ความคิดเห็นที่ 1 ผมเองเริ่มเรียนภาษาใหม่ อีกครั้งเมื่ออายุ 17 เรียนจากหนังสือ เรียนพูด 96 ชั่วโมงด้วยตัวเอง ของอาจารย์ Frank เรียนก่อนไปเมืองนอก ไปตอน 18 วันนี้ย่าง ๆ นึ่ง ๆ 36 ครับผม เกือบ 19 ปีที่คลุกคลีมา ผมยังรู้สึกเลยว่า ถ้าได้คุ้นเคยกับภาษาตอนเด็ก ๆ หรือมีคนมาบอก มาแนะ ผมคงดีกว่านี้ ดังนั้นวันนี้ ผมมีโอกาส ผมจึงอยากมาแนะนำกับน้อง ๆ เพื่อน ๆ ผมจึงเชื่อว่าเรียนผ่านประโยคสำเร็จรูป พร้อมอธิบายไปเรื่อย ๆ + คุณไปหาเรียนเพิ่มเกี่ยวกับการออกเสียงภาษาอังกฤษ ผมว่า work กว่า อย่างน้อย ทำอะไรได้ จะทำครับ @@ จากคุณ : tonmelb - [ วันมาฆบูชา 21:54:32 A:203.209.121.195 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ คนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ยังติดกับดักการสอบต่าง ๆ เพื่อเข้าเรียนในระดับต่าง ๆ จนไม่ต้องทำอะไรในชีวิตแล้ว ( ขอให้น้อง ๆแบ่งเวลามาเรียนภาษาเพื่อการสื่อสาร เพื่อไว้สัมภาษณ์งาน ไว้ศึกษาต่อ etc) สำหรับคนวัยทำงานนั้นงานที่ตัวเองทำ ภาษาพอพูดได้ เข้าใจได้สื่อสารก็ใช้ได้แล้ว เพราะผมเชื่อว่า เจ้านายคุณสนใจ--- เนื้อหาของงาน, ความสำเร็จของงานมากกว่าความลึกซึ้งของภาษาคุณ— และอยากให้เป็นเช่นนั้น ผมเอาใจช่วยทั้งตัวคุณ และตัวผมด้วยครับ คอลัมน์เก่าครับ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4868455/K4868455.html (ท่านที่รู้เเล้ว อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ เผื่อคนอื่นยังไม่ได้อ่าน กระทู้นี้อยู่ยาวมาก ต้องใช้เวลาอ่าน เเละเขาเก็บไว้ห้องนี้นานเเล้วเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะลบเวลาไหน รีบเข้ามานะครับ) พบกันครับ P.S. 1. นอกจากจะเป็นเรื่องภาษา ผมเองก็หวังว่าการนำประสบการณ์การทำงาน ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องทั่ว ๆ ไป ฯลฯ มา share กัน น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย 2. ส่งคำติ แนะนำมาได้ครับ ผมเองไม่อาจจะออกตัวได้ว่า เป็นเซียนภาษาอังกฤษ แค่ I love English. เท่านั้น และอยากให้น้อง ๆ คนรุ่นใหม่เก่งภาษากัน พูดดี เขียนเก่ง ฟังออก อ่านไม่มีปัญหา หวังเช่นนี้มาตลอด จะ post ข้อมูลความรู้เนื้อหาเพิ่มเติม ขอเชิญเลยนะครับ จากคุณ : tonmelb - [ วันมาฆบูชา 21:59:03 A:203.209.121.195 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากครับ คุณ tonmelb ที่แนะนำกระทู้ดีๆ ให้ (หรือต้องเรียกว่าอาจารย์ดีหว่าแหะๆ) ^^" ผมรักห้องนี้มากๆ ทั้งๆ ที่ก็เพิ่งรู้จักเวบนี้ได้ไม่นานนัก นั่นคือเมื่อตอนฝึกงานช่วงปิดเทอม summer ที่แล้วครับ (2549) พี่ๆ ที่เป็นนักแปลแนะนำเวบนี้มาให้ผมลองมาดู ปรากฎว่าชอบมากครับ คือได้รับความรู้และความกรุณาจากพวกพี่ๆ นักแปลทุกคนในนี้มาก ถึงแม้ว่าตัวผมเองจะไม่ค่อยได้โพสกระทู้เพื่อขอความช่วยเหลือมากเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกว่า "เออ พี่ๆ เค้าก็ขยันตอบดีเนอะ งานก็เยอะแล้วยังเข้ามาตอบอีก" อารมณ์นั้น... ดีใจครับที่ได้เป็นสมาชิกในห้องนี้ด้วยเหมือนกัน ^^ และขอบคุณพี่ๆ ทุกคนอีกครั้งสำหรับวิทยาทานที่มอบให้ จากคุณ : ลมจิ๋ว (ลมพฤกษา) - [ 4 มี.ค. 50 22:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จำไม่ได้ว่าเคยเขียนเอาไว้ที่ไหน นานมาแล้วล่ะครับคุณต้น เรื่องการเรียนภาษากับการฝึกเล่นดนตรี... ซึ่งกับเทียบเอากับวิธีการเรียนทั้งสองอย่างนี่ของผมเองนี่ล่ะครับ คือทุกอย่างมันก็เริ่มจากหลักการพื้นฐาน อย่างภาษาอังกฤษนี่ มันก็เรียนเอบีซี เริ่มต้นเหมือนๆกันทุกคน ตั้งแต่ตัวอักษรโดดๆจนผสมคำ อ่านออกเสียงตามการผสมคำ จนไปถึงความหมายของคำ หรืออย่างการหัดดนตรีนี่ ก็เริ่มจากการเคาะจังหวะ อ่านโน้ต ฯลฯ (บางคนก็ข้ามการอ่านโน้ตไปเลย ก็ลุยถั่วไปเรื่อยไปตามเรื่องตามราว) ที่เรียนๆกันมานี่ ผมมองนะ ก็เพื่อเป็นพื้นฐานให้ไปฝึกฝนต่อยอดเอาเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาให้คนอื่นมาสอนอยู่ร่ำไป ทีนี้มันก็ขึ้นอยู่กับบุคคลแล้วล่ะ ว่าจะมีแรงผลักดันดั้นดนด้วยตัวเองไปจนถึงแค่ไหน อย่างคุณพ่อผมตอนที่ยังมีชีวิตอยู่นี่ เป็นนักดนตรี เป็นครูสอนดนตรี แต่ก็สอนผมแค่การเคาะจังหวะกับการอ่านโน้ต เท่านั้นเอง ก็ไปเรียนเพิ่มเติมกับครูคนอื่นๆอีกราวๆสองสามปี พอโตมาก็อาศัยความรู้กับทักษะเท่าที่หัดมา เอามาหัดต่อเอาเอง หรืออย่างภาษาอังกฤษที่ผมเรียน อย่างเป็นทางการก็จนถึงแค่ ม.ห้า หลังจากนั้นก็ไปลุยถั่วเอาเองเหมือนกัน จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 5 มี.ค. 50 22:55:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ฝึกกีตาร์ ผมก็ใช้วิธีเดียวกับที่คุณต้นว่ามานี่ล่ะ คือมันก็คล้ายๆกับประโยคสำเร็จรูปอย่างคุณต้นว่า จำได้ว่าผมใช้เวลาหลายเดือน เกือบเทอมนึงได้มั้งตอนเรียนหนังสือ นั่งแกะไลน์กีตาร์จาก Eric Clapton Unplugged นี่ล่ะ ก็วิธีทื่อๆคือฟังจากเทปแล้วก็เล่นตาม ตามไม่ทันก็กรอเทปกลับ ฟังใหม่ (กรอจนเครื่องเล่นเทปของเพื่อนร่วมหอพักเกือบเจ๊ง) โน้ตเนิ้ต ข่งคอร์ดอะไรนี่ ก็ไม่รู้หรอก เอาให้เสียงเหมือนเป็นใช้ได้ ซึ่งมันก็ได้ผลนะครับ จนป่านนี้ก็ยังใช้วิธีนี้อยู่ โน้ตเพลงตอนนี้ผมอ่านแทบไม่เป็นแล้วล่ะ (คือมันก็ยังอ่านได้ แต่ช้ามาก) การลุยถั่วแบบนี้นี่ ผมว่าได้ผลเร็วนะ ถ้าตั้งใจจริงมันก็ไปได้เร็ว ดัดแปลง  improvise ได้ระดับนึง แต่พอถึงจุดนึงมันชักจะเริ่มอิ่มตัว เริ่มไม่รู้จะเล่นอะไรต่อ ไม่รู้จะฝึกอะไรต่อ ถ้าถึงจุดนี้ก็คงต้องเริ่มหาเรื่องไปเล่นกับคนอื่น ไปปะทะสังสรรค์กับคนอื่นๆบ้าง หาความคิดใหม่ๆ แนวทางใหม่ๆเพื่อไม่ให้ตัวเอง "ตัน" ถ้าถึงจุดนี้ก็อาจจะต้องเริ่มมองหา "ครู" "ครู" ที่ผมว่านี่ ไม่จำเป็นต้องไปนั่งเรียนตามโรงเรียนหรืออะไรอย่างนั้น (หรืออาจจะไปนัั่งเรียนตามโรงเรียนก็ได้ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องของอัตตาหรืออะไรทางนั้น) อาจจะเป็นเพื่อนๆหรือคนที่สนใจในแนวทางเดียวกัน หรือแม้กระทั่งไปทำอะไรอย่างอื่นๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเลย มันก็น่าจะได้ความคิดใหม่ๆได้เหมือนกัน อย่างเรื่องภาษาอังกฤษนี่ "ครู" ของผมก็เห็นจะเป็นนิยายล่ะมั้งครับ อ่านเยอะอยู่พักนึง หลังๆมานี่ก็ชักจะไม่ได้อ่าน อาศัยว่าเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลา ก็นับว่ายังไม่เลวร้าย ความรู้ทักษะไม่ฝ่อไปเฉยๆ ว่างั้น (ยิ่งพักหลังๆนี่ต้องมาทำงานกับลูกน้องสิบกว่าคน ก็ต้องหาวิธีพูดแบบลูบหัวลูบหลัง ต้อง "ปะทะสังสรรค์" กับทั้งเจ้านายตัวเองและเจ้านายคนอื่น ทักษะประเภท How to give 'the finger' with another finger นี่ต้องใช้บ่อยๆ ก็เป็นการฝึกภาษาไปอีกแบบ :-) จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 5 มี.ค. 50 23:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องการเรียนการสอนภาษาในบ้านเรานี่ ก็ไม่รู้นะ ผมว่ามันไม่ได้อยู่ที่หลักสูตรหรอก เพราะอย่างคุณต้น อย่างหลายๆท่าน หรือทุกๆท่าน ถ้าเรียนอยู่เมืองไทย ก็เรียนหลักสูตรเดียวกันกับที่เพื่อนๆรุ่นเดียวกันเรียนนี่แหละ หรือจริงๆแล้วอาจจะไม่ได้อยู่ที่ครูด้วยซ้ำไป (โอเคล่ะ ถ้าได้ครูเป็นน่าถีบสปีกเกอร์-native speaker-ก็อาจจะดีกว่า แต่บางที...หลายๆทีมันก็เลือกไม่ได้นี่นะ) ...เขียนๆมาจนผมจำไม่ได้แล้วแฮะ ว่าจริงๆแล้วอยากจะสื่ออะไร ขอตัวไปเป็นหวัดงึมงำงึมงำต่ออีกซักคืนนึงดีกว่า เอาไว้สมองปราศจากขี้มูกแล้วอาจจะนึกออกกลับมา hijack กระทู้คุณต้นต่อ ราตรีสวัสดิ์ครับ จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 5 มี.ค. 50 23:28:47 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ติดตาม ตามติด -_-" จากคุณ : รักปิดรักเปิด - [ 8 มี.ค. 50 13:34:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถั่วอยู่ตรงไหนครับพ่อบูมเมอร์ ผมจะลุยมั่ง กึ๋ยๆๆๆ จากคุณ : ลุดวิก - [ 8 มี.ค. 50 21:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ฮ่ะ ฮ่ะ ความจริงถั่วมันมีอยู่ทุกที่ล่ะครับเฮียลุดวิก มันอยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นถั่วหรือเปล่าเท่านั้นเอง ภาษากำลังภายในเขาว่า ถั่วอยู่ที่ใจครับ ถ้าไปถึงระดับไร้ใจไร้ถั่วนี่ (i.e., ถั่วไร้สำนึก) ก็ถือว่าเป็นสุดยอดมรรคาบู๊แล้วล่ะ ...เมื่อเช้าได้รับอีเมลฉบับนึงจาก HR ส่งให้ผู้จัดการทั้งหลายเพื่อจะได้ไปเผยแพร่กับลูกน้อง มาถึงบรรทัดนึงเค้าว่า How to use: Read and share with your team อ่านแล้วก็เกิดอาการขำเล็กน้อย เพราะดันไปนึกถึงคำเตือนบนถุงถั่ว ประมาณ Caution: Contains nuts อะไรอย่างนั้น ไอ้อย่างนี้นี่อาจจะพอจัดได้ว่า ถั่วอยู่ทีใจ แต่ยังไม่ถึงขั้นไร้ใจไร้ถั่ว :-) จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 8 มี.ค. 50 22:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีคุณต้น พ่อบูม คุณลุดวิก คุณรักปิดรักเปิด(ยังไม่เคยเจอกันไว้คราวหน้า) พ่อบูมวาดแนวเปรียบเทียบเรียนภาษากับเกากีตาร์ ความที่ตอนนี้กำลังบ้าตีกบ มานั่งคิดๆ แล้วว่าเรียนภาษานี่เอามาเทียบเหมือนตีกบได้เลยล่ะ แต่แรกหัดต้องปูพื้นฐาน ต้องไปไหว้ครู(จ่ายเงิน) เรียนรู้ให้ได้สวิงพื้นฐานมาก่อน เหมือนกับเรียนเอบีซี สะกด ออกเสียง แกรมม่าร์  แล้วก็ต้องไปฝึกตีบนสนามไดรฟ์ให้กล้ามเนื้อจำวงสวิงให้ดี เหมือนต้องหัดผสมเสียงออกเสียง หัดอ่าน จำคำศัพท์ หัดฟังเสียง  พอชักได้แล้วทีนี้มีออกรอบไปตีบนสนามจริง ในสนามจริงที่ทางมันไม่ราบเรียบ มีสิ่งกีดขวางสารพัน ต้องคิดหลบหลีก วางลูก เหมือนพอหัดผสมคำได้แล้วต้องใช้โดยการออกเสียงจริงๆ โต้ตอบกับคนอื่นใช้ในสถานการณ์จริง ในการตีกบนั้น ข้าพเจ้าหัดมาก็นานพอใช้ มัวแต่ตีเล่นๆ กับเพื่อนฝูงอยู่ซะ ฝีมือไม่พัฒนาขึ้นเท่าไร จนกระทั่งปีนี้ ลงแข่งเอาจริงเอาจัง ถึงพบว่า เวลาเล่นแข่งเเล้วเราสามารถเล่นดีกว่าที่คิดจนตัวเองแปลกใจ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะในการแข่งโดยเฉพาะ match play เราต้องตั้งใจ ใช้สมาธิ ภาษาปะกิตว่าโฟกัสมากกว่าปกติ สมองต้องคิดเเละวางแผนว่าถ้าจะไม่ให้แพ้ จะต้องทำอย่างไร ไม่ใช่สักแต่ตีสนุกๆ กับสหาย อย่างไรก็ได้ การมีจุดมุ่งหมายนี่แหละเป็นสิ่งสำคัญในการทำอะไรทุกอย่าง เรียนภาษาก็เหมือนกัน ถ้าอยากจะเก่งต้องมีจุดมุ่งหมายหรือประตูให้หมายยิงลูก ไม่ใช่สักแต่เรียนๆ ไปเฉยๆ อย่างนั้น คิดว่ามนุษย์เรามีนิสัยไม่ชอบแพ้ ชอบเอาชนะ จะอะไรก็ตาม แล้วคิดว่าเราน่าจะตั้งความหวังเป็นขั้นตอน ไม่ใช่เริ่มแรกก็จะสอยเอาความหวังอันสูงสุดมาเป็นของเราเลยทีเดียว อย่าถ้อถอยลุยไปเรื่อยๆ ได้ถั่วมาทีละเม็ดก็ควรจะดีใจ สะสมนานๆ เข้าถั่วก็มาเป็นกองโตเองล่ะน่า แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 05:12:12 จากคุณ : lilymay - [ 9 มี.ค. 50 05:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบ ที่คุณ lilymay บอกให้ตั้งเป้าประตูค่ะ อิอิ ภาษาข้าน้อยยังด๋อยนัก คงไม่มีอะไรเล่าค่ะ ได้แต่เฝ้ามาวนๆ เวียนๆ อ่านเก็บประสบการณ์ของคนอื่น (เผื่อจะวิ่งตามทัน) แถมเสนอหน้าบ้างเป็นครั้งคราว :P จากคุณ : รักปิดรักเปิด - [ 9 มี.ค. 50 17:28:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ฮ่ะ ฮ่ะ คุณลิลีเมย์เขียนเรื่องกอล์ฟเข้าทางผมพอดีเลย ผมเปิดบล็อก Just Hit the Effing Ball ไว้ที่นี่ครับ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=slartibartfast&group=5 ผมเปิดไว้ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม ตั้งใจว่าจะเขียนทีเล่นทีจริงเกี่ยวกับเรื่องภาษา จนป่านนี้ยังไม่มีเวลาและอารมณ์ไปเขียนต่อ ถ้าได้คุณลิลีเมย์ไปช่วยต่อยอด (อ่านว่า ต่อ-ยอด และไม่ได้อ่านว่า ต่อย-อด)ก็น่าจะพอเขียนไปได้ไหลลื่นขึ้น ขอเรียนเชิญนะครับ :-) จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 9 มี.ค. 50 21:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พูดถึงเรื่องตีกบ ผมก็ติดกับเข้าให้เหมือนกัน นี่ไปซ้อมทุกวัน ตีมันวันละร้อยลูก ออกรอบทุกสุดสัปดาห์ คะแนนก็...เอ่อ ถ้าเฉลี่ย green fee กับจำนวนครั้งที่ตี price per stroke นี่ผมจ่ายถูกกว่าเพื่อนร่วมก๊วนนิดหน่อย (มี economy of scales ว่างั้น) บางทีก็งกไปหน่อย หลุมเดียวนี่ตีมันสองแฟร์เวย์เลย แต่วันอาทิตย์นี้ตั้งเป้าไว้ว่า break 100 แน่นอน :-) ผมเพิ่งมาค้นพบเหตุผลว่าทำไมบางคน...หลายๆคนถึงตั้งหน้าตั้งตาตื่นตั้งกะตีสามตีสี่ เพื่อขับรถไปตีกอล์ฟ somewhere in the middle of nowhere (เจ้านายผมคนนึงล่ะ ลงจากเครื่องบินที่ซิดนีย์ก็เผ่นกลับบ้าน เพื่อจะไปตีกอล์ฟ เจ๊ตหล่งเจ๊ตแหลกไม่สนใจ) ผมว่ากอล์ฟนี่เป็นเกมที่แข่งกับตัวเองล้วนๆเลย ใช้วัดและพัฒนาความเป็น target-driven หรือ target-oriented person ของตัวเองได้ดีทีเดียว (ความจริงบุคคลิกภาพในการทำงานของแต่ละคนนี่ก็พอจะมองออกจากสไตล์การเล่นกอล์ฟได้เหมือนกัน ค่อนข้างแม่นยำทีเดียว...เผลอๆแม่นกว่าดูโหงวเฮ้งอีกครับ) เอา...เขียนไปเขียนมากลายเป็น hijack กระทู้คุณต้นจริงๆนะเนี่ย ไปดีกว่า ราตรีสวัสดิ์ครับ จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 9 มี.ค. 50 21:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีครับ ป้าลีลลีย์พฤษภา และทุกท่าน ผมอ่านไปอ่านมา นึกว่า ตีกบ หมายถึงเล่นไพ่ ไปๆมาๆ กลับเป็นการขับกอล์ฟ แฮะ ว่าถึงการขับนี่ อยากขับ อิมเพรสซา WRX STi 203 มากกว่า เจ้ แนะนำหน่อยดิ ที่ญี่ปุ่นกะเมืองไทย ราคาทำไมห่างกันเยอะ เจ๊ ส่งมาขายหน่อยดิ ผมจะซื้อสักคัน เอาถูกๆนะ ขอบคุณครับ อิอิ จากคุณ : ลุดวิก - [ 10 มี.ค. 50 05:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีค่าทุกท่าน คุณต้นเข้ามาเห็นคงตกใจว่านี่กระทู้กลายพันธุ์อีกแล้ว 555 ขอยืมคุยต่ออีกติ๊ดนะคะ การซ้อมตีกบนี่ก็ต้องมีจุดมุ่งหมายและแผนการนา ถ้าจะไปสนามไดรพ์ แล้วตีเอาตีเอาวันละร้อยลูก มันก็ดีแต่พัฒนาวงสวิง แต่ก็น่าระวังว่าไม่ใช่ซ้อมที่มันผิดๆ ยังไงก็ควรจะหาครูมาดูวงสวิงด้วยก็จะดี เขาว่ากันว่าเวลาซ้อมคนส่วนมากจะซ้อม Long game เสียส่วนใหญ่ ไม่ค่อยสนใจ short game รวมทั้ง putting คิดดูเอาพาร์สามแล้วกัน ถ้าตียาวขึ้นบนกรีน แต่สามพัทคะแนนเป็นโบกี้ทันที ถ้าอยากเบรคร้อยต้องซ้อมพัทเยอะๆ และลูกสั้นต่ำกว่าร้อยเมตรพยายามอย่างไงก็ได้ให้ตกแล้วสามารถตีลงหลุมไม่เกินสองพัท เวลาเล่น matchplay ชนะกันที่ลูกพัททั้งนั้นเลย ถ้าหลุมแรกๆ ลองพัทแม่นๆ จากระยะยาวๆให้ลงหลุม มันเหมือนตัดไม้ข่มนามคู่ต่อสู้ไปในตัว เขาถึงบอกว่า drive for show, putt for dole. ต้องลงทุนกับไม้พัท เลือกเอาชนิดที่เหมาะมือ มันสำคัญกว่าไม้หนึ่ง เพราะใช้ทุกหลุม แหะ แหะ ที่เล่าๆ มานี่จำเขามา อย่าเข้าใจผิดว่าข้าพเจ้าเก่งกาจขนาดไหน เพิ่งไม่นานมานี้เองที่เบรคร้อยได้ on a regular basis. คุณลิกวุด ตอนนี้ไม่ได้อยู่โตเกียวแล้ว รถคันที่ว่านี่นะน่าขับอยู่หรอก แต่จะเอาไปขับที่ไหนคะ กรุงเทพรถติดออกอย่างนั้น ที่ราคามันห่างกว่ากันก็เพราะ(รู้อยู่แล้วนี่น่า) ค่าขนส่ง ค่าเช้าที่ ค่าเบี้ยบ้ายรายทาง ค่าภาษี ค่ากำไรให้อาเสี่ยไปซื้อรถเบนซ์ ช่ายมะล่ะคะ แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 50 06:11:23 จากคุณ : lilymay - [ 10 มี.ค. 50 06:10:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 บังเอิญได้ครูดีครับคุณลิลีเมย์ ตาโรเจอร์เจ้านายผมเอง เดือนก่อนแกมาเยี่ยม ก็มาแก้วงสวิงให้นิดหน่อย ก็ดีขึ้นเยอะครับ ตอนนี้ pitching wedge ตีได้ 150 หลา (จากเมื่อก่อนได้แค่ประมาณ 100) ค่อนข้างแม่นยำขึ้น...คือควมคุมให้ลูกมันโค้ง draw หรือตรงได้บ้างพอสมควร  ก็เลยเป็นปัญหาตามมาว่า ต้องไปหา lob wedge 60 องศามาใช้แทน sand wedge (เพราะด้วยสวิงใหม่นี่ sand wedge ก็ 100 หลาเข้าไปแล้ว) ได้ lob wedge มา เกมสั้นก็ดีขึ้นครับ เรื่องหาครูมาดูวงสวิง...ที่นี่ค่อนข้างหายากครับ เรื่องภาษาเป็นอุปสรรคเหมือนกัน อีกอย่างนึงก็คือ โปรที่นี่เค้าจะตัวเล็กๆกันเป็นส่วนใหญ่ บางทีเทคนิคที่เค้าใช้พัฒนาตัวเองก็จะเหมาะกับคนสรีระเล็กๆ ได้ครูอย่างโรเจอร์มาปรับแก้ให้แป๊บเดียวก็เห็นผลครับ เพราะสรีระใกล้เคียงกัน ปัญหาที่เราเจอก็เป็นปัญหาเดียวกันกับที่เค้าเคยเจอ  เวลาปรับแก้อะไรนี่ก็ค่อนข้างตรงจุดทีเดียวครับ เรื่องพัทนี่ ไปซ้อมเอาที่สนามใกล้ๆบ้านตอนออกรอบเลยดีกว่า เพราะตอนซ้อมพัทที่ driving range มันก็ค่อนข้างดีอะครับ เอาเข้าจริงๆมันก็ยัง 2-3 พัทโดยเฉลี่ย ...ต้องซ้อมอีกเยอะเหมือนกัน (และคงต้องลงทุนกับ putter อย่างที่คุณลิลีเมย์ว่า เพราะเหลือแค่อย่างเดียวที่ยังไม่ได้เปลี่ยน ฮ่ะ ฮ่ะ) จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 10 มี.ค. 50 08:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อวานเป็นแจ๋วทำงานบ้าน (หลังจากมัวแต่ตีกบทั้งอาทิตย์) เวรกรรมก้มลงไปดูดฝุ่นใต้โต๊ะ หลังเดาะ โงไม่ขึ้นเป็นนาน ต้องประคบน้ำแข็ง ไปหาหมอ วันนี้ยังเดินเป็นหุ่นยนต์อยู่เลย สังขาร์ ฮ่าๆๆ วันจันทร์จะไปแข่งกับคลับอื่นต้องบอกกัปตันให้หาคนอื่นเล่นแทน ไม่รู้จะหายทันวันพฤหัสไหม เผอิญฟลุ๊คเข้ารอบเซมิไฟนัลได้อย่างไรก็ไม่รู้ เป็นการยืนยันว่าเกมนี้เป็นเกมที่คนแฮนดิแคปสูงสามารถชนะคนแฮนดิแคปต่ำได้ เชื่อเลย โค้ชสอนว่าการควบคุมระยะwedge มีอีกวิธีคือ ถ้าคิดว่า full swing เป็น 11 นาฬิกา เราสามารถลดระยะลงมา โดยตี back swing ไปแค่ 9 นาฬิกาและ 7 นาฬิกาลองดูสิว่าระยะจะลดลงเท่าไรสำหรับแต่ละwedge ทั้งนี้เพราะว่าเว็ดจ์ 60 ค่อนข้างใช้ยาก   ถ้ามาอยู่ต่ำกว่าร้อยหลาแล้ว หากว่าหน้ากรีนไม่มีหลุมทราย แม้ว่ากรีนอาจจะอยู่สูงขึ้นไปก็ใช้ได้ อาจใช้วิธี  chip and run ได้ด้วยเหล็กอย่าง  5,6,7,8,9 นี่อาจจะเอาถ่านหินมาขายนิวคาสเซิลก็ได้ แต่ถ้ายังไม่รู้ลองไปอ่านวิธีดูในตำรา แล้วลองซ้อมดู ถ้าทำได้เเล้วจะแม่นยำกว่า pitch โดยเฉพาะถ้าลมแรง บางทีอยู่รอบกรีนใช้พัทเอาเลยยังได้ หรือใช้เหล็กแปดเหล็กเก้า"พัท" แล้วแต่คุณภาพหญ้ารอบกรีน คุยเรื่องนี้ได้ทั้งวันเลยนะฮ่าๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 50 10:30:18 จากคุณ : โรบอทหลังเดาะ (lilymay) - [ 10 มี.ค. 50 10:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ด้วยความยินดีครับ เดี๋ยวเย็นนี้ เมื่อตะวันใกล้จะตกดิน ผมจะมา post ที่ตัวเอง update ไว้ครับ สวัสดีครับพี่ lilymay คุณ ลุดวิก คุณ บูมเมอร์ คุณ รักปิดรักเปิด เรื่องกอล์ฟ ผมเคยตามเพื่อน ไปออกรอบ ผมเล่นไม่เป็น เเต่ตั้งใจนะ ไว้ว่าง ๆ จะไปเรียน ไปเล่น ให้เป็นเรื่องเป็นราวคัรบ ตอนนี้อิจฉา AF seasion 4 อิ อิ ทำไมเมืองไทยมุ่งด้านบันเทิงกันจัง(รู้ครับว่ามันทำเงิน สนุก) อยากมี TF บ้างอ่ะ จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 12:06:54 A:203.209.117.187 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ ผมเองก็มีจุดเริ่มต้นเหมือนหรือคล้าย ๆ คุณice_icecool ณ วันนั้นใกล้คล้ายวันเกิดครบ 17 ปี (2531) เป็นคนเก่งภาษาอังกฤษ แต่พูดไม่ค่อยได้เลย แต่จำได้ว่า ชอบพูด เห็นฝรั่งที่ไหนที่ต้องการความช่วยเหลือ จะตรงดิ่งเข้าไปเลย ช่วงนั้นตัดสินซื้อตำราพูดภาษาอังกฤษ 96 ชั่วโมงมาฝึก ------------------------ เพราะอึดอัด พูดไม่คล่อง ไม่มีประโยคที่จะไว้พูด---------------------- -------------------------- ซื้อมา แล้วนำไปฝึกกับฝรั่งที่วัดพระแก้ว ครับผม--------------- ------------------------ เวลานั้นไม่ได้เรียนในโรงเรียน เตรียมไป Melbourne ครับ แต่ใส่ชุดนักเรียนไปวัดพระแก้ว ไปฝึกภาษาอังกฤษ 3-4 วันทุกอาทิตย์--------------- ---------------บ้านเมืองสมัยนั้น Meeting point ของฝรั่ง (ดีๆ) ยังอยู่ที่วัดพระแก้ว และ ณ เวลานั้นฝรั่งไว้ใจคนไทยมากกว่าสมัยนี้นะ ผมคุยกับฝรั่งหลายชาติ 1-2 ชั่วโมงทุกวัน เย็น ๆ เดินไปขึ้นรถที่ปากคลองตลาด เพื่อขึ้นสาย 12 กลับบ้าน-------------- --------------------------- กลับบ้านมาก็ทบทวน ต้องบอกว่า เวลานั้นก็พูดงู ๆ ปลา ๆ ไม่รู้จัก English Phonics, word/sentence stress, intonation/pitch etc ไม่รู้อะไรเลยครับ ----------------- (English Phonics เนี่ยเขาสอนตั้งแต่ประถม 1 ที่โรงเรียนนานาชาติ หรือโรงเรียนดี ๆ โรงเรียนผมก็สอนแล้ว) ---------------------------ฝึกอยู่ประมาณ 3 เดือนกว่า พูดคล่องขึ้น ฟังออกมากขึ้น แต่ต้องเป็นคำศัพท์ง่าย ๆนะ พื้นฐาน ๆ --------------------------- -------------------------- ผู้อ่านอาจถามว่า แล้วฟังเพลง ดูหนังไหม? ----------------- --------------------- ไม่ครับ ไม่มีคนแนะนำตอนนั้น ไม่รู้ว่า ถ้าฝึกไปร่วมกัน จะเป็นอย่างไร?------------- ไว้ติดตามตอนต่อไป จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:45:45 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ กรุงเทพฯ ๒๕๕๐ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ คุณ ice_icecool และทุกคนมีพร้อมกว่าผมแล้วนะครับ 1. internet 2. CD ฝึกภาษา 3. สื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือ ฯลฯ 4. ความตื่นตัวของการเรียนภาษาในบ้านเรา อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คุณ ice_icecool และผู้อ่าน tonmelb ขอแนะดังนี้ 1 เดือนจากนี้ 1. ถ้าติด UBC ได้ ขอให้ติดครับ แล้วเปิดดู CNN, BBC, CNBC, หนังและละครทุกวัน วันละ 1-3 ชั่วโมง ภารกิจของคุณไม่ใช่ฟังเอาความ ภารกิจของคุณคือ: มีหน้าที่ฟังก็ฟัง ไม่รู้เรื่องก็ฟัง ฟังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟังอย่างเดียว อยากให้ลงทุนตรงนี้นะครับ 2. ซื้อหนังสือคู่มือสนทนาภาษาอังกฤษทั้งไทย-เทศมาอ่าน ที่ผมมีอยู่ เช่น English for Hotel Staff, An English Conversation Guide for Thai Office Staff, English Communication, Conversation In Business, ภาษาอังกฤษ สำหรับคนหางาน English for job interview, In Company ของ Simon Clark ( British English), American Hotline ของ Tom Hutchinson etc ลองไปหาซื้อนะครับ ร้านหนังสือจุฬา 3. ไว้ฝึก Phonics เล่มนี้ Up and Away In Phonics Level 1-6 ( American English) + เทป ไว้ฟังทุกทุกวัน จะตอนเช้าหรือก่อนนอนก็ได้ครับ คุณจะได้เรียนรู้การออกเสียง A-Z , short and long vowels, blenders( consonant blend) เช่น bl, br, cl, cr, str etc 4. ฝึกสำเนียง Clear Speech by Judy B. Gilbert, Third Edition ไว้ฟังทุกทุกวัน จะตอนเช้าหรือก่อนนอนก็ได้ครับ เกี่ยวกับ word stress, sentence stress, intonation/pitch ( Music of English) มี Audio CD ด้วยนะครับ ใน1 เดือนนี้คุณพยายามหาโอกาสพูดกับฝรั่ง หรือพูดตามเทป CD ทุกวัน พยายามเลียนเสียงตามเขาให้เหมือนก่อน และอย่าลืมฟังทุกวัน มีสมุดไว้จด short note เช่นเมื่อฟังจากเทป – CD ก็ดีครับ --------------------------- คุณต้องทำตาม Plan นะครับ ---------------- แนะว่าการพูดให้ชัด ต้อง Open your mouth when you speak English. คือปากไปด้วย กล้ามเนื้อบริเวณหน้าและอวัยวะภายในปากต้องไปหมดนะครับ และถ้าเป็นไปได้ คุณ ice_icecool มา post บอกผมได้ไหม ทุกวันศุกร์หรือเสาร์ก็ได้ ว่าเป็นอย่างไร พื้นฐานภาษาคุณ ice_icecool เป็นอย่างไรบ้างครับ? และชอบภาษาไหม? คุณเป็นคนมุ่งมั่น/ใส่ใจ/ตั้งใจแค่ไหน? คุณเป็นคนชอบสังเกตไหม? ไม่รู้ก็ถามหรือปล่อยไป , เป็นคนเชื่อมั่นไหม? และก่อนที่จะได้งานนี้ คุณได้มีโอกาสได้ใช้ภาษาในชีวิตประจำวันหรือเปล่าครับ? ----------------------- เพราะทั้งหมดนี้ก็เป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องว่า 1 เดือนที่ฝึกคุณจะพัฒนาได้มากน้อยเท่าไหนครับ และอนาคตของการเรียนภาษาอังกฤษคุณด้วย -------------------------- ขยันมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ ขวนขวายหาความรู้ ช่างสังเกต ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ อดทน จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:46:20 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 21 March 10, 2007 สวัสดีครับ ผู้อ่านฝึกภาษาไปถึงไหนแล้ว คุณ Ice ไปถึงไหนแล้วเอ่ย ผมเขียนด้วยความหวัง เขียนด้วยความเป็นห่วงและจริงใจ ว่าเราจะฝ่าฝันไปได้ด้วยดีกับการเรียนภาษา ขอแนะคุณ ๆที่เพิ่งจะกลับมาปูพื้นฐาน/ทบทวน-เรียนใหม่ และตัวเองก็ 1. เป็นคนทำงานแล้ว ทั้งที่เพิ่งเริ่มต้นและทำมานานแล้ว 2. จะเรียน(พูด) ไปสัมภาษณ์งาน / ไปสอบ ไปศึกษาต่อ ---------------------- ถึงเวลาคุณไม่ค่อยจะมีที่จะทุ่มเท แต่ต้องทุ่มเท และทำใจกับข้อจำกัดที่เป็นอยู่ นอกจากทำใจแล้ว ต้องพยายามทำความเข้าใจและพยายามแก้ไข ทำให้ดีที่สุด---------- -------บ่อยครั้งที่ผมต้องให้กำลังใจให้กับนักเรียนที่เป็นผู้ใหญ่ เรื่องความรู้สึกที่เกิดท้อขึ้นมา เกิดง่ายมากครับ- คุณพร้อมสู้หรือเปล่าล่ะ? คุณต้องตอบตัวเองก่อนว่า คุณต้องการมันจริง ๆ หรือเปล่า? ทำไมคุณถึงต้องมานั่งเรียนใหม่ตอนเย็นหลังเลิกงาน ทั้งเสียเงินเอง หรือบริษัทจ่ายให้ก็ตาม? เพราะคุณมีข้อเลือกที่จะหยุดเรียนได้ทันที มิใช่หรือ? ถ้าไม่อยากเรียนมัน ทรมานและเสียเวลานะครับ และต้องเข้าใจให้ตรงกันเลยว่า มันมีความแตกต่างระหว่าง เวลาไม่ค่อยจะมีที่จะทุ่มเทกับเวลามีไม่มี แต่ไม่เคย[ทุ่มเท] เลย ผมอยากให้คุณทำใจว่า ถ้ามันจำเป็นต้องใช้ คุณต้องพยายามให้ถึงที่สุด ( ถ้าคุณชอบภาษาอยู่เป็นทุนแล้ว ข้อนี้ผมไม่เป็นห่วง เพรายังไงคุณก็ต้องมีพยายามในระดับหนึ่งอยู่) คุณมาเรียนตอนโต เวลามีน้อยอยู่นี้ เหนื่อยจากทำงานอยู่แล้ว ไฟอาจจะมอดในเรื่องเรียนภาษา --------- ถ้าไม่ตั้งใจ จะได้อะไรล่ะครับ------------ จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:47:43 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 22 @@ การเขียนที่ผ่านมา ผมมันส์มากเลย ผมอธิบายแบบลง(ค่อนข้าง)ลึก เช่น ยกมา ๑ ประโยค ผมก็อธิบายเลยว่าทำไม่ ประโยคนี้สวยอย่างไร เนียนอย่างไร ดีอย่างไร ทำไมผู้เขียนถึงใช้ศัพท์นี้ etc ------------------------------ผลคือ: คนไม่อ่าน ไม่ตรงความต้องการ ------------------ คอลัมน์นี้จะต่างกับข้อเขียนที่ผ่าน ๆมา มันเป็นการพัฒนาขึ้นไปอีก หรือ ปรับเปลี่ยน tonmelb ต้องการให้---เข้าถึง--- คนหมู่มากมากขึ้น เข้าถึงคนที่ภาษาไม่ค่อยแข็งแรงมากขึ้น ข้อเขียนมันจะได้เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านจริง ๆ สมดังที่ตั้งใจไว้ เพราะการ update แต่ละครั้ง มันใช้เวลามาก @@ จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:48:21 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จึงตั้งใจว่า 1. ประโยคสำเร็จรูปที่ tonmelb เลือกมาลง มาเล่น ให้นำไปใช้พูดได้เลย รับรองว่าสวย ว่ามันดีนะ ประโยคที่ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นประโยคเว่อร์นะ ไม่ใช่ประโยคแบบภาษาหนังสือ ประโยตธรรมดาเนี่ยแหละ ที่เรา ๆคนไทยไม่เคยเจอ ( ถ้าไม่ได้เป็นคนอ่านหนังสือ) ประโยคดี ๆ จะทำให้การพูดคุณเป็นธรรมชาติ(เป็นประโยคที่ฝรั่งเขาใช้กัน ในสถารณการณ์นั้น/นี้) ไม่ใช่แต่งขึ้นมาเอง 2. ให้อย่างเดียว แต่จะไม่อธิบายมาก จะไม่อธิบายลึกมาก ชิลด์ ๆ ไว้ ( โห tonmelb ไม่เข้ากับนิสัยใจคอเลย ชิลด์ ๆ ) 3. มาเขียนบอกแบบ----- บอกเล่าสู่กันฟัง----- คำแนะนำในการเรียนภาษาจะมีทุกครั้ง 4. แบ่งปันประสบการณ์การทำงาน ข้อคิด ยิ่งเทอมหน้านี้ tonmelb คงได้ลงเต็มตัว คงมีอะไรมาเขียนเล่าสู่กันฟังครับ จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:53:24 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอแนะเรื่องการออกเสียงสักนิดนะครับ พูดภาษาอังกฤษต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้(ในมุมมองของผม และวิธีที่ผมใช้และยึดถืออยู่) 1. ความหมายในระดับคำและสำนวนต้องใช้ให้ถูกต้องความหมาย ชัดเจน 2. คำ, สำนวนและประโยคที่พูดต้องชัดเจน 3. นอกจากต้องออกเสียงให้ชัดถ้อยชัดคำแล้ว เมโลดี้ต้องแพทเทรินเดียวกับ(มาตรฐาน)ที่ฝรั่งเขาใช้กัน เขาเข้าใจกัน คนไทยเราขาดข้อ 2และ 3 มากในเรื่องการพูดนะครับ เรื่องประโยคสำเร็จรูปที่ผมจะให้ ( ผมมีแนวโน้มที่จะคัดลอกประโยคเหล่านี้จากหนังสือต่างประเทศที่ผมอ่านนะครับ หนังสือไทยก็มีบ้าง แต่จะน้อย เพราะคุณสามารถหาซื้อ หาอ่านได้) + คุณได้จากคนใจดีท่านอื่น ๆ + หาซื้อหนังสือมาอ่าน ----------------- ประโยคเหล่านี้ต้องมาพร้อมกับการออกเสียงที่สุดยอดที่คุณจะพยายามให้ดีที่สุด นี่คือสิ่งที่ผมจะให้คุณ---------------------------- ผมถึงเน้น----------- การออกเสียงมาก ๆ นะครับ---------- But, no! English grammar is not to blame. จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:54:08 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 25 @@ ถ้าคุณต้องการสื่อสารให้ฝรั่งเข้าใจต้องทำความเข้าใจดังนี้ 1. Don’t rush things. ไม่ใช่พบฝรั่งครั้งใด พูด ๆๆๆๆๆ พูดเร็วมาก แบบพูดให้มันจบ ๆไป อาย เขิน ไม่มั่นใจ ฯลฯ tonmelb อยากให้คุณละเมียดละไม พิถีพิถันกับการพูดคุยกับมนุษย์บนโลกที่เราเรียกเขาว่า “ ฝรั่ง” ครับ ( จริงอยู่ จะละเมียดละไมยังไงก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าออกเสียงไม่ถูก ครับ ข้อนี้คุณเรียนได้จากข้อเขียนผม+ท่านอื่น ๆ ได้ แต่ที่ผมกล่าวถึงเนี่ย ผมจี้ไปที่ “ นิสัย” ของคนไทยส่วนมาก คือมีความพิถีพิถันและตั้งใจกับสิ่งที่ทำอยู่น้อยลง) ----------- ให้คิดว่า ฝรั่งที่อยู่ตรงหน้า คือญาติสนิทมิตรสหาย (ไม่ใช่ยักษ์)ที่ไม่ได้พบเจอะเจอกันมาแรมเดือน แรมปี เมื่อพบกัน ก็ต้องคุยกันนาน ๆ ------------- 2. ภาษาพูดเขามีท่วงทำนอง music of English, the rhythm, intonation ( rise and fall in the pitch of the voice) and stress pattern etc ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องให้เวลา ต้องใส่ใจศึกษาไว้ เพราะมันจำเป็นต่อการออกเสียง---------- tonmelb พูดตรง ๆเลยนะครับ คนไทยหลาย ๆคนที่ตกม้าตาย เรื่องนี้ ไม่ต้องไปหาเหตุผลอื่นไกล มีเรื่องเดียง คือความไม่เอาใจใส่ น่าเศร้าแต่เรื่องจริง ภาษาไทยของเราเอง ก็ไม่ใส่ใจอยู่แล้ว แต่โทษที ภาษาอังกฤษมันไม่ปล่อยให้คุณ ๆทำกับมันแบบภาษาไทยได้ คุณไม่ใส่ใจ ปัญหาของการออกเสียงก็จะเกิดแบบนี้ และอาจจะทำให้คุณไม่ได้งาน ไม่ได้เลื่อนชั้น etc การพูดภาษาอังกฤษทั้งในระดับคำ/สำนวนและประโยค สำคัญมากที่คุณต้องเรียนรู้เรื่อง Stress and intonation, focus จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:54:42 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 26 @@ เสียงสูง-ต่ำ เน้นไม่เน้น สำคัญมาก คำที่เน้น มีดังนี้ คำนาม, คำกริยาแท้, adjectives, adverbs, negatives (e.g. can’t), wh-Question words and demonstratives ไม่เน้น /พูดครึ่งเสียง ไม่หนัก มีดังนี้ Articles, conjunctions, pronouns, prepositions, helping verbs, and contractions ทุกครั้งที่คุณพูด ให้คิดว่า จังหวะการพูดมี 3 จังหวะ มี 1. 2. และ 3 เบา--- ไม่เบา--- ดังชัด คุณจะทำเป็น 3 จุด หรือตัวเลขก็ได้ หรือถ้าไม่แบ่งเป็น 3 ช่า ก็แบ่งเป็น 2 ค่ายใหญ่ ๆ คือ ค่าย Strong Stress กับ ค่าย Weak Stress เช่น on (2) the (1) desk (3) = On the DESK ครับ เสียง the ต้องเบา/ต้องออกครึ่งเสียงเหมือนจะหายไปเลย เสียง on ที่ไม่ต้องเน้นมากเพราะมันอยู่ในกฏที่ไม่ต้องเน้น (มันเป็น prep. แต่อาจจะมีคนถามว่า the ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกับ Prep. เหมือนกัน ทำไมเสียงถึงไม่หายไป หรือเสียงควรอยู่ในระดับเดียวกัน จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:55:32 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 27 @@ อธิบายว่า ในวลีหรือประโยค ผู้พูดจะตามกฎแบบนั้นถึง 100% ไม่ได้ครับ on the desk นั้น ผู้พูดต้องเน้น DESK เพราะเป็นคำนามก็จริง เพราะเป็นความหมายหลัก แต่ในขณะเดียวกัน คุณจะให้เสียงก่อน on the เป็นเสียงเดียวกัน ไม่ได้ ต้องให้เสียง on หนักกว่า the นิดนึง เน้นกว่านิดนึง เพื่อให้เกิดจังหวะจะโคน ท่วงทำนองด้วย นั่นคือจังหวะ 3 ช่าที่ผมให้ เพราะเทคนิคที่ผมให้ ( จากการสังเคราะห์ข้อมูลจากหนังสือ) 1 กับ 2 นั้น ไม่ต่างกันมากนัก ไม่ดังกว่ากันมากนัก ทั้ง 1 and 2 อยู่ในกลุ่ม medium / weak stress -------------------------------- tonmelb ถึงได้เขียนไงว่า ถ้าคุณไม่ใช้ 3 ช่า ใช้ 2 ค่ายใหญ่ก็ได้ครับ --- จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:56:13 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 28 @@ คุณลองฝึกดูครับ on the table/desk/wall, under the lamp, at the airport/door It’s (1) on (2) ( ซอน) the (1) DESK(3). = On (2) the (1) DESK (3) TONMELB (3) / She (1) TEACH (3) (c) chES (1) ENG (3) (g) lish (1) I (2) can (1) go (3) to (1) MOR (3) row. (1) เสียงที่ออกมาจะไม่ใช่ราบเรียบเท่ากันหมด แต่จะมีสูง/ต่ำ หนัก/เบา/ กระซิบกระซาบ ฟุดฟิดโฟไฟ อย่างแท้จริงครับ -------------------------------------------- และฟัง/ดูหนัง Sitcom ข่าวเยอะ ๆ ใช้สิ่งที่คุณฟังนี้เปรียบเทียบกับเสียงคุณที่คุณใช้เทคนิคนี้ ผมเรียกว่า เทคนิค 3 ช่า ทำบ่อย ๆ ---------------- ---------------- ผมใช้วิธีนี้ และตอนนี้คุณเชื่อไหม? ผมเปิดวิทยุฟังรายการไทย( แต่เสียงต้องเปิดไม่ดังนัก) พร้อมกับฟังข่าวจาก CNN and CNBC etc (แต่เสียงต้องเปิดไม่ดังนัก) ตรงนี้อาจจะเป็นการฝึกที่แอดวานท และคุณต้องมีชั่วโมงฝึกภาษาอยู่พอสมควร ผมไม่แน่ใจ แต่ผมพบว่า สนุกดีในการแยกเสียงทั้ง 2 เสียงในเวลาเดียวกันครับ---------------------------- จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:56:49 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 29 @@ ต้องรู้จัก Thought groups (T G คือ คำสุดท้ายของประโยคที่อาจจะเป็นวลี, อนุประโยคหรือประโยคหลัก เสียงของมันต้องลงต่ำ และลาก (เพื่อให้เวลากับประโยคที่ 2 ที่จะตามมาต่อ) a slight drop and a brief pause (Pausing) -------------------- นี่เป็นลักษณะเฉพาะของสำเนียงอเมริกันครับ ถ้าเป็นอังกฤษจ๋า End of a thought group จะมี pitch ที่สูงเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ --------------------- Slight drop and a brief pause จะทำให้ภาษาพูดคุณเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะนั่นคือสิ่งที่คุณต้องเรียน ต้องทำให้ได้ ถ้าอยากพูดภาษาให้เขาเข้าใจนะครับ มันจะเหมือนห้องดนตรี เช่น Many girls/ want to have/ tonmelb’s pics. Ton leaves for work/at six a.m./every morning. ( ช่องว่างระหว่าง Ton กับ leaves อาจจะไม่ถึงพูดติดกันนะครับ) I would like/to send/these cards/ to Melbourne. ควรรู้จัก Blending (ผมเรียกว่า การควบกล้ำ ภาษาไทยเรามี) จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:57:45 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 30 @@ 1. To succeed in work and life, you need both intelligence and effort. (or needs ) คุณต้องมี/คุณต้องใช้สมองและความพยายาม ผมชอบประโยคนี้นะ เพราะดี ได้ใจความดี 2. I know that we can count on your unfailing co-operation and support. เราเชื่อมั่นว่า เราสามารถพึ่ง/ไว้ใจได้ว่าเราคุณจะให้ความร่วมมือและแรงสนับสนุน(ที่มีให้เสมอมา) ผมไม่แปลตรงตัวมากนักนะครับ expressions เช่นนี้ ความหายในภาษาไทยถ้าเรียงคำ อาจจะไม่ใช่ในสิ่งที่ผมเขียน แต่ผมจะเน้นถึงความหมายว่า ที่ฝรั่งเขาพูดกับคุณอย่างนี้ เขาหมายถึงอะไรเมื่อจะเข้าใจเป็นไทย เมื่อต้องแปลความให้เพื่อน ฯลฯ 3. How do I best communicate? ถ้าคุณเป็นอาจารย์หรือ presenter หรือคนที่ต้องสื่อความ คุณต้องถามตัวเองประโยคนี้ 4. What important skills and knowledge do you have? ถ้าถูกถามเช่นนี้ ต้องเตรียมคำตอบนะครับ 5. Who are the children experiencing difficulties? เด็กคนไหนที่มีปัญหา(การเรียน etc) จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:58:19 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 31 6. I have an intense interest in English. I have an intense dislike for careless work. ผมชอบ/สนใจภาษามาก ๆ /ชอบอย่างยิ่ง , ผมไม่ชอบเป็นอย่างมากต่องานแย่ ๆ 7. I have a deep love of something. 8. You are valued as a person. มีคนให้ค่ากับคุณเป็นคน / เห็นคนเป็นคน มีความรู้สึก และสมควรได้รับความเคารพ เกียรติ ฯลฯ 9. You will make a hit with good manners. คุณจะเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นด้วยมรรยาทที่ดีของคุณเอง 10. I care for you. ผมเป็นห่วงคุณนะครับ 11. Rabbit burrow ถ้ำหรือรังกระต่ายที่อยู่ใต้ดิน 12. English deserves your attention and respect. ตรงนี้สำคัญนะครับ เรียนภาษาแบบงั้น ๆ แบบซังกะตาย แบบคนตายไปแล้วครึ่งตัว หรือมีความรู้สึกว่าถูกบังคับ ต้องใส่ใจ ต้องตั้งใจ ต้องมุ่งมั่น ต้องอ่อนน้อม ต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ต้องขวนขวาย @@ จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:58:52 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะครับ เมื่อคืน tonmelb ดูรายการ The Business of Innovation ทาง CNBC พูดถึง สตีฟ จ๊อบส tonmelb ชอบมากอยู่แล้ว สุดยอดคน ๆนี้ The Suzi Orman Show ทาง CNBC ก็น่าติดตามครับ เป็นเรื่องคำแนะนำเกี่ยวกับเงิน ๆทอง ๆ และในระหว่างที่ Update ผมดู CNN เขารายงานว่า Demand for expensive brands in China is booming จนผู้สื่อข่าวเขาให้คำจำกัดความว่า ณ ปัจจุบัน ในเมืองจีนต้องเนี่ยเลย The Bing Dynasty B stand for brands คุณได้อะไรอีกมากนอกจากภาษาจาก CNN, BBC and CNBC ที่ Australia มี CNN, BCC, NBC = CNBC และ CBS ฟรีครับ คุณมีนครับและท่านอื่น ๆ ที่ขอเมล์ไว้ เมล์ใหม่ tonmelb@yahoo.co.th แต่อย่าพึ่งเคืองกันนะครับ บางครั้งบางคราว ผมอาจจะไม่มีเวลาตอบได้ทุกครั้ง หรือตอบอย่างละเอียด @@ และขอจบการ Update ด้วยความหวังสิ่งที่ผมเขียน จะทำให้คุณลุกขึ้นมาสู้ มาขยัน เปลี่ยนแปลงตัวเอง มีพลังต่อสู้กับมัน ผมอ้างถึง AF หรือ The Star เสมอ เพราะผมได้เห็นว่า คนรุ่นใหม่มีพลังแค่ไหน ในการต่อสู้เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝัน คือการเข้าวงการบันเทิง บวกภาษาอังกฤษ ไปอีก ๑ ได้ไหม? ความรู้ภาษาอังกฤษมันมีประโยชน์หมดล่ะครับ กับทุกเพศทุกวัย ใช่ อาจจะไม่กับทุกคน นี่คือชีวิตคุณ เลือกว่าจะเรียนภาษาหรือไม่นั้น สุดแล้วแต่คุณ แต่ I want you to go for it จากคุณ : tonmelb - [ 10 มี.ค. 50 20:59:28 A:203.209.121.243 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ได้ภาษาอังกฤษ อย่างเดียวไปไม่รอดครับ ต้องมีองค์ความรู้ด้วย ถ้าใช้อังกฤษได้ ก็ใช้เป็นเครื่องมือหาองค์ความรู้ได้ด้วยครับ ฝรั่งที่พูดอังกฤษมาแต่เกิดก็ไม่เก่งทุกคน ได้แต่พูดอังกฤษเท่านั้นเอง มีเยอะแยะไป ไม่มีความรู้อะไร ทำอะไรไม่ได้ เหมือนคนไทยที่ไม่มีความรู้นั่นแหละครับ เพราะฉะนั้นควรใช้ภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือแสวงหาความรู้ด้วย ขี้เกียจอ่าน ขี้เกียจฟังก็ไม่ได้เรียนรู้อะไร ไม่ว่าใช้ภาษาไหนก็เหมือนกันนะครับ ผมไม่ได้ว่าใครนะครับ แต่การเรียนภาษาไม่ควรเรียนเป้นค่านิยม เห่อของนอก แต่ควรเอาจริงเอาจังกับมัน แล้วใช้มันให้เกิดประโยชน์ ขอบคุณครับ จากคุณ : ลุดวิก - [ 11 มี.ค. 50 08:11:56 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นด้วยครับ องค์ความรู้ เเต่คงหวังได้ยากนักสำหรับสมัยนี้ ลองไปถามเด็กดูว่า ความหมายของคำนี้คืออะไร อธิบายให้ฟังหน่อย ก็ลำบากเเล้ว ครูรุ่นพี่ที่เป็น 1 ในคณะที่คัดเลือกผมที่โรงเรียนหนึ่ง รับผมเพราะว่านอกจากหน้าตาเเล้ว เอ๊ย นอกจากความรู้+ ประสบการณ์ทางภาษา ผมยังมีองค์ความรู้ที่ดี ที่สามารถเข้าใจเเละนำความรู้ด้านอื่นด้วยไปพัฒนาได้ดี เเต่... ที่ผมเขียนนี้ ถึงเเม้ว่าผมจะรู้สึกว่า จะเป็นผลไหม? เด็ก ๆ จะได้องค์ความรู้ไหม? หรือต้องปรับเปลี่ยนไปจน อะไรก็ไม่รู้ เพื่อให้เขาเข้ามาอ่าน ผมก็ต้องพยายามทำ จากคุณ : tonmelb - [ 11 มี.ค. 50 15:29:04 A:203.209.117.87 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ดีแล้วครับคุณต้น ทำไปเหอะครับ ตราบใดที่สนุกกับมัน จากคุณ : ลุดวิก - [ 11 มี.ค. 50 21:08:29 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตอนนี้มาเริ่มเปิดตำราเรียนภาษาใหม่แล้วค่ะ สู้กับความขี้เกียจภายในดูสักตั้ง  คิดปัญหาจะเอามาโพสท์ถามที่น่ีแหละค่ะ (คงไม่ว่ากัน อิอิ) หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาว ง่วงจังเลย zzZZZZZZZZ จากคุณ : รักปิดรักเปิด - [ 12 มี.ค. 50 14:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เด็กๆ โผล่ออกจากหลีบมาบอกค่ะ มีปัญหาหลายเรื่องเลย เช่น grammar การออกเสียงตัวสะกด ไม่รู้คำในกลุ่มค.หมายเดียวกัน แต่ใช้ในประโยคต่างกัน อธิบายไปแล้ว ฝรั่งไม่รู้เรื่อง (ขนาดตัวเองยังคิดว่า ตรูพูดอารายออกไปฟร่ะ ไม่รู้เรื่องเลย) ฯลฯ อ้อ ข้อสำมะคัญ คือ ขี้เกียจ ค้า จากคุณ : มู๋ยังเป็นเด็กอยู่น้า (i_tua_yung) - [ 12 มี.ค. 50 22:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมไม่ได้งานที่สมัครก็เพราะว่าผมทำข้อสอบ ภาษาอังกฎษของเค้าไม่ได้ครับ ตอนนี้ผมตกงานมา6เดือนเต็มแล้วครับก็เพราะว่าพูดภาษาอังกฎษไม่ได้นั้นเอง จากคุณ : okb - [ 14 มี.ค. 50 12:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ถึงคุณต้นค่ะ หนูมีเรื่องจะปรึกษา คือหนูกำลังขึ้นปี1 แต่ส่วนตัวนี่อยากดรอปแล้วไปเรียนภาษาสักปีนึงไปเลย แม่หนูบอกว่ามันเสียเวลากับปีนึงต็มๆที่เราเสียไป แต่หนูอยากได้อังกฤษไปเลยหน่ะค่ะ ขอแค่ได้มากกว่านี้ก็พอ แล้วเวลาที่เสียไป หนูไม่คิดว่ามันจะสูญเปล่าด้วย อย่างน้อยเราก็สามารถทำอะไรด้วยตัวเองได้มากขึ้น อย่างนี้หนูคิดถูกรึป่าวคะ ? หนูควรจะดรอปไปดีไหม บางทีอาจจะเรียนโทเฟลที่นี่ก่อน แล้วค่อยไปเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์สัก3-6เดือน จากคุณ : บักซ์มินนี่ - [ 15 มี.ค. 50 16:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 40 น้านนนน นักเรียนเพียบ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 16 มี.ค. 50 10:53:36 ]

ความคิดเห็นที่ 41 น้อง บักซ์มินนี่ครับ พรุ่งนี้เดี๋ยวค่อยมาตอบ ขอ Post ที่ Update ก่อน เพราะห้าทุ่มกว่าเเล้ว จะหลับเเล้ว @@@@@@@@@@ 16 March 2007 ขอบคุณมากครับสำหรับการติดตามอ่านและการให้กำลังใจ เหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน กลับมาได้อ่านอะไรเช่นนี้ ทำให้ tonmelb มีแรงใจที่จะเขียนให้คุณ ๆผู้อ่านกันอีกนานครับ ผู้อ่านทุกคน ทุกวัยล่ะครับ วันนี้มีตัวอย่าง Resume (ไม่เต็มรูปแบบ) + Covering/cover letter มาฝากคนกำลังหางานด้วยนะครับ + เทคนิคการออกเสียงด้วย เพราะ--------------- เมื่อคุณพูด--------- คุณต้องพูดให้ชัด และ สิ่งที่พูดต้องใช่ โปรดติดตามครับ จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:18:09 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 42 @@ โรงเรียนปิดเทอมแล้ว ดังนั้นงาน/ความรับผิดชอบใหม่ยังไม่ออกมา แต่ก็รู้คร่าว ๆ ว่าในปีการศึกษาใหม่จะทำอะไร รู้อย่างเดียวว่าปีการศึกษาใหม่นี้ ยุ่งกว่าเดิมแน่นอนครับ เพราะต้องเขียนหลักสูตรการสอนประวัติศาสตร์ไทยขึ้นมา เพื่อไว้สอนเองและฝรั่งสอน ค่อนข้างเครียด เพราะมันต้องเตรียมงานเยอะมากกกกก อีก ๒ งานที่อาจจะได้รับมอบหมาย คือดูแลเด็กพิเศษ เด็กพิเศษ Special (needs) students/children คือเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเรียนรู้ จึงตามเพื่อน ๆ ไม่ทัน เช่น น ร ที่เป็นสมาธิสั้น หรือไฮเปอ etc และพยายามแก้ไขเด็ก ๆพูด Thinglish ครับ เช่น ต้องสร้างแรงจูงใจ ให้กำลังใจเด็ก อย่า [เขิน] ที่จะออกเสียงให้เหมือนฝรั่ง + เรื่อง grammar จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:24:00 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ก็น่าจะที่จะใช้ Expression นี้ได้นะครับ It is most likely that I will be up to my ears in work. To be up to one’s ears หมายถึง มีอะไร/มีภาระงานที่ต้องทำมันมากเหลือเกิน วกเข้ามาคุยเพิ่มเกี่ยวกับเทคนิคการออกเสียง ผมอ่านมาจากหนังสือการออกเสียงภาษาอังกฤษ(ตำราต่างประเทศ) หลาย ๆเล่ม เช่น Fundamentals of Voice & Articulation -------------------- อ่านแล้ว ก็นำมาถ่ายทอดในแนวทางที่ผมคิดว่า คุณ ๆ ไม่ว่าจะมีระดับภาษาใด สามารถเข้าใจได้------------------ ---------------- แต่อ่านและเข้าใจอย่างเดียวไม่พอนะครับ นำไปใช้ ถ้าอยากพูดภาษาเก่ง ๆ ต้องให้ภาษาผ่านปากบ่อย ๆ---------- ------------- เทคนิคก็สำคัญ ไว้เป็นหน้าที่ผม -------------- ------------- คุณ ๆ ผู้อ่านที่รัก อ่านแล้วหาโอกาสใช้นะครับ-------- @@ จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:26:30 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มี 3 ข้อครับที่คุณ ๆต้องไม่ละเลยเป็นอันขาด ถ้าต้องการที่จะพูดให้ฝรั่งเข้าใจ 1. The sounds of the language (the vowels and consonants) ต้องได้ยินการออกเสียงจากปากฝรั่งบ่อย ๆ เสียง A-Z สระเสียงยาว/สั้น มันออกเสียงอย่างไร (แนะให้ซื้อหนังสือเกี่ยวกับ Phonics ที่ผมใช้อยู่นั้นคือ Up and Away in Phonics and Phonics Fun ทั้ง ๒ เล่มมีทั้งเทปละ CD ให้เลือกซื้อครับ) และอีกเล่มก็ดีมากครับเล่มนี้ Clear Speech : Pronunciation and Listening Comprehension in North American English เขียนโดย Judy B. Gilbert มี Audio CD ด้วยนะครับ 2. The rhythm of the language ( the patterning of stresses) คือในแต่ละคำ วลีและประโยค มันจะมี----------เสียงที่หนัก-เบาต่างกัน เจ้าเสียงหนักเบาต่างกันทำให้มันเกิด Rhythm จังหวะจะโคน เช่น PENcil เน้นที่คำแรก เป็น เพ๊นสิ้ลล (เสียง l ยกลิ้นขึ้นสูงแตะด้วย) และถ้าต้องการมั่นใจว่าออกเสียงเพ๊นสิ้ลล เป็น เพ๊นสิ้ลลแบบที่ฝรั่งเขาพูดจริง ๆ คุณก็ต้องศึกษาและทำตามข้อ 1 เช่น เสียง P ออกอย่างไร สระ e เสียงเป็นอย่างไร + N + c+i+l = Pencil ( tonmelb ไม่ได้ให้คุณซื้อแล้วอ่านและอ่านอย่างเดียว ณ เวลานี้ไม่ได้เน้นหลักวิชาการ แต่ให้คุณฟังจาก CD บ่อยที่สุดเท่านั้น เพื่อไว้เลียนเสียงให้เหมือนและถ้าไม่มีในหนังสือ เช่น คำนี้ เพ๊นสิ้ลล คุณจะลองออกเสียงให้ฝรั่งฟังได้ไหมล่ะครับ) 3. The Intonation of language (the music tone or pitch) คือวลี/ประโยคต้องมีเสียงสูงและต่ำ เช่น ประโยคบอกเล่ากับปฏิเสธ คำสุดท้ายที่มักเป็นคำสำคัญต้องลงเสียงต่ำ ฝรั่งเขาเรียกว่า falling tone/intonation/pitch ครับ ประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย Questions words ก็ต้องลงเสียงต่ำ เช่นกันครับ หรือ ประโยค Yes/No Qs คำสุดท้ายก็ต้องขึ้นเสียงสูง (โดยเฉพาะนี่คือเอกลักษณ์ของภาษาสำเนียงอเมริกันครับ เพราะถ้าสำเนียงอังกฤษ จะเป็น rise and fall ครับ) -------------------คำสุดท้ายก็ต้องขึ้นเสียงสูง เขาเรียกว่า Rising tone/intonation/pitch----------------- Intonation Level นี้มี 3 ระดับ/จังหวะ เหมือนที่ผมพูดเล่น ๆ 3 ช่า คือมี High, mid and low จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:29:03 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 45 @@ ครู/อาจารย์ที่โรงเรียนคุณสอนคุณหรือยัง? ถ้ายังและคงไม่สอน เพราะในหลักสูตรไทยไม่มี แต่ tonmelb อยากให้คุณอย่าโทษคุณครู tonmelb เคยอยู่โรงเรียนไทย โปรแกรมไทยมาก่อน และเคยสอนแหวกแนวแบบนี้มาก่อน จนโดนตำหนิ เพราะสิ่งที่ต้องส อน (เพราะมันอยู่ในหลักสูตร) tonmelb สอนไม่ทัน มัวมาสอนแบบนี้ ---------------------------------------เข้าใจท่านบ้าง ยิ่งดีชวนท่านมาอ่านคอลัมน์นี้ จะมา Discuss ก็ดีครับ ครู/อาจารย์อาจนำสิ่งนี้ไปใช้ครับ เพราะเกิดว่าอาจารย์ตั้งใจที่จะสอนเป็นภาษาอังกฤษ จะมีประโยชน์มากครับ -----------------------------เรามาร่วมสร้างมิติใหม่------------------- ------------------------เมืองไทย เมืองแห่งภาษาที่ 2 3 4 5 ------------------ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:31:35 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตัวอย่างวลีและประโยคครับ LET(3)’s be(1)GIN(3) to (1) CEL(3)และมีเสียง l นิด ๆ มาต่อe เหมือนมี l (l)e(1)Brate(2) = Let’s begin to celebrate. คุณ ๆ คงจำได้นะครับว่า เลขในวงเล็บ หมายถึงอะไร MU (3) sic (1) teach (2) er (1) = music teacher ออกเสียง Rrrrr ด้วยนะครับถ้าจะให้ออกอเมริกัน POST (3) off (2) ice (1) = Post office จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:33:40 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เสียง End / endings นี้สำคัญมากครับ คนไทยละเลยเรื่องนี้ เช่น ask, beg, and help 3 คำนี้เสียง k, g and p ต้องออกเบา ๆในลำคอ ------------------และเสียงเหล่านี้ถ้ามันตามมาด้วยสระ มันจะเชื่อมกัน เขาเรียกว่า Linking กัน เชื่อมเป็น connected speech ครับ เช่น like it จะเป็น ไล้ กิท หรือ Yes, I do. จะเป็น เยส ทรายดู -- จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:34:57 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เสียง blending หรือ Consonant Blends หรือ Blenders แบบ 2 คำมี 21 ตัว (หลายตำรามันแบ่งไม่ค่อยเท่ากัน อย่าไปสนใจเลยครับ) มาดูว่า 21 คำมีคำอะไรบ้าง 1. bl 2. cl 3. fl 4. gl 5. pl 6. sl 7. br 8. cr 9. dr 10. fr จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:38:36 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 49 11. gr 12. pr 13. tr 14. tw 15. sc 16. sk 17. sm 18. sn 19. sp 20. st 21. sw เช่น Smoke, blue, class, slow, swim etc จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:40:06 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แบบ 3 triple consonant blend (3 คำที่ออกเสียงเกือบเป็นคำเดียว that make almost one sound) 1. scr 2. spl 3. spr 4. squ 5. str เช่น Strong @@ ส่วนsh, ch, th, wh, ng เขาเรียก Consonant digraphs ไม่ต้องไปสนใจชื่อมันหรอกครับ----------- เสียงเหล่านี้ จะ clear มากขึ้น ถ้าซื้อหนังสือที่ผมแนะมาอ่าน หนังสือคุณ Andrew ก็ดีมากนะครับ Say it right เรื่องหนังสือคุณ Andrew ผมเองไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรนะ หนังสือดีนะครับ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกัน เพราะผมเองก็ Post ผมที่คอลัมน์ของเขาเหมือนกัน เขามีน้ำใจ แบ่งที่ให้ tonmelb เผยแพร่งานตัวผม จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:44:23 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 51 @@ แนะการพูดกับฝรั่งนิดว่า ฝรั่งเขาชอบคนสู้นะครับ ชอบคนที่มุมานะ tonmelb ขอให้คุณหมั่นเข้าไปคุยบ่อย ๆ ถึงแม้ว่าในช่วงแรก เขาอาจจะฟังคุณไม่ออก แต่เชื่อไหม คุณพูดบ่อย ๆ + อ่านคอลัมน์ผม 6 เดือนต่อมา คุณจะพูดได้ดีขึ้น (เพราะคุณฝึกอย่างสม่ำเสมอตลอด 6 เดือน) ------------------ เขาจะชอบมาพูดมาคุยกับคุณต่อ เพราะเขาจากบ้านมาไกล แถมมีคนไทยที่ยิ่งคุย ยิ่งมีอะไรมาคุยใหม่ ๆ ทุกเดือน ๆ ----------------------- -------------เขาอาจจะประทับใจในช่วงแรก ๆที่คุณพูด แต่พอนาน ๆ ไป ถ้าคุณไม่ต่อยอด หรือหยุดซะอย่างนั้น แต่ภาษาคุณจะไม่ไปไหน จะได้แต่อยู่ในระดับทักทายเท่านั้น เหมือนเช่นที่คุณทักเขาเมื่อ 6 เดือนก่อน------ -------------------------------- เห็นภาพชัดแล้วใช่ไหมครับ?---------------------- @@ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่------------ต้องเอาใจฝรั่งหรือ ทำไมเขาไม่เรียนภาษาเราบ้าง-------------- คุณก็รู้ คุณต้องคิดว่า การพูดภาษาเขาได้ ดีต่อเรา ดีต่องานเรา และ เราก็เจ้าบ้าน ช่วยอะไรได้ อยากให้ทำ----------- อ๊ากซ์ๆๆๆๆๆๆๆๆ เมื่อยนิ้วมากครับ เพราะผมพิมพ์แบบสัมผัส 10 นิ้วไม่เป็น เลยได้แต่จิ้มนิ้วชี้ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:46:26 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 52 @@ มาแล้วครับ Resume Resume ผมเรียงแบบนี้ครับ ก็มี Part I Name, address, date of birth, marital status, heath, teaching experience, years in Australia Part II ก็มี Summary of Qualifications (Profile) - Patient and highly skilled in student and parent care - Enthusiastic and highly motivated - Energetic, highly ambitious, goal-oriented and an efficient team player - Well-organised, resourceful and commitment to excellence - Exceptional attention to detail - Quick study with ability to easily grasp and implement new ideas - Excellent communication skills - Bilingual. Possesses fluent command of spoken and written Thai and English - Possesses personal integrity จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:48:18 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 53 Part III ก็มี Work/ Work related experience โดยเรียงจากปีล่าสุด- ปีแรก Part IIII Volunteer experience Part V เป็น Education เรียงจากปริญญาแรกถึงล่าสุด และก็ Personal interests สุดท้าย References supplied upon request @@ Resume ที่ดีไม่ควรเกิน 2 แผ่นกระดาษอย่างดีนะครับ ส่วนคุณจะเรียงเหมือนผม ต้องแล้วแต่ แล้วแต่งานที่คุณจะสมัครด้วย @@ จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:51:09 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 54 Cover letter เขียนที่อยู่ด้านขวาของกระดาษ ด้านซ้ายเขียนจ่าหน้าชื่อที่คุณจะติดต่อไป เช่นในกรณีของผม Dear The Principal/Headmaster Headmaster Your advertisement in the ชื่อหนังสือพิมพ์ of เดือน วันที่, ปี for the position of a full – time ตำแหน่ง has interested me immensely. I firmly believe that my qualifications will fulfil your requirements. I would like to make an inquiry concerning the teaching position at บริษัท, โรงเรียน ฯลฯ My name is... I graduated from ชื่อมหาวิทยาลัย, เมือง, ประเทศ, with a ดีกรี in วิชาเอก I also once studied a Graduate Diploma in Education at University of Melbourne in 2001; however, I discontinued from the course due to work commitments. I am utmost confident I can make a significant difference in helping students at your school realize their full potential and become quality citizens of Thailand. I am passionately convinced that my outstanding qualities, education, work-related experience and a 14-year-stay in Melbourne, Australia, have prepared me ideally for a position as a teacher at your school. I have enclosed my resume to give you a comprehensive account of my qualifications. I am passionately interested in the position and in bringing my skills, talents and experience to your school. I wish to be called for an interview to provide you further detail of my accomplishments and what I can offer your school. Thank you for your time and consideration. I certainly look forward to meeting you. Respectfully yours, ชื่อและนามสกุลคุณ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:54:21 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 55 @@ Expressions อื่น ๆ ที่คุณอาจนำไปใช้ 1. Highly motivated 2. Possesses excellent communication skills 3. Goal-oriented 4. help students/people to realize their full potential 5. result-oriented 6. self-motivated with high energy จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:56:32 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 56 @@ 7. committed to excellence in English leaning and teaching 8. able to motivate others to perform to their maximum /full potential 9. experienced in working with children between 6-18 years of age 10. looking for the opportunity to generate excitement and interest in the /students develop academically, socially, and personally 11. I am applying for I am interested in applying for an elementary/ high school teacher at your school. 12. I have completed my ปริญญา in วิชา 13. On a personal level, I am hard-working, and thorough and am committed to my chosen profession. 14. I can be reached/contacted on + เบอร์โทร @@ จากคุณ : tonmelb - [ 16 มี.ค. 50 23:59:03 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 57 15. dynamic, expressive, enthusiastic personality 16. Special qualities include perseverance, personal integrity, and consistent dedication to set goals 17. I can make myself available for an interview at your convenience. 18. For the last three years, I have worked on call as a private tutor. 19. I wish to be considered for the teaching position at your school. 20. I have enclosed my resume to give you a comprehensive account of my qualifications. 21. Job-related strengths จดหมายขอบคุณ A thank you letter Thank you for the job offer. I am pleased to accept your offer and will commence employment with your school on + Date. I look forward to working with your staff. Yours sincerely, อาจจะมียาวกว่านี้ นี่เป็นคร่าว ๆ นะครับ @@ Job offer refusal Thank you for the job offer. After careful consideration, I have decided to decline the position offer. I enjoyed meeting you and your staff and appreciated your time. I wish your company the very best. Yours sincerely, เช่นกันนะครับ นี่เป็นประโยคที่ผมใช้และ คร่าว ๆ นะครับ 11.00 pm กว่าแล้ว Good night จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 00:01:58 A:203.107.196.103 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ถามคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ เพิ่งเข้ามาหาความรู้ที่ห้องนี้เหมือนกัน เห็นด้วยกับการรวบรวมประโยคสำเร็จรูปค่ะ แต่ก็งงๆว่าเจ้าของกระทู้เขียนคอลัมน์ที่ไหนคะ หรือว่าหมายถึงที่นี่คะ จะได้ติดตามอ่านเรื่อยๆ จากคุณ : a-e-i-o-u - [ 17 มี.ค. 50 06:13:46 A:unknown X:139.80.123.34 TicketID:048318 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ตอบคุณ บักซ์มินนี่ 1 ปีอาจจะเสียไปเปล่า ๆ หรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับตัวคุณด้วยครับ ด้วยวัฒนธรรมไทย คุณแม่คุณก็อยากให้คุณเรียนให้จบ มีเพื่อนร่วมรุ่น ไม่มี Year break เหมือนเด็กฝรั่ง ที่พอเด็กฝรั่งเขาจบ ม. 6 เขาจะพักไปทำงาน ไปท่องเที่ยวหาประสบการณ์ก่อนจะกลับมาเรียนมหาวิทยาลัย และคุณเป็นลูกสาวด้วย ไปไกลหูไกลตา มีพ่อแม่ไหนบ้างไม่เป็นห่วง เรื่องงานอีก ทิ้งไว้ 1 ปี คุณแม่มองว่า อาจจะเสียจังหวะไปเลย เพราะจบไม่พร้อมเพื่อน Tonmelb แนะว่าให้คุณคุยกับคุณแม่ ปรึกษาท่าน ไม่ใช่พยายามหาเหตุผลว่าจะต้องไป ถามความคิดเห็น ปรึกษาท่านด้วย ญาติผู้ใหญ่ของคุณด้วย และ tonmelb บอกอย่างว่า Girl, you do not need to go overseas to study English. เตรียมตัวที่นี่ ที่เมืองไทยได้ไหมล่ะครับ? น้องอ่านงาน tonmelb รับรองไม่ผิดหวัง ไว้ไปเมื่อโตกว่านี้ดีไหม? และในความคิดของ tonmelb ณ พ ศ นี้ หนูสามารถเก่งภาษาอังกฤษ อู้สำเนียงอเมริกันจ๋า ได้ที่นี่ ที่เมืองไทย จะไปหรือไม่นั้น ขอให้คุยกันครับ และตอนนี้ภาษาเป็นอย่างไรบ้าง หมายถึงพื้นฐานจริง ๆ นะ ขอให้โชคดีครับน้อง จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 20:36:01 A:203.209.121.200 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 60 March 17, 2007 ก่อนอื่นเลยนะครับ อยากเรียนถามผู้อ่านทุกคนเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลอย่างไรครับ? -------------------------------- ผมไม่สันทัดและไม่ชอบคอมครับ-------------------------------- ณ เวลานี้ ผมเขียนเก็บใส่ Word ใน Hard Disk มันเริ่มเยอะมากแล้ว กลัวจะเกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อก่อน คอมนี้ใช้มาครบ 7 ปีแล้ว Hard Disk พัง 2 ครั้ง แต่ละครั้ง ผมเคย save ไว้กับดิส แต่พอมาเปิดในเครื่อง Hard Disk ตัวใหม่ file บางตัวมันเปิดไม่ได้เลยบ้าง ไม่เข้าใจ ผมเองก็จำไม่ค่อยได้ ว่ามันเปิดไม่ได้กี่อัน เพราะหลายปีแล้ว ผมเห็นเด็ก น ร ใช้อันเล็ก ๆ เขาเรียกว่าอะไรนะครับ DSB หรือเปล่า ราคาไม่แพงใช่ไหมครับ พันนึงก็มี ตอนนี้ข้อมูลมันค่อนข้างเยอะแล้ว อยากจะเก็บข้อมูลเดิมไว้ ไม่อยากให้หายไปอีก @@ จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 20:40:35 A:203.209.121.200 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณคุณ a-e-i-o-u ( จากห้องรวมพลนักเเปล Pantip)ครับ เขียนมาได้จะครบ 7 ปีแล้ว คุณอ่านได้ที่เวปนี้ก็ได้ครับ ที่เวปคุณ Andrew ผมก็ Post งานผมไว้ที่นั่นด้วย + การตอบปัญหาภาษาอังกฤษบ้างในบางครั้ง ถ้ามีเวลา ลองเข้าไปอ่านนะครับ andrewbiggs.com แล้วคลิกไปที่เวปบอร์ดนะครับ เห็นชื่อ Grammar Rock! ก็ Click ครับ บางครั้งผมก็เข้าไปที่ Ask Andrew ด้วย อยากให้ทุกท่านที่อ่าน ถ้าคิดว่ามีประโยชน์ ช่วยแนะนำคนอื่นให้เข้ามาอ่านด้วยครับ ไม่มีเวลา ก็ save หรือ print เก็บไว้อ่านภายหลัง เพราะบางครั้งอ่านครั้งเดียว อาจจะยังไม่เห็นภาพ 100% บางครั้งคุณฝึกมาเรื่อย ๆ 2-3 ปีต่อมา กลับมาอ่าน คุณอาจจะเข้าใจกว่านี้ ----------- เพราะประสบการณ์/ชั่วโมงบินทางภาษาด้วยครับ ---------------- คนหางาน เด็กจบใหม่ ------------------------ โดยเฉพาะเด็กประถม-มัธยม และนักศึกษา อ่านได้หมด ----------------------- ผมพยายามเขียนเพื่อให้คุณนำไปอ่านเสริมกับที่คุณเรียนพิเศษภาษา(ที่ไว้สื่อสาร) @@ จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 20:44:38 A:203.209.121.200 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เรื่องติด UBC ผมยังเชียร์คุณอยู่นะ ผมรู้นะว่า หลาย ๆคน ไม่ได้คิดอะไรมากกับการเรียนภาษาให้ได้ผล ถ้าต้องลงทุน ---------------- น่าเสียดายนะครับ อยากให้คิดใหม่ ------------------- ไม่มีใครจนจนเกินไปหรอกครับ ( หมายถึงคนที่เข้ามาอ่านงานผม คนหางาน นักเรียน/นักศึกษา) คุณหลายคน คิดว่า ติดเสียเงินเปล่า เพราะไม่ค่อยมีเวลาดู ------------- และไม่ได้วาง Plan ว่าจะฟัง ๆๆๆๆๆ ไปตลอด อย่างเก่งไม่กี่เดือนก็ท้อ ------------ ----------------- แล้วจะติดทำไม ไปเสาะหาวิธีอื่นว่าทำไงให้เก่งภาษา--------------- จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 20:45:56 A:203.209.121.200 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 63 @@ มีวิธีอื่นครับ แต่วิธีนี้เป็น ๑ ในหนทางที่ดีที่สุด สำหรับการฝึกภาษา สำหรับการทำความคุ้นเคยกับภาษา ถ้าอยากเก่ง เชื่อผมครับ นี่คือความจริงใจที่จริงใจที่สุดแล้ว ไม่รู้ว่าจะจริงใจไปมากกว่านี้อย่างไร? ------------- ต้องเปลี่ยนวิธีคิดครับ เปลี่ยนมุมมอง และ ทัศนคติ ----------- ให้ภาษาเข้ามาในชีวิตคุณ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณ ไม่ใช่ Plan ไว้จะตั้งใจทุ่มเท 3-6-9-12 เดือน ถ้าไม่สำเร็จ ไม่ต่อแล้ว Tonmelb แนะให้คิดแบบนี้ครับ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 20:49:34 A:203.209.123.38 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 64 คุณมีทางเลือก 1. 3-6-9-12 เดือนจากนี้ อ่านคอลัมน์ผมแล้วปฏิบัติตาม ภาษา (พูด) คุณดีขึ้นแน่ และหลังจากนี้ คุณคงได้งานแล้ว กำลังเรียนอยู่ เปลี่ยนงานใหม่ หางานอยู่ จะฝึกต่อไหม แล้วแต่ แต่ต้องยอมรับข้อนึงว่า ภาษาคุณจะหยุดนิ่ง และจะคืนอาจารย์ไปทีละนิด ๆ หรือ 2. ภาษาเป็นเรื่องของทักษะ ต้องขยันทบทวนเสมอ ให้ภาษาเข้ามาในชีวิตคุณ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณ ------------------------ง่ายไหมครับ?---------------- จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 20:57:01 A:203.209.123.38 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 65 @@ ให้คิดว่า นี่คือ -------------------- การเรียนทางไกล -------------- ------------- อ่านหนังสือที่ผมแนะนำ หรือซื้อเล่มที่มีหัวข้อที่ผมแนะนำ แล้วเข้าอ่านอาทิตย์ละครั้ง- 2 ครั้ง ผมจะมีเวลา Post ที่ผม Update ไม่คืนวันศุกร์หรือวันเสาร์---------------------------- ช่วงนี้ผมไม่ได้สอนพิเศษเด็กเสาร์-อาทิตย์ จึงค่อนข้างว่าง ว่างก็จะ Update บ่อยครับ จะได้เรียนรู้เรื่อง อยากให้อ่านทบทวนบ่อย ๆ ด้วยครับ เวลาคุณพอมีก่อนถึงการ Update อีกครั้ง จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 20:58:10 A:203.209.123.38 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 66 @@ สระ ผมจะ List ให้ แล้วคุณไปฝึก (ต้องอ่านหนังสือ/ฟัง CD ด้วยครับ อ่านที่ผมอธิบายไม่เห็นภาพ ได้ยินเสียงหรอก เดี๋ยวจะงงเปล่า ๆ) 1. สระเสียงสั้น A เช่น hat fast stands cash 2. สระเสียงสั้น E เช่น bed net French spend fresh 3. สระเสียงสั้น I เช่น pin hill six milk 4. สระเสียงสั้น 0 เช่น pot cot doll top 5. สระเสียงสั้น U เช่น cup gum brush drum 6. Vowels before R เช่น ar ( car smart) or, er, ir, ur จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 21:00:26 A:203.209.123.38 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 67 @@ A. สระเสียงยาว A ( ai, ay) เช่น train tray day sail Spain way B. สระเสียงยาว E & EE เช่น tree street three sheep wheel speech cheek C. สระเสียงยาว E (ea # a ไม่ออกเสียง) เช่น leaf tea read neat stream meat D. สระเสียงยาว O/OA เช่น boat coat goat toast road E. สระเสียงยาว A ( ae – silent e) cake snake gate plane scale F. สระเสียงยาว I เช่น five nine kite slide bride G. สระเสียงยาว O เช่น nose smoke cone bone stove H. เสียง oi / oy อออิ เช่น coin boil spoil point toy joy boy I. เสียง ue/ew due true clue dew flew new threw chew @@ จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 21:06:39 A:203.209.117.64 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 68 --------------------- อ่านแล้ว ที่ยังไม่ get --------------- -----------ใจเย็น ๆ ที่ยังไม่ get นั้น ส่วนหนึ่งเป็นส่วนสำคัญเลย คือ ต้องอ่านที่ผมเขียนบ่อย ๆ และฟังบ่อย ๆๆ นอกเหนือจากที่อ่าน มันต้องใช้ ประสบการณ์/ชั่วโมงบินทางภาษาด้วยครับ ---------------- การที่จะเห็นความแตกต่าง มันต้องใช้ ประสบการณ์/ชั่วโมงบินทางภาษาด้วยครับ ต้องฟังบ่อย ๆ หูต้องไม่บอด เช่น เสียง long a with silent e ( เสียง e ไม่ออกเสียงแต่ทำให้เสียง a ยาวขึ้น ยาวกว่า a ไทย) Snake ไม่ใช่ สเนค แต่ต้องลากเสียง a เป็น สเน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วจบด้วย K เบา ๆ สเนค เสียง a ยาวใน ai เช่น rain ไม่ออกเสียง เรน แบบรวบ ๆ ไร้พลัง ควรเป็น เร ๆๆ อิน(เหน่อะ) ถึงจะ เสียง a ยาว แต่ไม่ลากเสียง a จนยืด นะครับ เสียงออย ไม่ใช่ออย ไทย เป็น อออิ คุณขึ้นเสียง ออ สูง แล้วตบท้ายอิเบา ๆ จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 21:09:44 A:203.209.117.64 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 69 @@ เสียง Gulf เสียง g เกอะ ต้องออกจากคอ ให้ออกเสียง กัฟ (เฟอะ) โดย กัฟ พยายามออกมาทางกาฟนิด ๆๆ และตบท้ายด้วยเสียง f เบา ๆ Golf ก้อฟ (เฟอะ) ออกเสียง กอๆๆๆ แบบบีบ เป็นเสียงออหน่อยครับ @@ เสียง อุ เหมือนเสียงอูครึ่งเสียงนะครับ ใน cook ไม่ใช่คุก แต่เป็น คู (ออกเสียงสระอู อย่าเต็มที่นัก) +เคอะ , book ไม่ใช่ บุค ต้องเป็น บู+เคอะ พยัญชนะเช่นกัน เสียง V ใน five ไฟ้/ฟ้ายยย(เหว่อะ) ในช่วงแรกหรือนิสัยที่จะเรียนภาษา ต้องอดทน และสังเกตตลอดครับ เสียงพยัญชนะ A. เสียง Plosives / stops/stop-plosives (ไม่ต้องเรื่องศัพท์แสงเหล่านี้ ณ ตอนนี้ สนใจเส้นเสียงของมันเท่านั้น) มี 6 ตัว แบ่งเป็น 3 voiceless: p t k และ 3 voiced: b d g คุณต้องฟังเสียงแล้วต้องรู้ว่ามันแตกต่าง มันมาเป็นคู่นะ P – b cap กับ cab เสียง cabbbb ยาวกว่า cap นะครับ T – d k-g B. เสียง fricatives มีเสียง voiceless: f, Th in thin, s, sh, h และ voiced: v, th in they คล้ายเสียง D, z, zh in vision C. เสียง affricates (plosive+ fricative) มีเสียง ch in such church, j เจอะ in edge, orange @@ จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 21:16:22 A:203.209.123.56 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เสียง th in thin, thank 1. แลบลิ้นออกมานิดนึง 2. ใช้ฟันบนฟันล่างวางบนลิ้น 3. แล้วพ่นลมออกมา + ออกเสียง เฑอะ ๆๆๆๆ (ไม่ชัดนะครับ เพราะต้องมีแต่เสียงลม) ลองออกเสียง thin ดูครับ 4. พอสิ้นการออกเสียง คุณจะเห็นในกระจกว่าลิ้นจะเลื่อนลงมาติดในแนวในแผงฟันล่าง เสียง th in they 1. ตัวนี้เหมือนเสียงด เด็ก 50 % 2. ทำเหมือนข้อ 1 & 2 3. ออกเสียง ด เด็ก โดยใช้เสียงด้วย เสียงที่ได้จะได้เสียง ด 50% 4. พอสิ้นการออกเสียง คุณจะเห็นในกระจกว่าลิ้นจะเลื่อนลงมาติดในแนวในแผงฟันล่าง @@ จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 21:18:23 A:203.209.123.56 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เสียง H มักจะละเสียง ------------- ถ้าใครลืมว่า ตัวไหนเน้น และ ไม่เน้น ต้องกลับไปอ่านของเดิมนะครับ เพราะสำคัญมาก ๆ ถ้าต้องการให้การพูดของคุณเป็นฝรั่งที่ใกล้เคียงมากที่สุด------------ กลับมาเสียง H วันนี้ผมดู CNN คุณ Trump เขาชมผมมากเลย เอ๊ย ไม่ใช่ คุณ Trump ที่เป็นพิธีกรดิแอพเพรนทิส .ให้สัมภาษณ์ CNN เกี่ยวกับผู้ลงสมัคร ปธน อเมริกา I respect him. จะออกเสียง ไอ หรี่สเป็ค ทิม เสียง ท ในทิม ออกเสียง ท ไม่ต้องเน้น ที่เป็นทิม เพราะ him เป็น pronoun ไม่เน้น พอไม่เน้น มันจะเป็น im เมื่อเป็น im เสียงพยัญชนะ t ที่ท้ายคำ respect จะมาเชื่อม (linking) กับ สระ I เป็น ทิม ครับ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 21:21:58 A:203.209.123.56 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 72 @@ tonmelb เขียนคอลัมน์นี้ขึ้นมา ---------------- ไม่ใช่เพื่อให้คุณเครียด----------------- ------------------- ในทางกลับกัน คุณต้องรู้สึกว่า ยิ่งขยัน ยิ่งสนุก มีความสุข ยิ่งอดทน ยิ่งมีหวัง--------------- ผมเขียนเพราะตั้งใจ จะ ------------------------------ ยกระดับภาษาพูดของคุณจริง ๆ -------------------------------------- แต่ตรงนี้ คุณต้องเป็นคนเลือก ถ้าคุณ Ok กับระดับภาษาของคุณ คุณมีความสุข การงานไม่กระทบ ผมว่า ชีวิต Ok เลยนะครับ ณ ตรงนี้ ผมเพียงนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม เผื่อคุณอาจต้องการพัฒนาและปรับปรุงให้ภาษาพูดคุณดีขึ้นครับ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 21:24:40 A:203.209.123.56 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 73 Expressions มาฝากกัน อ่านมาจาก Adam Cover Letter Almanac หาอ่านได้ (ผมยังไม่เคยเข้าไปนะ) careercity.com ให้ไว้ไปเติมแต่งนะครับ จะไม่เรียงว่าประโยคไหนตามลำดับ ประโยคใน Paragraph ต้น ๆ 1. I would like to present my qualifications for your consideration. 2. In my vast experience, I have gained valuable insight + N 3. I am currently searching for a position in 4. I would like to inquire about suitable opportunities at your company/corporation. จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 21:27:01 A:203.209.123.56 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 74 @@ 5. As a member of your staff, I would offer fifteen years’ experience in 6. I would like to express my interest in applying for the part-time position advertised in The Bangkok Post. 7. I am responding to your advertisement published in The Nation on March 12 concerning the position of 8. If your company is looking for a self-motivated person who can work well with people, grasp and expand on new ideas, tackle and follow through on difficult projects, and achieve set objectives, then I feel we have good reason to meet. จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 21:30:08 A:203.209.123.56 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ประโยคท้าย ๆ หรือจบ 1. Thank you, ชื่อคน, for your consideration. I look forward to speaking with you. 2. If my qualifications interest you, please contact me. I will be glad to furnish any addition information you require. 3. I would appreciate the opportunity to further discuss my qualifications in and immediate and long-term contribution I could make to your company. 4. I appreciate your consideration. 5. I will follow up this inquiry with a phone call in several days. Thank you for your time. จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 21:32:37 A:203.209.123.56 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 76 @@ 6. I look forward to your response. 7. I will give you a call to follow up on this letter toward the end of next week. 8. I feel confident that an interview would determine that my expertise in international affairs and the English language and culture makes me well qualified for this position. I am not limited by location and would enjoy the opportunity to live and work in เมือง + for + ชื่อบริษัท สู้โว้ยยยยยยยยยย อะไรก็ตาม ถ้าทำด้วยหัวใจ มันดีทั้งนั้นครับ ขอให้เรียนภาษานี้ด้วยใจรักครับ Good night @@ จากคุณ : tonmelb - [ 17 มี.ค. 50 21:35:14 A:203.209.123.56 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Esprite - [ 23 มี.ค. 50 04:21:01 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณค่ะ ^^ จากคุณ : บักซ์มินนี่ - [ 24 มี.ค. 50 07:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 79 March 24, 2007 กลับมา Update อีกแล้วครับ How are things (with you) so far/ for the past week? ๗ วัน tonmelb มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังมากมายครับ คุณผู้อ่านคงเช่นกัน บอกหน่อยได้ไหมๆๆ 7 วันที่ผ่านมาหรือ เกือบเดือนที่ผ่านมา ------------------------------ คุณได้ใช้ภาษาอังกฤษบ้างหรือเปล่า? ได้ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอไหม?---------- ผมถามด้วยความสนใจ สนใจจริง ๆนะครับ ภาษาไม่ยากเกินไปที่จะเข้าใจ ที่จะใช้ครับ อ่านงานผม อย่างน้อยสามารถช่วยคุณประหยัดเวลาในการเรียนรู้ได้ ผมตั้งใจจะทำให้มันเข้าใจง่ายขึ้นเท่าที่จะทำได้ แต่ ที่สำคัญ คุณต้องพร้อมทำงานหนัก เพื่อตัวคุณเอง เพื่ออนาคตคุณ เก่งโดยไม่ต้องเครียด ภาษาเรียนสนุกจะตาย ยิ่งเรียนแบบวิธีของผม ผมถามหน่อยเถอะ -------------------------ขยัน ขวนขวาย นี่ทำคุณเครียดเลยหรือครับ-------------------- เพราะตามจริง คุณจะได้ไม่ได้ ผมไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณอยู่แล้ว ไม่ได้อะไรจากคุณ ตรงนี้ จึงทำให้ผมสามารถพูดอะไรตรง ๆ กับคุณได้ (เพราะหวังดี ส่วนที่ว่าคุณจะเชื่อผมหรือไม่นั้น สุดแล้วแต่คิด) และถ้าผมติวคุณ คุณจะหนาวกว่านี้ ถึงผมจะใจดี แต่ผมก็จะ Push คุณให้คุณพยายามให้ถึงที่สุด @@ จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 22:36:46 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 80 วันนี้ tonmelb ขอตอบคำถามของผู้อ่าน ผู้อ่านอีกเวปก่อนนะครับ คุณ dek-siam ขอแนะนำดังนี้ สิ่งที่คุณถามมา ไม่ยากนะครับ อยากให้คุณลองเปิด Dictionary ด้วย เพราะ now เป็น adv., pron. & Conj. ได้ด้วยนะครับ อย่าไปนั่งวิเคราะห์ว่าอะไรคืออะไร จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 22:40:47 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ที่คุณถาม เพราะคุณอาจจะยังไม่ทราบหรือเปล่าว่า Now คืออะไร หรือรู้แต่ว่า อาจจะไม่รู้ว่าหน้าที่ของมันคืออะไร? หรือ ตำแหน่งของมันอยู่ตรงไหนได้บ้างในประโยค? ในประโยคที่คุณยกมา ผมจะไม่แปลหรืออะไรทั้งนั้น แต่อยากแนะว่า ให้ดูที่ Position เจ้า Adv. นี้น่ะ บางตัวและบางเวลาที่เราอยากเน้น มันสามารถอยู่ได้ในตำแหน่งหน้า Front position ตำแหน่งกลางก้อยู่ได้ Mid position และตำแหน่งท้าย -------------------------- มันเฟล็กซิบึ้ลมากครับ อยู่ตรงไหนก็ได้ ความหมายไม่เปลี่ยน------- ถ้ามันเป็น Conj. จะมี that ด้วย เช่น Now (that) I have a car, I can take you home every day. Pron/N. Now is a good time to talk to him. Now is your best chance to come to talk to her. Go! จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 22:41:38 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 82 tonmelb คิดว่า คุณน่าจะเป็นคนที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นตามนามแฝงของคุณ อาจารย์อยากแนะว่า ให้คุณและเพื่อน ๆ เข้ามาอ่านบ่อย ๆ ดีแล้ว ที่เข้ามาถาม ช่วงอายุตอนนี้ ผมอยากแนะว่า ให้เรียนภาษาเพื่อไว้สื่อสาร -------------------------- เตรียมไว้ตั้งแต่วันนี้ วันหน้าคุณและเพื่อน ๆ จะได้ไม่เสียใจ ไม่เสียเวลามาเรียนใหม่ ------------ อาจารย์พูดตรงกับคุณนะ ด้วยความหวังดี ช่วย Post กลับเข้ามาด้วยนะครับ อย่าหายไปเฉย ๆ ผมงง เพราะไม่รู้หายไปไหน หรือเราเข้มกับเขาเกินไป จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 22:46:09 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 83 คุณ Rainbua ครับ เรื่อง Future Tense นั้น เรื่องความแตกต่างระหว่าง Will กับbe going to + V1 ที่คุณเรียนมา ถ้าจำได้คือ คุณใช้ Will กับ เหตุการณ์อนาคตธรรมดา ๆ เช่น You will speak perfect English one year from now. She will marry tonmelb six weeks from today. You will make two million baht ten weeks from now. I will go to Melbourne next year. และใช้กับสิ่งที่คุณไม่ได้ตั้งใจ Plan มาก่อนหน้านี้ เช่น คุณจะจัดงาน Party คุณก็พูดว่า I will invite ton. I am going to call him now. @@ จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 22:50:29 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 84 Going to นั้นนอกจากจะแสดงถึงสิ่งที่จะเกิด/ตั้งใจ เช่น I am going to ask you for a favor. I am going to move to a new apartment. It’s going rain soon. ยังหมายความว่า อนาคตที่คุณพูดถึง นั้นใกล้เข้ามามากกว่าและเป็นทางการน้อยกว่าการใช้ will เช่น I will meet my boss tomorrow afternoon. ตอนเช้าวันนั้น มีสิ่งที่เร่งด่วนเข้ามา คุณพูดว่า I need to see him now. I am going to see/meet him. ถ้าจะแสดงให้เห็นถึงอนาคตที่ใกล้กว่านี้ แสดงว่าเราร้อนใจนะ เรื่องด่วนนะ และการที่จะเข้าพบนั้น--------- จะเกิดขึ้นไม่เกิน 5-10 วินาทีที่พูดจบ--- ต้องใช้ Present Cont. I am meeting him now. Don’t try to stop me. จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 22:52:15 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 85 @@ อีก 1 ตัวอย่าง ดูจาก 4 ประโยคนี้นะครับ 4 ประโยคนี้เป็นเรื่องของลำดับของเวลาที่ action ที่จะเกิดขึ้น The tourists will go to the city. They are going to take the tram. They leave in the morning. และเมื่อถึงตอนเช้า เพื่อนของกลุ่มนักท่องเที่ยวโทรมา คุณรับ คุณบอกว่า จะไปแล้ว จะออกไปแล้ว คุณใช้ Present Cont. (อีกชื่อที่เป็นภาษา American คือ Present Progressive) We are leaving now. Ok นะครับ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 22:53:26 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 86 คุณ Beer ครับ ให้ดูว่า relate ที่ใช้กับ to นั้นเป็นได้ 2 อย่าง คือ อย่างแรก relate เป็นแบบ Vi และแบบ 2 relate to เป็นกริยาวลี ความหมายที่คุณเขียนมา ก็ใช่ แต่แน่นอนเลย ยิ่งทำให้คุณงง ถ้าคุณไปคิด ไปนำมาคำเหมือน มาแทนที่ มาแปะในความคิดของคุณ English synonyms สำคัญครับ แต่มันแทนกันไม่ได้ในทุกกรณี และอย่างยิ่ง ไม่ควรนำมารวมกันว่าคำนี้หมายถึงคำนั้นหรืออีก 5 -6 คำ ที่เรา ๆชอบทำกัน ----------------------- จะดีก็แต่ ในการทำสอบเท่านั้น แต่คุณจะไม่มีความเข้าใจอย่างแท้จริง-------------- ดังนั้น tonmelb แนะนำตรงนี้ว่า ให้คุณสนใจแค่คำว่า relate to ก่อน เปิด Dictionary และอ่าน และจดประโยคตัวอย่างที่ใช้ relate (to) อย่านำไปรวมกับ connect, link, associate, concern เพราะมันจะงง และใช้ผิด ใช้ถูก จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 22:55:39 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 87 Tonmelb อยากให้คุณคิดออกมาแบบนี้เลย เมื่อคิดถึงคำ relate to What he has said so far doesn’t relate well with the facts. (Connect/concerning ไม่เกี่ยวกัน) He is not a successful teacher because he doesn’t well to students and parents. (not able to understand sb) The police have tried to relate the rise in crime to an increase in unemployment. (try to connect 2 things, or hoe they are (or can be) connected) He eventually related the whole story to us. (tell) ------------------------- ไม่ใช่นำไปรวมกับคำอื่น ๆ งงครับ พองง ก็ใช้ผิด เมื่อใช้ผิด ก็สื่อสารผิดไป---------- และนี่คือการสอนภาษาอังกฤษแบบบ้านเรา ท่องศัพท์ไม่พอ จะต้องจำ English synonyms อีกแล้ว---- @@ จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 22:58:33 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 88 1 ในจุดมุ่งหมายของผมที่จะช่วยให้คุณ ---------------- Learn how to learn English----------------------- ------------------ เรียนให้ถูกวิธี ไม่ใช่สักแต่เรียนที่คุณเรียนในห้อง ---------- จะสอบก็สอบไป เพราะนั่นคือ 1 ในหน้าที่คุณ แต่ให้ตั้งมั่น มุ่งมั่น และขยันให้มาก ๆๆๆๆๆ ที่จะฝึกฝนภาษา ----------------- เพื่อไว้สื่อสาร------------ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 23:00:17 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เรื่องการเรียนให้ถูกวิธีนั้น ที่ tonmelb เขียนนั้นเป็น 1 ในหลาย ๆ วิธี มีอยู่ 4 สิ่งสำคัญที่คุณ ๆ ก็รู้ อยากให้ไว้พิจารณาถ้าต้องการฝึกฝนให้สำเร็จ คือ 1. ตัวครู/อาจารย์ 2. สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบข้างตัวคุณ 3. คนรอบข้างตัวคุณ เช่น คนในครอบครัว เพื่อน ๆ แฟน ฯลฯ 4. ตัวคุณ เรื่องหลักสูตร เราคงไปแก้ไข ไม่ได้ แต่ไม่เห็นเป็นไร คุณไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนทั้งวันทั้งคืนนี่ ไม่ได้เรียนภาษาทั้งวัน ตามความจริงแล้ว คุณอยู่กับ MP 3 มากกว่านะ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 23:02:34 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ใน 4 ข้อนี้ ผมให้ข้อ 4 สำคัญที่สุด ต้องถามตัวคุณเองเลยว่า ---------------------- คุณอยากได้มันจริง ๆ หรือเปล่า? มุ่งมั่นหรือเปล่าหรือแค่พูด ๆ บ่น ๆ ไปวัน------------- ----------------- ถ้าอยากได้ คุณต้องไม่หลอกตัวเอง ต้องพร้อมที่จะขยัน----------- ------------- ภาษามันไม่ยากหรอก แต่ต้องใช้เวลา มีคำแนะนำที่ดี คุณจะเก่งภาษาไม่ยากหรอก ตัวคุณมากกว่าที่ยาก ที่ต้องชนะตัวเองให้ได้ ผมไม่ได้บอกว่า สิ่งแวดล้อมมันเอื้อ ไม่ได้บอกว่า คุณมีโอกาสใช้ภาษา ไม่ได้บอกว่า มันยากมาก ๆ สำหรับที่จะเปลี่ยนจาก Limited users มาเป็นผู้ใช้ที่ดี ผมรู้ ผมเข้าใจ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 23:10:54 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 91 แต่คุณเองก็ทำให้มันยากไปอีก โดยการไม่ตั้งใจจริง ไม่มีจุดมุ่งหมาย ที่ tonmelb เขียนแบบนี้ เพราะตลอดเวลา 12 ปีที่สอน น ร ไทยเกือบทั้งหมด จริง ๆ แล้ว ไปไม่ถึงฝัน เพราะตัวเองไม่มุ่งมั่นจริง อย่าลืมครับใน 12 ปีนี้ เกือบ 8 ปีผมเป็น freelancer ที่ Australia ใช่ครับ ทั้ง ๆ ที่ น ร ผมเรียนที่ Australia ยังเอาดีทางด้านภาษาไม่ได้เลย ผมตั้งใจ ผมผิดหวังกับการคาดหวังมาโดยตลอด เพราะจริง ๆ แล้ว ผมไม่เห็นเขาเศร้าหรือหมดหวัง เหมือนที่เขาบ่นกับผม พูดกับผมว่า อยากเก่งภาษา @@ จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 23:13:05 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ถ้าภาษาเป็นเพลง คุณอยากได้เพลงนี้มากเลย แต่เพลงนี้มัน Download ไม่ได้หรอก ถ้าอยากได้ ต้องทำความเข้าใจกับมัน กับอารมณ์ของเพลงนี้ Etc ไปเรื่อย ๆ แต่ละ ๆ เดือน แต่ละปี ๆ คุณจะเข้าใจมันดีขึ้น ๆ ๆ คุณเลยได้แต่บ่น และโทษนั่นโทษนั่น ( ซึ่งมันก็จริง แล้วยังไงล่ะ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้) คุณเลิกล้ม อยากได้ แต่ถ้ามันยากเหลือเกินเพลงนี้ ไม่เอาแล้ว -----------------------------------มัน Download ไม่ได้ ---------------------- มันใช้เวลา มันช้า คุณเลยเลิกล้มมัน จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 23:14:22 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ผมเข้าใจ และผมก็พูดเสมอเลยว่า ภาษาถ้ามันไม่กระทบงานคุณ ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ผมไม่ได้เป็นทูตของประเทศตะวันตก ที่ต้องมาพูดแล้วพูดอีก เพื่อที่คนไทยจะได้พูดภาษาของเขาได้ ไม่ใช่ คุณคือคุณ ต่อให้คุณพูดไม่ได้เลย เราก็เป็นเพื่อนกันได้ แต่ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ผมถึงเน้นแล้วเน้นอีกว่า ข้อ 4 สำคัญที่สุด ----------------- คุณประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาได้อย่างแน่นอน------------- มันอยู่ที่ตัวคุณ --------------คุณไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนภาษา------------------ ก็ตัวคุณอีก ผมเชื่อเช่นนี้ เช่นคุณฟ้าหมอกเขียนว่า ขอบคุณมากๆ เลย ตอนนี้กำลัง อยากลึกซึ้งกะภาษาอังกฤษ ... แล้วจะนำไปใช้น๊า ... เก่งได้แน่ เพราะถ้าเราอยากลึกซึ้งกับมัน มีใจกับภาษา และเรียนแบบไม่เครียด แต่ต้องขยัน ขวนขวาย สำเร็จแน่ ถามหน่อยเถอะครับ -------------------------ขยัน ขวนขวาย นี่ทำคุณเครียดเลยหรือครับ-------------------- จากคุณ : tonmelb - [ 24 มี.ค. 50 23:18:22 A:203.209.121.214 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 94 March 31, 2007 English: Let’s not fight, tonmelb. tonmelb: Let’s. สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ tonmelb มานั่งประจำที่ เวลาตอนนี้ 7.50 pm ครับ คงประมาณไม่เกินเที่ยงคืนล่ะครับ ที่จะ post ลงได้หมด How was your week? เป็นไงบ้างเอ่ย 3-4 วันที่ผ่านมา ร้อนมาก ๆ ๆๆๆ เลยนะครับ หัวข้อสนทนาที่สำคัญในช่วงหลาย ๆ อาทิตย์ คือ เรื่องเศรษฐกิจ กระทู้หลายกระทู้ที่ผมได้อ่าน เกี่ยวกับเรื่องงาน เรื่องหางาน เรื่องการถูกเลิกจ้าง และอีกหลาย ๆ กระทู้ เกี่ยวกับหาที่เรียนภาษา / เรียนอย่างไรให้เก่ง / ไม่มีความมั่นใจถ้าต้องถูกสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ/ท้อใจกับการเรียน และ ท้อใจกับการชีวิตการงานและครอบครัว จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:09:06 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 95 @@ ผมอ่าน ผมก็ท้อและเห็นใจและเห็นภาพไปพร้อม ๆ กับคุณ ชีวิต มันไม่ง่าย ผมมานั่งคิดว่า ถ้าผมตกงานวันนี้ ชีวิตผมจะเป็นอย่างไร? ลำบากเหมือนคุณล่ะ เที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 คงไม่ได้นอน เวลามันเหลือเยอะเลยนะ ขอให้ได้งานเร็ว ๆ ครับ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:12:15 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ภาษามันต้องลงทุนนะครับ ถึงแม้คุณจะขอเพียง------------- สื่อสารได้ในระดับหนึ่ง-------- ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องเงินอย่างเดียวที่คุณจะนำไปเสียค่า course ผมหมายถึง การลงทุนเรื่องเวลาและความตั้งใจต่อเป้าหมายของคุณ เป้าหมายของคุณ (อาจเริ่มตั้งแต่ )-------พอพูดได้ ถึงการต่อยอดความรู้ ------------- คุณต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนตรงนี้ก่อน เป้าหมายในการเรียนภาษาให้ได้ผล(จริงๆ) ต้องไม่นำไปรวมกับสถานภาพปัจจุบันของคุณนะครับ จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:15:18 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ในระหว่างที่หางาน คุณอย่าหยุดฝึกฝน ผมเขียนอยู่บ่อย ๆ ว่า มันจะดีกว่านี้แน่ ๆ ถ้าคุณเริ่มเรียนเพื่อสื่อสารตั้งแต่อยู่ประถม/มัธยม และถ้าเวลานี้ คุณกำลังศึกษาอยู่ ตั้งใจ ตั้งเป้าหมาย ไว้เลยครับ ----------------------- จะเรียนเพื่อรู้ไว้ใช้ ไว้พูด ไว้สื่อสาร---------------- เพราะโลกในปัจจุบัน คุณไม่รู้ภาษา คุณเสียเปรียบไม่มากก็น้อย ผมไม่ได้หมายถึง ปี 2550/2007 ผมมองไปอีก 10-15 ปีจากนี้ แต่ทุกวันนี้ คุณก็รู้แล้วว่า ภาษาถ้าไม่รู้ มันสร้างความลำบากให้กับชีวิตอย่างไร จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:17:05 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 98 @@ อ่านงานเก่าผมด้วยนะครับ Topic 1: เรื่องการเรียน Tense อย่างถูกต้องไม่ถูกต้อง ---------------------------ถูกต้องไม่ถูกต้อง------------------------------------ tonmelb คิดว่า เป็นมุมมองของผมคน ๆ หนึ่งแล้วกัน อาจารย์ท่านอื่น ๆ อาจจะมีแนวที่ต่างกัน มองต่างกันก็ได้ครับ tonmelb มองว่า ถ้าจะสอนให้เด็ก ๆ เข้าใจ tense จริง ๆ ให้สอนโดยยกสถานการณ์ เช่น สถานการณ์แบบนี้ อารมณ์แบบนี้ ใช้ tense ใดนำล่อง และถ้ามี 2-3 tense ให้เลือก tense ไหนเหมาะสุด เพราะอะไร? มากกว่าไปจำรูปแบบอย่างเดียว และจำคำจัดความว่าใช้อย่างไร --------------------รูปแบบและคำจัดความ------------------- ต้องมาทีหลังครับ จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:24:46 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 99 การเรียนที่จะทำให้นักเรียนเข้าใจ tense อย่างเป็นธรรมชาติ ต้องมาจาก 1. students’ input ก่อน ถามเขาก่อน ถ้าเด็กโต อาจารย์บอกเป็นกฏว่า ไม่ให้อธิบายความเข้าใจของเขาออกมาเป็นภาษาหนังสือ ขอความเข้าใจที่เขาเข้าใจจริง ๆ ถ้าเขาเข้าใจ เขา/เธอจะสามารถอธิบายโดยยกตัวอย่างเป็นสถานการณ์แบบนี้-แบบนั้นได้ บอกเหตุผลได้ ---------------------------- ไม่ใช่ นำคำจัดความในหนังสือมาท่องให้เราฟังครับ------------------- 2. basic introduction to tenses อาจารย์ต้องกล่าวโดยภาพรวมของ tense ทั้งหมด ต้องอธิบายความเยอะ ๆ ต้องคุยนะครับว่า แต่ละ tense มีไว้เพื่อถ่ายทอดอะไร อารมณ์ในแง่มุมไหน? นำมันออกมาตีแผ่ ต้องให้นักเรียนได้สัมผัสความเข้าใจจริง ๆ ไม่ใช่เหมือนที่เป็นอยู่ เด็กต้องสร้าง Mind map เกี่ยวกับ tense ให้ได้ ขณะนี้ ผมติว (จะขึ้น) ม. 6 อยู่ 3-4 คน ให้อธิบายภาพรวม องค์ความรู้ของสิ่งที่เขาเรียนมาทั้งหมดแบบเข้าใจง่าย ๆ ------------------------------- เขาทำไม่ได้อ่ะ เขาไม่รู้ที่เรียนมา คือรู้ แต่ปะติดปะต่อไม่ได้ ความรู้ที่มี ไม่เป็น 1 เดียว ไม่ใช่ องค์ความรู้ แตกเป็นเสี่ยงครับ ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน สับสนยุ่งเหยิง จับต้นชนปลายไม่ถูก ผล: สื่อสารไม่ได้นะครับ ------------------------- @@ จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:26:16 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 100 Topic: 2 คือ เรื่อง Vocabulary and idiomatic English expressions Expressions and idiomatic usage เป็น part ที่สำคัญมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น short and long conversations, mini-talks Conversation นี้มันอยู่ในระดับ text/discourse level คือความสามารถที่นำเอาประโยคต่าง ๆ มาผูกรวมเป็นเรื่องเป็นราว มันไม่ใช่ ประโยคเดี่ยว ๆ ที่ทำในแบบฝึกหัด ( แบบฝึกหัดที่ทำนั้นก็สำคัญ เรียกว่า Sentence level) พูดถึงคำศัพท์ tonmelb นึกถึง English collocations Recommended books 1. Oxford Collocations ของ Oxford ครับ 4th impression 2003 2. LTP Dictionary of Selected Collocations, 1997 (ที่อื่นไม่เห็นมีวางขายนะครับ มีอยู่ที่เดียวคือ ศูนย์หนังสือจุฬา ) 3. หนังสือของคนไทย ที่คุณไม่ควรพลาด English by example : A Dict. Of English Collocations with Thai translations ของอาจารย์ วงศ์ วรรธนพิเชฐ จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:30:12 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 101 อยากแนะนำ Dictionary ด้วยครับ มีมากมายในท้องตลาด tonmelb แนะให้ซื้อของทางฝั่งอังกฤษ เพราะมีประโยคตัวอย่างให้อ่านครับ Longman Exams Dictionary, 2006 หรือ Dictionary of Contemporary English, 2003 หรือ Colins Cobuild Advanced Learner’ s English Dict, 2006 ผมค่อนข้างตกใจว่า เราคนไทยที่ศึกษา ฝันอยากจะเก่ง แต่ ----------------- น้อยคนที่จะใช้ Dictionary จะเปิดใช้ก็ต่อเมื่อครูให้เปิด หรือจำเป็นจริง ๆ ------------ ไม่ได้นะครับ ต้องใช้มันบ่อย ๆ มีอีก 1 เล่ม ผมอยากจะให้คุณมีไว้ ราคา 298 บาทเองครับ เมื่อเทียบกับคุณค่าของหนังสือเล่มนี้ คุ้มมากๆๆๆๆๆ คือหนังสือของปรมาจารย์ สอ เสถบุตร ไปนอก [ฉบับสมบูรณ์] tonmelb เคยอ่านเล่ม version เก่าที่หอสมุดแห่งชาติ ดีใจมากเลยที่รวมเล่มใหม่ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:35:13 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 102 Topic 3: Distinct pronunciation (รวมหมดถึง Correct stress and intonation, consonants and vowels) สำหรับหนังสือ ขอให้ไปอ่านในบทเก่า ๆครับ ต้องใส่ใจมาก ๆๆ ครับ การบริหารปาก ริมฝีปาก ลิ้น กราม etc ที่ครูเคทให้คุณฝึก (ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายใครนะครับ ตรงกันข้ามผมให้เกียรติทุกคน ใครเคยพูด/สอนอะไรมาก่อน ก็เอ่ยชื่อคนนั้นครับ) ภาษาอังกฤษเรียกว่า Enunciation: e is how clearly you say sounds. จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:38:04 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 103 อ่านมา ทางกระทรวงจะเพิ่มชั่วโมงให้เด็กเรียนภาษาเป็น 8 คาบต่อสัปดาห์ และอีก 127 โรงเรียนที่มี EP จะไม่มีเพดานค่าเทอม อ่านมาจากคมชัดลึก ดูกันไปครับ Sample sentences ไว้ให้ใช้กัน 1. You can improve both accuracy and fluency. 2. You can increase your vocabulary. 3. Good teachers always motivate students to improve their English. 4. You should aim to learn to communicate more effectively. 5. Businesspeople want to be able to converse or conduct their business meetings in English. จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:39:51 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 104 @@ 6. You can say that someone is terribly kind to you. 7. Students should learn something that is useful to them for the rest of their life. 8. Small group training is a fantastic way to learn new skills quickly and confidently. 9. Thank you for your enthusiastic encouragement. 10. You can say “class teaching”. 11. You must be realistic in your ambitions. จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:41:55 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 105 @@ 12. Your lips are beautiful, much more your eyes. ตาคุณยิ่งสวยกว่าอีก 13. You can say that thank you for your unfailing cooperation and courtesy. 14. Please don’t smoke. Would you please not smoke. 15. I am totally hopeless at math. 16. Your parents are concerned about you. 17. Think carefully before making a decision. You have got a difficult choice to make. 18. The ability to speak English well, with a good accent and the correct stress and intonation, is naturally the wish of most students/people. ประโยคที่ให้ในแต่ละครั้งหลากหลาย แต่ก็เป็นแค่ starter นะครับ จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:44:47 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ถ้ายังหาโอกาสพูดยังไม่ได้ ฟังและอ่านยังมีครับ -------------------------------- ฟังและอ่าน ฝึกได้ตัวเองก่อนเลย ไม่ต้องรอ-------------------------------- --------------- อย่ารอครับ คุณหลายคน พอไม่มีโอกาสคุย ไม่มีคนพูดด้วย คุณไม่ทำอะไร ต้องอ่านและฟัง เพื่อที่คุณจะได้มีองค์ความรู้ ที่เป็นอยู่ คุณมองหาแต่โอกาสพูด ถึงได้พูด แต่ไม่มีอะไรจะพูด ไม่มีศัพท์ คุณจะทำอย่างไร ------------------------------- ขอแนะว่า Fluency is not accuracy. ความคล่องคนละเรื่องกับความถูกต้องแม่นยำ ต้องมีทั้งคู่ You can improve both fluency and accuracy. พูดบ่อย ๆ ก็คล่อง และนำมาถึงความถูกต้องได้ แต่ความถูกต้องของการพูดคุณจะมาเร็วขึ้น และมากขึ้นโดยมาจากการอ่านและฟังเยอะ ๆๆ ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 00:47:13 A:203.209.117.109 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 107 Update อีกวันครับ ในเดือนพฤษภาคมนี้ น่าจะลงตัวในเรื่อง---------- ตารางเวลาการทำงาน---- ของผม ---- การ Update คอลัมน์ภาษานี้---------- อยู่ในตารางด้วย โดยตั้งใจว่า จ – พฤ นั้น ผมจะพยายามหาเวลาเขียน Update ในช่วงกลางคืนสัก 2 วัน อาจจะเป็นคืนวันอังคารและศุกร์ และอ่าน+ เขียนลงเวปคืนวันเสาร์ ผมคิดว่า ถ้าต้อง Update once a week ข้อมูลต้องแรงพอที่จะสร้าง----- แรงบันดาลใจ----------- สร้างกำลังใจให้ผู้อ่านได้----------- tonmelb สำหรับครั้งนี้ ตั้งใจจะให้มันออกมาดีที่สุด จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:21:19 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 108 เรื่องความปรารถนาที่จะพูด/ใช้ภาษาอังกฤษ ไว้เพื่อสื่อสาร ไว้ใช้ในที่ทำงาน ในชีวิตประจำวันนั้น มีมานานแล้ว และเราๆ ก็ทราบดีว่า การเรียนการสอนของบ้านเรา นั้นผิดมาโดยตลอด ความจริงนี้มีบันทึกมานานแล้ว เช่น หนังสือ ไปนอก ของปรมาจารย์ สอ เสถบุตร ก็เขียนไว้เมื่อ 50-60 ปีที่แล้ว ท่านก็เขียนไว้ “ วิธีการสอนของเราผิดหมด หรือสอง การเรียนภาษานอกประเทศอังกฤษนั้น ไม่มีทางสำเร็จได้ เมื่อพิจารณาดูโดยละเอียดแล้ว ข้าพเจ้าอยากจะลงความเห็นว่า การเรียนภาษาอังกฤษในประเทศไทยนั้น อาจทำได้ผลดีทีเดียว ถ้าเราใช้วิธีถูก” “วิธีที่ถูกในการเรียนภาษาอังกฤษก็คือ วิธีที่นักเรียนไทยเรียนภาษาอังกฤษในประเทศอังกฤษนั่นเอง คือไม่ใช่ด้วยวิธีท่องศัพท์ และไม่ใช่ด้วยวิธีเรียนไวยากรณ์ แต่ด้วยวิธีอ่านและสดับตรับฟังภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นประโยคและเป็นเรื่องเป็นราว” “ วิธีเรียนตามแบบธรรมชาติ ที่ถูกต้องตามธรรมชาติที่สุด” “ บัดนี้มนัสรู้สำนึกว่า การเรียนภาษาอังกฤษนั้นไม่มีทางลัด มีอยู่แต่ทางตรงและทางอ้อมเท่านั้น ทางอ้อมก็คือ การเสียเวลาเที่ยวแสวงหาวิธีที่จะตัดการเรียนให้สั้น ทางตรงก็คือการจดจำคำและประโยค รวมทั้งการออกเสียงที่ชาวอังกฤษเขียนและพูดจนชินหูชินตา” “ไวยากรณ์เขาสร้างขึ้นเพื่ออธิบายภาษา ไม่ใช่เขาสร้างภาษาให้ตรงตามหลักไวยากรณ์” จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:22:57 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ผ่านมา 50-60+ ปีแล้ว ปัจจุบัน เราก็ยังไม่ไปไหน ผมรู้ คุณก็รู้ ฉะนั้น ------------------------------ ไม่ได้เกี่ยวกับ ไม่รู้วิธี ว่าจะเรียนให้เก่งอย่างไร----------------------- คุณรู้ดี ทุกอย่างขึ้นอยู่ ความมุ่งมั่น พยายามของคุณ ศรัทธา ครับ ศรัทธา ที่มีต่อคนไทย ที่ทำให้ tonmelb วนเวียนเขียนอยู่ตรงนี้ สู้โว้ยยยยยยยยยยยย จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:26:58 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 110 วันนี้ tonmelb ขอลุยเขียนเรื่อง การออกเสียงของคำโด ๆ เมื่อหลาย ๆ ปีก่อน เคยเขียนไว้แล้ว เมื่อ Hard disk พัง ข้อมูลส่วนนี้ที่เขียนหายหมดเลย เป็นร้อย ๆ ครับ Note: อักษรไทยที่เขียนให้เสียงนี้ ผมพยายามให้ใกล้เคียงฝรั่งที่ออกมากที่สุด ทุกคำผมสามารถพูดได้เลยว่าเกือบ 100% ยิ่งถ้าออกเสียงแบบตั้งจิตตั้งใจแล้ว 97-98 % อาจเป็นได้ก็ได้ครับ ก่อนเขียนผมก้ออกเสียงก่อนหลาย ๆครั้ง เสียงแบบอังกฤษอังกฤษ จะขึ้นก่อน เสียงอเมริกันจะตาม เช่น เอ้มถี่/ตี่ 1. Rapidly---------แร้พผิดหลี่------------- 2. people-------------- พี้พพโผล่(เลอะ) 3. August-------------------- อ๊อเกิ่ส(เถอะ) 4. season------------------- ซี้สึ่น 5. consultant------------- ข่อนซ้าวทึ่น(เถอะ) 6. rival--------------------- ไร๊หวึ่ล(เลอะ) เสียง r and v ต้องออกเสียงให้ถูก 7. succeed--------------------สักซีซซซด(เดอะ) จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:29:21 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 111 @@ 8. police---------------------- ผ่ะลีสสส 9. trouble-------------------- ทร้าบึ๋ล(เลอะ) เสียงควบกล้ำ tr and bl ต้องชัดครับ 10. answer---------------- อ๊าน/แอ๊นเส่อะ 11. current---------------------- เคร้อเหรึ่น(เถอะ) 12. never--------------------- เน้ๆๆๆๆเฝ่อะ 13. virus---------------------- ว๊ายหรึ่สสส 14. empty-------------------------- เอ้มถี่/ตี่ 15. economy------------------------ อิ่ค้อเหน่อะหมี่ 16. children-------------------------- ชิ้วเดรึ่น(เหนอะ) 17. Japan--------------------------------เจ่อแพพพน 18. finance-------------------------- ไฟ๊แหน่นสสส จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:31:02 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 112 @@ 19. subsequently----------------------- ซับสิ่เคว่นหลี่ 20. village------------------------------ ฝิ้ลเล่จ(เจอะ) 21. requirement------------------------- หรี่คว้ายหมึ่น(เถอะ) 22. zero------------------------------ ซี้ดโหร่ 23. extinction----------------------------------เอ่กสติ๊งฉึ่น(เหนอะ) 24. alternative----------------------- อ่อเท้อหนิ่ถิ่ฟ(เฝอะ) 25. excellent---------------------------เอ็กซึ่หลึ่น(เถอะ) 26. person---------------------------- เพ้อรสึ่น(เหนอะ) 27. goal---------------------------- โก(เหลอะ) ขึ้นเสียงสูงหลัง ก แล้วจบด้วยเสียง L 28. Pidgin English----------------------------- พิ้ดจึ่น อิ้งกลิช พ่นเสียง ช sh sh 29. delay-------------------------------------------------- ดิ่เล 30. picture--------------------------------------พิ้กเฉ่อร ( ตรงเฉ่อมีเสียง จแจมด้วย) จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:33:07 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 113 @@ 31. exactly-------------------------------------- เอกแซ้คหลี่ 32. islander------------------------------------ ไอ๊(เออะ)แล๋นเด่อะรรรร 33. memory-------------------------------- เม้มโม๋ะหรี่ 34. exciting----------------------------------เอ่กไซ้ถิ่ง/ติ่ง 35. property------------------------------- พร่อพเพ่อะถี่/ตี่ 36. record-------------------------------- เร็คขอ(ร)ด/ หรี่ข้อ(ร)(เดอะ) 37. present---------------------------------- เพร้สซึ่น(เถอะ) 38. thousand------------------------ ฑ้าวซึ่น(เดอะ) จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:36:37 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 114 @@ 39. continuously---------------------------- ขั่นทิ้วหนิ่อึสหลี่ 40. purpose------------------------------- เพ้(ร)อพึ่สสสส 41. concern------------------------------------ขั่นเซิน (มีเสียง r แทรก) 42. regulation-------------------------------------- เร้กกิ่วเล้ฉึ่น 43. consent------------------------------------- ข่อนเซ้น(เถอะ) 44. different---------------------------- ดิ้บฟรึ้น(เถอะ) 45. despair--------------------------------- ดิ่สแปรรรรรร 46. disadvantage----------------------------- ดิ่แส่ดแว้นทิ่ด(เจอะ) 47. resentment-------------------------- หรี่เซ้นหมึ่น(เถอะ) 48. attractive----------------------------------- แอ่ดแทร็คถีฟ(เฝอะ) 49. credit------------------------------------------- เคอะๆๆๆ คเรดิ่ท(เถอะ) 50. difficult---------------------------------------------ดิ่บฟิ่คึ้ล(เถอะ) 51. judgment--------------------------------จั้จ(เจอะ)มึ่น(เถอะ) จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:38:17 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 115 @@ 52. speak---------------------------------------------- สสสสสปีก(เคอะ/เกอะ) 53. Kodak------------------------------------------- โค๊ะแดก(เกอะ) 54. standard----------------------------------------- สแต้นเดิ่ด 55. inform--------------------------------------- อิ่นฟอรม 56. Germany------------------------------------ เจ๊อหมั่นหนิ่ 57. official----------------------------------------- อ่อฟฟี้ฉึ่ล(เลอะ) 58. effectively--------------------------------------- เอ็ฟเฟ้กถีบหลี่ จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:40:37 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 116 @@ 59. restoration------------------------------------ เหร็สสสโต่เร้ฉึ่น(เนอะ) 60. evident-------------------------------------- เอ้ฟหวิ่ดึ่น(เถอะ) 61. density---------------------------------------เด้นสิ่ถี่/ตี่ 62. overcome it------------------------------------- โอ๊เว่อรคัม หมิ่ท 63. music--------------------------------------------มิ้วสิ่ก(เคอะ) จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:44:40 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 117 @@ 64. environment---------------------------- เอ่นไฝ้เหร่อะหมึ่น(เถอะ) 65. representative------------------------------- เร่ฟผลิ่เซ้นเถอะถีฝ 66. guide--------------------------------------- ก๊าย(เดอะ) 67. examination------------------------------------เอ่กแซมหมิ่เน้ฉึ่น(เนอะ) 68. actually-------------------------- แอ้คฉ่วลหลี่ 69. absolutely--------------------------------------- แอ่ปเส่อะลู้ปหลี่ 70. encouragement-------------------------------- เอ่นค้อรหริ่จ(เจอะ)หมึ่น(เถอะ) 71. seminar--------------------------------- เซ้หมิ่หน่า 72. developing------------------------------------- ดิ่เฝ้อะหล่อพผิ่ง/ปิ่ง จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:47:14 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 118 @@ 73. participate------------------------------------ พารที้ซิ่เพ่ท(เถอะ) 74. disappointment---------------------------- ดิ่สเส่อะพ้อยหมึ่นท 75. anger-------------------------------- แอ๊งเก่อรรรร 76. dusty---------------------------- ดัสถี่/ตี่ 77. authentic------------------------------------อ่อเฑ้นถิ่ค(เคอะ) 78. stock market -------------------------------------------- สต๊อก ม้าเข็ด/เก็ด(เถอะ) 79. Poland--------------------------------- โพ้แหล่น(เดอะ) 80. analysis-------------------------------- อ่ะแน้วหลิ่สิ่สสส เสียง A-Z, เสียงควบกล้ำ เช่น pr, cr, cl, br, bl ออกเสียงอย่างไร ไปค้นดูจากคอลัมน์เก่า ๆครับ และซื้อหนังสือที่ผมแนะนำมาฝึกเพิ่ม จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:50:11 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 119 @@ อาจจะมีคนถาม โดยเฉพาะผู้ใหญ่ ว่าไม่เบื่อหรือที่ต้องมาพูดตลอด ไม่นะครับ ต้องบอกว่า เด็กอายุ 12-22 ปี ผมว่าพวกเขาตามวัย ผมเป็นวัยรุ่นมาก่อน ผมก็แรงมาก่อนเหมือนกัน เด็กวัยนี้ ต้องการคนชี้แนะ ต้องการพิสูจน์คุณค่าตัวเอง ต้องการให้ผู้ใหญ่พูดดี ๆ ถึงแม้จะไม่รับฟัง และกว่าจะรู้อะไรเป็นอะไร อาจต้องเลยวัยรุ่นแล้ว ส่วนใหญ่จะหลัง 22-23 ปีน่ะครับ -------------------------------- และถึงแม้เด็กหลายคนจะรู้ก่อน 22-23 แต่หลาย ๆคนหมดหวังกับสังคม กับตัวเอง เพราะฐานะตัวเอง สิ่งแวดล้อม etc ------------------------------------- ต้องสู้นะ ยังมีลมหายใจ ก็ต้องสู้ ยิ่งรู้ว่าเราด้อยโอกาส ยิ่งต้องพยายามสร้าง ( อย่าลืมคุณธรรมด้วย) หนังชีวิต มันต้องดูนาน ๆ จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:52:59 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 120 @@ tonmelb อยากฝากให้คิด Many Thai students sit quietly in class and practice and memorize endless complicated grammar rules. They get good grades and pass the examination but really do not understand what they have learned. ถ้ายังอยู่ในโรงเรียน/มหาวิทยาลัย หยุดคิดสักนิด เพื่อตัวหนู/น้อง/คุณเอง เรียนภาษา เมื่อจะไปทำงาน ต้องสื่อสารได้ซิครับ ถ้าไม่รู้วิธี อ่านจากตรงนี้ จะไปเรียนพิเศษ ยังไง ก็แล้วแต่ Should you say that you have very little time left for yourself, please look at me. I work 6 and half days a week. Best of luck จากคุณ : tonmelb - [ 1 เม.ย. 50 22:56:37 A:203.107.196.37 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 121 April 2, 2007 ช่วงนี้ผมมีเวลาทำงาน เตรียมงานได้อย่างค่อนข้างเต็มที่ ( เช้า-เที่ยง สอน summer) หลังเที่ยงก็เตรียมการสอนสำหรับเทอมใหม่ครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้ tonmelb อยากฝากไว้ว่า การเรียนภาษานั้น ไม่ว่าผู้เรียนต้องการเพียงจะสื่อสารได้ (ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าใจจริงอยากเก่งมาก ๆ แต่ไปไม่ถึง ไม่อึด ท้อซะก่อน) หรือเชี่ยวชาญไปเลย ก็ยังต้องใช้-------------------เวลา------------------ และ-------------------ความเอาใจใส่มากๆๆ ---------------------- บ้าภาษาอังกฤษไปเลยครับ ยกตัวอย่างเช่น tonmelb ในแต่ละอาทิตย์ผมใช้เวลาอย่างน้อย 5+ hrs ในการ update ผมขีด ๆ เขียน ๆ มาจะ 7 ปี (จะครบ 7 ปีในวันที่ 4 June 2007) คุณลองคูณซิ กี่ชั่วโมงที่ผมลงทุนลงแรงและทุ่มเทไป และนอกเน็ท ผมใช้ภาษา พูดภาษาอังกฤษในงาน @@ จากคุณ : tonmelb - [ 2 เม.ย. 50 23:37:04 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ผมก็ยังไม่หยุด I have a very strong passion to succeed. ความมุ่งมั่นที่จะให้ ----------------------- ผมต้องการให้พลังแก่คุณ พลังในการทำงาน ในชีวิตผม ------------ ----------------------------------คุณเห็นถึงความตั้งใจของผม อธิบายให้คุณควรเรียนภาษาอย่างไร ----------- ---------------- คุณไม่เริ่มใหม่ตอนนี้ คุณจะเริ่มตอนไหน ---------------- --------------------- ภาษาอังกฤษจะถูกครอบครองโดยคนที่ตั้งใจจริงเท่านั้น--------------- --------------------- ไม่ใช่พรสวรรค์ อย่างเดียว ------------------------------- @@ จากคุณ : tonmelb - [ 2 เม.ย. 50 23:48:50 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 123 @@ --------------------- มุ่งมั่น และเรียนให้ถูกวิธี ---------------- --------------------ให้เวลาไว้นาน ๆๆๆ หน่อยครับ 2-3 ปี หลังจาก 2-3 ปี ต่ออีก 1-2 ปี ต่อไปเรื่อย ๆๆๆๆ-------- ------------------------ไม่ใช่ จะสอบสัมภาษณ์ แล้วหาที่เรียน หรือ พอได้งาน แล้วไม่สนใจแล้ว--- ----------------------------- เปลี่ยนนิสัยครับ นั่นไม่ใช่นิสัยของคนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต------------ และ 2-3 ปีนั้น etc คุณต้องลงทุนซื้อหนังสือ ไปเรียนตามสถาบันบ้าง ไม่ใช่ไม่ลงทุนเลย หรือมุ่งแต่เก็บเงินครั้งเดียวแต่ไม่ฝึกฝนเลย แล้วไปสมัครเรียน ------------------------------- คุณจะผิดหวัง จะเสียซ้ำเสียซาก------------------------- จากคุณ : tonmelb - [ 2 เม.ย. 50 23:55:35 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ดังนั้นเมื่อคุณอ่าน เกิดไม่เห็นด้วยอย่างไร หรือผมเขียนผิดตรงไหน ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุใด ถ้าว่าง ช่วยเขียนให้เลย จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ -----------------------------------------อย่ามานั่งถกเถียงกับผมเลย------------------------------------ ------------------------ มาช่วย ๆ กันจะดีกว่า--------------------- และถ้ามีกรณีที่ต้องอธิบาย ก็ยิ่งดี เพราะผู้อ่านจะได้ประโยชน์ ผมก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะค้านที่ผมเขียนไม่ได้ ผมพร้อมและยินดีที่จะอธิบายความ (หรือคนอื่นที่ว่างเข้ามาช่วยผม) ผมเองก้ไม่ใช่---------------รู้ไปโม้ดดดดนะครับ----------------- @@ จากคุณ : tonmelb - [ 2 เม.ย. 50 23:58:35 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ถ้าคุณติดตามผมมาตลอด คุณจะทราบเลยว่า -------------------- ผมไม่ได้มานั่งหน้าจอ computer ว่าคุณ เสียดสีคุณ ผมเห็นใจ เข้าใจและเป็นกำลังให้ แต่คนไทยรู้ก็รู้ แต่ไม่เปลี่ยนแปลง ผมกับคุณไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่ญาติ ไม่ได้รู้จักกัน แต่ผมก็พยายามมากๆๆๆๆ ที่จะเปลี่ยนคุณ-------------- ------------------เพื่อตัวคุณเอง---------------------- ------------------------สังคมทุกวันนี้ แข่งขันกันสูง ไม่มีใครมารอช่วยใคร--------- ---------------- ลุกขึ้นมาสู้ครับ -------------------------- จากคุณ : tonmelb - [ 3 เม.ย. 50 00:01:27 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 126 มาต่อด้วยการออกเสียงคำโดด ๆ นะครับ Note: อักษรไทยที่เขียนให้เสียงนี้ ผมพยายามให้ใกล้เคียงฝรั่งที่ออกมากที่สุด ทุกคำผมสามารถพูดได้เลยว่าเกือบ 100% ยิ่งถ้าออกเสียงแบบตั้งจิตตั้งใจแล้ว 97-98 % อาจเป็นได้ก็ได้ครับ ที่ผมเติมอักษรเพิ่ม เช่น สสส หรือ รรร ผมต้องการให้คุณลากเสียงและเน้นด้วยครับ 1. period---------------------------------พี้เหรี่ยด 2. return-------------------------------- หรี่เทริน(เหนอะ) 3. passion------------------------แพ้ดฉึ่น(เหนอะ) 4. limited----------------------------- ลี้หมิ่ถิด/ติ่ด 5. challenge-------------------------- ชาเล่น(เจอะ) ออกเสียง ch ช หนัก ๆ ดุ ๆ 6. large--------------------------------- ลาๆๆๆ ลาจ(เจอะ) 7. classical--------------------------- แคลสสิ่คึ่ลลล 8. color-----------------------------------คั่ลลลเหล่อะรรรร 9. flight--------------------------- ฟไล้ท(เถอะ) เสียงควบกล้ำ fl ต้องตั้งใจออกเสียงให้ชัด จากคุณ : tonmelb - [ 3 เม.ย. 50 00:04:37 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 127 @@ 10. eight--------------------------------- เอ้ๆๆๆ เอ่ท(เถอะ) 11. dismantle----------------------------- ดิ่สแม้นทึ่ลลล 12. crisis-----------------------------------ไคร้สิทธ 13. private--------------------------------------- พร้ายเหว็ท เสียง v 14. industry---------------------------------- อิ่นดัสถี่/ตี่ 15. Washington----------------------------- ว้อฉิ่งถั่น/ทั่น 16. parent--------------------------- แพ้เหรึ่น(เถอะ) เน้นหนักเสียง p ในแ(พพพ)พ้ 17. inside-------------------------------อิ่นซ้าย(เดอะ) จากคุณ : tonmelb - [ 3 เม.ย. 50 00:11:44 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 128 @@ 18. choices-------------------------------- ช้อยซิ่สสสส 19. hazy--------------------------------------เฮ้สี่ 20. Fanta----------------------------------แฟ้นท่า/ถ่า 21. building-------------------------------------บิลลลดิ่ง 22. urgent----------------------------------เอ๊อจึ่น(เถอะ) 23. aggressive---------------------------------เอ่อะเกร็สสีบฝฝ 24. doubtful---------------------------------------ด๊าวฟ๊อล(สั้นกว่าฟ๊อลนิดหนึ่ง) 25. spending------------------------------------- สสสสเป๊นดิ่ง เน้นเสียง s 26. declare-------------------------------- ดิ่แครรร จากคุณ : tonmelb - [ 3 เม.ย. 50 00:15:38 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 129 @@ 27. profit---------------------------------------------พร๊อบฟิ่ท(เถอะ) 28. minister------------------------------------------หมี่นิ๊ดเต่อรรร 29. China----------------------------------------ใช้/ช้ายน่ะ 30. Danish------------------------------------- เด้หนิ่ด (เฉอะ) 31. Hawaii---------------------------------- ห่าว้ายอิ 32. landslide----------------------------------แล้นสสสหล่าย(เดอะ) จากคุณ : tonmelb - [ 3 เม.ย. 50 00:19:14 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 130 @@ 33. narrow----------------------------- แน้โหร่ 34. producer------------------------------------ โพร๊อะดิ้วเส่อะรรร 35. Toronto----------------------------------- โธ่หร๊อนโถ่ 36. October----------------------------------- อ่อกโท้เบ่อะรร 37. receive------------------------ หรี่ซี้พ(เฝอะ) 38. monument-----------------------------------โม่ะหนิ่หมึ่น(เถอะ) 39. outstanding------------------------------------ เอ๊าสสสแต่นดิ่ง 40. at the moment------------------------------- แอ่ท ดึ่/เด่อะ โม้หมึ่น(เถอะ) จากคุณ : tonmelb - [ 3 เม.ย. 50 00:24:36 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 131 @@ 41. independence--------------------------------- อินดิ่เพ้นดึ่นสสส 42. Nepal------------------------------------------------ เหน่อะพอ(เลอะ) 43. instantly------------------------------------------ อิ่นสสสแต้นหลี่ 44. positively------------------------------------ พ้อสสสิ่ถีฝหลี่ 45. important------------------------------------- อิ่มพ้อทั่น(เถอะ) 46. international------------------------------------------อินเตอแน้ฉั่นแน้ล(เลอะ) เสียง เตอ กับ เธอ เสียงอยู่กึ่งๆ 47. uncertain--------------------------------------- อั่นเซ้อเทิ่น(เหนอะ) 48. failure---------------------------------------ฟฟฟฟ เฟ๊เหรี่ยรรร 49. interest--------------------------------- อิ้น(เทอะ)เทร็สสส(เถอะ) 50. basic------------------------------------ เบ๊สิ่ค(เกอะ) 51. hand--------------------------------------- แห้น(เดอะ) 52. popularity--------------------------------- พ๊อบเพ่อะแล้หริ่ถี่/ตี่ จากคุณ : tonmelb - [ 3 เม.ย. 50 00:30:30 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 132 @@ 53. targeted--------------------------- ท้าเก็ทถิ่ด/ทิ่ด 54. impact----------------------------------- อิ้มแพ๊ค(เถอะ) 55. performance---------------------------------------------- เพ่อะฟ้อหมึ้นสส 56. confronted---------------------------------- ข่อนฟร๊อนถิ่ด 57. impartial------------------------------------------------- อิมพ้าฉั่ลล 58. celebration---------------------------------- เซซซลหลึ่เบ้รรฉึ่น(เหนอะ) 59. celebrate---------------------------------------เซซซลหลึ่เบร็ท @@ 60. intensify-------------------------------------------- อิ่เท้นสิ่ฟ่าย 61. risky-------------------------------------- หริ้สกี่ 62. exceeding------------------------------------------------------ อิ่กซี้ดดิ่ง 63. justice-------------------------------------------- จั่สที่สสส 64. bakery------------------------------------------------เบ๊เกร่อะหรี่ 65. Robinson----------------------------------------- โหร้บิ่นซึ่น(เหนอะ) 66. Make it happen-----------------------------เม้ กิ่ท แฮ้พผึ่น(เหนอะ) 67. client------------------------------------------------คไลอึ่น(เถอะ) 68. cuppaccino---------------------------------คับผ่ะชีโหน่ จากคุณ : tonmelb - [ 3 เม.ย. 50 00:40:09 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 133 @@ 69. salad----------------------------------------- แซลลลหลั่ด(เดอะ) 70. package---------------------------------- แพ้คกิ่จ(เจอะ) 71. couple--------------------------------------------------- คั้บผึ้ลลล 72. directly------------------------------------ ได่เหร้กหลี่ 73. nervous------------------------------------------------- เน้อรรรหวึ่สสส 74. manage--------------------------------------- แม้หนิ่จ(เจอะ) 75. guard--------------------------------------- ก่าด(เดอะ) จากคุณ : tonmelb - [ 3 เม.ย. 50 00:48:18 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 134 @@ 76. February--------------------------- เฟ็บบรู่เอ่อะหรี่ 77. recently----------------------------------- หรี่เส่นหลี่ 78. preparing---------------------------------- ผลิ่แพร้หริ่ง 79. responsible--------------------------------------------------- หรี่สสสป๊อนสิ่บึ้ลลล 80. corruption-------------------------------------- ข่อรั้บฉึ่น(เหนอะ) 81. prevented-------------------------------- ผลิเว้นทิ่ด @@ 82. delicate------------------------------- เด้ลลีเข็ต 83. ocean----------------------------------- โอ๊ฉึ่น(เหนอะ) 84. strategy-------------------------------- สต๊าถิ่จี่ 85. university-------------------------------ยูหนิ่เว้อศิ่ถี่-ตี่ จากคุณ : tonmelb - [ 3 เม.ย. 50 00:50:22 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 135 @@ 86. seven--------------------------------- เซ้หวึ่น(เหนอะ) 87. bonus---------------------------- โบ๊หนึ่สสสส 88. later----------------------------------เล้เท่อะ/เด่อะ 89. dinner--------------------------------- ดิ๊นเหน่อ 90. desire------------------------------------ ดี่ซ้ายเอ่อรรรร 91. companion---------------------------ขั่มแพ้เหนี่ยน(เหนอะ) 92. foundation------------------------------------- ฝ่าวเด้ฉึ่น(เหนอะ) 93. Thailand------------------------------------ ท้าย/ไท้แหล่น(เดอะ) 94. enormous---------------------------อี่น้อหมึ่สสส/หมั่สสส จากคุณ : tonmelb - [ 3 เม.ย. 50 00:54:07 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 136 @@ 95. Finland---------------------------- ฟิ้นแหล่น(เดอะ) 96. matches----------------------------แม้เช็สสส 97. final------------------------------- ไฟ้หน๋อลลล 98. business------------------------------------------ บิ้สเน็ส 99. Queensland----------------------------------- ควี้นสแลน(เดอะ) 100. Tasmania----------------------- แถสสส/ถั่สสสม้าเหนี่ย Good night ครับ จากคุณ : tonmelb - [ 3 เม.ย. 50 00:58:42 A:203.107.196.226 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ดีจังค่ะ เพิ่งเค้ามาดู ตอนนี้กำลังพยายามพูดภาษาอังกฤษให้ได้อยู่เลยค่ะ ทั้งลงเรียนที่ AUA และฝึกฝนด้วยตนเองด้วย แต่บางครั้งมันก็ท้อ เพราะต้องใช้สื่อสารในที่ทำงานจริงจริง ท้อตอนที่บางครั้งฟังเค้าพูดแล้วไม่เข้าใจทั้งหมด และพูดตะกุกตะกัก  เห็นอย่างนี้แล้วจะได้ฝึกออกเสียงตาม ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : น้ำตาล (Binny) - [ 4 เม.ย. 50 15:50:13 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ยินดีที่ได้รู้จักครับ ให้คุณน้ำตาล (Binny) ลองนำสิ่งที่ผมเเนะนำ ไปฝึกกับเพื่อน ๆ ในห้อง หรือคุย/ถามกับอาจารย์ฝรั่ง ( เป็นการทดสอบความรู้เราเเละอาจารยืด้วย) @@@@@@@@@@@ 8 April 2007 สวัสดีครับ สู้ ๆ นะครับ วันนี้ผมนำสิ่งที่ตอบคำถามที่อีกเวปคุณ Andrew มาให้อ่านนะครับ แต่ก่อนอื่น เรามาคุยกันก่อน คุณ ๆ ได้ไปงานสัปดาห์หนังสือหรือยัง ผมมีหนังสือมาแนะนำ Sounds Fun: Phonics for Children by Sophie Holmes and Liana Robinson มี 1-4 เล่มนะครับ เล่มละ 480 บาท + Audio CD = 1770 (ลดแล้วนะครับ) ผมจำส น พ ไม่แน่ใจว่าเป็น ส พ ว หรือ พ พ ว อยู่ Zone C ถ้าจำไม่ผิดครับ CD จะมีอธิบายของการออกเสียง North American English นะครับ มีทั้งเพลง+ story etc ดีมากครับ เด็กฟังก็ดี ผู้ใหญ่ฟังก็ได้ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 22:24:34 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 139 มีผู้ปกครองหลายคนถามผมเกี่ยวกับ------------ การเรียน/สอนการออกเสียงให้กับลูกหลานตัวเอง---------- สำหรับเด็ก ไม่ว่าจะเรียนที่ EP หรือโรงเรียนไทยก็ตาม ถ้าเป็นเด็ก ก็เปิดให้เขาฟังทุกคืน ๆ ให้เขาซึมซับไปเรื่อย ๆ ถ้าเด็กโต ก็เช่นกัน สำหรับเด็กโต หนูก็ยังไม่ต้องไปซีเรียสมากกับเรื่องที่จะเรียนที่โรงเรียน ------------------ ต้องแยกแยะ------------------------ การฟัง หรือการเรียนภาษาเพื่อสื่อสาร ถ้าแบ่งเวลาดี ๆ ไม่กระทบเรื่องคะแนน มันอยู่ที่ใจที่มุ่งมั่นเหมือนกัน ถ้าหนูต้องการที่จะได้ภาษาจริง ๆ มันอยู่ที่ใจด้วยครับ จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 22:32:32 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 140 กระทู้ในแต่ละครั้งที่ Update มันก็เยอะมากเลย แต่คุณก็มีเวลาพอนะ ประมาณ 1 อาทิตย์ที่จะอ่านหรือกลับไปอ่านซ้ำ ผมอยากให้ใจเย็น ๆ อ่านไปเรื่อย ๆ เพราะ tonmelb ตั้งใจเขียน เพื่อให้คุณ ๆ ได้นำคำแนะนำนี้ไปพัฒนาภาษาของคุณอย่างมีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้คุณใช้มันได้จริง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ @@ จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 22:34:32 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 141 คำถามจากคุณ Beer คุณผู้อ่านเข้ามาร่วมแบ่งปันได้นะครับ ตามความจริง ช่วงหลังผมตอบคำถามน้อยลง เพราะหันมาดูเรื่อง การออกเสียง หลักภาษาไม่เคยง่าย 1. Relating to [prep] = about or concerning เกี่ยวกับ (มีความเกี่ยวข้องกัน) Statement relating to his resignation. อันนี้ผมไม่แน่ใจ ว่า เล่า หรือ เกี่ยวกัน = เกี่ยวกับ We have received a lot of questions relating to challenges of battery technique. He suffers with memory loss related to his disease. (Relate + to) = be connected in some way เกี่ยวข้องกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง @@ จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 22:36:38 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 142 Related to Emotional levels are strongly/closely/directly related to income. ซึ่งตอบข้อที่คุณสงสัย crime related to drug abuse. = ประโยคที่น้องให้มา มันถูกย่อมา @@ In (the) future, pay increases will be related to productivity. < why not, pay increases will relate to productivity > มาจาก Oxford Dict. Relate = connect to something V. มันถูกใช้เป็น passive aspect เท่านั้นครับ ที่ต้องใช้ในรูปนี้ เพราะภาษาอังกฤษเขาใช้กัน มันเป็นรูปแบบที่ใช้ในรายงาน ที่สิ่ง 1 (ถูกยก)มีความสัมพันธ์กับอีกสิ่งหนึ่ง > จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 22:39:59 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 143 @@ Wealth is seldom related to happiness. (ทำไม ไม่ wealth doesn t relate to happiness.) นี่มาจากหนังสือของอาจารย์ วงศ์ วรรธนพิเชฐ ใช่ไหมครับBeer? คุณเห็นอาจารย์เขาใส่ตัวอักษร P ตัวใหญ่ด้านหน้าไหม? P = preposition used with the headword ( N) Related เป็น V ที่ถูกใช้เป็นบุรพบท หน้าที่ของ Prep. คืออะไร = เชื่อม จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 22:41:45 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 144 Wealth doesn’t relate to happiness. = Wealth is not about happiness. เท่าที่ความรู้ที่ผมมี ประโยคในหลักภาษา มันได้ แต่ความหมายมันไม่ไป-----------ตามใจ ตามที่ Relate to มันควรจะเป็น หรือควรจะถูกใช้ในประโยคนี้ครับ---- อธิบายลำบากครับ จะบอกว่า Wealth is seldom related to happiness. เนียนกว่า ก็เกรงใจ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ เดี๋ยวพี่ ๆ ที่อื่นที่พี่ไป Post ไว้ เกิดคันไม้คันมือมา Beer จะได้ความรู้มากกว่านี้---------------------- จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 22:44:45 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 145 อีกประโยคที่คุณไม่ได้ยกมา tonmelb ขอยกมาประกอบคำอธิบาย M stands for modifiers, containing examples of adverbs and adverbial phrases used with the headword. Light industry is closely to agriculture. อุตสาหกรรมเบาเกี่ยวข้องกับเกษตรกรรมมาก เจ้า Modifier ถ้าในดิคเล่มอื่นๆ ให้ไว้เป็น adjective (ข้อ 2 ที่ผมกล่าวยกมาครับ ---------------------- Emotional levels are strongly/closely/directly related to income------------) แต่เล่มนี้ของอาจารย์วงศ์ วรรธนพิเชฐ ท่านให้เป็น Adverbs/ adverbials จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 22:47:40 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 146 อาจารย์วงศ์ วรรธนพิเชฐ ท่านให้เป็น Modifier แน่นอนถ้าใครเห็นท่าน พบท่านที่งานหนังสือ ท่านอายุมากแล้วนะ มีประสบการณ์ทางภาษามากว่า 50 ปี เลยใช้ศัพท์แสง ที่ค่อนข้างจะเข้าใจยากสำหรับเด็กรุ่นใหม่ ที่ถูกสอนมาว่า Adjective คือ adjective และ Adverb = adverb ในความเป็นจริง หลักภาษาสูง เขาจัด 2 ตัวนี้อยู่ในกลุ่ม Modifier เดียวกัน ตามความจริงแล้ว ถ้าได้อ่านอีกเล่มของอาจารย์เยาวภา พุกกะคุปต์ อาจารย์ประจำภาคงานสอนภาษาอังกฤษ จุฬา ( ประสบการณ์สอน 40 ปี) ท่านเขียนหนังสือเรื่อง----------------- คำขยายในภาษาอังกฤษ พิมพ์ครั้งที่ 2539 2000 เล่ม อีก 2000เล่ม ในปี 2542 และปี2546 อีก 2000 เล่ม 10 ปี ยังไม่ถึงหมื่นเลยคุณ หนังสือดี ๆ แบบนี้ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 22:52:00 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 147 อาจารย์ให้คำจัดความชนิดของ Modifier ไว้ 3 ชนิด Modifier: 1. Adjectivals (คำนี้มันกว้างกว่า/ครอบคลุมกว่า adjective) 2. Adverbials 3. Sentence modifiers (1& 2 มาขยายทั้งประโยค) @@ To be concerned with = you think something is important สิ่งที่คุณเห็นว่ามันน่าสนใจ สำคัญ คุณจึงเขียนเกี่ยว about กับมัน เช่นประโยคที่น้องให้มา Her latest documentary is concerned with youth unemployment. = งานเชิงสรรคดีล่าสุดของเธอ (เขียน) เกี่ยวข้องกับการว่างงานของเยาวชน: is about that. = เธอสนใจเรื่องนี้ งานเขียนของเธอจึง focus ออกมา/เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ @@ มันหมายความเช่นนี้แค่นั้นครับ@@ จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 22:55:35 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 148 คำจำกัดความที่ beer ให้มานั้น มันก็ช่วยได้ be connected with sth: be about แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ ต้องต่อยอดจาก Be connected with sth: be about ให้ได้ครับ ต้องรู้ไปว่า ความแตกต่างระหว่าง To be concerned with กับ be about มันแตกต่างกันอย่างไร? ( ไม่เอาความหมายที่มันเหมือนกันนะ) @@ จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 22:59:20 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 149 มันแตกต่างกันคือ Be about เกี่ยวกับ คำพื้น ๆ Be concerned with มันเกี่ยวกับเหมือน about แต่คำนี้มันใส่ความหมายเพิ่มไปด้วยว่า มันสำคัญกับฉันนะ (ฉันรู้สึกว่ามันเกี่ยวข้องโดยตรง-อ้อมกับฉัน ฉันเห็นความสำคัญของมัน ของ issue) --------------------------- นี่คือสิ่งที่คุณต้องใช้ประสบการณ์ภาษาช่วย-------------- ประสบการณ์ภาษา------- อ่านบ่อย ๆ ถามบ่อย ๆ( tonmelb บอกแล้วว่า หาคนตอบลำบาก) คิดบ่อย ๆ ใช้บ่อย ๆ ครับ คำอื่น ๆ เช่น Connect, link, be about be related to เรื่องความเหมือน ไม่เป็นห่วง เพราะมันมีหนังสือบอก แต่เรื่องความแตกต่าง ถึงมีหนังสือบอก บางครั้งคนอ่านก้เข้าใจ ถ้าเขาอธิบายดี แต่บางคำ อ่านอย่างไรก้ไม่เข้าใจ คุณจึงต้องสะสมชั่วโมงบินทางภาษาไปเรื่อย ๆ ความแตกต่างทางภาษาในแง่ของความหมาย ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Nuances = very small differences in meaning และมันจะมาจาก Constant reading @@ จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 23:02:03 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 150 คำถามคุณคำถามเดียว ผม Update คอลัมน์ของผมได้เลยนะเนี่ย Grammar จริง ๆ ในขั้นที่จะตอบ ต้องอธิบายความ ต้องเข้าใจ ------------------ ไม่ง่ายนะ------------------- แต่มันไม่ยากเกินความพยายาม ขออย่ายอมแพ้กับมัน เช่นที่ tonmelb บอกนะครับ อยากแนะคุณ beer และผู้อ่านคนอื่นว่า อย่าเพิ่งเริ่มต้นที่ Grammar เพราะเราไม่ได้สอน Grammar ในทางที่ควรจะสอน เราเรียน Grammar ไปเพื่อสอบ เมื่อคุณ Beer พยายามที่จะ make sense กับสิ่งเหล่านี้ พยายามที่จะยกระดับความรู้ภาษาของตัวเอง -------------------จึงยาก------------------------- เพราะที่ผ่านมา ที่คุณเรียนมา คุณไม่ได้----------- พื้นฐานภาษา---------------- @@ จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 23:06:27 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 151 คำแนะนำก่อนจบ Last word: tonmelb ขอแนะว่า ให้พวกเรามุ่งไปทางฝึกพูดก่อน ฝึกออกเสียงก่อน ฟังเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และห้ามสงสัยแต่เลียนเสียงสัก 6-8 เดือนเป็นไง (ในระหว่างนั้นอ่านหนังสือพิมพ์ไปเรื่อย ๆ ไม่เข้าใจ ไม่ต้องไปใส่ใจ อย่าเพิ่ง) เรื่อง Grammar ไว้ก่อน จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 23:09:34 A:203.209.123.55 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 152 คุณ ๆ ไม่ใช่ Superman/woman นะ เดินไปพร้อมกัน คุณ ๆเก่งกว่าผมแน่ ถ้ามุ่งมั่น เพราะ tonmelb มี tips อะไร จะมาเขียนให้อ่าน ผมเอง ณ เวลานี้ให้เวลาทั้งหมดกับการเขียน Lesson plans etc + การออกเสียง เวลาก็หมดไปแล้ว วัน ๆ มองผู้หญิงไว้ ก็ไม่ได้ไปจีบคุณเธอสักที ไม่รู้ใครพาคุณเธอไปดูละครเพลง เงิน เงิน เงิน หรือ ฟ้าจรดทรายหรือยัง โอ้ย! อยากเป็นทศกัณฐ์ Good night จากคุณ : tonmelb - [ 8 เม.ย. 50 23:15:26 A:203.209.121.224 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 153 --------------------------------ถ้าชอบสไตล์แบบนี้ ผมจะเอามาลงอีก แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะโพสห้องไหนดี ก็เลยถือโอกาสมาแจมกระทู้คุณต้นแทนละกัน----------------------------------- คุณ ไทเกอร์ อู๊ด ขอบคุณครับ เชิญเลยครับ ด้วยความยินดี ท่านอื่นจะมาเเจม ยินดีนะครับ ผมขอเพิ่มเติมนิดนึงครับ ๑๑ การเน้นเสียงได้หลายแบบ๑๑ afterNOON ในประโยค It’s time for my AFTERnoon SLEEP. JapanESE Japanese COOking nineTEEN The year NINEteen TWENty It’s dark BLUE. a DARK blue SUIT From: ความลับ 12 ประการ ของภาษาอังกฤษ ของ คุณลอย ชุนพงษ์ทอง @@ Normal: What did you THINK of the Meeting? Special focus: What did YOU think of the meeting? ถามกลับไป Special focus: hightlight important new information/special meaning @@ I want a cup of herbal TEA. ทั่ว ๆ ไป I want a cup of HERbal tea. ไม่ดื่มอย่างอื่น เช่น iced tea I want a CUP of herbal tea. ต้องการเป็น Cup พูดครั้งครั้งแรก : a small iced TEA ครั้งที่ 2: Change that order to a LARGE iced tea (เน้นให้ถึงความแตกต่างของ size ที่สั่งครั้งแรก) @@ ยินดีครับคุณ RealWorld จากคุณ : tonmelb - [ 9 เม.ย. 50 23:44:56 A:203.209.121.149 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 154 นี่จากกระทู้ในเวปของคุณ Andrew นะครับ ๑๑๑๑ คนถามเป็นฝรั่งมั้ง ไม่เเน่ใจ๑๑๑ เลยต้องตอบเป็นภาษาอังกฤษ @@ I search a dictionary for the meanings of these three words, assertiveness, aggressiveness and confident. They all means "ความมั่นใจ", but what's the difference? จากคุณ : tonmelb - [ 11 เม.ย. 50 00:44:39 A:203.209.117.32 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 155 Positive words: Confidence = belief in your ability to do things well Assertiveness ( positive connotation) the act of behaving confidently so that people pay attention to what you say ... how to communicate confidently and obtain what you want without annoying others Negative word: Aggressiveness ( negative connotation) the act of behaving in an angry or violent or threatening way toward someone - this is to get what you want from him/her/them --------------------They all means "ความมั่นใจ", ------------- Not quite ครับ 1. Confidence and assertiveness = ความมั่นใจที่มีเเละเเสดงออกมาทาง actions or words 2. Aggressiveness = ความก้าวร้าว This means you have shown your rediness to attack that person if you fail to fet the thing you want. จากคุณ : tonmelb - [ 11 เม.ย. 50 00:45:42 A:203.209.117.32 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 156 I use LEXiTRON dictionary (from NECTEC) and search for the meaning at http://www.allwords.com LEXiTRON says Aggressive (ADJ) มั่นใจ allwords.com says Aggressive (ADJ) Strong and determined; self-assertive. Thesaurus: assertive, dynamic, bold, energetic, zealous, enterprising, vigorous, proactive But I also think of the same thing as Mr. tonmelb. That's why I post the question here for more explanation. Thank you. จากคุณ : tonmelb - [ 11 เม.ย. 50 00:49:03 A:203.209.117.32 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 157 Thank you, Tonmelb, for an excellent response. And time to get a new dictionary, Kafaak! I can't agree with aggressiveness being ความมั่นใจ ... it is ความก้าวร้าว, as Tonlemb said. Have a great day to both of you Andrew จากคุณ : tonmelb - [ 11 เม.ย. 50 00:50:23 A:203.209.117.32 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 158 I think it's time to get a new dictionary as khun Andrew said. I read further into the journal I am reading and finally see that it refers aggressiveness to ความก้าวร้าว Anyway, what should I translate the word "assertiveness" in Thai? I think it should be "ความกล้าแสดงออก" (if I understand what Tonlemb replied correctly) จากคุณ : tonmelb - [ 11 เม.ย. 50 00:51:53 A:203.209.117.32 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 159 Thank you everybody. May I add more here, please? Violent: brutal, aggressive, vicious and savage Aggressive: behaving in an angry, threatening way that often results in a fight [adj] Confident: self-confident, sure of yourself, assured/self-assured, assertive Assertive: willing to calmly and confidently say what you think, ask for what you want, or disagree with other people, without being nervous or embarrassed [adj] ---------------------- Assertively [adv] Students are taught how to make complaints assertively, rather than aggressively. Source: Longman: Language Activator: The World’s First Production Dictionary, 1993 จากคุณ : tonmelb - [ 11 เม.ย. 50 00:53:04 A:203.209.117.32 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 160 Source: Collins English Dictionary: Complete and Unabridged, New edition, 2005 Assertive (adj) 1. confident and direct in claiming one’s rights or putting forward one’s views 2. given to making assertions or bold demands; dogmatic or aggressive Aggressive (adj) quarrelsome or belligerent: an aggressive remark 2. assertive; vicious: an aggressive business executive @@ If you are assertive, I believe, you are confident, consistent and fair. You stand firm for what you believe. If you are aggressive, chill out. Who do you think you are? @@ Assertive and aggressive are in the same group. The only difference is: their distinct and clear shade of meaning/ meaning sense. I choose to be assertive. @@ I think it should be "ความกล้าแสดงออก= assertiveness" I am not sure. I think that when you are/feel assertive you believe in what you are fighting for and you do it gracefully. จากคุณ : tonmelb - [ 11 เม.ย. 50 00:54:16 A:203.209.117.32 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 161 13 April 2007 สวัสดีวันมหาสงกรานต์ผ่านทุก ๆคนครับ Happy Songkarn Day to all. ขอให้เที่ยวด้วยความปลอดภัยและมีความสุขมาก ๆ เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยเรา ขอให้คิดสิ่งใด ให้สมความปรารถนา ไม่เจ็บ ไม่จน ขอให้ประเทศไทยเจริญ ๆ จากคุณ : tonmelb - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 22:45:07 A:203.209.121.173 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 162 tonmelb ไม่ได้ไปเที่ยวไหน ใช้เวลานี้พักผ่อน อยู่บ้านครับ วันนี้ผมมาแนะหนังสืออีก 1 เล่ม ซึ่งเหมาะกับเด็กเล็ก ๆ และตัวคุณด้วยนะครับ โรงเรียนนานาชาติและ Bilingual schools เขาใช้สอนประถมต้น-ปลาย (อาจไม่ทุกโรงเรียน แล้วแต่หลักสูตร) ที่ต้องบอกว่า ผู้ใหญ่ก็ใช้ได้ เพราะ tonmelb ก็ได้ความรู้จากสื่อการสอนสำหรับวัยนี้อย่างมาก และเรียกว่า นี่คือวิธีเรียน/วิธีทำให้การเรียนภาษาคุณเป็นธรรมชาติ ชื่อหนังสือ Your Reading Rods Phonics Foundation Set 1 อาจหาซื้อไม่ได้ในตลาดไทยนะครับ หนังสือเล่มนี้สั่งมาจากอเมริกา ลองเข้าไปในเวปดู 3w. learningresources.com @@ จากคุณ : tonmelb - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 22:46:21 A:203.209.121.173 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 163 Phonics นี่ไม่วิธีที่ดีที่สุด แต่เป็น 1 วิธีที่ดีมาก ๆ การออกเสียงให้ชัดและเป็นไปตามมาตรฐานก็ต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ ที่ผมเคยแนะไว้ 1. Consonants 2. Short vowels 3. Long vowels 4. Initial Consonant Blends ( Blenders) @@ A. Consonants A-Z CD ต่าง ๆ ที่ผมเคยแนะเอาไว้ ลองซื้อมาฟังนะครับ และต้องฟัง 10, 20, 30 + รอบ เมื่อฟังแล้ว ออกเสียงตาม และลองออกเสียงให้อาจารย์ฝรั่งฟัง ต้องอย่างนั้นเลย เพราะถ้าเสียง A-Z ของคุณยังเป็นไทยอยู่มาก ผลของมัน: คุณจะพุดภาษาอังกฤษไม่ชัดถ้อยชัดคำ ต้องออกเสียง A-Z ให้เหมือนหรือเกือบเหมือนต้นฉบับให้ได้ คุณจะได้พูดภาษาแบบไม่มี accent ต้องฝรั่งแท้ ๆ ยิ่งดี ถามว่า ครูชาติอื่น หรือคนไทยล่ะ ต้องแล้วแต่ เช่นผม เคยช่วยดู ช่วยเทียบเสียง แต่ตอนนี้ไม่ทำ เพราะไม่คุ้มกับที่ลงทุนลงใจไป ฝรั่งเพื่อนผม บอกเหมือนหรือใช่แล้ว เด็กโตก็ทำสงสัยอีก ว่าไม่เหมือนกัน 100% --------------------------------ตรงนี้ต้องเข้าใจว่า เสียงใคร เสียงคนนั้น---------------------------------- ชัดไม่ชัด ไม่เกี่ยวกัน เสียงคนไทยที่คุยกันทางโทรศัพท์ เพศเดียวกัน น้ำเสียงยังแตกต่างกัน เสียงคุณกับเพื่อน เหมือนกัน 100% หรือเปล่าล่ะ จากคุณ : tonmelb - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 22:49:05 A:203.209.121.173 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 164 ---------------- สอนภาษาอังกฤษคนต่างชาติ( ญี่ปุ่น, เกาหลี, รัสเซีย (ญ รัสเซียคนนี้เป็นนางแบบลงหนังสือที่นี่ด้วย แต่ตอนนี้กลับประเทศเขาไปแล้ว) tonmelb ยังไม่ลำบายกายและใจ เท่าสอนคนไทยเลยครับ----------- สมัยนี้ต้องยอมรับว่า อย่าไปเที่ยวทำตัวเก่ง สอนใคร แต่เมื่อเราเป็นอาจารย์ เราล่ะเลยไม่ได้ ถึงแม้ช่วงหลัง จะเพลา ๆ ลงเรื่องเคี่ยวเข็ญคน ต้องท่อง “ปล่อยวาง ๆ ๆ” จากคุณ : tonmelb - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 22:51:10 A:203.209.121.173 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 165 เก่งแบบไทย ๆ ( ไม่ชอบนะคำนี้) แล้วยิ่งคิดว่า เก่งเพราะคนชม / ฝรั่งชม เรื่อง “ชม” โดยฝรั่งนี้ ต้องตระหนักมาก ๆ เลยนะครับ ผมเนี่ยต้องติดต่อประสานงานแทน CS หลายครั้งแล้ว ปากบอกว่าน้อง CS เราพูดภาษาอังกฤษเก่ง แต่พอ deal งาน กลับมาบอกว่า tonmelb: Why don’t you talk to her? I am quite busy now. ฝรั่ง: You know that her English is limited. @@ จากคุณ : tonmelb - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 22:55:02 A:203.209.121.173 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 166 ยิ่งคุณมาเรียนเมื่อทำงานแล้ว ยิ่งต้องมุ่งมั่นมาก ๆ อย่าไปโทษอะไร ไม่ว่าสิ่งที่บ่น จะจริงก็ตาม หรือคุณมีลูกในวัยเรียน คุณยิ่งต้องบอกให้ลูก ๆ มุ่งมั่นมากๆๆๆๆๆๆ โลกทุนนิยมมันแบบนี้นะครับ ผมเองถึงว่า เมืองไทยเราไปเน้นทางนี้ เราจะแย่ แข่งขันอย่างเสรี ก็ดี เปิดประเทศก็ดี แต่งานดี ๆ มันมีไม่เยอะ สร้างไม่พอ สร้างไม่ทัน ถ้ามีคนเก่งภาษา คนเก่ง ๆ มากกว่างานที่ดี ๆ ปัญหาแย่งโรงเรียน เช่น โรงเรียนดี ๆ พ่อแม่ทุกคนในปัจจุบัน น้อยมากที่จะให้ลูกไปเรียนโรงเรียนวัด โรงเรียนไม่ดัง เห็นใจและเข้าใจ ลูกใคร ใครก็รัก ก็ห่วงครับ @@ จากคุณ : tonmelb - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 23:01:12 A:203.209.121.173 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 167 กลับมา Phonics ต่อครับ B. Short vowels คุณก็ต้องถือปฏิบัติที่ผมแนะไว้ ฟังเยอะๆๆ แล้วอ่านออกเสียงเองก่อนหลาย ๆๆๆๆ รอบ แล้วไปอ่านให้อาจารย์คุณฝรั่ง อาจารย์ของคุณที่โรงเรียน ผมเชื่อว่าหลายคน( ถ้าเขาเป็นครูจริง) เขาจะดีใจและช่วยคุณแน่นอนครับ ถึงแม้คุณจะเรียนภาษาในระบบ Conversation ก็ตาม Phonics คือการกลับไปจุดเริ่มต้นของการออกเสียงให้ชัด @@ Short a: band, bath, bat, can, cat, clap, champ, dance, fast, glad, had, hat, Mack, nap, ran, sad, Sam, sand, snap, splash, stamp, tap, van Short e: bed, Ben, best, chest, eggs, fence, get, Fred, Jess, jets, hen, left, men, mess, nest, net, peck, pen, Penny, pens, red, rest, set, steps, tent, Ted, ten, tent, them, well, wet, @@ จากคุณ : tonmelb - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 23:03:58 A:203.209.121.173 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 168 @@ Short i: anything, big, crib, did, digs, dip, dish, drip, fish, fix, hid, his, in, if, Jim, Kim, lick, lips, list, Liz, milk, mix, pick, ship, sink, sip, sits, slip, stick, swim, swing, things, Tim, tip, whiz, wish, with Short o: blocks, Bob, box, clock, chops, dogs, dots, drops, flops, frogs, hot, lots, Mom, mop, not, otter, pop, popcorn, pots, rock, Ron, sock, spot, stop, top, Tom Short u: brushes, bud, Bug, bun, bunny, bug, bus, cup, drum, duck, dumps, dunks, fun, gum, hug, hut, jug, jumps, luck, much, mud, mug, nut, pup, rug, runs, stump, sub, suds, sun, trucks, tub, up @@ จากคุณ : tonmelb - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 23:08:22 A:203.209.121.173 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 169 C. Long Vowels Long a: ape, awake, away, backed, birthday, brave, cake, came, cave, celebrate, day, date, gate, grapes, Jake, Jane, Kate, lake, may, pail, pancakes, parades, planes, plate, play, race, rain, Ray, sails, shade, shake, shape, snail, snake, space, stage, stay, tail, today, trails, trains, wake, wait, waves, whale, Long e: be, beach, bee, cheese, clean, cookies, dream, eagle, eat, feel, field, flea, green, he, leafy, leap, leaves, me, mean, need, peach, peeks, peep, piece, queen, sea, seals, seats, see, seen, she, sheep, sheet, sneaks, squeak, street, sweep, sweet, tea, teeth, threat, three, treats, tree, weeds, @@ Long i: alike, behind, bike, bite, climb, dive, finds, five, hide, hike, I, inside, kite, light, like, mice, nice, Mike, miles, pie, pipe, prize, rice, ride, right, smiles, side, spiders, spike, surprise, tie, time, tonight, vine, white, wide จากคุณ : tonmelb - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 23:12:01 A:203.209.121.173 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 170 Long o: boat, bone, bowl, cocoa, cold, cone, croak, don’t, goat, goes, groans, hole, home, hope, hose, joke, most, note, nose, nosy, oatmeal, okay, opens, poke, robe, rope, rose, stone, throat, toast, Toby, window Long u: blue, blueberries, Bruce, clue, cubes, cute, Duke, flute, fruit, glue, huge, juice, Julie, June, Jupiter, Lucy, Luke, mule, Pluto, Sue, suit, suitcase, swimsuit, tissue, tube, Tuesday, tune, uses, ไว้ต่อนะครับ @@ จากคุณ : tonmelb - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 23:15:12 A:203.209.121.173 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 171 เหลือ Initial Consonant Blends (Blenders) และอื่น ๆ อีกมากมาย หัวข้อ Consonant blenders tonmelb เคยได้เขียนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว หาอ่านดูก่อนนะครับ สิ่งที่เขียน เพียงนำมาเสริมนะครับ เรื่องความต่อเนื่อง แบบไปเรื่อย ๆ จะดีกว่า Intensive ครับ คุณ/น้อง ๆ ลองแบ่งเวลา เช่น 6-8 เดือนจากนี้ แต่ละเดือน ต้องเข้าไปคลุกฝุ่นกับภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่า 20 Hrs = 5 hrs per week คำถาม: เริ่มจากดูหนัง/ sitcom/ ฟังเพลง/อ่านนิยาย ก่อน Phonics ไม่แนะครับ แต่ดูหนัง/ Sitcom/ ฟังเพลง/อ่านนิยาย ไปพร้อม ๆ กับเรียนรู้ Phonics Phonics คือการกลับไปจุดเริ่มต้นของการออกเสียงให้ชัด @@ จากคุณ : tonmelb - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 23:19:17 A:203.209.121.173 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 172 ในระหว่างที่ผมเขียน Update อยู่นี้ ผมดูรายการอาจารย์ Christ ช่อง 5 คุณ PK มาเป็นแขกของรายการด้วย คุณ PK ไปเรียน New York ตอน 9 ขวบ กลับมาตอน 26 ปี ( ผมเพิ่งรู้ว่า PK ไปนอกตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะเพื่อนเขาไม่ได้บอกผมเรื่องนี้ หรือเราไม่ได้ถามนะ) เขาเรียนผ่าน TV ที่ยกเขามา เพราะผมก็ติดตามงานเขาเหมือนกัน ( เขาเซ็นลายเซ็นให้ผมด้วย) และอีก 1 ข้อคือ คุณไม่จำเป็นต้องตามเขาหมด เพราะ PK มีพื้นฐานดีอยู่แล้ว ยิ่งไปต่างประเทศตั้งแต่เด็ก ๆ Phonics + grammar + reading อย่าละเลยนะครับ อย่าธรรมชาติเกินไปนัก เพราะสิ่งแวดล้อมเราไม่อื้ออำนวย และคุณก็ไม่ได้เรียนแบบธรรมชาติมาก่อน @@ จากคุณ : tonmelb - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 23:21:58 A:203.209.121.173 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 173 14 April 2007 สวัสดีอีกครั้งครับ D. Initial Blends S: sc, sl, sk, sm, sn, sp, st, sw: school, scatter, slip, slide, skates, skips, smile, snack, snail, snake, snuggles, spins, spotted, station, stand, still, store, swallow, swim, swirl, swish ( เรียกว่า Clusters with S ก็ได้นะครับ) L: bl, cl, fl, gl, pl, sl: blew, clippers, closed, clouds, flag, flap, flip, flowers, gleam, glittered, planets, play, sleep, slowly ( เรียกว่า Clusters with L ก็ได้นะครับ) R: br, cr, dr, fr, gr, pr, tr: branch, breeze, crack, crash, creek, dreams, dry, friend, frog, grandpa, grass, great, groud, proud, pride, trail, tree, tried ( เรียกว่า Clusters with R ก็ได้นะครับ) @@ จากคุณ : tonmelb - [ วันเนา (14) 21:09:09 A:203.209.121.183 X: TicketID:054700 ]