ความคิดเห็นที่ 1 จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จมันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักคือ "คุณกว้างขวางในวงสังคมมากหรือเปล่า" และขึ้นอยู่กับปัจจัยรองคือ "คุณมีความสามารถจริงๆหรือเปล่า" ในเมืองไทยพวกเราใฃ้ระบบอุปถัมภ์ คนไทยหลายๆคน (แต่ไม่ทุกคน) ไปชื่นชมคนที่ประสบความสำเร็จทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเบื้องหลังนั้น เขาใช้ความสามารถหรือใช้เส้น เราไม่ได้มองโลกในแง่ลบ หากแต่เขียนจากประสบการณ์ คนเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นมันขึ้นอยู่กับจังหวะในชีวิตด้วย ..............จังหวะที่จะใช้ทักษะที่ตัวเองเชี่ยวชาญ .....หากแต่บางครั้งจังหวะมันไม่มาเพราะมันมีเมฆดำบดบังอยู่ เราจากเมืองไทยไปนานแสนนาน ไม่มีเพื่อนฝูงไม่มีเส้นสาย เมื่อกลับมาเมืองไทยก็มีแต่พ่อเราเท่านั้นที่จะช่วยเราได้ พ่อเราอยู่ในกลุ่มเตรียมธรรมศาสตร์รุ่น 5 (เป็นเนติบัณฑิตรุ่นอาวุโส)  ที่มีนักการเมืองและนักธุรกิจดังๆมากมาย .....รู้สึกเคยเป็นนายกก็มี..... พ่อเราเล่าให้ฟังว่า ทุกวันนี้พวกเตรียมธรรมศาสตร์รุ่น 5 ยังคงสังสรรค์กันอยู่ที่โรงแรม Royal ทุกเดือน .......เขาบ่นว่าพวกมันเคยมี 800 กว่าคน แต่ตอนนี้ตายห่ะไปแล้ว 500 กว่าคนเหลือประมาณ 300 คน......... พ่อเราเป็นคนที่ชอบคนประจบสอพลอ ถ้าเราประจบสอพลอเราคงได้อะไรดีๆจากพ่อเรามากมาย แต่เราไม่ชอบการประจบสอพลอ พ่อเราปฏิเสธที่จะเสียภาษีสังคม จึงเลิกติดต่อกับเพื่อนฝูงดังๆ  มันส่งผลให้เรา "หนทางตัน" .......และเราก็เป็นคนที่พูดตรงๆขวานผ่าซาก .....เรากวนบาทาพ่อเราโดยการบอกพ่อเราไปตรงๆว่า "พ่อสั่งอะไรซ้ำๆย้ำๆ มันมาจากวิตกจริต ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าธาตุน้ำของพ่อนั้นป่วย  คือไตบวมนั่นนเอง" ........เราเรียนรู้สิ่งนี้มาจากลัทธิเต๋า เราก็บอกพ่อเราไปตรงๆ พ่อเราโมโหมาก ตอบว่า "ไตกูไม่บวม "สัตว์เลื้อยคลาน" หรอกไม่บวมโว้ย ไอ้ ***" " เราทำทุกอย่างที่กบถ ที่ทำให้พ่อเราเกลียด มีหรือที่พ่อเราจะยอมเสียภาษีสังคมและนำเราไปรู้จักกับเพื่อนๆไฮโซของพวกเขา........... เพียงแค่เพื่อให้เราพบกับนายจ้างดีๆ .....หรือคนที่จะนำทางเราไปสู่ความสำเร็จ? เรามีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ต้องดิ้นรน ทุกวิถีทางในการเสนอผลงานแปลของเราให้แก่ สนพ ..........ส่วนใหญ่แล้วส่งไปจะไม่ตอบกลับ ............เมื่อเร็วๆนี้มีคนถามถึงนักแปลชื่อเทศภักดิ์ มีคนตอบไว้ในกระทู้นี้ ลองไปอ่านดู แล้วเปรียบเทียบว่าทำไมเทศภักดิ์จึงประสบความสำเร็จ (อย่างที่พี่แสนอักษรอธิบาย ....เธอซึ่งรู้ประวัตินักเขียนและนักแปลมาก เคยชี้แจงเรื่องนี้ให้เราฟังบ่อยๆหลังไมค์) และทำไมหนทางเรามันจึงตัน.......... มันขึ้นอยู่กับจังหวะชีวิตด้วย  พี่แสนอักษรตอบว่า  ความสำเร็จของคนทำหนังสือมันขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของคนรอบข้างด้วย และต้องเลือกหนังสือในแนวที่ตนเองถนัดด้วย  ........เราเลือกไม่ได้  ....เพราะติดต่อไปแล้วเขาไม่ตอบกลับมา ดังนั้นเราจึงต้องคว้าทุกอย่างที่ สนพ เสนอ ซึ่งผลลงเอยก็คือ "มันไม่คุ้มทุน" ...........และมันไม่ได้ส่งเสริมให้เราแสดงความเชี่ยวชาญเฉพาะทางออกมาได้! แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 00:36:33 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 49 23:57:26 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 49 23:23:39 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 49 23:19:10 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 6 ต.ค. 49 23:18:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กระทู้เทศภัคดิ์คืออันนี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4762227/K4762227.html ลองไปอ่าน คคห 15 - 16 ใน link นี้สิ  ที่เราพลาดท่าในจังหวะชีวิตอย่างแรง  แล้วแถมยังโดนนักแปลที่โด่งดังพาพวกมารุมด่าเราอีกด้วย เนื่องจากเราไป "สะกิด" เธอว่าเธอดังได้เพราะเธอติดต่อผู้คนดังๆในวงการภายในได้เก่งกว่าเรา  ............ดุจดั่งโลกมายา ........ มันอยู่ใน link นี้ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4584025/W4584025.html ในคคห 20 ใน link ข้างล่าง เป็นฉากเหตุการณ์ที่เราดิ้นรนพยายามที่จะแปลหนังสือเป็นงานหลัก (แทนที่จะแปลเอกสารต่อไปตามเดิม)  แต่ไปไม่รอด เพราะหมุนเงินไม่ทัน (ต้องมีเงินสดสำรองอยู่เป็นจำนวนนมาก หรือก็ต้องรีบแปลหนังสือไวๆแล้วแปลผิดมากๆ) เมื่อไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนที่อยู่ใกล้คือแฟนเราเอง   เราก็เกิดอาการเครียดๆ ทำให้ชีวิตครอบครัวถึงกับล่มสลาย   http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4649795/W4649795.html ใน คคห 2 กับ 3 ใน link ข้างล่างนี้เป็นทักษะที่เราได้พัฒนาขึ้นมากจากการเป็นมือปืนรับจ้างแปลเอกสารด่วนมา 10 กว่าปี .........เราพยายามจะเปลี่ยนทักษะนี้ให้เป็นทักษะการแปลหนังสือ แต่มันไปไม่รอด คือหมุนเงินไม่ทันจริงๆ (การแปลหนังสือต้องมีเงินสดสำรองในมือมากมาย หรือไม่ก็ต้องแปลไวๆ แล้วแปลผิด แต่เขียนภาษาไทยสวยๆให้คนอ่านอ่านเพลินไม่คิดสงสัย) ....... http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4761581/K4761581.html กระทู้นี้ข้างล่างนี้เป็นการไปไม่ถึงดวงดาวแล้วต้องหาวิธีทำงานให้หนักน้อยลงเพื่อให้ได้เงินเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมเพื่อจะได้มีเวลาหาความรู้อื่นเพิ่มเติมเพื่อที่จะหาทางแจวไปทำงานอื่น เช่นเปลี่ยนอาชีพจากนักแปลไปเป็นหมอดู   ที่เราทำงานแปลแล้วไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่มีเส้นสาย (คือติดต่อ สนพ ใหญ่ หางานราคาแพงๆที่ไรก็ไม่ได้รับการตอบกลับ) http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4755635/K4755635.html กระทู้ข้างล่างนี้คืองานแปลที่เหลือซากมาเล็กน้อยเพราะว่า  วงจรการเงินเราขาดสะบั้น............เนื่องจากเราไม่มีผู้อุปถัมภ์และไม่มีเงินสดจำนวนมากสำรอง  เนื่องจากเราได้แต่งานราคาถูกๆในอดีตเพราะเราไม่มีเส้นใหญ่ๆ  ......ซึ่งคิดๆแล้วเจ็บใจว่า เป็นตายอย่างไรเราก็จะไม่ง้อพ่อเราให้พาไปหาเพื่อนๆที่บิ๊กๆดังๆของเขาอย่างเด็ดขาด ............ เราขอยอมสู้ตายอย่างน้  ชีวิตมีสีสรรค์ดี .................. http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=iwrite4u&group=5 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 49 23:59:12 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 49 23:38:27 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 6 ต.ค. 49 23:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ดังนั้นคำตอบที่ตอบ จขกท ได้เคลียร์ที่สุดก็คือ  เหมือนๆกับจีบสาว ค่ารมเป็นต่อรูปหล่อเป็นรอง การเข้าสู่วงการดาราก็คือเส้นเป็นใหญ่ความสามารถเป็นรอง การเข้าสู่วงการหนังสือ (ที่ต้องได้งานจาก สนพ) ก็เช่นกัน .......จะได้งานไม่ใช่ว่าคุณเขียนหนังสือดีแล้วเขาจะตอบมา  ............อย่างน้อยที่สุดคุณต้องรู้จักกับบรรณาธิการหรือผู้บริหาร สนพ โดยเป็นการส่วนตัวหรือมีเพื่อนฝูงแนะนำเพื่อการแจ้งเกิด แต่ถ้าคุณเป็นคนดังในสังคมหรือมีพ่อแม่ญาติพี่น้องมิตรสหายอยู่ในสังคมกว้างๆ นามสกุลดังๆ  เหมือนนักแปลโด่งดังที่พาพวกมารุมกัดเราด่าเราอย่างหยายๆคายๆนั้น  คุณสำเร็จได้ง่ายๆอย่างแน่นอน การส่งต้นฉบัยไปยัง สนพ ตามที่อยู่ทางไปรษณีย์และตาม email address แล้วได้รับการตอบกลับ  เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ .......มันแล้วแต่จังหวะชีวิตของคุณ ....แต่ถ้าจะคำนวณตามหลักวิชาความน่าจะเป็นไปได้ในเชิงคณิตศาสตร์แล้วไซร้  มันควรหรือไม่ควรที่จะเอาชีวิตลูกเมียคุณมาเสี่ยง  .... .......ขนาดแฟนเรายังไม่กล้าเสี่ยงรับเลี้ยงดูเราจนกว่าเราจะได้เงินจาก สนพ อย่างต่อเนื่องกันเลย  เธอบอกว่าเราจะไปสร้างภาระให้เธอ แล้วเธอไล่ให้เราจากที่อยู่กับเธอที่เชียงใหม่ให้กลับไป กทม เว้นเสียแต่ว่าเราจะตะลุยแปลเอกสารที่ไม่มีทางโด่งดังแต่ได้เงินไวๆชัวร์ๆกว่าหลายเท่าเหมือนเดิมเธอจึงจะให้เราอยู่กับเธอ เท่านั้นไม่พอเธอยังแกล้งเสียดสีแดกดันโดยการไปแปะกระทู้ทั่ว pantip ว่าเราแปลหนังสือแล้วดังสู้นักแปลรู่นลูก (ที่นามสกุลดังรู้จักผู้คนมาก) ไม่ได้เลยเครียด  จนเป็นเหตุให้เรากับแฟนเราต้องแยกทางกันไปในที่สุด  เพราะเราทนไม่ไหวกับการดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีกันเช่นนี้.......... แต่ถ้าคุณเป็นคนที่กว้างขวางในวงสังคม โอกาสที่หนังสือคุณจะดัง  มันมีตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้ว  เงินบางที สนพ อาจจ่ายล่วงหน้าด้วย  ถึงคุณไม่มีความสามารถคุณก็จ้าง "นักเขียนผี" เขีนนแทนคุณได้ .............นี่คือเกมที่พวกเราชาวไทยเล่นกัน ........... โปรดพิจารณาดูให้ดีๆ  บริกรรมดูให้ดีๆ  หาทางหนีทีไล่ให้ดีๆ  อย่าเชื่อใครง่าย อย่าหลงกลใครง่ายโดยคิดว่า ถ้าเก่งแล้วคุณจะไปสู่ดวงดาวได้ ..........ในสังคมเรานี้มีการหลอกลวงกันในทุกระดับ ...........บางทีเราเหมือนเป็นคนบ้า  คือเราเห็นผลงานใครๆที่เราคิดว่าเข้าสู่วงการได้เพราะระบบโลกมายา  เราไม่อุดหนุนผลงานนั้นๆ  ถ้าใครทำอย่างเราระบบอุปถัมภ์ในเมืองไทยจะหมดไป  คนมีความสามารถจะแจ้งเกิดได้มากยิ่งขึ้น ประเทศชาติก็จะเจริญมากยิ่งขึ้น แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 00:04:23 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 49 23:51:44 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 49 23:49:11 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 6 ต.ค. 49 23:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แต่อย่างไรก็ตามคุณคงไม่เครียดแบบเราเนื่องจากคุณเป็นข้าราชการ มีรายได้ประจำเป็นหลักอยุ่แล้ว  ตะลุยเขียนแล้วส่งเรื่องไปเลย..........แล้วร้องเพลงรอไปเรื่อยๆ..........จนกว่าจังหวะชีวิตจะเป็นของคุณ ............ แต่ทางที่ดีควรส่งงานแบบตามประกบไปเจอตัวผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ  หากว่าหวังผล 100% บางที่คุณไม่จำเป็นต้องมีเส้น .........นี่มองโลกในแง่บวกนะ  เพียงแค่คุณได้เห็นหน้าค่าตาคนที่มีอำนาจตัดสินใจว่าจ้างคุณ และพูดคุยกับเขาให้เขาชอบพอคุณ จนในที่สุดเขาก็จะให้งานคุณมาทำ ..........เราเคยทำแบบที่ว่าได้ แต่ก็แค่ได้ตอนติดต่อ สนพ เล็กๆ เพราะเข้าหาตัว บก ได้ง่ายๆ  แต่เราไม่เคยติดต่อ สนพ ใหญ่ๆ ได้เนื่องจากเข้าหาตัว บก (ที่มีหลายๆคน) เข้าไม่ติด เข้าไมเจอตัว ติดต่อไม่ได้ .......... วาสนายังไม่มีเราจึงจะเปลี่ยนเข็มจากนักแปลไปเป็นหมอดู  เนื่องจากหางานง่ายกว่า แค่ไปตั้งโต๊ะก็มีคนที่ทุกข์ร้อนใจเรื่องครอบครัว การงาน เงินทอง เรื่องความรัก เดิมมาขอความช่วยเหลือจากเรา  มันน่าภาคภูมิใจมากยิ่งกว่าการทำตัวเยี่ยงขอทานเที่ยวหน้าด้านไปเสนอเรื่องราวที่จะเขียนหรือจะแปลแล้วโดยโยนลงขยะบ่อยๆ ในขณะที่มีนักแปลที่กว้างขวางในวงสังคมมากกว่าเราเข้ามาเยาะเย้ยดูถูกเหยึดหยามเรา พาพวกมารุมด่าเราอย่างหยาบคายมาก   และที่เจ็บลึกมากที่สุดก็คือว่า แฟนเรามีปัญหาส่วนตัวกับเรา แต่ทำให้เราเจ็บลึกมากๆโดยการไปแปะไว้ทั่ว pantip ว่าเรา "แย้มฝาโลงศพขึ้นมาแปลแข่งกับนักแปลรุ่นลูกแต่สู้ไม่ได้ เลยเครียด" .........ที่เครียดเพราะส่งเรื่องไปแล้วไม่มีคนรับ  ไม่ใช่เครียดเพราะลงเวทีสู้แล้วแพ้   ความจริงไม่ได้ส่งเรื่อง  เดี๋ยวคนอ่านเข้าใจผิดจะหาว่าเรื่องที่ส่งไปมันเฮงซวยเขาถึงไม่รับ   แต่ที่ไม่ตอบมาส่วนใหญ่ติดต่อไปว่า ถ้าส่งเรื่องจะส่งไปให้ใคร แต่ไม่มีใครตอบมาต่างหาก และกรณีที่มี บก สนพ หนึ่งสัญญาแล้วว่า จะขอลิขสิทธิ์หนังสือให้เราแล้วเบี้ยว อย่างในกระทู้นี้ 15 - 16 ใน link ข้างล่างนี้ ต้องถือว่า "ซวยสุดๆเลย" และมันไม่ใช่จังหวะชีวิตที่ดีเอาเสียเลย..........ดังนั้นเราจึงต้องหาทักษะใหม่ๆเพื่อที่จะหาอาชีพใหม่ๆที่ดีกว่านี้ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4584025/W4584025.html แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 00:21:48 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 00:19:21 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ วันเกิด PANTIP.COM 00:16:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอ่อ ..... จากคุณ : ztango - [ วันเกิด PANTIP.COM 07:14:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แรกเดิมทีผมอ่านที่เจ้าของกระทู้เขียนก็โอเคเข้าใจ ก็จะพิมพ์ตอบไปว่าหาข้อมูลได้จากที่ไหนบ้าง พอเลื่อนถัดมาก็พบข้อความของคุณ tansy (iwrite4u)   ดังนั้นจึงกลับไปอ่านข้อความของเจ้าของกระทู้ใหม่อีกครั้ง ก็คิดว่าเราน่าจะเข้าใจไม่ผิด ก็จะเขียนตอบ หลังจากนั้นก็เลื่อนหน้าต่างลงมา เจอความคิดเห็นที่สองอีก แอะ ก็เลยลองอ่านดู คิดในใจว่ามีความเห็นที่สามอีกหรือเปล่า ก็ลองเลื่อนลงมาอีก เออ มีแฮะ อ่านไปเรื่อยๆ เลื่อนลงมาอีกอ้าวมีอีกแฮะ   จนมาถึงข้อความที่ห้า ของคุณ ztango มีคำว่า "เอ่อ....." เช่นนั้นจึงบรรลุ เราอ่านทำไมฟะ  เมื่อหันไปที่ข้างฝาจิ้งจกตัวหนึ่งหายไป จิ้งจกตัวนี้ชอบมาเกาะข้างฝาร่วมแจมอ่านกระทู้กับผมบ่อยๆ  ผมไม่รู้ว่ามันหายไปตั้งแต่ความคิดเห็นเท่าไหร่ สุดท้ายขออภัยที่ไม่ได้ตอบ จากคุณ : egotech - [ วันเกิด PANTIP.COM 07:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โลกนักเขียนมีหลายด้านนะคะ  ^__^ ตอบตามคำถาม นิตยสารส่วนใหญ่  รับพิจารณาเรื่องสั้น แต่ต้องมีแนวเนื้อหา  เข้ากับกลุ่มผู้อ่านในนิตยสาร ที่เห็นๆ  ว่ารับแน่ๆ  ก็ สกุลไทย  ขวัญเรือน  กุลสตรี หญิงไทย ฯลฯ  นิตยสารแนววิทยาศาสตร์ก็รับหลายเล่ม   ทั้งหมดมีระยะเวลา  การส่ง แนวเนื้อหา  อยู่ตามหน้าสารบัญ ไปหาดูค่ะ  ว่าเข้ากับตัวเราไหม แต่มีที่หนึ่ง... ส่งไป  ได้ลงเร็วสุด  ไม่จำกัดแง่งมุมเท่าใดนัก   เพราะเปิดกว้างเหลือเกิน  คือ "ต่วย'ตูน"   ค่าเรื่องมาพร้อมการตีพิมพ์  ไม่มีบิดเบี้ยว ต่วย'ตูน เป็นบ้านอีกหลังของดิฉันเสมอ  เวลาที่อยากเขียน อะไรที่เป็นประสบการณ์จากตัวตนมากๆ  โดยไม่จำกัดมุมมอง คุณวาทินไม่มีข้อแม้ต่อนักเขียนใหม่  แม้ยุคนี้จะเข้าสู่รุ่นลูก (คือคุณดาว  ปิ่นเฉลียว) ต่วย'ตูนก็ยังเปิดประตูรับมิตรใหม่เสมอ (ว่าแล้วคิดถึง "ฟ้าเมืองไทย" จับใจ บ้านที่เปิดประตูตลอดอีกหลัง) ค่าเขียนพอประมาณ ไม่เบาจนใจหาย อย่าหวังเอาอิ่ม   (แต่เกินพอซื้อการ์ตูนให้ลูกค่ะ   ) มีข้อแม้คือเนื้อหาต้อง "ได้" กับเนื้อหนังสือ ดูจากพื้นฐาน ที่คุณว่ามา  ลูกชาวนาฯลฯ เหมาะเลยค่ะ นักเขียนกลุ่มนี้  เป็นที่นิยมของชาวต่วยฯ  นะคะ (ดิฉันคนหนึ่งละ  แฟนกลุ่มเรื่องชีวิตไทย) อีกกลุ่ม  ที่เป็น "บ้านเก่า"  ของดิฉัน  คือ "ขายหัวเราะ" และในกลุ่มขายหัวเราะค่ะ แต่จำกัดที่แนวต้อง "ขำขัน" เท่านั้น   ค่าเขียนไล่ๆกันค่ะ  (บางทีขายหัวเราะจะแรงกว่าหน่อย) สองแห่ง ที่กล่าวมา  เปิดกว้าง ระยะเวลาไม่ยาวนัก ขอให้คุณพบมุมที่สามารถสื่อตรง  กับกองบรรณาธิการได้นะคะ จากคุณ : ป้าหนอน - [ วันเกิด PANTIP.COM 09:21:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กราบขอบคุณป้าหนอนมากๆจ้า........คนเก่ง (แบบป้าหนอน) ก็มักจะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้ข้อมูลการทำมาหากินกับชาวบ้านแบบนี้นั่นแหละ มันคล้ายๆกับคุณ promegax ที่เก่งภาษาอังกฤษมากๆ เป็นนักวิทยาศาสตร์ (เข้าใจว่าเป็นข้าราชการหลังจากจบปริญญาเอกจากสหรัฐมาแล้ว) แต่แปลภาพยนต์เป็นงานอดิเรก (คิดว่าภาพยนต์ไทย ....แปลเป็นอังกฤษ) เพราะเมื่อเร็วๆนี้เราไปดูหนังไทย รุ่นหลังๆ แล้วดู subtitles พบว่ามันเป็นภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยมมากๆ เลยคิดว่าต้องเป็นฝีมือคุณ promegax แปลอย่างแน่นอน......และเมื่อเร็วๆนี้มีคนถามว่าในห้องรวมพลนักแปลว่า "อยากแปลภาพยนต์ทำไงดีคะ ต้องติดต่อใครที่ไหนคะ" คุณ promegax ตอบน่ารักมาก โดยบอกว่า "หลังไมค์มาหาผมสิครับ" ส่วนนักแปลที่พาพวกข้ามารุมด่าเรานั้น เธอมาจากตระกูลดังๆ เรียนมหาลัยดังๆ ได้งานแปลง่ายๆที่เข้าทางตัวเอง .....เพราะรู้จักผู้คนมากมาย เธอเข้ามาโฆษณาผลงานเธอ แล้วใครๆก็ฝันหวานอยากที่จะมีผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์เหมือนคนดังคนนี้ ทุกคนก็เลยถามว่า ติดต่ออย่างไร นักแปลคนดังตอบว่า ไปที่ www.ชื่อสำนักพิมพ์.co.th ...........เรารู้ทันว่าติดต่อแบบนี้ สนพ มันไม่ตอบกลับมาแน่ๆ เราเลยสัพยอกเธอเพื่อตลกคลายเครียดว่า "ติดต่ออย่างที่ว่าไปแล้วค่ะ .....แต่ไม่มีใครตอบกลับมาค่ะ" .............เท่านั้นแหละ โดยพรรคพวกนักแปลคนเนี้ย (คงเป็นพวกเรียนปริญญาโทการแปลสถาบันเดียวกัน เข้ามารุมด่าเราอานเลย.....ด่าหยาบคายมากๆเลย ..............หาว่า งี่เง่า จะถอนหงอกบ้าง อะไรบ้าง ....พวกเธอส่งไปตามที่ว่า สนพ ตอบมา ได้แปลได้เขียนเยอะแยะไป ..........โหวันๆหนึ่งนะเราว่า สนพ ต้องคัดเรื่องนักอยากเขียนกับนักอยากแปลมากมาย โอกาสสำเร็จมันมี แต่เกือบเลขศูนย์ ........เราจึงคิดว่า ถ้ารู้ว่าใครมีอำนาจตัดสินใจแล้วไปหาคนๆนั้น  แล้วคุยกันให้เขาชอบพอคุณในระดับหนึ่งมันจะชัวร์กว่า ........ ตอนจบนักแปลที่พาพวกมารุมด่าเรายังมาอ้างว่า ให้ email address บก ไม่ได้เพราะผิดมารยาท แต่คุณ promegax ตอบได้สง่างามและจริงใจ  จริงๆ .....รวมทั้งป้าหนอนด้วย ที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อนักอยากเขียนและนักอยากแปล.......... จึงขอมาคารวะเอาไว้ ณ ที่นี้ว่า อย่างน้อยที่สุดในสังคมไทยก็ยังมีคนไม่หลอกลวง (ไม่หลอกให้ส่ง mail ไปโดยโยนลงขยะ)  มีคนดีๆมีคุณธรรมแบบป้าหนอนและคุณ promegax .............ขอบคุณมากๆสำหรับความจริงใจ และความเอื้อเฟื้อเผื้อแผ่ต่อคนที่อยากค้นหาทางทำมาหากินให้กว้างกว่านี้   เผื่อว่าคนที่พอจะมีความสามารถแต่คลำทางไปไม่ถูกจะได้แจ้งเกิดบ้าง แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 14:34:31 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 14:32:24 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 14:25:24 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 14:24:02 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ วันเกิด PANTIP.COM 14:19:47 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สะท้อนสังคมไทย........????.......โดยที่จิ้งจกมันหล่นจากกำแพงไปแล้ว........... เราเห็น pantip แนะนำ blog หนังสือ ก็เลยกดมั่วๆแล้วเจอ blog นี้เจ้า http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=a-local-traveller&group=4&date=28-09-2006&blog=1 มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับหนังสือที่  Michael Swan เขียน ........รู้สึกจะชื่อเรื่อง Practical Enlish Usage..........(เดาเอาจากเนื้อความ) หนังสือเรื่องนี้ดังนะ ดังตรงไหนล่ะ ดังตรงที่คุณ K.Senior คนดังในห้องการศึกษา ตอบกระทู้หนึ่งที่มีคนถามว่า "เรียนไวยากรณ์ใช้หนังสือเล่มไหนดีค่ะ" คุณ K.Senior ตอบว่า Practical Enlish Usage ของ Michael Swan ครับ เรียนได้ตั้งแต่ ม.ต้นถึงปริญญาเอกเลยครับ .............. เท่านั้นแหละ พวก gurus แห่กันเข้ามาโชว์ฟอร์มหนังสือไวยากรณ์ยากๆกันเพียบเลย (ไม่รู้จะเหมือนเรื่องจิ้งจกในกระทู้นี้หรือเปล่า?) แต่คิดๆแล้วก็เห็นใจคุณ K.Senior แกนะว่า แท้จริงแล้วเจตนาดี............. แต่ลองไปดู ที่ blog ที่ว่านั้นสิ ...........เจ้าของ blog อ้างว่า "ใครคนหนึ่ง" ลอกผลงานของ Michael Swan มาทั้งดุ้นเลย แล้วอ้างว่าเขาเขียนเอง ....โดยตั้งชื่อหนังสือว่า "****"........ เรามีหนังสือ Practical Enlish Usage ของ Michael Swan อยู่ในมือ แต่ไม่มีหนังสื่อ ...ชื่อ "***" ตามที่เจ้าของ blog แห่งนั้นอ้างว่า "ลอก" พวกเพื่อนลองไปสำรวจดูในร้านหนังสือดูว่า "ลอกหรือไม่ลอกกันแน่" ......แล้วช่วยมาแสดงความคิดเห็นหน่อยดิ......... ที่เขียนเรื่องนี้ก็เพื่อนำจิ้งจกกลับมาและบอกว่า "ให้ทั้งจิ้งจกและสาธารณชนสอดส่องเรื่องราวต่างๆในสังคมไทย" แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 16:09:15 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 15:58:08 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 15:56:34 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ วันเกิด PANTIP.COM 15:56:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ้าวแล้วเขียนเรื่องนี้ทำไมฟะ .........จิ้งจก 3 หางถามก่อนหายไปจากกำแพง เอ่อคือว่า อยากจะมาสารภาพความโง่ของตัวเองยังไงล่ะ บทสนทนาระหว่างจิ้งจกกับ tansy house lizard (จิ้งจก): เจ้ากำลังจะพูดเรื่องอันหยัง? tansy (นักแปลไร้ชื่อ): เรื่องความโง่ของตัวเองที่รู้เท่าไม่ทันการเคลื่อนไหวของสังคมไทย house lizard (จิ้งจก): เจ้ากล้าสารภาพว่าโง่จริงๆหรือ tansy (นักแปลไร้ชื่อ): กล้าสิท่านจิ้งจกสามหาง  นั่นก็เพื่อให้คนอื่นๆที่แจ้งเกิดไม่ได้รู้เท่าทัน house lizard (จิ้งจก): เอ้าว่ามาเลย tansy (นักแปลไร้ชื่อ): คือว่าอยากจะสารภาพว่าโง่ รู้ม่ะทันนักเขียนคนหนึ่ง  อยู่ดีๆเราวางแผนจะทำงานขิ้นหนึ่ง เป็นงานแปลเรื่อง Zen Macrobiotics เราคิดโง่ๆว่าลงทุนซิ้อหนังสือมา พอแปลได้ค่าแปล แล้วเราจะได้ไปซื้อหนังสือประเภทนี้มาศึกษาอีก แล้วแปลอีกแล้วรับค่าแปลเป็นทุนรอน เพื่อไปซื้อหนังสือประเภทนี้มาศึกษอีก.... แต่อนิจจา...................บ้าแท้ๆ house lizard (จิ้งจก): อนิจาอะไร พูดออกมาไวๆเหมือนบะหมี่สิ ...........ม่ายงั้นข้าจะหายวับไปกับตาเพื่อจับแมงสาป แล้วจะไม่คุยกับเจ้าอีก tansy (นักแปลไร้ชื่อ): โอ้ยมีแน่ๆท่าน house lizard .........แต่ก่อนอื่นขอข้าไปซด wine สักขวดก่อนนะ 5555555 แล้วจะมาเล่าต่อให้ฟัง.........เรื่องวิธี plagiarize คือเอางานคนอื่นมาอ้างว่าเป็นผลงานของตนเองโดยไม่มีใครดำเนินคดีกับท่านได้ ...................By George ........มันช่างแนบเนียนเสียเหลือเกิ้น ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ........ให้ตายสิ ........ ขอให้นักลอกจงเตรียมตัวเตรียมใจเพื้ออ่านกระทู้นี้นะจ๊ะ...จะได้ลอกได้โดยไม่โดนดำเนินคดี...........มันแนบเนียนสุดๆเลย......เราจะค่อยๆเล่าให้ฟัง แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 20:12:55 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 19:12:24 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 19:10:39 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 19:05:13 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 16:16:54 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 16:12:21 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 16:09:53 จากคุณ : t (iwrite4u) - [ วันเกิด PANTIP.COM 16:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 12 tansy (นักแปลไร้ชื่อ): คือมันอย่างนี้ ท่านจิ้งจก....เอ๊ยจอมยุทธ์จิ้งจก   วันๆหนึ่งข้า browse หนังสือในร้านหนังสือแล้วต๊กกะจายว่าหนังสือในแนวที่ข้าอยากแปล  แต่มัวติดด่อ สนพ ม่ะได้เพราะไม่มีคนชี้ทางสว่างให้ข้าแบบป้าหนอนน่ะ  มีคนแปลไปแล้ว และผลงานออกมาเป็น 10ๆ..เล่ม......ความจริงแล้วไม่ได้แปล แต่เป็นเขียน ..........คงคล้ายๆ หนังสือ Michael Swan แต่แนบเนียนกว่า house lizard (จิ้งจก) : มันทำยังไงหว่า? tansy (นักแปลไร้ชื่อ): เราอ่านข้อความภาษาไทยแล้วเราจำได้ว่าเคยอ่านมันมาเป็นภาษาอังกฤษที่เขียนโดยชาวญี่ปุ่น แล้วจำหนังสือภาษาอังกฤษได้ด้วยดิ .........หากแต่ว่ารูปภาพที่เป็นภาพเส้นเดี่ยวง่ายๆในต้นฉบับ  ที่ไม่แสดงสัญชาติ (ทั้งๆที่ชาวญึ่ปุ่นเป็นคนเขียน) โดยในหนังสือภาษาไทยเล่มนั้นมีการวาดรูปใหม่หมด เป็นลายพู่กันจีนทั้งหมดเลย   แล้วสิ่งที่ชาวญี่ปุ่น George Ohsawa กับ Michio Kushi พูดว่าอะไรบ้าง  ส่วนใหญ่เขา ไม่พูดว่าชาติอะไรพูด เพราะเขาถือว่า ตามหลัก Zen Macrobiotics หลายๆชาติก็มีวิธีการกินอาหารและรักษาสุชภาพตามแบบพื้นเมืองทั้งนั้น  หากแต่ว่านักเขียนไทยจอมเก่ง พอลอกมา ก็บอกว่า "คนจีนพูดว่า.....คนจีนพูดว่า" แล้วแปลงรูปภาพเป็นพู่กันจีนไปหมดเลย.........แนวคิดในหนังสือ 10 กว่าเล่มของเขามาจาก George Ohsawa กับ  Michio Kushi  โดยทั้งหมดเลย หากแต่ว่านักเขียนญี่ปุ่นสองคนนี้กลับไม่ได้รับการให้เครดิตในหนังสือของเขาเลย..............โอ้โหลอกชั้นเซียนเลย ท่านจิ้งจกสามหาง  ข้ารู้ไม่ทันนักเขียนไทยท่านนี้.......แย่จริงๆ house lizard (จิ้งจก): มียังงี้ด้วยหรือ? tansy (นักแปลไร้ชื่อ): จากนั้นข้าสืบดูหนังสือในท้องตลาดดูดีๆ.........โดยอาศัยข้อมูลว่า George Ohsawa ตายไปแล้ว แต่ Michio Kushi ผู้เป็นศิษย์ ซึ่งเป็นคนที่มีชื่อเสียงระดับอินเตอร์  มีหรือที่จะขายลิขสิทธ์ตัวเองเป็นเงินแสน.................เขาคงขายเป็นเงินล้านแน่ๆ .......ดังนั้นข้าจึงไม่เคยเห็นหนังสือของเขาถูกแปลออกมาอย่างถูกต้องเป็นภาษาไทยเลย (ไม่เคยเห็น.....)  คงไม่มี สนพ ไทยสู้ราคาเพราะคงไม่มีคนอ่านมันมากเท่า Harry Potter น่ะ สรุปแล้วนะท่านจอมยุทธ์จิ้งจกสามหาง นักเขียนท่านนั้นสอนมวยให้ข้า  เขาทำหนังสือที่ข้าอยากแปล แต่มัวงมโข่งอยู่เกือบ 20 ปี  ไม่ได้แปลเพราะหา สนพ ที่จะยอมขอลิขสิทธิ์และตีพิมพ์ให้ข้าไม่ได้  แต่นักเขียนท่านนั้น plagiarize (คือลอกมา แล้วอ้างว่าเป็นผลงานของเขา)  เรียบร้อยโรงเรียนจีนไปหมดแล้ว  แต่ไม่มีทางที่เจ้าของลิขสิทธิ์จะเอาผิดกับเขาได้ เพราะอะไร?  เพราะว่าเขาสลับบทที่ของหนังสือ แล้วค้นคว้าเรื่องของชาวจีนมาเติม  แล้วลอกรูป แต่ลอกฉลาดมากๆ ลอกโดยการวาดใหม่เป็นลายพู่กันจีนจนหมด ........ แล้วทุกอย่างที่คนญี่ปุ่นเขียน  เขาบอกว่า "คนจีนนพูดว่า........" .................โอยนักลอกคนนี้ทำประโยชน์ให้แก่สังคมไทยมากมายเสียเหลือเกิน ............เนื่องจากเขาให้ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพที่เป็นประโยชน์แก่คนไทย  โดยการลอกที่แนบเนียนมากๆ  เขาทำให้ความหวังเกือบ 20 ปี ของเราต้องพังทลาย .............. คือเราอ่านหนังสือพวกนี้แล้วอยากแปล แต่อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษเข้าใจเท่านั้น ในตอนนั้นเราเขียนภาษาไทยไม่ค่อยจะเป็น  เพิ่งมาหัดเขียนเนี่ย ....เราจึงลงทุนลงแรงเลิกทำงานสอนภาษาอังกฤษที่รายได้ดีๆ  แล้วไปฝึกงานเป็นนักแปล แล้วลงมือหัดแปลเอกสารอยู่อีก 10 กว่าปี เพื่อหวังที่จะแปลหนังสือประเภทนี้   แล้วพอโดนนักเขียนที่ลอกมาทั้งดุ้นที่ไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ และติดต่อ สนพ เก่งคนนั้นสอนมวยให้  ข้ารู้สึกตื้นตันใจที่ได้รับการสอนมวยให้จนฉลาดขึ้น..........มันทำให้ข้ารู้ว่าการที่ข้าประสบความสำเร็จไม่ได้นั้น เป็นเพราะ "รู้ไม่ทันคนในสังคมไทย"  ......... มันเป็นอะไรเหมือนกับที่ข้าอ่านเรื่องนักวิจัยคนหนึ่งพยายามพิสูจน์ว่า "ย่าโมแท้จริงแล้วไม่มีตัวตนจริงๆแต่อย่างใด" ..........และเธอเกือบจะโดนชาวอิสานฆ่าตายจนแสดงผลงานวิจัยต่อไปไม่ได้ เวลาอ่านเรื่องที่ว่า ผู้ใหญ่ชาวไทยสอนเด็กๆว่า "อย่าตัดเล็บตอนดึกๆเพราะจะโชคร้าย" แต่แท้จริงแล้วสมัยก่อนไฟฟ้ามันไม่มี เขาหลอกเด็กกลัวเด็กตัดโดนเอาเนื้อเข้า..........ต่างหาก พอรู้ว่าโดนหลอกแบบนี้ ข้าก็เลยนั่งสมาธิแล้วพยายามลบข้อมูลทุกอย่างที่ข้าเคยเรียนมาในวิชาประวัติศาสตร์ไทย  เมื่อตอนเด็กๆ  ให้ออกไปจากสมองให้หมดเลย  ..........คือกลัวโดนหลอกน่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 20:18:30 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 19:42:18 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ วันเกิด PANTIP.COM 19:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 tansy (นักแปลไร้ขื่อ): คือว่าท่านจอมยุทธ์จิ้งจกสามหาง  การอ่านจับใจความต้นฉบับในภาษาหนึ่ง แล้วมาเขียนใหม่สบับบทกลับหัวกลับหางกันในภาษาไทย  มันเป็นการลอกที่เนียนสุดๆเลย ข้าแอบเรียนเพลงยุทธ์นี้มาจากนักเขียนท่านนั้น แต่ข้าก็ติดต่อ สนพ ไม่ได้อย่างเขา....... ท่าเพลงนี้ข้าไม่รู้จะแอบเรียนได้อย่างไรท่านจอบยทธ์จิ้งจกสามหาง แล้วอีกอย่างหนึ่งตอนนี้ข้ากำลังบริกรรมคัมภีร์การฝึกลมปราณของนักพรตเต๋าท่านหนึ่ง  อยากจะลอกมันอย่างที่ว่านั้นแหละ หากแต่ว่าวาดรูปใหม่ไม่เป็น 55555555.......... โหหนังสือทั้งเล่มแสดงโครงกระดูก เส้นเอ็น ทางเดินเลือดลม  ลอกยังไงหว่าทั่นจอมยุทธจิ้งจก.........เอ่อว่าแต่ว่าทั่นฝากเราเข้า สำนัก (สนพ) กระบี่ ดังๆจะได้ไหม house lizard (จ้งจก): เจ้าต้องช่วยข้าจับแมงสาปให้ได้หลายๆตัวก่อน..........เอ่อแล้วทำไมเจ้าไปกลับไปประจบสอพลอพ่อเจ้าล่ะ? tansy (นักแปลไร้ขื่อ): ก็ได้ ข้าจะใช้พลังใยไหมของท่านอาจารย์ ทวดจาง ซันฟง ของข้าจับแมงสาปให้ท่าน.......ส่วนเรื่องพ่อข้านั้นเขาเคยช่วยข้ามาแล้วครั้งหนึ่งตอนข้าจะโดนเจ้าหน้าที่กระทรวงเล่นงาน ...แต่ตอนนี้ท่านพ่อเอือมระอาข้าแล้วตัดหางปล่อยวัดข้าแล้ว....ข้าจึงไร้ที่พึ่ง  ตอนนี้ก็เหลือแต่ท่านเท่านั้นนั่นแหละ ...... เรื่องทีท่านพ่อช่วยข้านั้น มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าพลาดท่าเพราะอ่อนหัดไม่รู้ทางหนีที่ไล่ในสังคมไทย จึงทำอะไรไม่สำเร็จ........เรื่องมันยาว  แล้วข้าจะเล่าให้ท่านฟังใหม่ ...เพื่อเป็นการสะท้อนสังคมไทย....เอ้าได้แล้ว 3 ตัว ......แมงสาปน่ะ house lizard (จ้งจก): โหเก่งจัง  เจ้าใช้พลังใยไหมจับพวกมันได้หรือ? tansy (นักแปลไร้ขื่อ): เปล่าหรอกท่านจอมยุทธ์ ข้าใช้ใช้ Bygon ต่างหากล่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 20:51:16 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 20:10:32 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 20:05:22 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 20:01:59 แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 49 19:57:35 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ วันเกิด PANTIP.COM 19:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไปอ่าน คคห 8,9, 10 ใน link ข้างล่างนี้ แล้วจะรู้ว่าการที่เราโดน บก ใน สนพ แห่งหนึ่งเบี้ยว (เพราะเราไม่มีเส้น) น่ะ มันทำให้คนไทยพลาดโอกาสที่จะอ่านหนังสือดีๆเรื่องไหนไป ...........เศร้าใจจริงๆ.......ไปจับแมงสาปต่อจะดีกว่านะท่านจอมยุทธ์จิ้งจกสามหาง...........เฮ้อ!!!!! http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4771793/L4771793.html แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 49 01:00:11 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 8 ต.ค. 49 00:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เซ็งแล้วขี้เกียจบ่นเรื่องความไม่สำเร็จในการแปล และเรื่องการเรียนภาษาอังกฤษแล้ว........เบื่อสุดๆ  คนอื่นๆก็คงเบื่อไปด้วย ลองตามไปอ่านกระทู้ฉีกแนวใหม่ๆของเราจะดีกว่าที่ห้องนี้  ไปอ่าน คคห 11, 12 ดิ (อาจเขียนต่ออีกก็ได้นะ) ตาม link ข้างล่างนี้ไป.........ตอนนี้ย้ายถิ่นฐานไปห้องลุมพินีจะดีกว่า  มันดีแฮะ.........อิๆๆๆ.......... http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4775740/L4775740.html จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 ต.ค. 49 06:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ???  กระทู้นี้ทำไมตอนท้ายมันแปลก ๆ -_-' จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 13 ต.ค. 49 08:17:07 ]