ความคิดเห็นที่ 6
ค่ะ เราขอเอาลงต่อให้จบเลยนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย^^" ----------------------------------------------------- ระหว่างปี 1898-1934 อเมริกายาตราทัพเข้าไปในคิวบา นิการากัว ฮอนดูรัส สาธารณรัฐโดมินิกัน ไฮติ กัวเตมาลา ปานามา เม็กซิโก และโคลัมเบีย แต่ละประเทศระหว่าง 1-7 ครั้ง ใช้เล่ห์กลเฉือนดินแดนส่วนหนึ่งออกจากโคลัมเบียมาก่อตั้งเป็นประเทศปานามา เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการขุดคลองปานามา ใช้เป็นเส้นทางเดินเรือลัดระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกกับแอตแลนติก
รัฐบาลปานามายุคแรกๆ ก็คือ วาณิชธนกิจอเมริกันนั่นเอง จึงไม่แปลกที่เมื่อปี 1989 อเมริกาจึงไม่ยี่หระต่อการยาตราทัพเข้าไปในปานามาอีกครั้ง โดยไม่ใส่ใจกับหลักการบูรณภาพเหนือดินแดน
ธีโอดอร์ รูสเวลท์ ประธานาธิบดีคนที่26 ของอเมริกา เคยกล่าวไว้อย่างหยิ่งผยองว่า ข้าพเจ้าพร้อมที่จะทำสงครามทุกที่ทุกแห่ง เมื่อข้าพเจ้าเห็นว่ามันจำเป็นแก่สหรัฐอเมริกา
อัลเบิร์ต เจ. เบเวอริดจ์ สมาชิกวุฒิสภาคนดังในยุคเดียวกันกล่าวประโยคอมตะไว้เช่นกันว่า เราคือชนชาติที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้ปกครองโลก
แนวคิดและระบบความเชื่อทำนองนี้นำมาซึ่งการขยายตัวเข้าแทนที่จักรวรรดินิยมยุคเก่าอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน ฯลฯ ในระบบโลก ตราบเท่าที่จังหวะสถานการณ์เอื้ออำนวย
การเข้าครองฟิลิปปินส์ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสงครามล้างเผ่าพันธุ์ที่ป่าเถื่อนที่สุดครั้งหนี่งในประวัติศาสตร์อารยธรรมมนุษยชาติ ชาวพื้นเมืองฟิลิปปินส์ 600,000 คน ต้องกลายเป็นซากศพสังเวยอารยธรรมอเมริกันที่กำลังเถลิงอำนาจขึ้นมาเหนือระบบโลก
อาชญากรรมจากการทิ้งระเบิดปรมาณูใส่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ถูกขบวนการโฆษณาชวนเชื่อระบุว่า อเมริกาทำไปด้วยความจำเป็น เพื่อยุติสงคราม สร้างสันติภาพ แต่หากศึกษาลึกลงไปจะพบว่า ญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามย่อยยับก่อนหน้านั้นแล้วปฏิบัติการฆ่าล้างเมืองเป็นไปเพื่อสำแดงแสนยานุภาพเหนือโลก เพื่อสถาปนาความเป็นผู้นำเหนือระบบโลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียมากกว่า
ประการที่สี่ เพราะเหตุทั้ง 3 ประการข้างต้น จึงทำให้อเมริกาเสมือนไม่มีเชื้อชาติ ไม่มีชนชาติ ไม่มีศาสนา ในความหมายที่แท้จริง
คำว่าชาติและศาสนาในอเมริกาก็คือผลประโยชน์ อะไรก็ตามที่ผลประโยชน์ไปกันได้ก็เข้ากันได้ อะไรก็ตามที่ผลประโยชน์ขัดกันก็พร้อมจะฆ่าฟันให้บรรลัย
ดูตัวอย่างโดนัลด์ รัมสเฟลด์ กับซัดดัม ฮุสเซน นั่นเป็นไร! เมื่อก่อนก็จับมือร่วมใจกันเพื่อให้อิรักไปทำสงครามกับอิหร่าน ตอนนั้นนับถือกันเป็นญาติมิตรพี่น้อง แต่เวลานี้ก็ล้างผลาญกันแบบไม่มีเยื่อเหลือใย ราวกับว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ใช่คนไปแล้ว
ด้วยพื้นเพและแนวคิดที่สั่งสมกันมาเช่นนี้ การล่วงศีลปานาติปาต การล่วงศีลข้อทินนาทาน อันถือเป็นศีลค้ำจุนโลกของมนุษยชาติจึงเกิดขึ้นเป็นปกติ และเป็นที่มาของแนวความคิดตั้งตัวเป็นเจ้าโลก
ขณะนี้อเมริกามั่นใจในแสนยานุภาพว่าจะยึดครองประเทศไหน โจมตีใคร หรือฆ่าฟันใครก็ได้ตามใจชอบ ความคิดแบบนี้มีอยู่ตราบใด ภัยสงครามโลกและการฆ่าฟันล้างผลาญมุนษยชาติด้วยนานาวิธีก็ย่อมมีอยู่ตราบนั้น ทุกวันนี้จึงเหลือแต่ปัญหาว่านานาชาติจะร่วมมือกันยับยั้งอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือว่าจะต่างคนต่างเอาตัวรอดแล้วกลายเป็นเมืองขึ้นแบบใหม่ของอเมริกาเท่านั้น ------------------------------------------------------- และมีหนังสือชื่อว่า เดอะเฟเดอรัลลิสต์เปเปอร์ : เอกสารความคิดทางการเมืองของอเมริกัน ของ อเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน,เจมส์ เมดิสัน, จอห์น เจย์
เป็นหนังสือขนาด A4 หนามากกว่า 600 หน้า เล่มนี้เป็นผลงานร่วมกันแปลของอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หลายท่าน เมื่ออ่านแล้วเราก็จะรู้ว่าพื้นฐานการรวมเป็นสหรัฐอเมริกานั้นมีหลายสายธารความคิดมาหลอมรวมกัน ตั้งแต่เสรีประชาธิปไตยไปจนถึงอำนาจนิยม เมื่อมีปัจจัยภายในและหรือปัจจัยภายนอกเข้ามาหนุนเสริม ก็มีส่วนที่จะทำให้มีสายความคิดหนึ่งเป็นความคิดนำในการกำหนดนโยบายต่างประเทศ
จากคุณ :
Love in the mist
- [
วันสิ้นปี 20:20:54
]
|
|
|