ความคิดเห็นที่ 5
(ต่อ)
ครั้นลุศักราช ๑๑๗๖ ฉศก จึงทรงพระราชดำริปรึกษาด้วยท่านอัครมหาเสนาบดีว่า เมืองลำพูนไชยยังร้างว่างอยู่ หามีผู้รักษาบ้านเมืองไม่ จะทรงพระมหากรุณาตั้งเจ้าเมืองอุปราชราชวงศ์ขึ้นไปรักษาเมืองลำพูนไชย ให้เป็นเมืองสืบไป ท่านอัครมหาเสนาบดีก็เห็นชอบด้วยดังกระแสพระราชดำริ โปรดเกล้าให้มีตราขึ้นไปหาพระยาเชียงใหม่กาวิละ พระยาราชวงศ์คำฟั่น นายบุญมา ลงมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
ครั้น ณ วัน ๕ เดือน ๑๑ ขึ้น ๔ ค่ำ ก็ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯเลื่อพระยาเชียงใหม่กาวิละขึ้นเป็นพระเจ้าเชียงใหม่ ตั้งพระยาราชวงศ์คำฟั่นเป็นพระยาลำพูนไชย ตั้งนายบุญมาเป็นพระยาอุปราชเมืองลำพูนไชย พระราชทานเครื่องยศโดยสมควรแก่ฐานาศักดิ์ทุกคน จึงโปรดเกล้าฯยกเมืองเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย ขึ้นเป็นเมืองประเทศราชแต่นั้นมา แล้วพระเจ้าเชียงใหม่ พระยาลำพูนไชย พระยาอุปราชก็กราบถวายบังคมลากลับขึ้นไปเมืองเชียงใหม่ พระเจ้าเชียงใหม่กาวิละจึงแบ่งเอาคนเมืองเชียงใหม่เป็นคนฉกรรจ์ ๑,๐๐๐ คน เมืองนครลำปาง ๕๐๐ คน ให้พระยาลำพูนไชย พระยาลำพูนไชยก็ยกครอบครัวไพล่พลทั้ง ๒ เมือง มาตั้งเมืองลำพูนไชย แต่ในศักราช ๑๑๗๒ ปีจอฉศก มาจนทุกวันนี้ พระเจ้าเชียงใหม่กาวิละ ครั้นจัดการเมืองลำพูนไชยเสร็จแล้ว ก็ป่วยลง พระเจ้าเชียงใหม่กาวิละเป็นพระยาเชียงใหม่ ๒๘ ปี เป็นพระเจ้าเชียงใหม่ได้ปีหนึ่ง รวมแต่ได้ครองเมืองเชียงใหม่มาได้ ๒๙ ปี ก็ถึงพิราลัยในปีจอฉศกนั้น แต่จะโปรดเกล้าฯให้ผู้ใดปลงศพ ก็หาได้ปรากฏในหมายเหตุไม่
ครั้นลุศักราช ๑๑๗๗ ปีกุนสัปตศก พระยาอุปราชน้อยธรรม พระยาราชวงศ์หมูล่าเมืองเชียงใหม่ พระยาลำพูนไชย พระยาอุปราชเมืองลำพูนไชยนำช้างเผือกเอกลงมาถวาย ครั้นแพช้างถึงกรุงเก่า พระยาราชวงศ์หมูล่าป่วยลงถึงแก่กรรม พระยาอุปราช พระยาลำพูน ก็เอาศพพระยาราชวงศ์หมูล่าฝังไว้ที่กรุงเก่า แล้วก็ล่องแพช้างเผือกเอกลงมาถึงกรุงเทพฯ ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แห่ช้างขึ้นสู่โรงสมโภชขึ้นระวางพระราชทานนามว่า พระยาเศวตรไอยรา บวรพาหนะนาถ อิศรราชบรมจักรี สีสังข์ศักดิ์อุโบสถ คชคเชนทรชาติ อากาสจารี เผือกผ่องศรีบริสุทธิ์ เฉลิมอยุธยายิ่ง วิมลมิ่งมงคล จบสกลเลิศฟ้า แล้วทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯเลื่อพระยาอุปราชน้อยธรรมขึ้นเป็นพระยาเชียงใหม่ ตั้งพระยาลำพูนคำฟั่นเป็นพระยาอุปราชเมืองเชียงใหม่ ตั้งพระยาอุปราชบุญมาเมืองลำพูนเป็นพระยาลำพูน แต่ที่อุปราชเมืองลำพูนนั้นยังหาได้โปรดตั้งผู้ใดไม่ แล้วพระราชทานเครื่องยศโดยสมควรแก่ฐานาศักดิ์ทุกคน พระยาเชียงใหม่ พระยาอุปราช พระยาลำพูน ก็กราบถวายบังคมลากลับขึ้นไปบ้านเมือง แล้วโปรดเกล้าฯให้เจ้าพนักงานคุมหีบศิลาหน้าเพลิง ขึ้นไปปลงศพพระยาราชวงศ์หมูล่าที่กรุงเก่าด้วย
ลุศักราช ๑๑๘๓ ปีมะเส็งตรีศก พระยาเชียงใหม่น้อยธรรมรักษาเมืองมาได้ ๗ ปี ก็ถึงแก่กรรม แต่จะโปรดเกล้าฯให้ผู้ใดขึ้นไปปลงศพพระยาเชียงใหม่น้อยธรรมนั้น หาปรากฏในหมายเหตุไม่
ลุศักราช ๑๑๘๕ ปีมะแมเบญจศก มีตราโปรดขึ้นไปหาตัวพระยาอุปราชคำฟั่นเมืองเชียงใหม่ พระยานครลำปางดวงทิพ นายพุทธวงศ์ นายคำมูล นายน้อยกาวิละ ลงมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จึงทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯเลื่อพระยานครลำปางดวงทิพเป็นพระเจ้านครลำปาง ตั้งพระยาราชวงศ์หนายไชยวงศ์บุตรพระยานครคำโสมขึ้นเป็นพระยาอุปราชเมืองนครลำปาง ตั้งพระยาอุปราชคำฟั่นขึ้นเป็นพระยาเชียงใหม่ ตั้งนายพุทธวงศ์บุตรนายพ่อเรือน หลานฟ้าชายแก้วเป็นพระยาอุปราช ตั้งนายคำมูลบุตรนายพ่อเรือนเป็นพระยาราชวงศ์ ตั้งนายน้อยกาวิละบุตรนายพ่อเรือนเป็นพระยาเมืองแก้ว โปรดพระราชทานเครื่องยศโดยสมควรแก่ฐานาศักดิ์ทุกคน แล้วพระเจ้านครลำปาง พระยาอุปราชเมืองนครลำปาง พระยาเชียงใหม่ พระยาอุปราช พระยาราชวงศ์ พระยาเมืองแก้ว ก็กราบถวายบังคมลากลับขึ้นไปรักษาบ้านเมือง
ลุศักราช ๑๑๘๖ ปีวอกฉศก พระยาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสู่สวรรคต พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกแล้ว พระยาเชียงใหม่คำฟั่นว่าราชการเมืองมาได้ ๓ ปี ก็ถึงแก่กรรม ณ วันเดือน ๘ แรม ๘ ค่ำ ศักราช ๑๑๘๗ ปีระกาสัปตศก พระเจ้านครลำปางดวงทิพเป็นพระยานครลำปางได้ ๙ ปี เป็นพระเจ้านครลำปางได้ ๓ ปี รวมได้ครองเมืองนครลำปางมาได้ ๑๒ ปี ก็ถึงพิราลัยในเดือน ๙ ปีระกาสัปตศกนั้น จึงโปรดเกล้าฯให้พระยาศรีสุริยพาหะขึ้นไปปลงศพพระยาเชียงใหม่คำฟั่น ให้จมื่นสมุหพิมานขึ้นไปปลงศพพระเจ้านครลำปางดวงทิพ
ลุศักราช ๑๑๘๘ ปีจออัฐศก เจ้าเมืองเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย ก็ลงมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จึงทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯตั้งพระยาอุปราชพุทธวงศ์เป็นพระยาเชียงใหม่ ตั้งนายหนานมหาวงศ์บุตรพระยาเชียงใหม่น้อยธรรมเป็นพระยาอุปราช ตั้งนายน้อยมหาพรหมบุตรพระยาเชียงใหมคำฟั่นเป็นพระยาราชวงศ์ หนานไชยวงศ์บุตรพระยานครคำโสมเป็ยพระยานครลำปาง ตั้งนายขัติยบุตรพระยานครคำโสมเป็นพระยาอุปราช ตั้งนายคำแสนบุตรพระยานครคำโสมเป็นพระยาราชวงศ์ ตั้งนายน้อยคำภูบุตรพระยาอุปราชหมูล่าเป็นพระยาเมืองแก้ว ตั้งนายหนานพรหมาเป็นพระยาราชบุตร ที่เมืองลำพูนไชยนั้น ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯเลื่อนพระยาลำพูนบุญมาขึ้นเป็น พระเจ้าลำพูนไชย เจ้านครลำพูน ตั้งนายน้อยอินท์บุตรพระยานครคำโสมเป็นพระยาอุปราช ตั้งนายหนานมหายศบุตรนางสิงห์บุญธรรมน้องพระเจ้าลำพูนบุญมาเป็นพระยาราชวงศ์ ตั้งนายน้อยธรรมลังกาบุตรพระเจ้าลำพูนบุญมาเป็นพระยาราชบุตร แต่นายพิมพิสาร นายธรรมกิตติ วิวาทกับราชวงศ์คำมูล เอาตัวไว้ทำราชการฉลองพระเดชพระคุณอยู่ที่กรุงเทพฯ พระเจ้าลำพูนบุญมา พระยาเชียงใหม่ พระยานครลำปาง ก็กราบถวายบังคมลากลับขึ้นไป
พอถึงเมืองตาก อนุเวียงจันทน์คิดการเป็นกบฏ ยกกองทัพลงมาตีเมืองนครราชสีมา พระเจ้าลำพูนบุญมา พระยาเชียงใหม่ พระยานครลำปาง เกณฑ์ให้เจ้านายบุตรหลานยกขึ้นไปช่วยราชการทางเมืองเวียงจันทน์ พระเจ้าลำพูนบุญมาเป็นพระยาลำพูนได้ ๙ ปี เป็นพระเจ้าลำพูนได้ ๔ ปี รวมแต่ได้ครองเมืองลำพูน ๑๓ ปี ก็ถึงแก่พิราลัย พระยาเมืองแก้วน้อยกาวิละถึงแก่กรรมด้วย
ในศักราช ๑๑๘๙ ปีกุนนพศกนั้น จึงโปรดเกล้าฯให้พระยาศรีสุริยะพาหะขึ้นไปปลงศพพระเจ้าลำพูนบุญมา แล้วพระยาอุปราชน้อยอินท์บุตรพระยานครคำโสม พระยาราชวงศ์คำตัน เมืองแก้วน้อยลังกา บุตรพระเจ้าลำพูนบุญมา พระยาชัยสงครามหน่อเมืองบุตรพระเจ้าดวงทิพ ก็พากันลงมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จึงทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯตั้งพระยามหาอุปราชน้อยอินท์เลื่อนขึ้นเป็นพระยาลำพูนเจ้าเมืองลำพูน ตั้งพระยาราชบุตรคำตันเลื่อนขึ้นพระยาอุปราช ตั้งพระไชยสงครามเลื่อนขึ้นเป็นพระยาราชวงศ์ ตั้งนายน้อยธรรมลังกาเป็นพระยาเมืองแก้ว โปรดพระราชทานเครื่องยศโดยสมควรแก่ฐานาศักดิ์ทุกคน พระยาลำพูน พระยาอุปราช พระยาราชวงศ์ พระยาเมืองแก้ว ก็กราบถวายบังคมลากลับขึ้นไปรักษาเมือง
ลุศักราช ๑๑๙๙ ปีระกานพศก พระยานครลำปางไชยวงศ์รักษาเมืองได้ ๑๒ ปี ครั้น ณ วันเดือน ๗ ขึ้นค่ำ ๑ ก็ถึงแก่อสัญกรรม ในปีระกานพศกนั้น โปรดเกล้าฯให้พระยาพิพิธไอยศูรย์ขึ้นไปปลงศพพระยานครลำปาง
ฃลุศักราช ๑๒๐๐ ปีจอสัมฤทธิศก อุปราชน้อยขัติยบุตรพระยานครคำโสมลงมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จึงทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯตั้งอุปราชน้อยขัติยเลื่อนขึ้นเป็นพระยานครลำปาง ก็ถวายบังคมลากลับขึ้นไปถึงเมืองได้ ๖ เดือน ก็ถึงอสัญกรรม โปรดเกล้าฯให้พระยาสุเรนทรราชเสนา นายโนรีมหาดเล็กขึ้นไปปลงศพพระยานครลำปางขัติย แล้วพระยาลำพูนน้อยอินท์บุตรพระยานครคำโสม อุปราชคำตันบุตรพระเจ้าลำพูนบุญมาลงมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จึงทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯเลื่อนพระยาลำพูนน้อยอินท์บุตรพระยานครคำโสมเป็นพระยาลำปาง ตั้งพระยาอุปราชคำตันบุตรพระเจ้าลำพูนบุญมาเป็นพระยาลำพูน โปรดพระราชทานเครื่องยศโดยสมควรแก่ฐานาศักดิ์ และพระยานครลำปาง พระยาลำพูน ก็กราบถวายบังคมลากลับขึ้นไปรักษาเมือง
ลุศักราช๑๒๐๑ ปีกุนเอกศก ณ วันเดือน ๕ แรม ๘ ค่ำ พระยาเชียงใหม่ พระยาลำพูนมีใบบอกลงมาให้กราบบังคมทูลพระกรุณาว่า พระยาเชียงใหม่ แต่งให้พระยาอุปราชมหาวงศ์เป็นแม่ทัพ นายพิมพิสารเป็นปลักทัพ คุมกำลังนายไพร่ ๓,๓๐๐ คน พระยาลำพูนแต่ให้พระยาอุปราชเป็นแม่ทัพ นายน้อยคำวงศาเป็นปลัดทัพ คุมกำลังนายไพร่ ๙๐๐ คน รวม ๒ เมือง นายไพร่ ๔,๒๐๐ คนยกไปตีเมืองปุ เมืองสาด เมืองต่วน แตกกระจัดกระจาย จุดเผาบ้านเรือน กวาดต้อนครอบครัวชายหญิงใหญ่น้อยได้ ๑,๘๖๘ คนกับเครื่องสรรพศัสตราวุธ ช้างม้าโคกระบือ ลงมาถึงเมืองเชียงใหม่ ณ วันเดือน ๗ ขึ้น ๘ ค่ำ ปีกุนเอกศก แล้วพระยาเชียงใหม่ พระยาลำพูนมีใบบอกลงมาให้กราบทูลพระกรุณาว่า ครัวที่กวาดต้อนได้มานั้น ขอพระราชทานแบ่งปันแจกจ่ายให้แก่นายทัพนายกองเป็นคนชายหญิงใหญ่น้อย ๑๐๐๐ คน ส่งลงมาถวาย เป็นครัวเมืองต่วน พระยาต่วนเจ้าเมือง ๑ ครัว ชายหญิงใหญ่น้อย ๕๐๗ คน รวม ๕๐๘ คน เมืองสาด พระยาแก่นเจ้าเมือง ๑ ครัว ชายหญิงใหญ่น้อย ๑๘๓ คน รวม ๑๘๔ คน เมืองปุ ท้าวแก้วเจ้าเมือง ๑ ครัว ชายหญิงใหญ่น้อย ๑๗๕ คน รวม ๑๗๖ คน รวมชายหญิงใหญ่น้อย ๘๖๘ คน กับปืนหลัก ปืนคาบศิลาชุด ๔๗ กระบอก ม้า ๑๕ ม้า โค ๒๔๖ โค
ครั้นนำใบบอกขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท จึงโปรดเกล้าฯให้มีตราตอบขึ้นไปว่า ครอบครัวที่พระยาเชียงใหม่ พระยาลำพูนจะส่งลงมาถวายพร้อมทั้งปืนม้าโคนั้น ให้เอาไว้เป็นไพร่พลเมือง ซึ่งเป็นขึ้นแก่เมืองเชียงใหม่ จะได้สำหรับรักษาบ้านเมืองต่อไป พระยาเชียงใหม่ก็แบ่งปันครอบครัวทั้งปวงนั้น ให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นภูมิลำเนาตามท้องตราซึ่งโปรดเกล้าฯขึ้นไปทุกประการ
จากคุณ :
กัมม์
- [
8 ม.ค. 50 16:17:34
]
|
|
|