ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีเช้าวันเสาร์ค่ะ ..... เรื่องภาษาไทย .... สนใจ ... ค่ะ เป็นวิชาแถม (จากวิชาอื่นๆที่ก็ปวดหัวพออยู่แล้ว) ที่ถูกขอให้สอนเป็นสาธารณะประโยชน์ เรื่อยมาค่ะ ..... สอนคนญี่ปุ่นยากกว่าสอนฝรั่งตรงที่จะต้องใช้อักษรโรมันเป็นโฟเนติค จึงจะเข้าใจการออกเสียง แต่ ... ตำราของเค้าก็เยอะมากๆค่ะ มีคอสที่ดีมากๆในทีวีสาธารณะ เอ็นเอชเค มีซีดีขายมากมาย คนเรียนอายุยี่สิบไปถึงเจ็ดสิบกว่า เฉลี่ยแล้ว สี่ห้าสิบขวบค่ะ เคยเข็นให้หกสิบกว่าคนพูดสื่อสารได้ในสามชั่วโมง (แบ่งเป็นสองคลาส ครั้งละเก้าสิบนาทีสองครั้ง)   ก็ได้ผลพอสมควรค่ะ หลักก็คือ อ่านออกเสียงอัลฟาเบทและโทนได้ถูกต้อง จากนั้นก็จะหัดเองเรียนเองได้ ..... (กับตำราดีๆ) วันนั้นก็ดูรายการนี้อยู่เหมือนกันค่ะ .... ชื่นชมทั้งสามท่านมาก ..... จากคุณ : nijja - [ 10 มี.ค. 50 10:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นั่นซิคะ คุณนิจ..แล้วใยนักเรียนไทยของเราจึงต้องเรียนภาษาอังกฤษกันตั้งแต่อนุบาลยันมหาวิทยาลัย..แถมยังต้องไปภาคซัมเมอร์ที่ต่างประเทศอีก.. เราสอนกันผิดวิธีหรือเปล่าคะเนี่ย..ฟังท่านทูตอเมริกันแล้ว ชื่นชมท่านมาก เพราะตอนที่"หลอกล่อ"ให้รับมาตรงๆเถอะ.. ว่าชอบคุณจินตหรา สุขพัฒน์ ช่ะม๊า...?? ท่านไม่หลงกลเลย..บ่ายเบี่ยงตอบจนได้ใจความว่า..ชอบในละคร(ต่างหาก) ทั้งๆที่ออกเขินเต็มที่.. และประทับใจตรงที่..เขารู้ลึกซึ้งมากในเรื่องวรรณกรรมของไทย..ว่า...จะอ่านหนังสือให้เข้าใจวัฒนธรรมประเพณีไทยที่ดีที่สุด ต้อง"สี่แผ่นดิน" เพราะมีครบทุกชั้นและเชิงของภาษา..ว่า คำไหนจะใช้กับใคร..ที่ไหน..และเมื่อไหร่ ซึ่งยังเอ่ยชื่อ"หม่อมคึกฤทธิ์" อย่างชัดเจนอีกด้วยซิคะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 10 มี.ค. 50 10:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สวัสดี วันเสาร์ครับ.. จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 10 มี.ค. 50 11:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ว่าจะเล่าเรื่องของเบอร์กันมาดีมานานแล้ว..แต่หาโอกาสเหมาะไม่ได้   รอจนมาถึงเรื่องของธอมัส เจฟเฟอร์สัน นี่แหละ เพราะมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับพื้นที่นี้อย่างน่าสนใจ เลยยกมาเล่าในคราวเดียวกันเลย.. จ ะข้ามการศึกระหว่างโรมันกับพวกกอล (ฝรั่งเศสปัจจุบัน) ไป เพราะเล่าเปรยมาแล้วในกระทู้ก่อนๆ ถึงสมัยเริ่มแรกของกาเรดินทางขององุ่นที่ก่อกำเนิดมาจากก่อนคริสต์กาล..จะมาต่อยอดตรงยุครุ่นเรืองของเบอร์กันดีเลย.. นั่นคือปี  1363 ที่กษัตริย์ฝรั่งเศสคือ JOHN II ได้ยกดินแดนหรือทรัพย์สินส่วนพระองค์ในพื้นที่ของเบอร์กันดี ที่ถือว่าเป็นแคว้นใหญ่แคว้นหนึ่ง.. หรือที่เรียกว่า duchy (of Burgundy) ให้กับ  PHILIP THE BOLD ซึ่งเป็นพระโอรสองค์รองเพื่อไปครอง พอหลังจากที่พ่อตาของ PHILIP THE BOLD ลาโลกไป..ทรัพย์สินของฝ่ายพ่อตา คือแคว้น Flanders, Artois, Franche-Comte อันเป็นที่ดินรอบข้างนั้นก็ตกมาเพิ่มพูนให้ต้องขยาย duchy ให้กว้างไกลออกไปอีก..เมื่อสืบทอดตกไปถึงลูกชายคือ  JOHN THE FEARLESS  อาณาจักรของดัชชี่ได้เพิ่มขยายจนกินเข้าไปในเขตของอัลสาซ,ลอร์เรน ในช่วงของต้นศตวรรษที่ 15 ท่านดยุคแห่งเบอร์กันดี ที่ถือว่าเป็นแคว้นใหญ่และมั่งคั่ง..เริ่มที่จะหาลู่ทางขยายอำนาจเพื่อที่จะเข้าครอบครอง ทั้งหมดของฝรั่งเศส ซึ่งแน่นอนว่า..นั่นคือที่มาของสงคราม Armagnacs and Burgundians ที่กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวลามลุกจนกลายเป็นสงครามร้อยปีไปจนได้.. สงครามอาร์มาญัค และ เบอร์กันเดียนส์  เกิดจากการแก่งแย่งชิงอำนาจระหว่างญาติกันเอง นั่นคือ Louis d'Orleans (พระอนุชาของ King Charles VI) กับ..JOHN THE FEARLESS ที่ดำรงตำแหน่งเป็น ท่านดยุคแห่งเบอร์กันดี   ที่จะว่าไปก็เป็นพระญาติกันแท้ๆ จากคุณ : WIWANDA - [ 10 มี.ค. 50 14:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก็เพราะการแก่งแย่งกันนี่..จู่ๆ  Louis d'Orleans ก็ถูกลอบปลงพระชนม์ ที่สร้างความเดือดแค้นให้กับ Charles d'Orleans  ผู้เป็นลูกชายอย่างมาก ถึงขนาดต้องวิ่งไปหาแนวร่วม นั่นคือ Bernard VII, count of Armagnac ผู้เป็นพ่อตาที่เกิดอาการเจ็บร้องแทน ถึงขนาดบอกไปเลยว่า..ลูกไม่ต้อง พ่อจะแก้แค้นแทนให้.. นี่คือที่มาของชื่อที่หมายถึง สงครามระหว่าง ชาวอาร์มาญัค และ ชาวเบอร์กันเดียน ทัพของเบอร์กันเดียนส์  ผู้ที่เข้าร่วมรบด้วยอย่างแข็งขันคือชนชั้นกรรมกรหรือที่เรียกว่า สหภาพแรง..เอ๊ย..ไม่ใช่ พูดผิด..พวก Cabochiens น่ะค่ะ พวกคาโบเชี่ยนส์พวกนี้คือชาวไร่ชาวนาที่มีเครือข่ายไปทั่วประเทศ เป่านกหวีดปี๊ดเดียว  สายพลพรรคในเขตอื่นๆก็ลุกฮือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ แม่ทัพหรือ JOHN THE FEARLESS เข้ายึดอำนาจได้ในปี 1411  อย่างง่ายดาย แต่สองปีต่อมา  คือปี 1413 กลุ่มอาร์มาญัคก็ไปรวบรวมชาวบ้านเข้ามาต่อสู้ด้วยอีกเป็นจำนวนมาก   คราวนี้ จอห์นที่ว่าไม่เคยเกรงกลัวใครในสมญา ก็หนีกระเจิงออกไปตั้งหลักแทบไม่ทัน.. พวกอาร์มาญัคเข้ายึดครองได้สำเร็จก็จริง..แต่ต้องมาเตรียมทัพรับมือกับอังกฤษภายใต้การปกครองของคิง Henry V ที่ฉวยโอกาสเห็นว่าบ้านเมืองกำลังระส่ำระสาย ก็เห็นเป็นโอกาสที่จะมาตีกินอย่างฟรีๆ ในปี 1415 โดยอ้างสาเหตุว่าต้องการที่จะเข้าข้างจอห์น (ที่จะว่าไปก็เป็นญาติกัน) แน่นอนว่า..น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ..อังกฤษชนะ และ จอห์นได้กลับมาครองบัลลังค์อย่างเดิมในปี 1418 ซึ่งการเช๊คบิลได้เกิดขึ้น นั่นคือการประหารฝ่ายคณะคมช. เอ๊ย..ไม่ใช่ หมายถึงผู้นำอาร์มายัค Bernard VII และบรรดาลิ่วล้อทั้งหมด ส่วนจอห์น และ อังกฤษเริ่มเหิมเกริม..เข้าขั้นต่อรองเรื่องอำนาจกับมกุฏราชกุมาร   (the young dauphin) พระโอรส ของพระเจ้า Charles VI แต่..ไม่ทันที่จะได้ใจความถึงไหน จอห์นก็มาถึงลอบสังหารไปซะก่อน เมื่อปี 1419 ส่วนคนที่รับช่วงต่อไป คือลูกชาย... Philip the Good ที่ต้องเลื่อนขึ้นมาเป็น ดยุค แห่ง เบอร์กันดี แทนพ่อ   ที่ขอแก้แค้นคืนด้วยการเข้าร่วมกับอังกฤษเพื่อบีบคั้นฝรั่งเศสในการร่วมลงนามในสนธิสัญญาแห่งทรอยส์ (Troyes) ในการที่จะสงบศึกระหว่างอังกฤษ ฝรั่งเศส โดยการเสนอตัวเป็นรัชทายาทองค์ใหม่ที่เหมาะสมกว่า เพราะว่า..พระเจ้า Charles VI ทรงมีพระสติปัญญาที่ไม่ปรกติ..ที่อาจนำมาถึงสาเหตุของการถ่ายทอดสู่พระโอรสได้..แต่ความจริงแล้ว เพื่อเป็นการแก้แค้นที่จอห์นได้ต้องมาถูกฆ่าตายต่างหาก และเขายังกล่อมอังกฤษต่อไปว่า ..ไม่มีผู้ใดที่เหมาะสมเกินไปกว่า.. (จะว่าไปแล้วก็จริง เพราะ หลังจากที่หลายองค์ต่างฆ่ากันล้มตายไป..เขาก็ขึ้นมาโดดเด่นกว่าใครๆ) จากคุณ : WIWANDA - [ 10 มี.ค. 50 14:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แต่ตอนที่เซ็นสนธิสัญญานั้น ไม่มีใครจะล่วงรู้ได้ว่า สองเดือนต่อมา..ทั้งสองกษัตริย์  Charles VI และ Henry V ต่างสวรรคตไปในเวลาไล่เลี่ยกัน..คือ ปี 1422 ฝั่งอังกฤษนั้น มกุฏราชกุมารก็ยังแบเบาะอยู่เลย..คงจะมาดูแลทั้งสองประเทศไม่ได้ ส่วน  the young dauphin ก็ขึ้นมาเป็น  พระเจ้า  Charles VII อย่างกระทันหัน.. คราวนี้  ฟิลลิป ไม่มีอังกฤษคอยหนุนหลัง จึงต้องหันไปพึ่งคลื่นใต้น้ำ คือการปล่อยข่าวว่า..พระเจ้า ชารลส์ที่เจ็ด หมาดๆนั้นหาใช่ลูกที่แท้จริงของพระเจ้า Charles VI ไม่..พระองค์นั้นไม่สมประกอบในหลายๆด้าน ส่วนพระนาง Isabeau ผู้เป็นพระราชินี ใครๆเขาก็รุ้กันว่า ทรงมี"กิ๊ก" หลายต่อหลายคน.. อังกฤษรีบขานรับในข้อแย้งนี้..จึงไม่ยอมรับในสถานะของกษัตริย์องค์ใหม่องค์..และ ทุกครั้งที่ขานพระนาม ว่า Charles VII แต่จะต่อพระยศจำกัดแค่.."King of Bourges" (Bourges บูร์จ..หมายถึงเมืองที่อยู่ส่วนกลางของฝรั่งเศส การเรียกเช่นนั้นหมายถึงเป็นการดูแคลน และเป็นเชิงลดพระเกียรติ) และเมื่อยังไม่มียอมรับโดยเฉพาะจากมหาอำนาจอย่างอังกฤษ  อีกทั้งเป็นการออกข่างลือที่ประชาชนต่างสับสน.. การทำราชาภิเษกจึงยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้กลุ่มที่จงรักภักดีต่อพระราชวงค์เกิดอาการทนไม่ได้ต่อการย่ำยีในครั้งนี้..ต่างลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน และนี่คือที่มาของวีรสตรี  Joan of Arc ที่ว่ากันว่าได้รับพระบัญชาจากพระผู้เป็นเจ้าให้ลุกขึ้นมากอบกู้ศักดิ์ศรีคืนให้กับชาติและบัลลังก์ ให้พ้นไปจากเงื้อมมือของอังกฤษ และเมฆหมอกแห่งสงครามร้อยปี.. เธอได้โน้มน้าวให้ผู้คนหันร่วมใจกันรักชาติ ปกป้องพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต  อย่าไปเชื่อในกระแสข่าวลือให้ร้าย ซึ่งได้รับการร่วมมือ ร่วมใจจากประชาชนจำนวนมาก.. สาวน้อยวัยทีนอย่างโจน..สามารถยกกำลังเข้าตีและยึดเมือง Orleans กลับมาได้ภายในเก้าวัน (ปี 1429) อีกทั้งได้นำกำลังคุ้มกัน Charles VII เข้าไปทำพิธีราชาภิเษกได้ที่พระวิหารแห่งเมือง Reims ได้จนสำเร็จ ซึ่งตลอดเวลาแห่งการทำพิธีนั้น โจนได้ยืนถวายอารักขาอย่างใกล้ชิด จุดจบของเธอคงไม่ต้องเล่าแล้วนะคะ เพราะคงดูหนังกันมาหลายรอบแล้ว.. แต่อยากจะเล่าถึงว่า..ขณะที่โจนถูกจับ และถูกตั้งข้อหาว่าเป็นแม่มด (ที่โทษหนักหนาสาหัส..ขั้นประหาร) พระเจ้า  Charles VII ที่เธอช่วยให้จนได้ครองบัลลังค์จนสำเร็จ..กลับไม่ได้ช่วยกอบกู้อิสรภาพให้กับเธอเลย.. ทั้งๆที่เธอได้ถูกคุมขังอยู่ถึง 2 ปี ก่อนที่จะถูกตัดสินเผาทั้งเป็นในปี 1431... จากคุณ : WIWANDA - [ 10 มี.ค. 50 14:31:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 การขัดแย้งในเรื่องของเบอร์กันดีนี้ได้มาจางลงก็เมื่อตอนที่หมดการสืบสันตติวงค์ มาจบสุดท้ายที่ Charles the Bold ลูกชายของ Philip the Good ชารลส์คนนี้ได้อยู่ฝ่ายเดียวกับอังกฤษเช่นเดียวกับผู้บิดา  ซ้ำยังเหนียวแน่นกว่า เพราะอภิเษกกับ Margaret พระขนิษฐาของ King Edward IV คราวนี้อาณาจักรของเบอร์กันดีนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ที่มีทั้ง Flanders, Artois, Brabant, Luxembourg, Holland, Zeeland, Friesland, and Hainault ที่เขายังคิดว่ายังใหญ่ไม่พอ เพราะยังต้องการ แคว้นอื่นๆที่ใกล้เคียงให้เข้ามารวมอีกด้วย ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด นั่นคือ ติดต่อหาลูกเขย (เพราะว่าไม่มีลูกชาย)ทางฝั่ง Holy Roman นั่นคือ ส่งแม่สื่อพ่อสื่อทำการติดต่อกับ  Emperor Frederick III แห่ง Trier (ปัจจุบันคือ ชายแดนออสเตรีย) เพื่อขอเป็นทองแผ่นเดียวกัน เพราะเอมเปอเร่อร์ นั้นมีพระโอรสมกุฏราชกุมารคือ (ว่าที่)Emperor Maximilian I ระหว่างที่เอมเปอเร่อร์ยังไม่ได้ตกลงใจแต่อย่างใด .. ชารลส์ก็เที่ยวไปรุกรานใครต่อใครเขาไปเรื่อย เพราะต้องการที่จะบีฑาเพื่อขยายดินแดน   แต่งานนี้ไม่มีหมู เพราะ ไปไหนไม่ไป ดันไปทำสงครามกับฝั่งสวิส.. อังกฤษก็อยากจะมาช่วยอยู่หรอก  หากแต่ต้องยกทัพมาไกลเหลือเกิน อีกทั้ง โดนทีเด็ดเข้าไป นั่นคือ พระเจ้าหลุยส์ ที่หก(ปารีส)ได้ทรง"ตัดตอน" อย่างแยบยล นั่นคือ ทรงติดสินบนอังกฤษก้อนโต..ให้เข้า"เกียร์ว่าง" ซะงั้น.. ในสมรภูมิสงครามกับสวิสที่เมือง Nancy ชารลส์ได้เพลี่ยงพล้ำ และถูกฆ่าตายในสนามรบ (ปี 1476) คราวนี้..เอมเปอเร่อร์ เฟรดเดอริคที่สาม เพิ่งนึกออก..ว่า ถ้าลูกชายได้แต่งงานกับเจ้าหญิงแมรี่แห่งเบอร์กันดี ก็นับว่าจะมีแต่ได้กับได้ เพราะ ยิ่งกว่าตกถังข้าวสาร แถมไม่มีพ่อตามาวุ่นวายให้รำคาญอีกต่างหาก.. จึงได้จัดการให้ทั้งสองได้แต่งงานกัน (ในปี 1477อ้างว่าเป็นความประสงค์ของ ชารลส์ผู้ล่วงลับ) แต่แล้วเจ้าหญิงที่น่าสงสารก็พลัดตกจากม้า สิ้นพระชนม์ในปี 1482 ผู้ที่ต้องรับมรดกสืบทอดต่อไปคือ พระธิดาองค์น้อย little Margaret of Burgundy ซึ่งตอนนี้มีการแบ่งสรรปันส่วนกัน ..ว่า..ส่วนไหนเป็นของฝรั่งเศส (จากสินสอดที่ฝ่ายหญิงพระมารดาไปอภิเษกแต่ทีแรก) ส่วนไหนเป็นของฝ่ายเขย ที่มาเพิ่มที่หลัง..แบ่งกันไป เพราะว่าพระธิดาองค์น้อยนี้จะต้องอภิเษกกับพระนัดดาของ พระเจ้า Louis XIV ส่วนที่เป็นของฝรั่งเศส เรียกว่า Duchy of Burgundy เบอร์กันดีส่วนอื่นๆ  ตกอยู่ในความดูแลของทางฝั่งโฮลี่-โรมัน และตกทอดไปมาทางฝั่งนั้นจนมาอยู่เป็นสมบัติของราชวงค์ฮัฟเบอร์ค ออสเตรีย จนมาถึงศตวรรษที่ 17 จึงมาเป็นของพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่อย่างสมบูรณ์ (ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งเหอะ..ไม่รู้ว่าจะตั้งทำไม..สร้อยพระนามเนี่ย..จอห์น ผู้ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด..กับ..ชารลส์ผู้หาญกล้า..ฟิลลิปผู้แสนดี..พิลึกๆยังไงไม่รู้เนอะ?) ว่าแล้ว..ก้อ..แจกแผนที่ตามเคย..อาณาจักรเบอร์กันดีในตอนนั้น.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 10 มี.ค. 50 14:36:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตามมาประสาแฟนค่ะ ฝรั่งออกเสียงสระอึ สระอือได้ชัดนี่ นกซูฮกเลยค่ะ ตอนเรียนหนังสือ นกเคยมีเพื่อนคนไทยชื่อ เอื้อน เพื่อนฝรั่งทุกคนเรียกเป็น ..อ้วน .. อ้วน.. ทุกคนเลยค่ะ ดูหนังเกี่ยวกับโจนเวอร์ชั่นล่าสุดเขาทำเหมือนว่าโจนเธอเป็นโรคจิตค่ะ ดูแล้วสงสาร แต่ชอบตัวแสดงนางเอกมากๆ ค่ะ เท่ดี พี่หวานได้ดูหรือเปล่าคะ? จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 10 มี.ค. 50 14:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องสบู่..จะช่วยหาอีกแรงค่ะ อย่างไรก็ตาม น้องสาวนกจะกลับมาตอนเดือนพฤษภาค่ะ เผื่อหาที่นี่ไม่ได้จริงๆ พี่หวานก็ฝากมาจากทางโน้นได้ค่ะ นกจะนำส่งให้เอง บ้านคุณแม่พี่หวานอยู่ใกล้บ้านนกแค่นี้เอง จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 10 มี.ค. 50 15:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แม้จะจำชื่อได้ไม่หมด แต่เนื้อหาที่คุณวิเรียบเรียง การเเย่งชิง ด้วยกลวิธีการแต่งงานนี่ น่าสนใจมากค่ะ เคยสนใจมานานแล้วตรงที่ว่า ผู้หญิงชั้นสูงยุโรปก็เป็นที่หมายปองของชายด้วยทรัพย์ที่เธอครอง ไม่แพ้ผู้หญิงอินตะละเดีย สินสอดจากฝ่ายหญิง ตรงนี้รู้สึกจะไม่มีคำภาษาไทย ตรงกับคำว่า dowry นะคะ เห็นอาจารย์เมืองไทยใช้ทับศัพท์เรียกว่า สินดาวรี ค่ะ ปวศ ทำให้ไวน์ออกรสออกกลิ่นอีกเยอะเลยค่ะ .... lol ขอบคุณ .... แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 50 19:10:57 จากคุณ : nijja - [ 10 มี.ค. 50 16:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เพิ่งได้ถูกหนัง Joan of Arc ไปหมาดๆเองครับ   ตอนที่ถูกเผาทั้งเป็น หัวใจและอวัยวะภายในกลับไม่ถูกเผาไหม้ไปด้วย  ทางอังกฤษต้องใช้ความพยายามถึง 2 ครั้ง แล้วจัดการกวาดเถ้าลงแม่น้ำ Seine หมดไม่เหลือครับ ... ขอเสริมว่า  พระสงฆ์ชาวเวียตนามถิกกวางดึก  Thich Quang Duc  ที่ไปประท้วง ประธานาธิบดี โง  ดินห์ เดียม เรื่องเสรีภาพในการนับถือศาสนา จนเป็นที่ฮือฮาในสังคมตะวันตก  จนกระทั่งเป็นเหตุให้รัฐบาลเวียดนามล่มในภายหลัง  ท่านประท้วงด้วยการเผาตัวเองกลางถนนในนครโฮจิมินห์  มรณภาพอย่างสงบในท่านั่งขัดสมาธิ  โดยที่หัวใจของท่านก็ไม่ได้ถูกเผาไหม้ไปด้วย อนุสาวรีย์  Joan of Arc ในกรุงปารีส แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 50 09:01:42 จากคุณ : sofatboy - [ 10 มี.ค. 50 17:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 Philip II , Duke of Burgundy  ( Philip The Bold ) 1342 - 1404 จากคุณ : sofatboy - [ 10 มี.ค. 50 17:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 John the Fearless , Duke of Burgundy 1371 - 1419 ภาพวาดโดย Van der Weyden and Memling ในศตวรรษที่ 15  ( ภาพจาก wga.hu ) จากคุณ : sofatboy - [ 10 มี.ค. 50 18:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พิธีราชาภิเษกที่พระวิหารแห่งเมือง Reims วาดโดย Jean-Auguste-Dominique Ingres ปี 1854 พิพิธภัณฑ์ Louvre  (  ภาพจาก britannica ) จากคุณ : sofatboy - [ 10 มี.ค. 50 18:15:13 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ทักทายกระทู้ใหม่ครับพี่วิ จากคุณ : LaGrandeRue - [ 10 มี.ค. 50 18:44:44 A:168.120.26.44 X: TicketID:105596 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขออนุญาต เข้ามาพูดคุย ด้วยคนนะครับ หวังว่าคงจะไม่เป็นการรบกวน คือพอดี ผมกำลังสนใจในเรื่องการดื่มและสะสมไวน์ อยู่ด้วยพอดี (มือใหม่)  ยังไงขอรายงานตัวเป็นสมาชิกใหม่ด้วยคนนะครับ (จริงๆ แล้ว เข้ามาอ่านกระทู้ ของคุณ WIWANDA หลายตอนแล้วแต่ไม่ได้โพส สักที) ผมรบกวน สอบถามปัญหา เกี่ยวกับ การย้ายที่เก็บไวน์ ด้วยครับ คือเรื่องเป็นดังต่อไปนี้ ช่วงแรกที่ผมเริ่มเก็บไวน์ ใหม่ๆ ยังไม่มีตู้ไวน์โดยเฉพาะครับ อาศัยห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ แช่ช่องผักเอา ตอนนี้มันจะล้นตู้เย็นแล้ว จึงลงทุนไปถอยตู้ไวน์มา แต่ปัญหาก็คือ ผมจะทำยังไงดีครับที่ เวลาที่จะเอาไวน์ออกจากตู้เย็นมาใส่ตู้ไวน์ แล้วไม่มีหยดน้ำ เกาะข้างขวด (ผมกลัวฉลากตัวดีๆ ผมจะไปซะหมด) ยังคิดไม่ตกเลยครับ รบกวนช่วยเหลือด้วยครับ ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้า จากคุณ : brutus_103tfs - [ 11 มี.ค. 50 03:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีตอนเช้า วันอาทิตย์ (เมืองไทย)ครับ ยังไล่อ่านกระทู้เก่าๆยังไม่ครบเลยอ่ะครับ ตามอ่านอยู่เรื่อยๆ จากคุณ : loverboy - [ 11 มี.ค. 50 07:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอต้อนรับน้องใหม่  คุณ brutus_103tfs  เข้ากระทู้ค่ะ ที่ถามเรื่องฉลากไวน์..ก็ไม่ทราบว่าที่เมืองไทยมีขายหรือเปล่านะคะ เป็นผลิตภัณฑ์ ประเภท acrylic seal สำหรับฉีดเคลือบแผนที่  เอกสารสำคัญๆ  ป้องกันไม่ให้เสียหายยามที่โดนน้ำ.. ใช้กับฉลากไวน์ได้ค่ะ  ในอเมริการาคาไม่แพงกระป๋องหนึ่งตกสามสี่เหรียญ ใช้ได้ตั้งนาน.. ยกตัวอย่างตามภาพ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 11 มี.ค. 50 08:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หรืออย่างที่พวกจิตรกรรมชอบใช้   เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า water resistant spray  หรือ spray guard อันนี้ก็ใช้ได้ค่ะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 11 มี.ค. 50 08:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นปัญหาที่ไม่เคยคิดมาก่อนค่ะ คุณbrutus_103tfs  นึกภาพไม่ค่อยออก เพราะก็เคยย้ายเหมือนกัน .... ไม่มีปัญหาเพราะอยู่ในที่แห้ง ถ้าเป็นของตัวเอง จะ .....เตรียม ทำให้ตู้เย็น เย็นน้อยลง หน่อย ไม่ต่ำกว่า๑๕องศา เปิดแอร์ในห้อง เย็นสุด คงได้ราว ๑๘ หรือต่ำกว่า เปิดความเย็นในตู้ไวน์รอไว้ก่อน ราวๆ ๑๖-๑๘องศา ฟังดู หยดน้ำเป็นเรื่องของความชื้น ถ้าตู้ทั้งสองห่างกันมาก ก็ .... ๑. ไม่ต้องแกะกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ห่อออก รีบยกไปใส่ตู้ใหม่ทั้งอย่างนั้นก่อน ค่อยแกะทีหลัง ๒. หาถังคูลเล่อ หรือกระเป๋าที่มีบุข้างใน เก็บความเย็น มาช่วยใส่ตอนโยกย้าย เหมือนเวลาเราเอาไวน์ติดตัวไปทานนอกบ้านไงค่ะ คิดแบบ อมาทัวร์ค่ะ แหะ แหะ .... จากคุณ : nijja - [ 11 มี.ค. 50 09:43:58 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณน้องนกค่ะ เรื่องข่าวว่าน้องสาวจะกลับ อาจจะฝากของชอบๆไปให้นะ.. มารับขวัญหลาน sofatboy มือแปะระดับพระกาฬของป้า.. ทันใจจริงๆ.. คุณนิจคะ..เรื่องการแต่งงาน"เพื่อชาติ"นี้..มีมานานครั้งแต่ครั้งดึกดำบรรพ์ และไม่รู้เป็นไงซิ..เป็นเหมือนกันทั้งโลกเลยเชียว  ถ้าว่างๆอยากจะอ่านเรื่องนี้จริงๆนะคะ ไปหานี่มาอ่านเลย.. Victoria Victorious: The Story of Queen Victoria by Jean Plaidy และ Victoria's Daughters by Jerrold M. Packard สนุกสนาน ความพลิกผันในโชคชะตา อิรุงตุงนัง..ยิ่งกว่าดูละครทีวีอีก..แต่แหม..ชอบคำว่า อมาทัวร์ ของคุณจริง คิดอยู่ตั้งหลายตลบ กว่าจะแกะออกมาได้ ว่าคือ "สมัครเล่น" ในภาคภาษาฝรั่ง คุณ LaGrandeRue มาแล้ว..ส่วนหนุ่มเยอรมันอีกคนคือคุณEinswasser  ยังติดสอบอยู่กระมังคะ.. คุณ loverboy ก็ยังขยันอ่านเหมือนเดิม..น่ารักจริง จากคุณ : WIWANDA - [ 11 มี.ค. 50 11:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาอีกทีครัยผม เมื่อคืนนี้ เพื่อน และรุ่นพี่มานั่ง (หัด)ทานไวน์กันที่บ้าน ไปหยิบ Ch.Larrivet Haut Brion 2001  มาเปิดทาน จากที่เมื่อก่อนเริ่มๆทานมาจากพวก Shiraz Aussie อาจจะเพราะว่ายังไม่หายดีจากหวัดด้วย แต่ต้องสารภาพว่า ยังแยกอะไรไม่ค่อยออกเท่าไหร่เลย  555   ขวดที่สองเป็น Malbec จาก Argentina ปี 2004 ยังได้กลิ่นผลไม้ที่ไม่เหมือนขวดแรก รู้สึกได้ว่ากลิ่นไม่ค่อยมาเท่าไหร่  แต่พอแก้วหลังๆนี่  กลิ่นเริ่มดีขึ้นหน่อย และ after taste นี่ก็จะสั้นมาก สั้นกว่า ขวดแรกจม เลยก็ได้เวลาแยกย้ายกันกลับบ้านพอดี สรุปได้ว่า ยังแยกแยะอะไรไม่ค่อยออกเลยครับ  เด็กๆหัดดื่มไวน์ครับผม แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 50 11:48:33 จากคุณ : loverboy - [ 11 มี.ค. 50 11:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ loverboy ที่รัก.. ถ้าจะเปิดไวน์คราวต่อไป ขอให้หยุดคิดนิดหนึ่งว่า.. วันนี้จะเอาอะไรมาลอง ถ้าคุณมี..Malbec จาก Argentina ซึ่งมีสารพัดยี่ห้อ ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน..ซึ่งถือว่าเป็นไวน์ของโลกใหม่  ผลิตขึ้นมาเพื่อการดื่มเร็ว..และการผลิต ยังไม่จัดจ้านและคมคายเทียบเท่ากับไวน์โลกเก่า.. เปิดดื่มก่อนเลยค่ะ..ชิมอย่างใช้เวลาหน่อย..ถึงจะโลกใหม่หรือโลกเก่าก็ตาม..ตั้งสมาธิไว้ที่หว่างคิ้ว และปลายจมูก ทำไมถึงเป็นที่หว่างคิ้ว..ทำไมไม่ใช่ที่ลิ้น..เพราะว่า.. คุณจะต้องหัดคิด และ จำด้วยสมอง  เหมือนอย่างคนหัดขับรถ  คุณไม่ได้เอาสมาธิไปไว้ที่มือ หากแต่ต้องใช้ประสามสัมผัสส่วนอื่น เช่น ตาคอยดู หูคอยฟัง..สมองคอยสั่งการให้มือบังคับพวงมาลัยไปทางไหน ถ้าคุณเอาสมาธิไปไว้ที่มือ ที่เท้า..คงชนกระจุย.. ชิมไปแล้วลองนึกถึงกลิ่นเบอร์รี่สีแดง ไล่ไปทั้งหมด เช่น ราสพ์เบอร์รี่  พลัม เชอร์รี่  ไปจนถึงกลิ่นลูกเกด กลิ่นช๊อคโกแล๊ต หรือเครื่องจันอับ อะไรก็ได้ที่คิดว่ามันคุ้นๆ..แล้วจับตรงนั้นไว้ ว่า.. นี่คือ สัญญลักษณ์ของ Malbec (สำหรับคุณ) ถ้าอยู่หลายคน  ตัวช่วยเยอะ..ก็ไปหาไวน์ออสซี่มาเปิดต่อ..ทำอย่างเดียวกัน ลองหากระดาษมาไว้คอยจดด้วย ส่วนถ้าจะต้องเปิด Ch.Larrivet Haut Brion 2001  จริงๆก็ขอให้เป็นขวดสุดท้าย..เพราะว่า..นี่คือ ไวน์ธงสำหรับ งานนี้เลย..ไวน์ของ  Ch.Larrivet  คือไวน์จาก กร๊าฟส์ หรือ เขต Pessac-Leognan ที่สามารถทำไวน์ออกมาได้ดี จนถึงดีมาก และ ยิ่งเก็บนานก็ยิ่งเพิ่มคุณภาพ (ในช่วงของ10-15 ปี)โดยเฉพาะของปี 2001 นี้ จัดว่าเยี่ยม อีกทั้งเป็นของดีที่ราคายุติธรรม เห็นมาเยอะ..ในจากน้องๆที่บ้านนี่แหละ อยากจะหัดชิมไวน์ ก็อุตส่าห์หาไปให้  เปิดดันชิมเละเทะ เท่านั้นไม่พอ มีการดูฟุตบอลประกอบรายการ พร้อมส่งเสียงเชียร์แบบเมามัน.. เลยไล่ตะเพิดให้กลับไปซื้อ"ช้าง" มาซดเถอะ อย่าชงอย่าชิมมันเลย..ไวน์เนี่ย..เสียดายของว้อย..!! จากคุณ : WIWANDA - [ 11 มี.ค. 50 12:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ต่อนะคะ.. การที่ต้องฝึกแบบนี้ให้ชิน เพราะ อีกหน่อย พอคุณจับแก้วไวน์ขึ้นมา มันจะเป็นไปตามอัตโนมัติ และจะแยกแยะได้ว่า กลิ่นไหนที่เราคุ้นหรือไม่คุ้นอย่างไร..แอลกอฮอลระดับ เข้มหรือปรกติ.. พอได้กลิ่นชัดเจนแล้ว..ทีนี้ก็เป็นหน้าที่ของต่อมรับรส ซึ่งมันจะไม่โกหก..จำไว้นะคะ..ว่า.. ในโลกนี้ไม่มีไวน์ดีหรือไม่ดี....แต่.. มันจะมีแต่ ไวน์ที่เราชอบ หรือ ไม่ชอบ เท่านั้น.. การตัดสิน อยู่ที่ตัวของคุณเอง ไม่ต้องไปฟังใคร   ลางเนื้อชอบลางยา..ฉันท์ใด..ลางไวน์ก็..ฉันท์นั้น.. คนดื่มไวน์มีหลายประเภท..บางคนชอบดมกลิ่น หาโน่นหานี่  บางคนชอบที่มันแพง บางคนชอบที่มันจบยาว แอลกอฮอลแน่นตึง บางคนชอบที่ฉลากสวยดี  บางคนชอบที่มันกินได้นานและไม่เมาจนเสียบุคลิก บางคนชอบเพราะแฟนชอบ  บางคนชอบเพราะอยากจะเลิกเหล้า..หมอว่าดีต่อสุขภาพ.. โอยสารพัดละค่ะ.. โปรดจำไว้อีกอย่างหนึ่งว่า..ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไรก็ตาม ขอให้ถือว่าไวน์คือบริโภคปัจจัยชนิดหนึ่ง..ที่สมควรจะต้อง อยู่ในงบประมาณของรายได้ที่พอจัดสรร.. หมายถึง..เราควรจะหาของที่ดีที่สุด ในราคาที่เหมาะสมที่สุด  หรือจะเรียกว่า.."ซื้ออย่างเซียน" ก็ได้มังคะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 11 มี.ค. 50 13:02:19 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีครับ ทุกท่าน... แฮะๆ คุณอาวิวันดาครับ  แล้ว ถ้าผมจิบ Freixenet ไป นั่งดูหนัง บู๊ The Banquet ไป จะผิดไหมครับ.. จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 11 มี.ค. 50 14:52:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 . รายงานตัวด้วยคนครับ แถมขอชมน้อง sofatboy เสือปืนไวเหมือนเดิม สุดยอดจริงๆ อยู่ดีๆผมว่าประสาทสัมผัสของตัวเองชักใช้ได้ขึ้นมาติ๊ดนึงแล้ว เพราะเริ่ม "หอม" อะไรต่อมิอะไรที่พี่ว่านั่นชัดเจนขึ้น จนเมื่อวานถึงขนาด "ติด" จมูก และคิดว่าจะจำได้อีกนาน เหตุเพราะไวน์ฝรั่งเศสชุดหลังๆนี่แหละ ไม่ว่าตัวไหน หอมไปหมด ละมุนละม่อม สุภาพ ละเมียดละไม จนทำให้ 389 เสียคะแนนไปหมดเลย ไปกรุงเทพครั้งนี้เลยจะหอบ 389 ทั้งโหลไปแลกเงินสดกับพรรคพวก แล้วจะกำเงินไปเดินเลือกของฝรั่งเศสที่หอม ฮ้อม หอม ที่วิลล่าให้ได้ซัก 1 โหล ในงบประมาณเท่ากันนั้น วิธีง่ายที่สุดที่จะใช้เป็นคู่มือ คือ ผมไล่จดชื่อที่พี่วิโรจ "ชวนชิม" ไว้ตั้งแต่กระทู้ตอน 3 แล้วไปซื้อตามนั้น ถ้าของยังเหลืออยู่ แต่อย่าง La Falaise หมดไปแล้ว เห็นว่าจะสั่งรุ่นใหม่มาอีก เอ ... มันคนละปี แล้วเค้าคุมรสชาติได้ยังไงนะ วิธีของผมง่ายดีไหมจ๊ะพี่ . จากคุณ : ชอบแช้งค์ - [ 11 มี.ค. 50 17:23:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ...นาน ๆ คุณชอบแช้งค์จะโผล่มา ...ผมมีของดีราคาถูกมาฝากครับ d’Arenberg 2004, The Stump Jump Grenache Shiraz Mourvedre, McLaren Vale, South Australia Rate: 88 ...สีเนื้อแดงสด เข้มทึบลึกปานกลาง ...ส่งกลิ่นแรกเป็นผลไม้แดงจัดเกือบสุก ตามด้วยเทียนไข ...ลังไม้สน เครื่องเทศพริกไทขาว และกลีเซอรีนหวานหอม ...โครงเนื้อหนาเกือบเต็ม เนื้อเนียน ผลไม้สุกสดจี๊ดจ๊าด ...แอซิดิตี้จัดจ้าน สมดุลและความลงตัวดีพอใช้ ...แทนนินละเอียด แอลกอฮอล์สูงจนผ่าว จบยาวพอใช้ ...เป็นไวน์สนุกสนานที่ดื่มได้ดี ...แต่สมบูรณ์กว่านี้อีกในราวปี 2010 ขึ้นไป ...Everyday Wine ชั้นเยี่ยมขวดนี้ใช้องุ่น ...Grenache 50% Shiraz 26% และ Mourvèdre อีก 24% ...ซึ่งคือไวน์แนว Rhone ใต้..ที่ไม่แสดงความเป็นไวน์จากออสเตรเลียแม้แต่นิด ...The Stump Jump เป็นเด็กหนุ่มผมแดง ...ร่างสวย ทรงดี ยิ้มแย้มแจ่มใส คุยสนุก น่าคบหา ...ฝากใครไปซื้อก็ได้ที่ Central World หรือ ชิดลม ...ราคาห้าร้อยกว่าบาทเอง ...ผมไม่ได้รับ Job ใครมาเขียนเชียร์นะครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 11 มี.ค. 50 20:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ครับผมคุณอาวิ บรรยายซะเห็นภาพเลยครับ copy เก็บไว้แล้วครับ ผมกลัวว่า ทานๆไปแล้วจะเมากันก่อน ก็เลยเอา Larrivet Huat Brion มาเปิดทานกันก่อนขวดแรกเลย ไว้คราวหน้ามีโอกาส จะได้ค่อยๆหัดเริ่มวางแนวทางแบบที่อาวิว่าไว้ครับผม ยังคงต้องไล่อ่าน Series ของคุณอาวิต่อไปครับ ยังไม่จบเลยแหะๆ ขอบคุณครับผม แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 50 23:50:53 จากคุณ : loverboy - [ 11 มี.ค. 50 22:21:09 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีครับคุณวิ และทุกๆ ท่าน ผมยังอยู่ในช่วงสอบอันแสนยาวนานอยู่ครับ ไวน์ก็ไม่ได้ดื่มครับ มีโอกาสแค่ดูกับซื้อเก็บครับ และจากช่วงเวลาพักจากการอ่านหนังสือนี่หล่ะครับ เลยมีโอกาสไปเจอไวน์เก่าใน อีเบย์เยอรมนี (มีไวน์เก่าแยะจริงๆ ครับ) เป็นไวน์ Chateau Grand Puy Lacoste 1978 จริงๆ แล้วผมก็เกรงครับว่ามันอาจเป็นน้ำส้มไปแล้ว แต่เมื่อพิจารณาคนขาย เค้าเอาไวน์ปีเดียวกันนี้มาขายสัปดาห์ละหกเจ็ดขวด คละยี่ห้อกันครับ แต่ก็เป็นไวน์มีชื่อเสียงเช่นกันครับ (ผมว่าไม่ใช่พวกที่เอาพระเครื่อง หรือสมบัติพ่อมาขายเป็นแน่ครับ) เพราะขายมานานพอสมควร และก็จะสลับเปลี่ยนปีไวน์ที่ขายไปเรื่อยๆ แต่ก็จะราว 1970-1990 จึงมีความสนใจซื้อเก็บเผื่อจะเอาไปเปิดในโอกาสสำคัญ เช่น วันจบการศึกษา, วันเกิด หรืออาจจะวันแต่งงานครับ แหะๆ ก็เลยเกิดคำถามรบกวนคุณวิว่า นอกจากการพิจารณาคนขายไวน์ (เก่า) และการเก็บรักษาของเค้าแล้ว ควรคำนึงถึงอะไรอีกบ้างครับ ? ...ไวน์ตัวนี้ จบราคาบิดที่ 47 Euro ครับ แต่ผมไม่ได้บิดแข่งกับเขาหรอกนะครับ (ไม่รู้น่าเสียดาย หรือโชคดีกันแน่ครับ) ยังเกรงใจอยู่ครับ และอยากฟังคำแนะนำจากคุณครูด้วยครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : Einswasser - [ 12 มี.ค. 50 06:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อีกตัวอย่างหนึ่งครับ Chateau Montrose 1978 จบราคาบิดที่ 44.50 Euro ครับ ส่วนมากน้ำไวน์ในขวด (เกือบจะทุกขวด) ของเค้าจะอยู่ในระดับสูงกว่าบ่าขวดนิดหน่อย หรือเทียบเท่าบ่าขวดครับ จากคุณ : Einswasser - [ 12 มี.ค. 50 06:29:22 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ...เมื่อคืนนี้มีอาการประหลาด นอนไม่หลับ เพราะเป็น daylight saving time คือเลื่อนเวลาไปข้างหน้าหนึ่งชั่วโมง..กังวลว่าอาจจะผิดนัดในตอนเช้า เพราะเป็นคนที่นอนดึกอยู่แล้ว..เลยไม่นง...ไม่นอนมันเลย เอางานเก่าๆมาทำให้เสร็จ  แต่มันเบลอๆ เอ๋อๆ ยังไงไม่รุ   เช้าขึ้นมา..ไปธุระเสร็จ บ่ายก็กลับมานอน เพิ่งตื่นนี่แหละ สามทุ่ม.. แย่เลย..จากนี้ไปกว่าจะหลับก็อีกนาน  ทำเอาชีวิตเสียระบบไปเลย..กะแค่การเลื่อนเวลาไปเพียงชั่วโมงเดียวเนี่ย.... เอ้า..ทักทายแฟนๆก่อน คุณพ่อหมีคะ..ถ้าจะดูมหรสพ และดื่มไวน์ซ่า Freixenet ไปด้วยนั้น เหมาะค่ะ..ไม่ต้องคิดอะไรมาก  ออกจะเก๋อีกต่างหาก พ่อยอดขมองอิ่มชอบแช้งค์ของพี่..โถ..ออกจากป่ามาแล้วหรือพ่อคุณ..คิดถึงนะ นี่คือบทพิสูจน์ของความพยายามของป๋าชช. ที่เริ่มจากไม่สนใจในไวน์เลย..แล้วก็มาหัดจิบ..สนใจอ่าน.. และเริ่มซื้ออย่างเซียน (ตามคำบอกเล่า) เพราะป๋าแกตั้งงบไว้ตายตัว ตามสภาพเศรษฐกิจ จาก 389 ยืนพื้น ก็เริ่มได้ดมกลิ่นอายของไวน์ฝรั่งเศส โดยลอง Chateau de la Negly La Falaise จาก Languedoc ที่ใช้องุ่นไซราห์ ผสม.. จากนั้น ป๋าและพรรคพวก..ก็ไปซื้อเหมาลังจากจากเอเย่นต์ จนต้องเตือนกันไปว่า อย่าเอิกเกริกนัก เพราะเดี๋ยวราคาจะขึ้น.. ซึ่งก็อาจเป็นจริง เพราะ รุ่นที่เหมาไปนั่น หมดแล้ว..รุ่นใหม่กำลังจะมา..เชื่อเห๊อะ..ว่า..มีการปรับราคาอย่างแน่อน ถ้าจะซื้ออย่างเซียนจริงๆ ป๋าจะต้องหาน้องนางเทพีสงกรานต์เวทีใหม่ที่ สวยเข้ม ตาคม ขนตางอน ( ก็สเป๊คของป๋าไง..) เอาไว้เป็นตัวสำรอง เชื่อเถอะว่า..เวทีไหนๆ..ถ้าได้ดมจริงๆก็ ฮ้อม..หอม ไม่แพ้กันแหละ เพราะตอนนี้ จมูกเริ่ม"ไว" แล้ว จากคุณ : WIWANDA - [ 12 มี.ค. 50 11:38:30 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ทีนี้มาถึงเรื่องของคุณ Einswasser ที่ถามเรื่องของ rare wines หรือ จะเรียกว่าเป็น collecting items ก็ได้ ก่อนอื่นๆ ถ้าคุณจะเล่นไวน์พวกนี้ ต้องถามตัวเองก่อนว่าจะซื้อเพื่ออะไร ถ้าจะซื้อเพื่อการสะสมแบบเก็บในวันข้างหน้าที่สำคัญ ก็จงซื้อไวน์ดีๆในตอนที่ออกใหม่ๆ หรือ ก่อนที่จะออกตลาด ประเภทซื้อใบจอง.. ถ้าอยากจะสะสม"ของดี" ราคาถูก"  "คุ้มค่าเงิน" "สร้างความภูมิใจ" คุณก็จะต้องขยันอ่าน และค้นคว้าอดีตของไวน์  นั่นหมายถึง คุณจะต้องเริ่มเป็นคนที่รักไวน์อย่างเต็มตัวแล้ว.. อย่างในกรณีของไวน์ของชนิดข้างบนนั่น..ขอเสียดาย Chateau Grand Puy Lacoste 1978 (Pauillac) แทนคุณด้วย.. ราคานี้..นับว่าแทบจะหาไม่ได้ จริงอยู่ GPL (ชื่อย่อละกัน) เป็นกรอง ครู ชั้นห้าก็จริง.. แต่เขามีประวัติ..และจุดหักเหสหรับปีนี้โดยเฉพาะ เพราะว่า ไร่นี้เป็นไร่ที่มีเจ้าของรับมรดกตกทอดกันมาช้านาน.. มาถึง นาย DuPin ที่จัดว่าเป็นหนุ่มสังคม โก้เก๋  ใช้ไร่ไวน์ เป็นที่จัดเลี้ยงรับรองคนดังต่างๆ จนมีชื่อติดว่าเป็นดาวไฮโซ  นาย ดูแปง ใช้ชีวิตอย่างนี้ไปจนแก่..พอใกล้จะตายก็เป็นห่วงไร่ไวน์ เพราะไม่อยากให้ต้องไปตกอยู่ในมือของคนนอกวงการ หลังจากที่เลือกคุณสมบัติผู้ซื้ออย่างละเอียดยิบแล้ว จึงได้ตกลงใจขายให้กับตระกูล Borie ที่มีชื่อเสียงในการทำไวน์อยู่แต่เก่าก่อน..เพราะเป็นเจ้าของไร่ดังระดับ กรอง ครู  ชั้นสองใน  St. Julien  นั่นคือ.. Chateau Ducru-Beaucaillou (ชาโต ดูครู โบไกยู ) และ ไวน์ของ GPL ภาบใต้การผลิตของ ดูครู  โบไกยู ที่ออกมาในตลาดปีแรก คือ 1978  นี่ละค่ะ.. จาก 1978 เป็นต้นมา..GPL ก็มีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ จน เกจิ David Peppercorn บอกว่า..เหนือชั้นกว่าไวน์กรอง ครู  หลายชนิดในชั้นสาม ถ้าจะซื้อมาเก็บไว้..พร้อมทั้งการรู้ประวัติ..ไวน์นั้นจะมีค่ามากกว่าเม็ดเงินสี่สิบกว่ายูโรนั่นหลายเท่าตัวค่ะ.. แต่ถ้าไม่ซาบซึ้งกับข้อมูลดังว่านี้..ซื้อไวน์ไหนก็ได้ที่พอใจจะซื้อ แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 50 08:57:30 จากคุณ : WIWANDA - [ 12 มี.ค. 50 12:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ส่วน Chateau Montrose 1978 จบราคาบิดที่ 44.50 นั่น เป็นราคาปรกติค่ะ ที่อเมริกาอาจจะถูกกว่า เพราะค่าของเงินที่ต่างกัน แต่ค่าไปรษณีย์แพง.. เนื่องจาก ในการซื้อขายไวน์ทางเมล์นั้น ต้องผ่านบริษัทไวน์ที่ใบประกอบกิจการ (บางรัฐก็ผิดกฏหมาย) ส่วนใหญ่ก็คือ บริษัทไวน์นั่นละค่ะ ที่นำออกมาประมูล ไว้ใจได้ค่ะ..พวกนี้เขาจะมีที่เก็บสต๊อคของเขาเอง ไม่ได้เอาออกมาวางสุ่มสี่สุ่มห้า.. ก่อนประมูล..ทางบริษัทเขาจะแจ้งรายละเอียดในสภาพของขวด ว่ามีตำหนิที่ไหนหรือ อย่างไร..คุณควรถามให้แน่ใจว่า..มีการรั่วซึมจากจุกหรือไม่..นี่คือประการสำคัญ เพราะคำตอบของเขาคือจดหมายหลักฐานในการรับรองคุณภาพ ส่วนใหญ่ บริษัทไวน์จะแนะนำให้ใช้ เมล์แบบ express ประเภทวันเดียวถึง ที่จะแพงหน่อย แต่..เขาจะรับประกันคุณภาพของไวน์.. แต่ถ้าคุณอยากจะประหยัดค่าส่ง..ประเภทใช้รถหวานเย็น เขาก็ไม่ว่า..ค่าส่งถูกลงมาอีกตรึม.. แต่..ไม่รับรอง หรือ รับประกันคุณภาพไวน์ จากคุณ : WIWANDA - [ 12 มี.ค. 50 12:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณ คุณ WIWANDA และ คุณ nijja มากครับ สำหรับคำแนะนำ ตอนนี้ย้ายไวน์ เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ พอดีใช้วิธีของคุณ nijja เอา ไม่มีเวลาไปหาซื้อสเปรย์กันน้ำรักษาฉลาก ที่คุณ WIWANDA แนะนำนะครับ ลองดูจากขวด เจ้า Chateau poujeaux ปี 2002 ที่ซื้อมาดื่ม ไม่ได้เก็บ (เลยไม่ได้ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์) มีหยดน้ำนิดหน่อยบนฉลากครับ ก็ภาวนาว่าขวดที่รักๆ อื่นๆ คงจะไม่เป็นไร ขอขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับ Chateau Ducru-Beaucaillou ตัวนี้ ก็วางแผนจะนำเข้ามาสิงสู่ ในตู้ผมเหมือนกันครับ ในไม่ช้า จากคุณ : brutus_103tfs - [ 13 มี.ค. 50 01:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านประวัติไร่ของเขาแล้ว รู้สึกเสียดายขึ้นมาจับใจเลยครับ (หากได้มาจริงไม่รู้จะดื่มลงหรือปล่าวด้วยครับ...เสียดาย) ไม่เป็นไรครับ เริ่มจากศึกษาอดีตไวน์ซะก่อนก็แล้วกันครับ ครั้งหน้า "ของดี ราคาถูก" จะได้ไม่หลุดมือครับ ขอขอบคุณ คุณวิอีกครั้งครับ จากคุณ : Einswasser - [ 13 มี.ค. 50 06:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขออนุญาตพี่หวานค่ะ เรื่องการถนอมฉลาก นกเอาแผ่นพลาสติคถนอมอาหารเอ็มแรป มาห่อขวดก่อนใส่ตู้เย็นน่ะค่ะ พอเอาออกจากตู้เย็น (ไม่แกะพลาสติคออก ยกเว้นว่าจะเปิดขวด) อากาศเข้าไม่ถึงฉลากข้างใน ได้แต่ควบแน่นเป็นหยดเกาะอยู่ข้างนอก อย่างนี้ใช้ได้มั้ยคะ พี่วิโรจคะ ไวน์ที่พี่แนะนำให้นกคราวก่อนน่ะค่ะ นกไปไม่ทัน เขาขายหมดไปแล้วค่ะ เหลือแต่คนละปี เซ็งกี๋เลย   ที่ต้องบอกเพราะว่า ที่พี่แนะนำข้างบนน่ะค่ะ กว่าป๋าจะมาจากแดนไกล เดี๊ยวมันก็หมดอีก ..อดแหงๆ แฟนเยอะนะคะพี่วิโรจน่ะ บ่นๆๆ รู้ละ วันหลังคอยไปแอบถามพี่น้อยดีกว่า insider's information ว่าวันนี้พี่เปิดอะไรดื่ม อิ๊อิ๊ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 13 มี.ค. 50 08:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พูดถึงเรื่องซื้ออย่างเซียน นี้..ขอแนะนำ ไวน์ Chateau Les Trois Croix  (Fronsac) ที่ถูกซื้อไปเมื่อ 1995 โดยทีมกลุ่มไวน์เมธีชุดเดิมของ มูตอง  และได้เริ่มผลิตไวน์มา ขายในราคาสิบกว่ายูโร ขอบอกว่าเยี่ยม..(ได้ชิมของปี 2002) และได้ติดตามข่าวคราวมาตลอด..ทราบว่าคุณภาพแจ่มแจ๋วเช่นเดิม.. กลิ่นองุ่นสุก ผสมกลิ่นดินหอม..ปนสไปซ์นิดๆ.. เนื้อแน่น..เกินราคาจนแทบไม่น่าเชื่อ จากคุณ : WIWANDA - [ 14 มี.ค. 50 04:01:19 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ที่ Cote de Nuits ธอมัส เดินทางต่อไปถึงหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อว่า Vougeot เพื่อไปชมไร่ Clos de Vougeot  ขนาดเนื้อที่ 124 เอเคอร์  ที่ดำเนินงานและบริการโดยพระ เพราะว่า ไร่นี้คือ ศาสนสมบัติมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12  ที่สามารถผลิตไวน์ออกมาได้ถึงปีละ 50,000 ขวด โคลส์ เดอ วูโจต์ นี้..ตั้งชื่อตามแม่น้ำที่ไหลผ่าน นั่นคือ แม่น้ำ Vouge  และที่ไร่นี้..ถือว่าผลิตไวน์เบอร์กันดีออกมาอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เพราะว่า เหล่าพระในสมัยนั้น ถือว่าเป็นผู้ที่มีการศึกษา และมีความเชี่ยวชาญในการทำไวน์อย่างหาตัวจับยาก แต่หลังจากการปฏิวัติครั้งใหญ่ ไร่นี้ได้ถูกยึดกลับคืนมา..ขายทอดตลาดในปี 1790 พร้อมกับกฏหมายใหม่ที่แถมมาด้วย นั้นคือ ผู้ที่ซื้อไป เมื่อยามสิ้นชีวิตจะต้องแบ่งให้กับลูกหลานเป็นมรดกอย่างถ้วนหน้าและอย่างยุติธรรม นี่คือ สาเหตที่พื้นที่ของไวน์เบอร์กันดีจึงถูกซอยยิบย่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ไวน์ของ Clos de Vougeot  ปัจจุบัน..แบ่งออกเป็นสามเขต Appellation Clos de Vougeot Grand Cru, Appellation Vougeot Premier Cru, Appellation Vougeot Controlee ที่ผลิตไวน์ออกมามากมาย หลายคุณภาพ  เพราะในเฉพาะของ Grand Cru  ก็มีอัดกันเข้าไปถึงกว่า 80 ไร่ เล่นเอาปวดหัวกันไปทั้งตัวแทนการขาย และ คนซื้อ.. นอกจากจะเป็นเจ้าประจำ..แฟนคลับไร่ไหนก็อุดหนุนกันไป.. ภาพ Clos de Vougeot  ที่เป็นเขตของพระอาราม จากคุณ : WIWANDA - [ 14 มี.ค. 50 07:32:18 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ออกจาก Clos de Vougeot  ธอมัสก็เดินทางต่อลงมาตามเส้นทาง เพื่อที่จะแวะเข้าถิ่นหมู่บ้านไวน์ที่ดีที่สุดในโลก  Vosne Romanee  อันเป็นที่รวมทั้งหมดของ"ที่สุด" นั่นคือ  La Romanee Conti ที่รายล้อมไปด้วย Richebourg, La Tache   ธอมัสได้บันทึกไว้ว่า.. ไวน์อื่นๆที่อยู่รอบนอก..ก็คงฉวยโอกาสว่าเป็นไวน์ดีไปด้วย..เพราะ อยู่ใกล้ๆกันแค่นั้นเอง ที่ธอมัสเขียนไปดังนั้น เพราะว่าเขามีเวลาอยู่เที่ยวชมชิมในระยะเวลาอันสั้นเต็มที่ จนไม่รู้ถึงความเป็นไวน์เบอร์กันดี ที่ว่ากันว่า ผู้ที่จะเป็นผู้รู้จริงนั้น อาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิต.. เขาจึงไม่รู้ว่า..ไร่ไวน์รอบนอกอื่นๆอย่างเช่น Grand Echezeaux, Musigny, Bonnes, Mares  พวกนี้ ถือว่ายอดเยี่ยม เทียบชั้นกันได้เลยทีเดียว.. จนในที่สุด..ธอมัสได้เริ่มรู้ตัวว่า จะประมาทไวน์ในเบอร์กันดีไม่ได้เสียแล้ว เพราะมันไม่ง่ายอย่างไวน์ในเขตอื่นๆ เขาจึงต้องยอมจ้างไกด์ส่วนตัว..ชื่อว่า นาย Etienne Parent  ผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ในพื้นที่ เพื่อที่จะพาชมไร่อื่นๆ  Cote de Beaune  คือ Pommard, Volnay และ Meursault  ไวน์ในกลุ่มนี้ คือ ไวน์ขาวที่ทำมาจากองุ่น ชาร์ดอนเนย์  (ในตระกูล Montrachet  ทั้งหลายแหล่) ธอมัสได้บันทึกไว้ว่า..โปมารด์ (Pommard) กับ โวล์เนย์ (Volnay)  จิบชิมกับขนมปังข้าววีท อร่อยและเข้ากันได้ดี ส่วน เมอร์ซอลท์ (Meursault) ต้องเป็นขนมปังราย (rye) ถึงจะแจ๋ว   แต่ที่พอสรุปได้นั้นคือ ธอมัสโปรดปรานไวน์ Volnay มากกว่าชนิดอื่น (ในไวน์ที่กล่าวมา)  เพราะเขาบันทึกไว้ว่า มันมีคุณภาพเที่ยบเท่ากับ Chambertin เลยทีเดียว อีกทั้งราคาก็ถูกกว่า และเก็บได้นานกว่าตั้งเป็นปี แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 50 02:39:35 จากคุณ : WIWANDA - [ 14 มี.ค. 50 09:02:45 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แผนที่ของเบอร์กันดี  ตามมณฑลไวน์ต่างๆ... จากคุณ : WIWANDA - [ 14 มี.ค. 50 09:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 41 โอ้ยยยยย..........หิวไวน์ จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย - [ 14 มี.ค. 50 11:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สวัสดีครับ อาวิและทุกๆท่าน สมัยก่อนจะฆ่าใครก็ โป๊ย ไปเป็นพวกนอกรีตอย่างเดียว เฮ้อ ดีนะที่มนุษย์มีการพัฒนา ไม่งั้นป่านนี้เผากันวอดวายไปหมด พี่นกครับ ผมใช้วิธีเดียวกับพี่เปี้ยบเลยครับ แต่สเปรย์ของอาวิ ก็น่าสนนะครับ ตามอ่านอย่างสนุกมากๆครับ จากคุณ : jearjear - [ 14 มี.ค. 50 14:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดีค่ะ..คุณ jearjear กะ อีตาเด็กน้อย..สบายดีป่าว.. ฟังข่าวเรื่องการควบคุมโฆษณาสุรา และเครื่องดื่มแอลกอฮอลทุกชนิดนี่...น่าเซ็ง.. เขาคิดได้ไงเนี่ย.. จะเก็บไวน์แบบเอากระดาษ wrap พันไว้ก็ได้ค่ะ แต่ที่ไม่ได้แนะนำ เพราะกระดาษชนิดนี้ มีหลายคุณภาพ บางชนิดไม่มีความยืดหยุ่นเลย..พันไปก็ไม่มีประโยชน์ จากคุณ : WIWANDA - [ 15 มี.ค. 50 01:34:35 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ในช่วงที่ธอมัสไปเยี่ยมไร่ต่างๆในเบอร์กันดี นั้น.. เขาไม่ทันได้อยู่ดูประเพณีของการเก็บองุ่น หรือที่เรียกว่า harvesting  แต่ก็อยากจะเล่าให้ฟังว่า ในยุคของศตวรรษที่ 18 คือตอนนั้น เบอร์กันดี ในเขต Cote de Beaune ได้มีกฏหมายที่เคร่งครัดในเรื่องนี้แล้ว..นั่นคือ  หนึ่งเดือนก่อนที่จะถึงฤดูเก็บองุ่น  คณะผู้ใหญ่ (บ้าน)  จะเริ่มทำการตรวจองุ่นทุกไร่ถึงสามครั้งสามหน ในวาระต่างๆ เพื่อดูความพร้อม และ ความสุกขององุ่น ว่าได้ที่แค่ไหนอย่างไร   และ ในครั้งที่สาม คือการตัดสินวันดีเดย์  ที่มักจะต้องเริ่มที่ เขต โวลเนย์ ก่อนใครเพื่อนเสมอ ตามด้วยเขต โปมารด์  จากนั้นก็เป็นคิวของไร่อื่นๆ.. ข้อบังคับนี้ ใครจะฝ่าฝืนไม่ได้  แม้แต่องุ่นเพียงตะกร้าเดียว ก็เก็บก่อนเวลาไม่ได้  เพราะมีโทษทั้งจำและปรับ.. การเริ่มผลิตของโวลเนย์นั้นจะกระทำอย่างทันที (เพราะเก็บก่อนใครเพื่อน) โดยการนำองุ่นไปใส่ในอ่างขนาดมหึมาจนท่วม  น้ำหนักที่กดทับลงต่ำจะกลายเป็นการบีบองุ่นให้แหลกเละด้วยวิธีธรรมชาติ พร้อมกับการที่ชายทั้งหมดในหมู่บ้านจะเปลือยกาย เข้าไปทำพิธีเหยียบย่ำแบบพร้อมอกพร้อมใจ.. น้ำองุ่นเริ่มทำปฏิกิริยาของ carbonic maceration  ในช่วงของ 20-30 ชั่วโมงแรก โวลเนย์ ไวน์ คือไวน์แดงที่ทำจากองุ่น ปีโนต์ นัวร์ 100% ที่มีบุคคลิกเป็นที่รู้กันว่า เก็บองุ่นเร็วกว่า หมักระยะสั้นกว่า(สี่ ถึงเจ็ดวัน)  และบรรจุขวดเร็วกว่าคนอื่นๆ  และมีรสชาติดีกว่าเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น โปมารด์ หรือ เขตที่อยู่เหนือขึ้นไป จึงอยากแนะนำ คอไวน์ที่สนใจอยากจะลองไวน์เบอร์กันดี ให้หัดดื่มไปจาก ไวน์โวลเนย์ นี้ก่อน..ให้ถือเป็นมาตรฐานก่อนที่จะขยับไปดื่มกลุ่ม โวส์น (Vosne) จากคุณ : WIWANDA - [ 15 มี.ค. 50 02:19:42 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ส่วน เมอร์โซลท์ (Meursault) ที่อยู่ต่ำลงมา..ปลูกองุ่นชาร์ดอนเนย์ทำไวน์ขาวชั้นดีเยี่ยม..ที่มีตั้งแต่ราคาปรกติ ไปจนถึงหลักหลายร้อย.. แต่ถ้าคนที่ชอบไวน์ชาร์ดอนเนย์แล้ว..ขอให้ลองไวน์ของ Meursault สักครั้งหนึ่ง..จะได้ทราบว่า ไวน์ชาร์ดอนเนย์ที่ มาจากเบอร์กันดีจริงๆนั้น..ควรจะเป็นอย่างไร จากคุณ : WIWANDA - [ 15 มี.ค. 50 02:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เพราะธอมัสก็ชอบไวน์ขาวจากเมอร์โซลท์ นี้เป็นอย่างมากเช่นกัน (แหม..ท่านนี่ชอบแต่ของดีๆเลยนะเนี่ย)  แต่ไม่ได้ชอบธรรมดาๆ  ท่นชอบไวน์เมอร์โซลท์ ที่ต้องมาเขต Goutte d'Or  (กูตต ดอร์  แปลว่า..ทองหยด)  ที่มีเจ้าของชื่อว่านาย เบเช่..โดยการพาไปแนะนำทดลองชิมของโอท็อปนี้ โดยไกด์มือฉมังที่เพิ่งจ้าง  นาย เอเตียง  ปารองต์ ที่ไม่ว่าทั้ง โวลเนย์ หรือ เมอร์โซลท์ จากไร่ทองหยดนี้ ธอมัสสั่งซื้อแบบไม่อั้น..และไล่ซื้อไปเรื่อยตลอดเส้นทางก่อนที่จะถึงขากลับ..ที่จะต้องขนส่งกันทางเรือให้วุ่นวาย และเนื่องจากสภาพของเบอร์กันดีส่วนใหญ่ นั้นคือ พื้นที่ปิด ไม่มีแม่น้ำไหลผ่านในการที่จะส่งออกไปขายยังต่างประเทศอย่างอังกฤษ จะมีก็คือ แม่น้ำ Yonne เล็กที่กว่าจะไปถึงก็ต้องขนส่งกันทางภาพพื้นดินกันไกลโข..ที่จะไปลงที่ท่ากรุงปารีสได้  ม้าเทียมกวียนตัวหนึ่ง บรรทุกได้สองถัง (ถังละ 250 ขวด) จากกรุงปารีส โดยแม่น้ำเซน ก็ต้องไปต่อที่เมืองท่า รัวอะ (Rouen)  เพื่อที่จะข้ามไปอังกฤษ นับว่าหนักหนาสาหัสเอาการ  เพราะกว่าจะถึง..ไวน์นั้นมีอัตราเสี่ยงสูญหาย และ บูดเสีย สูงมาก โดยเฉพาะ มันเหมือนกับยิ่งกว่าเป็นการฝากปลาย่างไว้กับแมว เพราะกลุ่มกรรมกรขนส่ง..ล้วนแต่แต่เป็นคอที่ชอบไวน์ฟรีแทบทั้งนั้น..ที่มักสูบไวน์จากถังเอาไปดื่มกิน แล้วเอาไวน์คุณภาพต่ำเติม หรือบางทีก็น้ำ.. ทำให้ต้นทุนนั้น สูงเพิ่มขึ้น..ไวน์ก็มีราคาแพงขึ้น และไม่มีการรับประกันใดๆ.. แต่ธอมัสนั้นคือปัญญาชน..เขาเข้าใจในปัญหานี้ดี จึงทำการจัดส่งไวน์แบบใหม่..นั่นคือ ควบคุมการบรรจุขวดจาก โรงผลิตเอง ส่งแบบเป็นขวด ไม่ใช่ถัง..เพื่อให้แน่ใจในคุณภาพ แม้จะแพงขึ้นกว่าเดิมบ้าง..เขาก็ยอมจ่าย แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 50 09:59:11 จากคุณ : WIWANDA - [ 15 มี.ค. 50 03:09:08 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ลืมรูป  ไวน์ Meursault จากเขต Goutte d'Or  ในมณฑล Cote de Beaune  เอาป้ายมาจะได้ดูชัดๆ จากคุณ : WIWANDA - [ 15 มี.ค. 50 03:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาตามอ่านอยู่เสมอนะครับ จากคุณ : loverboy - [ 15 มี.ค. 50 06:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 49 Khun Wiwanda, Please help at winescale.com-webboard's "In The"Urgent"Defence of Wine......" Would very much appreciated. Best regards, VL at GranMonte จากคุณ : VL at GranMonte - [ 16 มี.ค. 50 06:23:00 A:58.8.2.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 จะดื่มไวน์ให้สนุก..ต้องไปเรียนภาษาฝรั่งเศสจริงๆ ใช่มั้ยคะเนี่ย ไม่งั้นเรียกไม่ถูกหาไม่เจอแน่ๆ เลยค่ะเวลาไปซื้อไปค้นไปคุยกับใคร ใช่มั้ยคะพี่หวาน (แต่ที่ประเทศไทยนี้ เวลาออกเสียงถูกต้อง - ตามที่พี่หวานบอก - คนขายที่วิลล่าเขากลับฟังไม่รู้เรื่องค่ะ  ต้องขับรถไกลๆ ไปซื้อร้านหรูๆ หน่อยค่ะจึงจะรู้เรื่องกัน) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 16 มี.ค. 50 08:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เมื่อคืนชิมอีกครั้ง หลังจากเห็นคุณ วิโรจ โพส แล้ว ให้คุณค่าต่อราคา มันดีมาก... (อ่านแล้วเปรี้ยวปากเรย...) ชิมตัว 04 ครับ  Lกฮ ยังแรงดีไม่มีตก.. แต่ผมขออนุญาติเห็นต่างกับคุณ วิโรจ ติ๊ดนึง คับ "...ซึ่งคือไวน์แนว Rhone ใต้..ที่ไม่แสดงความเป็นไวน์จากออสเตรเลียแม้แต่นิด " ผมว่า นี่หละครับ ไวน์ สไตล์ เซาท์ออสเตรเลีย แท้ๆ เลย ครับ จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 16 มี.ค. 50 11:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เรียนคุณ VL at GranMonte ที่นับถือ ไปตอบแล้วค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะมีประโยชน์แค่ไหน เพราะว่า เขากำลังอยากจะสร้างผลงานกัน แบบหักพร้าด้วยเข่า..และทำให้ดูดี มีศิลธรรม  อีกทั้งสร้าง"อำนาจ" ให้กับตัวเอง กับกลุ่มที่มีกองทุนนับพันล้านพียงชั่วข้ามคืน ในประเทศไทย..นโยบายที่จะร่างเป็นกฏหมายมันช่างเขียนง่ายดายเสียจริง...แต่ระบบ enforcement  มันช่างอ่อนยวบยาบ ดังที่เห็นๆกันอยู่ ทุกวันนี้เครื่องดื่มประเภทชูกำลัง...หรือวิตามินเสริมบางประเภทกลายเป็นสินค้าทำเงิน ทั้งๆที่ความจริงแล้ว..มันให้ผลเสียเท่าๆกับการเสพสุรา แถมยังได้โฆษณาแบบโจ๋งครึ่มอีกต่างหาก คณะนายแพทย์หัวใสทั้งหลายนั่น กลับไม่มีใครหันมาสนใจใช้ความรู้ วิจัยออกมาให้เป็นประโยชน์   หันมาเล่นของง่ายๆ คือ การโฆษณาเหล้า 24 ชั่วโมง.. สั้นและได้ใจความดี..แต่ในทางกลับกันนั้น..แทบจะไม่เห็นผลเลย เพราะคนที่ดื่มเหล้าอยู่ทุกวันนี้ ไม่ต้องรอโฆษณา เพราะเขากินกันมาตามระบบของสังคมไทย..ที่ไม่ว่างานอะไรๆ จะบุญ จะบวช  จะแต่ง..ก็ ฉะหลอง.. อาจจะรอให้เกิดวิกฤติอย่างไวน์ฝรั่งเศส ที่ห้ามโฆษณาเช่นกัน   สิบกว่าปีผ่านไป..บัดนี้..ต่างพากันบ่นกลุ้มใจเพราะลูกหลานกันมาซดแต่โคคา โคล่า..กับ กระทิงแดง หวังว่า..การโต้แย้งจากผู้ประกอบการในนโยบายนี้ คงจะมีผลในทางบวก  ขอเอาใจช่วยค่ะ ด้วยจิตคารวะ วิวันดา จากคุณ : WIWANDA - [ 16 มี.ค. 50 19:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่รู้ว่านโยบายเกาไม่ถูกที่คันนี่ จะเลิกได้ไหม ไอ้ที่คันดันไม่เกาซะงั้น... จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย - [ 16 มี.ค. 50 22:39:59 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ยังตามอ่าน ครับ -_-" จากคุณ : BongKoch - [ 17 มี.ค. 50 00:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เล่าถึงเรื่องไวน์ Pommard จากเบอร์กันดีแล้ว..เลยอยากจะนำเอาวีดีโอการเทียบอาหารกับไวน์ โดยเขาเลือกเอาเป็นเป็ด และ ฟัว กราส์ ที่ปรุงต่างๆกัน วีดีโอจะต่อกัน ตอน 1-4  สุดท้ายคือการตัดสินว่า ไวน์อะไรที่เหมาะที่สุด....เชิญรับชมได้ค่ะ http://link.brightcove.com/services/link/bcpid353514866/bclid196271124/bctid595216174 http://link.brightcove.com/services/link/bcpid353514866/bclid196271124/bctid604496698 http://link.brightcove.com/services/link/bcpid353514866/bclid196271124/bctid626893562 http://link.brightcove.com/services/link/bcpid353514866/bclid196271124/bctid626960282 จากคุณ : WIWANDA - [ 17 มี.ค. 50 10:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สวัสดีครับ   ดูในวีดีโอ แหม 3 จาน 3 ไวน์ วนไปวนมา  อิ่มด้วย..เมาด้วย.. ผมเคยทาน เป็ด( Oriental spice )ไหว้เจ้า..กับ Tyrell's Pinot noir กลิ่นสตรอเบอรี่หอมฉุย แต่บาลานซ์ ตุปัด ตุเป๋ พิกล ครับ จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 17 มี.ค. 50 12:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 57 Thank you Khun Wiwanda, It's going to be very tough this year fighting this holy war. But we'll fight with whatever we can muster 'til the end. Apologies for not able to type in Thai. This is the problem of retired executive ! VL จากคุณ : VL at GranMonte - [ 17 มี.ค. 50 12:34:44 A:203.170.151.212 X: ]

ความคิดเห็นที่ 58 เมื่อตอนหัวค่ำป๋าเปิด Stump Jump ให้ชิมแล้วค่ะ นุ่มมมมมม.. และแรงนิดหน่อยค่ะ ..14 เปอร์เซ็นต์ มีกลิ่นอะไรไม่ทราบโดดออกมา แต่นกไม่สามารถบอกได้ค่ะ บอกได้แต่ว่าอร่อยดี (ตามเคยค่ะ) พี่หวานคะ นกว่านกแยกได้แล้วว่าขวดไหนเมอร์โลต์ ขวดไหนแคป/โซ อาทิตย์ก่อนไปเล่นที่อมตะมีพี่ท่านหนึ่งเปิดให้ดื่ม 2 ชนิด นกแยกได้ค่ะ เย้.. ขอการบ้านข้อต่อไปค่ะพี่หวาน (กรุณาอ่านอีเมล์ด้วยค่ะ) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 18 มี.ค. 50 01:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ผมเคยทำอาหารจานหลักที่ใช้อกเป็ด Barbarie ในซอสไวน์แดง (ใส่น้ำส้มที่หมักจากไวน์แดงด้วยครับ) ชื่อ Ente à l´Rouge ประกบคู่กับไวน์เบอร์กันเดี้ยน จากองุ่น Pinot Noir แต่หลังจากจบคอร์สอาหารในวันนั้น ผมให้แขกของผมสองคนให้คะแนนอาหารกับไวน์ ผลคืออาหารจานเป็ด ได้ 8.5/10 แต่ไวน์เบอร์กันเดี้ยนที่ทานคู่ด้วยได้ 7/10 เองครับ ผมเลยคิดว่าไวน์เบอร์กันเดี้ยนดื่มยากไป สำหรับแขกของผมที่ปกติดื่มแต่ไวน์บอร์คโดซ์ หรือซอสของผมที่ดันมีส่วนผสมของน้ำส้มไวน์แดง ทำให้เข้าคู่กับไวน์แดงเนื้อหนักอีกได้ยาก ที่จริงผมควรจะปรุงโดยใช้ซอสส้ม (จากลิคัวร์ส้ม) ที่ให้รสหอมหวานอ่อนๆ (กลายเป็น Ente à l´Orange) จะดีกว่าหรือปล่าวครับ จากคุณ : Einswasser - [ 18 มี.ค. 50 06:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เริ่มสนุกมากขึ้น .... เมื่อคำถามออกมาแนวอาหาร ... อาหาร ... สนใจค่ะ .... ไวน์เบอร์กันดี คุณวิชอบทานกับอะไรคะ จะขอลองตามบ้าง เผื่อจะรู้สึกอร่อยขึ้นกว่าเดิม .... จากคุณ : nijja - [ 18 มี.ค. 50 10:38:01 ]

ความคิดเห็นที่ 61 "...ซึ่งคือไวน์แนว Rhone ใต้..ที่ไม่แสดงความเป็นไวน์จากออสเตรเลียแม้แต่นิด " ผมว่า นี่หละครับ ไวน์ สไตล์ เซาท์ออสเตรเลีย แท้ๆ เลย ครับ ...เห็นด้วยครับว่าเป็น South Australia แท้ ๆ ...แต่ก็เฉพาะเนื้อน้ำนะครับ ...แต่งานนี้ เขาใช้ Oak Powder หรืออาจเป็น Liquid ฝรั่งเศสครับ ...ไม่ได้เป็น American Oak Chip อย่างที่เป็นตามปกติครับ คุณพ่อหมี จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 19 มี.ค. 50 07:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่ะ แหม..พอคุยเรื่องอาหารละก้อ..หูผึ่งเชียว คุณ Einswasser คะ.. การทำเป็ดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Magret de Canard หรือ Canard a l'orange  ที่ขึ้นชื่อในเมนูของร้านอาหารระดับห้าดาว..มันจะมีกฏตายตัวอยู่ค่ะว่า.. ถ้าเป็นเป็ด สไตล์ มาร์เกรท์  นั่นคือ ซอสสีแดง ที่ใช้ลูกเบอร์รี่สีแดง เช่น raspberries เป็นตัวนำรส..จากนั้น ส่วนประกอบที่ชูรสก็คือ ไวน์ฟลัมบัวส์ (Framboise ที่ทำมาจากลูก raspberries มีรสออกหวาน สีแดงเข้ม ใช้ดื่มเป็น aperitif ก็ได้ ต้องแช่เย็นถึงจะอร่อย) เป้ดจะอร่อยหรือไม่ ก็อยู่ที่ซอส  ซอสจะอร่อยหรือไม่ อยู่ที่ชนิดของไวน์ที่ใช้  ฟลัมบัวส์ ชั้นดี ก็แพงหน่อย แต่อร่อยเลิศ.. น้ำส้ม..ที่ทำมาจากไวน์ก็เช่นกัน..มีหลายเกรด สามารถทำให้อาหารเสียรสและหมดสภาพไปได้เลย..คราวหน้า ขอให้ใช้ Balsamic vinegar จะดีกว่า.. ไวน์แดงสำหรับเป็ดนี่..ใช้ได้เกือบทุกชนิด แต่ต้องเป็นของที่จัดว่าระดับดีหน่อย หรืออยู่ในทำเนียบของ fine wine  เบอร์กันดี หรือ ปีโนต์ ใช้ได้ทั้งนั้น.. แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 50 10:09:28 จากคุณ : WIWANDA - [ 19 มี.ค. 50 09:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ทีนี้มาถึงคำถามของคุณนิจที่ถามว่า ชอบอะไร นี่เลยค่ะ Canard a l'orange  ชอบแบบอบทั้งตัว.. ทำซอสเอง..ที่ใช้เวลาทั้งวัน..สำหรับการทำ candy orange นั่นคือ เคี่ยวส้มที่หั่นเป็นแว่นๆด้วยน้ำตาล..แบบว่าไฟอ่อน ปล่อยให้น้ำตาลค่อยๆจับส้มจนเป็นมัน.. แล้วก็เอาน้ำเชื่อมจากตรงนั้นมาทำซอส..ชูรสด้วย Grand Marnier, balsamic ไวน์กับเป็ดส้มนี้ ถ้าเป็นไวน์แดง เลือกเอาที่มีแอซิดสูงๆหน่อย..อย่าง..พวกกลุ่มที่มาจาก Loire  เช่น..Chinon, Bourgueil, Anjou Rouge หรือ Saumur-Champignay ไวน์ขาวก็ได้ อย่าง Gewurzt  เนี่ยเจ๋งเลย.. จากคุณ : WIWANDA - [ 19 มี.ค. 50 09:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 64 น้ำลายท่วมจอแล้ว ป้าหวาน เอ้อ..ช่วยบอกสูตรน้ำราดเป็ดย่างทุกแบบให้ทีครับ ผมซื้อเป็ดย่างมา ดันลืมน้ำราดซะ จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย - [ 19 มี.ค. 50 10:09:57 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ตาเด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วยยะ...เป็ดย่างเยาวราชของเธอนั่น อย่าไปเสียเวลาทำน้ำซอส(ฝรั่ง)เลย เพราะ ว่าเขาหมักด้วยเครื่องผงพะโล้แล้ว   เอาซีอิ๊วดำข้มหวานผสมน้ำส้มสายชู หั่นพริกชี้ฟ้าโรยลงไป ซอยขิงผสมนิดหน่อยก็ได้   อ้อ..หาขิงดอง กับ แตงกวาสดมาแกล้มด้วยล่ะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 19 มี.ค. 50 10:42:04 ]

ความคิดเห็นที่ 66 สวัสดีครับ อาวิและทุกๆท่าน น่าทานมากๆครับ อาวิ เห็นแล้ว น้ำลายสอเลย อยากกินทั้งเป็ด และ นึกถึงไวน์เลยครับ จากคุณ : jearjear - [ 19 มี.ค. 50 14:51:17 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณค่ะ คุณวิ .... จะตามอย่างซะหน่อย ... สงสัยต้องตั้งตารอ... ไปจนกว่าจะเจอทั้งเป็ดเเละเครื่องปรุงซอส ..... etc แต่แค่ได้อ่านก็อิ่มไปครึ่งแล้วค่ะ นึกถึงที่ใครเคยค่อนว่าลูกสาว ปธน คนไหนนะคะ (จอนห์สัน มังคะ) ที่ว่าอ่านหนังสืออยู่ประเภทเดียว คือตำราอาหาร .... มานึกดูตอนนี้ นั่นแหละค่ะ หนังสือสัมมะคัญ .... lol .... จากคุณ : nijja - [ 19 มี.ค. 50 15:51:16 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณครับ คุณวิ คราวต่อไปขอแก้ตัวเรื่องซอสก่อนเลยครับ แล้วจะรายงานผลครับ... จากคุณ : Einswasser - [ 20 มี.ค. 50 05:10:29 ]

ความคิดเห็นที่ 69 พี่วิค่ะ แหมมาสารภาพว่าแอบอ่านไปทั่วจริง ๆ ว่าจะแอบอ่านที่ห้องนู้นนน เฉย ๆ แต่เจอเด็กพูดแบบนั้นเลยต้องย่องออกมาจากมุม เลยโดนจับได้ว่าอ่านไปทั่ว อิอิ วันนี้หิมะตก ประหลาดสุด ๆ ทั้งที่อาทิตย์ที่แล้วคนเกือบจะฉลอง early spring กันแล้ว (อุณหภูมิ 10-12 องศา ซี) ดอกไม้ที่ปกติบานเดือนหน้า เดือนนี้ก็บานกันเรียบร้อยถ้วนหน้า วันนี้หนาว แถมหิมะ แถมลม แถมฝน เอากันให้ครบสูตรเค้าเลยค่ะ เห็นรูปข้างบนน้ำลายไหล เดี่ยวใกล้ ๆ วันจะมาถามพี่วิว่าต้องไปกินร้านไหนดี (ในปารีส) เอาแบบร้านที่พี่วิบอกว่าคนมานั่งชิมไวน์เพื่อเจอคนรักไวน์ด้วยกัน คือกะไปนั่งเอาเท่ห์ค่ะ แล้วก็ดื่มด่ำบรรยากาศซะหน่อย สวัสดีค่ะ จากคุณ : horseshoes - [ 20 มี.ค. 50 07:23:13 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อวันก่อนงูเห่าเข้าบ้านค่ะ ช่วงมีนาเมษานี้มันฟักไข่ ยั้วเยี้ยเต็มหมู่บ้านเลยค่ะ เขาจับกันได้ทุกวัน จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 20 มี.ค. 50 19:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 71 คุณ horseshoes คะ.. รีบมาตอบ..กลัวลืม ไปที่นี่เลยค่ะ ได้เบียดเสียดคนรักไวน์รุ่นเดียวกับคุณสมใจเชียว   แอดเดรส อยู๋ที่โพสเตอร์แล้ว..ไปตามนี้ได้เลยค่ะ จากคุณ : WIWANDA - [ 21 มี.ค. 50 10:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 72 อ้าว..มองไม่เห็น..งั้นเอาไปอีกรูปหนึ่ง.. จากคุณ : WIWANDA - [ 21 มี.ค. 50 10:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 73 น้อง Tweety สี่ตา  ตอบไปทางอีเมล์แล้วนะคะ.. คุณ nijja คะ..เรื่องทำน้ำซอสเป็ด และอบเป็ดนี่ ต้องขอเวลาว่างๆ ตั้งสติให้ดี เพราะว่า เรื่องยาวค่ะ เฉพาะเป็ดนี่อบก็หลายชั่วโมงโขอยู่ ปัจจุบัน เขามีอกเป็ดอบขายเป็นชิ้นๆสำเร็จรูป ที่หัวหินก็มีขายในร้านของคนเยอรมัน เรื่องซอส..ถ้าเครื่องปรุงพร้อมอยู่แล้ว..ก็ไม่เปลือง แต่ถ้าต้องไปซื้อสิ่งละอันพันละน้อยจะสิ้นเปลืองทีเดียว.. (ยิ่งในเมืองไทยแพงมาก) บางคนใช้ทางลัด..เอาแยมผิวส้ม(มาร์มาเลด) มาทำซอส แต่..ไม่เข้าท่าหรอกค่ะ.. รอฟังผลในเป็ดรุ่นใหม่ของ คุณ Einswasser ดีกว่า.. ว่าจะดีเลิศประเสริฐศรีอย่างไร จากคุณ : WIWANDA - [ 21 มี.ค. 50 10:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ธอมัสได้เดินทางมุ่งหน้าลงใต้ ผ่าน St.Aubain ต่อไปยัง เมือง  Macon ที่สะพรั่งไปด้วยไร่องุ่น ในฝีมือของ ชาวมากองเนส์ (Maconnais)  องุ่นที่ว่านี้ คือ องุ่นขาว ชาร์ดอนเนย์ล้วนๆ (จะเห็นได้ในนามของ Macon-Village, Macon-Lugny, Macon-Vire, St. Veran และที่ดีสุด นั่นคือ Pouilly- Fuisse) ธอมัสได้เดินทางต่อไปยัง เมือง โบโฌเลส์ (Beaujolais) ที่เขาต้องตื่นตะลึงไปด้วยความงดงามของทิวทัศน์ ความ เขียวขจีของไหล่เขาที่ลดหลั่นเรียงต่อเป็นเส้นยาว..ที่มีแม่น้ำ Saone ทอดไหลผ่าน  เขาได้บันทึกไว้ว่า.. "ตามแนวไร่องุ่นที่ปลูกห่างจากกันประมาณ 20 ฟุต  ระหว่างต้นห่างกันประมาณ 4 ฟุต  ระหว่างแนวมีการปลูกข้าวโพดประปราย  ไม่ว่าหญิงหรือชายต่างก็ออกทำงานในไร่ด้วยกันทั้งนั้น ผู้หญิงจะได้รับค่าจ้างน้อยกว่าผู้ชายครึ่งหนึ่ง  เพราะงานไม่หนักหนาอะไร" ธอมัสใช้เวลาอยู่ในโบโฌเลส์ ถึงสี่วัน..เพราะได้พักอาศัยอยู่กับเพื่อนเศรษฐีที่มีคฤหาสน์รับรองสวยงาม และเป็นเจ้าของไร่ไวน์ Chateau de Laye  ที่ถือว่าเป็นไวน์ โบโฌเลส์ (ที่ทำด้วยองุ่น Gamay) ที่พอใช้ได้ เพราะไวน์ชนิดนี้ต้องดื่มเมื่อเยาว์วัย(หมายถึงอายุของไวน์ ไม่ใช่อายุครดื่ม อย่าสับสน..) และ เป็นไวน์ที่เหมาะกับอาหารเกือบทุกชนิด   แต่ชนิดที่ดีจริงๆ คือส่วนที่อยู่เหนือ Chateau de Laye  ขึ้นไป ที่เรียกว่า Crus de Beaujolais  ในกลุ่มนี้ ดูได้จากป้ายฉลากที่จะระบุว่า Beaujolais  Village ส่วนที่มาจากเขตอื่นๆ จะใช้คำว่า..Beaujolais เฉยๆ แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 50 13:29:14 จากคุณ : WIWANDA - [ 21 มี.ค. 50 11:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 75 แผนที่ของ Beaujolais จากคุณ : WIWANDA - [ 21 มี.ค. 50 11:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ออกจากโบโฌเลส์มาได้ มุ่งหน้าสู่ Lyons    ที่เขาได้มีโอกาสเที่ยวชมบ้านเมือง รวมทั้งโบราณสถานสมัยโรมันยึดครองพื้นที่ตั้งแต่ยุคก่อนคริสต์กาล  จาก ลีอองส์ สู่เมืองนีมส์  (Nimes) ที่เขาต้องหยุดพักหลายวัน เนื่องจากมีฝนฟ้าคะนอง และ ลูกเห็บ เหมือนกับเมื่อสิบหกวันก่อน ที่เขาเพิ่งเดินทางออกจากกรุงปารีสมาใหม่ๆ ในการหยุดพักผ่อนนี้ ทำให้เขาได้มีโกสเขียนจดหมายและบันทึกข้อความการเดินทางต่างๆ ทำให้มีหลักฐานปรากฏว่า เขาได้สั่งซื้อไวน์เบอร์กันดีชั้นดี คือ Montrachet 1782 125 ขวด  รวมทั้งข้อความที่ส่งไปถึงนาย Parent ให้สอบถามราคาของไวน์ระดับสุดยอดของทุกเขตในเบอร์กันดี เพื่อที่จะนำกลับไปยังอเมริกา   เพราะธอมัส..ยังคงมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำไวน์ในไร่ของตัวเองให้จงได้.. ออกจากลีอองส์ได้..เขาก็มุ่งหน้าสู่ Rhone (ส่วนเหนือ) อย่างไม่มีการเหน็ดเหนื่อย   แต่ม้าที่เป็นกำลังในการขับเคลื่อนรถนั้น คงเหนื่อยอ่อนไปตามๆกัน เพราะว่า..จากเทียมสาม.. ตอนนี้มาเป็นเทียมสี่.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 21 มี.ค. 50 11:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 77 จดเรียบร้อยค่ะ ขอบคุณค่ะ เห็นด้วยกะคุณนกว่า อยากรู้เรื่องไวน์สงสัยต้องไปเรียนภาษาฝรั่งเศสเพิ่มจริง ๆ จากคุณ : horseshoes - [ 22 มี.ค. 50 05:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 78 โย...อยากกินเป็ดย่างราดซอสฝรั่งๆๆๆๆๆๆๆๆ... จากคุณ : เด็กน้อยขี่ม้าก้านกล้วย - [ 22 มี.ค. 50 11:20:21 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ไป แคว้นโปรด แล้ว จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 22 มี.ค. 50 18:29:04 ]

ความคิดเห็นที่ 80 มาทักทายที่กระทู้อีกครั้งครับ หลังจากกลับมาจากเมืองไทย... พยายามเริ่มอ่านกระทู้นี้ แต่สงสัยว่าด้วยความ jetlag สมองเลยไม่แล่นรับกับประวัติศาสตร์ซะนี่ พี่วิสบายดีนะครับ จากคุณ : LaGrandeRue - [ 23 มี.ค. 50 00:07:54 A:134.28.65.47 X: TicketID:105596 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ยังแอบอ่านอยู่ตลอดคับ อาวิ แต่จะไม่เข้ามาตอนท้องว่างอ่ะคับ:) จากคุณ : nicky (Nic Nenin) - [ 23 มี.ค. 50 11:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 82 Hi there, As usual, I'm busy as ever. I had three meetings and one vineyard tour over the weekend. In the meantime  I want to share with you the wine video clips,very interesting indeed. Hope you find them useful and fun.   http://link.brightcove.com/services/link/bcpid353533326/bclid236064579/bctid348393637 http://link.brightcove.com/services/link/bcpid353533326/bclid236064579/bctid301789803 http://link.brightcove.com/services/link/bcpid353533326/bclid236064579/bctid232321352 http://link.brightcove.com/services/link/bcpid353533326/bclid236064579/bctid236034518 http://link.brightcove.com/services/link/bcpid353514866/bclid196271124/bctid687000801 Cheers ! แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 06:36:29 จากคุณ : WIWANDA - [ 25 มี.ค. 50 13:14:18 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ตามมาอ่านอีกรวดนึงครับ ไม่ค่อยได้แวะเข้ามาเท่าไร ไปดูGhost Rider มา พยายามดูอยู่ว่านางเอกซดไวน์อะไร ใครรู้บอกทีครับ จากคุณ : D19 - [ 26 มี.ค. 50 14:00:34 ]

ความคิดเห็นที่ 84 สวัสดีค่ะ.. ขอโทษที่ที่จู่ๆต้องเขียนภาษาปะกิตขึ้นมาอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย  เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ ..ต้องเปลี่ยนสติ๊คเกอร์ภาษาไทยที่น้องนกส่งมาให้  ต้องลอกของเก่าออกมาก่อน.. โอ้โห..มันยากเพราะเหนียวมาก แป้นตัวอักษรหลุดมาสองอันเลย..ใส่กลับคืนไม่ได้ด้วยซิ เลยต้องไปใช้อีกเครื่องหนึ่ง ที่ไม่มีภาษาไทย..ก็เลยต้องล่อภาษาต่างด้าว..อย่างที่เห็นๆ.. เรื่องงานในอาทิตย์ที่ผ่านมา..ขอบอกว่า น่าเวียนหัว.. เพราะมีโปรเจคใหม่ของบริษัทที่ต้องนำมา"ตีให้แตก" ก่อนที่จะมานำเป็นโครงการ ..นั่นคือ .. งานจัดเลี้ยง (สารพัด)ในไร่ไวน์...จะเล่าให้ฟังแบบย้อนหลังก่อนนะคะ.. เมื่อประมาณหลายปีมาแล้ว..ดาราและคนดังๆ อย่าง จอห์น เคนเนดี้ (ลูกชายอดีตท่านปธน.) ก็นิยมไปจัดงานแต่งงานในไร่ไวน์ดังๆ (เป็นรีสอร์ตด้วย)  อย่าง Martha's Vineyard  เพราะ มันเป็นเทรนด์ใหม่ ที่ไม่ซ้ำแบบใคร อีกทั้งเป็นส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม และที่สำคัญคือ  มีความขลังอีกด้วย เพราะในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ได้กล่าวถึงตอนที่พระเยซูทรงแสดงหนึ่งในพระอิทธิฤทธิ์ นั่นคือ การเสกน้ำให้เป็นไวน์ เมื่อตอนที่ได้เสด็จไปร่วมในพิธีแต่งงานในไร่ไวน์เมือง Cana   ต่อมา..ก็แพร่หลายกระจายไปในหมู่ของหนุ่มสาวชนรุ่นใหม่ ที่เอาตามอย่าง..ไร่ไวน์ในแคลิฟอร์เนียมีออกเยอะแยะ ต่างหันมามุ่ง"เอาดี" ในการจัดสถานที่ให้เช่า  รวมทั้งภาคผนวกพิเศษอื่นๆ ที่ล้วนแต่ตื่นตา ตื่นใจ.. และตอนนี้..ก็กำลังจะกลายเป็นแฟชั่นสุดฮอตฮิต.. ไร่ไวน์..หาเงินได้เป็นล่ำเป็นสัน..รายได้เพิ่มพูนจากการให้เช่านี้..จนหลายไร่บอกว่า..ดีกว่ามาทำไวน์กรอกใส่ขวดขาย.. ทีนี้ ไร่ไวน์สารพัดในท้องที่นี้ ต่างก็ได้ปรับปรุงสถานที่กันเป็นการใหญ่ เพื่อที่จะรับ events ต่างๆ..และพร้อมเชิญชวนให้ไปเยี่ยมชม  ต่างเชื่อกันว่า..ในระยะจากนี้ไปจนถึงห้าปี สิบปีข้างหน้า...ธุรกิจอย่างนี้จะเติบโตต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง.. เลยอยากจะสะกิดผ่านไปถึงท่านผู้ประกอบการ ธุรกิจไวน์ไทยด้วย..ว่า..รับรองไม่ช้าไม่นานนี้  หนุ่มสาวไทยก็คงจะเอาอย่าง..เตรียมตัวรับมือไว้ให้ดีๆ เก๊าะ..แหม..ขนาดดิ่งพสุธาไปจูบกันกลางอากาศ หรือ ดำน้ำไปจดทะเบียน..เมืองไทยยังทำแล้วเลย.. นับประสาอะไรกับการที่จะไปเต้นรำกันกลางไร่.. เรื่องจิ๊บจ้อยยยยย.. จากคุณ : WIWANDA - [ 27 มี.ค. 50 06:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 85 รับจัดงานแสดงดนตรีด้วย..ต้องขอเรียนตามตรงว่า งานแต่งงานในไร่ไวน์นี้..ลูกเล่นมีให้เลือกเยอะมาก จะไปแค่ทำพิธีทางศาสนา ให้บาดหลวงมา พร้อมกับแขกไม่กี่สิบคน แบบเฉพาะครอบครัว จัดงานเลี้ยงแบบน้ำชาเบาๆ ส่วนงานเลี้ยงใหญ่กลางคืนก็ไปจัดที่อื่นได้  แต่ในงาน ได้นำวีดีโอ ของพิธีตอนกลางวันไปฉายในจอยักษ์ ให้แขกคนอื่นๆได้ชม.. ในวีดีโอ..น่าสนุก เพราะจะทำแบบเป็นมินิซีรีย์  เริ่มที่คู่บ่าวสาวในชุดเครื่องแต่งกายลำลอง วิ่งไล่จับกันในไร่..ช่วยกันเก็นองุ่น ขี่จักรยานหนุงหนิง...จนมาถึงตอนแต่งงานทำพิธี เรียกได้ว่า ครบวงจร.. อ้อ..รวมทั้งต้องซื้อไวน์จากไร่(ราคาพิเศษ)ไปเลี้ยงแขกในงานด้วย.. แต่..ดิฉันน่ะเหนื่อย..เพราะ ต้องนำรายละเอียดต่างๆของแต่ละไร่ พร้อมทั้ง ดีวีดี และราคา..มาจัดเข้าแฟ้มให้เรียบร้อย  ก่อนที่จะทำการ"โปรโมท" ต่อไป.. จากคุณ : WIWANDA - [ 27 มี.ค. 50 06:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อิ ๆ....นึกอยู่แล้วว่า...(อกอี) แป้น (ไทย) หาย จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 27 มี.ค. 50 07:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เรื่อง คีย์บอร์ด เห็นใจเลยค่ะ ..... งานแต่งงาน เลี้ยงในไร่ไวน์ ..... โอ ..... แสนโรแมนติค .... ดีจังค่ะ คุณวิ กำลังคิดๆ (ให้ลูกหลาน) อยู่ค่ะ แต่อีกกี่ปีไม่รู้นะคะ .... เด็กสมัยนี้เค้าดูจะไม่ค่อยจะอยากแต่งซักเท่าไร .... (เฮ้อ ก็ ... เข้าใจ นี้ด ...ๆ....) บูมเมืองไทยเมื่อไรละก้อ .... ทางไปเขาใหญ่ .... รถคงเป็นยิ่งกว่าแพ   รีสอร์ทต่างๆคงไม่เงียบเหงาสงบอีกต่อไป .... จากคุณ : nijja - [ 27 มี.ค. 50 10:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 88 คุณวิโรจขา..แป้นก็ยังหายอยู่นะ ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งแผงเชียว  นี่ว่าจะหาเอาในอีเบย์.. คุณ D19 คะ..หนังเรื่องที่ว่านั้น ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ ตอนนี้ดูปู่โสมเฝ้าทรัพย์อยู่  อิอิอิอิ คุณ LaGrandeRue ไปเที่ยวสนุกมาแล้ว..มาเล่าบ้างนะคะ อยากฟังง่ะ... คุณ horseshoes ที่รัก  ไม่ต้องถึงขนาดไปเรียนภาษาฝรั่งเศสหรอกค่ะ  แต่ควรจะรู้บ้าง   อย่างเช่น ห้องน้ำ..ในร้านอาหารดีๆ (หรือไวน์บาร์ด้วยละ)  ห้องผู้หญิงจะมีตัว F (Les Femmes) ห้องผู้ชาย คือ H (les Hommes) ที่ชาวต่างชาติหลายคนต้องไปยืนงงหน้าห้องน้ำ ไม่รู้จะเข้าห้องไหนดี  ต้องรอจนกว่าจะมีคนออกมา..จะได้รู้ว่าหญิงหรือชาย.. หรือคำว่า Sortie ทั่วไปหมด  ตามที่ต่างๆ ติดทั่วเมืองไปหมด นั่นคือ Exit คุณพ่อหมี กับ คุณนิคคะ..ราคาไวน์ที่เมืองไทยขึ้นอีกไหมคะ เพราะว่า ตอนนี้ดูว่าจะขึ้นไปอย่างไม่หยุด..อย่างที่นี่ก็เช่นกัน การค้าไวน์ราคาไม่นิ่งเลย..ทั้งๆที่เศรษฐกิจฝืดมาก น้ำมันขึ้นราคามาเป็นแกลลอนละ $3.59 แล้ว.. จะเอาจดหมายของตัวแทนบริษัทไวน์เจ้าประจำ ที่พี่ได้สั่งซื้อ"ไวน์ในอนาคต" กับเขามาให้ดู..ในการที่ต้องติดตามลูกค้าแบบเกาะติด แถม..ไม่วายที่จะต้องเอาชื่อกับแต้มของ โรเบิร์ต  ปาร์คเกอร์  มาเอี่ยวนิดๆ กลัวตกกระแสหรือไงไม่รุ.. Wanda, Thank you again for your Kirwan, Episode 1, and Haut Bergey futures order from WineCommune.  I just wanted to drop a quick note as a follow up to let you know a couple things. I am about to head to Bordeaux again this year to taste the 2006 barrel samples.  While there, I will be uploading my tasting notes daily to our JJ Buckley blog, as well as accounts of what is currently going on in Bordeaux .  I may well have several opportunities to taste through some of the 2004 and 2005 vintages again, notes on which will also be added to the blog.  If you are interested in seeing what we find this year, please visit or blog at http://www.jjbuckley.com/bordeaux-futures/.  I am always happy to answer any specific questions you may have about the 2006, 2005, or 2004 vintages. Robert Parker has recently re-tasted all of the 2004 and 2005 Bordeaux , as well as the 2006 barrel samples.  In the next few weeks he will be publishing his final scores on the ’04, updated scores on the ‘05, and preliminary scores on the ‘06.  When he does so, there will likely be a surge in futures purchasing again as all of the top wines disappear.  We have transferred all of our futures sales to our retail division, JJ Buckley Fine Wines.  If there are any wines you may still be interested in purchasing futures of, please feel free to visit our site: http://www.jjbuckley.com.  We purchased many more futures recently, and still have a very wide selection.  You can also contact me directly and I will be happy to get back to you with availability and pricing. I will be available by e-mail while in France , so don’t hesitate to ask questions or respond to anything you read about us doing on the blog! I have a small private client e-mail list that receives special offers of rare and collectible wines, hot deals, and advanced notice on sales and futures events.  Let me know if you would like to be a part of this list.  The list is by invitation only, and your information will never been seen by or shared with anybody else. Cheers, Mike Mike Supple Fine Wine Specialist JJ Buckley LLC หมายเหตุ...อยากให้อ่านในลิงค์อันแรก ที่แนบมาด้วย..เพราะการขายไวน์ในอเมริกานี่..ผู้ขายจะต้องตื่นตัวและติดตามการเป็นไปของไวน์แบบเกาะติดอยู่ตลอดเวลา...บางคนอาจไปทำงานอย่างอื่นที่ได้เงินดีกว่า..แต่..ดันมาขายไวน์ ให้ลำบากลำบน..เพราะมีใจรัก แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 11:16:54 จากคุณ : WIWANDA - [ 27 มี.ค. 50 10:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 89 คุณนิจคะ.. จริงอยู่..หนุ่มสาวสมัยนี้ไม่นิยมการแต่งงาน  แต่ถ้าจะแต่งกันจริงๆ เขามักจะคิดหาจัดงานแบบสร้างสรร ประเภทเดินเรียงแถวเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมนั่น กำลังจะหมดยุคแล้วค่ะ   ที่อยู่ที่นี่..มีจุดริมทะเลที่เราเรียกว่า  Lover's Point  เพราะชื่อนั้นเป็นมงคล..คู่บ่าวสาวจึงเลือกมาทำพิธีที่นี่.. ปรากฏว่า..ไม่นานมานี้..มีคู่หนึ่งที่เลือกไปยืนถ่ายรูปบนโขดหิน ในช่วงดวงอาทิตย์กำลังสีสวย..ยืนโพสไปมา.. มีคลื่นลูกใหญ่โถเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว..เจ้าสาวหายไปกับม้วนคลื่น..กลายเป็นโศกนาฏกรรมไปเลย.. น่าสงสารจริงๆค่ะ.. ก็เลยเอาวิวมาให้ชมด้วย..นี่คือ Lover's Point  ในช่วงสปริงที่กำลังจะถึงนี้ จะมีต้นไม้เล็กๆ หรือที่เราเรียกว่า ต้น iceplant เป็น ground covered ชนิดหนึ่ง..ที่จะมีดอกสีม่วงสวยงาม..คลุมไปทั้งเมืองเลยค่ะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 27 มี.ค. 50 14:21:41 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ปีนี้ผมก็มีโปรแกรมกะเขาด้วยเหมือนกัน   อือม์ๆๆๆๆ  ไอเดียบรรเจิดเริ่มมา จากคุณ : Master_Indy - [ 27 มี.ค. 50 15:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 91 สวัสดีครับ คุณอาวิ ครับ   ราคาไวน์ ในเมืองไทย หากวินเทจ ใหม่ๆ ยังไม่เริ่มทยอยเข้ามา ก็ยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นมากครับ ส่วนมากก็ไปในทางเดียวกันกับ กระแสโลก Fine wine ในเมืองไทย ไม่ต้องปั่นราคากันมาก ก็น่ามืดอยู่แล้วครับ ที่น่าลุ้นตอนนี้ ก็ เรื่อง Alcohol  AD Ban นี่หละ ครับ แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 50 17:46:23 จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 27 มี.ค. 50 17:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 92 โอ๊ววว พี่หวานขา หนูอยากแต่งอีกกกกกกก หาเจ้าบ่าวให้หน่อยค่ะ พูดเล่นแต่เอาจริงนะเจ้าคะ เอิ๊กๆ (ช่วงนี้ยุ่งมากค่ะ ไม่ค่อยได้เข้าเว็บ ขออภัยนะคะ เมื่อวานไปงานสวดอภิธรรมสามีของเพื่อน นกได้ถ่ายรูปกับท่านมุ้ยขวัญใจพี่หวานด้วยล่ะค่ะ วู้) ขออนุญาตเรียนพี่วิโรจ เด๋วมอนติเซลโลของพี่มันจะไม่อร่อยนาค้า บ้านนกไม่มีตู้ไวน์นะคะโปรดอย่าลืม จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 27 มี.ค. 50 22:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 93 พี่วิครับ ผมกลับไทยเที่ยวนี้อยู่กรุงเทพเป็นส่วนใหญ่ครับ แต่เวลาที่มี...ช่างน้อยเหลือเกิน ยังมีอีกหลายอย่างที่อยากทำ... แต่ก็ไม่ได้ทำครับ อย่างแรกสุดที่ทำตอนถึงกทม. ก็คือ เดินเข้าไปในร้าน King Power ที่สุวรรณภูมิ เพื่อเช็คราคาไวน์ครับ แพงเหลือเกินครับ แพงจริงๆ ขนาดปลอดภาษีนะนี่ ละก็ได้แวบไปจิบไวน์เคล้าเกลียวคลื่นที่หัวหิน ถิ่นโปรดครับ แม้ทะเลจะเริ่มขุ่นขึ้นเรื่อยๆ แต่สเน่ห์ของมันก็ยังคงเหมือนเดิมจริงๆ จากคุณ : LaGrandeRue (LaGrandeRue) - [ 28 มี.ค. 50 03:11:14 ]

ความคิดเห็นที่ 94 สวัสดีครับคุณวิ และทุกๆ ท่าน ช่วงนี้ผมมีทั้งสอบ และงานที่ต้องส่งครับ แต่ก็ยังติดตามอ่านอยู่เสมอครับ จากคุณ : Einswasser - [ 28 มี.ค. 50 07:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 95 คุณ LaGrandeRue ว่า.. "ไปจิบไวน์เคล้าเกลียวคลื่นที่หัวหิน ถิ่นโปรดครับ.." นั่นละ..คือความฝันของชีวิตยามเกษียณของพี่..ไปซื้อคอนโดริมทะเลห้องเท่ารูหนูทิ้งไว้แล้ว..แบบว่าไปดูปุ๊บ ซื้อปั๊บ..มีระเบียงเล็กๆเอาไว้ชมทะเล  นั่งเขียน หรือ อ่านหนังสือ..จิบไวน์ ..ว่างๆก็ออกมาเดินตลาดมั่ง.. สนามกอล์ฟก็อยู่ใกล้ๆ... นี่คือ บั้นปลายชีวิต.. ที่พอใจในเท่านั้นจริงๆ... จากคุณ : WIWANDA - [ 28 มี.ค. 50 09:36:28 ]

ความคิดเห็นที่ 96 มีคนถามว่า..อ่านและเขียนถึงแต่เรื่องไวน์ฝรั่งเศสมาหลายภาคแล้ว..ไม่เบื่อมั่งหรือไง.. ก็เบื่อเหมือนกัน..ตอบตรงๆเลย..เพราะอ่านจะง่ายกว่ามานั่งแปล เรียบเรียง พิมพ์..เรื่องไวน์ของเขานั้น สนุก ตื่นเต้นมีสีสันมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นอดีตกาล หรือ ปัจจุบันหมาดๆ.. ตัวเองเป็นคนที่ชอบของที่มีคุณภาพ  ไวน์จากฝรั่งเศสนั้น ทำให้รู้สึกเชื่อว่า..ในโลกนี้ ยังมีคนที่รักในการทำอาชีพอย่างตรงไปตรงมาหลงเหลืออยู่ และถ้าลองมีใครแหกคอกออกไปก็ต้องได้รับโทษ  เรื่อที่จะมา"หยวนน่า" เป็นอันว่าตัดทิ้งไปได้เลย..เพราะไม่มี.. อย่างข่าวนี้..ที่เกิดขึ้นมาเมื่อปีกลาย.. ว่า.. ศาลฝรั่งเศส ที่แขวง Villefranche-sur-Saone ได้ตัดสินให้ ผู้แทนการค้าไวน์รายใหญ่ยักษ์ คือ นาย  Georges Duboeuf  แห่ง..Georges Duboeuf  Wines  ได้กระทำการผิดต่อวิชาชีพ โดยการใช้องุ่นพันธ์อื่นมาผสมในไวน์  Beaujolais  โทษนั้นคือ ค่าปรับ  $38,370 ลดหย่อนมาจากที่ตั้งโทษไว้ทีแรก $192,000 และที่อัยการต้องตั้งค่าไว้สูงขนาดนั้น เพื่อเป็นการเขียนเสือ ให้เหล่าวัวทั้งหลายต้องรู้สึกกลัวเกรง  ใครที่เข้าข่ายทำผิดอย่างนี้ ต้องหนาวๆร้อนๆไปตามๆกัน.. เพราะนอกจากเจ้าของไร่จะต้องรับแล้วดังกล่าวนี้แล้ว.. ผู้บริหารที่มีส่วนรู้เห็น ก็โดนด้วย..ถึงแม้ว่าเจ้าของจะแก้เกี้ยวว่าได้ออกจากงานไปแล้วก็เถอะ.. คือ นาย Sylvain Dory โดนปรับ $3,800 ทั้งนาย Duboeuf และ นาย Dory  ได้โดนข้อหาว่า ผสมไวน์อื่นลงไปในการผลิตไวน์โบโฌเลล์ จำนวน 54,150 ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฏของ AOC นาย Georges Duboeuf ได้แก้ต่างในศาลว่า เขามิได้มีเจตนา หากแต่ในช่วงนั้นเป็นระยะที่กำลังยุ่งๆ..จึงอาจมีการผิดพลาด(โดยสุจริต) ซึ่งทางทนายความของเขาก็เห็นว่า เคสนี้ไม่น่าจะมีมูลเหตุให้ถึงกับต้องฟ้องร้อง.. นาย Dory ก็บอกเหมือนกันว่า กำลังยุ่ง..ต้องคุมคนงานมากมาย อาจมีการหลงหูหลงตา.. แต่เหล่านักสืบไวน์ของทางราชการได้มีหลักฐานชัดเจนมาว่า ไวน์ของไร่ Duboeuf's Lancie ของปี 2005 นั้นผสม องุ่นอื่น ผู้พิพากษา Francis Battut ต้องการที่จะให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างของชาวไวน์รุ่นใหม่ และต้องการให้มีโทษที่ควรต่อการหลาบจำ..จึงขอสั่งปรับพิเศษอีก   $2,560 ให้กับองค์กรพิทักษ์ผู้บริโภค (UFC-Que Choisir consumer advocate group) และ อีกหนึ่งยูโร หรือเทียบเท่ากับ..$1.27 ให้กับ องค์กร INAO บริษัท  Georges Duboeuf business ได้ผลิตไวน์ออกมาจำนวน 25 ล้านขวดต่อปี และจัดว่าเป็นจำนวนถึง 20% ของไวน์จากมณฑลโบโฌเลส์ ทั้งหมด ในจำนวนนั้น.. 75% ส่งออกมาขายนอกประเทศ ที่อเมริกาคือลูกค้ารายใหญ่ ไวน์ของ Duboeuf ที่ผลิตได้มากมายนี้..ก็คือ  Beaujolais Nouveau ที่จะออกมาวางตลาดในวันพฤหัส ของอาทิตย์ที่สามในเดือน พฤศจิกายนของทุกปี อันเป็นธรรมเนียม และเป็นไวน์ที่ตั้งใจต่อการผลิตปุ๊บก็ดื่มได้ปั๊บ.. ไม่มีการเก็บค้างปี.. ดูวีดีโอของ  นาย Gary Vaynerchuk ที่ได้ชิมไวน์ของ Duboeuf Beaujolais Nouveau 2006  ที่ถือโอกาส"ยำ"ซะเละ.. http://tv.winelibrary.com/2006/11/16/beaujolais-nouveau-and-other-wines-episode-129/ จากคุณ : WIWANDA - [ 28 มี.ค. 50 10:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 97 สวัสดีครับ อาวิและทุกๆท่าน เห็นแล้วคิดถึงประเทศเราก็ เหนื่อยครับ แต่ยังไงก็มีดี ยังไงก็สยามเมืองยิ้ม จากคุณ : jearjear - [ 28 มี.ค. 50 13:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 98 อาวิคับพรุ่งนี้น้ำมันขึ้นอีก 40 สตางค์ ทุกชนิด ส่วนราคาไวน์ยังในบ้านเราก็สูงติดเพดานแล้วคับ ช่วงนี้ผมอีกคนที่หลงไหลวิถีชิวิตที่หัวหิน ไปกลับมาร่วม 5-6 ครั้งในรอบ 2เดือนแล้วคับ(คุณพ่ออยู่ปราณบุรี) ของทานอร่อยไปหมดคับมีสนามก๊อฟใหม่รู้สึกจะชื่อว่า บลูเมาเท่นมังคับ เพื่อนที่เล่นก๊อฟบอกว่าสวยมkd ไม่รู้ว่าอาเคยไปยังคับ... จากคุณ : nicky (Nic Nenin) - [ 28 มี.ค. 50 21:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ขอสมัครเข้าชมรม wiwanda fc ด้วยคนค่ะ ตามอ่านเรื่องไวน์ของคุณ wiwanda มานานมาก เป็นอาทิตย์เลยค่ะ จริง ๆ ก็เริ่มต้นจากเรื่องยังเติร์กของคุณสื่อศิลป และเห็นคุณ wiwanda มาเล่าเรื่องไวน์กับสงครามโลก แต่ยังอ่านไม่จบเลย ก็ไม่ได้พูดถึงต่อ กำลังตงิด ๆ ใจว่าอยากอ่านจนจบที่ไหนดี ก็โชคดีที่มาเจอเว็บของคุณหมอ ha ha yee ที่รวมเว็บไว้ทุกกระทู้เลย เลยมาตะลุยอ่านตรงนี้ก่อน ส่วนกระทู้ยังเติร์กอ่านได้ 50 กระทู้แล้วเลยต้องพักไว้ก่อน กะว่าว่าง ๆ จะตามอ่านต่อค่ะ จริง ๆ สนใจไวน์มานานแล้วค่ะ แต่ไม่มีความรู้เลย ได้คุณ wiwanda มาช่วยเล็คเชอร์ให้ฟังแล้วรู้สึกซาบซึ้งกับไวน์ดีจัง ว่ามันเป็นอะไรที่มากกว่าแค่ไวน์ดีนะ นึกถึงเมื่อ 10 ปีก่อน เคยได้ตามเพื่อนไปเยี่ยมชมโรงไวน์ของ robert mondavi ที่ napa valley มา แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร เสร็จแล้วเขามีให้ชิมไวน์ เรากับเพื่อนก็ชิมกันโดยไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ว่ามันมีกลิ่น มีรสอะไร รู้แต่ว่าชอบหรือไม่ชอบ แหม ถ้าเป็นตอนนี้คงได้ซาบซึ้งมากขึ้นเลยนะคะเนี่ย ตอนนี้ ก็ได้การบ้านไวน์จากหลาย ๆ คนมาแล้ว รวมคุณวิโรจน์ และคนอื่น ๆ ด้วยน่ะค่ะ ว่ามีการบ้านที่จะต้องทำเยอะมาก สงสัยวันไหนคงต้องไปวิลล่า กับพารากอนเพื่อจะซื้อไวน์การบ้านมาชิมดูบ้าง ตอนนี้ที่ชิมก็มีแต่ไวน์ยอดนิยมของออสเตรเลีย พวก bin 407, bin 389 , bin 707 บ้างน่ะค่ะ เพราะที่บ้านเขากินกันอย่างนี้ ถามว่าไม่ซื่อไวน์อื่นกินบ้างหรือ เขาก็ว่าก็รู้จักแค่เนี้ย ไม่รู้จะซื้ออะไรดี ถ้าได้ชิมไวน์การบ้านพวกนี้แล้ว จะได้ไปแนะนำ เปิดโลกทัศน์ให้ที่บ้านด้วยค่ะ เห็นคุณ nijja บอกว่าไปเข้าคอร์สไวน์มา ไม่ทราบว่าพอมีรายละเอียดของคอร์สรึเปล่าคะ และครั้งหน้าที่จะเปิดคอร์สด้วยน่ะค่ะ เพราะสนใจจะเรียนด้วยค่ะ ถ้ายังไงขอบคุณสำหรับข้อมูลด้วยนะคะ จากคุณ : black onyx (black onyx) - [ 29 มี.ค. 50 19:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 100 .....เห็นคุณ nijja บอกว่าไปเข้าคอร์สไวน์มา ไม่ทราบว่าพอมีรายละเอียดของคอร์สรึเปล่าคะ และครั้งหน้าที่จะเปิดคอร์สด้วยน่ะค่ะ เพราะสนใจจะเรียนด้วยค่ะ ถ้ายังไงขอบคุณสำหรับข้อมูลด้วยนะคะ จากคุณ : black onyx (black onyx)  - [ 29 มี.ค. 50 19:55:05 ] ขอต้อนรับเข้า สำนัก วิวันดา (แฟนคลับ ?)  ด้วยความโสมนัสยิ่งค่ะ คุณ black onyx เรื่อง เรียนในมืองไทย ลองเข้ามาเลียบค่ายดูลาดเลาที่นี่ก่อนก็ได้ค่ะ http://www.drinklessdrinkthebest.com/forum/index.php อันนี้แกลเลอรี่ เห็นหน้าตา บรรยากาศชัดเจนค่ะ http://www.drinklessdrinkthebest.com/forum/index.php?topic=756.0 แต่จะเปิดคอร์ส ได้หรือไม่ คงต้องรวบรวมพลพรรค และกำหนดวัน แล้วเช็คกับอาจารย์ค่ะ ว่าไม่ตรงกับคอร์สอื่น อย่างน้อยหกคนขึ้นไปค่ะ ครั้งที่แล้วก็เรียนทฤษฎีอันว่าด้วยการเลือกอาหารและไวน์ด้วยค่ะ คือเรียนหลายอย่าง แต่จำได้แม่นอย่างเดียวค่ะ เพราะสนใจ เวบเกี่ยวกับไวน์ของคุณวิโรจ จะให้ความรู้หลากหลายดีมากค่ะ ลองดูด้วยนะคะ ปรกติมีลิ้งค์อยู่ที่หน้าแรกของเวบ ดริ๊งเลสค่ะ http://www.winescale.com/ จากคุณ : nijja - [ 30 มี.ค. 50 00:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 101 มาแล้ววว..คุณ jearjear ศิษย์รัก ศิษย์เอก.. หายไปไหนมาเอ่ย.. ดีจังที่เราจะได้คุณนิคมาเป็นเพื่อนชมรมหัวหินอีกหนึ่ง.. ยังกลัวๆอยู่เนี่ย..ว่ากว่าจะถึงเวลาไปอยู่จริงๆ หัวหินจะกลายเป็นพัทยาไปหรือเปล่าก็ไม่รุ... แล้วก็มาต้อนรับสมาชิกใหม่..คุณ black onyx ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ  ดิฉันดีใจที่คุณตามอ่านมาตั้งแต่ต้น และประจักษ์ในข้อที่ว่า.."รู้สึกซาบซึ้งกับไวน์ดีจัง ว่ามันเป็นอะไรที่มากกว่าแค่ไวน์ดีนะ" ขอบคุณคุณนิจ (nijja) ด้วยค่ะที่มาช่วยต้อนรับด้วย เพราะบางทีดิฉันไม่ได้เข้าเน็ททันที เวลาก็ต่างกันมาก ก็พออาศัยเพื่อนๆในกระทู้นี่แหละที่มาช่วยกันเป็นหูเป็นตา.. ค่ะ..นี่คือสิ่งที่พยายามเล่าให้ใครต่อใครฟัง..เพราะว่า  กระแสไวน์ที่ติดตามอ่าน(ในและนอกประเทศ)  ผู้บริโภคไวน์ส่วนใหญ่ เกาะติดกระแสกับแต้ม..จากนาย โรเบิร์ต ปาร์คเกอร์ ที่ถือว่าเป็นธงนำ..ซึ่งเล่นเอาปั่นป่วนไปพอสมควร ในตอนแรกๆ ก็โปรโมทไวน์ฝรั่งเศส จนขายดิบขายดี ถึงขนาดท่านปธน. ชีรัค ต้องแจกเครื่องราชย์ชั้นสูงให้เพื่อเป็นการเอาใจ ก็ถือว่าทำคุณประโยชน์ให้ประเทศอย่างเอนกอนันต์ เพราะรายได้ไหลมาเทมา.. แต่..ภายหลังมานี่..เกิดกระแสทางการเมืองและทางส่วนตัวจากคลื่นใต้น้ำของชาวไวน์กลุ่มหนึ่งที่แอนตี้ระบบของนายปาร์คเกอร์ และ เป็นระยะเดียวกันกับข้อมูลทางเน็ตเริ่มแพร่หลาย ผู้คนเริ่ม"ตื่นตัว" ในการหาข้อมูลสารพัด ทำให้หลายๆคน"จับไต๋" ของนายปาร์คเกอร์ได้   "จับไต๋" อย่างไรหรือคะ...ก็กำลังเขียนอยู่นี่ไง..ตั้งใจว่าจะตลบหลังตอนจบของการเขียนเรื่องของท่านปธน. ธอมัส เจฟเฟอสัน  แต่..เอามาบอกก่อนตอนนี้ก็ได้ ข้อเหมือนของนายปาร์คเกอร์ กับ ท่านปธน. มีด้วยกันหลายอย่าง..เช่น..มาจากพื้นที่บ้านเกิดใกล้ๆกับ .. นาย RP จาก Baltimore, Maryland ท่าน  TJ  จาก Virginia RP และ TJ  เป็นทนายความเหมือนกัน.. RP และ TJ  สนใจและรักไวน์เหมือนกัน ในการเรียนกฏหมายของทนายความทั้งหลายในอเมริกานั้น พวกเขาจะต้องเรียนชีวประวัติของท่าน TJ กันอย่างถ่องแท้ เพราะระบบการทำงานของท่านนั้นถือว่าเป้นระบบชั้นเลิศ..คิดดูแล้วกันว่า..การบันทึกของท่านช่างละเอียดยิบ สลึงเดียวก็มีจดไว้..เช่นค่าทิปพนักงานที่มาช่วยยกกระเป๋า   เรื่องไวน์ของท่านก็เช่นกัน มันไม่ใช่เรื่องของไวน์เฉยๆ แต่ท่านบันทึกประวัติศาสตร์ทางการเมืองระหว่างประเทศไว้ด้วย ละเอียดมาก..จนแทบไม่น่าเชื่อ ทั้งรสที่เปลี่ยนไป และ ปลีกย่อยอื่นๆ.. ชาวไวน์ฝรั่งเศส (รุ่นเกจิ) ได้บอกดิฉันเสมอๆว่า.. นายปาร์คเกอร์ได้ลอกและเดินตามเส้นทางของท่านปธน. มาโดยตลอด เพราะว่าพวกเขาได้อ่านหนังสือ Journal de voyage en Europe de Thomas Jefferson 1787-1788 (Broche)  de Thomas Jefferson (Auteur) ซึ่งมีต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยอื่นๆเช่นกัน.. เพียงแต่...ที่น่าเศร้าใจนั้น..นายปาร์คเกอร์ ไม่เคยได้ให้เครดิตว่าคัดลอกและจำขี้ปากของท่านเจฟเฟอร์สันมาเล่าเลย..ไม่ใช่แค่ไวน์ฝรั่งเศสอย่างเดียว..ท่านปธน. ได้เดินทางไปงอิตาลีและสเปน ด้วยเช่นกัน.. ไวน์ดีเด็ดดัง ของทุกตำบล ท่านได้บันทึกไว้หมด ละเอียดทั้งรสชาติและราคา ดิฉันได้ถือเป็นโอกาสนี้ นำมาตัดทอน เล่าต่อ เรียบเรียงใหม่ เพราะว่า ทั้งประวัติศาสตร์และไวน์ เป็นเรื่องที่ถนัดอยู่แล้ว..แต่ยังห่วงๆอยู่เหมือนกัน เพราะว่า มันน่าเบื่อสำหรับ บางคน.. จากคุณ : WIWANDA - [ 30 มี.ค. 50 01:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เล่าต่อซะทีได้มัง..ว่า..ธอมัสได้เดินทางเข้าสู่พื้นที่ของ มณฑลโรห์น(เหนือ)  ที่อดีตคือดินแดนที่ถูกครอบครองโดยชาวโรมันแต่ครั้งก่อน และต้นคริสต์กาล 20 ไมล์ห่างลงมาจากเมือง Lyons  นั้นคือ เมือง Vienne ที่ธอมัสต้องหยุดแวะสักการะต่อ the Pretorian Palace ที่ปัจจุบันคือ the Temple of Augustus and Livia (จักรพรรดิ์ ออกุสตุส และ พระมเหสี ลิเวีย)  ที่ยังคงสภาพอยู่แม้ว่าจะผุกร่อนไปตามกาลเวลา.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 30 มี.ค. 50 03:35:33 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ที่ชายเมือง Vienne (เวียนน์) นั้นมี โบราณสถานอีกแห่งหนึ่ง นั่นคือ Pyramide  อันเป็นสุสานที่ฝังศพของ  Pontius Pilate  ท่านปอนติอุส นั้น คือ นายกเทศมนตรีของเมือง Judaea ในช่วงของพระเยซูที่ยังมีพระชนม์ และ เป็นคนที่ตัดสินประหาร นาย Jesus (of Nazareth) ด้วยความหวังดีต่อบ้านเมือง ที่เกรงว่าจะเกิดการจราจลจากชาวยิวมากไปกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าหากว่า สิ้นผู้นำไปเสียคน.. ในที่สุด จักรพรรดิ์ ออกุสตุส ก็ได้สั่งเนรเทศ ปอนติอุส ไปอยู่ที่เมืองเวียนน์  และได้เสียชีวิตอยู่ที่นั่น.. จากคุณ : WIWANDA - [ 30 มี.ค. 50 03:52:35 ]

ความคิดเห็นที่ 104 วันที่ 16 มีนาคม ธอมัสกับกลุ่มไกด์ที่จ้าง ให้พาเที่ยวลงใต้จากเมืองเวียนน์อีกห้าไมล์ เพื่อที่จะไปยังดินแดนทำไวน์ นามกระเดื่อง นั้นคือ Cote Rotie (อันแปลได้เก๋ๆว่า เนินอิงตะวัน เพราะ Cote=slopes , Rotie=roasted) ที่ธอมัสได้บรรยายไว้จนเห็นภาพของไร่ไวน์ในพื้นที่นี้ว่า.. "a string of broken hills, extending a league (three miles) on the river to the village of Ampuis to the town of Condrieux" สำนวนของท่านเข้าทีนะคะ..?? ไวน์ของ โกต  โรตี นั้นสามารถนับย้อนหลังไปได้ตั้งแต่ครั้งโรมันครองเมือง หรือสมัย  6 B.C.  เป็นฝีมือการปลูกองุ่นโดยชาวกรีก  นับว่าช้านานมาก่อนพื้นที่ทำไวน์อื่นๆของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น บอร์คโดซ์ เบอร์กันดี (หรือแม้แต่ Hermitage ที่มาจากพื้นที่ใกล้ๆกัน) แต่ไวน์ของ Cote Rotie  ที่ผลิตด้วยองุ่นไซราห์ เพิ่งจะมาได้รับการพัฒนาและความนิยมหลังใครเพื่อน  ทั้งที่ในยุคของธอมัสไปเยี่ยมชมนั้น ไวน์ในถิ่นนี้ก็นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์โอทอปที่ขึ้นชื่อแล้ว..ว่า เป็นของดี  ไวน์สีสวย หอมกรุ่นด้วยมวลบุหงา และสามารถเก็บได้นานกว่าไวน์อื่นๆ  อีกทั้งราคาก็ไม่ใช่น้อย ธอมัสได้บันทึกไว้ว่า.. "There is a quality which keep well, bears tranportation, and cannot be drunk under four years. Another must be drunk a year old. They are equal in flavor and price." และข้อความนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะว่ามาในยุคของศตวรรษที่ 18 ไวน์ของ โกต โรตี ยังถือธรรมเนียมเก็บไวน์ไว้ในถังนานจน สี่ ถึง เจ็ดปี บรรจุขวดแล้วก็เก็บไว้นานนับหลายสิบปี แต่พอมาถึงยุคนี้ ศษวรรษที่ สิบเก้านี่..การค้าและเงิน ทำให้ไวน์เริ่มย่นย่อระยะทางขึ้น..เดี๋ยวนี้ เก็บกันในถังเพีย18-26 เดือน ที่เหลือ ไปหมักกันต่อในขวด (ก็แล้วกัน) ไวน์ในวินเทจดีๆของโกต โรตี นั้น..มักจะจัดไปด้วย แทนนิน ที่ต้องการใช้เวลาบ่มในขวดอย่างน้อยห้าปีอัฟ  กว่าที่รสจะนุ่มละมุน และ กลิ่นจะหอมละไม อย่างคุ้มราคา  แต่ถ้าเป็นวินเทจที่ปรกติ..สองถึงสี่ปี ก็โอเคแล้ว.. เอาภาพมาแปะอีกทีจะได้เห็นว่า..พื้นที่ใต้ลงมาอื่นๆ และ แอมิตาจ (Hermitage) อยู่ตรงไหน..เพราะเดี๋ยวจะเล่าต่อไป แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 50 04:34:52 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 30 มี.ค. 50 04:32:14 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ธอมัส ได้ติดอกติดใจไวน์ชั้นดีของโกต โรตี ที่มาจากอำเภอ Ampuis (อัมปวีส์) และพื้นที่ในเขตรอบๆนั้น เช่น Tupin  ที่ปัจจุบันไร่เหล่านั้นก็ยังคงอยู่ แต่ว่าเจ้าของนั้นอาจจะเปลี่ยนมือไป..หากแต่ไวน์ก็ยังดีเหมือนเดิม.. อย่าง..Les Prunelles, Le Car... ธอมัสมักจะสั่งซื้อไวน์ให้ส่งไปให้เขาในรูปของการบรรจุขวดแล้ว แม้ว่าจะต้องจ่ายแพงขึ้นมาเกือบเท่าตัว เขาก็ยอม  อย่างไวน์ โกต โรตีชั้นดี ราคา  12 sous ต่อหนึ่งขวด (20 sous = 1 Livre) ถ้าจะเอาขวดไปรองรินออกมาจากถังแบบขายปลีก  แต่ถ้าจะต้องให้บรรจุขวดส่งขายกันแบบเป็นล๊อต จะคิดเพิ่มอีก 8 ซูส์ ตกขวดละ  หนึ่ง เหรียญลีเวอะ   ที่ธอมัสก็ยังคิดว่า..ไม่แพงเลย..สำหรับไวน์ที่ถูกใจ เรื่องไวน์ในขวดนี้..มีมานาน ห้าสิบปีก่อนสมัยของธอมัส มาถึงฝรั่งเศส พร้อมกับจุกที่ใช้ไม้ก๊อก และนั้นคือการกำเนิดเกิดขึ้นของ ที่เปิดขวดไวน์ หรือที่เราเรียกว่า corkscrew  ที่เมื่อสมัยของธอมัสนั้น เป็น screw จริงๆ เป็นตะปูเกลียวตัวยาว ที่มีที่จับเป็นห่วงหรือที่จับ..แบบประเภทใช้งานจริงๆ ไม่ใช่โก้เก๋อย่างสมัยนี้.. ชนิดที่ธอมัสใช้..แบบติดเนื้อติดตัวในกระเป๋าตลอดเวลา รูปร่างเป็นแบบนี้ค่ะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 30 มี.ค. 50 05:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เส้นทางของ Cote Rotie  มาจบลงที่เขต Condrieux (คอนดรีเออ) อันเป็นคำรวมของคำว่า  Coin du Ruisseau อันแปลว่า หัวโค้งของแม่น้ำ (โรห์น) และไร่ไวน์ในเขตคุ้งน้ำนี้..ธอมัสได้พบกับไวน์ขาวที่ถูกปากและถูกใจยิ่ง..Chateau Grillet เป็นของ Madam la veuve Peyrouse  เป็นไวน์ขาวที่ทำมาจากองุ่น Viognier ล้วนๆ ที่เป็นมรดกตกค้างมาแต่ครั้งโรมันเช่นกัน และที่ตรงนี้ เป็นที่เดียวในประเทศที่ปลูกองุ่นชนิดนี้.. ปัจจุบัน..กรีเย (Grillet) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น AOC อย่างสง่างาม แม้ว่าจะมีเนื้อที่ปลูกแค่ 7 เอเคอร์ครึ่ง  ผลิตออกมาได้แต่ละปี ก็ไม่เกินพันลัง.. ในภาพ..คือ  Condrieux (Coin du Ruisseau) ตรงมุมโค้ง คือ ที่ตั้งของ Chateau Grillet จากคุณ : WIWANDA - [ 30 มี.ค. 50 12:15:25 ]

ความคิดเห็นที่ 107 นี่คือไร่  ชาโต กรีเย  ไวน์ขาว Viognier ที่ธอมัสซาบซึ้งหนักหนา..ปัจจุบัน ซื้อในอเมริกา ก็ตกขวดละร้อยกว่าเหรียญ   แพง เพราะ...เป็นของดีที่มีน้อย.. จากคุณ : WIWANDA - [ 30 มี.ค. 50 12:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ไปกินบุฟเฟต์ที่ Elite Grill Bar ซอยพร้อมพงษ์มาครับ ใครชอบเนื้อย่างลองไปชิมดูนะครับ อาหย่อย มีไวน์ชิลีเป็น housewine บริษัทไวน์ที่อยู่ต้นซอยยังไม่สามารถแผ่อิทธิพลไปถึง ช่วงนี้รู้สึกวงการไวน์มันเงียบๆนะครับ ใครรู้สึกเหมือนผมหรือปล่าว จากคุณ : d19 (D19) - [ 30 มี.ค. 50 20:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ยังคงเข้ามาอ่านอย่างสม่ำเสมอครับผม จากคุณ : loverboy - [ 31 มี.ค. 50 07:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 110 Chateau Grillet ไวน์ในตำนาน ภาพประกอบการเดินทางคับผม จากคุณ : nicky (Nic Nenin) - [ 31 มี.ค. 50 16:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 111 สวัสดีคับ อาวิและทุกๆท่าน มิได้หายไปไหนครับผม แต่มีโอกาสได้เข้าเน็ตช่วงนี้น้อยไปหน่อยครับ พอเข้ามาเห็นอาวิช่วงนี้ไม่ค่อยได้โพสครับ เลยมิได้ทักทายครับ ส่วนเว็บอื่นก็เข้าน้อยลง และเข้าไปนึกคำพูดจะโพสไม่ออกครับ อาจเป็นเพราะงานหลวง งานราษคับ ขอบคุณอาวิมากครับ ลูกศิษย์คนนี้อยากเจออาจารย์เหลือเกินครับ อยากได้มีโอกาสจะทานไวน์กับอาจารย์สักครั้งครับ อากาศที่ ซานฟราน กำลังดีเลยนะครับ แต่ที่เมืองไทยร้อนมากๆครับ ร้อนสุดๆเลยครับ วันมะรืนพี่เขยก็กลับมาแล้วครับ ไม่รู้ได้อะไรมามั่ง ( จะรีบไปรับไวน์กลับเลยเดี๋ยวช้ำ ) ดีนะที่กลับเย็นๆ จากคุณ : เจีย ส. วิวันดา (jearjear) - [ 1 เม.ย. 50 23:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 112 สวัสดีค่ะ คุณ jearjear หายไปจนเป็นห่วง..อากาศที่ซาน ฟรานในฤดูนี้ ดีค่ะ อาทิตย์หน้าก็จะเป็นการก้าวสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว.. เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน..ไม่แก่อย่างไรไหว.. เราคงได้เจอกันแน่ค่ะ เพราะยังไงก็ต้องไปเมืองไทย เพียงแต่เคลียร์คิวยังไม่ลงตัวเลยค่ะ.. ขึ้นกระทู้ใหม่ซะทีนะ..ยืดมานานแล้ว.. จากคุณ : WIWANDA - [ 2 เม.ย. 50 13:46:52 ]