ความคิดเห็นที่ 1 คนเยอะกว่า แต่ใครจะไปสู้คนมีอาวุธล่ะครับ เหมือนตอนอังกฤษยึดอินเดียนั่นแหละครับ คนอินเดียมีมากกว่าคนทั้งเกาะอังกฤษไม่รู้จะกี่เท่า แต่คนอินเดียที่ว่าเยอะน่ะ มือเปล่า ใครจะไปสู้กับปืนอังกฤษล่ะครับ หรือตอนฮิตเลอร์สั่งสังหารหมู่ยิวน่ะครับ ชาวยิวที่ตายในแต่ละค่าย ก็มากกว่าทหารที่คุมทั้งนั้นแหละครับ จากคุณ : ชาเขียว - [ 16 พ.ย. 49 23:53:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ในหนังมังกรหยกตอนนั้นจีนหรือชาวฮั่นมีฮ่องเต้ราชวงศ์ซ้องหรือซ่ง ก๊วยเจ๋ง ไปอยู่มองโกลตอนนั้นมีผู้นำคือเตมูจินหรือเจงกิสข่าน ส่วนเอียคังไปอยู่กับพวกกิมนับถือองค์ชายเมืองกิมเป็นพ่อ นั้นเป็นนิยายที่แต่งขึ้นให้สอดคล้องหรืออิงประวัติศาสตร์ ที่สนุกดี ต่อไปเป็น ประวัติราชวงศ์ซ้อง/ซ่ง (พ.ศ. ๑๕๐๓-๑๘๒๒) จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี นะครับ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B8%8B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87 ไปอ่านเองนะครับ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 49 04:40:52 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 49 04:40:16 จากคุณ : Nenko - [ 17 พ.ย. 49 00:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณชาเขียวครับ มองโกลมีอาวุธ แล้วชาวจีนฮั่นไม่มีอาวุธเหรอครับ ผมว่าชาวจีนฮั่นก็คงจะมีอาวุธเหมือนกันนั่นแหละครับ แต่เท่าที่อ่านจากประวัติศาสตร์ เค้าบอกว่าพวกมองโกลจะเป็นนักรบที่เก่งฉกาจมาก เชี่ยวชาญในการรบ และยุทธวิธีในการสู้รบ มีทั้งเล่ห์กลในการหลอกทัพของข้าศึกให้หลงกลเข้าไปติดกับดักแล้วก็จะตีวงโอบเข้ามาเหมือนด้ามคีม มีทั้งกลยุทธ์ที่ทำเหมือนกับว่ากำลังจะเพลี่ยงพล้ำเสียที แล้วหลอกให้ข้าศึกตายใจ สารพัดกลวิธีมากมาย ร้อยเล่ห์เพทุบายจริงๆ แถมยังวางไส้ศึกหนอนบ่อนไส้ไว้ภายในข้าศึกอีกด้วย และก็ยังมีธนูทีทั้งใหญ่และยาวที่ยิงได้ไกลกว่าธนูยาวของพวกอังกฤษเสียอีก อยู่บนหลังม้าแทบจะตลอดชีวิตได้มั้ง เรียกว่าขี่ม้าไป ยิงธนูไป ก็แม่นยังกับจับวาง จากคุณ : ... - [ 17 พ.ย. 49 00:53:54 A:58.9.83.5 X: TicketID:127046 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มองโกลและชาวแมนจุ(เชื้อสายเดียวกัน) จะเชี่ยวชาญในการรบมากกว่า อีกทั้งชาวฮั่นอยู่ในพื้นที่อุดมสมบูรณ์มากจึงทำให้อ่อนแอและรักสบาย แต่ชาวมองโกลและชาวแมนจูอยู่ในเขตที่ต้องสู้ชีวิตมากกว่าจึงทำให้ต้องปากกัดตีนถีบสู้ชีวิต ความกร้านแกร่งก็ต้องมีมากกว่าอยู่แล้ว จริงไหมคะ จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 17 พ.ย. 49 08:05:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขาดผู้นำทัพที่ดี ที่จะรวบรวมพล มาทำหน้าที่เดียวกันได้ ต่างคนต่างคิดแต่จะเอาตัวรอด กอิบโกย เป็นใหญ่ แข่งขันกัน มองโกล ร่างกายแข๊งแรง ขี่ม้าเก่งมาก ธนูที่ดีที่สุดในยุคนั้น จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 17 พ.ย. 49 09:06:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ก็คล้าย ๆ พวกบาร์บาเรี่ยน  ตีโรมได้อะครับ ทั้งที่กองทัพโรม ถือว่ามีระบบเยี่ยมสุด จากคุณ : Elshaddai - [ 17 พ.ย. 49 09:54:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจสภาพการเมืองช่วงนั้นก่อนนะคะ คำว่าราชวงศ์ซ่งเนี่ย มันไม่ได้กินทั้งประเทศนะคะ ช่วงนั้นเอง จีนก็มีราชวงศ์ย่อยๆ ควบคู่กันไปด้วย  ประเทศจึงไม่เข้มแข็ง ข้าราชการคดโกง ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบ จึงไม่แปลกที่จะถูกชาวมองโกลที่ตอนนั้นเข้มแข็งกว่า หมายปอง ส่วนคำถามที่ว่า คนฮั่นตั้งเยอะทำไมถึงแพ้ ลองคิดดูเล่นๆ ตอนที่อยุธยาเสียกรุง คนไทยต้องเยอะกว่ากองทัพพม่าที่ยกมา แต่ทำไมเราถึงแพ้ล่ะคะ ก็เพราะพม่ายึดอยุธยาได้ ก็เหมือนกันค่ะ เจงกิสข่าน สามารถยึดเมืองหลวงของซ่งได้ ก็เท่ากับว่า สามารถยึดแผ่นดินทั้งหมดได้เช่นกัน แต่เพราะคนส่วนใหญ่เป็นจีนฮั่นนี่แหละค่ะ ทำให้ไม่สามารถยอมรับคนต่างชาติต่างเผ่าที่มาปกครองด้วยความรุนแรงและไม่ทัดเทียมกันได้ สุดท้ายจึงเกิดผู้นำอย่าง จูหยวนจาง เข้ามากอบกู้ ตั้งราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองด้วยชาวจีนฮั่นได้ในที่สุดค่ะ จากคุณ : ปิรันย่าน้อย (feizhu) - [ 17 พ.ย. 49 10:34:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คำตอบง่ายๆคือ ขาดความสามัคคี ตัวใครตัวมัน ข้ารอดเป็นพอคนอื่นช่างหัวมัน คนที่สู้ก็สู้ไป ไม่เกี่ยวกับข้า เหตุการณ์ตอนมองโกลยึดราชวงศ์ซ่งกับ แมนจูเข้าด่านค่อนข้างจะต่างกันครับ ตอนมองโกลบุกนั้น ราชวงศ์ซ่งยังมีตัวมีตนถูกต้องตามหลักเกณฑ์ แต่ขุนนางราชวงศ์ซ่งรักตัวกลัวตาย จักรพรรดิโง่เขลาหลงเชื่อขุนนางเลว ชาวบ้านเสื่อมศรัทธา กองทัพวินัยหย่อนยาน แพ้ก็ไม่แปลก แต่ตอนแมนจูเข้าด่าน ราชวงศ์หมิงได้ล่มลงอย่างเป็นทางการไปแล้วด้วยกบฎชาวนาของหลี่จื้อเฉิง ภาคเหนือกลายเป็สุญญษกาศทางอำนาจที่ไม่มีขื่อมีแป ชาวแมนจูพอเข้าด่านรบชนะหลี่จื้อเฉิงที่กำหลังหลงระเริงได้ไม่ยากนักและยึดครองภาคเหนือย่างรวดเร็ว ส่วนภาคใต้ก็เหลือแต่พวกกากเดนอย่าง ฟู่อ๋องที่นานกิง ที่ตั้งตัวขึ้นเป็นจักรพรรดิเองดื้อๆ แต่ชาวบ้านเกลียดชังฟู่อ๋องที่ปกครองอย่างทรราช พอกองทัพแมนจูบุกมา ก็หนีตายถูกตีเมืองแตก หลังจากนั้กน็มีจักรพรรดิหมิงที่ฟูเจี้ยน ที่หยูนนาน แต่เป็นพวกตั้งตัวขึ้นมาเองทั้งนั้น ชาวบ้านศรัทธาบ้างไม่ศรัทธาบ้าง ราชวงศ์หมิงที่จัดตั้งขึ้นมาจึงเป็นได้แค่สัญลักษณ์แห่งความหายนะเท่านั้น ชาวบ้านเบื่อราชวงศ์หมิงที่เหลวแหลกมาตั้งร้อยกว่าปีแล้ว ดูได้จากกบฎชาวนาของหลี่จื้อเฉิงที่รบแค่ไม่นานก็หาพรรคพวกได้เป็นล้าน พอแมนจูเข้าด่านมา แรกๆก็ทำทารุณโหดร้าย แต่ตอนหลังเริ่มดำเนินนโยบายที่ผ่อนปรนขึ้น ขุนนางตงฉินดีๆหลายคนก็หันไปสวามิภักดิราชสำนักชิง ทำให้ชาวบ้านผมจำนนไปด้วย จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 17 พ.ย. 49 12:39:07 ]

ความคิดเห็นที่ 9 งั้นลองมาฟังเรื่องที่เพื่อนชาวอินเดียของผมเล่าถึงตอนที่อังกฤษยึดอินเดียได้ กองทัพอังกฤษเดินทัพมา 5,000 คน มีปืนใหญ่ปืนเล็ก(ที่ยิงได้ทีละนัด)พร้อมสรรพ กองทัพมหาราชายกพลออกมารับ มีทหาร 20,000 พร้อมช้างม้า แต่ไม่มีปืนก็เสียเปรียบอังกฤษอยู่ กองทัพทั้งสองมาเจอกันที่ทุ่งราบระหว่างเนินเขาสองลูก ที่น่าสนใจก็คือบนเนินเขานั้นมีผู้ชมคือชาวเมืองนั้นแหละมาชมการรบครั้งนี้ประมาณ 60,000 คน ผลของการรบก็คืออังกฤษชนะไป ชาวเมืองที่ดูอยู่เห็นผลดังนั้นก็ทยอยกันกลับเข้าเมืองไปทำงานต่อ มีชาวเมืองคนนึงวิ่งลงมาถามทหารอังกฤษว่า กษัตริย์ของพวกท่านชื่ออะไรหรือ เขาจะได้เอาไปบอกต่อถูกว่าเมืองนี้มีกษัตริย์ใหม่แล้ว ต้องเข้าใจการเมืองในช่วงนั้นว่าไม่มีประเทศนะครับ มีแต่เจ้าที่ปกครอง (ทางเอเซียล่ะนะ ทางตะวันตกตอนนั้นเป็นประเทศแล้ว) สงครามจึงเป็นสงครามระหว่างผู้ปกครอง อินเดียนี่เป็นกรณีสุดขั้วคือระบบสังคมแบบชั้นวรรณะยิ่งเสริมเรื่องนี้ การปกครองเป็นเรื่องของวรรณะกษัตริย์ คนวรรณะอื่นก็ไม่สนใจหรอกว่าเจ้าของเขาจะชื่อราชารามหุลหรือควีนวิคตอเรีย จากคุณ : HotChoc - [ 17 พ.ย. 49 14:36:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มีคนร้อยล้านก็ใช่ว่าจะเข้าสนามรบได้ทั้งร้อยล้านพร้อมกัน มองโกลเหนือกว่าในเรื่อง ระบบส่งกำลังบำรุง ความสามารถเฉพาะตัว(เพราะเป็นทหารอาชีพกันทั้งเผ่า) ความเร็วในการเดินทัพ จากคุณ : Nexus - [ 17 พ.ย. 49 15:51:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คคห.คุณ HotChoc ชัดเจนและตอบคำถามของจขกท.ได้ตรงความเป็นจริงครับ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 17 พ.ย. 49 16:18:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มองโกลในยุคนั้นฉลาดนะครับ ไม่ใช่มีแต่พวกถึกใช้แต่กำลังอย่างเดียว เพราะก่อนที่มองโกลจะรบกับใคร จะต้องมีการศึกษาทุกอย่างเกี่ยวกับเป้าหมายก่อน ไม่ว่า การเมือง ศิลปะวัฒนธรรม วิถีชีวิต ฯลฯ จากคุณ : Roh_Z - [ 17 พ.ย. 49 18:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มองโกลและแมนจู มีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก ทั้งหนาวจัดและแห้งแล้ง ซึ่งต่างจากฮั่นทางใต้ที่อยู่อยากสบายกว่า ด้วยวิถีชิวิตต้องปากกัดติงถีบ จึงมีความฮึกเหิมอยู่ภายใน อยู่แล้ว ไม่ใช่เพียงแต่แผ่นดินจีนเท่านั้น มองโกลตีได้ไปยุโรปตะวันออก ในยุคของเจงกิสข่าน เป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ยุคของกุบไลข่านผู้เป็นหลานได้สถาปนาตนปกครองจีน  เคยดูสารคดีมีการวิเคราะห์ด้วยว่าเหตุใดกองทัพเร่ร่อนอย่างมองโกลสามารถเอาชนะกองทัพอาณาจักรอื่นได้ วิเคราะห์ไปถึงชุดที่นุ่งห่มโดยใช้ผ้าไหม ซึ่งมีความเหนียวทนทานกว่าผ้าชนิดอื่น สวมใส่ในการออกรบและธนูของมองโกล ทำจากต้นไม้ที่ขึ้นเฉพาะในมองโกลเลีย มีความพิเศษ ทำให้ยิงได้ไกลมาก คือสามารถกำจัดฝ่ายตรงข้ามได้ก่อนจะเข้าถึงตัว ทำให้ฝ่ายตรงข้ามสูญเสียกำลังก่อนเสมอ จากคุณ : Viengวิไล - [ 17 พ.ย. 49 21:27:44 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สมัยราชวงศ์ชิงปกครอง พวกแนวคิดกู้ชาติก็มีมากครับ จำนวนไม่น้อย เป็นพวกบัณฑิตหน้าขาวที่ดีแต่ปาก พร่ำเพ้อ แต่ไม่ทำอะไรจริงจัง บางพวกก็ทำเอาหน้าและผลประโยชน์ ไม่มีแนวคิดที่จะกู้ชาติที่แท้จริง มันก็เลยเหลวไม่เป็นท่า จากคุณ : digimontamer - [ 17 พ.ย. 49 21:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ Nenko  ครับข้อมูลจากวิกิพีเดียที่คุณก๊อปมามันผิดนะครับ งักฮุยเป็นขุนพลในราชวงค์ซ้องใต้กฮุยรบไคฟงแตกให้ทัพจินไปแล้วครับข้อมูลมันหลงยุค ตอนที่งักฮุยซึ่งเป็นขุนพลที่มีบทบาทในการรบกับทัพจินเพื่อเอาพื้นที่ในส่วนภาคเหนือที่โดนยึดไปคืนมา แต่ไม่สำเร็จเพราะถูกฉินไคว้ใส่ร้ายก่อน และซ่งเกาจงฮ้องเต้องค์แรกของซ่งใต้ก็กลัวว่าถ้างักฮุยชนะชาวจินได้จะนำซ่งฮุยจงที่ตกเป็นเฉลยกลับมาเป็นฮ้องเต้แทน และตอนที่ไคฟงแตกเป็นการสิ้นสุดซ้องเหนือนั้นทัพซ่งสู้ไม่ได้เลยแตกอย่างง่ายดาย ข้อมูลจากวิกีพีเดียบางอย่างก็ออกแนวมั่วนะครับ ต้องอ่านหลายๆที่ สรุป ซ่งใต้แพ้มองโกลเพราะสู้ไม่ได้ ตอนนั้นใครเจอมองโกลก็เสร็จหมด มองโกลมันตีไปถึงยุโรปตะวันออกนู้น ถ้าเจงกิสขานอยู๋ได้อีก 20 ปีดีไม่ดีทั้งยุโรปเสร็จมองโกลแน่ๆ ทัพซ่งใต้ถือว่าเป็นทัพที่ยื้อกันมองโกลได้นานที่สุดแล้ว ส่วนที่หมิงแพ้ชิงเพราะพิษภายในอย่างเดียว ตอนที่ชิงบุก ราชสำนักหมิงโดนกบฏชาวฮั่นบุกไปก่อนแล้วฮ่องเต้แขวนคอตาย อู๋ซานกุ้ยก็แปรพักเปิดด่านอีก ทัยแทนจูเลยเข้ามาแบบสบายๆเลย จากคุณ : Mr.Patriot - [ 17 พ.ย. 49 23:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 16 การกู้ชาตินี่ก็ต้องคุยกันก่อนว่า"ชาติ"ที่เขาจะกู้นี่หมายถึงอะไร เช่นตอนที่อินเดียมีกบฏซิปอยก็มีคนบอกว่าจะเป็นการกู้ชาติอินเดียจากอังกฤษ แต่ก็มีคนที่ค้านว่าไม่ใช่ เพราะกบฏเป็นพวกทหารจากมณฑลเบงกอลเท่านั้น อังกฤษยังเอาทหารจากมณฑลอื่นเช่นมาดราสมารบได้เลย เจ้าอินเดียในรัฐอื่นๆก็ไม่เล่นด้วย ทีนี้การต้านชิงกู้หมิงนี่เป็นความต้องการเปลี่ยนตัวเจ้าเฉยๆหรือเปล่า ผู้กระทำการคือกลุ่มศักดินาเดิมที่เสียผลประโยชน์หรือเปล่า อาจจะเป็นการช่วงชิงอำนาจกลับมาเฉยๆก็ได้ พวกบัณฑิตอาจจะเรียนรู้สูงทำให้มีสำนึกความเป็นชาติมากกว่าคนอื่น แต่ประชาชนธรรมดาไม่สนใจเท่าไหร่ก็เพราะอยู่ได้สบายดี เจ้าจะเป็นใครก็ไม่สน พวกเราเติบโตมาในสังคมที่มีชาติแล้ว อาจจะจินตนาการลำบากว่าการไม่มีชาตินี่เป็นยังไง แต่จริงๆแล้วแนวคิดเรื่องชาตินั้นยังค่อนข้างใหม่ เยอรมันรวมชาติกันปี 1871 ยังไม่ครบ 200 ปีเลย อิตาลียิ่งช้ากว่านั้น อเมริกาประกาศอิสรภาพจากอังกฤษไป แต่เกือบรวมเป็นชาติกันไม่ได้นะครับ ตอนแรกจะแยกกันอยู่โคโลนีใครโคโลนีมัน ตอนสงครามปี 1812 รัฐนิวอิงแลนด์ไม่เห็นด้วย เกือบจะแยกตัวไปอยู่แล้ว จากคุณ : HotChoc - [ 18 พ.ย. 49 00:20:28 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ก็มีส่วนถูก ที่ชาวบ้านทั่วๆไป ไม่ค่อยสนใจว่า ใครคือจักรพรรดิ ราชวงศ์อะไรปกครอง เพราะแค่ปัญหาที่ต้องเผชิญทุกวันว่า ปีนี้ฝนจะแล้งน้ำจะท่วมไหม จะเก็บเกี่ยวได้ผลดีพอเสียภาษีและจ่ายค่าเช่าที่หรือเปล่า พรุ่งนี้จะเอาอะไรยาไส้กัน คงไม่ค่อยจะมีใครพอจะไปคิดถึงหรอกครับว่าจักรพรรดิหน้าตาเป็นอย่างไร ที่ลุกขึ้นมาโค่นล้มผู้ปกครองนั้นก็มาจากการถูกดขี่จนทนไม่ด้ จึงจับอาวุธขึ้นสู้ ซึ่งพวกไม่มีอุดมการณ์แค่สู้ไปวันๆก็กลายเป็นแค่ทัพโจรป่า พวกที่มีหัวหน้าที่มีอุดมการณ์และก่อการสำเร็จก็กลายเป็นเจ้า กลุ่มต้านชิงกู้หมิงนั้น ก็มีมาเป็นระยะๆนั่นแลครับ ช่วงแรกๆก็มาจากเหล่าขุนนางหรือเชื้อพระวงศ์และผู้จงรักภักดีต่อราชวงศ์หมิงเก่าต้องการฟื้นฟูราชวงศ์หมิง พอมายุคลัทธิบัวขาวช่วงรัชสมัยของเฉียนหลง ก็มาจากพวกที่ไม่พอใจการปกครองของราชวงศ์ชิง พอมาถึงยุคหลังๆ ก็กลายเป็นนโยบายต่อต้านการปกครองของต่างชาติ โดนเหมาเอาชาวแมนจูเป็นต่างชาติไปด้วยเสีย.... แต่อย่างไรก็ดี ความคิดด้านชาตินิยมนั้น ไม่ได้พึ่งก่อตัวมาไม่กี่ร้อยปีแน่ๆ เพราะแต่ละชาติก็มีประวัติศาสตร์และความภูมิใจในชนชาติของตนเอง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดในระยะเวลาแค่ 10 หรือ 20 ปีแน่นอน ดูอย่างประวัติศาสตร์จีน ที่มีกลอนหรือบทกวีที่แสดงออกถึงความรักชาติมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตัวอย่างเช่น บทกวีของ ชวีหยวน ที่มีชีวิตในสมัยชุนชิวเป็นต้น ก็ต้องบอกว่า ในสมัยโบราณนั้น ความสำนึกในการรักชาติ อาจจะจำกัดในวงของผู้ที่รู้หนังสือ หรือทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับราชสำนัก มากกว่าชาวบ้านร้านตลาดทั่วๆไป แต่ในบางยุคที่ชาวบ้านมีอุดมการรักชาติรุนแรงขึ้นเนื่องด้วยปัจจัยการถูกรุกรานหรือกดขี่จากผู้ปกครองที่เป็นชนชาติอื่นๆก็เป็นไปได้ ลัทธิชาตินิยมจะยิ่งแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อประเทศหรือดินแดนที่ติดกัน 2 แห่ง มีความแตกต่างด้านเชื้อชาติ และวัฒนธรรมมากๆ และเกิดมาปะทะกัน ซึ่งปัจจัยนี้ก็ทำให้ลัทธิชาตินิยมในยุโรปรุนแรง เพราะมีการปะทะกันบ่อยๆ สร้างความเกลียดชังฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น อย่างตอนที่พวกหนึ่เจินยึดภาคเหนือของราชวงศ์ซ่งไป ก็มีบทกวีรักชาติเกิดขึ้นใรยุคนี้มากมาย ชาวบ้านพากันวิจารณ์ราชสำนัก และด่าทอชาวหนี่เจินและกระตุ้นความรักชาติแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนหลังจากรวมราชวงศ์ซ่งสำเร็จ ส่วนเรื่องที่คุณ Hotchoc เห็นว่า ยุคศตวรรษที่ 18 นั้น เอเชียยังไม่มีประเทศ ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยนัก คือในกรณีของจักรวรรดิอ็อตโตมาน ราชวงศ์ชิง ญี่ปุ่น  เวียดนาม สยาม พม่า อันนี้ผมว่า เป็นประเทศขึ้นมาแล้วนะครับ เพราะมีสถาบันปกครอง และรูปแบบการปกครองที่แน่นอน มีเขตแดน มีองค์กรการปกครอง มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานแน่ชัดและมีการสืบทอดอำนาจต่อๆกันมา พวกที่ไม่มีประเทศ น่าจะนิยามถึงพวกชนเผ่าอะบอริจิ้นหรือพวกเมืองเล็กๆที่ตั้งกระจัดกระจายในอเมริกาเหนือเสียมากกว่า เพราะพวกนั้นมีเขตแดนที่ไม่แน่นอน ไม่มีองค์กรปกครองที่เป็นเอกภาพ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 49 01:57:07 แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 49 01:51:41 จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 18 พ.ย. 49 01:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เจงกีสข่านไม่รู้หนังสือนะครับ แต่เลี้ยง คนหลากหลายชาติ เป็นที่ปรึกษา ปรับปรุงในแต่ละด้าน สมัยกุบไลข่าน ความรักชาติ เป็นวัฒนธรรมแต่โบราณของคนจีนแล้วมั๊ง ตัวอักษร คำว่าห่าวฮั่น แปลว่าฮั่นที่ดี มีความหมายคือลูกผู้ชาย เกี่ยวรึป่าวครับ ใครรู้บอกด้วย แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 49 07:03:55 จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 18 พ.ย. 49 07:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มันก็แล้วแต่คนจะนิยามนะครับว่าชาติคืออะไรเกิดขึ้นตอนไหน ผมคิดว่าชาติเกิดขึ้นก็เมื่อคนในชาตินั้นมีสำนึกในตัวตนของชาติ คือถือว่าคนกลุ่มนี้เป็นพวกเดียวกัน โดยที่ไม่ได้เกิดในหมู่บ้านเดียวกัน ไม่ได้โตมาด้วยกัน อยู่คนละเมืองกัน แต่เป็นส่วนหนึ่งของอะไรบางอย่างร่วมกัน ผมไม่เชี่ยวชาญเรื่องจีนนัก แต่ทางยุโรปเรื่องชาตินี่พึ่งมีมาไม่นาน บางชาติอาจมีตัวตนขึ้นมาเร็วกว่าชาติอื่น เช่นอังกฤษกับเนเธอร์แลนด์เร็วกว่าเยอรมันกับอิตาลี อินเดียก็ยังมีมาไม่นาน ตอนอังกฤษยึดไปได้ยังไม่มีคอนเซ็ปเรื่องชาติแน่นอน ไทยเรียกได้เต็มปากว่าเป็นชาตินี่ผมว่าตั้งแต่ตอนที่ร.5รวมหัวเมืองต่างๆเข้ามานั่นแหละครับ เรื่องประเทศในเอเซียนี่ผมใช้คำผิดไปเองครับ ผมหมายถึงชาติแหละ ที่คุณอุ้ยยกตัวอย่างมานั่นเป็นรัฐครับ ซึ่งในยุโรปกับเอเซียมีมานานแล้ว ความภูมิใจในชาตินี่ผมมองว่าคนเราในปัจจุบันก็อาจจะเคลมย้อนหลังไปในอดีตน่ะครับ ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรเพราะชาติในปัจจุบันก็มีต้นกำเนิดมาจากรัฐในอดีต เช่นชาติไทยก็มีต้นกำเนิดมาจากรัฐอยุธยา ล้านนา และรัฐอื่นๆ คนไทยก็ภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมของรัฐต่างๆเหล่านี้ได้ หรืออิตาลีก็ภูมิใจในความสำเร็จของมิลาน ฟลอเรนซ์ เจนัว เนเปิล ได้ แต่ในอดีตรัฐต่างๆเหล่านี้ก็ไม่ได้มีความรู้สึกร่วมกันว่าเป็นพวกเดียวกัน คือยังไม่มีสำนึกของความเป็นชาติแบบปัจจุบัน เรื่องชาตินี่ยังเป็นที่ถกเถียงกันนะครับว่าคืออะไร เกิดขึ้นตอนไหน แนวคิดแบบที่ผมแสดงไปที่ว่าชาติเป็นคอนเซ็ปทางสังคมและการปกครองใหม่นี่ก็เป็นแนวคิดหลัก แต่ก็มีนักวิชาการบางคนคิดว่าชาติมีอยู่แล้ว แต่คนในชาติในสมัยก่อนอาจจะยังไม่มีสำนึก คือยังไม่รู้สึกถึงตัวตนของชาตินั้นเท่านั้นเอง จากคุณ : HotChoc - [ 20 พ.ย. 49 01:32:04 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเมืองจีน ผมว่าความเป็นชาติมีนานแล้วล่ะครับ เพราะมีอาณาเขตที่แน่นอนเกิดขึ้นกว่าสองพันปีมาแล้วคือ กำแพงเมืองจีนนั่นแหล่ะ ส่วนที่มองโกลกับแมนจู ข้ามกำแพงเข้ามาได้ จุดเริ่มต้นก็จากความเหลวแหลกภายในเป็นหลักทั้งนั้น จริงอยู่วัฒนธรรมชาวฮั่นเน้นเกษตรกรรม ไม่ได้ขี่ม้าเลี้ยงสัตว์ในท้องทุ่งแบบชนเผ่า แต่การจัดการกองทัพยามที่ชาติเข้มแข็งก็สามารถมีอำนาจเหนือชนเผ่าต่างๆได้ ดังเช่นสมัยฮั่นอู่ตี้ให้แม่ทัพหลีจี้กวงบุโจมตีชาวซงนูไปจนถึงมงโกเลียนอก หรือแม้แต่ในยุคที่ชาวฮั่นแตกแยก แต่มีบางขุมกำลังเข้มแข็งก็สยบนักรบนอกกำแพงได้สบายเช่นในยุคของโจโฉ ที่เต็มไปด้วยขุนศึกและเสนาธิการที่วางแผนเก่ง เช่นกุยแกแนะนำให้โจโฉทิ้งกองทัพใหญ่แต่ใช้ทหารม้าเร็วจำนวนน้อยแค่ห้าพันคนบุกสายฟ้าแล๊บตัดหัวหัวหน้าชนเผ่าที่แข็งขืนจนสะท้านภาคเหนือมาแล้ว นี่ยังไม่นับ หลี่ซื้อหมิงถังไท่จงก็สามารถยกทัพขึ้นเหนือถล่มซงนูจนราบคาบ แต่ทว่าไม่มีอะไรที่อยู่ยั้งยืนยงมีขึ้นก็มีลง มีความสงบร่มเย็นก็ต้องมีกลียุค เมื่อใดที่ชาวฮั่นอ่อนแอ ขุนนางคอร์รัปชั่นราษฎรเดือดร้อน ก็ย่อมมีช่องโหว่ให้ชนเผ่าทางเหนือเข้ามาโจมตีเป็นเรื่องปกติ ที่น่าสนใจก็คือไม่ว่าชนเผ่าไหนเข้ามามีอำนาจก็มักจะถูกหลอมกลืนไปกับวัฒนธรรมอันแข็งแกร่งและลงรากฐานหยั่งลึกของชาวฮั่นไปหมด ซึ่งความจริงก็เป็นข้อดี เพราะชาวฮั่นจริงๆก็น่าจะเป็นชนเผ่าเร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ ล่าสัตว์มาก่อนจะลงหลักปักฐานวัฒนธรรมเกษตรกรรมเหมือนกัน และยังมีลักษระรูปร่างหน้าตาไม่ต่างกับชนเผ่าทางเหนือ เพียงแต่เรียกต่างกันเพราะพัฒนาความเจริญได้ต่างกันเท่านั่นเอง จากคุณ : x - [ 20 พ.ย. 49 02:37:12 A:210.246.64.44 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นเรื่องการบริหารองค์กร นั่นเอง องค์กรใหญ่ ๆ บางแห่ง จัดสรรกำลัง เงินทุนไปไม่ถูกที่ ขาดขุนพล  วางขุนพลไม่ถูกที่ถูกทาง เทียบกับ พม่าตีอยุธยาแตกแล้วเห็นภาพดีเนอะ จากคุณ : KK Tay - [ 21 พ.ย. 49 12:54:56 ]