Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เขียนวิทยานิพนธ์ควรทำตามใจอาจารย์ที่ปรึกษาดี หรือทำตามใจตัวเองดี--เครียดมาก

    เรื่องมีอยู่ว่าตอนนี้เครียดกับวิทยานิพนธ์ปริญญาโทมาก
    เกือบจะไม่เข้าใจในเนื้อหาเลย

    เมื่อเร็วๆนี้ส่ง e-mail ไปหาที่ปรึกษาที่อยู่ต่างประเทศ เพราะกลับมาทำเมืองไทยแล้ว คงไม่ได้กลับไปคุยอีก

    ถามเค้าว่าจะลด scope ลงได้ไม๊ มันเป็นปัญหาสำหรับเรา
    แล้วก็เขียน scope ใหม่ให้เค้าดู ว่าถ้าเป็นแบบนี้จะทำให้เรา focus งานได้ดีขึ้น

    เค้าตอบมาว่า scope ดูยังไม่เป็นปัญหาสำหรับเค้า แล้วก็อธิบายความเข้าใจของเค้ามาให้ฟัง ว่ามันควรจะเป็นอย่างนี้ แต่ผมอ่านแล้วก็ยังงงกับ preference ของเค้าอยู่ดี มันดูกว้างเกินไป และยังมองไม่เห็นทางที่จะทำเป็น research ได้เลย

    ตอนนี้ก็เลยต้องเลือกอยู่ 2 ทาง
    1 ทำตามใจเค้า ซึ่งทำให้เราต้องงมทางต่อไปเรื่อยๆ
    2 ทำตามใจเรา ซึ่งอาจจะผิดใจกับเค้าได้

    ควรจะทำแบบไหนดีครับ

    เพราะขอเลื่อนมากำหนดส่งมาแล้ว คนอื่นเค้าส่งกันหมดแล้ว แต่ผมยังงมทางไม่เจอเลย proposal ยังไม่ผ่านเลยเครียดสุดๆ แทบไม่เข้าใจเลย มีหวังไม่จบแน่เลย



    แต่ก่อนที่เคยมาปรึกษาห้องนี้เรื่อง อาจารย์ที่ปรึกษาต้องการจะดู political process ของ issue ที่เรากำลังศึกษาอยู่
    แต่ผมเรียนโทมาทางด้าน การบริหาร การจัดการ
    ก็เลยยังจับทางไม่ออก เลยเขียน proposal ในแนวทางที่ต้องการจะ prove theory แต่ออกแนว descriptive หน่อยๆ

    เจอที่ปรึกษาตอกกลับ ว่าถ้าคุณไม่เชื่อผม ผมก็ขอโทษที่ไม่สามารถแนะนำคุณได้อีกแล้ว เพราะตอนนั้นผมส่ง proposal ไปหลายอันมาก ต้องการจะ prove theory ต่างๆของ management literature

    หลังจากนั้นก็ผมงมเข็มตามทางของเค้า ซึ่งเค้าเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาใส่แว่นหัวยุ่งๆ อยู่ในศูนย์วิจัยของมหาลัยทั้งวัน ท่าทางเป็น perfectionist เครียดมากเลย

    ครั้งก่อนเค้าบอกผมว่า proposal ผม ไม่มี Theorectical/Conceptual Framework ผมไปงมหามาเกือบตาย กว่าจะรู้ว่ามันคืออะไร และวิธีการเก็บข้อมูลจัดการข้อมูลก็ต้องเป็นระบบ จะมา desciptive ไม่ได้ ขนาดเป็น qualitative research นะ เกือบไปตายแล้ว


    ซึ่งเรื่องผมทำมันคือ policy ตัวนึงของ WTO ที่มีผลกับไทย

    เค้าอยากให้ดูว่ามีใครบ้างที่ lobby ให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างอย่างทุกวันนี้

    แต่ผมคิดว่างมแทบตายคงไม่เข้าใจได้หมด ทั้งการกำหนดนโยบายระดับสากล, การกำหนดนโยบายระดับชาติ, และการกำหนดนโยบายระดับธุรกิจ
    จะทำ research ทั้งที มันต้องแยกมาเป็น 3 ระดับแน่ๆ คิดจนตายยังไง มันก็ต้องเป็น 3 ระดับวันยังค่ำ ซึ่งใน 1 reserach ควรจะทำแค่ 1 ระดับ


    ผมเลย E-mail ไปขอเค้าว่าถ้าแก้ aim / questions จะทำให้ เรา focus ใน scope ได้ดีกว่านี้
    เค้าเลยตอบมาว่าความเข้าใจของเค้าเป็นแบบระดับสากลแต่ให้ scope อยู่ในเรื่องของ issue ที่เราจะศึกษา กับบริษัทแค่บางบริษัทและผลิตภัทณ์ที่กำลังศึกษาเท่านั้น
    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นทางเลือกของคุณเอง

    คราวนี้รู้สึกโล่งใจเค้าเปิดโอกาสให้ทางเลือกเราไว้ 50-50 ไม่เหมือนครั้งก่อนๆที่ ต้องเอาอย่างนี้อย่างนั้น คุณต้องทำอย่างนี้ research มันจะเป็นแบบนี้ เหมือนเค้ามีคำตอบของเรื่องอยู่ในหัวหมดแล้ว
    แต่ดันไม่บอกอะไรเลยซักอย่าง ทั้ง aim/research question, ทั้ง literature/discipline, ทั้ง methodology/example
    และก็เหมือนเส้นตรง ว่าต้องเดินตามทางที่เค้าวางไว้ ห้ามเบี่ยงห้ามเลี้ยว ตรงนี้ทำให้หนักใจมาก ถ้าไม่เริ่มก้าวออกไปแบบแรงๆ เค้าก็จะบีบให้เรากลับมาทางเดิมอีก

    ถึงตอนนี้ควรจะเลือกอย่างไหนดี ตามใจเค้าโดยที่เรามองไม่เห็นภาพรวมอะไรเลย หรือตามทางที่พอมองเห็นใน research example แล้ว

    ขอบคุณมากนะครับที่ตั้งใจอ่านผมกำลังจะแย่แล้วมีสิทธ์ไม่จบถึง 70% ทั้งๆที่เรียนก็ไม่ได้ห่วยได้เกรด 2.7 อีก 5 เดือนชีวิตไม่รู้จะเป็นยังไงต่อ ทำ qualitative research นี่มันยากจริงๆ

    จากคุณ : V8 - [ 29 พ.ย. 49 20:06:17 A:124.120.160.129 X: TicketID:128641 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom