ความคิดเห็นที่ 1 ปราสาทกำแพงแลง ภาพที่เห็นมี 5 ยอด สร้างขึ้นในคติของพุทธศาสนาสายมหายาน หรือที่เรียกกันให้ตรงชัดคือวัชรยานตันตระ ไม่ใช่อย่างป้ายแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของหน่วยงานอีกหน่วยงานหนึ่ง(ซึ่งไม่เคยทำงานบูรณาการกันได้จริง ๆ ซักที) ทำไว้ อธิบายออกทะเลไปคนละทิศ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:09:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปราสาททั้ง 5 สร้างขึ้นในเวลาเดียวกันหรือเปล่า? ทำไมโคปุระจึงมียอดปราสาทสวยเช่นเดียวกับยอดโคปุระที่ปราสาทเมืองสิงห์ แต่ทำไมฐานจึงแตกต่างไปจากปราสาทองค์อื่น ๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มีหน้าต่าง ปิดม่านครึ่งหนึ่งแบบที่บายนด้วย เป็นหน้าต่างหลอก แต่ด้านนี้เปิดลายลูกมะหวดเต็มที่ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ด้านบนหลังคา การทำบราลีจากศิลาแลง ด้วยวัสดุหินทรายหินได้ยากมากในเขตภูเขาหินปูนอย่างตะนาวศรี ด้านล่างก็เลียนแบบหน้าต่างหลอกด้วยศิลาแลง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ภายในโคปุระก็สวยงามด้วยการเรียงหินแบบเขมร ขึ้นไป ปราสาทด้านหน้าทางทิศตะวันออกนี้ ไม่พังทลาย จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:25:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มุมนี้บูรณะมานานแล้ว โดยวัดที่เข้ามาตั้งทับโบราณสถาน ถึงจะไม่สวยถูกใจนัก แต่ก็โอนะ เพราะอย่างน้อยก็เป็นการเสริมขึ้นไปใหม่จากที่พังทลายลงมา [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณคุณวรณัยเป็นอย่างยิ่ง รูปจากสมัยรัชกาลที่ 5 หายากจริงๆ จากคุณ : มนัญยา - [ 23 เม.ย. 50 18:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กำแพงแบบเดิม ๆ ที่ผ่านกาลเวลามาอย่างโชกโชน จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 9 นี่คือศิลาแลงเก่า ที่สภาพเดิม ๆ มาแต่ครั้งแรกสร้าง ส่วนที่วางกองอยู่ ก็ต้องทำใจ เพราะเรายังไม่เคยทำให้"โบราณสถาน"มีคุณค่าเพื่อท้องถิ่นเลย เพราะมัวแต่จะไปทำเพื่อการท่องเที่ยว ( ความหมาย"คุณค่าเพื่อท้องถิ่น" ดู จากวารสารเมืองโบราณ ที่กล่าวถึงการใช้ปราสาทหินเป็นศาสนสถานเพื่อท้องถิ่นในภาคอีสาน ของคุณกฤช หลือลมัย) แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 50 18:32:50 จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:30:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณที่มีความรู้ใหม่ๆๆมาฝากคะ ติดตามกระทู้ของคุณมานาน +....+ จากคุณ : FanOfAncient - [ 23 เม.ย. 50 18:32:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กำแพงส่วนนี้ วัดในสมัยหลังบูรณะกันเอง จึงดูงามแบบแปลก ๆ จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มองหมู่ปราสาทกำแพงแลงจากทิศตะวันตก ปราสาททางทิศนี้พังลงไปแล้ว (หรือสร้างไม่เสร็จ?) จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ข้ามไปอีกมุมหน้าทางทิศตะวันตก ( ก็ไปถึงซะบ่าย แดดมาทางนี้แล้ว แสงสวย เลยต้องเน้นถ่ายจากตะวันตกาตะวันออก) จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปราสาทประธาน เป็นปราสาทที่มีลวดลายปูนปั้นสวยงามมาก ๆ ๆ (หากสมบูรณ์จะสวยซักปานใด) เทียบกับปราสาทอื่น ๆ ในเขตภาคกลางตะวันตก เช่นที่จอมปราสาท เนินทางพระ(สามชุก) ปราสาทที่หนองแจง ปราสาทเมืองสิงห์ ก็จะพบร่องรอยของการฉาบปูนบนผิว(อาคาร)ศิลาแลงแล้วแต่งด้วยลายปูนปั้น ทั้งลายบัวคว่ำ บัวหงาย ลายลูกประคำ ลายประจำยาม ฯลฯ หากใครเคยไปเที่ยวที่ปราสาทพะโค - บากอง ก็จะเห็นปูนปั้นทับไปบนปราสาทอิฐเช่นนี้ เชื่อได้ว่า ปราสาทหินที่สร้างในยุค 18 BC.นี้ มีความพยายาในการรังสรรค์ให้สวยงาม แต่หลายปราสาทก็ดูเหมือนว่าจะตกแต่งไม่เสร็จ หรือปูนหลุดร่วงตามกาลเวลาก็มาก ลวดลายของปราสาทประธานที่กำแพงแลง ยังชวนให้คิดถึงลวดลายที่ปรางค์วัดราชบูรณะ(ด้านบน)อายุอาจจะไล่เลี่ยกัน หรืออาจส่งอิทธิพลให้ ชั้นปราสาทด้านบน จะมีการ MODIFY หินศิลาแลงครั้งหลังสุด(ตั้งวัดแล้ว) พยายามทำเป็นรูปใบเสมา ส่วนพระพุทธรูปประธาน ทำจากหินทรายสีแดง เอามาจากวัดกฏีทองที่เป็นวัดร้างแล้วนำมาใส่ไว้ในปราสาทในสมัยหลัง ชื่อหลวงพ่อเพชร แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 50 21:03:10 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ลายปูนปั้นสุดคลาสลิคที่มีมาตั้งแต่ครั้งสร้างเสร็จ (เพราะไม่มีร่องรอยของการทับและถูกทับ) เป็นชั้นปูนที่ติดอยู่กับหินศิลาแลง นี่คือศิลปะแบบบายน Original ของภาคกลางเจ้าพระยานะครับ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ฐานของปราสาท เดิม ๆ มีร่องรอยของการแกะแนวโกลนเพื่อรับการตกแต่งด้วยปูนปั้น (แค่จินตนาการก็สวยมาก) [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 17 การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในยุคเถรวาทสมัยอยุธยา ประตูหลอกของปราสาทจะกลายเป็นซุ้มพระยืน และสร้างซุ้มจระนำยื่นออกมาทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ช่วงนี้ปราสาทหลังทางทิศตะวันตกอาจจะ(น่าจะ)ถูกรื้อลงเพื่อนำหินมาปรับปรุงปราสาทสามหลังแปลงเป็นพุทธสถาน ปราสาททางทิศใต้ จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:55:21 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อเดินมาถึงบริเวณนี้ ก็ให้เอะใจ เพราะมันกลายเป็นที่ราบ ตรงนี้เคยเป็นบ่อน้ำ หรือบารายนี่หน่า? จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 18:57:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มองหาไป เดินเข้าไปอีกด้านของกำแพง ด้วยกลัววจะจำตำแหน่งผิด ก็ไม่พบ เห็นป้ายแต่ไกลเข้าไปอ่านดู เขาเขียนว่า "ประกาศ พื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นสระน้ำ "ตามที่กรมศิลปากรได้รับงบ(รับประทานเพื่อการสร้างโบราณสถานตามใจฉัน)ประจำปี 2545 ดำเนินการบูรณะขุดแต่งโบราณสถานในวัดกำแพงแลง แล้วขุดหาหลักฐานทางโบราณคดีของสระน้ำในวัดว่าเป็นองค์ประกอบเดียวกับองค์ปรางค์หรือไม่ นั้น ผลปรากฏว่าจากการขุดตรวจสอบแล้วไม่พบหลักฐานใด ๆ ที่เป็นส่วนประกอบกับองค์ปรางค์ จึงมีมติจากคณะกรรมการวิชาการ(Ku) ให้ทำการถมสระน้ำเพื่อป้องกันการล้มพังทลายของส่วนกำแพงแลง สำนักงานศิลปากร ....ใจหายกับคณะกรรมการวิชาการฯ มากครับ ที่มีอำนาจขณะลงมติเพื่อทำลายองค์ประกอบสำคัญของ"อโรคยศาลา"ได้ ทั้ง ๆ ที่พบพระอวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี สัญลักษณ์สำคัญของโรงพยาบาลก็แล้ว เอาอะไรคิดครับ นักวิชาการ ? [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 19:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สระน้ำหรือบ่อน้ำที่ท่านผู้มีอำนาจแต่ไม่มีสมองหรือสามัญสำนึกของพระราชดำรัส " ......อิฐเก่า ๆ แผ่นเดียวกัมีค่า ควรที่จะรักษาไว้....." บ่อน้ำนั้น ไม่ต้องไปขุดอะไรหรอกครับ เพราะเขาเรียกว่า "บาราย" ขอบของบ่อกรุด้วยศิลาแลงทั้ง 4 ด้าน เจตนาของบารายคือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หรือมหาสมุทรส่วนย่อของคติความเชื่อ น้ำเป็นตัวเชื่อมของโลก สวรรค์และโรคภัยไข้เจ็บ ที่สำคัญ บ่อน้ำถือเป็น"โบราณสถาน"โดยตัวของมันเอง ไม่ต้องอ้างความเกียวข้องไปถึงองค์ปรางค์ เพราะองค์ปราสาทก็คือโบราณสถานเช่นเดียวกัน บ่อน้ำหรือบารายก็มีคุณประโยชน์และทำหน้าที่หนึ่งของคติความเชื่อในศาสนา ปราสาทก็เช่นกัน การโมเมเอาสระน้ำที่มีการก่อสร้าง"กรุ"บ่ออย่างชัดเจนด้วยศิลาแลงก้อนใหญ่ ดูไม่เรียบร้อยก็จริง แต่มันคือมรดกที่ตกทอดมาของอโรคยศาลาแห่งนี้หรือโบราณสถานของชาติ ไม่ใช่ของกรมบ้าอำนาจ เดิมภาพควรเป็นเช่นนี้ ( ผมตัดต่อภาพบ่อน้ำจากอโรคยศาลาแห่งอื่น ๆ มา) [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 19:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 งวดนี้ถือว่า"สำนึก"ของผู้บูรณะแย่มาก นึกแต่เหตุผลที่ละเลยความสำคัญขององค์รวม ความศักดิ์สิทธิ์ของโบราณสถาน ชอบแต่จะใช้งบประมาณเพื่อทำให้สวยงามรับการท่องเที่ยวและบ้าภูมิใจไปคนเดียว โดยไม่รู้ว่าตัวเองทำลาย"บาราย"ของศาสนาสถานในสมัยที่บรรพบุรุษของตัวเองก็ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ นี่คือบารายที่ถูกถมแล้ว จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 19:17:40 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อโรคยศาลาทุกแห่งจะมีบ่อน้ำหรือบาราย เพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรม พอเข้าใจคำว่า"พิธีกรรม"ไหมครับ ท่านผู้มีอำนาจในการถมโบราณสถาน ข้ออ้างเรื่องกำแพงก็ดูจะตลก กลังกำแพงถล่ม ปราสาทนี้อยู่มาได้นานกว่าหน่วยงานคุณหลายเท่า และจะอยู่ตลอดไปนานกว่าหน่วยงานที่ใช้อำนาจเช่นนี้ นี่คือกำแพงที่ติดกับบ่อน้ำ หากบ่อน้ำหรือบารายตั้งอยู่ในกำแพง ก็หาได้ยากในโบราณสถานแบบปราสาท เช่นที่พิมายก็มีบ่อน้ำอยู่หลังระเบียงคด บ่อน้ำแทนความหมายมหาสีทันดรในคติเขาพระสุเมรุในคติความเชื่อหนึ่ง บ่อน้ำหรือ"สระน้ำ"ที่อ้างว่าไม่มีอะไร มันตั้งอยู่ในปริมณฑลของพระโลเกศวรเปล่งรัศมีที่มีความสำคัญมากในสมัยหนึ่งที่ผู้คนต้องพึ่งพาอำนาจเหนือธรรมาติ ซึ่งน่าจะมีปราสาทของพระไภสัชยคุรุไวฑรยประภาอยู่หนึ่งองค์ในนั้น ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่โครงสร้างทางกายภาพอย่างเดียว มันอยู่ที่"จิตใจ"ด้วย ไม่แปลกใจเลยที่"สำนัก"รักสมบัติของชาติของคนไทยมันหายไป ก็เพราะค่า - ราด - ชา - กาน ( ฟ้องเสียงไม่ฟ้องรูป) หน่วยงานหนึ่งยังลุแก่อำนาจได้ถึงขนาดนี้ ภาพกำแพงที่เขาอ้างว่าจะพังลงมา แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 50 20:58:51 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 19:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 50 19:46:28 จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 19:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สุดท้ายนี้ ขอเชิญพระราชดำรัส มอบแทนใจแด่ผู้มีอำนาจในการถมบารายของอโรคยศาลา ปราสาทศรีชัยวัชรบุรีเพียงเพราะขุดหาสมบัติแล้วไม่พบอะไรจึงถมเพราะง่ายต่อการใช้เงินงบประมาณ (ดีกว่าบูรณะเช่นที่ทำกับปราสาทเมืองต่ำ เขาตกท้องช้างอยู่ดี ๆ ก็ไปทำให้ตรงซะ) " ..การสร้างอาคารสมัยนี้  คงจะเป็นเกียรติสำหรับผู้สร้างคนเดียว  แต่เรื่องโบราณสถานนั้นเป็นเกียรติของชาติ  อิฐเก่า ๆ แผ่นเดียวก็มีค่า  ควรช่วยกันรักษาไว้  ถ้าเราขาดสุโขทัย  อยุธยา  และกรุงเทพฯ  แล้ว  ประเทศไทยก็ไม่มีความหมาย  ไม่ควรจะเอาของใหม่ไปปนกับของเก่า  ควรจะรักษาของเก่าไว้เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตใจของพลเมือง  และสิ่งเหล่านี้เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ  จึงควรรักษาไว้ .." " ..โบราณวัตถุ  ศิลปวัตถุ  และโบราณสถานทั้งหลายนั้น  ล้วนเป็นของมีคุณค่า และ        จำเป็นแก่การศึกษาค้นคว้าในทางประวัติศาสตร์  ศิลปะและโบราณคดี  เป็นเครื่องแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของชาติไทยที่มีมาแต่อดีตกาล  สมควรจะสงวนรักษาให้คงทนถาวรเป็นสมบัติส่วนรวมของชาติไว้ตลอดกาล...." หน่วยงานราชการยังไม่ทำและทำไม่ได้ แล้วจะมารณรงค์ให้ใครรัก"โบราณสถาน" ของแผ่นดิน ของท้องถิ่นของตนเองได้ ทั้งหมดนี้คือความเห็นที่แตกต่างของผม กับการได้ไปเยือนปราสาทกำแพงแลง เมืองเพชรบุรีอีกครั้งครับ ภาพ: แนวศิลาแลงของบาราย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของปราสาท ริมทางเข้าขวา อันเป็นจุดสัญลักษณ์เดียวกันกับที่ปรากฏในวัฒนธรรม"ปราสาท"วัชรยานตันตระของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทั่วพระราชอาณาจักร แต่ที่ศรีชัยวัชรบุรีนี้"ใช้มติ"( ? )ถมทิ้งไปแล้ว จากคุณ : วรณัย - [ 23 เม.ย. 50 19:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เศร้าสลดใจมากกับการทำลายสมบัติของชาติโดยหน่วยงานที่มีหน้าที่อนุรักษ์โดยตรง ทุกปีเราจะร่วมเดินทางกับนิสิตไปดูสถานที่ทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี โดยเฉพาะปราสาทหินทางอีสาน บางทีก็ไปจัดนิทรรศการประวัติศาสตร์ให้แก่โรงเรียนประถมในอำเภอทางอีสาน เพื่อปลูกฝังให้เด็กๆ รู้คุณค่าและหวงแหนทรัพยากรในท้องถิ่น แต่หน่วยงานราชการมาทำซะแบบนี้ เดี๋ยวจะไปถามอาจารย์ที่เป็นนักโบราณคดีดูว่าการบูรณะโบราณสถานจำเป็นต้องฝังกลบเลยหรือไม่ ทำไมหลายๆ หน่วยงานในประเทศนี้ถึงมี จนท. ที่...นักนะ เคยอ่านกระทู้ที่อดีตสส. นครราชสีมาคนดังที่เปลี่ยนสีไปสังกัดพรรครัฐบาลเมื่อสมัยที่แล้วกับข้าราชการระดับสูงๆๆๆของจังหวัดนั้น สั่งให้ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีย์ ด้วยการตัดต้นไม้ใหญ่ สร้างถนนและเทปูนถมแนวฐานกำแพงเมืองเก่า เพียงเพื่อให้ดูสวยงาม แต่สรุปคือต้นไม้ถูกตัด อากาศร้อนมากขึ้น เพราะไม่มีต้นไม้และพื้นกลายเป็นปูนไปหมด ขุดทำลาย รวมทั้งฝังกลบโบราณสถานด้วย กระทู้นั้นบอกว่ากรมศิลป์กำลังจะฟ้อง หรือฟ้องก็ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าเดี๋ยวก็หายไป อยากบอกว่ากรมศิลป์ไปช้ากว่าเอกชนเสมอ ไม่ว่าจะปีไหนๆ แต่สิ่งที่ได้คือความหายนะของมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาติ แต่คนพวกนี้คงไม่สนหรอก เพราะจิตใจและสมองไม่เจริญพอที่รู้คุณค่าของความเจริญทางวัฒนธรรมเหล่านี้ สงสารประเทศชาตินัก ทำไมคนมีอำนาจ หน้าที่ ถึงเห็นแก่ตัว มัวเมาอำนาจ บังอาจเอื้อม กร่าง เห็นแต่ป.ย.ทางวัตถุที่เป็นตัวเงินตัวทอง หรืออยากมีเงินมากมายจะได้เป็นตัวเงินตัวทองแทนเป็นคน ใครที่ทำร้ายประเทศชาติ แม้ชาตินี้ชีวิตจะมั่งมีศรีสุข แต่ความสุขทางใจจะรู้จักหรือไม่ก็ไม่รู้ แล้วกรรมมันติดจรวดนะ พอดีกว่า ชักไม่ค่อยเกี่ยวกับกระทู้ แต่ก็ยังเกี่ยวนะ จากคุณ : OY - [ 23 เม.ย. 50 23:24:11 A:218.212.225.178 X:218.186.8.11 TicketID:141280 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผิดซ้ำซากครับ เฮ้ออออออออออออออออออออ จากคุณ : CrazyHOrse - [ 24 เม.ย. 50 11:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ยังไม่ได้อ่านละเอียดเช่นเคยครับ ตามอ่านไม่ทัน เพราะยังยุ่งอยู่กับกระทู้รบทัพจับศึกในห้องเพชรพระอุมา ส่วนกระทู้เที่ยวกับหนุ่มสุพรรณ ก็ขอบายเลยนะ กำลังยุ่ง วัดกำแพงแลง ผมเคยไปเที่ยวเมื่อราวปี 30-31 ตอนนั้นไปนอนบ้านเพื่อนช่วงปิดเทอมหลายคืน ขี่จักรยานชมเมืองไปเรื่อยๆ ครับ ก็แปลกใจเหมือนกันที่มีการก่อสร้างด้วยศิลาแลงทางแถบมุมนี้ของประเทศ  เห็นแต่ซากโบราณสถานและศิลาแลงร่วงระเกะระกะ ยังไม่มีการบูรณะตามหลักวิชาขณะนั้น ใจก็ยังรำลึกถึงวัดนี้อยู่เสมอว่า หากมีบุญจริงก็คงจะได้ไปเที่ยวชมอีกครั้ง พร้อมๆ กับวัดอื่นๆ ข้างเคียงนี้ด้วย ที่บ่นว่ามีบุญรึเปล่า เพราะทั้งๆ ที่เคยมีความหลังครั้งสำคัญกับคนเมืองเพชร มีญาติพี่น้องอยู่เมืองเพชรเยอะ พี่ชายของตัวก็มีเมียเป็นคนเพชร แต่ไม่ได้เที่ยวเมืองเพชรเป็นจริงเป็นจังซักครั้งเดียว ไม่เห็นความสำคัญของเขา สาวเลยไม่แล  แง แง แง จากคุณ : NickyNick - [ 24 เม.ย. 50 13:04:07 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านแล้ว อึ้งค่ะ อยากเห็นภาพก่อนบูรณะมาประกอบการตัดสินใจจังเลย จากคุณ : หมวยแก้มป่อง - [ 24 เม.ย. 50 16:00:12 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เพิ่งมาอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์อีกครั้ง และเปิดขยายภาพดูอีกที อึ้งเช่นกัน เสียดายในคุณค่าของเก่าๆ ที่ต้องสูญหายไปกับการบูรณะแต่ละครั้ง เสียดาย บาราย จริงๆ ไม่รู้ว่าคุณวรณัยจะต้องเหนื่อยอีกนานเท่าไรกว่าเรื่องเหล่านี้จะรู้ไปถึงหูของผู้เกี่ยวข้อง และได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง หรือจะต้องรอให้กลายไปเป็น ปู่โสม อีกคน จากคุณ : NickyNick - [ 25 เม.ย. 50 15:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 30 Voted! จากคุณ : Louvorian - [ 26 เม.ย. 50 15:21:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นแล้วสลดใจจังเลยอ่ะ  ไม่เคยเที่ยวเพชรบุรีอย่างจริงจังซักที  นอกจากไปเที่ยวทะเลแล้วก็ชมเขาวังแค่นั้นเองค่ะ จากคุณ : biebie999 - [ 26 เม.ย. 50 18:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กรมศิลปากร เคยบูรณะอะไรให้เหมือนรูปแบบดังเดิมได้บ้างครับ จากคุณ : ลูกเต่า...คลานต้วมเตี้ยม - [ 27 เม.ย. 50 12:49:02 A:58.9.6.45 X: TicketID:143425 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เป็นงานซ่อมทำลายที่ชวนให้อนาจใจจริงๆ จากคุณ : NoxNoctis - [ 27 เม.ย. 50 19:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กรมศิลป์ฯ บริษัทผู้รับเหมา และ ทุกคน บนผืนแผ่นดินไทยควรมีจิตสำนึกว่า "โบราณสถานไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของกรมศิลป์ฯ ของเรา หรือ ของใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็น กรรมสิทธิ์ของบรรพชน เราไม่มีสิทธิ์ไปทำลาย เรามีหน้าที่เพียงแค่ดูแลรักษาไว้ซึ่งความเป็นของแท้ และส่งมอบให้กับคนไทยในอนาคตต่อไป ถ้าวันนี้ เราไปเปลี่ยนแปลงหรือทำลายความเป็นของแท้ ก็เท่ากับว่าไปบิดเบือนและทำลายประวัติศาสตร์ ของชาติ ทำลายบ้านตัวเอง" ปัญหานี้ต้องได้รับการแก้ไขเร่งด่วน ด้วยวิธีทางกฏหมาย (บทลงโทษ), การตรวจสอบโดยภาคประชาชน, การประชาสัมพันธ์และการให้ความรู้ รวมถึงการ ปลูกฝังจิตสำนึกให้กับคนในชาติเรื่องโบราณสถาน และการอนุรักษ์ที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่ออนาคต ของชาติจะได้ไม่มืดมนและเดินผิดทิศทาง สำหรับท่านที่มีกล้องถ่ายรูป ก็สามารถช่วยทำการ อนุรักษ์โบราณสถานได้ง่ายๆ โดยการเก็บภาพถ่าย โบราณสถานต่างๆ ทั้งที่เป็นของแท้และของแปลกปลอม ในอนาคตภาพเหล่านี้จะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ มหาศาลสำหรับการศึกษาและการอ้างกรรมสิทธิ์ โดยชอบธรรมของผู้คนในอนาคต แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 50 01:52:52 แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 50 01:51:12 จากคุณ : โพธิ์ประทับช้าง - [ 8 พ.ค. 50 01:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เฮ้อ...กรมศิลป์อีกแล้วเหรอ... จากคุณ : ผ่านมา (Yong_Takan) - [ วันวิสาขบูชา 09:59:46 ]