PANTIP.COM : K5221571 ทำไมตอน ร.9 เสด็จประพาสยุโรปและอเมริกาถึงได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ [ประวัติศาสตร์]

ความคิดเห็นที่ 3

ความเห็นส่วนตัวนะคะ

ง่าย ๆ สั้น ๆ แต่เป็นสัจจธรรมในเชิงปรมัตถ์น่ะค่ะ

"บุญ" ค่ะ

คุณหมาป่าดำเป็นคนช่างสงสัย เห็นเคยตั้งคำถามหลายหมวดความสนใจดีมาก

ดีค่ีะ เป็นวิสัยของผู้มีปัญญา

เชื่อไหมคะ มีวิชาหนึ่งที่จะทำให้คุณหมาป่าดำเข้าใจได้เอง และหมดสิ้นความสงสัย ในเรื่องความเป็นไปต่าง ๆ ของโลกนี้

ว่า "ทำไม" เรื่องนี้จึงเป็นเช่นนั้น เรื่องนั้นจึงเป็นเช่นนี้

ลองไปฝึกเจริญสติในแนวสติปัฏฐาน ๔ ดูสิคะ เดี๋ยวก็จะค่อย ๆ เข้าใจเอง

อย่างเรื่องที่ถามมาในกระทู้นี้ เป็นเรื่องของวิบาก ของวัฏฏะ น่ะค่ะ

ไม่ต้องไปถึงอย่างในคำถามของกระทู้นี้ก็ได้ แค่ว่า ทำไมคนเราถึงเกิดมาไม่เหมือนกัน สูง ต่ำ ดำ ขาว สติปัญญา ฐานะ ลักษณะนิสัย ฯลฯ

ไปเจริญสติแล้วมันก็จะร้องอ๋อ เองน่ะค่ะ

จริง ๆ แล้ว มันมีอะไรที่ลึกซึ้ง ซับซ้อน มากกว่าภาพข่าวสารคดีเก่าที่คุณหมาป่าดำมองเห็นอีกมากค่ะ

ภาพ และ เสียง สามารถบันทึกได้ในมิติหนึ่ง

แต่ประสบการณ์จริง ของคนที่ได้สัมผัส ได้อยู่ตรงนั้น ย่อมเป็นอีกสิ่งหนึ่ง

สิ่งที่เจ้าตัวสัมผัสได้ในขณะนั้น ๆ ด้วยตนเอง นั้น เขาใช้ "ใจ" สัมผัสน่ะค่ะ

เจ้าตัว "ใจ" ตัวนี้ล่ะค่ะ จะเป็นกุญแจสำคัญในการไขข้อข้องใจทั้งหลายทั้งมวลของคุณหมาป่าดำได้

คือไม่ต้องฝึกขั้นก้าวหน้ามากมายอะไรเลยน่ะนะคะ

รับประกันได้อย่างหนึ่งเลยว่า แค่ไปฝึกแค่พื้นฐานให้ถูกวิธี ได้ความเข้าใจเบื้องต้น แล้วกลับมาดูภาพข่าวดังกล่าวใหม่ ก็จะต้องอึ้ง ๆ กับตนเองไป เพราะจะสามารถ "เห็น" และ "เข้าใจ" อะไรอีกหลาย ๆ อย่าง ที่ไม่เคยเห็น และไม่เคยเข้าใจมาก่อน
ู
คำตอบทุกอย่างของชีวิตมันอยู่ตรงหน้า อยู่ในภาพข่าวที่คุณหมาป่าดำดูอยู่แล้วนี่แหละค่ะ

เพียงแต่เราต้องฝึกกำลังสติของเรา ให้สามารถเข้าไปรับรู้
เข้าไปเห็น และเข้าใจได้เท่านั้น

ตอนนี้ เดาว่าคุณหมาป่าดำอาจจะยังอายุไม่มากนัก และ/หรือ อาจจะยังไม่เจอแบบฝึกหัดหนัก ๆ ของชีวิต ที่ทำให้ได้ฉุกคิดอย่างหนึ่งว่า คำตอบทางโลกทั้งหลายก็อาจจะพอมี "ตรรกะ" ู่และมีเหตุมีผลไปตามทางของมัน แต่มันก็ยังดูจะเหมือนมีอะไรที่ขาดไปอยู่อีกบางอย่าง ในคำตอบนั้น ที่ยังไม่เติมเต็ม

คล้าย ๆ กับที่คนต่างชาติบางคนอาจไม่เข้าใจได้ ว่าทำไมคนไทยหลายคนน้ำตาซึม น้ำตาไหล สะอื้นด้วยน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ ตอนที่ในหลวงทรงเสด็จฯ ออกสีหบัญชร

คำตอบทางโลกที่คนไทยบอกฝรั่งที่ไม่รู้จักเมืองไทย หรือไม่รู้จักในหลวงในขณะนี้ไปว่า ก็เพราะทรงทำคุณงามความดี ทรงเสียสละอะไรให้ประเทศชาติมากเหลือเกิน ฝรั่งก็อาจจะยังไม่เข้าใจอยู่ดี ่ว่าทำไมถึงอาการเดียวกันทั้งประเทศ ตอนดูทีวี

ตรงนี้ล่ะค่ะ ที่วิชาการเจริญสติตอบให้ได้

ซึ่งก็อาจจะสอดคล้องกับคำถามของคุณหมาป่าดำข้อนี้พอดีโดยบังเอิญ

"จิต" ของมนุษย์ สัมผัสถึงอานุภาพความดีงามได้ค่ะ

"จิต" เรานั้น "จำ" ได้

สำหรับกรณีเมืองไทยนั้น คงไม่ต้องพูดถึง ว่าโอกาสที่เรามีกรรมผูกพันกันมาทั้งประเทศ ในฐานะข้าแผ่นดินของในหลวงนั้นมีมากแค่ไหน ไม่ใช่เฉพาะชาตินี้

และต่อให้มองเฉพาะแค่ชาตินี้ จิตคนเราสัมผัสได้ถึงมหากุศล มหาทาน ที่ทรงสร้างค่ะ

ไม่นับทุกวันพระที่ทรงอุโบสถศีลและทรงแผ่เมตตามาคุ้มครองปกปักรักษาเราอยู่ตลอดน่ะนะคะ

ขนาดเราสวดแผ่เมตตา สัพเพ สัตตา แล้วน้อมจิตไปตามนั้น สัตว์ทั้งหลายยังรับรู้ได้เลยค่ะ

แล้วจิตของผู้ที่ทรงทั้งศีล ทั้งทศพิธราชธรรม ครบถ้วน และทรงสร้างมหาทานมาตลอด ท่านจะทรงแผ่เมตตาให้เราเสมอ เราจะรับรู้ไม่ได้เชียวหรือ? ถ้าจิตใจเราไม่้ได้หยาบกระด้าง หมดหวังที่จะฝึกแล้วน่ะนะคะ

นั่นล่ะค่ะ คือเหตุผลหลัก ของวินาทีที่เสด็จออกสีหบัญชร อานุภาพของมหาทาน ของศีล ของทศพิธราชธรรม และ เมตตาภาวนา ที่ทรงแผ่ให้เรามาทุก ๆ วันพระนั้น "จิต" ของเรารับรู้ได้ค่ะ

เพราะเป็นการส่งจาก จิต ดวงหนึ่ง ทีี่่มีกำลังของบุญของกุศลมหาศาล เพียงพอที่จะส่งเผื่อแผ่ไปให้กับจิตอีกหลายสิบล้านดวงนั่นเอง

ไม่มีใครปฏิเสธความรู้สึกที่เกิดขึ้นในเบื้องลึกของจิต ณ วินาทีนั้นได้หรอกค่ะ ถ้าเขาคนนั้นจะจริงใจกับตนเองน่ะนะคะ

ไม่ต้องพยายามไปหา "ตรรกะ" อธิบายให้ลำบากหรอกค่ะ ปรากฏการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในใจ หลายครั้งมันเกินกว่าเงื่อนไขของภาษาที่จะไปพรรณา หรือ บรรยาย

ภาพข่าวที่คุณหมาป่าดำเห็น เรื่องฝรั่ง ถวายการต้อนรับ ก็คงจะไม่ต่างกันมากในหลักการ แต่อาจจะต่างกันในรายละเอียด

ในที่นี้ คนเราไม่ได้เกิดมาชาติเดียวน่ะนะคะ

เอาง่าย ๆ เคยไหมคะ เจอหน้าใครแล้วถูกชะตาเลย

หรือมีบ้างไหม ที่เห็นใครแ้ล้วไม่ชอบหน้าอย่างแรง

นั่นล่ะค่ะ อีกลักษณะของ "จิต" ที่เขา "จำ" ได้

พระบารมีฯ และ พระบุญญาธิการของในหลวง ที่มีต่อฝรั่้งที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้านั้น ก็คล้าย ๆ กันน่ะค่ะ

ไม่ได้มีใครเกณฑ์ให้เขามา แต่ดูสีหน้าสิคะ มาด้วยความชื่นชม ยินดี แสดงความต้อนรับอย่างจริงใจ

ศาสนาพุทธสอนเรื่อง เหตุ และ ผลค่ะ

"ธรรมทั้งหลาย หลั่งมาแต่เหตุ"

"จิต" เหล่านั้น "จำ" ได้ค่ะ

จะจำได้ว่าอย่างไรบ้างนั้น ก็เกินวิสัยผู้อื่นที่จะคาดเดา แต่มันสะท้อนอะไรอย่างหนึ่งออกมาว่า ผู้ที่จะได้รับการต้อนรับอย่างยินดี ได้ทั้งพระเกียรติยศสมบูรณ์พร้อมอย่างหาผู้ใดในยุคเดียวกันเสมอได้ยาก ในพระชนมายุเพียงเ่ท่านั้น จะต้องเคยทรงเป็น "ผู้ให้" ที่ทรงให้มาแล้วอย่างมากมายมหาศาลเกินคณนานับ กับคนจำนวนมากเหล่านั้นมาแล้วนั่นเอง

ถ้าจะฟังดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินไป ไม่เชื่อก็ได้ค่ะ

ดีแล้วล่ะค่ะ ที่ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ

แต่คนจริงนั้น การจะตัดสินใจเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ อะไรนั้น ย่อมลงมือพิสูจน์ด้วยตนเองก่อนเสมอ แล้วจึงค่อยตัดสินใจเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ

วิชานี้อย่างที่บอกนั่นแหละค่ะ พิสูจน์ได้ ข้ามกาลเวลา

คำถามของคุณหมาป่าดำนั้น จะว่าไปแล้ว ลึกซึ้งและมีความหมายมากนะคะ

เพราะถ้ามีผู้ที่สามารถพลิกจิตได้นิดเดียว ก็จะสามารถมองทะลุไปเห็นภาพใหญ่และเข้าใจอะไร ๆ ได้อีกมาก

เป็นกรณีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดมากกรณีหนึ่ง

อย่างที่บอกล่ะค่ะ

คำตอบของทุกอย่างที่เราสงสัยในชีวิต มันก็อยู่ข้างหน้าเรานี่เอง มันอยู่ในทุก ๆ สิ่งที่เราเห็นนี่ล่ะค่ะ

ไม่แน่ อีกหน่อย ถ้าได้ลองฝึกการเจริญสติแล้ว คุณหมาป่าดำก็อาจจะกลับมาตอบกระทู้ตัวเองนี้ว่า คำถามของตัวเองนี้แหละ คือคำตอบ!!

ใบ้ให้ว่ามันเป็นวัฏฏะ น่ะค่ะ

เพราะสิ่งนี้มี --> สิ่งนี้จึงมี

มันหมุนกันเป็นวงกลมน่ะค่ะ

แต่นี่ก็เป็นแค่ความพยายามที่จะลองอธิบายด้วยภาษาพูดน่ะนะคะ ซึ่งยังไงเสียก็ีมีข้อจำกัดของมัน

เรื่องของใจ ของ "ความเข้าใจ" ก็ต้องใช้ "ใจ" เรียนน่ะค่ะ ใช้ภาษาประดิษฐ์ความเข้าใจขึ้นมาไม่ได้ มันต้องเกิดจากข้างในไงคะ เจ้าความเข้าใจนี้ เพราะมันไม่เหมือนความจำ ที่ว่า จำเรื่องนี้ได้ จำเรื่องนั้นได้

ขอให้คุณ หมาป่าดำ ผู้มีอุปนิสัยของผู้เป็นบัณฑิต ในด้านของความสนใจใฝ่รู้ หมั่นซักถามอยู่เสมอ ได้มีโอกาสลองไปหัดเรียนการเจริญสติดูในเร็ววันนี้นะคะ

มีคำตอบเสมอ ในทุก ๆ เรื่อง สำหรับทุกคนค่ะ

สวัสดีค่ะ

จากคุณ : kenzen - [ 14 มี.ค. 50 03:38:15 ]