ความคิดเห็นที่ 1 จักรพรรดิ์เป็นพ่อของกษัตริย์อีกทีครับ คือจักรพรรดิ์มีลูกหลายคน ก็จะแบ่งเมืองไปให้ลูกแต่ละคนไปครองเป็นกษัตริย์ประจำเมืองนั้นๆ ไปๆ มาๆ นานวันเค้าก็กลายเป็นประเทศราชแยกออกมาต่างหาก ฉะนั้น ถ้าพูดกันจริงๆ ก็ต้องบอกจักรพรรดิ์ยิ่งใหญ่กว่าแน่นอนเพราะเป็นต้นเหง้าของกษัตริย์ จากคุณ : คนรู้จริง - [ 22 ต.ค. 49 20:44:48 A:58.9.80.212 X: TicketID:127046 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอ่อ ....... จริงหรือ? จากคุณ : จะทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี (WeeN the Listener) - [ 22 ต.ค. 49 21:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คิดว่า จักรพรรดิ์  >>  ต้องมีการเผยแผ่อำนาจไปในบ้านอื่นเมืองอื่นด้วยและต้องมีจำนวนมากพอสมควร   เช่นไปตีประเทศข้างเคียงเอาเป็นเมืองขึ้น  และไม่ใช่ตีแค่เฉพาะรอบๆประเทศตัวเองแต่ต้องรุกคืบไปค่อนข้างกว้างหน่อย   แสดงให้เห็นว่ามีอำนาจ   บารมี   เมืองขึ้นมากมาย  เช่นอเล็กซานเดอร์มหาราชหรือจิ๋นซีฮ่องแต้   กษัตรย์  >>>  อาจจะเป็นพระราชา  สืบอำนาจต่อจากกษัตริย์องค์เดิม  มีอำนาจปกครองเฉพาะแคว้นหรือประเทศตัวเองเท่านั้น   ไม่ค่อยได้รุกรานประเทศอื่น  มีอำนาจไม่เยอะเท่าจักรพรรดิ์ จากคุณ : wiseman - [ 22 ต.ค. 49 22:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่มั้ง ไม่งั้นตอนนี้ญี่ปุ่นทำไมยังใช้คำว่าจักรพรรดิ์ละครับ ไปแอบตีเมืองชาวบ้านเมื่อไรครับ ผมว่าสองคำนี้เหมือนกันครับ จากคุณ : kjingjo - [ 22 ต.ค. 49 23:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ญี่ปุ่นที่ใช้คำว่าจักรพรรดิ์ รู้สึกจะเป็นการแปลมาจากภาษาของญี่ปุ่นเองครับ ถอดความจากภาษาญี่ปุ่นได้ว่า "Emperor" พอแปลมาเป็นไทย จึงใช้ว่าจักรพรรดิ์ ส่วน คห.3 น่าจะถูกกว่าของผมในคห. 1 ของผมมั่วแน่นอนครับ จากคุณ : คนรู้ไม่จริง - [ 22 ต.ค. 49 23:39:27 A:58.9.78.37 X: TicketID:127046 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อืม ถ้าเป็นแบบ คห. 1 บอก ทำไม ควีนอังกฤษ ถึงไม่ใช่จักรพรรดินีหละครับ ก็ในเมือยังมีเมืองขี้นอังกฤษอยู่อีกหลายประเทศนะ จากคุณ : คุณก้อง - [ วันปิยมหาราช 00:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จะเอาจักรพรรดิ์คติไหนล่ะ พระเจ้าจักรพรรดิ์ตามแบบไตรภูมิก็ต้องมีช้างแก้ว ม้าแก้ว นางแก้ว ขุนพลแก้ว ฯลฯ กอรปด้วยพระกฤษดาภินิหารหลายประการ แต่สรุปแล้ว พระจักรรพรรดิ์ คือกษัตริย์เหนือกษัตริย์นั่นเอง จากคุณ : cybrarian - [ วันปิยมหาราช 02:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผู้ด้อยขออนุญาตแสดงความคิดเห็นครับ .......................................................................... จักรพรรดิ ทรงเป็น KING OF KING กล่าวคือ ทรงเป็นราชา อยู่เหนือราชา พูดง่ายๆ คือทรงปกครองราชาอีกที ในที่นี้ อยากให้มองเป็นเรื่องของ เกียรติภูมิของพระองค์ครับ เช่น จักรพรรดิ ทรงแต่งตั้งกษัตริย์ หรือเจ้าชาย หรือเชื้อพระวงศ์ ปกครองแว่นแคว้นต่างๆ (คือให้คนอื่น นั่งบัลลังก์ ในแว่นแคว้นนั้น ) ส่วนพระองค์ ก็ปกครองโดยนั่งบัลลังก์จักรพรรดิอีกทีหนึ่ง อาจกล่าวลักษณะของการปกครองแบบจักรวรรดิได้ว่า ในจักรวรรดิ มีรัฐอยู่หลายรัฐ มีกษัตริย์ หรือผู้ปกครองดินแดนอื่นๆ หลายพระองค์ พระจักรพรรดิ ทรงปกครองจักรวรรดิอีกที ทำนอง ว่า ใน1จักรวรรดิ มีหลายบัลลังก์ นั่นเอง เพื่อให้สมกับเกียรติภูมิ ที่ทรงเป็น KING OF KING จากนั้น จักรพรรดิจะทรงตั้งราชา ไปนั่งบัลลังก์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น หวงตี้ (จักรพรรดิ) ของจีน ทรงปกครองอาณาจักรของพระองค์ ในอาณาจักรของพระองค์ยังมี อ๋อง (ราชา) อีกหลายองค์ ซึ่งหวงตี้ จะตั้ง หรือถอดถอนได้ตามอำเภอใจทั้งสิ้น หรือ ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุด จักรพรรดินโปเลียน ที่ทรงมีอำนาจ แต่งตั้งกษัตริย์แห่งเนเปิล เจ้าชายแห่งคานิโน กษัตริย์แห่งฮอลแลนด์ กษัตริย์แห่งเวสฟาเรีย กษัตริย์แห่งอิตาลี กาตริย์แห่งบาวาเรีย กษัตริย์แห่งวุทเทมเบิร์ก  และ เจ้าชายแห่งบาเดน นอกจากนั้นยังปกครอง ฮอลแลนด์ เจนัว สวิส ในฐานะ รัฐบริวาร ปกครองหลุยเซียน่า ในฐานะอาณานิคม และยังกำกับดูแลสมาพันแห่งลุ่มน้ำไรน์ อีกด้วย ส่วนญี่ปุ่นนั้น แต่เดิมมา มีการปกครองในลักษณะเจ้าเกาะ เจ้าถ้ำ หัวหน้าเผ่า ฯลฯ ซึ่งสมเด็จพระจักรพรรดิ ทรงปกครองอยู่เหนือผู้ปกครองเหล่านั้นอีกที ประกอบกับได้รับอิทธิพลในเรื่องของรูปแบบการปกครองมาจากจีนพอสมควร จึงอนุโลมเรียกตามว่า จักรพรรดิ สำหรับการปกครองโดยกษัตริย์ (KING) ตามความเห็นของผมนั้นไม่ได้เล็กกว่าหรือต่ำต้อยกว่าจักรพรรดิไปเสียทุกที่ (อย่างพี่บอกไปแล้วว่า เป็นเรื่องของเกียรติภูมิ)แต่การปกครองโดยระบบกษัตริย์ มักถือเอาแบบ ONE RULE , ONE KING   นี่จึงเป็นคำตอบว่า ทำไมอังกฤษ จึงมี KING ปกครอง แทนที่จะเป็น EMPEROR เพราะถือว่ากษัตริย์อังกฤษ ทรงเป็น กษัตริย์ แห่งบัลลังก์อื่นด้วย คือแม้จะมีหลายบัลลังก์ แต่ทรงนั่งบัลลังก์เหล่านั้นเสียเอง เช่น ทรงเป็นราชินีแห่งอังกฤษ ในขณะเดียวกัน ก็ทรงเป็นราชินีแห่งออสเตรเลีย อีกด้วย จากคุณ : จะทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี (WeeN the Listener) - [ วันปิยมหาราช 02:15:45 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลองหากระทู้เก่าดูนะครับ เคยตอบไปแล้ว จากคุณ : ErShiYi - [ วันปิยมหาราช 10:35:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ในภาษาอังกฤษและภาษาอื่นที่ภาษาอังกฤษนำมาใช้ มีคำเรียกต่าง ๆ กันและมีที่มาต่าง ๆ กัน เช่น king, emperor, caesar, tsar, kaiser, shah และมีที่มาต่าง ๆ กัน ระหว่างคำว่า king กับ emperor ตามความรู้สึกจะเห็นว่า emperor มีพระอิสริยยศสูงกว่า ดังจะเห็นได้ว่า พระบรมราชินีนารถวิคตอเรียของอังกฤษทรงน้อยพระทัยว่าพระญาติของพระองค์ที่เป็นเจ้าประเทศอืน ๆ เช่นเยอร์มัน และ รัสเซีย ต่างมีคำนำหน้าพระนามว่าพระนามว่า emperor (kaiser และ czar) นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เบนจามิน ดิสราเอลิ จึงทำพิธีฉลองถวายพระอิสริยยศว่า Empress of India เมื่อปี ค.ศ. 1877 นับแต่นั้มา พระเจ้าแผ่นดินของสหราชอาณาจักรจึงมีพระยศเป็น Emperor of India ด้วยจนสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1947 ในรัชสมัยพระเจ้ายอร์จที่ 6 เมื่ออินเดียเป็นเอกราชและประกาศเป็นสาธารณรัฐเมื่อปี 1949 ดูรายละเอียด Queen of England Titled Empress of India http://www.indhistory.com/queen-of-england.html The title Empress of India was given to Queen Victoria in 1877 when India was formally incorporated intothe British Empire. It is said Victoria's desire for such a title was motivated partially out of jealousy of the Imperial titles of some of her royal cousins in Germany and Russia. Prime minister Benjamin Disraeli is usually credited with having given her the idea. When Victoria died and her son Edward VII ascended the throne, his title became Emperor of India. The title continued until India became independent from the United Kingdom in 1947. When a male monarch held the title, his Queen consort assumed the title Queen Empress, but unlike Queen Victoria, they themselves were not reigning monarchs but the consorts of reigning monarchs. Emperors and Empresses of India Queen-Empress Victoria (1877-1901) King-Emperor Edward VII (1901-1910) King-Emperor George V (1910-1936) King-Emperor Edward VIII (Jan-Dec 1936) King-Emperor George VI (1936-1947) George VI continued to reign asKing of India for two years during the viceroyalty and then the short governor- generalships of The Earl Mountbatten of Burma and of Rajagopalachari after which in 1949 India became a republic. George VI remained as King of the United Kingdom until his death in 1952. Royal Consorts also were called Queen-Empress. This list of Queen-Empress Consorts is Queen Empress Alexandra (wife of Edward VII) Queen Empress Mary (wife of George V) Queen Empress Elizabeth (wife of George VI, and mother of current sovereign Elizabeth II) When signing their name for Indian business, a King-Emperor or Queen-Empress used the initials 'R I' (Rex/Regina Imperator) after their name. จากคุณ : * - [ วันปิยมหาราช 10:56:58 A:58.9.200.219 X: TicketID:105682 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กษัตริย์ 2 พยางค์ จักรพรรดิ 3 พยางค์ คนอื่นตอบไปแล้วครับ จากคุณ : รัชมังค์_01 - [ วันปิยมหาราช 14:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคูณครับ จากคุณ : หมาป่าดำ (หมาป่าดำ) - [ วันปิยมหาราช 19:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เพิ่มเติมนะครับ กษัตริย์ หรือ ขัตติยะ ตามรูปศัพท์หมายถึง ผู้ครอบครองที่ดิน หรือไร่นา (เกษตร, เขต)  ที่ใช้กันบ่อยๆและค่อนข้างจะตรงก็คือคำว่า พระเจ้าแผ่นดิน ส่วน จักรพรรดิ หรือ หมายถึงผู้ที่ ทำให้ล้อ หรือจักรหมุนไป ซึ่งหมายถึงการรบแผ่ขยายอำนาจไปยังดินแดนต่างๆครับ ต่อในภายหลัง ถึงได้มีการเทียบเคียงให้เข้ากับศัพท์ภาษาอังกฤษ ดังเช่น King = กษัตริย์   Kingdom = ราชอาณาจักร Emperor = จักรพรรดิ Empire = จักรวรรดิ จากคุณ : Parky - [ 24 ต.ค. 49 00:51:36 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จักรพรรดิในคติราชอาณาจักรคงต้องเป็นที่ยอมรับว่าเหนือกว่ากษัตริย์ในภูมิภาคนั้นจริงๆ เช่น หวงซื่อหวางตี้ที่ปราบกษัตริย์ (หวาง และ ตี้) ในหลายๆ อาณาจักรในภูมิภาคจงหัวลงได้ รวมทั้งกษ้ตริย์ในแว่นแคว้นนอกด่านได้ จึงบัญญัติคำว่า ฮ่องเต้ หรือหวางตี้ว่าเป็นตำแหน่งที่เหนือกว่าหวางและตี้ ในภูมิภาคนี้ หากไทยจะตั้งตัวเป็นจักรพรรดิก็ต้องยอมรับว่า ตนเองก็ต้องเหนือกว่ากษัตริย์อื่นในภูมิภาคเดียวกัน เพราะจักรพรรดิต้องมีอำนาจเหนือกษัตริย์อื่นทั้งในคติของการปกครอง และศาสนา การยอมรับอำนาจของกษัตริย์องค์หนึ่งในระยะเวลาหนึ่งในฐานะประเทศราช ไม่ได้หมายความว่าดินแดนของตนเองถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรนั้นด้วย ตัวอย่างก็มีให้เห็นเมื่อกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาสถาปนาตนเองเป็นสมเด็จพระมหาจักรพรรดินั้น แม้ว่าอำนาจอาจได้รับการยอมรับจากแคว้นเล็กๆ รอบกรุงศรีฯ แต่ทางราชสำนักตองอูกลับยอมไม่ได้ จึงต้องมาพิสูจน์ว่าเก๋าจริงๆ หรือเปล่า และตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่ปรากฎว่ามีพระมหากษัตริย์องค์ไหนใช้พระนามว่า พระจักรพรรดิอีก ส่วนญี่ปุ่นนั้น อาจจะไม่ได้ถือว่ากษัตริย์ตนเองยิ่งใหญ่อะไรหรอกครับ แต่ใช้คำว่า เทนโน ซึ่งยืมมาจากเทียนจื่อหรือโอรสสวรรค์ เมื่อฝรั่งไม่รู้ว่าจะแปลคำว่า หวางตี้ หรือ ฮ่องเต้ ว่าอะไรดี แต่เมื่อไปเห็นว่า ฮ่องเต้ มีอำนาจในการแต่งตั้งหวางได้ เช่น ฉีหวาง ฉินหวาง ก็เหมาเอาเองว่าฮ่องเต้มีอำนาจเหนือกษัตริย์ในแคว้นอื่นๆ เลยไปใช้คำว่า emperor แทน เพราะ king ถูกใช้กับคำว่าหวางแทน และเมื่องเทียบกับการที่จีนเรียกเจ้าประเทศอื่นว่า หวางด้วยแล้ว เลยถือว่าฮ่องเต้เทียบได้กับจักรพรรดิแทน ดังนั้นเมื่อญีปุ่นจะแทนคำว่าเทนโนก็ต้องใช้คำแปลแบบเดียวกับจีนด้วย จากคุณ : เอย์ซอรัส - [ 25 ต.ค. 49 01:01:13 A:58.64.104.8 X: TicketID:122346 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่า14# สั้นๆแต่เคลียร์ที่สุดแล้ว จากคุณ : รังแคน้อย - [ 25 ต.ค. 49 18:25:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ่านๆมา อดไม่ได้ เลยขอเพิ่มเติมเกร็ดประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องนี้นิดนึงนะครับ ในพระราชวงศ์ยุโรปก็มีการเรียกพระประมุขที่แตกต่างกันออกไป บางประเทศใช้ King/Queen เช่น อังกฤษ สวีเดน เดนมาร์ก เป็นต้น บางประเทศเป็น Emperor/Empress เช่น รัสเซีย ปรัสเซีย ออสเตรีย-ฮังการี และอย่างที่บอกไปกันว่าจะทรงอภิเษกกันเองในหมู่พระราชวงศ์ยุโรป ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือในสมัยสมเด็จพระนางเจ้าวิคทอเรีย และมีครั้งหนึ่งที่เจ้าฟ้าชายอัลเฟรด พระราชโอรสองค์ของพระนางได้อภิเษกกับ แกรนด์ดัชเชสมารีแห่งรัสเซีย ซึ่งต่อมาภายหลังแกรนด์ดัชเชสทรงรู้สึกว่าทรงถูกลดพระราชอิสริยยศลงมา ขออธิบายหน่อยนะครับ Grand Duchess เป็นฐานันดรของพระธิดาในพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นจักรวรรดิ Empirerจึงใช้คำนำหน้าพระนามว่า H.I.H. Her Imperial Highness แต่เมื่อทรงมาอภิเษกกับเจ้าฟ้าชายแห่งอังกฤษซึ่งเป็นราชอาณาจักร Kingdom มีคำนำหน้าพระนามว่า H.R.H His Royal Highness แกรนด์ดัชเชสจึงต้องเลปี่ยนมาใช้ H.R.H. ตามพระสวามี และในยุโรปสมัยนั้นก็เป็นความรู้สึกธรรมดาๆว่า Empire มีฐานะใหญ่กว่า Kingdom จึงทรงไม่พอพระทัย รู้สึกว่าทรงถูกลดฐานันดร จึงทรงร้องเรียนไปยังพระราชบิดา ควีนวิคทอเรียทรงรู้สึกไม่พอพระทัยอยู่ลึกๆ เพราะเหมือนทรงถูกดูหมิ่นเกียรติ แต่เนื่องด้วยตอนนั้นรัสเซียมีอิทธิพลมากพอสมควรจึงทรงไม่อยากขัดใจมากมาย จึงยอมที่จะให้พระสุณิสาพระองค์นี้ใช้คำนำหน้าพระนามทั้ง Imperial และ Royal ได้ แต่ต้องในฐานะที่ Royal นำหน้า Imperial ดังนั้นในทางการ แกรนด์ดัชเชสมารี จึงทรงมีพระนามว่า H.R.I.H. Her Royal Imperial Highness และในภายหลังควีนวิคทอเรียก็สถาปนาพระองค์เป็นจักรพรรดินีแห่งอินเดีย จึงทรงมีสิทธิใช้ฐานันดร Royal Imperial ด้วยเช่นกัน ที่เล่าๆมาก็คือ ในหมู่พระราชวงศ์เองก็มีขัตติยะมานะในฐานะแห่งศักดิ์และศรีในความเป็นจักรพรรดิ หรือ พระมหากษัตรย์ของตน ไม่ยอมลงให้แก่กันและกันนะครับ จากคุณ : Cableski - [ 9 พ.ย. 49 01:45:12 ]