ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนอื่นขอบอกว่าผมเคยเรียนที่จุฬา เรื่องมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ คือไม่อยู่ในความควบคุมและได้รับงบประมาณจากรัฐบาลนี่ ผมคิดว่าเป็น trend ไปทั่วโลกแล้วนะครับ เหตุที่เป็น trend ไปทั่วโลกก็เพราะเมื่อคำนึงถึงทุกอย่างรวมกันแล้ว ข้อดีมีมากกว่า มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนที่ต่างประเทศเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาล และได้ออกนอกระบบไปเรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีการประท้วงใด ๆ ทั้งสิ้น จากทั้งฝ่ายนักศึกษา คณาจารย์ และเสียงประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าทุกฝ่ายไม่เห็นด้วย แผนการนี้ต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน เพราะบุคคลในคณะรัฐบาล และจากพรรคการเมืองฝ่ายต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็จบมาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มหาวิทยาลัยอาจไปล้อบบี้ให้รัฐบาลเลิกล้มแผนการได้อย่างแน่นอน จากคุณ : * - [ 8 ธ.ค. 49 20:27:16 A:58.9.189.44 X: TicketID:105682 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การเปลี่ยนออกนอกระบบเขาทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป คือรัฐบาลจะตัดงบประมาณลงทุกปี ๆ ละ 2 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนเล็กน้อย แต่เมื่อคำนึงถึงค่าเงินเฟ้อมหาวิทยาลัยอาจจะต้องขาดงบประมาณค่าใช้จ่ายรวมทั้งงบการขยายงานไปเกือบสิบเปอร์เซ็นต์ เป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยจะต้องหารายได้มาช่วยตัวเอง ท่านอธิการบดีต้องทำงานหนักมากผมเคยพบกับท่านที่กรุงเทพเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ก็ไม่เห็นท่านบ่นหรือแสดงว่าท่านไม่เห็นด้วย ท่านไม่ค่อยได้อยู่กับที่ ต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยที่ประเทศอื่นซึ่งอยู่ในสถานะเดียวกัน แลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษา และร่วมกันทำงานวิจัย นักศึกษาจากประเทศหนึ่งอาจจะเรียนปี 1 และปี 2 จากประเทศหนึ่ง แลัวไปต่อ ปี 3 และปี 4 อีกประเทศอื่นและได้รับปริญญาจากประเทศที่ไปเรียนต่อก็ได้ การเรียนการสอนก็เตรียมการเอาไว้ก่อนล่วงหน้าโดยเริ่มใช้ภาษาอังกฤษในการสอนในบางส่วนที่พร้อมแล้ว เรื่องนี้ผมคิดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับนักศึกษาเป็นอย่างมาก คิด ๆ ดูถ้าเรียนปี 1 และปี 2 ที่จุฬาแล้วไปต่อ ปี 3 ปี 4 ที่ฮาร์วาร์ดหรือ เอ็มไอที ได้จะไม่ดีกว่าหรือครับ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ทั้งมหาวิทยาลัยและนักศึกษาจะมัวเอ้อระเหยอยู่ไม่ได้ จะต้องยกระดับให้เท่ากับมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งอื่นในโลกด้วย จากคุณ : * - [ 8 ธ.ค. 49 20:40:51 A:58.9.189.44 X: TicketID:105682 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แน่นอน เหรียญย่อมต้องมีสองด้าน ในเมื่อถูกตัดงบประมาณลงจากรัฐบาล ค่าเล่าเรียนก็จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะแก้ปัญหาโดยให้มีทุนการศึกษาอย่างเป็นธรรมโดยจะมาจากงบประมาณ หรือจะมาจากหวยบนดินก็ได้ หรือให้มีการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา คนที่มีฐานะไม่ดีจะได้มีโอกาสเรียนชั้นสูง ลองมาคิดดูว่า มหาวิทยาลัยเอกชนในเมืองไทยทำไมเขาถึงอยู่ได้และเจริญโดยไม่มีเงินงบประมาณมาช่วยเหลือจากรัฐบาล เรื่องที่อยากจะฝากเป็นข้อคิดอีกอย่างหนึ่งคือ มหาวิทยาลัยดัง ๆ ที่มีชื่อเสียงในโลกล้วนแล้วแต่ไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาลทั้งนั้น เรื่องนี้ผมอยากให้ทุกฝ่ายพิจารณาข้อได้ข้อเสียให้ดี อย่าเพิ่งมาลงประชามติกันโดยไม่ศึกษาถึงผลได้ผลเสียมาก่อน จากคุณ : * - [ 8 ธ.ค. 49 20:44:17 A:58.9.189.44 X: TicketID:105682 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มันเลยขั้นตอนประชาพิจารณ์มาแล้วครับ กำลังจะดันออกมาเป็นพรบ.เลย  โดยที่เอาหนูตัวใหญ่ๆอย่างจุฬาฯออกมาก่อน ล็อตต่อไปจะเป็นของมหิดล ความร่วมมือกับต่างประเทศนั้น แน่นอนย่อมใช้ค่าใช้จ่ายสูง การออกนอกระบบจะทำให้สามารถหาเงินมาสนับสนุนตรงนี้ได้ แต่ผมไม่เห็นความจำเป็นตรงจุดนี้ เพราะความร่วมมือกับต่างประเทศนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการทำวิจัยมากกว่า ซึ่งจะเป็นส่วนของปริญญาโท-เอกมากกว่า ปริญญาตรีนั้นจะเน้นการปูพื่นความรู้เพื่อนำไปใช้ต่อยอด การทำวิจัยนั้นเพียงแค่ส่วนประกอบ คือ สอนให้ทำเป็นเท่านั้น การหาเงินมาสนับสนุนควรที่จะไปหาจากนักศึกษาระดับ post grad มากกว่าที่กวาดลงไปทั้งหมด คุณจะเปิดหลักสูตรนานาชาติมาอีกสักกี่หลักสูตรเพื่อหาเงินก็ไม่ว่า เพราะนั่นเป็นความสมัครใจของเด็กที่พร้อมจะจ่ายเอง มหาวิทยาลัยเอกชนเขาอยู่ได้อย่างไร อยู่ได้น่ะอยู่ได้แน่ครับแต่ค่าเล่าเรียนกี่แสนกี่ล้านล่ะครับ คุณภาพยังต้องเพิ่มอีกพอสมควร(ขอโทษครับ ที่พูดเช่นนี้)  มหาวิทยาลัยรัฐที่ออกนอกระบบไปแล้ว  ก็ใช่ว่าจะพัฒนาไปได้เกินกว่าตอนอยู่ในระบบ (อาจจะยกเว้นพระจอมเกล้าฯธนบุรี) บางแห่งมีแต่เงินเดือนอาจารย์เท่านั้นที่เพิ่มขึ้น งบวิจัยแทบจะไม่มีเพิ่ม อาจารย์เองก็ไม่ได้แฮปปี้เท่าไหร่หรอกครับ แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 49 22:33:35 จากคุณ : เพราะผมไม่มี Time Machine - [ 8 ธ.ค. 49 22:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=6117&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai จากคุณ : webew210 - [ 8 ธ.ค. 49 22:49:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เซง...จบ จากคุณ : เมาไม่ขับ แล้วจะกลับยังไง - [ 8 ธ.ค. 49 23:05:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ข้อความจาก คหห.ที่ 3 นักศึกษาจากประเทศหนึ่งอาจจะเรียนปี 1 และปี 2 จาก ประเทศหนึ่ง แลัวไปต่อ ปี 3 และปี 4 อีกประเทศอื่นและได้รับปริญญาจากประเทศที่ไปเรียนต่อก็ได้ การเรียนการสอนก็เตรียมการเอาไว้ก่อนล่วงหน้าโดยเริ่มใช้ภาษาอังกฤษในการสอนในบางส่วนที่พร้อมแล้ว เรื่องนี้ผมคิดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับนักศึกษาเป็นอย่างมาก *********** ผมเห็นว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ ต่อไป การเรียนในมหาวิทยาลัยจะเป็นการ "แบ่งชนชั้น" ในสังคมไทยอย่างชัดเจนมากขึ้น เพราะต่อไป หลานผมซึ่งผมอยากให้เขาเรียนจุฬาฯ แม้ว่าเขามีความสามารถพอที่จะสอบเข้าได้ แต่คงต้องสละสิทธิ์ ด้วย "เงิน" ตัวเดียว จากคุณ : วัฒนุ - [ 9 ธ.ค. 49 12:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าอธิการบดียังเป็นคนปัจจุบันอยู่... หึหึหึหึหึหึ ไม่อยากนึกเลย จากคุณ : Ace striker - [ 9 ธ.ค. 49 14:48:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ต่อไปจุฬา จะกลายเป็นมหา-ลัย เอกชน กระมัง ? อย่างไรก็ตาม จุฬา ยังมีค่าเช่าที่ดินแถวสยามสแควร์มาเป็นรายรับชดเชยส่วนขาดจากรัฐ ถือว่าที่เลือกออกจากระบบ จุฬาคงคิดดีแล้ว แต่อย่าง มธ. มีที่ดินแค่หยิบมือ ถ้าต้องออกจากระบบ ลำบากแน่ ไม่รู้จะเอารายได้มาชดเชย ค่าหน่วยกิตต้องสูงขึ้นแน่ๆ จากคุณ : ผมว่า - [ 9 ธ.ค. 49 15:02:21 A:125.25.13.132 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 คำว่า เอามหาลัยรัฐออกนอกระบบ นั้นคือ ออกนอกระบบราชการ แต่มาเป็นมหาวิทยาลัยในการกำกับของรัฐ วัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อการบริหารจัดการจะได้คล่องตัวไม่อิงกับระบบราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบริหารบุคลากร ซึ่งจะมีความคล่องตัวในการสรรหาบุคลากร หรือโยกย้ายได้ง่ายขึ้น ตลอดจนประเมินผลงานได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ยึดติดกับความงุ่มง่ามของระบบราชการ (แน่นอน บรรดาพวกที่ทำงานเช้าชามเย็นชาม หรือ อาจารย์ที่ไม่พัฒนาหาองค์ความรู้ใหม่ๆใส่ตัว ย่อมไม่ชอบใจแน่นอน) การรักษาคุณภาพของการเรียนการสอน ตลอดจนรักษาสาขาวิชาต่างๆไว้นั้น ก็ยังคงเป็นการแข่งขันกันระหว่างมหาวิทยาลัยต่างๆ ใครๆก็ต้องการเป้าหมายเป็นเลิศทางวิชาการด้วยกันทั้งนั้น และถึงอย่างไรทางรัฐก็ยังต้องเข้ามากำกับอยู่ดี ทั้งนี้คงไม่มีมหาวิทยาลัยไหนอยากถอยหลังเข้าคลองกระมัง (ถ้าได้ผู้บริหารแย่ ก็อาจชะงักงันไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเป็นมหาวิทยาลัยภายใต้ระบบราชการหรือออกไปเป็นมหาวิทยาลัยภายใต้การกำกับของรัฐ เพราะแม้ขณะนี้หลายสถาบันที่เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐก็เผชิญ หรือเคยเผชิญกับปัญหานี้มา) อันที่จริงแล้ว การตัดงบประมาณสนับสนุนของรัฐ กับการออกนอกระบบราชการนั้นมันคนละเรื่องกัน เพราะแม้ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยในระบบราชการดังที่เป็นอยู่นี้ แต่ถ้ารัฐตัดงบลงก็คงเผชิญชะตากรรมเดียวกันอยู่ดี (เข้าใจว่า อธิการบดีหลายสถาบันคงพยายามต่อรองกับทางรัฐอยู่ แต่ก็คนละเรื่องกันอย่างว่า) ก็คงต้องดูกันไปว่าจะออกมาอย่างไร ผมนั้นเห็นข้อดีอยู่ แต่การดำเนินการก็ยังต้องว่ากันในรายละเอียดอีกมาก จากคุณ : ผ่านมา - [ วันรัฐธรรมนูญ 23:31:30 A:58.8.167.170 X: TicketID:106200 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยครับ ผมว่าเด็กๆที่ออกมาเย้วๆไม่เห็นด้วย ไม่น้อยมาจากการปลุกปั่นของอาจารย์ที่ขี้เกียจๆ ผ่านสื่อต่างๆของมหาลัย จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy - [ 11 ธ.ค. 49 14:43:43 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ๊า แล้วทำไมตัวอย่างสาขาไม่ทำเงินถึงเป็นคณะเราหมดเลยฟระ จากคุณ : หมื่นราชเสน่หานอกราชการ - [ 11 ธ.ค. 49 16:57:01 A:124.121.185.180 X: TicketID:124103 ]