Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    หาประโยชน์ภาษาอังกฤษจากการฟังเพลง

    การเรียนภาษาอังกฤษจากเพลงเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง ได้ความรู้ทั้งเรื่องประโยค การออกเสียงที่ดีซึ่งจะทำให้ช่วยในการพูด นอกจากนั้นการเรียนก็ทำให้เพลิดเพลินไม่เบื่อ ถ้าหากมีความรู้ในเรื่องการออกเสียง ยิ่งจะสังเกตเสียงที่ถูกต้องและมั่นใจในการออกเสียงและจะมีข้อสังเกตมากมายในแง่มุมต่าง ๆ ของประโยคและเสียง ถ้ายังไม่ชำนาญเรื่องการออกเสียง ขอแนะนำให้ศึกษาจาก website ที่ผมเขียนดังนี้

    http://www.navy.mi.th/dockyard/knowledge.htm

    เพลงที่จะศึกษาควรจะเป็นเพลงที่ร้องช้า ๆ และชัดเจน ถ้าเป็นเพลงคาราโอเกะก็จะได้เนื้อร้องและทำนองเพลงไปด้วย  แต่ก็ต้องระวังอยู่บ้างเพราะบางที่เนื้อเพลงผิดแต่เชื่อว่าถ้าได้ศึกษาเรื่องเสียงแล้วจะรู้ว่าเนื้อเพลงผิด ความจริงแล้วฟังเสียงจากเพลงที่อัดลงเครื่องฟังแล้วฟังด้วยหูฟังจะชัดเจนกว่าฟังจากคาราโอเกะแต่ทางที่ดีควรรู้เนื้อเพลงก่อน ฟังแล้วจำประโยคที่เขาร้อง สังเกตคำที่เขาใช้  การออกเสียงของเขา  เป็นคำหรือประโยคต่อเนื่อง หากได้ศึกษาตาม website ข้างต้นก็จะนำมาสังเกตแล้วก็จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้มากที่เดียว

    เพลงแรกที่ขอแนะนำให้ฟังและสังเกตการใช้ประโยค สังเกตการออกเสียงของเขาคือเพลง sad movies ที่ร้องโดย Sue Thomson เพลงนี้สรุปข้อความดังนี้

            แฟนบอกว่าต้องทำงานก็เลยไปดูหนังคนเดียวแต่ที่ไหนได้ แฟนพาเพื่อนรักมาดูหนัง นั่งอยู่ข้างหน้า  เห็นเขาจูบกันแทบหัวใจวาย(ตาย)  แล้วก็ร้องไห้ กลับบ้านแม่ถามว่าทำไมร้องให้ เธอก็ไม่อยากโกหก บอกว่าหนังมันเศร้าค่าแม่เลยทำให้ร้องไห้( ไม่รู้ว่าโกหกเปล่าที่บอกอย่างนี้)  ในรายละเอียด ดูเนื้อร้องแล้วหาโอกาสฟังเพลงนี้นะครับ

        Sad movies always make me cry.
    He said he had to work, so I went to the show alone.
    They turned down the lights and turned the projector on.
    And just as the news of the world started to begin,
    I saw my darling and my best friend walking in.
    Though I was sitting  there they didn’t see.
    And so they  sat right down in  front of me.
    When he kissed her lips  I almost died.
    And in the middle of the color cartoon I started to cry.
    Oh …sad movies always make me cry
    Oh… sad movies always make me cry
    So I got  up and slowly  walked on home,
    And mama saw the tears and said  what’s  wrong.
    And so to keep from telling her a lie,
    I just said sad movies made  me cry.

    Oh… sad movies always make me cry
    Oh… Sad movies always make me cry
    uuh ………………..
    Sad movies make me cry.

    ในเรื่องของคำพูดในประโยค
        กริยา make ในที่นี้ใช้ในรูปของ subject+make+noun or pronoun+infinitive.
    Subjet คือ movies, verb คือ make, pronoun คือ me และ infinitive คือ cry
    นำเอารูปแบบนี้ไปใช้ได้เมื่อเราใช้กริยา make เข่น
       I made him do it.
    ด้านหน้าใช้ in front of  
    สำหรับวลี to keep from telling her a lie. ควรจำไปใช้โดยคงรูป to keep from telling ไว้

    ในเรื่องของการออกเสียง
        ฟังจาก cd ที่ลงเครื่องฟังด้วยหูฟังจะสังเกตว่า Sue ออกเสียง s ชัดทุกเสียง เช่น always, movies
      ให้สังเกตเสียง sh ตอนออกเสียงว่า show ( I went to the show alone.)เป็น sh เสียงไม่ก้อง
      บรรทัดที่ 3
           คำว่า lights ตามด้วย and ซึ่งขึ้นต้นด้วยสระ Sue จึง link s เข้ากับ and ซึงเป็น weak form ออกเสียงเป็น เซิน
        บรรทัดที่ 4
            ก็เช่นเดียวกัน news ตามด้วย of  ออกเสียงเป็น ซอบ บ ต้องออกเสียงเป็นตัว v คำว่า started ted ออกเสียงเป็น ทิด
         บรรทัดที่5
            Darling ออกเสียงเป็น ดาลิ่น และ walking in ออกเสียงเร็ว ๆ เป็น วอคคิน
          บรรทัดที่6    
                Sitting ออกเสียงเป็น ซิทอี่น(ดูการออกเสียง ing ใน website ข้างบน)
           สังเกตการณ์ออกเสียง  though, there, they ซึ่ง th ออกเสียงแบบ th เสียงก้อง
           บรรทัดที่ 8   Kissed   her lips I  คำว่า kissed ออกเสียง ed เป็นเสียง t คำว่า  her ไม่ออกเสียง h ออกเสียงพ่วง t เข้ากับ her เป็น คิสเทอ ลิพ และ s ท้ายคำ lips พ่วงกับ I เป็น ซาย  ออกเสียงทั้งหมดว่า “คิสเทอลิพซาย”
        บรรทัด 9
         ออกเสียง started เป้น สทาททิด  ออกเสียง ted เป็น ทิด
        บรรทัดที่ 12
        got up อเมริกันจะออกเสียง t ที่ไม่ใช่เป็นตัวขึ้นต้นคำคล้าย “ด”  จึงออกเสียงว่า “กอดดัพ”
       walked ออกเสียง ed ตามหลัง k เป็นเสียง t ดังนั้น walked on จึงออกเสียงว่า “วอคทอน”
         บรรทัดที่ 13
          tears and ออกเสียงพ่วง s กับ and เป็น “เทียเซิ่น”

    หวังว่าหาเพลงเพราะ ๆ ฟังหวังว่าคงได้ประโยชน์จากเพลงนี้นะครับ

    แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 49 17:40:08

    แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 49 17:27:41

    แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 49 22:54:19

    แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 49 22:50:51

    จากคุณ : chumsakm - [ 29 ธ.ค. 49 22:32:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom