ความคิดเห็นที่ 1 พยัญชนะสองตัวแรกที่อยากจะพูดถึงคือ s และ z  เพราะเป็นแม่แบบที่จะนำไปสู่การออกเสียงพยัญชนะอื่นที่ไม่มีเสียงในภาษาไทย พยัญชนะ s สัญลักษณ์ phonetics ใช้ /s/    พยัญชนะนี้เป็นพยัญชนะที่ออกเสียงง่ายสำหรับคนไทย เพราะการออกเสียงอย่างเดียวกันกับการอกเสียง ซ โซ่ เสียง ส เสือ เสียงที่ออกมาจะแหลมและสูงกว่า s ภาษาอังกฤษ   นำปลายลิ้นและส่วนที่ถัดจากปลายลิ้นเข้าไปให้ใกล้มาก ๆ    กับแนวปุ่มเหงือกโคนฟันบน  ฟันบนและล่างอยู่ชิดกันมาก พ่นลมผ่านยาว ให้เป็นเสียงลมออกจากปาก เสียงนี้เป็นเสียงไม่ก้อง เสียงเป็นเสียงลมเสียดสีระหว่างลิ้นกับส่วนของปากซึ่งได้แก่เหงือกโคนฟันบนและฟันบน เสียงเหมือนออกเสียง ซ โซ่ของเรา ( ดูภาพประกอบ)   เมื่อเห็นคำใดที่มีพยัญชนะ  s ไม่ได้หมายความว่าจะออกเสียง s เสมอไป ขอให้ไปดูหลักเกณฑ์การออกเสียง s ใน website ที่ผมเขียนไว้  ฟังการออกเสียงตามนี้ครับ เผอิญ คนออกเสียงในเวปนี้ออกเสียงเป็น เฮ็ส ขอให้ออกเสียงเป็น เอ็ส นะครับ จับหางเสียงของเขาซึ่ง เป็นเสียง /s/  http://www.howjsay.com/index.php?word=s&submit=Submit click link ข้างล่างแล้วพิมพ์คำแต่ละคำ saw, stalk, stand, stable ออกเสียงตามคำและตัวอย่างต่าง ๆ ให้คล่องปาก http://pewebdic2.cw.idm.fr/ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 20:50:31 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 20:49:52 จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 20:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รูปการออกเสียง s จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 20:51:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เสียง z สัญลักษณ์ phonetics เขียนว่า /z/    Z เป็นอักษรภาษาอังกฤษตัวสุดท้ายซึ่งไม่มีเสียงในภาษาไทย สัญลักษณ์แทนเสียงนี้ได้แก่ /z/ เสียงนี้เป็นเสียงก้องโดยที่ลมที่ผ่านออกมาทำให้เส้นเสียงที่กล่องเสียงสั่น การออกเสียงทำดังนี้คือ         นำปลายลิ้นและส่วนที่ถัดจากปลายลิ้นเข้าไปให้ใกล้มากๆ กับแนวปุ่มเหงือกโคนฟันบน ฟันบนและล่างอยู่ชิดกันมาก พ่นลมผ่านเบาและสั้น ๆ ให้เป็นเสียงก้องออกจากลำคอ ลักษณะปากและตำแหน่งของลิ้นเช่นเดียวกันกับการออกเสียง /s/ เพียงแต่ลักษณะของลมที่แตกต่างกันคือลมของ /z/ ต้องทำให้กล่องเสียงสั่นหรือเป็นเสียงก้องนั่นเอง ฝึกออกเสียง /s/ และ /z/ สลับกันให้รู้สึกความแตกต่างของเสียงไม่ก้องและเสียงก้อง  กล่องเสียงจะสั่นหรือไม่สั่นรู้ได้ด้วยการเอามือจับที่แถวด้านหน้าคอ เมื่อเวลาเปล่งเสียงจะรู้สึกสั่น ถ้าไม่สั่นก็ยังใช้ไม่ได้ ดูรูปการออกเสียง z ประกอบ   ฟังการออกเสียงตามนี้ครับ  http://www.howjsay.com/index.php?word=z&submit=Submit ต้องการฟังเสียงหลายครั้ง แต่ละครั้งที่ฟังก็ชี้ cursor ไปที่ตัวอักษร z ครับ เสียงแรกเป็นเสียง Br. เสียงหลัง or เป็นเสียง Am. Click link ข้างล่างแล้วพิมพ์ฺแต่ละคำลงไป desert, dessert, seizure, dizzy แล้วออกเสียงตามทั้งคำและตัวอย่างต่าง ๆ http://pewebdic2.cw.idm.fr/ จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 20:52:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การออกเสียง sh เสียงไม่ก้อง  สังเกตุสัญลักษณ์จากคำที่ยกตัวอย่าง     นำปลายลิ้นเข้าไปหลังแนวปุ่มเหงือกตอนต่อกับเพดานแข็งและยกส่วนของลิ้นถัดจากปลายลิ้นให้สูงแต่อย่าให้ลิ้นทั้งหมดติดเพดาน ห่อริมฝีปากเล็กน้อยและยื่นออกเล็กน้อย พ่นลมออกให้ผ่านช่องแคบระหว่างลิ้นกับเพดาน ให้เป็นเสียงลมออกจากปาก( ดูีรูปประกอบ) หลักการที่ง่าย ๆ  คือ   ออกเสียงแบบ s ที่กล่าวไปแล้ว ห่อริมฝีปากแล้วทำให้ยื่นออกไปเล็กน้อย เสียงที่ได้จะเป็นเสียง sh เสียงไม่ก้อง หัดออกเสียง s และ sh สลับกัน  หรือ ทำเสียงเหมือนดุคนอื่นไม่ให้ออกเสียงดัง Click ที่ http://pewebdic2.cw.idm.fr/   แล้ว พิมพ์คำว่า ship, ship, shut  สังเกตุสัญลักษณ์ phonetics ของ sh ด้านหน้าคำ แล้วฟังเสียง ออกเสียงตาม ฝึกออกเสียงตามตัวอย่าง จำเสียงและสำเนียงตลอดจนรูปแบบของตัวอย่างไปใช้ ฟังและพูดตามตัวอย่างต่าง ๆหลาย ๆ เที่ยวจนคล่องปาก จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 20:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 5 sh เสียงก้อง ดูสัญลักษณ์ จาก คำที่ยกตัวอย่าง มีหลักการออกเสียงดังนี้       นำปลายลิ้นเข้าไปหลังแนวปุ่มเหงือกตอนต่อกับเพดานแข็งและยกส่วนของลิ้นถัดจากปลายลิ้น ให้สูงแต่อย่าให้ลิ้นทั้งหมดติดเพดาน ริมฝีปากกลมเล็กน้อยและยื่นออกเล็กน้อย พ่นลมออกให้ผ่านช่องแคบระหว่างลิ้นกับเพดาน ให้เป็นเสียงก้องออกจากลำคอ ดูรูปประกอบ ริมฝีปากและลิ้นเป็นเช่นเดียวกันกับการออกเสียง sh  เพียงแต่กล่องเสียงต้องสั่น เสียง sh เสียงก้องนี้จะเป็นเช่นเดียวกันกับเสียง z แต่ริมฝีปากต้องห่อและยื่นออกไปเล็กน้อย  จะฝึกออกเสียง z ก่อนแล้วจึงห่อริมฝีปากแล้วทำให้ยื่นออกไปเล็กน้อยก็จะเป็นเสียง sh เสียงก้อง Click http://pewebdic2.cw.idm.fr/   แล้วพิมพ์คำต่อไปนี้ทีละคำ แล้วออกเสียงตามคำและตัวอย่างต่าง ๆ  สังเกตสัญลักษณ์ของ sh เสียงก้อง seizure, division, decision จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 20:57:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เสียงพยัญชนะอีกสองเสียงที่ไม่มีเสียงในภาษาไทยคือ th เสียงไม่ก้องและ th เสียงก้อง  ความจริงเสียงทั้งสองเสียง ออกเสียงไม่ยาก เพียงแต่ฝึกหัด และเวลาพูดก็ทำตามวิธีของเขาเท่านั้น th เสียงไม่ก้องมีสัญลักษณฺ์แบบตัว o มีเส้นผ่ากลางด้านนอน      นำปลายลิ้นเข้าไปอยู่ระหว่างฟันบนและฟันล่าง พ่นลมให้ลมเสียดสีระหว่างฟันบนกับปลายลิ้น    ก่อนพ่นลมต้องให้ปลายลิ้นอยู่ระหว่างฟันบนและล่างเสียก่อนแล้วจึงพ่นลม  แบมือห่างจากริมฝีปากเล็กน้อย แล้วสังเกตดูว่าต้องมีลมกระทบที่ฝ่ามือ อย่าออกเสียงก่อนแล้วจึงนำลิ้นเข้ามาระหว่างฟันบนและฟันล่าง เวลาใครออกเสียงคำนี้จะสังเกตุเห็นปลายลิ้นของผู้พูด ดูรูปประกอบ     th ที่ออกเสียงแบบเสียงไม่ก้องจะเป็นคำที่ไม่เกี่ยวกับไวยากรณ์ในลักษณะที่เป็น  คำนำหน้านามที่ระบุแน่นอน( the, this )  สรรพนาม( they )  สันธาน( though )  กริยาวิเศษณ์ที่ขยายกริยา ( thus ) click http://www.dictionary.cambridge.org/define.asp?dict=CALD&key=82495&ph=on แล้วสังเกต สัญลักษณ์ของ th เสียงไม่ก้อง click  http://www.howjsay.com/    พิมพ์คำต่อไปนี้ทีละคำแล้วฟังเสียง สังเกตการออกเสียงของ th เสียงไม่ก้อง  ฟังซ้ำ ๆ โดยเอา cursor ขอ ง mouse ผ่านคำที่ปรากฏ       thin, think, theory, thousand, thrust, Click http://pewebdic2.cw.idm.fr/   แล้วพิมพ์คำต่อไปนี้ทีละคำ แล้วออกเสียงตามคำและตัวอย่างต่าง ๆ  สังเกตสัญลักษณ์ของ th เสียงไม่ก้อง depth, sloth แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 50 23:21:01 จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 20:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนนี้มาพูดถึง th เสียงก้อง สัญลักษณ์ให้สังเกตุจากตัวอย่างที่ยก         ลักษณะของลิ้นและปากเหมือนกันกับ th เสียงไม่ก้อง คือ ลิ้นต้องอยู่ระหว่างฟันบนและฟันล่าง ฟันบนและลิ้นไม่ชิดกันเพื่อให้ลมออกระหว่างฟันบนและลิ้น ที่ต่างกันคือ กล่องเสียงต้องสั่น เสียงต้องก้องในลำคอ มือจับที่คอต้องรู้สึกสั่น ดูรูปประกอบ Click    http://www.howjsay.com/ พิมพ์คำเหล่านี้ซึ่งเป็นเสียง th เสียงก้อง ฟังเสียงและออกเสียงตามโดยให้กล่องเสียงสั่น เปรียบเทียบกับเสียงที่ได้ยิน        the, then, thus, though, than, this, these, that, those. ฟังเสียง th เสียงก้องท้ายคำ โดยพิมพ์คำว่า smooth เมื่อ click   http://pewebdic2.cw.idm.fr/ ฝึกการออกเสียง th เสียงก้องท้ายคำและฝึกออกเสียงตามตัวอย่างต่าง ๆ Click  http://www.howjsay.com/    พิมพ์คำเหล่านี้แต่ละคำแล้วฟังเสียง th เสียงก้องที่อยู่ตอนกลางคำและท้ายคำ ฟังซ้ำหลาย ๆ เที่ยวโดยนำ cursor ของ mouse ไปชี้หลาย ๆ ครั้ง และฝึกออกเสียงตาม      weather, leather, feather, clothes, bathe แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 50 21:03:35 จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 21:02:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เสียง sh ออกเสียงโดยห่อริมฝีปากและทำให้ยื่นออกไปเล็กน้อย แล้วพ่นลมออกแบบพ่นลมของเสียง s ครับ ไม่ใช่ออกเสียง s ก่อนแล้วจึงห่อริมฝีปากครับ เสียง ch ทำปากเหมือนเสียง sh แต่ที่ต่างกันคือเสียง sh ปลายลิ้นไม่จรดแนวปุ่มเหงือกหลังฟันบน แต่ ch เมื่อห่อริมฝีปากแล้วทำให้ยื่นออกพร้อมกับกดปลายลิ้นให้แน่นกับแนวปุ่มเหงือกหลังฟันบน อัดลมขึ้นมาก่อนแล้วจึงดึงลิ้นออกให้ลมออก ดูรูปประกอบครับ    มีหนังสือสอนบางเล่มบอกว่า ออกเสียง ch โดยการฉีกปากออกซึ่งไม่ถูก ต้องห่อครับ  หนังสือเล่มนั้นยกตัวอย่างด้วยคำว่า cheek  ซึ่งเสียงสระที่ตามเป็นเสียง อี ซึ่งต้องออกเสียงโดยฉีกปากออก เลยนึกว่า เสียง ch ต้องฉีกปากออกด้วย  สรุปแล้ว sh และ ch ทำปากเหมือนกันคือ ห่อริมฝีปากแล้วทำให้ยื่นออกเล็กน้อย( สำคัญครับต้องทำตามนี้ เสียงจึงจะเหมือน) เสียง sh ปลายลิ้นไม่จรดแนวปุ่มเหงือก แต่เสียง ch จรดแนวปุ่มเหงือก ลมที่ออกจากปาก sh ลมไหลออกแบบเสียดสี เสียง ch ต้องอัดลมขึ้นมาก่อนโดยปลายลิ้นยังกดอยู่ที่แนวปุ่มเหงือก เมื่อลมอัดเพียงพอแล้ว ดึงปลายลิ้นออกให้ลมออกจากปาก ดูสัญลักษณ์ของ ch เสียงไม่ก้องจากคำ change โดย click http://www.dictionary.cambridge.org/define.asp?dict=CALD&key=12466&ph=on Click http://www.howjsay.com/ แ ล้วพิมพ์คำที่มีเสียง ch ประกอบเช่น chair, change, chap, ฟังเสียงและออกเสียงตาม จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 21:21:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จะเห็นว่าได้อธิบายเสียง ch ไปแล้วซึ่งเป็นเสียงไม่ก้อง ความจริงแล้วเสียง ch เป็นเสียงพยัญชนะประสมระหว่างเสียง t และเสียง sh เสียงไม่ก้อง    ต่อไปจะเป็นการอธิบาย เสียง ch แบบเสียงก้อง ซึ่งเป็นเสียง j ที่เป็นพยัญชนะต้นคำ เสียงนี้ออกท้ายคำในเมื่อเป็นพยัญชนะ dge เช่น judge คำนี้จะออกเสียง ch เสียงก้องทั้งต้นคำและท้ายคำ คนไทยมักใช้เสียง จ จานออกเสียงแทนเสียงนี้ซึ่งไม่ตรงทีเดียวนัก แต่ก็ไม่ทำให้ฝรั่งไม่เข้าใจ สัญลักษณ์ของ ch เสียงก้องหรือ j ให้สังเกตสัญลักษณ์ของคำตัวอย่าง    จะเห็นว่าเป็นการออกเสียง d และตามด้วยเสียง sh เสียงก้อง ลักษณะปากและลิ้นก็เป็นเช่นเดียวกันกับการออกเสียง ch ที่ต่างกันก็คือเสียงต้องก้องที่ลำคอ ดูภาพประกอบ      ริมฝีปากห่อแล้วยื่นออกเล็กน้อย( ต้องทำตามนี้ ) ปลายลิ้นจรดที่แนวปุ่มเหงือกหลังฟันบนออกเสียง d โดยดึงปลายลิ้นออกให้ลมระเบิดออกในตอนถอยปลายลิ้นไปด้านหลังพ่นลมออกแบบ sh เสียงก้อง ลมที่พ่นออกให้ต่อเนื่อง Click ฟังเสียงคำว่า judge ซึ่งเป็นเสียง j ทั้งต้นคำและท้ายคำ http://www.howjsay.com/index.php?word=judge click   http://pewebdic2.cw.idm.fr/ แล้วพิมพคำว่า siege เพื่อฟังเสียง ch เสียงก้องท้ายคำ ผึกออกเสียงพร้อมกับฟังและออกเสียงตัวอย่างต่าง ๆ     มีคำบางคำที่สะกดด้วย j แต่ไปออกเสียง ย เช่น jam, jelly  ฟังเสียงที่ถูกต้องโดย click ข้างล่าง http://www.howjsay.com/index.php?word=jam http://www.howjsay.com/index.php?word=felly จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 21:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เสียงพยัญชนะ f และ v  เสียงพยัญชนะ f ออกเสียงเช่นเดียวกันกับ ฟ ฟันของเราแต่ลมที่ออกจะมากกว่าการออกเสียงของ ฟ ส่วนเสียงพยัญชนะ v เป็นเสียงที่ไม่มีในภาษาไทย เสียงพยัญชนะ f  สัญลักษณ์ /f/      นำริมฝีปากล่างเข้าไปใกล้ฟันบนโดยให้อยู่ใต้ฟันบน พ่นลมให้ผ่านช่องแคบระหว่างฟันและริมฝีปากล่าง ให้เป็นเสียงลมออกจากปาก  ลิ้นจะอยู่ในตำแหน่งที่จะออกเสียงที่ตามมา     คำที่มีพยัญชนะ f ลงท้ายต้องออกเสียง f ด้วย ดูรูปประกอบ Click  http://www.howjsay.com/    แล้วพิมพ์คำต่าง ๆ ที่ขึ้นต้นด้วย f เช่น fan, foot, feed, แล้วฟังเสียงและออกเสียงตาม Click http://pewebdic2.cw.idm.fr/   พิมพ์คำว่า sniff   ฟังการออกเสียง f ท้ายคำ ออกเสียงตามและฝึุกออกเสียงตามตัวอย่างต่าง ๆ จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 21:30:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เราได้พูดกันถึงพยัญชนะ f  แล้วซึ่ง f เป็นพยัญชนะเสียงไม่ก้อง  พยัญชนะเสียงก้องที่คู่กันกับ f คือ v ซึ่งเป็นเสียงที่ไม่มีในภาษาไทย การออกเสียงเป็นไปเช่นเดียวกันกับ /f/ แต่เป็นเสียงก้อง v มีสัญลักษณ์ phonetics ในรูปเดิมของมันคือ /v/     นำริมฝีปากล่างเข้าไปใกล้ขอบฟันบนโดยให้อยู่ใต้ฟันบน พ่นลมให้ผ่านช่องแคบระหว่างฟันและริมฝีปากล่างโดยทำให้เสียงก้องจากลำคอ ดูรูปประกอบ v ออกเสียงว่า วี ให้สังเกตฟังดูว่าไม่ใช่ออกเสียงแบบ ว ของไทยแต่จะเป็นเสียงก้องจากคอและเปล่งเสียงออกในขณะที่ริมฝีปากล่างสัมผัสกับขอบฟันบน  click ฟังเสียง http://www.howjsay.com/index.php?word=v พิมพ์คำต่าง ๆ ที่ขี้นต้นด้วย v แล้วสังเกตเสียงและเลียนเสียง Click   http://pewebdic2.cw.idm.fr/ แล้วพิมพ์คำว่า slave, dove เพื่อฟังเสียง v ท้ายคำซึ่งต้องออกเสียงด้วย อย่าลืมฝึกออกเสียงตามตัวอย่าง จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 21:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องการออกเสียง p นี่ ก่อนอื่นขอพูดถึงศัพท์ aspirate และ unaspirate. aspirate เป็นเสียงลมพ่นออกมาจากคอในลักษณะเสียง “เฮ่อะ” เสียงแบบ h  ส่วน unaspirate จะไม่มีเสียงลม “เฮ่อะ” ออกมา   p ออกเสียงโดยการเม้มริมฝีปากแล้วอัดลมขึ้นมาแล้วจึงเปิดปากให้ลมระเบิดออก ลมที่ออกจะแรงกว่าเสียง พ ของเรา ริมฝีปากเขาจะเม้มแน่นกว่าที่เราออกเสียง พ และลมที่อัดขึ้นมาก็มากกว่า พออ้าปากลมก็จะระเบิดออกมา   p ถ้าอยู่ต้นคำหรือกลาง ๆ คำแต่เป็นพยางค์ที่เน้นจะออกเสียง p แบบ aspirated consonant คือเมื่อลมระเบิดออกแล้วจะต้องมีลมเฮือกออกมาคล้ายกับการออกเสียง h โดยไม่ได้ยินเสียง หรืออีกนัยหนึ่งเมื่อเปิดริมฝีปากให้ลมระเบิดออกมาแล้วยังไม่ออกเสียงตัวตามไม่ว่าจะเป็นพยัญชนะหรือสระที่ตามมา จะมีการหยุดหน่วงเวลานิดหนึ่งซึ่งเป็นการทำให้มีลมอีกเฮีอกหนึ่งออกมาสั้น ๆ click http://www.howjsay.com/index.php?word=pot ฟังคำว่า pot click http://www.howjsay.com/index.php?word=play ฟังคำว่า play หรือทดสอบฟังคำต่าง ๆ ที่มี p ขี้นต้นและพยางค์แรกเป็นพยางค์ที่เน้น click http://www.howjsay.com/index.php?word=applaud  ฟังเสียง p ที่อยู่กลาง ๆ คำแต่เป็นพยางค์ที่เน้น p กลาง ๆ คำที่ไม่เป็นพยางค์ที่เน้นออกเสียงแบบ unaspirated consonant คือไม่มีการหน่วงเวลาเพื่อให้มีลมอีกเฮือกออกมา  เสี่ยงนี้คนไทยส่วนมากใช้เสียง ป แทน ที่ถูกควรออกเสี่ยงแบบ unaspirated p p ที่อยู่ท้ายคำ ถ้าออกเสียงคำเดียวมี p ท้ายคำก็ต้องออกเสียง p แบบ aspitated p เช่น click http://www.howjsay.com/index.php?word=clap&submit=Submit ฟังเสียงคำว่า clap ฟังเสียง p หน้าคำและ p ที่อยู่กลางคำ Click http://www.howjsay.com/index.php?word=paper คำว่า paper จะเห็นว่า p ตัวหน้าออกเสียงต่างกันกับ p ตัวหลังซึ่งคนไทยส่วนมากจะออกเสียง p ตัวหลังเป็นเสียง ป แต่ความจริงแล้วมันเป็นเสียง unaspirated p เสียงของ p เป็นเสียงไม่ก้อง เสียงที่ก้องคู่กับ p คือ b ลักษณะปากลิ้นเหมือนกันกับ p จะต่างกันก็ที่ลมที่ระเบิดออกจากปากต้องเป็นลมที่ทำให้กล่องเสียงสั่น ความแตกต่างกันของเสียง b กับ บ  คือ เสียง b ริมฝีปากที่เม้นนั้นแน่นกว่าการออกเสียง บ และลมที่อัดขึ้นมามากกว่าเสียง บ จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 21:33:47 ]

ความคิดเห็นที่ 13 b มีสัญลักษณ์ /b/   เม้มริมฝีปาก อัดลมขึ้นมาจากปอด เปิดปากแล้วพ่นลมเบาและสั้น ให้เป็นเสียงก้องออกจากลำคอลักษณะปากเม้มเช่นเดียวกันกับพยัญชนะ p ลิ้นจะอยู่ในตำแหน่งสระหรือพยัญชนะที่ตามมา ลมที่ผ่านออกมาจะทำให้กล่องเสียงสั่น ดูรูปประกอบ Click ฟังเสียง b และออกเสียงตาม http://www.howjsay.com/index.php?word=ban http://www.howjsay.com/index.php?word=bin ฟังเสียง b ท้ายคำแล้วออกเสียงตามพร้อมกับฝึกฟังและพูดตามตัวอย่างต่าง ๆ โดย click http://pewebdic2.cw.idm.fr/  แล้วพิมพ์คำว่า slab. stab ครั้งละคำ จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 21:36:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ต่อไปจะกล่าวถึงพยัญชนะ k และ g  ในตอนนี้จะกล่าวถึงพยัญชนะ k ก่อน เราออกเสียง k ด้วยเสียง ค ควายของเรา  ความจริงแล้วก็ใช้ได้แต่เสียงจะไม่เหมือนกับ k ของเขาเลยทีเดียว เสียง k ของเขาทีวิธีการออกเสียงดังนี้ k แทนด้วยสัญลักษณ์ /k/   ออกเสียงอย่าง ค แต่ให้ยกโคนลิ้นให้สูงไปยันเพดานด้านลึกข้างในสุดให้แน่น อัดลมขึ้นมาจากปอดแล้วลดระดับลิ้นลงทันทีทันใดให้ลมระเบิดออก ให้เป็นเสียงลมออกจากปากโคนลิ้นจะอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเมื่อยกขึ้นไปแล้วยันเพดาน ทดสอบได้ด้วยการยกโคนลิ้นขึ้นแล้วอัดลมจากปอดขึ้นมา ลมจะต้องโดนกักไว้ด้วยโคนลิ้น นั่นคือไม่มีลมออกมาทางปาก เสียง ค  ของภาษาไทยโคนลิ้นยกขึ้นแต่ไม่ยันเพดานซึ่งเป็นข้อแตกต่างระหว่างการออกเสียงพยัญชนะ k และ ค ดูรูปประกอบ Click ข้างล่างฟังเสียง /k/ แล้วออกเสียงตาม http://www.howjsay.com/index.php?word=king http://www.howjsay.com/index.php?word=kind http://www.howjsay.com/index.php?word=kind http://www.howjsay.com/index.php?word=kidney ฟังเสียง /k/ ท้ายคำแล้วออกเสียงตามและฝึกพูดตามในประโยคตัวอย่างด้วย Click   http://pewebdic2.cw.idm.fr/  แล้วพิมพ์  slack, snack, sneak, snook, ทีละคำลง ป.ล.  อย่าลืมกระดกโคนลิ้นให้ยันเพดานเสียก่อนแล้วอัดลมขึ้นมา ลมจะไม่ออกปากจนกว่าจะลดลิ้นลง ฝึกกระดกโคนลิ้นให้ขึ้นไปยันเพดานปาก จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 21:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอนต่อไปจะอธิบายการออกเสียง g ซึ่งคนไทยส่วนมากใช้ออกเสียงด้วยเสียง ก ซึ่งเป็นเสียงที่ใกล้เคียงเสียง g เสียง g ออกเสียงโดยการทำให้ตำแหน่งลิ้นเหมือนกันกับเสียง k เพียงแต่เสียงที่เปล่งออกมาเป็นเสียงก้อง g สัญลักษณ์ /g/    ออกเสียงอย่าง ก แต่ให้ยกโคนลิ้นให้สูงไปยันเพดานด้านลึกข้างในสุดให้แน่น อัดลมขึ้นมาจากปอดแล้วลดระดับลิ้นลงทันทีทันใดให้ลมระเบิดออก ให้กล่องเสียงสั่น โคนลิ้นจะอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเมื่อยกขึ้นไปยันเพดานแล้วอัดลมจากปอดขึ้นมา ลมจะต้องโดนกักไว้ด้วยโคนลิ้น นั่นคือไม่มีลมออกมาทางปาก เสียง ก  ของภาษาไทยโคนลิ้นยกขึ้นแต่ไม่ยันเพดานซึ่งเป็นข้อแตกต่างระหว่างการออกเสียงพยัญชนะ g และ ก ดูรูปประกอบ Click ฟังเสียง g แล้วฝึกหัดออกเสียงตามคำที่ขึ้นต้นด้วย g ได้แก่ game, guest, gamble, gun. http://www.howjsay.com/index.php?word=game http://www.howjsay.com/index.php?word=guest http://www.howjsay.com/index.php?word=gamble http://www.howjsay.com/index.php?word=gun click http://pewebdic2.cw.idm.fr/  พิมพ์คำว่า dig, dog, sag ทีละคำ เพื่อฟังเสียง g ท้ายคำ ออกเสียงตาม ฟังตัวอย่างต่าง ๆ แล้วออกเสียงตามให้คล่องปาก จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 21:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สิ่งที่จะอธิบายตอนนี้คือ พยัญชนะ t เราออกเสียง ท แทนเสียงของพยัญชนะ t  ถ้าจะถามว่าเสียง ท ของเราคือเสียงพยัญชนะ t หรือไม่ คำตอบก็คือไม่ใช่และใช่   ที่ตอบว่าไม่ใช่ก็คือเมื่อ t เป็นพยัญชนะที่เน้น เช่นเป็นพยัญชนะต้นของคำที่มีพยางค์ต้นเป็นพยางค์ที่เน้น  เช่น title  t ที่เป็นพยัญชนะตัวแรกออกเสียงหนักกว่า ท ของไทยเนื่องจากเป็น t ที่เน้นและการออกเสียงต้องมีการหน่วงเวลาเพื่อพ่นลมแรงออกจากปาก ส่วนที่ตอบว่าใช่คือ t ตัวหลังที่ไม่เน้นออกเสียงแบบ ท ของไทยหรือเป็น t ที่เรียกว่า unaspirated t คือ t ที่ไม่ต้องพ่นลมเฮือกออกมาจากคอจึงไม่มีการหน่วงเวลา t ลักษณะนี้ อเมริกันจะออกเสียงเหมือนเสียง d ที่เป็นเสียง d เร็ว ๆ t มีสัญลักษณ์ /t/      การออกเสียงทำดังนี้        ปลายลิ้นแตะแน่นกับแนวปุ่มเหงือกเหนือโคนฟันบน อัดลมขึ้นมาจากปอด ดึงปลายลิ้นออกทันทีทันใดให้ลมระเบิดออก ให้เป็นเสียงลมออกจากปาก ถ้าหาก /t/ เป็นเสียงของพยางค์ที่ไม่เน้นอยู่กลางคำ ให้ออกเสียงเบาแบบไม่พ่นลมแรง  ดูรูปประกอบ Click http://www.howjsay.com/index.php?word=title  เื่พื่อฟังเสียงคำว่า title ถ้าหาก t เป็น t ที่อยู่ท้ายคำก็ต้องออกเสียง t ฟังเสียง t ท้ายคำจากคำ beat http://www.howjsay.com/index.php?word=beat ฟังเสียง t ท้ายคำ โดย click  http://pewebdic2.cw.idm.fr/  แล้วพิมพ์คำแต่ละคำเหล่านี้  set, dessert, slot, shut ออกเสียงตามคำและตัวอย่างต่าง ๆ คำว่า time หลายคนออกเสียงว่า ทาม  การออกเสียงที่ถูกต้อง ต้องออกเสียงว่า ทาย แล้วหุบริมฝีปากเพื่อออกเสียง  m  ฟังเสียงคำว่า time จาก link ข้างล่าง http://www.howjsay.com/index.php?word=time จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 21:43:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนที่แล้วได้อธิบายการออกเสียงพยัญชนะ t ซึ่งเป็นพยัญชนะที่ออกเสียงไม่ก้อง พยัญชนะที่เสียงก้องคู่กันกับพยัญชนะ t คือพยัญชนะ d  การออกเสียงทำทุกอย่างเหมือนกันกับพยัญชนะ t นอกจากการออกเสียงเป็นเสียงก้อง  พยัญชนะส่วนมากที่มีเสียงในภาษาไทยจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของความแรงของลม   พยัญชนะ d นี่ก็เช่นเดียวกันถ้าเป็น d ที่อยู่ในพยางค์ที่ต้องเน้นจะออกเสียงแรงกว่า ด ของไทย d สัญลักษณ์ /d/     เสียงพยัญชนะ d ออกเสียงคล้ายเสียง ด ของภาษาไทยเพียงแต่การพ่นลมแรงกว่าถ้าหากเป็น พยัญชนะนำหน้าพยางค์ที่ออกเสียงเน้น การออกเสียงทำดังนี้ ปลายลิ้นแตะแน่นกับแนวปุ่มเหงือกเหนือโคนฟันบน อัดลมขึ้นมาจากปอดดึงปลายลิ้นออก ทันทีทันใดให้ลมระเบิดออกเบาๆ ให้เป็นเสียงก้องออกจากลำคอ ดูรูปประกอบ ฟังเสียงและออกเสียงตามคำที่มี d ที่เน้นขึ้นต้นคำ Click http://pewebdic2.cw.idm.fr/ พิมพ์คำดังนี้ทีละคำแล้วออกเสียงตามทั้งคำและตัวอย่างของคำ den, dam, dog, document, double, daughter, draft, draught, dizzy, dozen, dawn ฟังเสียงและออกเสียงตามคำที่มี d ท้ายคำ Click http://pewebdic2.cw.idm.fr/  พิมพ์คำต่อไปนี้ทีละคำแล้วออกเสียงตามทั้งคำและตัวอย่าง sad, slide, side จากคุณ : chumsakm - [ 9 มี.ค. 50 21:45:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มาครับ นั่งแถวหน้าเลย จากคุณ : * (nickycharles) - [ 9 มี.ค. 50 22:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มาต่อแถวค่ะ ^_^ จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี) - [ 10 มี.ค. 50 09:12:12 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาเรียน และ เข้ามาช่วยโหวตครับ พอดีมีคำถามจะถามอาจารย์มากมาย ไว้พรุ่งนี้จะมาถามครับ จากคุณ : Savage_Garden - [ 10 มี.ค. 50 15:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 21 m ใช้สัญลักษณ์ /m/    เม้มริมฝีปากอัดลมให้ผ่านลำคอให้กล่องเสียงสั่่นและให้ลมขึ้นช่องจมูกออกไปทางจมูก แบบการออกเสียง ม  การเม้มริมฝีปากควรเม้มแน่นกว่าการออกเสียง  ม  ของเรา ดูรูปประกอบ การออกเสียง /m/ ไม่มีอะไรยุ่งยาก คำที่มี m ออกเสียงดังกล่าว เช่นคำว่า medium บางคำมี m สองตัวติดกันก็ออกเสียงเหมือนมี m อยู่ตัวเดียวเช่น hammer Click  http://www.howjsay.com/index.php?word=medium  เพื่อฟังคำว่า medium Click  http://pewebdic2.cw.idm.fr/ แล้วพิมพ์คำว่า dam เพื่อฟังเสียง m ท้ายคำ จากคุณ : chumsakm - [ 10 มี.ค. 50 20:11:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตามมาที่กระทู้นี้ด้วยค่ะ ความเห็นที่ 9 อ่านแล้วงงนิดหน่อยค่ะ สรุปแล้วสัญลักษณ์โฟเนติก ของ J กับ Ch เสียงก้อง เป็นตัวเดียวกันใช่ไหมค่ะ แล้วเสียง J กับ Ch เสียงก้อง ต่างกันอย่างไร อย่างคำว่า Judge เนี่ย ออกเสียง Ch ทั้งต้นคำและท้ายคำเลยหรือค่ะ เพราะฟังดูแล้วมันต่างกัน (ไม่รู้หูไม่ดีหรือเปล่านะคะ) ยังไงช่วยอธิบายเพิ่มให้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะ ตอนนี้รออ่านการออกเสียงสระด้วยค่ะ เพราะแอบงงๆอยู่หลายตัว ป.ล. ช่วยโหวตให้แล้วนะคะ จากคุณ : Love@Home - [ 11 มี.ค. 50 18:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบ คุณ Love@home     พยัญชนะ j ออกเสียงแบบ ch เสียงก้องครับ หมายความว่าตำแหน่งลิ้นจรดแนวปุ่มเหงือกหลังฟันบน  ริมฝีปากห่อเล็กน้อยและยื่นออกไปเล็กน้อย ซึ่งเป็นลักษณะเช่นเดียวกันกับการออกเสียง ch ต่างกันตรงที่เสียง ch เสียงไม่ก้องซึ่งเป็น ch ที่เราเห็นในคำต่าง ๆ ( ยกเว้นคำที่ยกเว้นไม่ออกเสียง ch ) ออกเสียงแบบกล่องเสียงไม่สั่น แต่เสียงพยัญชนะ j เป็นการออกเสียง ch แบบเสียงก้อง     อย่าสับสนเข้าใจว่า เสียง j เหมือนเสียง ch ที่ต่างกันคือเสียงพยัญชนะ ch ออกเสียงไม่ก้อง แต่พยัญฃนะ j ออกเสียงแบบ ch เสียงก้อง  เสียงคล้าย ๆ เสียง จ ของไทยแต่ จ ของไทยริมฝีปากจะไม่ห่อแล้วยื่นออกส่วนลิ้นอยู่ในตำแหน่งเหมือนกัน       หากเข้าใจยากในการออกเสียง j ให้ทำดังนี้ครับ ห่อริมฝีปากแล้วทำให้ริมฝีปากยื่นออกไปเล็กน้อยแล้วออกเสียง จ เน้น ๆ แรง ๆ ก็จะได้เสียง j ของฝรั่งครับ    เรื่องสระนั้นมีสระหลายตัวของฝรั่งที่คล้ายกับสระไทยและมีสระประสมจำนวนหนึ่งของเขาที่เราไม่มีเสียงเหล่านั้น   ต้องรอหน่อยครับ ให้การอธิบายพยัญชนะจบก่อนก็จะอธิบายการออกเสียงสระ สระของอังกฤษกับอเมริกันก็มีต่างกันอยู่บ้าง จะอธิบายความแตกต่างเหล่านั้นด้วย     ยังไง ๆ ก็ช่วย vote วันละหลาย ๆ ครั้งให้เป็นกระทู้แนะนำเพื่อประโยชน์ของคนที่เข้ามาทีหลังจะได้เห็นได้ง่ายครับ     สัญลักษณ์ phonetics ของ j คือ d ตามด้วยอักษรคล้าย ๆ z มีหาง ดูจาก link นี้ สังเกตุตัวตันและตัวท้ายที่เหมือนกันซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ j click  http://www.dictionary.cambridge.org/define.asp?dict=CALD&key=43006&ph=on แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 50 20:27:29 แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 50 20:20:55 จากคุณ : chumsakm - [ 11 มี.ค. 50 20:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ต่อไปเป็นการอธิบายการออกเสียง n ซึ่งเหมือนกันกับการออกเสียง น ของไทย เสียงพยัญชนะ n แทนด้วยสัญลักษณ์ /n/      เอาปลายลิ้นกดลงบนแนวปุ่มเหงือกโคนฟันบน อัดลมผ่านลำคอให้กล่องเสียงสั่น ให้ลมขึ้นช่องจมูกและออกทางจมูกแบบออกเสียง น click ฟังเสียงคำว่า nun ซึ่งมีเสียงต้นคำและท้ายคำเป็นเสียง /n/ http://www.howjsay.com/index.php?word=nun&submit=Submit แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 50 15:28:18 จากคุณ : chumsakm - [ 11 มี.ค. 50 21:15:44 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตามมาโหวตให้อาจารย์ชุมศักดิ์ จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 12 มี.ค. 50 18:58:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หางเครื่องตามมาติดๆ จากคุณ : PatPDX - [ 13 มี.ค. 50 09:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตามหางเครื่องมาติด ๆ เหมือนกัน จากคุณ : * (nickycharles) - [ 13 มี.ค. 50 11:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 28 Ng  ดูสัญลักษณ์ phonetics จากตัวท้ายชองคำว่า sing เมื่อ click http://www.dictionary.cambridge.org/define.asp?dict=CALD&key=73823&ph=on          ออกเสียงแบบ ง แต่ต้องยกลิ้นส่วนหลังขึ้นแตะเพดานบนซึ่งลิ้นไก่เปิดออกให้ลมผ่านลำคอให้กล่องเสียงสั่นขึ้นช่องจมูกแล้วออกทางจมูก พยายามยกโคนลิ้นให้สูงยันเพดานช่วงหลังซึ่งแตกต่างกับ ง ของไทยซึ่งโคนลิ้นเพียงแต่ยกขึ้นแต่ไม่ยันเพดาน   ดูรูปประกอบ click    http://pewebdic2.cw.idm.fr/     แล้วพิมพ์แต่ละคำของ swing, sing ออกเสียงตามคำและตัวอย่างต่าง ๆ ให้คล่องปาก          ภาษาอังกฤษไม่มี ng นำหน้าประโยค จากคุณ : chumsakm - [ 13 มี.ค. 50 13:48:14 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คำพวกนี้ อ่านออกเสียงยังไงคะ Desirabl- admirable Topsham-brougham renown anemone ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ฝนหน้าร้อน - [ 14 มี.ค. 50 15:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณฝนหน้าร้อน         การออกเสียงในคำที่ถามมีดังนี้ครับ       Desirable   ออกเสียงว่า   ดิซายเออะเรอะเบิล        เสียงหนักที่ ซาย     ออกเสียง ซ แบบ z   เออะ  ออกเสียงสั้นและเบาหรือไม่ออกเสียงก็ได้        Admirable   ออกเสียงว่า   แอ๊ดเม่อะเร่อะเบิล    ออกเสี่ยงหนักที่พยางค์หน้า   แอ๊ด          Topsham     ออกเสียงว่า     ท๊อบเซิ่ม   ออกเสียงหนักพยางค์หน้า              Brougham  ออกเสียงว่า บรูเอิ่ม  หรือ บรูม         Renown      ออกเสียงว่า  รีนาวน       เน้นหนักที่พยางค์หลังตอนท้ายต้องออกเสียง n .ให้ชัดเจน       Anemone    ออกเสียงว่า    เออะเน้มเม่อะนี่    ออกเสียงหนักพยางค์ที่สอง แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 50 20:30:17 จากคุณ : chumsakm - [ 14 มี.ค. 50 20:28:06 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เฮ ดีใจ เรือดำน้ำครูชุมศักดิ์กลายเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน โหวต แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 50 02:37:11 จากคุณ : * (nickycharles) - [ 15 มี.ค. 50 02:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณครับ จากคุณ : ปอ.140 - [ 15 มี.ค. 50 03:55:32 A:210.203.186.228 X: TicketID:115671 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โหวต ตามอ่าน เสมือนนางเมรีตามพระรถ กระทู้นี้น้องตามพระพี่มา  กระทู้หน้าพระพี่ตามน้องไป จากคุณ : แสนอักษร - [ 15 มี.ค. 50 07:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 34 --- ขอคารวะ ^o^ จากคุณ : myth - [ 15 มี.ค. 50 08:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เอาช่อกุหลาบมาแสดงความยินดีกับอาจารย์ชุมศักดิ์เนื่องในโอกาสได้ขึ้นมาอยู่ข้างบนอย่างเป็นทางการ (ใกล้ครูแป๋มเสียด้วย) จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 15 มี.ค. 50 09:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณค่ะครู จากคุณ : ฝนหน้าร้อน - [ 15 มี.ค. 50 10:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 Oh dear!     ไม่ทันได้เห็นเรือดำน้ำโผล่ขึ้นเหนือน้ำ  มาเห็นอีกทีมันก็ยังอยู่ใต้น้ำ     แหมสั่งแล้วเชียวว่า  Surface surface  สงสัย crews ได้ยินว่า Dive Dive เลยบังคับให้จมไปอีก จากคุณ : chumsakm - [ 15 มี.ค. 50 14:01:10 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อ้าว ตลกดีแฮะ พอเรือดำน้ำครูชุมศักดิ์ลอยขึ้น เรือครูแป๋มที่เพิ่งข้ามหลัก 200 หายไปเลย ใครมีลิ้งค์กระทู้ครูแป๋มช่วยเอามาโพสท์ให้ด้วยจ้า ช่วยสาวน้อยตกน้ำด้วยจ้า จากคุณ : * (nickycharles) - [ 15 มี.ค. 50 22:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ครูแป๋ม เก่งยังกะ อูลี่จู ว่ายน้ำเก่งกว่าธิดาพญามังกรตังไฮเล่งอ๋อง นึกถึงเฉยๆ  เดี๋ยวก็มาค่ะ จากคุณ : แสนอักษร - [ 15 มี.ค. 50 22:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เว็บสาวน้อยตกน้ำ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K5191816/K5191816.html#206 จากคุณ : * (nickycharles) - [ 15 มี.ค. 50 23:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สาวน้อยตกน้ำ 5555 จากคุณ : PatPDX - [ 16 มี.ค. 50 07:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนนี้ขออธิบายการออกเสียง  l เสียง l ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาเพราะออกเสียงอย่างเดียวกันกับ ล ของไทย แต่จากการสังเกตกับมีปัญหากับคนบางคน มีบางคนออกเสียง ล ของไทยโดยแลบลิ้นออกมา เลยออกเสียง l แบบแลบลิ้นออกมาเช่นกัน L แทนด้วยสัญลักษณ์ /l/ ออกเสียงแบบ ล  เอาปลายลิ้นแตะให้แน่นที่แนวปุ่มเหงือกโคนฟันบน  ดันลมจากปอดผ่านลำคอให้กล่องเสียงสั่น ลมออกทางด้านข้างของลิ้นเนื่องจากลิ้นขวางทางลมอยู่ Click http://www.howjsay.com/index.php?word=lollipop   เพื่อฟังเสียง l ตอนต้นคำและกลางคำ คนไทยจะชินต่อการไม่ออกเสียงพยัญชนะท้ายคำหรือออกเสียงไม่ตรงกับรูปของพยัญชนะ ภาษาอังกฤษจะต้องออกเสียงพยัญชนะท้ายคำ  มีคำหลายคำที่ลงท้ายด้วย l ต้องออกเสียง l ท้ายคำด้วย Click http://pewebdic2.cw.idm.fr/   แล้วพิมพ์คำต่อไปนี้แต่ละตัวลงไปแล้วฝึกออกเสียง l ท้ายคำและฝึกออกเสียงตัวอย่างต่าง ๆ ให้คล่อง , small, doll, sail, spoil หลักเกณฑ์การออกเสียง 1 เมื่อมี l ในคำใด ออกเสียง l แบบออกเสียง ล โดยให้แน่ใจว่าปลายลิ้นแตะให้แน่นที่แนวปุ่มเหงือกโคนฟันบน 2 เมื่อมี ll ออกเสียง l ตัวเดียว 3 มีคำจำนวนมากที่ไม่ออกเสียง l โดยเฉพาะเมื่อ l อยู่ระหว่างกลาง   a และ f เช่นคำว่า half ไม่ออกเสียง l  a และ k เช่นคำว่า talk ไม่ออกเสียง l  a และ m เช่นคำว่า salmon ไม่ออกเสียง l คำนี้มักออกเสียงกันแบบมีเสียง l ด้วย แม้แต่เมนูอาหารในร้านอาหาร ไทย จีน ญึ่ปุ่น ในประเทศไทยยังเรียกปลาที่มีเนื้อสีชมพูนี้โดยเขียนว่า แซลม่อน หรือ ซาลม่อน  ซึ่งเป็นการออกเสียงที่ผิด คำนี้ต้องอ่านว่า แซมเมิ่น ออกเสียงหนักที่พยางค์หน้าและไม่ออกเสียง l ขอให้สังเกตว่าคำว่า could, should, would ไม่ออกเสียง l Click http://www.howjsay.com/    แล้วพิมพ์คำที่กล่าวในหลักเกณฑ์การออกเสียงแต่ละคำลงเพื่อฟังเสียง จากคุณ : chumsakm - [ 17 มี.ค. 50 15:53:10 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : . - [ 18 มี.ค. 50 04:18:49 A:125.26.50.80 X:203.113.15.234 TicketID:117957 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ยังมาเรียนอยู่ค่ะ ส่วนโหวตนี่เป็นประจำ จากคุณ : arasun - [ 18 มี.ค. 50 08:34:45 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณมากๆค่ะ  ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้วยคนนะคะ จากคุณ : มิกิ อราชิ - [ 19 มี.ค. 50 13:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ยินดีครับ คุณ มิกิ อราชิ         การฝึกพูดที่ถูกต้อง ต้องเริ่มจากการออกเสียงให้ถูกก่อน แบบเด็กหัดพูดไงครับ เด็กมีหน้าที่เลียนแบบ เราจะพูดภาษาอังกฤษก็เช่นเดียวกัน ต้องหัดออกเสียงให้ถูกด้วยการเลียนแบบ  ไวยากรณ์ช่วยได้แต่ไม่จำเป็นหรอกครับ  บางทีทำให้เราพวงว่าจะถูกไวยากรณ์หรือไม่ด้วยซ้ำ เลียนเสียงเลียนแบบการพูดไปเถอะครับ เด็กเล็กเราแค่ให้เขาเลียนแบบเสียงเขาก็ทำได้แล้ว แต่คนโตต้องรู้ว่าเสียงนั้นต้องทำอย่างไรถึงจะออกเสียงถูก จึงจะเลียนเสียงได้เพราะไม่เช่นนั้นเราก็เอาภาษาของเราเองไปออกเสียงแทนซึ่งมันจะไม่เหมือนการออกเสียงของเขา      ดังนั้นเข้ามาเลียนเสียงนี่เป็นการถูกต้องแล้ว  มีคนพูดว่าเอาแค่สื่อสารกับเขาได้ก็พอแล้ว  แต่ขอให้นึกดูให้ดีครับว่า ถ้าหากสื่อสารกับเขาได้และออกเสียงได้ดีถูกต้องให้เขาชมว่าพูดภาษาอังกฤษได้ดีมันไม่ดีกว่าหรือถ้าหากมีเวลาพอที่จะทำให้ตัวเองมีคุณค่าขึ้น จากคุณ : chumsakm - [ 19 มี.ค. 50 15:36:26 ]

ความคิดเห็นที่ 47 W แทนด้วยสัญลักษณ์ /w/       ออกเสียง อู สั้น ๆ แล้วออกเสียงตัวที่ตามมาทันที ออกเสียงแบบเดียวกับตัว ว โดยให้ลิ้นด้านหลังยกสูงเสียงนี้จะเป็นเสียงที่กล่องเสียงสั่น ริมฝีปากเกร็ง Click http://www.howjsay.com/   พิมพ์คำที่ขึ้นต้นด้วย /w/    ทีละคำลง เช่น  water, wonder, woman, west, worst, แล้วฝึกออกเสียง /w/ Click http://pewebdic2.cw.idm.fr/ พิมพ์แต่ละคำต่อไปนี้  swing, switch, swear, swim, sweat.  ฝึกออกเสียง /w/  แล้วฝึกออกเสียงตามตัวอย่างต่าง ๆ ให้คล่องปากเพื่อนำไปพูด หลักเกณฑ์การออกเสียง 1 เมื่อคำใด ๆ มีพยัญชนะ w ออกเสียงดังนี้                ออกเสียง w เช่นคำว่า swim, away   เมื่อควบกับ a เป็น aw ออกเสียง ออ เช่นคำว่า law เมื่อควบกับ e เป็น ew ออกเสียง อิแล้วตามด้วยเสียง อู เช่นคำว่า few เมื่อควบกับ o เป็น ow ออกเสียง  อา แล้วตามด้วย อุ เช่นคำว่า cow หรือ เออ  แล้วตามด้วย อุ เช่นคำว่า low 2 เมื่อ w มี r ตามในต้นคำไม่ออกเสียง w เ ช่น write, wreck คำบางคำมี w แต่ไม่ออกเสียง w เช่นคำว่า two, answer 3 คำที่มี u บางคำออกเสียง w เช่นคำว่า persuade, quite 4 เมื่อ w มี h ตามเป็น wh ออกเสียง w หรือ hw แล้วแต่กรณีดังนี้คือ   ชาวอังกฤษและชาวออสเตรเลียออกเสียง wh เป็นเสียง w เช่นคำว่า white   ชาวอเมริกัน ชาวสกอต ชาวไอริช มักออกเสียง wh เป็นเสียง hw( h นำหน้า w ) เช่นคำว่า white 5 wh ในคำบางคำออกเสียง h เช่นในคำว่า who, whole Click http://www.howjsay.com/   พิมพ์คำต่าง ๆ ที่กล่าวในหลักเกณฑ์การอ อกเสียงทีละคำ แล้วเลียนการออกเสียง จากคุณ : chumsakm - [ 19 มี.ค. 50 16:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อาจารย์คะ เคยมีใครถามเรื่องการออกเสียงคำว่า Change รึยังคะ ทั้งที่แปลว่า เปลี่ยนหรือเงินทอน มันออกเสียงเหมือนกันใช่ไหมคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ฝนหน้าร้อน - [ 20 มี.ค. 50 13:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 49 change ที่แปลว่า เปลี่ยน เปลี่ยนแปลง แลกเงิน เงินทอน  ออกเสียงเหมือนกันครับ  ch เสียงไม่ก้องนำหน้าและสุดท้ายต้องออกเสียง ch เสียงก้องซึ่งเป็นเสียงของพยัญชนะ j  ออกเสียงดังนี้ครับ http://www.howjsay.com/index.php?word=change จากคุณ : chumsakm - [ 20 มี.ค. 50 13:51:59 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณค่ะ อาจารย์ตอบเร็วมากๆเลยค่ะ จากคุณ : ฝนหน้าร้อน - [ 20 มี.ค. 50 14:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เราเดินทางผ่านฮ่องกงหลายปีมาแล้ว มีคนรู้จักเขาพาไปเที่ยว ตอนเราอยากแลกเงินเขาก็พาไปที่ มันนี่แช้งเก้อร์ เวลาร้อน ๆ หิวน้ำ เขาก็ไปสั่ง โอเร้นจุ๊ย มาให้ดื่ม สนุกสนานดีมาก แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 50 00:19:11 จากคุณ : * (nickycharles) - [ 21 มี.ค. 50 00:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 52 r แทนด้วยสัญลักษณ์ /r/     ทำท่าออกเสียงสระ อุ โดยอย่าเกร็งริมฝีปาก( ไม่อย่างนั้นจะเหมือนกับออกเสียง ว นำ)แล้วม้วนปลายลิ้นให้ชี้เพดานแข็ง( ห่างจากแนวเหงือกมาก ๆ ) อย่าให้ลิ้นแตะเพดานบนแล้วออกเสียงให้ลมผ่านกล่องเสียงให้สั่น เมื่อมีเสียงตามมาให้ออกเสียงตามทันที เช่นคำว่า right ( อย่าใช้ ร ของภาษาไทยซึ่งเป็นการรัวลิ้นซึ่งไม่เหมือนกัน )    r ของอเมริกันโคนลิ้นจะยกขึ้นสูงส่วนปลายลิ้นจะไม่งอเท่าไหร่ Click  http://www.howjsay.com/   แล้วพิมพ์คำที่ขึ้นต้นด้วย r   เช่น   right, rope, red, radish, rotten, ลงทีละคำ ฟังเสียงและออกเสียงตาม Click http://pewebdic2.cw.idm.fr/ แล้วพิมพ์คำแต่ละคำดังนี้ลง  shrimp, shred, shrine  หัดออกเสียง r ที่มีพยัญชนะนำหน้าแต่ละคำแล้วฟังและออกเสียงตัวอย่างประโยคต่าง  ๆ หลักเกณฑ์การออกเสียง 1 คำที่มี r ออกเสียง r ตามที่กล่าวแล้ว เช่นคำว่า run 2 คำที่มี rr ออกเสียง r ตัวเดียว เช่นคำว่า merry คำนี้ออกเสียงว่า เมริ เน้นเสียงหนักที่ เม ส่วนมากจะออกเสียงผิดเป็น เมอรี่ 3 เมื่อมีพยัญชนะตามหลัง r หรือ r อยู่ท้ายคำ มีการออกเสียงต่าง ๆ ดังนี้   ชาวอังกฤษและชาวออสเตรเลีย ไม่ออกเสียง r แต่ถ้า r อยู่ท้ายคำและคำต่อไปขึ้นต้นด้วยสระ จะออกเสียง r ควบกับสระที่ขึ้นต้นของคำต่อไป เช่น คำว่า far away จะออกเสียงว่า ฟาเรอะเว  ชาวอเมริกัน ชาวสกอต และชาวไอริช ออกเสียง r 4 ในตอนกลางคำหรือท้ายคำที่มี r และมีสระนำหน้า r จะทำให้การออกเสียงสระเปลี่ยนไป สระที่ประกอบกับ r เป็นคู่ ๆ ดังนี้ ar, er, ir, or, ur, yr สระสองตัวร่วมกับ r มีดังนี้ air, are, ear, eer, eir, ere, eur, ier, ire, oar, oor, ore, our, ure 5 คำว่า iron ชาวอังกฤษไม่ออกเสียง r ออกเสียงว่า อายเอิ่น แต่ชาวอเมริกันออกเสียง r โดยที่ออกเสียง r ตามหลังสระ เหมือนกับเขียนคำนี้ว่า iorn. 6 คำที่มี rh หรือ rrh ออกเสียง r ตัวเดียว เช่นคำว่า rhythm, rhapsody rrh อยู่ท้ายคำ ชาวอังกฤษไม่ออกเสียง ชาวอเมริกันออกเสียง r ตัวเดียว เช่นคำว่า catarrh Click Click  http://www.howjsay.com/  พิมพ์คำต่าง ๆ ตามที่กล่าวไว้ในหลักเกณฑ์การออกเสียง แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 50 17:38:38 จากคุณ : chumsakm - [ 21 มี.ค. 50 14:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณมากค่ะ ได้ประโยชน์มากค่ะ จากคุณ : เอ่อ (aiyajan) - [ 21 มี.ค. 50 16:11:11 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ลูกศิษย์อาจารย์ชุมศักดิ์ อ่าน คคห. 51 แล้วอย่าไปเรียกที่รับแลกเปลี่ยนเงินว่า มันนี่แช้งเก้อร์ เรียกน้ำส้มคั้นว่า โอเร้นจุ๊ย ตามนะครับ เชยตาย อาจารย์ชุมศักดิ์รู้เข้าให้อมบรเพ็ด ผมไม่รับผิดชอบด้วย ยกตัวอย่างเชย ๆ เอามาให้ฟังแต่ไม่ให้เอาอย่าง จากคุณ : * (nickycharles) - [ 22 มี.ค. 50 07:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไปเจอข่าวสนุกจาก บีบีซี. เข้าอดไม่ได้ต้องเอามาแนะนำ บอกไม่ถูกว่าสนุกอย่างไร ต้องคลิกไปดูเอง ถ้าไม่สนุกยอมคืนเงิน http://news.bbc.co.uk/2/hi/uk_news/magazine/6470095.st จากคุณ : * (nickycharles) - [ 22 มี.ค. 50 07:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 56 /j/ เป็นสัญลักษณ์ phonetic ซึ่งออกเสียงดังนี้ เริ่มด้วยการออกเสียง อี ถ้าคำนั้นมีสระตามให้ออกเสียงสระนั้นตามหลังจากออกเสียง อี ถ้าเป็นพยัญชนะตามเสียงนี้ให้ลดระดับลิ้นลงเมื่อออกเสียง อิ แล้วออกเสียงพยัญชนะที่ตาม  การออกเสียงคำนี้กล่องเสียงสั่น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า /j/ ไม่ใช่พยัญชนะ j You เขียนการออกเสียงแบบ phonetic ว่า ju: ออกเสียงว่า อิ แล้วตามด้วย อู  หากมีสัญลักษณ์ /j/ นำหน้าอาจออกเสียง ย แทนได้ แต่ถ้ามีเสียง /j/ อยู่กลางคำควรที่จะออกเสียง อิ แล้วตามด้วยเสียงสระ เช่นคำว่า beauty เขียนการออกเสียงโดยใช้สัญลักษณ์ phonetic จะเขียนว่า bju:ti ออกเสียง ตัว b แล้วออกเสียง อิ ตามด้วยเสียงสระ อู แล้วจึงออกเสียง ti คำว่า few ก็จะเขียนว่า fju: ซึ่งใช้หลักการออกเสียงเช่นเดียวกัน ชาวอเมริกันจะไม่ออกเสียง /j/ เมื่อเสียง /j/ ตามหลังพยัญชนะ t, d, n, l, s, และ th ทีออกเสียงแบบเสียงไม่ก้องซึ่งชาวอังกฤษจะออกเสียง /j/ ตามหลังพยัญชนะเหล่านั้น เช่นคำว่า tune, due, new, absolute, suit, enthusiasm ชาวอเมริกันจะออกเสียง อู ตามหลัง t, d, n, l, s, th ชาวอังกฤษจะออกเสียง อิ ก่อนแล้วตามด้วยเสียง อู Click http://www.howjsay.com/   พิมพ์คำต่าง ๆ ทีละคำดังนี้  you, beauty, tune, due, new, absolte, suit, enthusiasm   คำเหล่านี้จะมีเสียง /j/ สำหรับหกคำหลังอเมริกันจะออกเสียงโดยไม่มีเสียง /j/ ฟังเสียงอเมริกันในหกคำหลังโดย click ที่ลำโพงสีแดงดังนี้ http://www.m-w.com/dictionary/tune http://www.m-w.com/dictionary/due http://www.m-w.com/dictionary/new  ลำโพงแดงซ้ายเป็นเสียงอเมริกัน ส่วนละโพงด้ายขวาเป็นเสียงอังกฤษ http://www.m-w.com/dictionary/absolute  เช่นเดียวกันลำโพงตัวแรกเป็นเสียงอเมริกัน ตัวที่สองเป็นเสียงอังกฤษ http://www.m-w.com/dictionary/suit จากคุณ : chumsakm - [ 23 มี.ค. 50 21:17:40 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอถามค่ะ #47 หลักเกณฑ์ฯ ข้อ 1 กรณี ow จะทราบได้อย่างไรว่าคำไหนจะออกเสียง อา+อุ (cow)คำไหนจะออกเสียง เออ+อุ (low) หรือต้องจำเอาเอง (เช่นเดียวกับ The Chaos) ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ (ถามแค่นี้ก่อนค่ะ เพิ่งมาถึง W แต่ก็มาโหวตบ่อย ๆ นะคะแต่ไม่ขึ้นสักที) จากคุณ : arasun - [ 24 มี.ค. 50 09:21:02 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เผอิญได้แวะมาอ่านกระทู้นี้ครับ เลยขอเซ้นเยี่ยมไว้หน่อยครับ ต้องขอชมเชยว่าคุณชุมศักดิ์มีความอุตสาหะจริงๆที่พิมพ์และให้ความรู้กับสมาชิกคนอื่นๆได้เยอะเพียงนี้ ขอให้มาเขียนบ่อยๆนะครับ สำหรับคำแนะนำที่ผมอยากให้คือ บางครั้งผมว่ามันไม่ถูกต้องทีเดียวนักที่จะบอกว่าคนอเมริกันออกเสียงอย่างนี้ คนอังกฤษออกเสียงอย่างนี้ ครับ เพราะอย่างที่ทราบกันอยู่ภาษาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และในอเมริกาเองภาษาถิ่นมีเป็นร้อยๆแบบ ไม่ว่าจะเป็น regional dialect, class-based dialect, gender-based dialect etc. ยกตัวอย่างเช่น เสียง post-vocalic /r/ นั้น ในอเมริกาก็ไม่ได้ออกกันทุกคน โดยเฉพาะใน southren dialect นั้น เสียงนี้ไม่ค่อยจะได้ออกสักเท่าไร หรือจากงานวิจัยเก่าเเก่แต่ยังมีชื่อของ william labov 'social stratification of /r/ in nyc นั้น จะเห็นได้ว่า การออกหรือไม่ออกเสียง r หลังสระ แปรฝันตรงต่ออาชีพ และระดับชั้นวรรณะของผู้พูด หรือ แม้กระทั่งเสียง wh ที่จะออกเป็น /hw/ หรือ /w/ ในคำ what, white, etc นั้น ชาวอเมริกันส่วนใหญ๋โดยเฉพาะในฝั่ง west coast นั้น ไม่ออกเสียง /hw/ แต่จะออกเป็น /w/ แทน เป็นต้น หรือ ปรากฎการณ์ทางเสียงที่ปัจจุบันนักภาษาศาสตร์สังคมรู้จักกันดี คือ โอ ออ merger นั่นคือ เสียงสระ โอ กับ ออ นั้นกลายเป็นเสียงเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางฝั่งตะวันตกของอเมริกา ดังนั้นคำเช่น dawn/don, cot/caught จะออกเสียงเหมือนกัน หรืออีกปรากฎการณ์หนัึ่งคือ northern cities vowel shift ครับ หรือในกรณีว่ามีเสียง glide /y/ หรือไม่หลัง tune, student, etc คนเมกันบางคนก็ออกเสียงเลื่อนนี้นะครับ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าคำว่า culture, what you... นั้นเกิดการ assimilation ของเสียง /t/ กับ /y/ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นเสียง ch ไงล่ะครับ เพราะฉะนั้นผมคิดว่ามันไม่ precise นักที่จะบอกว่า อเมริกันออกอย่างนี้ หรือ ไม่ออกอย่างนี้ครับ เพราะว่าอย่างที่ทราบกันดี ไม่มี"มาตรฐาน"ตายตัวในเรื่องของภาษาครับ และไม่ว่าจะภาษาถิ่นแบบไหนก็มีศักด์และสิทธ์ิเท่าเทียมกัน (ในมุมมองของนักภาษาศาสตร์) ผมขอทิ้งคอมเม้นไว้แค่นี้แหละครับ ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่เห็นคนสนใจภาษาศาสตร์และสามารถถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นได้ครับ ไม่ทราบว่าผมจะได้เข้ามาอีกไหม เพราะช่วงนี้ยุ่งมากๆถ้าอยากจะคุยเรื่องภาษาศาตร์ก็อีเมลล์มาหาได้นะครับ krisdauw@u.washington.edu จากคุณ : krisdauw (krisdauw) - [ 24 มี.ค. 50 18:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 59 Boat Ahoy จากคุณ : * (nickycharles) - [ 25 มี.ค. 50 02:09:24 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ผมมีคำถามจะเรียนถามอาจารย์ดังนี้ครับ 1. คำที่ลงท้ายด้วย D และ T มันมีการเติม S ต่อท้ายต้องระเบิดลมที่ D และ T ไหมครับ เช่น reads, decades, cats, คือเพื่อนคนจีนของผม เขาบอกว่าไม่ต้องระเบิดลมที่ D และ T เช่น reads ให้ ออกเสียง DS เป็น /Z/ ไปเลย แล้วเขายังบอกว่า อย่างคำว่า months, clothes ไม่ต้องออกเสียง th ให้รวม ths เป็น /Z/ ไปเลย ไม่ทราบว่าจริงไหมครับ 2.  เสียง tl ออกเสียงยังไงครับ อย่างเช่น correctly, outline คือออกเสียง ควบ t กับ l ไปพร้อมๆกันเลยใช่ไหมครับ ไม่ต้องระเบิดลมที่ t เอาลิ้นค้างไว้ที่ปุ่มเหงือกเพื่อออกเสียง l ต่อกันเลยใช่ไหมครับ ? 3. คำว่า bedroom เสียง d ต้องระเบิดแล้วค่อยตามด้วย r หรือว่าออกควบแบบ dr ไปได้เลยครับ พอดีผมแยกเสียงใน http://www.howjsay.com ไม่ค่อยออก มีปัญหาเรื่อง listening skill ครับ 4. ทำไมคำพวก is, because, was มันถึงออกเสียงเป็น /z/ ท้ายคำครับ ไม่ออกเสียงเป็น /s/ เพราะว่าพยัญชนะที่อยู่ก่อนหน้าตัว s เป็นพยัญชนะเสียงไม่ก้องใช่ไหมครับ เลยต้องออกเป็น /z/ 5.  คำว่า asked ไม่ต้องออกเสียง k ใช่ไหมครับ แล้ว "asked boys" อันนี้ไม่ต้องออกเสียงทั้ง k และ d เลยใช่ไหมครับ คือผมสงสัยว่าถ้าไม่ออกเสียง d แล้วฝรั่งเขาจะฝรั่งรู้เรื่องเหรอครับ ว่าเป็น past tense แบบว่าสงสัยอ่ะครับ 6. พยัญชนะระเบิดลม แต่ตามด้วย th เสียงก้อง ต้องระเบิดลมออกมาไหมครับ เช่น "hit the" ตัว t ต้องระเบิดไหม คือผมอ่านใน http://www.navy.mi.th/dockyard/knowledge/knowledge28.htm ไม่มีตัว th แต่เพื่อนผมเขาบอกว่า ไม่ต้อง ระเบิดเสียง t ถ้าตามด้วย th เสียงก้อง ผมเลยงงๆ ถามยาวไปหน่อย รบกวนอาจารย์หรือผู้รู้ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Savage_Garden - [ 25 มี.ค. 50 19:11:26 ]

ความคิดเห็นที่ 61 การที่ผมบอกว่าอังกฤษออกเสียงอย่างนี้อเมริกันออกเสียงอย่างนั้นมันเป็นหลักการทั่ว ๆ ไปซึ่งผมไม่ได้นำมากล่าวเอง แต่มันเป็นหลักการ และผมก็ได้ไปอยู่ทั้งอเมริกาและอังกฤษ ในอเมริกาก็คุ้นทั้งสำเนียงเหนือและใต้ ในอเมริกามีการออกเสียงแบบชาวอังกฤษก็มี เช่นตอนด้านเหนือที่เรียกว่า New England อันนี้ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่อัธยาศัยครับ         เรื่องเสียงของคำที่เปลี่ยนไปเมื่อคำสองคำตามกัน พยัญชนะท้ายของคำแรกบางพยัญชนะเมื่อตามด้วยคำที่ขึ้นต้นด้วยสระจะออกเสียงกลายเป็นพยัญชนะอื่นนั้นยังไม่ได้บรรยาย ไม่แต่เพียง what you  จะออกเสียง t กับ y เป็น ch แค่นั้นแต่ยังมีอีกแยะที่การออกเสียงเปลี่ยนไป เข่น this year เสียง s และ y ออกเสียงเป็นเสียง sh  การบรรยายนั้นทำไปตามลำดับการที่เปลี่ยนไปเมื่อถึงตอนที่บรรยายจะเห็นว่าเป็นไปตามหลักการออกเสียง ไม่มีข้อยกเว้นอะไร หากใจร้อนอยากรู้ก็ไปดูใน website ที่เขียนไว้  แม้แต่คำที่ลงท้ายด้วยสระและตามด้วยคำที่ขึ้นต้นด้วยสระยังมีเสียงเพิ่มเข้ามาเพื่อสะดวกต่อการออกเสียง ดูเหมือนก็ได้กล่าวไปแล้ว แต่ก็จะนำมากล่าวอีกทีเมื่อถึงเวลาที่จะต้องกล่าว     สำหรับ w  ที่มี  h ตามเช่น what, white หากไปดูการออกเสียงใน dictionary ที่เขียนการอกเสียงด้วยสัญลักษณ์ phonetics แล้วจะเห็นว่า ตัว h เขาเขียนเป็นตัวเอียง ๆ ไว้ซึ่งหมายความว่าจะออกเสียงก็ได้ไม่ออกเสียงก็ได้  ส่วนคำที่กล่าวไว้ใน ค.ห.56 ที่ว่าอเมริกันไม่ออกเสียง /j/ นั้นก็เป็นหลักการทั่ว ๆ ไปซึ่งบางคนก็ออกเสียงแต่เป็นส่วนน้อย จะเห็นได้ว่าถ้าดูใน dictionary เขาจะเขียนว่าอเมริกันออกเสียง /j/ ไว้ในลำดับรองซึ่งหมายความว่าความนิยมนั้นน้อยกว่าไม่ออกเสียง /j/  ดังนั้นขอให้ผู้ที่อ่านจดจำเสียงของพยัญชนะและสระที่ผมบรรยายให้แล้วจำสัญลักษณ์ phonetics ให้ได้แล้ว ไปดูการออกเสียงใน dictionary ที่เขียนการออกเสียงทั้งอเมริกันและอังกฤษซึ่งเขาเขียนการออกเสียงตามหลักการ จะออกเสียงอย่างไรก็ขอให้ยึดหลักการที่เขาเขียนไว้ซึ่งผู้เขียนต้องศึกษาอย่างรอบครอบแล้วจึงนำมาเขียน จะไปยึดหลักการการออกเสียงของท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่งคงไม่ถูกต้อง     ตอบคำถามคุณ arasun      ow นั้นจะออกเสียง อา+อุ หรือ เออ+อุ(แบบอังกฤษ) นั้นไม่มีหลักเกณฑ์แน่นอนครับ ต้องจำเอาเป็นตัว ๆ เช่น bow ออกเสียง อา+อุ หมายถึงคำนับ หรือ หัวเรือ แต่ถ้าออกเสียง เออ+อุ ( หรือ โอ+อุ) จะหมายถึง ธนู คันชักไวโอลิน คุณ Savage_Garden_Garden       1 คำที่ลงท้ายด้วย d และ t ที่มี s ตามไม่ต้องระเบิดเสียง d และ t ครับแต่ต้องนำลิ้นไปจรดที่แนวปุ่มเหงือกหลังฟันบนแล้วออกเสียง s จะออกเสียงโดย ออกเสียง s เป็นเสียง z ถ้า s ตาม d    ออกเสียง s ถ้า s ตาม t   จะออกเสียง ds เป็นเสียง z และ ts เป็นเสียง s เลยไม่ได้ครับ         คำว่า reads  ออกเสียง  http://www.howjsay.com/index.php?word=reads       คำว่า cats ออกเสียง http://www.howjsay.com/index.php?word=cats คำว่า months นั้นต้องออกเสียงโดยลิ้นต้องไปอยู่ในตำแหน่ง th ก่อนแล้วดึงลิ้นเข้าพร้อมกับพ่นลมออกเสียง s จะออกเสียง s เลยโดยลิ้นไม่ไปอยู่ในระหว่างฟันบนและฟันล่างก่อนไม่ได้ http://www.howjsay.com/index.php?word=months คำว่า clothes นั้นก็เช่นเดียวกัน ลิ้นต้องไปอยู่ในระหว่างฟันบนและล่างก่อนแล้วจึงดึงลิ้นเข้ามาออกเสียง z  เนื่องจาก s ตามหลังพยัญชนะ th ซึงเป็นเสียงก้อง  จะออกเสียง z เลยไม่ถูกต้อง ถ้าออกเสียง z เลยมันจะเป็นการออกเสียง close ไป http://www.howjsay.com/index.php?word=clothes     2 และ 3 tl และ dr ก็เช่นเดียวกัน ไม่ต้องระเบิดเสียง t และ d แต่ลิ้นต้องไปอยู่ตำแหน่งนั้นก่อนตามที่เข้าใจถูกต้องแล้วครับ •  4  การออกเสียง s มีหลักการดังนี้ครับ •      เมื่อมีสระนำหน้าและพยัญชนะตามหลัง ถ้าพยัญชนะที่ตามหลังเป็นพยัญชนะเสียงไม่ก้อง ให้ออกเสียง /s/ เช่น test ถ้าหากพยัญชนะที่ตามหลังเป็นพยัญชนะเสียงก้องให้ออกเสียง /z/ เช่น wisdom คำบางคำดูเหมือนว่ามีพยัญชนะตามหลังเป็นพยัญชนะเสียงไม่ก้องแต่ความจริงแล้วพยัญชนะตัวนั้นไม่ออกเสียงก็ต้องดูพยัญชนะตัวต่อไปเช่น raspberry คำนี้ไม่ออกเสียง p พยัญชนะตัวต่อไปเป็น b ซึ่งเป็นพยัญชนะเสียงก้อง จึงต้องออกเสียง /z/ •      ถ้าหาก s อยู่ระหว่างสระเสียงอาจเป็น /s/ หรือ /z/ ต้องจำแต่ละคำไป เช่น ออกเสียง /s/ ในคำ basin, crisis ออกเสียง /z/ ในคำ poison, easy, busy •     ถ้าหาก s ตามหลังพยัญชนะ l, n, r หรือตามหลังพยัญชนะเสียงไม่ก้องให้ออกเสียง /s/ เช่น false, consider, cursor และ gipsy(ตามหลังพยัญชนะเสียงไม่ก้อง) ถ้าหาก s ตามหลังพยัญชนะเสียงก้องออกเสียง /z/ เช่น observe 5  asked ก็เช่นเดียวกันไม่ต้องระเบิดลม k แต่โคนลิ้นต้องยกขึ้นก่อนออกเสียง t หาก ถ้าหาก asked ตามด้วยคำที่เป็นพยัญชนะก็เท่ากับคำสองคำมีพยัญชนะติดกันสามพยัญชนะ t ไม่ออกเสียงครับ 6  เสียงระเบิดหากมีเสียงระเบิดตาม เสียงระเบิดตัวแรกไม่ออกเสียงแบบระเบิดเสียง ดังนั้น hit the  hit จึงไม่ระเบิดเสียง t แต่ในที่นี้ลิ้นที่จะออกเสียง t แทนที่จะไปจรดแนวปุ่มเหงือก ปลายลิ้นกลับไปแนบใต้ฟันบนแล้วหยุดช่วงสั้น ๆ เป็นการออกเสียง t โดยไม่ระเบิดเสียงแล้วออกเสียง the ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการออกเสียง แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 50 00:18:05 แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 50 00:08:21 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 23:07:46 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 50 23:01:27 จากคุณ : chumsakm - [ 25 มี.ค. 50 22:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณ chumsakm ครับ อย่างที่ผมเรียนให้ทราบแล้วว่า ภาษาเปลี่ยนเเปลงอยู่ตลอดเวลา มันไม่ใช่ว่าจะเชื่อหรือไม่ตามอัทธาศัยนะครับ เพราะฉะนั้นการที่จะบอกว่า feature ใดเป็นคุณสมบัติของกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด (ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา หรืออังกฤษ หรือภาคไหน หรือกลุ่มไหนในอเมริกา) นั้น คงจะไม่ precise เท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ้างอิงจากข้อมูลจากศึกษาที่ทำผ่านมานานหลายปีแล้ว เช่น dialect ในแถบ new england ที่ว่าคล้ายของคนอังกฤษนั้น ได้มีการศึกษามานานหลายสิบปีแล้วครับ ตั้งแต่ hans kurath นู่น(1949) แต่ในปัจจุบัน (2006) William Labov ใน project ที่ชื่อ TELSUR (เริ่มตั้งแต่ปี 1997 แต่เพิ่งมาได้ตีพิมพ์ 2006 และได้มีการ revise เรื่อยๆ เพื่อ update ข้อมูล) ได้ทำการศึกษาใหม่ และแย้งว่า การศึกษาในอดีตที่ผ่านมา ไม่เป็นจริงในปัจจุบันแล้ว เพราะว่าในถิ่น new england ที่เคยเป็น non-rhotic นั้น ปัจจุบันได้กลายมาเป็น rhotic โดยมีอัตราการเพิ่มอยู่ที่ 1.5 เปอร์เซนต์ต่อปี (Labov เรียกปรากฏการนี้ว่า restoration of /r/) (อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับชนชั้น และการศึกษาของผู้พูดด้วย) หรือ โอ ออ merger ก็เหมือนกัน ที่ผมยกตัวอย่างข้างบน ไม่ได้เป็นเฉพาะในแถบ west coast เท่านั้น Labov (ibid) รายงานว่าในถิ่น new england โดยเฉพาะบอสตันนั้น ก็มี trend นี้เกิดขึ้น อย่างที่บอกไงครับ ภาษาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และ change spreads from one place to another หรือการเปิด dictionary ก็เหมือนกัน มันก็ขึ้นอยู่กับว่าดิคที่เปิดน่ะจัดทำในปีอะไร และเอาข้อมูลจากไหนเป็นแหล่งอ้างอิง ถ้าไม่ได้เอาข้อมูลที่ทันสมัยก็จบ และคนที่ทำ phonetic transcription ในดิคชันนารี ก็ใช่จะเป็น sociolinguist จากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ อาจารย์ไทยชอบเปิดดิคของ kenyon & knott (เช่น ในหนังสือของ พัชรี พลาวงศ์ หรือ ปรารมภ์รัตน์ โชติกเสถียร) ซึ่งพิมพ์มาประมาณ ห้าสิบปีมาแล้ว บางคำซึ่ง pronunciation มันเปลี่ยนไปแล้ว เอามาสอนนักเรียน พอเอาไปใช้จริงก็ผิดอ่ะครับ (ในที่นี้คือ ฝรั่งไม่เข้าใจ) การออกเสียงนั้นจริงๆแล้วจะยึดของท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่งไปเถอะครับ เพราะอย่างที่นักภาษาศาสตร์ทราบกันดีว่า มันไม่มี "ภาษามาตรฐาน" โดยเฉพาะภาษาอังกฤษแบบมาตรฐาน สิ่งที่ laypeople เรียกว่า general american english นั้น มันไม่มีจริงๆ มันเป็นแค่ ideology ครับ คนทั่วๆไปก็ยังยึดติดว่า general american english น่ะมีจริงๆ ที่นี่ (อเมริกา) เวลาเราสอน phonetic กับ phonology ไม่ว่านักเรียนจะ transcribe มาอย่างไร ถ้าตรงกับที่เค้าพูด เราถือว่าถูกทั้งสิ้น นั่นคือ ไม่ว่านักเรียนจะ transcribe มาด้วยภาษาถิ่นใดๆ ถือว่าถูกต้องหมดครับ (ถ้ามัน represent their own pronunciation) เช่น ไม่ว่าจะ transcribe cot/caught เหมือนกันหรือต่างกัน (สระออ กับ อา หรือ อา กับอา) ถือว่าถูกทั้งหมด หรือ ถ้าจะอ่านคำว่า pin เหมือนคำว่า pen แล้ว transcribe ด้วยสระ /I/ ทั้งสองตัว ก็ถือว่าถูกอยู่ดีครับ (ถ้าเป็นที่ประเทศไทยคงโดนกาหัวข้อสอบไปแล้ว) ส่วนนักเรียนต่างชาติ ก็คงต้องยึดภาษาถิ่นใดถิ่นหนึ่งไปก่อน แต่ไม่ว่าจะถิ่นใด ก็ถูกต้องเหมือนกันครับ (คล้ายๆกับที่แอนดรู บิกส์ พูดไว้) ****อ้างอิง จาก Atlas of North American English: Phonetics, Phonology and Sound Change (2006) โดย Labov et al. บทที่ 7 และ 16 จากคุณ : krisdauw (krisdauw) - [ 26 มี.ค. 50 05:44:57 ]

ความคิดเห็นที่ 63 การสอนภาษาใดภาษาหนึ่งก็ต้องมีการอิงกับภาษาซึ่งถือว่าเป็นมาครฐาน เช่นภาษาไทยก็ต้องอิงกับภาษาภาคกลาง เพราะภาษาตามท้องถิ่นนั้นแตกต่างกัน   จะสอนฝรั่งให้ออกเสียงตัว ช  ก็ต้องสอนให้ออกเสียง ช แบบภาษาภาคกลาง  เพราะ อิสานก็ออกอย่างหนึ่ง สอนให้ออกเสียงตัว ง ก็เช่นกัน ภาคใต้ก็พูดอีกอย่างหนึ่งดังนั้นต้องมีมาครฐานในการสอนให้ออกเสียง    ทางอังกฤษก็ถือว่า ภาษา ราชินี ภาษา BBC เป็นมาตรฐานในการออกเสียง ในอังกฤษและอเมริกาตามท้องถิ่นต่าง ๆ ย่อมมีเสียงภาษาที่แตกต่างกันออกไป จากเหนือจรดใต้ นอกจากนั้นเป็นที่แน่นอนว่าภาษาในแต่ละท้องถิ่นก็มีการเปลียนไปตลอด ดูคำว่า "ฉัน"  เด็กสมัยใหม่ก็ออกเสียงไม่เหมือน "ฉัน" ที่เคยออกกัน แต่เวลาสอนให้ออกเสียงก็ต้องยึดมาครฐานเดิม    Dictionary สมัยนี้ก็พิมพ์ออกมาเรื่อย ๆ มีการ update อันนี้ก็แล้วแต่ผู้อ่านว่าจะสนใจและมีเงินพอที่จะจัดหามาได้แค่ไหน  ของผมเองเมื่อสมัยก่อนมี dictionary ของ ส.เสถบุตรเป็นเล่มที่ใช้อยู่ แต่สมัยนี้ใช้ Dictionary อังกฤษเป็นอังกฤษ เพราะการเขียนการออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยอักษรไทยนั้นเป็นไปไม่ได้ว่าจะเขียนให้ออกเสียงได้ถูกต้อง และก็มีทุกรุ่นที่ออกมาใหม่ แต่เนื่องจากผมชอบภาษาแบบ British มากกว่าผมจึงมี Dictionary ที่ใช้ Phonetics ที่เป็นที่ยอมรับของคนอังกฤษ( RP ) แต่ dictionary ที่ว่านี่ก็มีการออกเสียงภาษาทั้งอังกฤษและอเมริกัน  รุ่นใหม่ที่ออกมาไม่เห็นว่าใครจะดีกว่า LONGMAN Dictionary of contemporary English รุ่นที่มี CD สองแผ่น เพราะมีเสียงตัวอย่างมาก ให้ได้ฝึกหัดการออกเสียง ช่วยในการเขียน การออกเสียง Intonation ถ้าใครอยากหาซื้อ Dictionary ใหม่ ขอแนะนำให้ซื้อเล่มนี้ ไม่ผิดหวัง ตัวอย่างการออกเสียงที่ใช้ในการบรรยายในที่นี้ในส่วนที่มีตัวอย่างต่าง ๆ ก็มาจาก Dictionary เล่มนี้     ความประสงค์ที่ผมเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมาก็พยายามให้การออกเสียงของเด็กรุ่นใหม่ทำได้ถูกต้องขึ้น ถ้าใครเข้ามาอ่านทั้งที่นี่และบทความที่ผมเขียนก็จะรู้ว่าได้พยายามแก้ไขการออกเสียงที่ผิด เช่น I ออกเสียงกันว่า ไอ มานานแสนนานแล้วโดยหารู้ไม่ว่าที่จริงแล้วเขาออกเสียงว่า "อาย"  เสียงจะสั้นหรือยาวก็แล้วแต่พยัญชนะที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ได้สั้นจู๋จนออกเสียงว่า "ไอ"       หากคุณ krisdauw มีอะไรที่จะช่วยกันพัฒนาการออกเสียงในที่นี้ก็ยินดีครับแต่ควรจะดูเนื้อหาที่กำลังบรรยายอยู่ตอนนี้และเสริมในเนื้อหาขณะนี้ไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่เป็นขั้นตอนที่จะทำให้เข้าใจเป็นลำดับถ้าหากจะกระโดดไปทางนั้นทีทางนี้ที แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 50 11:01:50 แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 50 10:39:16 แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 50 09:54:03 จากคุณ : chumsakm - [ 26 มี.ค. 50 09:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 64 การออกเสียงพยัญชนะ c, q, x   พยัญชนะ c, q, x ไม่มีเสียงของตัวเองแต่จะมีเสียงเป็นพยัญชนะอื่นที่อธิบายการออกเสียงไปแล้ว เสียงของพยัญชนะทั้งสามนี้จะเป็นเสียงใดขึ้นอยู่กับ ตำแหน่งที่ในคำ ขึ้นกับเมื่อมีพยัญชนะอื่นเข้ามาร่วมด้วย ต่อไปนี้เป็นหลักเกณฑ์ที่จะออกเสียงพยัญชนะทั้งสามนี้ว่าจะออกเสียงเป็นเสียงพยัญชนะใด หลักเกณฑ์การออกเสียงพยัญชนะ c 1 คำใดที่มี c มักออกเสียงดังนี้  ออกเสียง k ในคำว่า cut  ออกเสียง s ในคำว่า nice  ออกเสียง sh แบบเสียงไม่ก้องในคำว่า ocean Click  http://www.howjsay.com/   พิมพ์ cut, nice, ocean แต่ละคำแล้วสังเกตเสียงตามที่อธิบายข้างต้นและออกเสียงตาม 2 ออกเสียง k เมื่อ c อยู่ในลักษณะดังนี้   อยู่ท้ายคำเช่นคำว่า basic   เมื่อมีสระ a, o, u ตัวใดตัวหนึ่งตามหลัง เช่นคำว่า camp, copy, curl  เมื่อมีพยัญชนะตามหลังเช่น cry Click  http://www.howjsay.com/   พิมพ์ basic, camp, copy, curl, cry, แต่ละคำแล้วสังเกตุเสียงตามที่อธิบายข้างต้นและออกเสียงตาม 3 ออกเสียง s เมื่อ c มีสระ e, i, y  ตัวใดตัวหนึ่งตามหลังเช่น central, city, cycle, face คำว่า Caesar ออกเสียง Ca เป็นเสียง s Click  http://www.howjsay.com/   พิมพ์  central, city, cycle, face, Caesar แต่ละคำแล้วสังเกตเสียงตามที่อธิบายข้างต้นและออกเสียงตาม 4 เมื่อ e หรือ i ร่วมกับสระใด ๆ อีกตัวหนึ่งตามหลัง c ซึ่ง c เป็นพยัญชนะตัวต่อไปจากพยางค์ข้างหน้าซึ่งเป็นพยางค์ที่เน้น จะออกเสียง c เป็นเสียง sh แบบเสียงไม่ก้อง เช่น precious, special, musician, ocean คำที่ยกตัวอย่างมานี้มีพยางค์ข้างหน้า c เป็นพยางค์ที่เน้นและ c ซึ่งเป็นพยัญชนะตามโดยมี i, หรือ e ตามหลัง c และมีสระอื่นตาม e หรือ i จึงเข้าหลักเกณฑ์นี้ คำเหล่านี้จะไม่ออกเสียง e หรือ i ที่ตาม c เนื่องจากสระที่ตาม e หรือ i ซึ่งในที่นี้ได้แก่ a และ o เป็นสระเสียงอ่อน แต่ถ้าสระที่ตาม e หรือ i เป็นสระเสียงแข็งต้องออกเสียง e และ i เข่น คำว่า speciality คำนี้เน้นหนักที่พยางค์ al ดังนั้น a จึงมีเสียงหนัก จึงต้องออกเสียง i ด้วย คำบางคำที่อยู่ในกฏเกณฑ์นี้อาจออกเสียง s แทนก็ได้เช่นคำว่า appreciate, associate, oceanic คำที่อยู่ในกฎเกณฑ์นี้และในคำนั้นมีเสียงsh แบบเสียงไม่ก้องร่วมอยู่ในคำนั้นอยู่แล้วมักนิยมออกเสียง c เป็นเสียง s เช่นคำว่า association, pronunciation. Click  http://www.howjsay.com/   พิมพ์  precious, musician, ocean, speciality, appreciate, associate, oceanic, association, pronunciation. แต่ละคำแล้วสังเกตเสียงตามที่อธิบายข้างต้นและออกเสียงตาม Click http://pewebdic2.cw.idm.fr/ แล้วพิมพฺ์คำ special, แล้วออกเสียงตามพร้อมกับออกเสียงตามตัวอย่างต่าง ๆ 5 เมื่อในคำมี cc ออกเสียงดังนี้    ออกเสียง k เมื่อ cc อยู่ในคำแหน่งต่าง ๆ ส่วนมาก เช่น account   ออกเสียง ks เมื่อมีสระ e, i, y ตัวใดตัวหนึ่งตาม เช่น accept Click  http://www.howjsay.com/   พิมพ์  account, accept แต่ละคำแล้วสังเกตเสียงตามที่อธิบายข้างต้นและออกเสียงตาม 6 เมื่อ s ร่วมด้วยเป็น sc ออกเสียง   sk ในตำแหน่งส่วนมาก เช่น describe   s เมื่อมีสระ e, i, y ตัวในตัวหนึ่งตาม เช่น scent, disciple  sh แบบเสียงไม่ก้องเมื่อ sc อยู่ท้ายพยางค์ที่เน้นและมี i ตามพร้อมกับสระอีกตัวหนึ่งตาม i เช่นคำว่า luscious sc อาจมี h ร่วมด้วยเป็น sch ซึ่งออกเสียง sk เช่นคำว่า school Click  http://www.howjsay.com/   พิมพ์  luscious. แล้วสังเกตเสียงตามที่อธิบายข้างต้นและออกเสียงตาม Click http://pewebdic2.cw.idm.fr/ แล้วพิมพฺ์คำ describe, scent, disciple, school, แล้วออกเสียงตามพร้อมกับออกเสียงตามตัวอย่างต่าง ๆ 7 ไม่ออกเสียง c ในคำบางคำเช่น muscle, indict ( ออกเสียงว่า อินด้ายท ), Connecticut ( เคอะเนททิเคิท ตามการออกเสียงของอังกฤษ)   Click  http://www.howjsay.com/   พิมพ์  muscle, indict, Connecticut. แต่ละคำแล้วสังเกตเสียงตามที่อธิบายข้างต้นและออกเสียงตาม หลักเกณฑ์การออกเสียงพยัญชนะ q 1 q มักมี u ตามหลังนอกจากเป็นคำที่มาจากภาษาอื่น ออกเสียงดังนี้   kw  เช่นคำ quite, queen, equal, liquid  k เช่นคำ  liquor 2 que ออกเสียง k เช่นคำว่า cheque, queue 3 cqu ออกเสียง kw เช่นคำ acquaint หรือมิเช่นนั้นก็ออกเสียง k เช่นคำ lacquer Click  http://www.howjsay.com/   พิมพ์  quite, queen, equal, liquid, liquor, cheque, queue. แต่ละคำแล้วสังเกตเสียงตามที่อธิบายข้างต้นและออกเสียงตาม หลักเกณฑ์การออกเสียงพยัญชนะ x 1 ออกเสียง ks เช่นคำว่า six ( ต้องออกเสียง s ตอนท้ายด้วย ) 2 ออกเสียง z เมื่อมี ex นำหน้าสระที่เป็นพยางค์ที่เน้น เช่น exist อาจออกเสียงเป็น ks ก็ได้ คำที่ขึ้นต้นด้วย exce หรือ exci ออกเสียง ks โดยไม่ต้องออกเสียง c เข่น exceed 3 เมื่อ x เป็นพยัญชนะขึ้นต้นออกเสียง z เช่น Xerox คำว่า anxiety ก็ออกเสียง x เป็นเสียง z 4 คำที่ลงท้ายด้วย xious, xion, xure ออกเสียง k แล้วตามด้วยเสียง sh แบบเสียงไม่ก้อง เช่น anxious, crucifixion สำหรับคำว่า luxury และคำที่มาจากคำนี้ บางคนจะออกเสียงเป็นเสียง k ตามด้วยเสียง sh เสียงไม่ก้อง หรือออกเสียง g แล้วตามด้วยเสียง sh แบบเสียงก้อง 5 ไม่ออกเสียง x ในคำที่เป็นชื่อบางชื่อและคำที่ยืมมาจากภาษาฝรั่งเศส เช่น prix Click  http://www.howjsay.com/   พิมพ์  exist, exceed, Xerox, anxiety, anxious, crucifixion, luxury, prix. แต่ละคำแล้วสังเกตเสียงตามที่อธิบายข้างต้นและออกเสียงตาม แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 50 20:34:55 จากคุณ : chumsakm - [ 26 มี.ค. 50 16:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 65 สวัสดีอีกครั้งครับคุณ chumsakm ขอบคุณนะครับที่ร่วมสนทนาด้วย (ผมหาคนคุยเรื่องภาษาศาสตร์ไม่ค่อยได้) การตัดสินใจว่าจะเลือกว่าจะสอนสำเนียงใด (ไม่ว่าจะเป็นประเทศ หรือ ภาคใดของประเทศ) นั่นเป็นปัญหาสำคัญในการสอนการออกเสียงภาษาอังกฤษครับ ที่คุณพูดก็ถูกว่าควรเลือกสำเนียง "มาตรฐาน" แต่ปัญหาคือ มาตรฐานมันไม่มีน่ะสิครับ (แต่อย่างที่ผมเรียนว่า คนทั่วไปคิดว่ามี มาตรฐาน) ลองให้ define มาตรฐานจริงๆ จะเห็นว่า ทำไม่ได้ครับ ที่คนทั่วไปทำกันคือ define ว่า อะไรที่ไม่ใช่หรืออะไรที่ต่างไปจากมาตรฐานต่างหาก (นั่นคือ มันง่ายกว่าที่จะบอกว่า อันนี้เพี้ยน อันนี้ไม่ใช่มาตรฐาน) เช่น ถ้าเป็นภาษาไทยก็บอกว่า เค้าพูด "เหน่อ" เป็นต้น แต่เราไม่สามารถบอกลักษณะทางเสียงของ "คนกรุงเทพ" ได้ใช่ป่ะครับ ว่า คนกรุงเทพ พูดอย่างนี้ อย่างนี้ อย่างนี้  เพราะถึงแม้จะอยู่กรุงเทพด้วยกัน แต่ละคนก็ออกเสียงต่างไป ขึ้นอยู่กับภูมิหลัง อายุอานาม หรือ เพศ ใ่ช่ป่ะครับ ภาษาอังกฤษก็เช่นเดียวกันครับ ประเทศอเมริกากว้างใหญ่มาก ที่เค้าเรียกว่า mid-west นั้นมันก็กินพื้นที่ใหญ่จนทำให้ไม่สามารถหาลักษณะร่วมกันทุกอันได้ (เพราะฉะนั้นมันง่ายกว่าที่จะบอกว่า อันนี้สำเนียงใต้ อันนี้สำเนียงทางเหนือ) แต่ไม่เคยมีนักภาษาศาสตร์ให้คำจำกัดความ หรือ defining characteristics  ของ  standard features of standardamerican english ครับ ส่วนเรื่อง received pronunciation ก็เช่นกันครับ ซึ่งต่างจากของเมกา เพราะว่าอันนี้เป็น social dialect ไม่ใช่เป็น regional dialect เพราะอาร์พีถือกำเนิดมาจากชนชั้นสูงใช่ป่ะครับ แต่มีการประมาณการไว้ ประมาณเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว (ผมจำชื่อหนังสือไม่ได้) ว่ามีคนพูดอาร์พีทั้งประเทศอังกฤษ ไม่ถึง 10% ครับ และนั่นคือตัวเลขเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นปัจจุบันคงเหลือน้อยมากๆ แม้แต่เจ้าหญิงไดอาน่าเองก็ไม่ได้พูดด้วยสำเนียงนี้ (แต่มาเกร็ท แธชเชอร์ใช้ ส่วนโทนี่แบลไม่ได้ใช้) และจะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน สำนักข่าว บีบีซี หรือ ซีเอ็นเอ็น หรือ เอ็นบีเอส นั้นได้รับผู้ประกาศข่าวที่มีสำเนียง"ต่างไป" ด้วยครับ แสดงว่าสำเนียงอื่นๆนั้นได้รับการยอมรับมากขึ้นครับ เพราะฉะนั้น คำถามคือ จะมีประโยชน์อะไรที่จะสอนสิ่งที่คนไม่ได้ใช้กัน นั่นคือ ในกรณีของ อาร์พี ในเมื่อมีคนไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ของทั้งเกาะอังกฤษใช้กัน แล้วจะสอนไปทำไม เพราะคนส่วนใหญ่พูดสำเนียงอื่นๆ และอีกประการครูที่สอนไม่ได้มีสำเนียงนี้ (ติ๊ต่างว่าครูสอนส่วนใหญ่ไม่ใช่พวกชนชั้นสูง และไม่ได้พูดสำเนียงอาร์พีในชีวิตประจำวัน) อันนี้เป็นสิ่งที่ Prof. Braj Kachru พูดไว้ว่า สถานการณ์ภาษาอังกฤษในปัจจุบันเปลี่ยนไป เพราะว่าภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นของคนอังกฤษหรือเมกันหรือเครือจักรภพอีกต่อไป แต่ว่าเป็นของคนทุกคนต่างหาก เเละภาษาอังกฤษนั้นใช้ระหว่าง non-native speakers มากกว่า ใช้ระหว่าง native speakers ด้วยกันเองด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น ในเมื่อมันเป็น international, lingua franca ขนาดนี้แล้ว ทำไมจะต้องจำกัดอยู่ที่แบบลักษณ์เดิมๆ (ถ้าในเรื่องของสำเนียงอังกฤษก็ อาร์พี เป็นต้น) Kachru กล่าวว่าสำเนียงอะไรก็ควรจะสอนได้เหมือนๆกัน ส่วนคำถามที่ว่าจะมีอุปสรรคระหว่างการสื่อสารไหม ก็คงต้องตอบว่า มีบ้าง แต่ว่าขนาดคนเมกันสนทนากันเองยังมีอุปสรรคระหว่างการเข้าใจเลย เพราะฉะนั้นถือเป็นเรื่องปกติครับ ส่วน ดิคของลองแมน ผมก็ใช้นะ แต่ติดว่ามันเป็นของสำนักพิมพ์อังกฤษเท่านั้นแหละครับ ลองสังเกตเวลาเค้าทรานสไกรพ์ สระโอ เค้าจะแทนด้วย ชวากับอุ (แทนที่จะใช้ โอ ตามระบบเมกัน) ผมว่ามันแปลกๆ อ่ะ ส่วนข้อเสนอแนะ (ซึ่งคุณชุมศักดิ์คงตั้งใจจะทำอยู๋แล้วมั้งครับ) ที่ผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์คือ สอนเรื่อง pronunciation in connected speech ด้วยครับ ตอนที่ผมเรียนนะ ผมว่าเรื่องนี้มีประโยชน์ที่สุดอ่ะ ที่เกี่ยวกับการที่ function words กลายเป็นเสียงชวาหมด หรือ การ simplify consonant cluster หรือ linking sound หรือ assimilation, etc เพราะว่าในชีวิตจริง คงไม่มีใครนั่งอ่าน our ว่า อาวเออร์ แต่อ่านว่า อาร์ เป็นต้น หรือไม่มีใครอ่าน clothes ด้วยพยัญชนะท้ายทุกตัวแต่อ่านว่า kloz เป็นต้น ผมว่าไอ้ connected speech นี้แหละจะทำให้คนไทยออกเสียง"เหมือนฝรั่ง" (whatever that means!) คอร์สออกเสียงเบื้องต้นส่วนใหญ๋ไม่ค่อยเน้นเรื่องนี้อ่ะครับ เห็นมีที่สอนที่เดียวก็ที่คณะอักษร แต่ก็เป็น advanced คอร์สอ่ะครับ (sound system of english) ถ้าใครไม่เลือก ก็ไม่ได้เรียน เล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่า เมื่อตอนผมเรียนที่เมืองไทย จำได้เลย อาจารย์สอนว่า พยัญชนะ l ใน almonds นั้นเป็น silent letter ถ้าใคร transcribe ว่ามีเสียงนี้ตอนสอบ ผิดทันที แต่มาที่เมกานี่ จากประสบการณ์ทุกคนออกเสียง แอล หมด อย่างที่บอกไงครับว่า มาตรฐานอาจจะเปลี่ยน หรือในคำว่า talk, stalk นั้น เราเรียนกันว่า พยัญชนะ แอล ไม่ออกเสียง แต่เมื่อสามอาทิตย์ก่อนผมไปรัฐ อาร์คันซอ (arkansas) คนท้องถิ่นออกเสียง แอล (พอผมไม่ออก เค้าถามว่า สตอคเกอร์ ที่ไม่มีแอลน่ะ แปลว่าไร เพราะสำหรับเค้า มันต้องเป็น สตอลคเกอร์) จากตัวอย่างเหล่านี้ ทำให้ผมคิดว่าไม่แน่ แซเมิน อาจจะกลายเป็น แซลเมิน ได้ในวันข้างหน้า (salmon) ด้วยหลัก analogy อันนี้ก็เป็นประสบการณ์ที่ผมพบมาครับ อ้อเหลือบไปเห็นข้อความข้างบน ที่เกี่ยวกับการออกเสียงพยัญชนะ x "ออกเสียง z เมื่อมี ex นำหน้าสระที่เป็นพยางค์ที่เน้น เช่น exist อาจออกเสียงเป็น ks ก็ได้" ผมว่าต้องเปลี่ยนเป็น ออกเสียง igz นะ ผมว่าคำนี้ exist ออกได้เป็นแค่ igzist ป่ะครับ เป็น ks ไม่ได้ จำได้ลางๆว่า ถ้า stress ลงที่ ex ให้ออกเป็น ks แต่ถ้าลงที่พยางค์อื่นให้ออกเป็น igz เช่น excavate, extra VS example, exist สองตัวเเรก stress ลงที่ ex เพราะฉะนั้นออกเป็น ikskavate, ikstra แต่สองตัวหลัง stress ลงที่พยางค์อื่นๆ เพราะฉะนั้นอ่าน igzample, igzist แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 03:38:02 จากคุณ : krisdauw (krisdauw) - [ 27 มี.ค. 50 03:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 66 การเรียนการออกเสียงไม่ว่าภาษาอะไรก็ต้องยึดถืออะไรเป็นหลักสักอย่าง ไม่งั้นก็เรียกว่ามั่วไปเอาทางโน้นทีทางนี้ที ทำให้ไม่ได้หลักซักที การที่ผมเอา phonetics มาสอนเพื่อว่าจะได้คุ้นกับการออกเสียงโดยมีสัญลักษณ์จำเอาไว้ เมื่อไปเปิด dictionary จะได้ออกเสียงถูก จะเลือกออกเสียงแบบไหนก็แล้วแต่มีทั้ง อังกฤษและอเมริกัน แต่ละอย่างก็ออกเสียงกันได้หลายแบบ แต่ใน dictionary เขาก็เอาตัวที่นิยมไว้ด้านหน้า ผมเห็นว่าต้องรู้เสียง phonetics ก่อนแล้วจึงจะออกเสียงได้ถูกเมื่อไปค้นใน dictionary ทีดี ๆ มีเสียง มีต้วอย่างประโยคให้ได้คุ้นกับการออกเสียง คำหนึ่ง ๆ นั้นสามารถออกเสียงได้หลายอย่างใช่ไหมครับ แล้วแต่ความนิยม แล้วแต่ท้องที่ แต่ต้องเลือกที่นิยมมากที่สุดมาพูดจะเป็นการดี  อย่าง exit นี้ออกเสียงได้หลายอย่าง การ stress ก็แตกต่างกันไป  อาจจะออกเสียงได้ว่า Ig"zIst, eg-; Ik"sIst, ek-,   Dictionary ของ Longman ที่ว่าออกมาหลายรุ่นแล้ว แต่รุ่นที่ผมว่าเจ๋งนั้นเป็นรุ่นที่มี CD สองแผ่น ซึ่งมีตัวอย่างประโยคออกเสียงเป็นภาษาอังกฤษแบบ British และ American ทั้งสองอย่าง หนังสือพวกนี้พร้อม CD ราคาก็เหยียบพัน  ความจริงแล้วหนังสือไม่ได้เปิดเลย ถ้าใช้ computer ใช้ CD สะดวกกว่าแยะ  salmon ผมสอนให้เด็กออกเสียงว่า "แซมเมิ่น"    pronunciation in connected speech ผมก็นำมาพูด ทั้งใน pantip นี่โดยนำเอาเนื่อเพลงมา แล้วชี้ให้เห็นว่าเขาไม่ได้ร้องเป็นคำ ๆ แต่เขาต่อเชื่อมคำด้วยกัน  เช่น ในเพลง "I always love you "  เริ่มต้นขี้นมา เขาก็ร้อง And I  ว่า "แอนดาย" และชี้จุดต่าง ๆ ที่เขาเชื่อมคำเข้าด้วยกันในเพลงแล้วให้ไปฟังเพลงดู   ใน website ที่ผมเขียนก็พูดกันในเรื่องนี้ ตั้งแต่ weak form, strong form การออกเสียงคำ อะไร ๆ อีกจิปาถะ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ทำเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม ไปสอนตามการเชิญของโรงเรียนให้กับครูภาษาอังกฤษก็สอนโดยไม่คิดเงิน บางที่ยังต้องเสียเงินเช่นไปสอนไกล ๆ เคยไปสอนถึงเชียงใหม่ก็ออกค่าเครื่องบินเอง   คุณ krisdauw ว่างเมื่อไรก็เชิญมาให้ความรู้แด่ผู้ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมนะครับ แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 11:47:06 จากคุณ : chumsakm - [ 27 มี.ค. 50 08:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เข้ามาโหวตกระทู้เรือดำน้ำ จากคุณ : * (nickycharles) - [ 27 มี.ค. 50 13:35:11 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เข้ามาเรียนค่ะ ได้ประโยชน์จริงๆ ลองทำตามรูปภาพแล้ว ... ยากแต่ไม่ถอดใจง่ายๆหรอกค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : ธาราฝัน - [ 27 มี.ค. 50 14:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คุณ ธาราฝัน   ดูคำอธิบาย ดูรูป แล้วฟังเสียงประกอบ ไม่น่าจะยากนะครับ จะได้นำไปใช้ออกเสียงให้ถูก มีอะไรก็ถามเสียนะครับเพราะการบรรยายการออกเสียงพยัญชนะคงจบลงแค่นี้    Thank everybody who keeps the submarine afloat. จากคุณ : chumsakm - [ 27 มี.ค. 50 19:20:10 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มาอ่านอยู่ทุกวัน แล้วก็โหวตให้ทุกวันนะคะ คิดว่ากระทู้นี้ให้ความรู้จริงๆ และก็ตอบข้อสงสัยที่มีได้หลายอย่างแล้ว ยังไงจะมาอ่านเรื่อยๆค่ะ จากคุณ : Love@Home - [ 28 มี.ค. 50 06:43:07 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ตอนออกเสียงพยัญชนะเดี่ยว ๆ จบลงแค่นี้ครับ ไปต่อการออกเสียงสระได้ที่ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K5265427/K5265427.html จากคุณ : chumsakm - [ 28 มี.ค. 50 12:43:12 ]