ความคิดเห็นที่ 1 วัดพระมหาธาตุราชบุรีถูกดัดแปลงและก่อสร้างมาโดยตลอด ด้วยความสำคัญของการเป็นจุดศูนย์กลางของเมือง คติวัชรยานเริ่มหายไปคติแบบเถรวาทและความเชื่อเรื่องของมหาธาตุเจดีย์ได้เข้ามาแทนที่ กำแพงถูกปล่อยทิ้งแต่ตัวปราสาทถูกปรับรื้อและสร้างขึ้นใหม่บนรากฐานเดิม หากนับตามผังของอโรคยศาลา ที่มีโคปุระเพียงด้านเดียวของทางเข้า มีกำแพงล้อมเป็นรูปสี่เหลี่ยมและมีบรรณาลัยหรือหอพราหมณ์อยู่ทางด้านซ้าย ก็ยังคงผังตามคติของบายนอย่างชัดเจน ภาพฐานของศาสนสถานที่เชื่อว่าเป็นเจดีย์ในยุคหลังพุทธศตวรรษที่ 18  ที่รื้อศิลาแลงจากกำแพงแนวหลังและบรรณาลัยมาสร้างใหม่ในราวพุทธศตวรรษที่ 20 พร้อม ๆ กับการสร้างพระปรางค์ขึ้นใหม่ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 13:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ฐานขององค์ปรางค์ประธานและพระพุทธรูปหินทรายแดงในคติพุทธศาสนาที่แตกต่างกัน แสดงให้เห็นว่า คนในยุคต่อมาปรับเปลี่ยนวัสดุที่หินทรายแดงที่เป็นโครงสร้างของปราสาท มาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก( หากสังเกตุให้ดี ทั้งที่อยุธยาและในพื้นที่ที่เชื่อว่ามีอิทธิพลของวัฒนธรรม"ปราสาท" จะพบเห็นพระหินทรายที่แยกส่วนกัน ทั้งเศียร พระอุระและพระชงฆ์ ฐานนั่ง ก็เพราะวัสดุเดิมคือหินทรายที่เป็นส่วนประกอบของปราสาทหินนั่นเอง) ฐานขององค์ประธานยังคงกรุด้วยศิลาแลงอันเป็นวัสดุหลักในการสร้างปราสาทในยุค BC.18 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 13:53:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ครุฑยุคนาค ศิลปะแบบบายนเนี๊ยบ ๆ ก็ยังคงอยู่ ลบเลือนไปมากแต่ก็ยังคงเสน่ห์ของคติฮินดูที่วัชรยานยืมมาใช้ จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 13:54:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หากคิดเรื่อยเปื่อยไป น่าจะมีทางเดินกากบาทและเศียรนาคประดับเช่นที่ปรากฏที่พนมรุ่ง พิมาย และอโรคยศาลาอย่างปราสาทตาเหมือน แต่ก็น่าเสียดาย เพราะด้านหน้าโคปุระของปราสาท(มหาธาตุราชบุรี) ถูกปรับที่ดินกลายเป็นที่จอดรถและชุมชนมาซ้อนทับมากมาย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 14:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เศียรครุฑยุดนาคอีกด้านหนึ่ง สะบักสะบอมตามกาลเวลา แต่ก็ทำให้"จินตนาการ"ได้ถึงยุคสมัยที่เขาเคยตั้งอยู่ เคยรุ่งเรือง จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 14:02:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อดับสลายก็เกิดใหม่ ร่องรอยของการรื้อศิลาแลงไปสร้างองค์ปรางค์ และก็มีร่องรอยของการใช้วัสดุใหม่อย่างอิฐเข้าไปแทนที่ เช่นในส่วนด้านข้างซ้ายของแนวกำแพงแก้วที่ขุดแต่งให้เห็นรากฐานของการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ของศาสนาสถาน [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 14:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ฐานของวิหารในปัจจุบัน สร้างทับซ้อนกัน 3 ครั้งขึ้นไป (เหมือนกรุงทรอย 9 ชั้น )ยังไม่แน่ชัดว่าฐานล่างสุดคือสิ่งก่อสร้างใน 18 BC. หรือ ใน หลัง 20 BC. ที่รื้อเอากำแพงแก้วมาประยุกต์สร้างใหม่เป็นฐานของวิหารตามผังแบบลังกาวงศ์ (วิหารอยู่หน้าพระสถูปหรือปรางค์) ผนังวิหารส่วนบนสุดเป็นอิฐ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 14:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ร่องรอยของเสาไม้หรือเดือยหรือตรงบริเวณกำแพงแก้ว ด้านซ้าย ตอนนี้กำลังขุดแต่ง เป็นประตู? ก็ไม่น่าใช่ หรือเป็นเทคนิคการเข้าหินเพื่อยึดโครงกำแพงให้เสถียร ? [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 14:14:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อปีที่แล้ว ผมได้รับหน้าที่กรรมการในคณะกรรมการยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวจังหวัดราชบุรี จึงได้รู้ว่า จังหวัดได้จัดสรรงบประมาณเพื่อการบูรณะวัดมหาธาตุ ตามงบประมาณยุทธศาสตร์ CEO จังหวัด กรมศิลปากรเป็นผู้ดูแล ผมสังหรณ์ใจว่า กำแพงพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ปรากฏแห่งเดียวในระเทศไทย จะถูกสังเวยอีกครั้งด้วยวิธีการ"จัดซื้อจัดจ้าง" โดยการ"สร้างใหม่" จึงรีบเข้าไปเก็บรูปก่อนที่จะมีการขุดแต่งและบูรณะ เสียดายว่าภาพDigital หายไปหมดเพราะเครื่องโดนไวรัส แต่กระนั้นผมได้พบว่า งบประมาณกว่า 5 ล้านบาท ได้เทไปในเรื่องเดิมคือเรื่องก่อสร้างโดยการรื้อและสร้างกำแพงแก้วขึ้นมาใหม่ จากสภาพดั่งเดิมที่ไม่สวยงาม บิดเบี้ยวกลายมาเป็นกำแพงสมัยใหม่ที่สวยงามเรียบร้อย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 14:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขั้นตอนการขุดแต่งและการบูรณะก็ยังใช้วิธีการเดิม คือขุดแต่ง และจนถึงรากฐาน เก็บรายละเอียดจากที่เจอ หลักฐาน Artifacts หลังจากนั้นก็สร้างใหม่ โดยเอาของเก่าที่ตนเองไม่รู้ไปวางไหน ไปกองทิ้ง นำศิลาแลงมาตัดขอบใหม่ให้คม ส่วนที่มนไปตามกาลเวลา คนบูรณะเขาว่าไม่สวย ที่ไม่สวยก็วางกองทิ้ง เช่นเดิม เพราะปัญญาของผู้มีอำนาจมีแค่นั้นจริง ๆ ไม่รู้จะวางไว้ไหน(รื้อมาแล้ว เอาของใหม่สร้างแล้ว) เลยกองรวมไว้ก่อน รอเอาไปสุมหลบหลังวัดตามที่เคยทำ (เพราะมีสมองแค่นี้จริง ๆ ) [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 14:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แนวปะทะของกำแพงเก่าและใหม่ จะเห็นการสร้างใหม่ขึ้นไปเลย อย่างนี้เขาไม่เรียกว่าบูรณะปฏิสังขรณ์ เพราะมันไม่ได้พัง ถึงจะพังก็ไม่ใช่ว่าจะต้องรื้อและสร้างใหม่ อย่ามาอ้างว่าไม่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพราะใช้เงินยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 14:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ที่น่าเจ็บใจที่สุด เพราะรูปตามขุดแต่งลอกพื้นมันหายไป ใครมีส่งมาให้ด้วยนะครับจะเป็นพระคุณ ผมจะใช้เทียบระหว่างเก่ากับสร้างใหม่ ตอนขุดแต่ง ลานจอดรถที่สร้างมาชิดถูกขุดรื้อ ทำให้เห็นว่าด้านหน้าของทางเข้า คือ"โคปุระ" ภาพที่เห็นคือสร้างใหม่แล้ว ใช้ศิลาแลงใหม่และสร้างกรอบเสาประตูใหม่ด้วย"ซีเมนต์" เลียนแบบสีหินทราย ผู้รับผิดชอบคิดได้แค่นี้เองจริง ๆ หรือ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 14:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อสร้างใหม่แล้ว ผู้มีอำนาจในการบูรณะโบราณสถานคงภูมิใจ ว่าได้ทำตามที่"โลกทัศน์"ของตนเองอย่างถูกต้อง (ใช่สิ เพราะอำนาจมันเป็นของคุณ แต่ที่ยิ่งหใญ่กว่าคือ ผู้มีอำนาจไม่ใช้อำนาจนั้นแต่กลับให้ปราชญ์ ราชบัณฑิตเป็นผู้สร้างสรรค์ แต่เปล่า ท่านกลับใช้อำนาจนั้นเอง) จึงเกิด"ปัจจบันสถานขึ้นมาใหม่" หากจะบูรณะ โคปุระเดิมฐานก็ไม่ได้พังทลายจนน่าเกลียด ทำไมไม่รักษาไว้ ใช้มาตรฐานอะไรวัดว่า โครงสร้างไม่คงทน หรือไม่สมบูรณ์ เสาปรอบประตูก็"ลักหลั่น" ตรงนี้เป็นที่รับไม่ได้มากที่สุด ถึงแม้ว่าหลักการอนัสติโลซิส คือการรื้อและประกอบใหม่ก็จริง แต่บอกกันแล้วว่าฝรั่งเศส ยังไม่เคยใช้บูรณะปราสาทหรือศาสนาสถานที่ทำด้วยศิลาแลง เมื่อพบหลักฐานว่ามีกรอบประตู เพราะมีเสากรอบประตูศิลาทรายแดงเป็นหลักฐาน ก็น่าจะใช้วัสดุเช่นเดียวกันกับที่พบในอโรคยศาลาอื่น ๆ คือหินทราย ทำใหครบกรอบ ไม่ควรใช้ปูนซีเมนต์มาเลียนแบบและสร้างเพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทำดูเหมือนของมันพัง ก็มันสร้างใหม่ จะไปทำเลียนแบบพังทำไม เอาอะไรคิดครับ ถามจริงเหอะ หินทรายแดงมันแพงมากไหม หรือมันจะประหยัดงบเอาไว้กินกันเองครับ "ข้า - ราด - ชา - กาน" (ฟ้องเสียงไม่ฟ้องรูป) [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 14:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 14 กรอบประตู ในยุคหลังอาจจะถูกแยกออกจากปราสาทไป เป็นวัสดุชั้นดีในการแกะสลักพระพุทธรูปโดยเฉพาะแบบยืน จึงถูกถอดออกไปได้ง่าย คงเหลือแต่เสาประดับกรอบประตู ศิลปะแบบบายน เห็นประตูถูกสร้างใหม่ด้วยทำซีเมนต์เลียนแบบแล้ว อนาจใจจริง ! [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 14:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ใกล้ ๆ มีโครงของกลีบขนุน วางทิ้งอยู่ น่าจะเป็นสมัยหลัง 18 BC. เพราะตัวศิลาแลงถูกแกะสลักลงไป หากเป็นของเริ่มแรก ดินแลงจะนุ่มและปั้นเป็นโครงคร่าว ๆ ได้ก่อนจะแข็งเป็นหิน น่าจะเป็นรูปยักษ์แบก ข้าง ๆ ก็น่าจะเป็นแกนของเจดีย์องค์เล็ก ๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 14:57:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 รูปสลักพระไภสัชยคุรุไวฑูรยประภา ที่เคยตั้งบนกำแพงแก้ว ส่วนที่ถูกรื้อ ก็พงเสียหายไปแล้วกว่าครึ่ง บ้างก็ไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ทั้งของหลวงและส่วนตัว บ้างก็ไปอยู่ในกรุเจดีย์ในยุคหลังใกล้ๆ เช่นที่เจดีย์หัก หรือเจดีย์ในวัดมหาธาตุเอง ส่วนหนึ่งก็มาวางกองรวมในวิหารล้อมพระปรางค์  นอนหงาย ใช่สิ .....เดี๋ยวนี้เขานิยมพระจตุคามรามเทพ ....พระไภสัชยช่วยแต่เรื่องสุขภาพไม่ช่วยให้รวย แอ่งแม้งอยู่ตรงนี้ละกัน จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 15:02:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 กระทู้นี้ อาจจะไม่ตรงใจใครที่ชอบแนวทางการสร้างใหม่ ก็บอกแล้วครับว่า"คิดแตกต่าง" เพราะรู้สึกเสียดายหลักฐานชั้นต้นชั้นดีที่ถูกทำลายโดย"วิธีการ"ที่เป็นแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยว(อีกแล้ว) คนกรม(อะไรไม่รู้ ง..งาชะมัด)เขาไม่เข้าใจ คิดว่าต้องใช้เงินงบประมาณเพื่อการก่อสร้างโบราณสถานเท่านั้นถึงจะทำงานได้ อยากเชิญชวนให้ไปเที่ยวกันนะครับ วัดมหาธาตุราชบุรี มีอะไรที่"ซ้อนทับ"และ"เล่าเรื่อง" ของประวัติศาสตร์โบราณคดี คติชนวิทยา และเรื่องบันเทิงใจทางการท่องเที่ยวมากมาย ไปกำแพงแลงแล้วมาชมเมืองสิงห์ ก็อย่าลืมเมืองราชบุรี และอย่าลืมเมืองโบราณนครปฐม ด้วยนะครับ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K5258553/K5258553.html ปรากฏการณ์เดียวกัน หากเห็นด้วยกับแนวคิด ช่วยรบกวนโหวตกระทู้ด้วยนะครับ หรือช่วยเก็บเข้าคลัง(ทำไม่เป็น) เผื่อจะได้ไปถึงท่านผู้ใหญ่ในบ้านเมืองกับเขาบ้าง หรือมีข้อมูลโต้แย้งใด ๆ ก็เชิญนะครับ จะได้ช่วยทำให้ผมเข้าใจถูกเสียทีว่า ที่ผมเห็นมันเรื่องปกติของ"ประวัติศาสตร์ไทย" ผมบ้าไปเอง โอ้ .....พระไภสัชยคุรุช่วยด้วย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 17 เม.ย. 50 15:14:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีครับ คุณ วรณัย แวะเข้ามาเยี่ยม และตักตวงความรู้ครับ ไม่ผิดหวังเลยสักครั้ง โหวตและเก็บแล้วจ้า จากคุณ : กัมม์ - [ 17 เม.ย. 50 16:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับผม ผมยังขอยืนยันว่า "ถ้าข้าราชการส่วนปกครองของไทย ใช้ปัญญามากกว่าอำนาจ ป่านนี้ประเทศนี้เจริญไปนานแล้ว แถมปัญหาอย่างไฟใต้ ก็คง ไม่สามารถก่อขึ้นได้อย่างที่เป็นทุกวันนี้แน่นอน" จากคุณ : Ace striker - [ 17 เม.ย. 50 19:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาโหวตกระทู้ และสั่งเก็บไว้ก่อน กันหาย ช่วงนี้ห้องสมุดของเรามีกระทู้ดีๆ เยอะเลยครับ ตอนนี้ยังไม่ว่างอ่าน ด้วยความสัจจริง วันมะรืนจะเข้ามาอ่านอย่างจริงๆ จังๆ ครับ จากคุณ : NickyNick - [ 17 เม.ย. 50 22:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โหวตให้ก๊าบบบบ....อย่างแรงๆๆ เลยครับ จากคุณ : orcahappy (orcahappy) - [ 18 เม.ย. 50 17:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาร่วมชมปัจจุบันสถานอีกแห่งค่ะ จากคุณ : kolokol - [ 19 เม.ย. 50 06:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมมาช่วยโหวตครับ ............ กระทู้นี้คล้ายกระทู้ที่ผมเคยตั้งไว้กรณีการบูรณะ" พระประโทน" ที่ จ.นครปฐม เลยครับ ประเทศเราผมว่ามาไกลแล้วน่ะครับ .......... แต่กลับเรื่องลักษณะนี้กลับปล่อยตามเลย ............. จากคุณ : สะตอคุง - [ 20 เม.ย. 50 15:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เพิ่งมีโอกาสมาอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์ อยากเห็นภาพก่อนการบูรณะของคุณวรณัยที่บอกไว้ใน คห.9 จัง แต่คงเป็นไปไม่ได้ ไม่เฉพาะความเจ็บปวดรวดร้าวของคุณวรณัยคนเดียวหรอกครับ อีกหลายคนก็เช่นกัน แต่ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้ นอกจากมาระบายในเวปแบบนี้แหละ เผื่อเรื่องราวจะไปถึงหูถึงตาท่านผู้มีอำนาจบ้าง คุณวรณัยคงต้องทำงานหนักอีกเป็นร้อยเท่าแล้วละครับ แต่ ก็ถือว่าเป็นความโชคดีหนึ่งของชาติไทย ที่คุณมีโอกาสเป็นกรรมการต่างๆ อย่างที่แสดงใน คห.9 จึงสามารถสะท้อนบางสิ่งบางอย่างที่เห็นว่าไม่ถูกต้อง หรือมีความคิดแตกต่างจากคนปกติอื่นๆ ได้ ขอเป็นกำลังใจให้อย่างแรงเลยครับ จากคุณ : NickyNick - [ 26 เม.ย. 50 13:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 กระทู้ซ่อมเจดีย์พระประโทนนครปฐม ที่คุณวรณัยแนบให้ใน คห. 17 ตอนนี้ลบไปแล้วครับเพราะหมดอายุ ไม่รู้ว่ามีใครคลิกเก็บเข้าคลังกระทู้ด้วยรึเปล่า เสียดาย จากคุณ : NickyNick - [ 26 เม.ย. 50 15:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนนี้บูรณะเสร็จยังครับตอนผมไปดูงานเพื่อหาทีมงานให้ผู้รับเหมาของกรมศิลปากร เพิ่งจะทำไปด้านเดียวมั้ง ไม่ถ่ายรูปพระปรางค์มาให้ดูมั่งล่ะครับผมว่าสวยงามมากๆเลยนะวัดมหาธาตุที่นี่เวลา มองดูแล้วเหมือนต้องมนต์ขลังเลย ผมเดินดูศิลาแรงแต่ล่ะก้อนแล้วขนลุกเลยว่าทำไมคนในสมัยนั้นช่างมีฝีมือในการแกะสลักหินยิ่งนัก จากคุณ : คนบุญผู้หยาบช้าคนบ้าหกสลึง - [ 30 เม.ย. 50 14:39:36 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เวรกรรมจำพราก จากคุณ : โพธิ์ประทับช้าง - [ 8 พ.ค. 50 01:13:21 ]