจรไวน์ไทยเริ่มเดินถูกทาง..หมายถึง การเริ่มให้ความสำคัญกับไวน์ที่เหมาะกับอาหาร(ไทย)เป็นหลัก  เพราะเราจะได้ดื่มและเอนจอยกับมันอย่างเต็มราคา..(และไม่แพงด้วย) เคยพูดหลายครั้งจนปากจะฉีกถึงใบหูแล้วว่า..อาหารไทยนั้นเหมาะสุดกับไวน์ประเภทรีสลิ่ง หรือ กเวิทซ์... ที่หาได้ทั่วๆไป..ไม่ต้องถึงขนาดที่จะต้องแย่งกันซื้อ แย่งกันจอง หยิบยื่นให้โอกาสทองของพ่อค้านักปั่นราคา ดังที่ Jean Hugel ที่เปรียบประหนึ่งเป็นทูตแห่งไวน์ของแคว้นอัลสาซ ได้เคยเอ่ยไว้ว่า.. ""Too many of our producers are aiming for competition-friendly,  but not food-friendly wines.   For over 40 years, the Germans have looked to Alsace to learn  how to make drier wines.  Now the situation is reversed and Alsatians would be well-advise to follow the German example." และหันมาร่วมกันทุ่มทุน ศึกษาและวิจัยจนได้พันธ์องุ่นที่เหมาะกับอาหารแทบจะทุกประเภท นั่นคือ ปีโนต์ กรีส์ ที่ตอนนี้กำลังเริ่มเป็นที่นิยมแทน แม่ทึมทื่อ ชาร์ดอนเนย์ เพราะของเขาทั้งหอมสดชื่น บาดคอนิดๆ เจือไปด้วยกลิ่นเนยใหม้หน่อยๆ.. ไวน์จากอัลสาซ มักจะออกสีเหลืองฟาง หรือที่เรียกว่า straw  ซึ่งผิดกับ ปีโนต์ กรีส์ ของฝั่งคาลิฟอร์เนียนี่ ที่จะออกขาวกว่า ส่วนของอิตาเลี่ยน ที่เรา เรียกว่า Pinot Grigio นั้นคือองุ่นสายพันธ์เดียวกัน ที่ปลูกมากมางด้านเหนือของอิตาลี แต่เป็นไวน์แดง.. องุ่นพันธ์นี้ DNA ของบรรพบุรุษ คือพันธ์ Pinot  ที่มีแตกออกไปทั้งขาวและแดง  ดัง คำว่า Pinot Noir ก็บอกให้ทราบว่า เป็น องุ่นปีโนต์ พันธ์แดงจนดำ.. และ Pinot Gris คำหลัง แปลว่า gray อันหมายถึง เทา ในภาษาอังกฤษ ที่จะขึ้นเป็นสีอะไรก็แล้วแต่พื้นที่ที่ปลูก อีกอันหนึ่ง คือ Pinot Blanc ซึ่งหมายถึง องุ่นเขียว(ขาว)แท้ๆ ปลูกที่ไหนก็ขาว.. อย่างที่คุณวิโรจเล่ามาว่า รีสลิ่งค์ของ Leon Beyer นั้นตายหยังเขียด เมื่อลองกับอาหารไทย พี่ว่า...เพราะเขาเลือกพลาดไปนิด  ไวน์ของ ลีออง เบแยร์ มี ปีโนต์ บลอง ด้วย ที่น่าจะเหมาะกว่า  ควรเลือกตัวนี้มาเปิดรายการ..(เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ) และที่น่าขำคือ เมื่อก่อน นักเลงไวน์ จะใช้คำเรียกไวน์ Pinot Noir ว่า ปิโนต์ (เฉยๆ..)ไม่ต้องมี นัวร์ เพราะ นี่คือความเก๋า ที่ทุกคนจะต้องทราบว่าหมายถึงอะไร ก็ไวน์ปีโนต์ที่มีชื่อเสียงพอขายได้ก็มีอยู่ชนิดเดียวแหละ.. แต่เดี๋ยวนี้..พอคนถามถึง ปิโนต์..จะต้องมีการทวนว่า.. จะเอาอะไร นัวร์ หรือ กรีส์... 5555555555555....เห็นแม๊ะ..ว่าเขามาแรงพอใช้ อ้อ..ลืมบอกไปว่า..ไวน์ของ Zind-Humbrecht  ที่เคยลองชิมมาในปีก่อนๆโน้นมักมีแอลกอฮอลเกิน 13 และ..ในรายการที่คุณว่ามา..พี่ปลื้ม Pinot Gris ที่สุด.. จบบบบบ !! แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 49 02:40:46 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 49 01:29:39 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 49 01:24:48 จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 01:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ตอนนี้กำลังนั่งเตรียมอุปกรณ์ออกภาคสนามอยู่  จะไปทำงาน  แต่มาอ่านเมล์ ฟังวิทยุภาคภาษาไทยก่อน เพราะอยากรู้ว่าบ้านเมืองไปถึงไหนแล้ว.. มานั่งนึกดูอีกที..เห็นว่านักไวน์ของเราก็จัดว่า"อินเตอร์" กันแล้ว..ไม่ใช่อยู่แต่ในวงแคบๆเหมือนแต่ก่อน ที่สังเกตุได้ว่าหาอ่านเอาจากตำราแต่อย่างเดียว แต่ในปัจจุบัน..มีการเติม เสริมสร้างทักษะในหลายรูปแบบและหลายๆด้าน.. จึงคิดว่า..น่าจะเล่าเรื่องไวน์ในประวัติศาสตร์เก่าแก่ให้ฟังกันมั่ง หลังจากที่ตั้งใจไว้แต่ทีแรก(ถึงขนาดเขียนไว้เป็นชื่อหัวกระทู้ )แล้วก็ไม่ได้เล่าถึงไหนสักที.. เพราะ เกรงว่าคนจะเบื่อ  ขนาดเล่าเรื่องไวน์ ไวน์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะเล่าเรื่องไวน์..แต่ต้องแอบอิงเลือกเอาเรื่องที่เกี่ยวกับสงครามและนาซีเข้ามา"ล่อ"ให้คนอ่าน.. ก็นับว่าหลอกไปได้จำนวนหนึ่ง แต่นั่นคือผลดีสำหรับผู้ที่สนใจ เพราะจะได้ทราบถึงสถานะการณ์โลก เศรษฐกิจ และ ธุรกิจไวน์ในช่วงนั้น ที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของกระแสการค้าไวน์ในปัจจุบัน สาเหตที่คิดจะเล่า..เพราะ..ในวงจรของไวน์ระดับอินเตอร์นั้น เขาจะมีการพูดถึงอะไรแปลกๆที่เป็นภาษาละติน หรือกรีกโบราณ ที่บางคนอาจจะไม่ทราบ และอาจไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร จึงอยากเล่าให้ทราบต่อๆกัน(ตามความรู้ที่มีอยู่น้อยนิด) เผื่อว่า..อาจเป็นประโยชน์ และอาจจะยาวพอสมควร แต่..เอ..ถ้าพอทราบกันแล้ว..ก็บอกนะคะ จะได้เปลี่ยนไปเล่าเรื่องอื่น.. จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 01:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เอาเลย...พี่วิ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 27 ก.ย. 49 07:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 130 เมื่อก่อนเขาก็บอกกันว่าไวน์ขาวให้ผู้หญิงดื่ม ไวน์แดงเข้มๆเหมาะกะผู้ชาย ผมเชื่อว่านักดื่มไวน์ไทยหลายๆคนแทบจะไม่มีไวน์ขาวไว้ติดในตู้เท่าไรนะครับ เรื่องที่คุณวิโรจน์นำเสนอน่าสนใจดีครับ มารอฟังเรื่องโบราณๆจากคุณวิด้วยคนครับ จากคุณ : d19 (D19) - [ 27 ก.ย. 49 08:14:28 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ว่างเมื่อไรเล่าเลยนะคะพี่หวาน please please หนูหัวกลวงเป็นที่ยิ่ง นี่หูตั้งเลย อยากอ่านมากค่ะ ขอบคุณที่จะกรุณาเล่า เพิ่งถึงบางอ้อค่ะ ว่ากระทู้สงครามมาประจวบกับกระทู้ไวน์ได้ยังไง โห พี่สาวหนูนี่ร้ายจริงๆ ! พี่วิโรจคะ ขอบคุณที่เล่านะคะ นกชอบรายการแบบนี้มากเลยค่ะ เพราะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว ว่าต้องศึกษาเรื่องนี้จริงๆ จึงจะดื่มไวน์ได้อร่อย อาหารก็อร่อยขึ้นด้วย   วันก่อนนะคะ กินสับปะรด แล้วไปเปิด Merlot   หูย..นึกว่าไวน์เสียค่ะ  โชคดีที่ไม่ทิ้งไป เก็บไว้ให้คนอื่นพิสูจน์ พอค่ำหน่อยมีเพื่อนจากโคราชมาเยี่ยม ก็บ่นกับเขา บอกให้เขาชิมดูให้หน่อย เขาบอกว่าไม่เห็นเสีย หวานด้วย นกก็.. หืม.. ชิมดูอีกทีซิ  ปรากฎว่า ..หวานเจี๊ยบค่ะ! ลิ้นเรานี่ตลกดี คิดถึงตอนทดลองวิทยาศาสตร์ตอนอยู่ ป.7 ที่คุณครูให้หลับตาชิมผลไม้ต่างๆ รสชาติผลไม้ผลเดียวกันมีรสชาติต่างกันเมื่อชิมก่อนหลังผลไม้อีกชนิดนึง (ชิมส้มก่อนมะละกอ..ส้มหวาน   ชิมส้มทีหลัง..ส้มเปรี้ยว อะไรทำนองนี้น่ะค่ะ) งานแบบนี้เขาให้ใครไปบ้างเหรอคะ? ผู้ค้าไวน์เหรอคะ? อยากไปบ้างจัง เสียสตางค์ก็คุ้มนะคะนกว่า จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 27 ก.ย. 49 08:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 132 เดี๋ยวนิดนึงค่ะพี่วิโรจ นกขอมองภาพรวมในฐานะผู้บริโภค(ที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับธุรกิจนี้) นกจะได้ประโยชน์อะไรจากงานที่พี่วิโรจเพิ่งไปมาเมื่อวานนี้ เพราะถ้านกไปซื้อไวน์ โดยในหัวคิดไว้ว่า เย็นนี้จะทำยำทวาย ปลาราดพริก แกงเทโพ ลาบหมู ยอดมะระหวานผัดน้ำมันหอย (สมมุติจะมีคนมากินด้วยเยอะ) เราจะซื้อไวน์อะไรไปดื่มด้วยดีน้า แล้วนกก็เดินไปร้านขายไวน์ แล้วคนขาย "ที่ร้านนั้น" (ร้านไหนก็ได้ทั่วกรุง) เขาจะแนะนำถูกมั้ยคะ ว่านกควรจะซื้ออะไร ในเมื่อเวลามีงานให้ความรู้เช่นนี้ มีคนไปแค่ 50 ท่านเท่านั้น นอกเสียจากว่า ผู้ที่ไปงานนี้ ได้ไปจัดอบรมให้พนักงานขายของตนอีกต่อหนึ่ง เขาจัดกันหรือเปล่าคะ? จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 27 ก.ย. 49 08:41:42 ]

ความคิดเห็นที่ 133 เพราะเชื่อว่าไวน์ขาวของผู้หญิง ไวน์แดงของผู้ชายนี่แหละคือกระแสป่วนของวงการไวน์เลยเชียว ผู้ชายบางคนเลยหมดโอกาสลอง เพราะอายเกินไปกว่าจะสั่งหรือซื้อติดมือมา.. อีกทั้ง..พาลไม่สนใจเอาอีกต่างหาก.. อย่างเรื่องของ องุ่น Pinot ที่เล่ามานั้น มันยังมีข้อสงสัยสำหรับคนบางคนอีกว่า..ทำไม องุ่น Chardonnay จึงได้ถูกเรียกในบางที่ว่า..Pinot Chardonnay เล่า? บางคนก็สรุปง่ายๆว่า มันคือตัวเดียวกันกับปีโนต์ บลอง หากแต่ขั้นตอนการผลิตและท้องที่การผลิต จึงต้องใช้ชื่อต่างกัน.. ไม่ใช่ค่ะ..Chardonnay ที่บางคนใช้คำว่า ปีโนต์ ชาร์ดอนเนย์นั้น เพราะว่า มันเป็นลูกผสมระหว่าง Pinot กับ Gouais blanc ที่ต้นตระกูลของ กูเอส์ บลอง มาจาก ยุโรปตอนกลาง ประมาณว่าจาก Croatia เมื่อครั้ง 300 A.D. ที่ถูกนำเข้ามาครั้งที่โรมันยังแผ่อำนาจ ส่วน Pinot นั้นคือ พันธ์ฝรั่งเศสแท้ๆ และยังมีอีก Pinot  อีกแขนงหนึ่ง ที่ไม่ค่อยโด่งดังอะไร นั่นคือ Pinot  Meunier (แดง)ที่ดันไปเติบโตเอาในแคว้นแชมเปญแต่ก็เป็นญาติขององุ่น ปีโนต์ นัวร์ แท้ๆ  DNA เดียวกัน  และทำไมจึงชื่อว่า ปีโนต์  มันเยร์  คำว่า meunier นั้น แปลว่า โรงสีแป้ง หรือ เจ้าของโรงสีแป้ง (ในภาษาอังกฤษ คือ miller) เพราะว่า...ผลองุ่นพันธ์นี้จะมีฝ้าขาวเกาะอยู่ดูเหมือนมีแป้งพอกไว้.. แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 49 09:03:41 จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 09:01:44 ]

ความคิดเห็นที่ 134 วันนี้ไปทำงานภาคสนาม...ดังที่เล่ามาให้ฟังตั้งแต่เช้าก่อนเดินทาง..นึกขึ้นได้เลยคว้ากล้องไปด้วย.. ตอนนี้จะเข้าวิ่งไร่โน้นไร่นี้ตลอดเวลา เพราะเป็นระยะใกล้เก็บเกี่ยว บางไร่ก็เริ่มเก็บกันแล้ว หมายถึงองุ่นเมอร์โลต์ แต่..ที่ยังรอกันอยู่นี้ คือ องุ่น แคบ/โซ  ยังไม่เก็บ จะคอยกันจนกว่าวินาทีสุดท้าย.. วันนี้เลยต้องเข้าไปดู..และเพื่อเป็นการสังสรรจำนรรจากับ ผู้ผลิตด้วย..ประเภทว่า จะทำ cuvee พิเศษ หรือเปล่า.. ไอ้ที่ทำ โลว์ ยีลด์ ออกมาเป็นอย่างไร  น้ำท่าเป็นอย่างไร และ..จะทำการตลาดอย่างไรของวินเทจนี้.. bla bla bla การเดินทางไปไร่ไวน์นั้น ไม่ใช่ง่ายๆ ประมาณว่า กรุงเทพ- หระรี  และยังต้องปีนไต่เขาไปอีกกว่าราวๆสี่ร้อยถึงหกร้อยฟุต..เพราะ เดี๋ยวนี้ไวน์ดีๆ..เขาปลูกบนภูเขากันค่ะ  ไร่ที่ไปคือ ไร่ Galante Vineyards (อ่านว่า กาลานเต วินเหยิดส์) แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 49 09:22:06 จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 09:20:02 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ไปถึงก็แวะไปคุยกับชาวทำไวน์ ก่อนที่จะพาตัวเองไปยังเขตปลูกองุ่น  cabernet sauvignon ที่เขาแบ่งออกเป็นสองส่วน..ไร่เก่านั้น อายุกว่ายี่สิบสามสิบปี เสาค้ำทรุดโทรมหมด  วัชชพืชขึ้นแทรกแซง เขาตั้งใจปล่อยให้เป็นอย่างนั้น เพราะมันเป็น องุ่นธรรมชาติ กึ่ง high yield เพื่อเอามาทำเป็นไวน์โต๊ะ หรือ มาผสมในส่วนของที่ต้องการจะ blend กับสัดส่วนอื่นๆ ผลผลิตตรงนี้..ขายง่ายกว่าเพื่อน เพราะขายเหมาให้กับโรงไวน์อื่นๆได้ทันทีที่เก็บ.. นับว่าเอามาเป็นทุนรองรังให้อุ่นใจในระดับหนึ่ง.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 09:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 136 เดินเข้าไปดูเรื่อยๆ.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 09:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 137 เขาบังคับการให้น้ำดีพอสมควร เพราะองุ่นเม็ดเล็กจิ๋ว ตึงเต่ง ไม่เบียดเสียดเท่าไหร่ (หมายถึงในพวง หรือที่เราเรียกว่า cluster)  รสจัดจ้านใช้ได้.. หมายถึงว่า ขายในราคาต่อตันก็ยังได้ราคาดี.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 09:39:10 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ทีนี้มาดู..ไร่ใหม่..แบบว่างานโชว์องุ่น low yield แต่งซะสวยงาม แถวตรงแหน๋ว สะอาดสะอ้าน.. โปรดสังเกตว่า..เป็นองุ่นไร่ใบ ปลิดทิ้งแทบไม่เหลือติดต้น เพราะต้องการแดดให้มากที่สุด.. ต่างกับภาพข้างบนของไร่เก่าแบบฟ้ากับเหว... เพราะส่วนนี้คือ business ล้วนๆ... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 09:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ปลิดชิมกันอย่างเมามัน..เพราะ มันหวานอร่อย หอมชื่มใจ เมล็ดข้างในเล็กจิ๋วเดียว..เคี้ยวพอกรุบ แต่ไม่ฝาดจนลิ้นแห้ง.. เจ้าของไร่เขาชิมไปก็ชมไป.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 09:47:42 ]

ความคิดเห็นที่ 140 อันนี้พันธ์ดก.. จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 09:53:15 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ถ้าทำกับข้าวเลี้ยงกันเยอะๆขนาดนั้นเสริฟเหล้ากะเบียร์ดีกว่า บางโอกาสเสริฟไวน์ก็เปลืองเกินไปนะครับ บางคนกินเพื่อให้เมาจริงๆไม่สนรสชาติเท่าไร คุณวิโรจน์ครับ เราจะฟันธงเลือกร้านกันยังไงดีครับ เพื่อนผมเขาเสนอร้านนี้ด้วย แต่มันมี corkage charge นะครับ I would like to suggest Aldo's on South Sathorn for consideration. They have outdoor salas by the pool which are really nice. Their corkage charge is Bt500 but I can get Bt250 (or may be lower depending on the number of people among other things.). จากคุณ : d19 (D19) - [ 27 ก.ย. 49 09:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 142 อันนี้...พันธ์ดุ... อิ๊บอ๋าย... จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 09:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 143 พีวิ...คุณนก...คุณ D19...คุณผีใต้ถุน...คุณนิค...ฯลฯ อ่อ...คุณ SCKG....(เวลาก็ล่วงเลยมาร้อยชาติแล้ว) ...ผมถือโอกาสตัดสินใจเลือกร้าน Harvey ไปแล้วครับ ...โดยได้ดำเนินการตามที่ท่านประธานฯแนะนำมาเป็นข้อ ๆ ดังนี้ ข้อ 4. ไม่ควรเลือกร้านที่ "คิดค่าเปิดขวด" เอาเงินส่วนนี้ไปเก็บให้"ทิป" เด็กเสริฟ .......ดีกว่า.. ...เจ้าของ Harvey รับปากจะไม่คิด Corkage Charge แม้แต่น้อยนิด (ปกติคิดขวดละพัน....อุแม่เจ้า) ...ซึ่งตอนนี้แจ้งไปขั้นต้นว่าประมาณ 10 ที่เป็นอย่างน้อย ...ส่วนอาหารทั้งหมด...อาจจะเป็น Complimentary เสียด้วยซ้ำ (อย่าเอ็ดไป...ยังไม่ชัวร์) ข้อ 3. ถ้าเป็นเจ้าของร้านที่เข้าใจ หรือ เป็นคอไวน์ด้วยแล้ว..... ...ที่นี่เป็นร้านเดียวในประเทศไทย ...ที่มีไวน์ลิสต์ตั้งเท่ากับร้านขายไวน์ทั่วไป ...ไม่มีการ Charges แบบคูณสองคูณสามเหมือนร้านอาหารอื่น ๆ ...ก็ด้วย Concept ของร้านที่เน้น Pleasure และ Service เป็นประการสำคัญ (...เป็น Idea ที่ผมแนะให้เขาเอง...แล้วจะเล่าให้ฟังในภายหลัง...มันซับซ้อน) ...ทั้งหมดทั้งมวลย่อมสำแดงแล้วว่า...เจ้าของเป็น Wine Lover ท่านหนึ่ง ข้อ 1. ควรเลือกร้านอาหารที่เข้าใจในวัตถุประสงค์ว่าเรากำลังมาพบกันเพื่ออะไร.. ...และพวกเราจะมีห้องเป็นสัดส่วน ...ที่จะไม่ก่อเกิดเหตุละลาบละล้วง ...หรือจาบจ้วงทางสายตาแก่ผู้พบเห็น(ไวน์ที่เรานำมา) ข้อ 2. ควรให้เขาเข้าใจด้วยว่า นี่คือ โอกาสทองของร้านที่กำลังจะ"รุ่ง" .....เนื่องจากเหล่าสมาชิกแต่ละคน..ไม่ใช่ธรรมดา ...ก็ไม่มีอะไร้ ...แค่บอกว่ามาจาก 'Wiwanda FC' ...เขาก็อ้าแขนรับแล้วล่ะครับ เอ้า...ใครยังไม่ Confirm ก็รีบตัดสินใจได้แล้วนะครับ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 49 10:42:57 จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 27 ก.ย. 49 10:35:34 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ว๊ายยย..ถ้าดีเลิศประเสริฐศรีอย่างนั้น ขอกระโดดกอดคอ หอมแก้มเจ้าของร้านสักสองสามฟอด.. โถ..พ่อคุณ..ช่างได้ดังใจเสียนี่กระไร.. นี่ละค่ะ..ร้านที่พวกเราควรเลือก"อุดหนุน" เพราะเขาต้องนึกสนุกไปกับเราด้วย..ในยามที่เรามีไวน์ดีๆ คิดจะหาที่ชิมแต่ขาดเพื่อน..ก็ไม่ต้องคิดนาน..ไปหาเจ้าประจำร้าน Harvey ได้เลย.. ผลัดกันช่วยชิม ช่วยคิด .. หรือมีเพื่อนใหม่ๆ..ก็พากันไป hang เรียกลูกค้าให้เขามั่ง.. ในฐานะคนขายไวน์..พี่ได้เคยแอบบอกนิดๆไปแล้วว่า.. ต้องช่วยสร้างกระแสหมุนเวียนให้กับอาชีพ ถ้าคิดจะไปกินข้าวนอกบ้าน..ก็ขอให้ไปที่ร้านที่ขายไวน์ จะขายไวน์ของเราหรือไม่ขายก็ไม่เป็นไร แต่..ถ้ายังไม่มีไวน์ของเราขาย..ขอให้ถือว่าเป็นการท้าทายความสามารถ และขอให้มุ่งเป้าไปเลยว่า.. "อีกหน่อย..ก็ต้องขาย..ไม่เชื่อคอยดูฝีมือตูซิ..." จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 10:55:39 ]

ความคิดเห็นที่ 145 "...ในฐานะผู้บริโภค(ที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับธุรกิจนี้) ....นกจะได้ประโยชน์อะไรจากงานที่พี่วิโรจเพิ่งไปมา..." ...ก็คงได้บ้างล่ะครับ ...แต่คงเป็นอานิสงค์ต่อเนื่องจากเหล่า Importer และ Wine Shop ...ที่มีความเข้าใจเพิ่มขึ้นในการจับคู่ไวน์กับอาหาร (ซึ่งเมื่อก่อนไม่มี) ...ก็คงมีการถ่ายทอดเรื่องราวลงมาเป็นชั้น ๆ จนถึงผู้บริโภค ...ที่ Sopexa ทำเรื่องนี้กับกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรก ...ผมว่า...มันถูกต้องอย่างหาที่ติมิได้ ...เพราะจะถือเป็นการฝนทั่งให้เป็นเข็ม...เข็นครกขึ้ภูเขา ...หากเริ่มต้นกับผู้บริโภค (ซึ่งมีร้อยพ่อล้านแม่) ในตอนนี้ ...แต่ในอนาคตคงจะขยายผลลงมากว้างขึ้นครับ ...ผมเชื่ออย่างนั้น ...แล้วก็นี่ไง...ที่ถือได้รีบมาเล่าให้ฟัง ...เราท่านจะได้ขยายความอันเป็นประโยชน์ต่อไปในวงกว้างได้ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 27 ก.ย. 49 10:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 146 น้องนกคงจำไม่ได้ ว่า พี่เคยเล่าแล้วว่า.. เตรียมรับแขกผู้ใหญ่จากเมืองไทย..ข่าวว่าท่านเป็นคอไวน์ แต่ชอบอาหารไทย.. พี่ก็เตรียมเมนูคคล้ายๆกับที่คุณวิโรจว่ามานี่แหละ ครบหมด กุ้งหอยปูปลา..เตรียมแช่ไวน์ขาวสองสามตระกูลผู้ดีไว้ให้.. มาถึง..พอหยิบไวน์มาเปิด..ท่านทำหน้าผิดหวัง.. บอกว่า..ไวน์แดงไม่มีเหรอ ผมชอบไวน์แดง.. นี่ก็เล่ามาหลายรอบแล้วนะ ยังเคืองไม่หายเลยเนี่ย.. คนพวกนี้แหละ ที่น่าจะส่งไปอบรมที่โซเป๊กซ่า.. จากคุณ : WIWANDA - [ 27 ก.ย. 49 11:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 147 มาสวัสดียามเที่ยงครับ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 27 ก.ย. 49 12:28:17 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ขอไปด้วยนะ ครับ คุณวิโรจน์ และขอเขกกบาลตัวเอง อีก 1ที ที่ไม่ยอมเช็คกระทู้ที่ นู่น.. เลยไม่มีอะไรติดมือมาเพื่อ การนี้ครับ..  (คงต้องหาเอาแถวนี้ไปก่อน) จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 27 ก.ย. 49 12:37:21 ]

ความคิดเห็นที่ 149 อยากให้ไปกันเยอะๆจัง อยากเจอพี่ๆทุกคนเป็นที่สุด จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 27 ก.ย. 49 14:59:45 ]

ความคิดเห็นที่ 150 คุณ D19 คะ อาหารหลายชนิดแล้วทำไมดื่มไวน์ไม่ได้เหรอคะ ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย (5 อย่างก็ไม่เห็นเยอะเลย ถ้ามาหลายคน เขาก็เลือกรับประทานตามชอบ) และจริงๆ แล้วประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่เลี้ยงอาหารเยอะควรจะดื่มเหล้าเบียร์หรือเปล่า ประเด็นเป็นเรื่องไวน์อะไรเข้ากับอาหารอะไร ซึ่งอาหารนั่นก็แค่ยกตัวอย่างเท่านั้นเอง พี่วิโรจคะ ก็เข้าใจค่ะว่ามันต้องตกเป็นทอดๆ มา กว่าจะถึงผู้บริโภค นกข้องใจว่า  แล้วจะถึงไหม? ตกลงนกจะหวังพึ่งคนขายไวน์ที่ร้าน ให้เลือกไวน์(ให้เข้ากับอาหาร)ให้นกได้หรือเปล่า หรือว่า ยังไงก็ยัง..ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน  (แล้วจะสัมมนากันไปทำไม) ไม่ได้เห็นว่าการสัมมนาไม่มีประโยชน์นะคะ แต่เห็นว่า การสัมมนาที่ผู้เข้าสัมมนาไม่ได้นำไปถ่ายทอดในองค์กรของตนน่ะ ไม่น่าจะมีประโยชน์ค่ะ สิ้นเปลืองเปล่าๆ นกเคยเห็นคนหวงความรู้ค่ะ  ต้องไม่ให้คนอื่นรู้ ฉันจะได้ดูดี ดูรู้มาก ดูเด่น ดูอยู่ระดับ "บน" บริษัทส่งฉันไปสัมมนา  ฉันก็ "อม" ไว้คนเดียว แบบนี้ล่ะค่ะ ที่สกัดกั้นความเจริญของชาติ เป็นแบบที่คนในกระทู้นี้ไม่เป็นกันหรอกนะคะ  (ถ้าเป็นคงไม่เข้ามาแบ่งปันความรู้) แต่ก็ ... โซเพ็กซ่าจะไปก้าวก่ายภายในองค์กรร้านค้าได้ยังไง ก็ทำไม่ได้อีก  ยกเว้นว่า.... มีอินเซนถีฟอะไรให้เขาซักอย่าง เขียนยาวไปหรือเปล่าคะ? พี่หวานคะ เรื่องผู้ใหญ่นั่น ก็สงสารพี่หวานที่กลายเป็นยื่นแก้วให้วานร (ก็โอเค พี่ไม่ทราบนี่นาว่าเขาเป็นวานร) คนดักดานมีเยอะ  น่าเบื่ออะเนอะ น่าเห็นใจพี่หวานค่ะ และนกก็ไม่อยากเป็นแบบนั้นไงคะ เลยมาอ่านๆ ถามๆ ถามโง่ๆ ก็ถาม (หมู่นี้เครียดค่ะ ทนคนแปลกหน้าตอบกระทู้แบบ patronizely ไม่ค่อยจะได้ค่ะ    :p อิอิ ขอโทษพี่หวานด้วยนะคะ) ตกลงเรื่องนัดพบ นกขอแจ้งล่วงหน้า 1 อาทิตย์ได้มั้ยคะพี่วิโรจ? นกต้องหาญาติซักคนมาเฝ้าเจ้าลูกชายค่ะ เขายังเล็ก ยังปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวไม่ได้ ต้องตามเช็คตารางคุณตาก่อนค่ะ ถ้าได้ไป  นกคงต้องขอพึ่งพี่หวานแนะนำนะคะ ว่านกควรจะหิ้วอะไรไปสมทบดี นกแอบไปถ่ายรูปร้านข้างบ้านมาแล้วว่าเขามีอะไรขายมั่งน่ะค่ะ แล้วจะส่งอีเมล์ให้พี่หวานเลือกนะคะ (รายละเอียดของร้าน Harvey ดูเจ๋งดีมากเลยค่ะพี่วิโรจ คิดดี ทำดี แถมโชคดีที่มีผู้รู้แนะนำ  อย่างนี้คงทำให้ลูกค้าแฮปปี้ได้แน่ๆ น่าไปอุดหนุนค่ะ) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 27 ก.ย. 49 15:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 151 ร้าน harvey แนวความคิดดีมากเลยครับ ผมยังนึกอยู่เลยครับ ว่าทำไมไม่มีร้านไวน์ร้านไหน มีร้านอาหารด้วยเพื่อเสริมกัน แล้วให้คนทานอาหารสั่งไวน์ มาทานได้ในราคาเท่ากับ ร้านขายไวน์ จากคุณ : jearjear - [ 27 ก.ย. 49 16:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 152 เอ่อ...ตอนนี้มีใครบ้างแล้ว ...ผม...คุณพ่อหมีฯ...ผีใต้ถุน...D19...LightStream1010 ...Nic-Nenin...JearJear...คุณ SCKG (หายงอนแล้วมั๊ง) ...นี่คอนเฟิร์มมาแล้ว รอตรวจสอบก็มี...คุณ Tweety สี่ตา ...มาม่ายล่ายเพราะติดภารกิจ ...ก็มีคุณวาริชเวสม์...คุณลุงที ...คุณ Natt_ac121...คุณ LaGrandeRue ติดภาระกิจอยู่ต่างเมือง ...คุณ horseshoes คุณชอบแช้งค์ คุณสื่อศิลป์ ...คุณ Master_Indy คุณปีบ...ยังเงียบอยู่ ...ใครตกหล่นจากรายชื่อนี้ หรือเห็นว่าต้องประกาศตัวแล้ว ...ขอความกรุณาประท้วงหรือแจ้งด้วยครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 27 ก.ย. 49 17:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 153 สำหรับคุณนกครับ http://matrix.bangkokpost.co.th/entertainment/restaurants/wines.html สวัสดีครับทุกท่าน แว๊บบ จากคุณ : ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป - [ 27 ก.ย. 49 17:37:28 A:202.57.134.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 154 Hi Khun Viroj, Can I go too krup? I haven't register on this board lauy. Now I have to think about what new world wine to bring... DP จากคุณ : DP - [ 27 ก.ย. 49 18:47:27 A:58.8.185.212 X: ]