Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เอามาฝากขอรับ เหมาะสำหรับโกวเนี้ย หรือ นึ่งเฮียบที่ 30 up

    ในฐานะผู้ชายดีๆ ที่หายากคนหนึ่ง ผมรู้สึกเห็นใจสตรีเพศจริงๆ ครับ…ช่วงเวลาในการเลือกคู่ของเธอทั้งหลายช่างสั้นยิ่งนัก


    เพราะช่วงอายุขัยของวัยสาวเริ่มผลิบานเมื่อประมาณ 13 ปี แล้วมาสุดเขตแดนเมื่อวัยสามสิบ…วันเกิดครบรอบ 30


    จึงเป็นตัวเลขแห่งความสะเทือนขวัญ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก…หลายคนไม่อยากพูดถึง คนอื่นก็ไม่ควรเอ่ยปากด้วย…


    ถือเป็นมารยาทสังคมอย่างหนึ่ง ยกเว้นพวกมีวาจาเป็นอาวุธที่ชอบถามว่า " ปาอะไรเอ่ยที่ผู้หญิงกลัวที่สุด " เฉลย "


    ปาเข้าไปสามสิบ ยังไม่มีผัว "…ใครดันถาม มันผู้นั้นสมควรตาย "


    ตอนเรียนหนังสือเป็นนักเรียนนักศึกษา คุณพ่อคุณแม่ก็สอนนักสอนหนาว่า " อย่าริรักในวัยเรียน "


    " ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดี จบแล้วค่อยมีแฟน " ทั้งๆ ที่ไอ้ตอนเรียนหนังสือมีโอกาสพบปะเพศตรงข้ามมากหน้าหลายตา


    ก็หาได้สนใจไม่ เป็นคนประเภท " รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน " ทุ่มเทชีวิตให้แก่การศึกษา…เมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชา เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน


    หลังจบการศึกษา ประกอบสัมมาอาชีวะ ขณะเดียวกันก็ใช้เวลาว่าง "เลือกสรร - ควานหา"


    ผู้จะมาเป็นเจ้าบ่าวในอนาคต ตั้งสเปกว่าต้องได้แฟนหนุ่มประเภทซูเปอร์เพอร์เฟค อย่างวิลลี่ แมคอินทอทหรือจอห์นนี่ แอนโฟเน่


    หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องมาดแมนแฮนซั่ม หล่อล่ำดำขรึมถึงจะได้มาตรฐาน…ไอ้ประเภทหุ่นอัฟริกา หน้าติมอร์


    อย่าได้สเออะหน้ามาให้เห็น…ไม่มีทางได้แอ้มหรอก


    จากวันเป็นเดือน - จากเดือนเป็นปี ความรักไม่มีวี่แววคืบหน้าแม้วันเวลาผ่านไป…


    เพราะที่ทำงานทั้งห้องมีผู้ชายอยู่แค่ 5 คน - เจ้านายก็มีเมียแล้ว…ไม่อยากตกเป็นภรรยาบุญธรรม สองคนดันเป็นเกย์…


    อีกคนยังลังเลอยู่ว่าจะเป็นดีหรือเปล่า…คนสุดท้ายเป็นชายแท้ แต่กำลังถูกแย่งตัวระหว่างเกย์สองคนอยู่


    ไม่อยากเข้าไปเป็นมือที่สาม…นั่งรถมาทำงานก็สองชั่วโมงครึ่ง – กลับอีกสองชั่วโมงสี่สิบนาที กลับถึงบ้านหมดสิ้นกำลัง


    ขอนอนเอาแรงก่อน ขณะที่งีบหลับอย่างสนิท ภาพในความฝันที่เธอเห็นคือสถาบันการศึกษาที่เธอจบมา…แหล่งที่มีเพศตรงข้ามชุกชุม


    เธอหวนรำลึกนึกถึงผู้ชายดีๆ ที่เขาเคยอุตส่าห์มาเฝ้าตามจีบตามง้อตามตื๊อ แล้วเราเล่นตัวจนเคยตัว


    ในที่สุดผลประโยชน์ตกอยู่ที่เพื่อนสนิทเป็นที่เรียบร้อย…แหม ! ไม่น่าเลย ยิ่งคิดยิ่งเสียดายจริงจริ๊ง…ตื่นพอดี เจอโลกแห่งความจริง


    ดำเนินชีวิตไปแต่ละวัน ยิ่งเข้าหน้าหนาว ซองสีชมพูกลิ่นหอมๆ จากเพื่อนๆ เริ่มทยอยมา


    ตามหลังซองกฐินซองผ้าป่าที่เพิ่งหมดฤดูกาล…พอไปในงาน ดันเจอคำถามสะกิดใจอีกว่า


    "เมื่อไรจะถึงคิวแจกการ์ดของตัวบ้างล่ะ" … "โถ! การ์ดแต่งงานน่ะพิมพ์เสร็จแล้ว


    เหลือแต่ชื่อเจ้าบ่าวที่ยังไม่ได้เลือกว่าจะเป็นใคร เพราะครั้งนี้เขาเปลี่ยนระบบเลือกตั้งใหม่


    ยังงงๆ เรื่องปาร์ตี้ลิสต์อยู่เลย" เอ๊ะ…เกี่ยวอะไรกัน!…ในใจก็คิดว่า " ก็ฉันอยู่เป็นโสดนี่มันไม่ดียังไง หนักกระบา_ใครรึเปล่า"


    เคยตั้งคำถามกันไหม…ว่าทำไมต้องแต่งงาน (กันด้วย !)…คำตอบจากเพื่อนๆ ที่แต่งงานแล้วหรืออยากจะแต่งงานอาจมีหลากหลาย…



    " อยู่คนเดียวมันว้าเหว่ อยากมีใครสักคนไว้แก้เหงา " …รายนี้เห็นผู้ชายเป็นตัวคลายเหงา

    " รายได้ไม่พอใช้ หาคนช่วย (หาเงิน) " …ผมกลัวมาช่วยผลาญเงินมากกว่า

    " อยากมีลูก ก็ต้องหาพ่อก่อนสิ "…เกิดได้ลูกแล้ว จะทิ้งพ่อรึเปล่าเนี่ยะ

    " โรงงานพร้อมแล้ว ขาดผู้ประกอบการ "…เจ้าของคำตอบกำลังหาผู้ร่วมลงทุน

    ฯลฯ ๆๆๆๆๆ



    อันว่า " ชีวิตคู่ " อยู่ไปเพื่อสิ่งใด ?


    ชีวิตคู่ คือ การเติมเต็มซึ่งกันและกัน ดังนั้นเมื่อมีชีวิตสมรสแล้ว ครึ่งหนึ่งของชีวิตเราจะหายไป


    ในส่วนที่ขาดจะมีครึ่งชีวิตของอีกฝ่ายมาเติมแต่งแห่งพื้นที่ว่างนั้น


    ขณะที่ครึ่งชีวิตของเราที่หายก็มิได้สูญสลายไปไหน มันก็ไปเติมที่ว่างของคู่เรานั่นเอง


    จุดมุ่งหมายของการแต่งงานคือการใช้ชีวิตคู่ให้มีความสุขมากขึ้นและมีชีวิตที่ดีขึ้น


    เมื่อเป็นสามีภรรยาแล้วต้องมีความสุขมากกว่าตอนอยู่คนเดียว ถ้าตอนอยู่ด้วยกันแล้วมีแต่ความทุกข์


    ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ก็ไม่รู้ว่าจะแต่งงานไปหาพระแสงดาบคาบค่ายที่ไหน…อยู่คนเดียวมันส์กว่า


    ชีวิตคู่ต้องเกื้อกูลกันและกัน ความก้าวหน้าของสามี ภรรยาต้องมีส่วน


    อย่างน้อยก็ปลอบใจในยามที่สามีเครียดจากการงาน ชีวิตภรรยาถ้าไม่คิดเอาดีในทางโลกก็เจริญในทางธรรม


    กำลังใจต้องได้จากสามีเช่นกัน อย่างน้อยก็อย่าหาทุกข์มาสุมเพิ่ม…ถ้าคู่รักของเราประกอบมิจฉาอาชีวะ ติดเหล้า


    เล่นการพนัน โกงบ้านกินเมือง ชีวิตอีกฝ่ายก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น


    เพราะฉะนั้นเวลาเลือกแฟน แทนที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องรูปร่างหน้าตา ฐานะการเงิน


    ยี่ห้อรถเก๋งที่ใช้อยู่ ฯลฯ เปลี่ยนเป็นเงื่อนไขแค่สองข้อที่จำแสนง่าย คือ



    หนึ่ง – สุขใจยามอยู่ใกล้ชิด

    สอง – คู่ช่วยคิดชีวิตก้าวหน้า



    เพราะชีวิตคู่คือการเติมเต็มชีวิตแก่กันและกัน…หาใช่เป้าหมายเพื่อการเสริม เพิ่มความเสียว…เพราะอยู่คนเดียวก็เสียวได้ ไม่ง้อใครให้เสียเวลา


    ไม่เสียชาติเกิดหรอกครับ ถ้าคุณจะใช้ชีวิตเป็นโสด - ถือคติประจำใจว่า

    " อยู่เป็นโสด ดีกว่ามีผัวเลว "


    (update 25 กันยายน 2001)
    [ ที่มา...บทความเพศศึกษา คอลัมน์ " ติวรักให้เต็มร้อย "
    นิตยสารกุลสตรี ฉบับปลายเดือนสิงหาคม 2544 ]

    จากคุณ : ประมุขพรรคกระยาจกรุ่นปัจจุบัน - [ 14 ก.พ. 50 22:00:55 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom