Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    แผ่นดินทอง - แผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ

    พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์


             ศักราช ๙๐๘ มะเมียศก (พ.ศ. ๒๐๘๙)  เดือน ๖ นั้นสมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้านฤพาน  จึงสมเด็จพระเจ้ายอดฟ้า พระราชกุมารท่านเสวยราชสมบัติพระนคตรศรีอยุธยา  ในปีนั้นแผ่นดินไหว

             ศักราช ๙๑๐ วอกศก (พ.ศ. ๒๐๙๑)  วันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕  เสด็จออกสนามให้ชนช้าง  และงาช้างพระยาไฟนั้นหักเป็น ๓ ท่อน  อนึ่งอยู่สองวัน ช้างต้นพระฉันทันต์ไล่ร้องเป็นเสียงสังข์  อนึ่งประตูไพชยนต์ร้องเป็นอุบาทว์  เถิงวันอาทิตย์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๘  สมเด็จพระเจ้ายอดฟ้าเป็นเหตุ  จึงขุนชินราชได้ราชสมบัติ ๔๒ วัน  และขุนชินราชและแม่ยั่วศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุ  จึงเชิญสมเด็จพระเทียรราชาธิราชเสวยราชสมบัติ ทรงพระนาม สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ  และครั้นเสวยราชสมบัติได้ ๗ เดือน  พระยาหงสาปังเสวกี ยกพลมายังพระนครศรีอยุธยาในเดือน ๔ นั้น  เมื่อสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเจ้า  เสด็จออกไปรบศึกหงสานั้น  สมเด็จพระองค์มเหสี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระราชบุตรีเสด็จทรงช้างออกไปโดยเสด็จด้วย  และเมื่อได้รบศึกหงสานั้น ทัพหน้าแตกมาประทัพหลวงเป็นโกลาหลใหญ่  และสมเด็จพระองค์มเหสี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระราชบุตรีนั้น  ได้รบด้วยข้าเศิกเถิงสิ้งชนม์กับคอช้างนั้น  และเศิกหงสาครั้งนั้นเสียสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้า และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระราเมศวรไปแก่หงสา  และจึงเอาพระยาปราบและช้างต้นพระยานุภาพ  ตามไปส่งให้พระยาหงสาเถิงเมืองกำแพงเพชร  และพระยาหงสาจึงสิ่งพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้า สมเด็จพระราเมศวรเจ้ามายังพระนครศรีอยุธยา

              ศักราช ๙๑๑ ระกาศก (พ.ศ. ๒๐๙๒)  ณ วันเสาร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๒  ได้ช้างเผือกพลายตำบลป่าตะนาวศรีสูง ๔ ศอกมีเศษชื่อ ปัจจัยนาเคนทร์  ครั้งนั้นแรกให้ก่อกำแพงพระนครศรีอยุธยา

             ศักราช ๙๑๒ จอศก (พ.ศ. ๒๐๙๓)  เดือน ๘ ขึ้น ๒ ค่ำ  ทำการพระราชพิธีปฐมกรรมสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเจ้า  ตำบลท่าแดง  พระกรรมวาจาเป็นพฤติบาศ  พระพิเชฎฐ์เป็นอัษฎาจารย์  พระอินโทรเป็นกรมการ

             ศักราช ๙๑๔ ชวดศก (พ.ศ. ๒๐๙๕)  ครั้งนั้นให้แปลงเรือแซเป็นเรือชัยและหัวสัตว์

             ศักราช ๙๑๕ ฉลูศก (พ.ศ. ๒๐๙๖)  เดือน ๗ นั้น  แรกทำการพระราชพิธีมัธยมกรรม  สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ  ตำบลชัยนาทบุรี

             ศักราช ๙๑๖ ขาลศก (พ.ศ. ๒๐๙๗)  เสด็จไปวังช้างตำบลบางละมุง  ได้ช้างพลายพัง ๖๐ ช้าง  อนึ่งในเดือน ๑๒ นั้น  ได้ช้างพลายเผือกตำบลป่ากาญจนบุรีสูง ๔ ศอกมีเศษ  ชื่อพระคเชนโทรดม

             ศักราช ๙๑๗ เถาะศก (พ.ศ. ๒๐๙๘)  วันจันทร์ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๗ ได้ช้างเผือกพลาย ตำบลเพชรบุรี สุง(สี่ศอกคืบหนึ่ง  ช้างชื่อพระ)แก้วทรงบาศ

             ศักราช ๙๑๘ มะโรงศก (พ.ศ. ๒๐๙๙)  เดือน ๑๒ (แต่งทัพไปละแวก)  พระยาองค์สวรรคโลกเป็นทัพหลวง  ถือพล ๓(๐,๐๐๐  ให้พระ)มหามนตรีถืออาญาสิทธิ์  พระมหา(เทพถือวัวเกวียน ๑๑...)  ฝ่ายทัพเรือไซร้ พระยาเยาวเป็นนายกอง  ครั้งนั้นลมพัดขัด  ทัพเรือมิทันทัพบก  และพระยารามลักษณ์ (ซึ่ง) เกณฑ์เข้าทัพบกนั้น เข้าบุกทัพในกลางคืน  และทัพพระยารามลักษณ์นั้นแตกมาประทัพใหญ่  ครั้งนั้นเสียพระยาองค์สวรรคโลกนายกองและช้างม้ารี้พลมาก

             ศักราช ๙๑๙ มะเส็งศก )พ.ศ. ๒๑๐๐)  วันอาทิตย์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๔ เกิดเพลิงไหม้พระราชวังมาก  อนึ่งในเดือน ๓ นั้น  ทำการพระราชพิธีอาจาริยภิเษก  และทำการพระราชพิธีอินทราภิเษกในวังใหม่  อนึ่งเดือน ๔ นั้น  พระราชทานสัตดมหาทาน  และให้ช้างเผือกพระราชทานมีกองเชิงเงิน ๔ เท้าช้างนั้น เป็นเงิน ๑๖๐๐ บาท  และพระราชทานรถ ๗ รถ  เทียมด้วยม้า  และมีนางสำหรับรถนั้นเสมอรถ ๗ นาง  อนึ่งในเดือน ๗ นั้น  เสด็จไปวังช้าง ตำบลโตรกพระ ได้ช้างพลายพัง ๖๐ ช้าง

             ศักราช ๙๒๑ มะแมศก (พ.ศ. ๒๑๐๒)  เสด็จไปวังช้างตำบลแสนตอ  ได้ช้างพลายพัง ๔๐ ช้าง

             ศักราช ๙๒๒ วอกศก (พ.ศ. ๒๑๐๓)  เสด็จไปวังช้างตำบลวัดไก่  ได้ช้างพลายพัง ๕๐ ช้าง  อนึ่งอยู่ในวันเสาร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๒  ได้ช้างเผือกและตาช้างนั้นมิได้เป็นเผือก  และลูกติดมาด้วยตัวหนึ่ง

             ศักราช ๙๒๓ ระกาศก (พ.ศ. ๒๑๐๔)  พระศรีศิลป์บวชอยู่วัดมหาธาตุ  แล้วหนีออกไปอยู่ตำบลม่วงมดแดง  และพระสังฆราชวัดป่าแก้วให้ฤกษ์แก่พระศรีศิลป์  ให้เข้ามาเข้าพระราชวัง ณ วันเสาร์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๙  ครั้งนั้นพระยาสีหราชเดโชเป็นโทษรับพระราชอาชญาอยู่  และพระยาสีหราชเดโชจึงให้ไปว่าแก่พระศรีศิลป์ว่า  ครั้นพ้นวันพระแล้วจะให้ลงพระราชอาชญาฆ่าพระยาสีหราชเดโชเสีย  และขอให้เร่งยกเข้ามาให้แต่ในวันพระนี้  และพระศรีศิลป์จึงยกเข้ามาแต่ในวันพฤหัสบดี แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๘ เพลาเย็นนั้นมาแต่กรุง  ครั้งรุ่งขึ้นเป็นวันพระนั้น  พระศรีศิลป์เข้าพระราชวังได้ครั้งนั้นได้  พระศรีศิลป์มรณภาพในพระราชวังนั้น  ครั้นแลรู้ว่าพระสังฆราชวัดป่าแก้วให้ฤกษ์แก่พระศรีศิลป์เป็นแม่นแล้วไซร้  ก็ให้เอาพระสังฆราชป่าแก้วไปฆ่าเสีย

             ศักราช ๙๒๔ จอศก (พ.ศ. ๒๑๐๕)  เสด็จไปวังช้างตำบลไทรย้อย  ได้ช้างพลายพัง ๗๐ ช้าง

             ศักราช ๙๒๕ กุนศก (พ.ศ. ๒๑๐๖)  พระเจ้าหงสานิพัตรยกพลลงมาในเดือน ๑๒ นั้น  ครั้นเถิงวันอาทิตย์ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๒  พระเจ้าหงสาได้เมืองพิษณุโลก  ครั้งนั้นเมืองพิษณุโลกข้างแพง ๓ สัดต่อบาท  อนึ่งคนทั้งปวงเกิดทรพิษตายมาก  แล้วพระเจ้าหงสาจึงได้เมืองฝ่ายเหนือทั้งปวง  แล้วจึงยกพลลงมายังกรุงศรีอยุธยา  ครั้งนั้นฝ่ายกรุงพระมหานครศรีอยุธยาออกเป็นพระราชไมตรี  และสมเด็จพระมหากษัตริย์เจ้าทั้งสองฝ่ายเสด็จมาทำสัตยาธิษฐานหลั่งน้ำษิโณฑก ตำบลวัดพระเมรุ  แล้วจึงพระเจ้าหงสาขอเอาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระราเมศวรเจ้า  และช้างเผือก ๔ ช้างไปเมืองหงสา  ครั้งนั้นพระยาศรีสุลต่าน พระยาตานีมาช่วยการเศิก  พระยาตานีนั้นเป็นขบถและคุมชาวตานีทั้งปวงเข้าในพระราชวัง  ครั้นแลเข้าในพระราชวังได้  เอาช้างเผือกมาขี่ยืนอยู่ ณ ท้องสนาม  แล้วจึงลงช้างออกไป ณ ทางตะแลงแกง  และชาวพระนครเอาพวนขึงไว้ต่อรบด้วยชาวตานี ๆ นั้นตายมาก  และพระยาตานีนั้นลงสำเภาหนีไปรอด  ในปีเดียวนั้นพระเจ้าล้านช้างให้พระราชสารมาถวายว่า  จะขอสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ พระเทพกระษัตรเจ้า  และทรงพระกรุณาพระราชทานแก่พระเจ้าล้านช้าง  และครั้งนั้นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระเทพกระษัตรเจ้าทรงพระประชวร  จึงพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระแก้วฟ้าพระราชบุตรีให้แก่พระเจ้าล้านช้าง

             ศักราช ๙๒๖ ชวดศก (พ.ศ. ๒๑๐๗)  พระเจ้าล้านช้างจึงให้เชิญสมเด็จพระแก้วฟ้าพระราชบุตรี  ลงมาส่งยังพระนครศรีอยุธยา  และว่าจะขอสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ  พระเทพกระษัตรเจ้านั้น  และจึงพระราชทานสมเด็จพระเทพกระษัตรเจ้าไปแก่พระเจ้าล้านช้าง  ครั้งนั้นพระเจ้าหงสารู้เนื้อความทั้งปวงนั้น  จึงแต่ทัพมาซุ่มอยู่กลางทาง  และออกชิงเอาสมเด็จพระเทพกระษัตรเจ้าได้ไปถวายแก่พระเจ้าหงสา  อนึ่งในปีนั้นน้ำ ณ กรุงพระนครศรีอยุธยานั้นน้อยนัก

             ศักราช ๙๓๐ มะโรงศก (พ.ศ. ๒๑๑๑)  ในเดือน ๑๒ นั้น  พระเจ้าหงสายกพลมาแต่เมืองหงสา  ครั้นเถิงวันศุกร์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑  พระเจ้าหงสามาเถิงกรุงพระนครศรีอยุธยา  ตั้งทัพตำบลหล่มพลี  และเมื่อเศิกหงสาเข้าล้อมพระนครศรีอยุธยานั้น  สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเจ้าทรงพระประชวรนฤพาน  และครั้งนั้นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระมหินทราธิราช  ตรัสมิได้นำพาการเศิก  แต่พระเจ้าลูกเธอ พระศรีเสาวนั้นตรัสเอาพระทัยใส่  และเสด็จไปบัญชาการที่จะรักษาพระนครทุกวัน  ครั้นแลสมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าตรัสรู้ว่า  พระเจ้าลูกเธอศรีเสาวเสด็จไปบัญชาการเศิกทุกวันดังนั้นก็มิไว้พระทัย  ก็ให้เอาพระเจ้าลูกเธอพระศรีเสาวนั้นไปฆ่าเสีย ณ วัดพระราม

             ครั้งนั้นการเศิกซึ่งจะรักษาพระนครนั้นก็คลายลง  ครั้งเถิงศักราช ๙๓๑ มะเส็งศก (พ.ศ. ๒๑๑๒)  ณ วันอาทิตย์ แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๙ เพลารุ่งแล้ว ๓ นาฬิกา ก็เสียกรุงพระมหานครศรีอยุธยาแก่พระเจ้าหงสา  ครั้นเถิงวันศุกร์ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒  ทำการปราบดาภิเษกสมเด็จพระธรรมราชาธิราชเจ้าเสวยราชสมบัติกรุงพระนครศรีอยุธยา  อนึ่งเมื่อพระเจ้าหงสาเสด็จกลับคืนไปเมืองหงสานั้น  พระเจ้าหงสาเอาสมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าขึ้นไปด้วย



    แผ่นดินทอง - เหตุเกิดเมื่อศักราช ๙๐๗ พระเทียรราชาได้ราชสมบัติ
    http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/01/K4014738/K4014738.html
    แผ่นดินทอง - ภูมิสภาน และตำนานกรุงเก่า
    http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/05/K4349426/K4349426.html
    ไฟล์ภาพจากหอมรดกไทย
    http://www.tv5.co.th/service/mod/heritage/king/ayuthaya/ayuthaya3.htm

     
     

    จากคุณ : กัมม์ - [ 5 ก.พ. 50 10:35:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom